Tuesday, 10 June 2025
NEWS FEED

ผช.รมว.แรงงาน ต้อนรับ คณะผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี หารืออัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัด มาตรการช่วยเหลือ และการขึ้นทะเบียนการจ้างงานคนพิการ

วันที่ 13 กันยายน 2565 เวลา 14.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายกิตติวุฒิ ศศิวิมลพันธุ์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก และคณะผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เข้าพบเพื่อหารือ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดชลบุรี มาตรการช่วยเหลือนายจ้างให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และการขึ้นทะเบียนและการจ้างงานคนพิการตามาตรา 35 ณ ห้องประชุมแสงสิงแก้ว ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน ได้จัดให้บริการส่งเสริมการมีงานทำให้คนพิการ โดยรับขึ้นทะเบียนหางานและจัดหางานให้คนพิการที่ประสงค์จะทำงานในสถานประกอบการตามมาตรา 33 และประสานนายจ้าง/เจ้าของสถานประกอบการ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อส่งคนพิการเข้ารับการสัมภาษณ์และบรรจุงาน และรับขึ้นทะเบียนคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการที่ขอรับสิทธิตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 เพื่อรองรับความต้องการของนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีความต้องการจ้างงานคนพิการ และคัดลอกรายชื่อคนพิการ ที่ได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อนำไปพิจารณารับเข้าทำงานตามมาตรา 33 หรือ ทำสัญญาจ้างงานคนพิการตามมาตรา 35

อีกทั้ง ปัจจุบันกรมการจัดหางาน ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม (มาตรา 35 ประเภทจัดจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการ) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 โดยในปี 2565 ได้กำหนดเป้าหมายประเภทจ้างเหมาบริการไว้จำนวน 1,000 คน สามารถจ้างงานคนพิการตามโครงการฯ 1,499 คน เพิ่มจากเป้าหมาย ร้อยละ 45 ก่อให้เกิดรายได้แก่คนพิการ จำนวน 171,253,255 บาทต่อปี และจะขยายการมีงานทำให้คนพิการเพิ่มขึ้น ปีละ 20% ภายใน 4 ปี ถือเป็นการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สร้างโอกาสการมีงานทำและมีรายได้อย่างเป็นรูปธรรมและได้รับประโยชน์โดยตรง คนพิการสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างมีศักดิ์ศรี

'อรรถวิชช์' ยื่นผู้ว่า สตง. สอบการแปรญัตติในสภา กทม.โยกงบเพิ่มโครงการสัมมนากว่า 111 ล้าน ยันต้องการช่วยผู้ว่าฯ กทม. ให้มีงบกลางดูแลวิกฤตมากขึ้น

ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า พร้อมทีมงาน ยื่นหลักฐานต่อนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2566 ของกรุงเทพมหานคร พร้อมหลักฐานเอกสารคำแปรญัตติ เปลี่ยนแปลงงบประมาณ 4,803,793,728 ล้านบาท โดยสภากรุงเทพมหานคร ได้เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายที่ผู้บริหารเสนอแปรญัตติเพิ่มเท่ากับจำนวนที่ปรับลด โดยพบว่ามีการเพิ่มงบโครงการสัมมนาพาคนไปเที่ยวในหลายสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นมีจำนวนถึง 72 โครงการ ใน 26 เขต รวมวงเงินสูงถึง 111,064,450 บาท ซึ่งเป็นรายการที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้งบในลักษณะที่กระจายตามเขตต่างๆ เพื่อพาประชาชนไปเที่ยวนั้น หลังจากปี 2557 ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำดังกล่าว 

ดร.อรรถวิชช์ กล่าวว่า กรณีเทียบเคียงกับ ส.ส.หลังการประกาศใช้ของรัฐธรรมนูญปี 2560 เราจะพบว่าสภาผู้แทนราษฎรเอง เมื่อได้มีการตัดงบประมาณในรายการใดและต้องมีการแปรญัตติเพิ่มกลับเข้าไป โดยงบถูกจะเพิ่มกลับไปใส่ในงบกลางเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้ใช้ในกรณีวิกฤตเช่นโรคระบาด หรือ น้ำท่วม เขาไม่เอามาหาร แล้วลงกระจายพาไปเที่ยวสัมมนาแบบงบประมาณ กทม.

'พงศ์พรหม' ห่วง!! 'ช่องว่าง' คุณภาพคนไทย VS ชาวโลก เริ่มห่าง!! พายุศก.ลูกใหม่ที่ต้องรีบแก้ ก่อนต่างชาติเทใจไปประเทศอื่น

(13 ก.ย. 65) พงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...

เมื่อคืนแชร์เรื่องสัมภาษณ์เด็กเวียดนามไป

ที่ห่วงมาก ๆ คือตอนนี้เด็กเวียดนามสามารถเกาะกลุ่มความมุ่งมั่น ตั้งใจ ไฝ่รู้ กล้าล้ม กล้าลุกแบบเด็กอเมริกัน, สิงคโปร์, จีน, ญี่ปุ่น, เยอรมันได้แล้ว

แต่ที่ผมห่วงเด็กไทยรุ่นใหม่ คือ 'ช่องว่าง' ความเก่งระหว่าง 'เด็กไทย' กับ 'เด็กโลก' มันห่างกันกว่าเดิม

ผมไม่เถียงเลย เด็กไทยรุ่นใหม่กลุ่มนึง ที่เก่ง ๆ เค้าเก่งกว่าคนรุ่นผมมาก

แต่ที่ด้อยกว่า ก็มีจำนวนมากจนน่าตกใจเช่นกัน

>> ทำงานไม่ Productive แต่ท้อเก่ง!!

เจ้าของกิจการทั้งไทย-เทศบ่นเรื่องเดียวกัน

ต่างชาติก็ทะยอยไปประเทศอื่น เหตุนึงก็เพราะหาพนักงานคุณภาพดียาก

>> การทำงานไม่ Productive

ตัวเองก็จะรู้สึกไปเองว่างานเยอะ ทั้งที่ไม่เยอะ เพียงแต่งานไม่จบ 

ต้องทำงานเล็ก ๆ ที่คนอื่นทำ 2 วันจบ โดยใช้เวลา 2 อาทิตย์

Research บอกชัดว่าคนทำงาน Productive จะมี Work Life Balance ดีกว่าคนอื่น ๆ
 
*** แต่เด็กไทยจำนวนมาก...ไม่ ***

ไม่ Focus ไม่พยายาม งานไม่จบ ก็บ่นว่าเหนื่อย

ต่างชาติเบื่อ เค้าก็ไปลงทุนประเทศอื่น

>> เทียบคนรุ่นผม

ผมเองเป็นเด็กเรียนไม่เก่ง ผมจบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ด้วย GPA 2.41 แต่ในวันที่ออกจากรั้วมหาลัยแล้ว คนรุ่นเรา 'สู้' ทุกคน

ผมเข้าทำงานครั้งแรกที่ IBM ตอนนั้นนายผม Assign งานให้ทำด้วยโปรแกรม Excel ที่ผมไม่เคยรู้จัก

สิ่งที่ผมทำ คือ ผมอยู่ที่ IBM เพื่อทำความรู้จักโปรแกรม Excel เองถึง 3 ทุ่มแทบทุกคืน พอเริ่มจับอะไรได้ที ก็จะรวบรวมคำถามไปถามพี่กุ้ง กับพี่แหม่ม ฝ่ายบัญชีที

เรียนเองโดยไม่กวนเงินพ่อแม่ จนสามารถใช้ทำงานเพื่อส่งงานได้

ผมไม่เคยมองว่าการต้องกลับบ้านดึกเพื่อเรียน Excel เอง เป็นความเหนื่อย ไม่เคยโทษนายที่ให้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ

>> ในวันนั้นผมสมัครมาทำงานที่ IBM 

IBM ไม่ได้ง้อให้ผมมาทำงานซะหน่อย ผมก็ต้องทำให้เต็มที่ และคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดมันก็ผม

>> เข้า IBM ปีนั้นได้รู้จัก 'แนน'

แนนจบหอการค้าปีเดียวกัน แนนน่ารัก นิสัยดี สวยด้วย แต่ลุยงานเก่งกว่าผมอีก ผมอยู่ 3 ทุ่ม แนนมันลุยยัน 4-5 ทุ่ม

ปีนั้นน้ำท่วมอยุธยา คน IBM เราก็แห่ไปช่วยน้ำท่วมกัน

งานหนักเอา งานเบาสู้
งานเสร็จ ค่อยแดกเหล้า

>> ตอนจะต่อโท

ผมสอบ TOEFL ได้ห่วยมาก ถ้าจำไม่ผิด ผมสอบครั้งแรกได้ 430 หรืออะไรซักอย่าง ก็เลยต้องวางแผนพัฒนาตัวเอง

อย่าลืมว่าสมัยนั้นไม่มี Google หรือ YouTube ทุกคนต้องสู้เอง

ผมใช้วิธีเข้าร้านหนังสือ 'ดวงกมล' วันไหนมีเงิน ก็ซื้อหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์มาอ่าน และเก็บทุกฉบับไว้ที่บ้าน เพื่อนำมาอ่านให้ครบทุกข่าว จะได้ไม่เปลืองเงินที่ซื้อมา

วันไหนไม่มีเงิน ก็แอบไปยืนอ่านนิตยสารภาษาอังกฤษที่แผง หลบ ๆ คนขาย

'ฝน วีระสุนทร' คนไทยคนแรกในตำแหน่งผู้กำกับร่วม ภาพยนตร์แอนิเมชั่น 'Wish' ของดิสนีย์

เพจเฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok โพสต์ข้อความน่ายินดี ระบุว่า...

👏👏👏 ขอแสดงความยินดีกับ คุณฝน วีระสุนทร ศิลปินชาวไทย 🇹🇭 คนแรกที่จะเป็นผู้กำกับร่วมในภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์ คุณฝนเคยทำงานเบื้องหลังมาแล้วใน Frozen, Zootopia และ Raya and the Last Dragon เราตื่นเต้นที่จะได้รับชมฝีมือจากความสามารถอันโดดเด่นของเธอในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง “Wish”! 

'ลุงเนวิน' ปลื้ม!! 'บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด' สร้างสถิติใหม่ ยอดชมในสนามสูงสุด - โกยนัดเดียวกว่า 12 ล้าน

นายเนวิน ชิดชอบ บิ๊กบอส 'ปราสาทสายฟ้า' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ลุงเนวิน' ขอบคุณแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังใจและช่วยกันสร้างสถิติใหม่ ทั้งยอดจำนวนผู้ชมในสนามมากที่สุดประจำวีคที่ 5 ในเกมเปิดรังเจ๊า 'เมืองทอง ยูไนเต็ด' 1-1 รวมถึงกวาดรายได้จากนัดนี้ไปกว่า 12 ล้านบาท

โดยเกมดังกล่าว 'ปราสาทสายฟ้า' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้รายได้ไปมากกว่า 12 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดค่าบัตรผ่านประตู จำนวน 1,622,640 บาท และยอดการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก จำนวน 10,539,198 บาท รวมทั้งสิ้น 12,161,838 บาท

คลื่นมหาชนชาวอังกฤษ 'แห่จองที่นั่ง-เฝ้ารอข้ามวัน' รับขบวนแห่พระบรมศพ 'ควีนเอลิซาเบธที่ 2' ตลอดเส้นทาง

ชาวอังกฤษนับแสนแห่จับจองที่นั่งตลอดเส้นทางขบวนแห่พระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แม้ต้องรอข้ามวัน เพื่อเก็บภาพแห่งประวัติศาสตร์ไว้ในความทรงจำได้อย่างใกล้ชิด

หลังจากที่มีการเคลื่อนพระบรมศพจากพระราชวังฮอลลิรูด สู่ มหาวิหารเซนต์ไจลส์ ในเมืองเอดินเบอระ ของสกอตแลนด์ ก็มีชาวอังกฤษมากมายมหาศาลมารอชมงานพิธีอย่างหนาแน่นตลอดเส้นทาง Royal Mile และยังมีประชาชนทั้งชาวอังกฤษ และ ชาวต่างชาติมากกว่า 20,000 คนต่อแถวเพื่อสักการะพระบรมศพ แม้จะรอนานแค่ไหนก็ตาม 

เอลิซาเบธ มบูไลเทเย ผู้ย้ายถิ่นมาจากอูกานดา เดินทางจากกลาสโกวมาต่อคิวกับลูกชาย ลูกสาวตั้งแต่เที่ยงวัน กว่าจะเข้ามาถึงสวนหน้ามหาวิหารเซนต์ไจลส์ได้ตอน 2 ทุ่ม บอกว่า แม่ของเธอเกิดปีเดียวกับ ควีน เอลิซาเบธที่ 2 และยังตั้งชื่อเธอตามสมเด็จพระราชินี ครอบครัวของเธอมีความผูกพันกับอังกฤษมาก ดังนั้นวันนี้จึงต้องมาร่วมงานให้ได้ 

อาห์เหม็ด ซากี, มูไทรา ทาน และ อนินดยา ฮัพซารี ทั้ง 3 เป็นนักศึกษาต่างชาติจากอินโดนิเซีย ที่เพิ่งมาเรียนระดับปริญญาโทในเมืองเอดินเบอระ กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า "ไม่เคยนึกฝันว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานนี้ และถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิต" 

ฟิโอนา และ แมท ซิกสเวิร์ธ 2 สามีภรรยาวัย 35 ชาวอังกฤษ ที่เดินทางมาต่อคิวหลายชั่วโมงเพื่อสักการะพระบรมศพเปิดเผยว่า "ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่ผู้ที่นิยมชมชอบเรื่องราวในราชวงศ์ แต่ก็นับถือควีน เอลิซาเบธ ในฐานะสตรีที่มีความพิเศษกว่าใคร โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจที่ทรงงานหนักเพื่อชาวอังกฤษมาตลอด 70 ปี ซึ่งพิธีในวันนี้มีความหมายอย่างมากในประวัติศาสตร์อังกฤษ"

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้ที่มาเฝ้ารอชมขบวนพระบรมศพ และพิธีสักการะในเมืองเอดินเบอระ ของสกอตแลนด์เท่านั้น ก่อนที่จะอัญเชิญพระบรมศพกลับไปประดิษฐานที่มหาวิหารเวสต์มนิสเตอร์ ในกรุงลอนดอน ในวันถัดมา ซึ่งตอนนี้ก็มีชาวลอนดอนหลายหมื่นคนไปจับจองพื้นที่ตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนพระบรมศพยาวเกือบ 10 กิโลเมตรแล้ว แม้จะต้องรอข้ามวันนานกว่า 30 ชั่วโมง
 

'ในหลวง-พระราชินี' ช่วยเหลือชาวปทุมธานีผู้ประสบอุทกภัย พระราชทานถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค

เมื่อวานนี้ (12 ก.ย. 65) พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ไปประชุมติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ณ ห้องประชุมส่วนราชการ อาคารหอประชุม 100 ปี เมืองธัญญบูรี เทศบาลนครรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต และส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ซึ่งองคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการป้องกัน แก้ไขการเกิดอุทกภัยและการให้การช่วยเหลือไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้แต่ละหน่วยงานน้อมนำไปปรับแผนในการปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป

หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวนรวม 800 ถุง ไปมอบแก่รองผู้ว่า นายอำเภอธัญบุรี และนายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต และราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ณ หอประชุมใหญ่อาคารหอประชุม 100 ปี เมืองธัญญบูรี  อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจ

ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวนางยุพดี รัตนสุขสกุล ครอบครัวนางภาณิชา สุวรรณกระจ่าง และครอบครัวนางประภา สุวรรณกระจ่าง จำนวน 3 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ประสบอุทกภัยอาศัยอยู่บริเวณชุมชนริมเขื่อนสะพานแดง เทศบาลนครรังสิต อำเภอธัญบุรี ต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา

แกนนำเพื่อไทยร่วมลงนามแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคต 'สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2' แห่งสหราชอาณาจักร

(12 ก.ย.65) แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการฯ และ นางนลินี ทวีสิน ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ ร่วมลงนามแสดงความเสียใจ ต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย โดยมี นายมาร์ค กูดดิ้ง (H.E. Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยให้การรับรอง

นายแพทย์ชลน่านเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยนำส่งสารถึงรัฐบาลสหราชอาณาจักรว่า พรรคเพื่อไทยเสียใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทั้งนี้ราชอาณาจักรไทยและสหราชอาณาจักรมีสัมพันธไมตรีใกล้ชิดต่อเนื่องยาวนาน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระราชจริยวัตรอันอ่อนน้อม สง่างาม ตลอดพระชนม์ชีพทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติด้วยพระวิริยะอุตสาหะเป็นแบบอย่างของผู้นำที่ดีและมีคุณธรรม

“พรรคเพื่อไทยขอถวายความอาลัยไปยังพระบรมวงศานุวงศ์แห่งสหราชอาณาจักรทุกพระองค์ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนและรัฐบาลสหราชอาณาจักร และขอให้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งรัฐผู้ทรงครองราชย์ยาวนาน เสด็จสู่สวรรคาลัยนิรันดร์”

'มาดามแป้ง' คอนเฟิร์ม 'ชนาธิป-สุภโชค' มาแน่ ร่วมลุยศึกชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 48

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ยืนยัน ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ สองแนวรุกที่ค้าแข้งในเจลีก ญี่ปุ่น ตอบรับมาช่วยทัพช้างศึก ลุยฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ณ จ.เชียงใหม่ เป็นที่แน่นอนแล้ว ภายใต้ปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ วันที่ 22-25 กันยายนนี้

ขุนพล ช้างศึก จับสลากมาพบกับ มาเลเซีย ส่วนอีกคู่เป็น ตรินิแดด และ โตเบโก พบกับ ทาจิกิสถาน โดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีม ที่เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าว และ จับสลากด้วยตัวเอง ถึง จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า 

‘รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์’ ฟันธง ไม่มีเด็ดขาด! เขตของบพาคนเที่ยว ชี้เป็นการศึกษาดูงาน

‘จักกพันธุ์’ ฟันธง ไม่มีเด็ดขาด! เขตของบ พาหัวคะแนนเที่ยว แจง ทำตามหลักทุกอย่าง ต้องผ่านด่านฝ่ายบริหาร ใช้อำนาจกรอง

เมื่อวันที่ 12 กันยายน สืบเนื่องกรณี นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยว่า พบความผิดปกติในงบประมาณกรุงเทพฯ ปี 2566 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 65 จำนวน 79,719 ล้านบาท โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อ่อนไหวน้ำท่วม พบว่าเขตจตุจักร ซึ่งมีจุดเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม 11 จุด มีโครงการโยธาทางระบายน้ำถูกตัดงบประมาณทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นโครงการพาคนไปเที่ยวสัมมนาสูงถึง 9,783,300 บาท ต่อมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ตอบประเด็นดังกล่าวว่า ไม่น่าเป็นเช่นนั้น โดยสั่งการให้ ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช ดูแลอยู่ 

ล่าสุด นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า หลังเรื่องผ่านสภา กทม. ก็มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา ซึ่งมีทั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) กับข้าราชการ และในส่วนของฝ่ายบริหาร ร่วมกันพิจารณา ซึ่งคราวนี้การพิจารณาไม่แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา โดยหลังผ่านการพิจารณา คณะกรรมการก็จะไปพิจารณาว่าโครงการไหน รายการใดที่จะสามารถผ่านไปดำเนินการใช้ในปีต่อไปได้

“คราวนี้ ยืนยันว่าคณะกรรมการวิสามัญ ไม่ได้ตัดงบประมาณเกี่ยวกับเรื่องการระบายน้ำเลย แต่ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการวิสามัญชุดนี้ก็พิจารณาว่าโครงการไหน หรือรายการไหน อาจจะมีการเบิกจ่ายเงินล่าช้า หรือการทำงานไม่เป็นไปตามสัญญา ก็อาจจะมีการลดจำนวนงบลง แต่ยืนยันไม่มีการตัด

ในส่วนของเขตจตุจักรก็เหมือนกัน เฉพาะเขตจตุจักร ใช้งบประมาณไปประมาณ 536 ล้านบาท ในรอบแรก คณะกรรมการวิสามัญ ตัดไปแค่ 60,000 บาท ซึ่งเป็นการพิจารณาเกี่ยกับการก่อสร้างพื้นที่สีเขียว แต่หลังจากนั้น เขตจุตจักร คณะกรรมการพิจารณาแล้ว ท่านผู้อำนวยการเขต แปรฯงบประมาณมากพอสมควร ประมาณเกือบ 20 ล้านบาทได้ ในจำนวนนี้ ก็มีเกี่ยวกับเรื่องการขอเงินไปลอกท่อระบายน้ำเพิ่มเติม 3 ล้าน และทำฝาท่อระบายน้ำเพิ่ม 2 ล้าน ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญให้ผ่านหมด” นายจักกพันธุ์ระบุ

นายจักกพันธุ์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน งบประมาณโดยรวมของสำนักงานเขตจุตจักร มีงบเพื่อการแก้ไขน้ำท่วมขัง เกือบ 20 ล้าน คณะกรรมการวิสามัญ ไม่ตัดเลย ขณะเดียวกัน งบแปรฯของสำนักงานเขตจตุจักร ได้ขอเงินโครงการดูงานสัมมนามา 5 โครงการ

“โครงการแรก เป็นการสัมนนา โครงการของข้าราชการ โครงการที่ 2 ของคนงาน สำนักงานเขตจตุจักร อีกโครงการ เกี่ยวข้องกับทางชุมชน ไปศึกษาดูงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงานเขตจตุจักร ต้องการพิจารณาการทำงาน โดยประชาชนมีส่วนร่วมด้วย” นายจักกพันธุ์กล่าว

เมื่อถามว่าตอนนี้ ทาง กทม.ไม่มีข้อกังวลใด ๆ เรื่องการตัด-เพิ่มงบตามที่หลายคนตั้งข้อสงสัย ? นายจักกพันธุ์ ชี้ว่า ก็เป็นการขอจัดตั้งงบประมาณ และแปรญัตติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่างๆ แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า ถ้ากรณีสำนักงานเขตใดพิจารณาแล้ว อาจจะขอยกเลิกโครงการ ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ

เมื่อถามว่าทางเขตจตุจักร ของบไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับอะไร ?
นายจักกพันธุ์เผยว่า โครงการแรก เป็นการดูงานของข้าราชการ สำนักงานเขตจตุจักร โครงการที่ 2 เป็นการศึกษาดูงานของลูกจ้าง คนงานของเขตจุตจักร อีก 3 โครงการ เป็นการพาชุมชนไปศึกษาดูงานต่างจังหวัดเช่นกัน ขณะเดียวกัน ก็เป็นเรื่องของฝ่ายพัฒนาชุมชน ซึ่งผู้อำนวยการเขตเองก็มีความประสงค์เอาประชาชนในพื้นที่ของท่านมามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสำนักงานเขต

ส่วนเขตอื่นก็มีโครงการลักษณะนี้เช่นเดียวกัน แต่อาจจะมีจำนวนโครงการมากน้อย แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนของข้าราชการ บุคลาการ ของสำนักงานเขตนั้น ๆ

เมื่อถามว่า ถือเป็นเรื่องปกติหรือไม่ มีข้อสังเกตเรื่องการของงบหรือไม่อย่างไร ?
นายจักกพันธุ์ระบุว่า โดยปกติที่ผ่านมา โครงการเช่นนี้มีมาทุกปี ขณะเดียวกัน ปี 2561-2562 มีปัญหาเรื่องโควิด-19 โครงการเหล่านี้จึงหายไป หากเอาคนนับ 100 คน ไปนอนรวมกัน กินอยู่ด้วยกัน อาจมีปัญหาติดโรคภัยไข้เจ็บ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top