Wednesday, 18 June 2025
NEWS FEED

กระทรวงเกษตรฯ ผนึกจังหวัดเพชรบุรีเดินหน้าโครงการแก้ไขปัญหาลิงแสมพระนครคีรีเป็นตัวอย่างต้นแบบ

'อลงกรณ์' นำทีมกรมปศุสัตว์สำรวจเขาวังและเกาะลิงแก่งกระจานพร้อมดึงมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าร่วมทีม หวังฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเพชรบุรีโดยเร็ว

รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งวันนี้ว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานการประชุมและลงพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อม 'โครงการแก้ไขปัญหาลิงแสมบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) จังหวัดเพชรบุรี' โดยประชุมหารือร่วมกับ นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธีระวุฒิ สุวัฒน์เชาว์ ที่ปรึกษากรมปศุสัตว์ด้านการจัดสวัสดิภาพสัตว์ นายสมเกียรติ พันธ์ศรี ผู้อำนวยการกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตว์แพทย์บริการ กรมปศุสัตว์ นางสาวศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัด นายกรรัตน์ คุ้มกระ ปศุสัตว์จังหวัด Mr.Edwin Wiek ประธานมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ผู้แทนกรมปศุสัตว์แจ้งต่อที่ประชุมว่าดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายให้กรมปศุสัตว์เร่งแก้ไขปัญหาประชากรลิงแสมที่เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วในชุมชนเมืองของหลายจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิงและโรคอื่น ๆ ที่ลิงเป็นพาหะสู่คน โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) จังหวัดเพชรบุรีซึ่งจะเป็นโครงการนำร่องภายใต้เพชรบุรีโมเดล จึงได้จัดทำโครงการทั้งแผนงานและงบประมาณเสร็จแล้วและเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการแก้ไขปัญหาลิงแสมบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) จังหวัดเพชรบุรีโดยมี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นรองประธาน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเพชรบุรี ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนครคีรีหน่วยงานภายใต้กรมปศุสัตว์และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยราชการในจังหวัดเพชรบุรีองค์กรภาคประชาชนและองค์กรภาคประชาชนในจังหวัดเพชรบุรี เป็นกรรมการ โดยมีรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นกรรมการและเลขานุการ บูรณาการทำงานร่วมกันให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็วที่สุด

นายอลงกรณ์ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือในโครงการนี้ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโรคต่างๆที่ลิงเป็นพาหะสู่คน ยังช่วยฟื้นฟูธุรกิจการค้าและพระนครคีรีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเพชรบุรีที่ซบเซามาหลายปีรวมทั้งทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนและชุมชนดีขึ้นมีรายได้และอาชีพเพิ่มขึ้น

จากนั้น ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ได้นำคณะลงพื้นที่สำรวจลิงแสมที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เขาวังและร้านค้าตลอดจนบ้านเรือนชุมชนและวัดจากนั้นเดินทางไปขึ้นเรือกรมประมงสำรวจเกาะลิงซึ่งอยู่ในเขื่อนแก่งกระจาน เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ของลิงแสมโดยมีรองนายกอบต.แก่งกระจานร่วมสำรวจพื้นที่เกาะต่างๆที่มีความเหมาะสมสำหรับการจัดตั้งเป็นเขตอนุรักษ์ลิงแสมเพื่อการเรียนรู้กรณีมีความจำเป็นต้องย้ายลิงแสมจากเขาวังออกจากพื้นที่เดิม นอกจากนี้นายอลงกรณ์และคณะได้เยี่ยมชมศูนย์ช่วยเหลือและอนุรักษ์สัตว์ป่าของมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า (Wildlife Friends Foundation)ที่อำเภอท่ายางและหารือถึงความร่วมมือในการดูแลสุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์ ประสบการณ์การย้ายลิงออกจากพื้นที่ เทคนิคการทำหมันลิง ซึ่งในพื้นที่กว่า500ไร่ของมูลนิธิมีโรงพยาบาลสัตว์ พื้นที่พักฟื้นและพักพิงสัตว์ต่างๆกว่า800ตัวรวมทั้งลิงกว่า 300 ตัว โดยมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเกือบ100 คนที่มีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะให้การสนับสนุนโครงการ

‘ปลัดแรงงาน’ ลงพื้นที่นครสวรรค์ กำชับเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือกับจังหวัด ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.30 น. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานด้านแรงงานตามนโยบายของรัฐบาล และรับฟังประเด็นปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน สำนักงานแรงงานจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครสวรรค์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 8 นครสวรรค์ และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงาน เขต 6 ในการให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการและลูกจ้างที่ประสบภัยในพื้นที่ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 8 นครสวรรค์ 

ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในสิ่งที่สามารถทำได้ โดยไม่ยึดติดกับหน้าที่หลักของกระทรวงแรงงาน และให้ปฏิบัติงานในพื้นที่โดยรับฟังข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหลัก รวมถึงใช้สถานที่ของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 8 นครสวรรค์ และอุปกรณ์ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนสูงสุด

'ตรีนุช' ตั้งเป้าสิ้นปีการศึกษา 2565 เด็กออกกลางคันเป็นศูนย์ พร้อมเน้นให้ครูเข้าใจนักเรียนเป็นรายบุคคล

(1 พ.ย. 65) ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการมอบนโยบายเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศ ผ่าน OBEC Channel ว่า ขอบคุณทุกคนที่ได้นำนโยบายของกระทรวงไปปฏิบัติให้มีผลสำเร็จมีความคืบหน้าตามลำดับ ซึ่งในโอกาสเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ขอเน้นย้ำการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาที่สำคัญในการดูแลพัฒนาการของนักเรียนอย่างเป็นองค์รวม ได้แก่ ความปลอดภัยในสถานศึกษา ทั้งด้านการเดินทางไป-กลับของนักเรียน การจัดสภาพแวดล้อมสถานศึกษาให้ปลอดภัย การให้บริการดูแลด้านโภชนาการ และสุขภาพ การป้องกันภัยธรรมชาติ และที่สำคัญ คือ การป้องกันภัยจากยาเสพติด และภัยจากอาวุธปืน ซึ่งต้องไม่เกิดขึ้นในสถานศึกษาอย่างเด็ดขาด และต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้น ตามหลัก 3 ป. ได้แก่ ป้องกัน, ปลูกฝัง และ ปราบปราม ภายใต้โครงการ MOE Safety Center เพื่อสร้างความปลอดภัยให้นักศึกษา ครู และบุคลากรทุกคน

“ในการเปิดภาคเรียนที่ 2/2565 นี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้มุ่งเน้นให้ครูกระชับความสัมพันธ์กับนักเรียนและผู้ปกครองมากขึ้น เพื่อทำให้เข้าใจนักเรียนเป็นรายบุคคล ทั้งนิสัยและชีวิตความเป็นอยู่ ได้พูดคุยกับผู้ปกครองโดยตรง เพื่อร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายผู้ปกครองและชุมชนให้ช่วยกันเฝ้าระวัง และมีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัย ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครองไว้วางใจในการนำผู้เรียนมาอยู่ภายใต้การดูแลของเราผ่านการเยี่ยมบ้านนักเรียน” นางสาวตรีนุช กล่าว

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า เราจะสร้างความเข้มแข็งให้แก่นักเรียน ผ่านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ‘Screening Learning Loss’ ครอบคลุม 4 มิติ ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ดำเนินการแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ที่ถดถอย ด้วยการนำข้อมูลนักเรียนมาใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม และป้องกันเด็กนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษา ซึ่งโครงการพาน้องกลับมาเรียน ยังเป็นนโยบายสำคัญที่เดินหน้าต่อเนื่อง โดยติดตามเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาครบ 100% และ ทำให้การออกกลางคันเป็นศูนย์ (zero drop out) ในปีการศึกษา 2565 นี้ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม School Mental Health ระบบดูแลนักเรียนและครูในสถานศึกษา ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อตรวจสภาพจิตใจของเด็กและครู ซึ่งสถานศึกษาสามารถประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือเกี่ยวกับสุขภาพจิตได้

รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า การยกระดับคุณภาพทางการศึกษา และการแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ที่ถดถอยนั้น ให้โรงเรียนจัดกิจกรรมสอนซ่อมเสริม ชดเชย หรือ กิจกรรมเสริมทักษะเพิ่มเติมตามความถนัด ความสนใจ และเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน โดยนำการเรียนการสอนรูปแบบ Active Learning มาใช้ช่วยให้ผู้เรียน เรียนอย่างมีความสุข สนุก และมีทักษะการคิด ซึ่งจะทำให้เรียนรู้ได้เร็วและนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ และขอให้เพิ่มความสำคัญในวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง เพื่อสร้างสำนึกของความเป็นไทย รักในการเป็นชาติของเรา โดยจัดการเรียนรู้ตามความพร้อม และเหมาะสมในแต่ละบริบทพื้นที่

นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า สำหรับนักเรียนที่จะจบชั้น ม. 3 สถานศึกษาควรสำรวจความต้องการในการศึกษาต่อสายอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อม ให้คำแนะนำและส่งต่อเข้าสู่โครงการ ‘อาชีวะ อยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ’ ในปีการศึกษา 2566 โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ครอบครัวประสบปัญหาด้านค่าใช้จ่าย สำหรับหลักสูตรทวิศึกษา ซึ่งเป็นการเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย เมื่อสำเร็จการศึกษาผู้เรียนจะได้รับวุฒิการศึกษาทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) นั้น ตนได้มอบหมายให้ สพฐ. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดทำแผนระดับจังหวัดว่า ควรจัดทวิศึกษารายวิชาใด ในโรงเรียนไหน โดยให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ทั้งแก้ไขปัญหา และข้อจำกัดจากการดำเนินงานในอดีต โดยเป้าหมายระยะสั้น เน้นการเรียนการสอนทวิศึกษาในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์, โรงเรียนตามโครงการพระราชดำริ และโรงเรียนที่มีความพร้อม

DSI จับมือ ปปง. ประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน 'เน้นยึดทรัพย์อาชญากรข้ามชาติ'

ตามที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตัดวงจรการกระทำผิดโดยมุ่งเน้นให้ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และอาชญากรรมที่เป็นภัยร้ายแรง มิให้มีศักยภาพในการกระทำผิดอีก ตามความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันการแพร่กระจายยาเสพติด อันเป็นหลักประกันให้กับประชาคมโลก และสร้างความเชื่อมั่นต่อการบังคับใช้กฎหมายให้ครอบคลุมทุกด้านอย่างยั่งยืน นั้น

วานนี้ (วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565) ที่สำนักงาน ปปง. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะ เข้าพบ นายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และคณะ เพื่อหารือในความร่วมมือการปฏิบัติการเชิงบูรณาในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 3 ด้าน คือ ด้านการป้องกัน ด้านปราบปราม และด้านการพัฒนา ภายใต้ภารกิจหลัก ดังนี้ 

1. ภารกิจด้านการตรวจสอบ วิเคราะห์เส้นทางการเงิน สำนักงาน ปปง. จะสนับสนุนข้อมูล เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวน สอบสวน หรือสืบสวนขยายผลเครือข่ายการกระทำผิดตาม พรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 โดยจะร่วมกันพัฒนาหลักสูตรเฉพาะสำหรับการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานทั้งสองด้วย
2. ภารกิจด้านการสอบสวน ด้านสำนักงาน ปปง. จะดำเนินการนำข้อมูลสำนวนคดีที่มีหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่มีมูลค่าตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป และ ที่ส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน หรือชดใช้คืนแก่ผู้เสียหายแทนการสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน และที่ปรากฎพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ที่มีลักษณะตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) (ก)-(จ) แห่ง พรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 โดยทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะส่งมอบสำนวนคดีพิเศษ ทรัพย์สิน (หากมี) ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 
3. ภารกิจด้านการสืบสวนหาข้อมูล และทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะให้การสนับสนุนด้านการสืบสวนหาข้อมูล ข่าวสาร และของบุคคลหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน หรือความผิดฐานฟอกเงิน ตามที่ได้รับแจ้งจากสำนักงาน ปปง.

บิ๊กโจ๊ก แถลงสรุปคดีแก๊งยาเสพติดบุกบ้านพูลวิลล่าพัทยาทวงหนี้ เชือดรองผู้การชลบุรี เอี่ยวเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา แจ้ง3ข้อหาผิดวินัยร้ายแรง 

เมื่อวันที่ (31 ต.ค. 65) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร่วมแถลงสรุปผล คดีแก๊งชายฉกรรจ์บุกทวงหนี้ทำร้ายร่างกายในบ้านพูลวิลล่า 

สืบเนื่องจาก กลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน ใช้ยานพาหนะ โตโยต้า อัลพาร์ด ป้ายแดง บุกพลูวิลล่า ย่านหาดจอมเทียนเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ตามหาตัวลูกหนี้ แต่ไม่พบ สร้างความโกธรแค้นเป็นอย่างมาก จึงใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ ของผู้เสียหาย 3 คัน แล้วใช้ด้ามปืนทุบศีรษะทำร้ายร่างกายจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ก่อนแยกย้ายกันเผ่นหนีความผิด ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนกดดัน จนกระทั้งเพื่อนร่วมแก๊ง ติดต่อขอมอบตัว แต่ปรากฏว่า มีการจ้างแพะมาตบตาเจ้าหน้าที่หวังรอดคุก 

สำหรับในคดีนี้ สามารถจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย คือ ผู้ก่อเหตุ 6 ราย และผู้รับสมอ้างรับผิดแทน 2 ราย รวมถึงผู้ว่าจ้างให้มารับผิดแทนอีก 2 ราย นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้เสียหาย 8 ราย ด้วยเนื่องจากตรวจสอบแล้วมีสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งบงชี้ได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้รู้จักกัน และเกี่ยวข้องพัวพันกับยาเสพติด และการพนัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมดครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว 

ทั้งนี้ จากการสืบสวนขยายผลพบหลักฐานว่า มีเจ้าหน้าตำรวจระดับสูง ยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลุบรี มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือเปลี่ยนตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพื่อมิให้ผู้ก่อเหตุตัวจริงถูกดำเนินคดี โดยมีการเรียกรับสินบนถึง 1 ล้านบาท 

บิ๊กโจ๊กลงดูคดีคนจีนถูกตัดนิ้วเรียกค่าไถ่พบเป็นขบวนการคอลเซ็นเตอร์ เตรียมเรียก ตม อุดร แพร่ หลังต่อใบวีซ่าให้กลุ่มชาวจียกลุ่มนี้

จากกรณี นาย REN HAIBO อายุ 41 ปี ชาวจีน ถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน สัญชาติเดียวกัน ก่อเหตุอุ้มออกมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ แล้วมาจับขังภายในหมู่บ้านจัดสรรหรู แห่งหนึ่ง ภายในซอยพรประภานิมิตร 34 หมู่ 9 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุ ผ้าเทปปิดตา มัดขา ตัดนิ้ว มีดแทงมือ-แขน และ ไม้เบสบอลกระหน่ำตี แล้วส่ง คลิป วิดีโอการทรมานเหยื่อ ให้แฟนสาวของเหยื่อดู พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 30 ล้านบาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ

ล่าสุด ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาดูความคืบหน้าการสืบสวนโดยกล่าวภายหลังการประชุมว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเราทราบข้อมูลผู้กระทำความผิดแล้วส่วนหนึ่งเดียวเราไปไล่ต่อทั้งหมด ซึ่งเป็นขบวนการของคนจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยแล้วเข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย โดยใช้รูปแบบการอยู่แบบ over stay และ ใช้วีซ่าของนักเรียน ซึ่งพรุ่งนี้จะเรียกตำรวจ ตม อุดรธานี หัวหน้าสถานี ตม แพร่ มาพบ ว่าการอนุมัติ วีซ่า แบบนี้มีการอนุมัติได้อย่างไร เพราะตัวเจาไม่ได้เป็นนักเรียนแต่มีการให้เขาอยู่ในประเทศไทยเพราะแบบนี้จะเป็นการสร้างปัญหาให้กับประเทศไทยเพราะฉะนั้น ตม นี่มีหน้าที่เอาคนร้ายออกนอกประเทศไม่ใช่มีหน้าที่เอาคนร้ายเข้าประเทศซึ่งเรื่องนี้ตนจะนำรายงานกับทาง ผบ.ตร. ส่วนกลุ่มคนร้ายทั้งหมดเราทราบกลุ่มแล้วขอเวลาอีกนิดนึง 

‘แอ๊ด คาราบาว’ ย่องเงียบ ยกพานไหว้ขอขมาผู้ว่าฯ พร้อมร้องเพลง ‘หนุ่มสุพรรณ’ เป็นการขอโทษ

'แอ๊ด คาราบาว' ย่องเงียบขึ้นศาลากลางจังหวัด ยกพานดอกไม้ ไหว้ขอโทษ ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี พร้อมร้องเพลง 'หนุ่มสุพรรณ' ขอโทษ ด้านผู้ว่าฯ ตั้งเงื่อนไขนักร้องดัง ต้องทำตามถึงจะถอนคำร้องทุกข์

ความคืบหน้ากรณี 'แอ๊ด คาราบาว' นายยืนยง โอภากุล ด่าผู้ว่าราชจังหวัดสุพรรณบุรีกลางงานวันเกิดกำนันคนดัง ต่อมา แอ๊ด คาราบาว ได้ออกมายกมือไหว้ กราบขอโทษ ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ที่งานทำบุญทอดกฐิน จังหวัดลพบุรี ไปแล้ว ล่าสุด เมื่อวานนี้ (31 ต.ค. 65) แอ๊ด คาราบาว ได้เดินทางนำพานดอกไม้ เข้าพบนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ห้องทำงานภายในศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อน แอ๊ด คาราบาว ได้เดินทางกลับ

หลังจากนั้น นายณัฐภัทร เปิดเผยว่า แอ๊ด คาราบาว ได้นำพานดอกไม้ธูปเทียน เข้ามาขอโทษพร้อมกับยกมือไหว้ ที่ได้ทำผิดไป ขออภัย ทางเราก็ขอให้เขาไปดำเนินการทำความเข้าใจกับสื่อมวลชน และพี่น้องประชาชน ต้องประกาศให้พี่น้องประชาชนรับทราบ ที่มาขอโทษในวันนี้ด้วย ส่วนเรื่องคดีก็ต้องดำเนินการต่อไป

พร้อมทั้ง ได้บอกให้ แอ๊ด คาราบาว มาช่วยจังหวัดสุพรรณบุรี เรามีโครงการที่สมัครเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก สายธารดนตรี มี 5 สายธาร ด้านเพลงเพื่อชีวิต เป็น 1 สายธาร ถ้าประสานไป แอ๊ด ยินดีที่จะมาช่วยทันที 

“ในเบื้องต้นส่วนตัวให้อภัยอยู่แล้ว ติดที่ว่าเรามีตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเขาต้องแสดงว่า ต้องขอโทษผู้ว่าฯ ด้วย ทุกวันนี้ แอ๊ด ก็พูดว่า จะแต่งเพลงให้กับทุกจังหวัด เป็นการเล่าประวัติศาสตร์ ของดี ก็ต้องรอดูว่าจะทำเมื่อไหร่ โดย แอ๊ด ได้พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า ไม่ทันได้คิด”

ตำรวจสนธิกำลังบุกเข้า ตรวจค้น สถานบันเทิงของ กลุ่มนายทุนต่างชาติและนอมินี หวังกวาดล้างอาวุธปืน สารเสพติด

วันนี้ (1 พ.ย. 65) เวลา 00.01 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.(ปป.) และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. (สส.) พร้อมชุดปฏิบัติการ บช.น. ,บช.สอท. ,บช.ปส. , บช.สตม. พิสูจน์หลักฐาน และ บช.ทท.กว่า 200 นาย เข้าตรวจค้น ผับ บาร์ สถานบริการ ซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายทุนต่างชาติ และนอมินีพร้อมกัน 6 จุด ทั่วกทม.  มีพื้นที่ มักกะสัน  ได้แก่
K Bangkok / Space + ส่วนพื้นที่ห้วยขวาง มี 3 จุด คือ Hollywood  /Brooz / และ Asgard พื้นที่สุดท้ายคือ คลองตัน คือ Baby Face

โดยมีพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุวิมล พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทั้งสายปราบปรามและสืบสวน ลงไปติดตามประเมินความคืบหน้าในการบุกเข้าค้นสถานประกอบการทั้ง 6 แห่ง 

โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นคือ
เบบี้เฟซ ซึ่งอยู่ย่านเอกมัย เป็นผับขนาดใหญ่ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้นยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดไฟและขอเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ได้นำชุดตรวจสารเสพติดออกมาวางโดยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแสดงตนและรับชุดตรวจสารเสพติดไปตรวจ

'เฉลิมชัย' ดีเดย์แผนพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 5 ปี ฉบับแรกของประเทศ 1 มกราคม 2566

'อลงกรณ์' พอใจการปฏิรูปบริการดิจิตอลภาครัฐของกระทรวงเกษตรฯ 175 ระบบคืบหน้า 95% 

วันนี้ (31 ต.ค. 65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และ คณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) ภายใต้ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร4.0ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานการประชุมผ่านระบบทางไกลออนไลน์ ZOOM Cloud Meeting ครั้งที่ 5/2565 พร้อมด้วย นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม รองเลขาธิการ ส.ป.ก. นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนธุรกิจเกษตร (Agribusiness) นายกฤชฐา โภคาสถิตย์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน e-Commerce ดร.วราภรณ์ พรหมพจน์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะ นายฉันทานนท์ วรรณเขจร ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Big Data และ Gov Tech นายสัญชัย รัศมีจีรวิไล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ศทส.) ดร.เจษฎา วิชาพร รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี รศ.ดร.พัชรศักดิ์ อาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย และนายจิตติศักดิ์ ศรีปัญญา ผู้อำนวยการกองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการฯ อีกทั้ง ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ภาคการศึกษา ภาคเอกชน และศูนย์ AIC จากทั่วประเทศ 492 ราย ร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้าน Big Data และ Gov Tech ด้านเกษตรอัจฉริยะ ด้าน e-Commerce และด้านธุรกิจเกษตร (Agribusiness) 

โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ.ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 
ดังนี้...

1. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนธุรกิจเกษตร (Agribusiness) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานผลการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าเกษตรผ่านระบบออนไลน์ มีมูลค่าการจำหน่ายสินค้า จากวันที่ 27 เมษายน 2563 ถึง วันที่ 15 ตุลาคม 2565 เป็นเงินจำนวน 523,792,120 บาท และในการขับเคลื่อนบูรณาการงานด้านการส่งเสริมธุรกิจเกษตร จะมีการจัดงาน Creative and Innovation for Agribusiness ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2565 ณ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) โดยคณะทำงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เชิงเกษตร เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน

2. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน E-Commerce ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงาน ในความพร้อมและการขายสินค้าเกษตรแบบพรีออร์เดอร์ และการจัดฝึกอบรมเกษตรกรรายย่อยด้านช่องทางการทำตลาดออนไลน์ ผ่านช่องทาง tiktok 

3. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเกษตรอัจฉริยะ ปี 2565-2566 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่  (1) การพัฒนา IoTs Platform สำหรับการผลิตทุเรียนแปลงใหญ่อัจฉริยะ (2) แอปพลิเคชันทำนายและตรวจวิเคราะห์ศัตรูพืช (โรคพืช แมลงศัตรูพืช และวัชพืช) ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)  (3) การพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร (เครื่องสาง+เครื่องม้วนใบอ้อย) เพื่อแก้ปัญหาการเผาอ้อย และความก้าวหน้าการเชื่อมโยงและเข้าถึงข้อมูลสภาพอากาศของเกษตรกรเพื่อสนับสนุนการทำเกษตรอัจฉริยะ

4. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Big Data และ Gov Tech ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีความก้าวหน้าการดำเนินงานด้าน Gov Tech โครงการบริการออนไลน์ e-Service ระบบบริการภาครัฐของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีการให้บริการในรูปแบบ Digital ทั้งสิ้น จำนวน 175 บริการ เป็น Digital Service จำนวน 166 บริการ คิดเป็น 95% เหลืออีก 5% อยู่ระหว่างดำเนินการให้เป็น Digital Service จำนวน 9 บริการ ซึ่งนายอลงกรณ์แสดงความชื่นชมและพอใจต่อความคืบหน้าโดยขอให้บรรลุ 100% ในปีนี้

ส่วนการพัฒนาระบบบริการดิจิตอลที่เชื่อมโยง NSW แล้ว จำนวน 55 บริการ มีการอนุมัติและเป็น e-Signature ทั้งสิ้น 5 หน่วยงาน 46 บริการ มีการชำระเงิน และเป็น e-Payment ทั้งสิ้น 4 หน่วยงาน 38 บริการ อีกทั้งได้มีการรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้าน Big Data โดยศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ ได้ดำเนินการจัดทำโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลการเกษตร มีระบบงานที่พัฒนาขึ้น จำนวน 5 ระบบ โดยผู้สนใจสามารถเข้าใช้งานผ่านทางเว็บไซต์ http://nabc.go.th/app/application ได้แก่...
(1) ระบบการบูรณาการข้อมูลและจัดทำรายงาน 
(2) ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) 
(3)ระบบปฏิทินการผลิตสินค้าเกษตร 
(4) ระบบ Coaching Program Platform (CPP)
และ (5) ระบบ Public AI ให้บริการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเกษตร

ที่ประชุมยังรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) ในเรื่องต่างๆ ดังนี้...

(1) การบริหารการขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC) จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งระบบการบริหารจัดการน้ำ เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อรายงานสถาการณ์น้ำ ระดับน้ำ และระยะเวลาระบายน้ำ พัฒนาระบบเตือนภัยน้ำท่วมสำหรับเกษตรกรในพื้นลุ่มต่ำ กรณีศึกษา โครงการบางระกำโมเดล โดยเกษตรกรจะสามารถเข้าถึงระบบได้โดยผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์

(2) ผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในฐานะศูนย์AICจังหวัดนครราชสีมาและ ศูนย์ความเป็นเลิศโคเนื้อในโครงการพัฒนาการปรับปรุงพันธุ์และการขุนวัวโคราชวากิว ให้มีไขมันแทรกสูง โดยใช้พ่อพันสายพันธุ์วากิวแท้ 100% (Full Blood) ที่มีการตรวจยีนการสร้างไขมันแทรกเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และสามารถนำมาผสมกับแม่พันธุ์โคผสมสายพันธุ์ต่างๆในประเทศไทยสามารถให้ลูกที่มีไขมันแทรกสูง เนื้อคุณภาพ สามารถส่งขายได้ในราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาด โดยในปัจจุบันเกษตรกรรายย่อยทางภาคอีสานสามารถขุนเองให้ได้มาตรฐานตรงตามที่ตลาดต้องการ

(3) แผนพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ฉบับแรกของประเทศสอดรับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่13 โดยฝ่ายเลขาฯ ได้แจ้งประสานไปยังสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดเพื่อให้จัดทำแผนฯ และส่งข้อมูลภายใน 30 พ.ย. 2565 ซึ่งพร้อมจะเสนอให้รัฐมนตรีเกษตรฯ.ประกาศแผนดังกล่าวในวันที่ 1 มกราคม 2566 

(4) ผลการดำเนินงานระบบฐานข้อมูล AIC (Innovation Catalog) ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2565 มีข้อมูลของ Innovation Catalog โดยแบ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็น 11 ประเภท จำนวน 790 เรื่อง ศพก. 882 แห่งมีการนำไปใช้ประโยชน์ จาก AIC 77 แห่ง ทั่วประเทศ เกษตรกรได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จำนวน 10,257 ราย และการใช้นวัตกรรมขยายลงสู่พื้นที่การเกษตรแปลงใหญ่ใน 10 จังหวัด 14 แปลงใหญ่

โดยที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบสนับสนุนโครงการ พัฒนาฟู้ดวัลเลย์จังหวัดภาคกลางตอนล่าง(RAINs For Lower Central Provinces Food Valley )โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชบุรี ในฐานะศูนย์AICจังหวัดเพชรบุรีซึ่งมีเป้าหมายการขับเคลื่อนในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง เพื่อพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์อาหารให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคและฐานทรัพยากรธรรมชาติ ใน 2 กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร คืออาหารสุขภาพ (Healthy Food) และอาหารวัฒนธรรม (Cultural Food) เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากพืชและอาหารในพื้นที่เพิ่มมูลค่าเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพ ปลอดภัย (GAP) จากพืชเศรฐกิจที่ผลิตได้ในภูมิภาค ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเชิงสุขภาพ สร้างความแตกต่าง เพื่อเป็นผู้นำตลาดอาหารสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมที่ตรงตามความต้องการผู้บริโภค กระบวนการพัฒนาตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ (วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์) จนถึงปลายน้ำ (การจัดจำหน่ายสินค้า)สู่เกษตรมูลค่าสูง โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ Quad-Helix ระหว่าง ผู้ประกอบการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัยเครือข่าย (มรภ.เพชรบุรี มรภ.กาญจนบุรี และมรภ.หมู่บ้านจอมบึง) ซึ่งในปัจจุบันมี 5 โครงการที่ผ่านการคัดเลือก แบ่งเป็น 2 ด้าน คือ

1.ด้าน Healthy Food (HF) จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ คือ การพัฒนาเครื่องดื่มเยลลี่เพื่อสุขภาพจากผลไม้ สมุนไพร ท้องถิ่นภาคตะวันตกของประเทศไทย (บริษัท น้ำแควแฮปปี้ฟูด จำกัด) และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวเม่าทรงเครื่องวีแกนบอลจากโปรตีนพืชท้องถิ่น (บริษัท เพชรบุรีโอท็อป อินเตอร์เทรดเดอร์ จำกัด

2.ด้าน Cultural Food (CF) จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์ คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ธัญพืชอัดแท่งให้พลังงานสูงจากกระยาสารท (วิสาหิจชุมชนแม่ช่อมาลีกระยาสารทมะพร้าวน้ำหอม) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมเม็ดขนุนโดยใช้สารทดแทนน้ำตาลเชิงพาณิชย์ (กลุ่มวิสาหกิจขนมหวานห้วยโรง) และการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุกกี้ลำดวนผสมข้าวไรซ์เบอร์รี่ (บริษัทเพชรบุรีไทยดีเสริท์ จำกัด) 

‘ตำรวจราชบุรี’ ช่วยเหลือเด็กนักเรียนชั้นป.1 หลังพลัดหลงกับรถรับ-ส่ง ระหว่างกลับบ้าน

ชื่นชมในโซเชียลที่ ตร.เมืองราชบุรี ได้ช่วยเหลือเด็กนักเรียนชั้นป. 1 อายุ 6 ขวบ หลังพลัดหลงกับรถรับส่งประจำ จนน้องต้องเดินร้องไห้จากร.ร. เพื่อจะเดินกลับบ้าน ขณะตร.พบเจอจึงเข้าช่วยเหลือจนสามารถติดต่อครอบครัว จนสามารถส่งน้องกลับบ้านจนปลอดภัย

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ชาวโซเชียลแห่ชื่นชม ด.ต.วิเชียร มณีวิหค ผู้บังคับหมู่งานจราจร สภ.เมืองราชบุรี หลังโพสต์เรื่องราวอุทาหรณ์สอนใจผู้ปกครอง ที่ต้องอาศัยรถประจำทางรับส่งบุตรหลานไปโรงเรียน โดย ด.ต.วิเชียร ได้เล่าประสบการณ์ช่วยเหลือ น้องบอส อายุ 6 ขวบ เด็กนักเรียนชั้น ป.1/7 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี หลังพลัดหลงกับรถรับส่งไปโรงเรียน จนเดินร้องไห้จากโรงเรียนที่ตัวเองเรียนอยู่ เพื่อจะกลับบ้านด้วยอาการหวาดกลัว เพราะน้องไม่รู้จักเส้นทางกลับบ้าน จนน้องเดินไปเจอชายคนหนึ่งและสอบถามรายละเอียด จึงพาไปพบ ด.ต.วิเชียร ที่กำลังออกตรวจพื้นที่เพื่อให้ช่วยเหลือจนทราบว่า น้องผลัดหลงกับรถรับส่ง และไม่มีเบอร์ติดต่อคนขับรถ แถมไม่มีเบอร์ติดต่อที่บ้าน จนต้องประสานงานกับทางผู้บังคับบัญชา จนสามารถนำน้องถึงมือผู้ปกครองอย่างปลอดภัย

ด.ต.วิเชียร มณีวิหค ผู้บังคับหมู่งานจราจร สภ.เมืองราชบุรี เปิดเผยว่า หลังพบตัวน้องโดยมีพลเมืองดีนำมาส่งที่ตน ตนได้พยายามสอบถามเบอร์ติดต่อทางบ้านและเบอร์คนขับรถ และลักษณะของรถรับส่ง ตลอดลักษณะรถรับส่งที่น้องนั่งมาเรียนทุกวัน แต่น้องบอสอยู่ในอาการตกใจเอาแต่ร้องไห้ด้วยความกลัว ทำให้ตนต้องพยายามปลอบ ก่อนจะพาน้องนั่งซ้อนท้ายรถจยย.ของตนขับไปตามเส้นทางที่น้องพอจำได้ เพื่อจะพาน้องไปส่งบ้าน จนผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ยังไม่ถึงบ้านน้อง

ทำให้ตนต้องพาน้องไปที่สภ.เมืองราชบุรี เพื่อสอบถามน้องอย่างละเอียดในการติดต่อทางญาติของน้องมารับ โดยได้รับการช่วยเหลือจากผู้บังคับบัญชา จนได้รับแจ้งจากครูโรงเรียนว่ามีเด็กหายไป จนมีการออกตามหาตัวแต่ไม่พบ จึงประสานไปที่โรงเรียน เพื่อนำน้องไปส่งที่โรงเรียนถึงมือครูผู้สอน ก่อนจะติดต่อทางญาติให้มารับน้องกลับบ้าน ตนจึงอยากฝากเรื่องราวดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ ที่ให้ผู้ปกครอง ให้ความสำคัญและใส่ใจกับบุตรหลาน ที่ต้องนั่งรถรับส่งมาโรงเรียน ควรจะจดเบอร์โทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียน เพื่อหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจะได้ติดต่อทางญาติได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top