Wednesday, 18 June 2025
NEWS FEED

วธ.เชิญประชาชน-นักท่องเที่ยว ร่วมงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช ๒๕๖๕ 'ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสาน ประเพณีไทย สู่ความยั่งยืน'

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับเครือข่ายทางวัฒนธรรม จัดงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช ๒๕๖๕ 'ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสาน ประเพณีไทย สู่ความยั่งยืน' เน้นคุณค่า สาระ เพื่อแพร่ความงดงามของประเพณีสู่สายตานักท่องเที่ยว คุมเข้มงานปลอดโควิด ๑๙ รักษามาตรการความปลอดภัยทางบก-ทางน้ำ ชวนรักษาสิ่งแวดล้อม ลดขยะ มาด้วยกันใช้กระทงร่วมกัน งดจำหน่าย-งดดื่มของมึนเมา งดเล่นประทัดพลุดอกไม้เพลิง ชวนนุ่งผ้าไทย-ผ้าท้องถิ่น เชิญประชาชนนักท่องเที่ยวร่วมงานในวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กทม. 

(๓ พ.ย. ๖๕ โถงชั้น ๑ วธ.) นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทยในฤดูน้ำหลาก เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะสายน้ำที่ใช้ในการดำรงชีวิต เช่น แม่น้ำลำคลอง ประเพณีนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญา วิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยอันงดงาม ที่ปรากฏในรูปแบบของพิธีกรรม การประดิษฐ์กระทง การประดับประทีปโคมไฟในยามค่ำคืน การแสดงมหรสพ และการละเล่นรื่นเริงต่าง ๆ ในปี ๒๕๖๕ นี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้จัดทำแนวทางปฏิบัติในงานลอยกระทง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ภายใต้แนวคิด 'ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสาน ประเพณีไทย สู่ความยั่งยืน' 

ดังนี้ ขอความร่วมมือองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมตามแบบประเพณีนิยมของแต่ละท้องถิ่น ให้ใช้กระทงที่ย่อยสลายง่ายเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รณรงค์ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำสะอาด สบู่เหลว ก่อนหรือหลังทำกิจกรรม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ๑๙ 

นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า ในด้านสถานที่จัดงานควรปรับพื้นที่ให้เหมาะสม กว้างขวาง ไม่แออัด รักษามาตรการเรื่องความปลอดภัย ทั้งการจราจรทางบกและทางน้ำ ดูแลบริเวณท่าน้ำให้มีความมั่นคง สะดวก และปลอดภัย ควรงดการจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มมึนเมา และห้ามการดื่มกินในบริเวณงานหรือใกล้เคียง งดการเล่นดอกไม้ไฟ พลุ หรือวัสดุที่ก่อให้เกิดอันตรายในที่สาธารณะหรือชุมชน ในส่วนมหรสพความรื่นเริง จัดการแสดงต่าง ๆ ทำได้ตามความเหมาะสม โดยเฉพาะการจัดแสดงวัฒนธรรมของท้องถิ่น การแสดงพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน ที่จะทำให้เด็ก เยาวชน ประชาชนได้เห็นถึงมรดกภูมิปัญญาของไทย เพื่อเป็นการสร้างรายได้สู่ชุมชน และขอเชิญชวนให้ประชาชน 'แต่งไทย ไปลอยกระทง' เพื่อร่วมกันส่งเสริมการใช้ผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น เป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์การแต่งกายของแต่ละท้องถิ่น อันจะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ อีกด้วย

และขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชน รวมถึงทักท่องเที่ยว เข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทง ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสาน ประเพณีไทย สู่ความยั่งยืน” ตลาดวัฒนธรรมงานวัดย้อนยุค ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ในวันอังคารที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การแสดงทางวัฒนธรรม การประกวดกระทงประเภทสวยงามและสร้างสรรค์(รางวัลรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท) การสาธิตอาหารคาวหวาน การออกร้านสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม การจัดแสดงนิทรรศการข้อมูลองค์ความรู้คุณค่าสาระของประเพณีลอยกระทง และร่วมลอยกระทงอย่างปลอดภัยผ่านสไรเดอร์บริเวณท่าน้ำวัดอรุณฯ  

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา เสด็จฯ เปิดตัวหนังสือ 'แนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เล่มที่ 3' THAI TEXTILES TREND BOOK SPRING/SUMMER 2023 

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานเปิดตัว หนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เล่มที่ 3 (Thai Textiles Trend Book Spring / Summer 2023) และ การเสวนาวิชาการ 'การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2565' พร้อมจัดแสดงนิทรรศการแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย ระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน 2565 ณ ICON Art and Cultural Space ชั้น 8 ไอคอนสยาม โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเป็นองค์ประธานในงานเปิดตัวหนังสือ และการเสวนาวิชาการฯ โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมผู้บริหารวธ. เฝ้ารับเสด็จฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2565   

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระทัยที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้สามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตนเองและคนในครอบครัว ควบคู่ไปกับการถนอมรักษาสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ โดยเฉพาะศิลปหัตถกรรมผ้าทอในแต่ละท้องถิ่น จึงทรงมีพระราชดำริให้จัดทำ THAI TEXTILES TREND BOOK Spring / Summer 2022 เล่มแรกขึ้น โดยทรงรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการบริหาร (Editor in Chief) ด้วยพระองค์เอง ต่อเนื่องมาถึงเล่มล่าสุด THAI TEXTILES TREND BOOK Spring/Summer 2023 เป็นเล่มที่ 3    

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดทำหนังสือ Thai Textiles Trend Book เป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานผ้าไทยและเทรนด์แฟชั่นระดับโลก เพื่อเสนอแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักออกแบบ ช่างทอผ้า ชุมชน และผู้ประกอบอาชีพทุกสาขา โดยหนังสือ Thai Textiles Trend Book Spring / Summer 2023 เล่มล่าสุด นำเสนอแนวคิด 'วัฒนธรรมอันเคลื่อนคล้อย' (Moving Culture) การเคลื่อนที่ทางวัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนเอกลักษณ์ ของแต่ละถิ่นฐานบนผืนผ้า ซึ่งได้แรงบันดาลใจของบรรยากาศฤดูร้อนของไทย 

โดยทำการศึกษาควบคู่ไปกับงานภูมิปัญญา และงานหัตถศิลป์ สะท้อนแนวคิด ผ้าไทยหลายชนิด ที่มีที่มาจากวัฒนธรรมอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของวัฒนธรรมที่ไม่ตายตัว แต่มีการปรับตัวและแลกเปลี่ยนของอัตลักษณประจำถิ่นเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง โดยมีผ้าไทยประจำฤดูกาลนี้อย่าง 'ผ้าขาวม้า' และ 'ผ้าบาติก' เป็นตัวอย่างของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นทั้งในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  

‘หัวรถจักรรถไฟ EV’ ตัวต้นแบบมาแน่ พ.ย.นี้ เปลี่ยนโลกขนส่ง ‘ลดใช้พลังงาน - ประหยัดค่าโดยสาร’

ไม่เพียงแค่ รถยนต์ EV, รถเมล์ EV และ เรือ EV ที่กำลังช่วยขับเคลื่อนพลังสะอาดให้สังคมไทยอยู่ในตอนนี้เท่านั้น ในอนาคตอันใกล้ ประเทศไทยก็กำลังจะเปิดตัว ‘หัวรถจักรรถไฟ EV’ ตัวต้นแบบภายในเดือนพ.ย. นี้ด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เคยเปิดเผยไว้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เร่งดำเนินการศึกษาการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (EV on Train) เพื่อให้สามารถลดต้นทุนในการดำเนินการต่าง ๆ ลงได้ อันจะส่งผลให้ภาระที่ผลักถึงประชาชน โดยเฉพาะค่าโดยสารลดลงตามไปด้วย 

โดยรายงานเบื้องต้น เผยว่า ขณะนี้ ภาคเอกชน ได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และอยู่ระหว่างการพัฒนา ‘หัวรถจักรรถไฟ EV’ ต้นแบบ ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับหัวรถจักรดีเซล โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 65 และจะมีการทดสอบเดินรถในระยะสั้น ๆ ภายในปลายปี 65 อีกด้วย 

นายศักดิ์สยาม ยังระบุต่ออีกว่า ตอนนี้ประเทศไทยสามารถประกอบติดตั้งระบบแบตเตอรี่สำหรับรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้เองแล้ว สอดคล้องกับหลากหลายประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และกำลังดำเนินการกันอยู่ 

สำหรับ EV on Train ตัวต้นแบบของไทยนั้น เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อย จะต้องมาพิจารณาผลว่าเป็นอย่างไร หากได้ผลดี อาจต้องทบทวนแผนการจัดซื้อหัวรถจักร และรถโดยสารของ รฟท. ให้เป็นแบบ EV ต่อไป

ททท. เชียงใหม่ แถลงแผนปฏิบัติการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ประจำปี 2566

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ณ ท้องฟ้าจำลอง อุทยานวิทยาศาสตร์สิรินธรฯ (NARIT) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประธานแถลงแผนปฏิบัติการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ประจำปี 2566 นำเสนอแผนการปฏิบัติงานและทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาคเหนือและจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2566

นางสาวภัทรองนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. กล่าวว่า ทิศทางการท่องเที่ยวของภาคเหนือมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่รัฐบาลประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคเฝ้าระวังที่ไม่อันตรายทำให้ประชาชนมีความผ่อนคลายในการใช้ชีวิตและการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ทั้งนี้ในปี 2566 ททท. ได้วางทิศทางในการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวภาคเหนือ โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์เมนูประสบการณ์ท่องเที่ยวภาคเหนือภายใต้แนวคิด 'เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ' ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มวัยทำงาน กลุ่ม Active Senior และกลุ่ม Multi Generation Family เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น โดยการส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่านสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวต่างๆ ที่สามารถตอบโจทก์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ อาทิ โครงการ North X Clusive นำเสนองานคราฟท์ชุมชน/กิจกรรมชุมชน โครงการ North Experience Festival นำเสนอเส้นทางสายมู/เส้นทางย้อนวันวานเมืองเหนือ โครงการเสน่ห์กินริมน้ำ นำเสนออาหารถิ่น, มิชลินไกด์, ภิรมย์เวียงพิงค์ และโครงการ Amazing Northern Road Trip นำเสนองานเทศกาลประเพณี, เส้นทางขับรถเที่ยว Unseen New Series - วิ่ง เดิน Trail เป็นต้น

นางสาวเบญรัตน์ มรรยาทอ่อน ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรม ททท. ได้กล่าวถึงเทรนด์การท่องเที่ยว ปี 2023 โลกหลังสถานการณ์โควิด-19 กับอนาคตสดใสของท่องเที่ยวเชิงอาหาร, Sustain to Regain ความยั่งยืนกลายเป็นทั้งเทรนด์ พร้อมกล่าวถึงทัศนคติของผู้บริโภคชาวไทยต่อ 'ความยั่งยืน' และเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ Work from Anywhere & Digital Nomad ทำงานไปเที่ยว ...เรื่องเดียวกัน มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นถึง 376% การท่องเที่ยว Health & Wellness สำหรับประเทศไทยในปัจจุบัน ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 15 ของโลก และ Innovation for a Betterment ปี 2023 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเริ่มมีนวัตกรรมใหม่ๆ ถูกนำมาทดลองใช้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยจากสัญญาณบวกของเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ปี 2565 ที่มีการฟื้นตัวในอัตราร้อยละ 2.8 ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวถึงร้อยละ 3.5 ในปี 2566 และจำนวนผู้เยี่ยมเยือนที่คาดว่าจะมีการขยายตัวร้อยละ 52.3 (ข้อมูลจากรายงานประมาณการศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ ไตรมาส 3/2565, สำนักงานคลังจังหวัดเชียงใหม่) เนื่องจากการผ่อนคลายทางการท่องเที่ยวมากขึ้น และสายการบินต่างๆ ทั้งเส้นทางในและต่างประเทศเริ่มกลับมาทำการบินอย่างเต็มรูปแบบ และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกในช่วงปลายปีนี้เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับฤดูท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง 

โดยปัจจุบันมีสายการบินที่เปิดให้บริการเส้นทางบินในประเทศ จำนวน 6 สายการบิน 11 เส้นทาง และสายการบินที่เปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ จำนวน 7 สายการบิน 10 เส้นทาง ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่เพื่อสัมผัสอากาศหนาวกันอย่างคึกคัก

ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ได้กำหนดแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยว ประจำปี 2566 มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวกระแสหลักและกลุ่มศักยภาพ และเพิ่มการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวผ่านการส่งมอบประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับทิศทางการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวของภูมิภาคภาคเหนือ ได้แก่

'อลงกรณ์' แปลกใจ 'ยุทธพล' คัดค้านโครงการแก้ปัญหาลิงแสมจังหวัดเพชรบุรี แนะทบทวนท่าที อย่าขวางความร่วมมือของ 2 กระทรวง เผยกรมปศุสัตว์ร่วมหารือกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าฯ พร้อมทำงานร่วมกัน 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า รู้สึกแปลกใจต่อท่าทีของนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ออกมาคัดค้านโครงการแก้ปัญหาลิงแสมจังหวัดเพชรบุรีทำให้เกิดความสับสนงุนงงของหลายฝ่ายต่อท่าทีของนายยุทธพล ทั้งที่ก่อนหน้านี้กรมปศุสัตว์ได้หารือกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าฯ เกี่ยวกับโครงการดังกล่าวและพร้อมร่วมมือทำงานร่วมกัน จึงขอให้นายยุทธพลทบทวนท่าทีเสียใหม่อย่าขวางความร่วมมือระหว่าง 2 กระทรวงและการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและจังหวัดเพชรบุรี

สำหรับกรมปศุสัตว์รับผิดชอบกฎหมายหลายฉบับครอบคลุมงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ โรคระบาดสัตว์และการทารุณกรรมสัตว์มีสัตว์แพทย์และงบประมาณที่พร้อมสนับสนุนจังหวัดเพชรบุรีร่วมมือกันแก้ไขปัญหาลิงแสมด้วยการใช้หลากหลายวิธีการโดยระดมความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคีภาคส่วนรวมทั้งมหาวิทยาลัย 13 แห่งที่มีคณะสัตว์แพทย์และเครือข่ายองค์กรเอกชนมูลนิธิด้านอนุรักษ์สัตว์ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยและในต่างประเทศรวมทั้งอดีตสัตว์แพทย์ที่เกษียณอายุก็พร้อมที่จะมาช่วยสนับสนุนจังหวัดเพชรบุรีโดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์ุพืชซึ่งรับผิดชอบกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าได้ทุ่มเททำงานหนักในการแก้ไขปัญหาลิงแสมโดยทำหมันลิงแต่ด้วยข้อจำกัดของงบประมาณและกำลังคนทำให้การลดประชากรลิงไม่สามารถบรรลุเป้าประสงค์ดังปรากฎปัญหาให้เห็นในทุกวันนี้

“การทำหมันหลายปีที่ผ่านมาเพียง 500 กว่าตัวหรือเฉลี่ยปีละ 100-200 ตัวจากฝูงลิง 2-3 พันตัวด้วยสัดส่วนการทำหมันลิงต่อจำนวนลิงทั้งหมด 5-10% จึงไม่ทันต่อการแพร่ขยายพันธ์ุของลิงและฝูงลิงซึ่งโดยธรรมชาติลิงเพศผู้สามารถสืบพันธ์ได้วันละ 10 ครั้งและเพศเมียมีลูกได้ 2 ตัวต่อปี นอกจากนี้โดยพฤติกรรมของลิงที่อยู่เป็นฝูงเมื่อลิงเพศผู้เข้าสู่วัยหนุ่มจะถูกขับออกจากฝูงเดิมและไปสร้างฝูงใหม่เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆในส่วนการดำรงชีพของลิงที่แย่งที่อยู่ที่กินในพื้นที่จำกัดก็มีการต่อสู้กัดทำร้ายกันบาดเจ็บระหว่างฝูงไม่เว้นแต่ละวันเป็นปัญหาสวัสดิภาพสัตว์ที่ต้องเร่งแก้ไขดูแลโดยเร็วเช่นกันอีกทั้งปัญหาการทำร้ายนักเรียนและนักท่องเที่ยวจนบาดเจ็บก็ยังมีให้เห็นและอาจติดโรคร้ายจากลิงมีอันตรายถึงชีวิต การเอาลิงกังไปไล่ลิงแสมเป็นครั้งเป็นคราวเฉพาะจุดแต่ก็ไม่ทั่วถึงและต่อเนื่อง ทุกคนยังอยู่ในภาวะเสี่ยงตลอดเวลา หากเกิดเหตุเป็นข่าวก็กระทบต่อภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและภาพลักษณ์โดยรวมของจังหวัดเพชรบุรี ในหลายประเทศจะไม่ใช้วิธีการทำหมันเพียงอย่างเดียวในการควบคุมและลดประชากรลิงให้อยู่ได้กับชุมชนและไม่ก่อผลกระทบทั้งด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพอนามัยความปลอดภัยและการประกอบอาชีพของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคระบาดจากสัตว์สู่คนจะประมาทไม่ได้บทเรียนกรณีวิกฤติโควิด19เป็นการแพร่ระบาดโรคจากสัตว์สู่คนที่ไม่เคยมีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นและรุนแรงขยายผลกระทบไปทั่วโลก เราจะอยู่ในความประมาทอีกต่อไปไม่ได้

เลขาธิการ ศอ.บต. พบปะ สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมแถลงนโยบายแผนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

ในห้วงที่ผ่านมาและที่จะดำเนินต่อไปในปี 66 เน้นยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนมีความกินดี อยู่ดี และอยู่ร่วมกันในวิถีพหุวัฒนธรรมที่ โรงแรมริเวอร์ ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมเสวนาสร้างการรับรู้การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้แก่สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยมี นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ตลอดจนสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วม

ในการนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้พบปะเพื่อขอบคุณสื่อมวลชนในการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการสื่อสารการทำงานของ ศอ.บต. ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนสำคัญมากต่อการทำให้บ้านเมืองในจังหวัดชายแดนภาคใต้สงบสุขเพราะพี่น้องสื่อมวลชนถือว่าเป็นกลไกหลักที่สร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องราวที่สำคัญของบ้านเมืองให้กับพี่น้องประชาชนที่จะทำให้เกิดทัศนคติที่ดี พร้อมกันนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้แถลงนโยบายแผนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงที่ผ่านมาและที่จะดำเนินต่อไปในปีงบประมาณ 2566 ที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนมีความกินดี อยู่ดี และอยู่ร่วมกันในวิถีพหุวัฒนธรรม อาทิ ในเรื่องของการพัฒนาคุณภาพชีวิตซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนตามฐานข้อมูล TPMAP ทั้ง 5 มิติ ประกอบด้วย มิติด้านสุขภาพ การศึกษา รายได้ ความเป็นอยู่ และการเข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐ และยังรวมไปถึงกลุ่มเปราะบาง ซึ่ง ศอ.บต. กำลังเดินหน้าในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความยากจน ศอ.บต. ได้ขับเคลื่อนโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน ซึ่งเป็นการจัดเจ้าหน้าที่ข้าราชการประกบครัวเรือนยากจนโดยประสานกับชุดข้าราชการตำบลทุกภาคส่วนโดยข้าราชการจะทำหน้าที่เฝ้า ประกบ ติดตาม รายงาน เพื่อแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาได้มีการนำร่องแล้ว 400 ครัวเรือน ปี 66 จะขยับขึ้นอีก 1,200 ครัวเรือน โดยเลขาธิการ ศอ.บต. เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาภาคใต้ต้องตอบโจทย์และต้องยั่งยืน 

นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร มีการส่งเสริมการผลิตจากพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด เช่น มะพร้าว ข้าว กาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการปลูกกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์พื้นถิ่น ซึ่งเป็นพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้มีพระประสงค์ให้มีการอนุรักษ์พันธุ์กาแฟพื้นถิ่น และพัฒนากระบวนการผลิตให้เป็นกาแฟที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งเสริมอาชีพปศุสัตว์ ภาคการท่องเที่ยว ส่งเสริมศักยภาพของวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชน ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก โดยเน้นการสร้างอัตลักษณ์เฉพาะของแหล่งท่องเที่ยว

35 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เข้ายื่นหนังสือขอ รมว.เฮ้ง ช่วยถอนร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... 

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือจาก นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ประธานสหภาพการยางแห่งประเทศไทย เป็นผู้นำยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยยื่นผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยมี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจอีกจำนวน 35 แห่ง เข้ายื่นหนังสือด้วย เนื่องจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ มีมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... เพราะจะทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจอ่อนแอลง อาจทำให้เกิดโอกาสทุจริตมากขึ้น จึงเรียกร้องคัดค้านให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกมาก่อน เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มาร่วมกันพิจารณาตามกระบวนการ ณ บริเวณโถงด้านล่างอาคารกระทรวงแรงงาน 

'บิ๊กป้อม' คุมเข้มปราบ 'ขบวนการค้ามนุษย์' ย้ำ!! จนท.รัฐ พัวพัน โดน 'วินัย-อาญา' แน่

พล.อ.ประวิตร คุมเข้มปราบ 'ขบวนการค้ามนุษย์' เน้นทำงานเชิงรุก 'ผู้เสียหาย เป็นศูนย์กลาง' ย้ำเอาผิด จนท.รัฐ ทั้งวินัย/อาญา หากพัวพัน สั่งตั้ง 'รองโจ๊ก' นั่งหน.เฉพาะกิจช่วยเหลือ/เยียวยาเหยื่อ

(3 พ.ย. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม 2 คณะ ต่อเนื่องกัน คือ คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และ คณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

เวลา 10.00น. เริ่มการประชุม คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่4/2565 ที่ประชุมได้รับทราบ ความก้าวหน้าการจัดตั้งศูนย์คัดแยกฯ ผู้เสียหาย (ดอนเมือง) ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงอาคารศูนย์ฝึกอบรม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดอนเมือง ให้เป็นศูนย์คัดแยกฯ และกำลังดำเนินการพัฒนาระบบศูนย์คัดแยกฯ ซึ่งเป็นกลไกการทำงานที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ และรับทราบความคืบหน้า 8 หน่วยงานหลัก ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรองรับแผนปฏิบัติการ ว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย จากการค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงาน หรือบริการ พ.ศ.2565 จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณา แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจกำกับ และติดตามการดำเนินงาน ช่วยเหลือและเยียวยา ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.สตช. เป็นประธาน

'อำนวย บุญริ้ว' นายกเทศมนตรี ลงพื้นที่คุมเข้ม!! ตรวจความพร้อม รับเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2565

นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมเพื่อรับมือเทศกาลวันลอยกระทงที่จะจัดขึ้นในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในวันที่ 5-8 พฤศจิกายน นี้ 

โดย การลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในครั้งนี้ นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ พร้อมด้วย พ.จ.อ.พิรภพ แสงเพชร ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี นายธนสัน วสันต์ กำนันตำบลแพรกษาใหม่ จ.อ.สุทัศ ทับวันนา ผู้อำนวยการกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเเพรกษาใหม่ ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อตรวจสอบความพร้อมรับมือเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2565

โดยทางด้าน นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเพื่อรับมือเทศกาลวันลอยกระทงที่ใกล้จะมาถึง พร้อมทั้ง ได้กำชับและได้มีการประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นหลัก และกำชับให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจตราดูแลความปลอดภัยทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อสร้างความอุ่นใจและคอยดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงานในปีนี้ โดยคาดว่าในปีนี้จะมีพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ต่าง ๆ เดินทางมาร่วมงานลอยกระทงเป็นจำนวนมาก

‘ดีอีเอส’ ผนึก ‘กสทช.-35 ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต’ ระงับแพร่ข้อมูลผิดกฎหมาย ภายใน 24 ชม.

ดีอีเอส ร่วมกับ กสทช. และ 35 หน่วยงานผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หาแนวทางแจ้งเตือน ระงับการเผยแพร่ข้อมูลผิดกฎหมาย ภายใน 24 ชม.

(3 พ.ย. 65) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ จำนวน 35 ราย รับทราบ และชี้แจงประกาศกระทรวงดิจิทัลฯ เรื่อง ขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2565 เพื่อระงับเนื้อหาข้อมูลเท็จ ความมั่นคง ลามกอนาจาร หลังรับแจ้งการกระทำผิด

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ (26 ต.ค. 2565) ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง ขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีรายละเอียดที่สำคัญโดยสรุป ดังนี้...

1. ปรับปรุงประกาศฉบับเดิม เมื่อปี 2560 ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อคุ้มครองประชาชนมากยิ่งขึ้น และสร้างหลักประกันแก่ผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย หากได้ปฏิบัติตามข้อร้องเรียนของประชาชนทั่วไป หรือผู้ใช้บริการ หรือตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศอย่างถูกต้องครบถ้วน จะเข้าข้อยกเว้นความรับผิด (Safe Harbor) ของผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์ตามมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ 

2. ขั้นตอนการปฏิบัติของผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์ คือ ต้องมีช่องทางเพื่อรับแจ้งเนื้อหาที่เป็นความผิด ทั้งข้อมูลเท็จ บิดเบือน ปลอมแปลง กระทบต่อความมั่นคง หรือลามกอนาจาร จากประชาชนทั่วไป หรือผู้ใช้บริการ โดยจัดทำแบบฟอร์มข้อเรื่องร้องเรียน (Complaint Form) และเมื่อได้รับแจ้งแล้ว ให้ระงับหรือนำเนื้อหาที่ผิดกฎหมายออกจากระบบ หรือเมื่อได้รับคำสั่งให้ระงับหรือนำข้อมูลออกจากระบบจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระงับหรือนำข้อมูลฯ ออกจากระบบของตน ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามลักษณะเนื้อหาของข้อมูล ดังนี้…

- เนื้อหาที่เป็นเท็จ บิดเบือน ปลอม ตามมาตรา 14 (1) ให้ระงับ หรือนำข้อมูลออก ทันที ไม่เกิน 7 วัน 
- เนื้อหาที่กระทบต่อความมั่นคง ตามมาตรา 14 (2) และ (3) ให้ระงับ นำข้อมูลออกทันที แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
- เนื้อหาที่มีลักษณะลามก ตามมาตรา 14 (4) ให้ระงับ นำข้อมูลออกทันที แต่ไม่เกิน 3 วัน สำหรับกรณีภาพลามกอนาจารเด็ก ต้องระงับหรือนำข้อมูลออก ทันที แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง

3. สำหรับประชาชนทั่วไป หรือผู้ใช้บริการต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ หรือต้องมีการลงบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจก่อนดำเนินการแจ้งไปยังผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ ประกาศนี้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (วันที่ 25 ธันวาคม 2565) เพื่อให้ผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์ เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม

“ประกาศฉบับนี้ ออกมาเพื่อเร่งระงับข้อมูลผิด กฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่า อย่าใช้ช่องทางนี้ ในการกลั่นแกล้งผู้อื่น หากดำเนินการ โดยเจตนาไม่สุจริต หรือเป็นเท็จ ผู้แจ้งอาจต้องรับผิดฐานแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญาได้” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการกระทำความผิดเนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ การฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนผ่านระบบคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ช่วยลดภาระของประชาชนหรือผู้เสียหาย และตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพ ดีอีเอส ได้ร่วมกับ 36 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย... 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top