Saturday, 29 June 2024
POLITICS

'ชัยวุฒิ' เสนอนโยบาย 'เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี' นำเงินพัฒนาประเทศ พร้อมปรับกฎหมายให้เป็นสากล หนุน 'ธุรกิจผับ บาร์'

(19 ก.พ. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาทุนสีเทา ว่า รัฐบาลเอาจริงและจะเร่งดําเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอที่ประชุมพรรคพิจารณา เพื่อจัดทำเป็นนโยบายพรรค ด้วยวิธีแก้กฎหมายที่ล้าสมัยหรือขัดกับวิถีชีวิตของประชาชน ต้องปรับให้ทันสมัยตรงกับหลักสากล ให้ธุรกิจไปได้ โดยเปลี่ยนส่วยมาเป็นภาษี จะทำให้ได้เงินเข้ามาพัฒนาประเทศ ธุรกิจไม่ต้องมีการจ่ายส่วย ไม่มีการคอรัปชั่น 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และพรรคพปชร.มองว่าแนวทางการแก้ไขปัญหานอกจากการปราบปรามอย่างจริงจัง ต้องแก้ไขกฎหมายเปลี่ยนส่วยให้เป็นภาษี สกัดกั้นช่องทางเรียกรับส่วยจากผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่นธุรกิจบริการบางประเภท เช่น ผับ บาร์ เป็นต้น ควรเปิดขายได้มากกว่าเที่ยงคืนเช่นเดียวกับต่างประเทศ แต่ไทยไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทำให้เกิดการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยผู้ประกอบการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้เปิดบริการเกินเวลา รองรับท่องเที่ยวต่างชาติได้ จึงเกิดทุนสีเทา ธุรกิจผิดกฎหมายขึ้นมา

'เสรีพิศุทธ์' เปรย!! จับมือ 'ป้อม' ได้ แต่ไม่เอา ‘ตู่' พร้อมเผยเตรียมจีบ ‘ชูวิทย์’ เข้าก๊วนร่วมปราบโกง

(18 ก.พ.66) ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ เขตบางพลัด กทม. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งของพรรคเสรีรวมไทยว่า จะพยายามส่งผู้สมัครให้ครบทุกเขต รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้ไม่ได้มาจากเฒ่าสารพัดพิษ เละเทะมาก ผู้สมัครบางคนตอบรับมาอยู่พรรคเสรีรวมไทยแล้ว แต่เจอพรรคใหญ่แย่งไป ต้องหาใหม่ ผู้สมัครบางคน พรรคเพิ่งได้ตัวมาเมื่อคืนเอง หรือส.ส.บางคนจะย้ายไปพรรคอื่นก็ห้ามไม่ได้ เช่น ส.ส.ลำปาง ตนไปช่วยหาเสียงเต็มที่อยู่เป็นเดือน ยังถูกทรยศหักหลัง ซื้อตัวไป แต่พรรคเสรีรวมไทยไม่มีส.ส.ย้ายมา เพราะไม่มีเงินให้ ถึงมีก็ไม่ให้ อย่าไปเลือกพรรคเหล่านี้ ให้มาเลือกพรรคเสรีรวมไทย 

ส่วนเรื่องการเตรียมตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้ครบตามกฎหมายเลือกตั้งนั้น คาดว่าสิ้นเดือนก.พ.จะเตรียมได้ครบทั้งหมด ส่วนพื้นที่เป้าหมายพรรคเสรีรวมไทยนั้น คือ กทม. และต่างจังหวัดบางพื้นที่ แต่การหาเสียงขณะนี้ กกต.ไม่ทำหน้าที่ บางพรรคเอาคนมาฟังการปราศรัย ไม่รู้มีการจ่ายเงินให้หรือไม่ กกต.ต้องไปตรวจสอบ หลายนโยบายพรรคเสรีรวมไทยก็ถูกลอกไป ทั้งที่คิดมาก่อน แต่พรรคใหญ่เสียงดังกว่า เช่น บำนาญประชาชน เบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุ

เมื่อถามว่า หากหลังเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล พรรคเสรีรวมไทยพร้อมร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนต่อต้านการรัฐประหาร ซึ่งพล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เกษียณมาหลายปี ไม่มีปัญญาทำรัฐประหารแน่นอน ต้องให้คนคุมกำลัง มีอาวุธเท่านั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่วนพล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แค่มาช่วย

“จุดยืนผมจะต่อต้านเฉพาะตัวหลักการทำรัฐประหาร แต่พล.อ.ประวิตรไม่ใช่ตัวหลัก ถ้าจะร่วมกันทำงานก็ทำได้ แต่ไม่ร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์แน่นอน ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐก็ร่วมกันได้” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง พบปะกับผู้สมัครในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง พบปะกับผู้สมัครในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูลและสงขลาเพื่อแถลงนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อใช้ในการหาเสียง และสอบถามถึงปัญหาในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่โหมดเลือกตั้งที่ใกล้จะถึงในเร็วๆ นี้

ที่ ห้องประชุมย่อย ศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง พบปะกับผู้สมัครในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูลและสงขลาเพื่อแถลงนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อใช้ในการหาเสียง และสอบถามถึงปัญหาในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่โหมดเลือกตั้งที่จะถึงในเร็วๆ นี้ หลังจากนั้น นายนิพนธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เปิดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน ถึงความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเตรียมความพร้อมของพรรคปชป.ชายแดนใต้ ตั้งแต่สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ซึ่งหลังจากประชุมที่จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว วันนี้ก็ประชุมเตรียมความพร้อมทุกอย่าง และที่ประชุมก็ได้รับการยืนยันว่าทุกเขตมีความพร้อมในการเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ ประชาธิปัตย์ได้ชูนโยบาย สันติภาพสู่สันติสุข ดังนั้นจึงคิดว่าเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ ถ้าไม่สามารถแก้เรื่องความเห็นต่างหรือความขัดแย้งไม่ได้ก็ยากที่จะนำสันติสุขมาสู่ชายแดนใต้ วันนี้ประชาธิปัตย์จึงได้นำเสนอยุทธศาสตร์สำคัญนั่นคือ การทำให้เกิดสันติภาพ และนำไปสู่สันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฉะนั้นเราสนับสนุนการที่จะพูดคุยในความเห็นที่ต่างกันอยู่ในพื้นที่ ทุกฝ่ายจึงต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้ 

ตลอดเวลาที่เราใช้ความมั่นคงหรือการแก้ปัญหาด้วยอาวุธมันไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใจ้ได้ วันนี้เราใช้งบประมาณไปเกือบ 5 แสนล้าน ในช่วง 19 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีเหตุปล้นปืน ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหาโครงสร้างซึ่งได้มีความพยายามแก้กันมาตั้งแต่เรื่องของการศึกษาก็ดี เรื่องความยุติธรรมหรือเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก็ดี วันนี้ได้แก้ปัญหาเหล่านี้ไปเยอะเหลืออีกหนึ่งปัญหาทีาราต้องเร่งรัดในการแก้ไขคือในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื่นที่ที่จังหวัดชายแดนใต้ ฉะนั้นการที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้ก็คือ การสร้างงานให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยสร้างอาชีพให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และยุทธศาสตร์ของประชาธิปัตย์ที่สำคัญคือ ทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทสงด้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นดารปนะมง การเพาะเลร้ยงแลาในกะชัง หรือแศุสัตว์ต่างๆ ซึ่งกระทรวงเกษตร และกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเสริมเรื่องนี้มาตลอด โดยการส่งเสริมให้แนะชาชนรวมกลุ่มเลี้ยงโค ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเลี้ยงโคอาลังสึกะก็ดี หรือหาแหล่งทุนต่างๆมอบให้กลุ่มเกษตรกรทำการเลี้ยงปลาหรือโค ฉะนั้นนี่คือรูปแบบการส่งเสริมอาชีพ ตลอดจนถึงการทำการเกษตรพืชสวน ทำนาร้างให้เป็นนาข้าว สิ่งเหล่านี้จะเป็นการทำรายได้ให้กับประชาชน คือการสร้างงานในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ และจะเชื่อได้ว่าจังหวัดชายแดนใต้จะคืนสู่สันติสุขอย่างแท้จริง 

ดังนั้นยืนยันได้ว่าวันนี้ พวกเราในจังหวัดชายแดนใต้พร้อมเข้าสู่สถานการณ์การเลือกตั้ง และนำเอายุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ไปสู่การแก้ปัญหา นำสันติภาพมาสู่จังหวัดชายแดนใต้ นำสันติภาพมาสู่พื้นที่อย่างแท้จริง และเชื่อว่าเราจะเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริง ดังนั้นในนามของผู้สมัครในนามพรรคปชป.ยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า การที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้ต้องพูดถึงเรื่องสันติภาพ ให้เข้าใจตรงกัน บทเรียนในอดีตที่เรามีปัญหาในช่วงความเห็นต่างมันจบลงได้ด้วยการพูดคุยกัน จบลงได้ด้วยนโยบายการเมืองที่ชัดเจน 

'อนุสรณ์' เย้ย 'บิ๊กตู่' จนมุม ตอบคำถามฝ่ายค้านไม่ได้ จวก!! ปัดความรับผิดชอบ พูดเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น

(18 ก.พ.66) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี​ โดยไม่มีการลงมติ​ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ 2560​ เมื่อวันที่​ 15-16 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่สามารถตอบให้ตรงคำถามของฝ่ายค้านได้เลย ซ้ำยังพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เฉไฉ ปฏิเสธความรับผิดชอบ ในหลายประเด็นดังนี้

1.การที่พล.อ.ประยุทธ์บอกว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ขายบ้านแถมสัญชาติ ถือเป็นการตอบที่ต่ำกว่ามาตรฐานของคนเป็นนายกฯ เพราะเลือกใช้วาทกรรมการเมืองเก่า โดยเลือกที่จะมองข้ามข้อเท็จจริง ไม่มีใครในโลกนี้ซื้อบ้านแถมสัญชาติหรือซื้อบ้านทั้งโครงการ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏคือทุนจีนสีเทาซื้อบ้านหลายโครงการ ไม่ใช่โครงการเดียว ส่วนการซื้อเป็นไปตามกฎหมาย ที่ผู้ประกอบการจะขายให้คนสัญชาติไทย บริษัทผู้ขายก็เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สามารถตรวจสอบได้  

'จตุพร' ฟันฉับ!! 'อุ๊งอิ๊ง' ไม่เหมาะนั่งนายกฯ แนะ!! ประเมินตัวเอง - เช็กกระแสประชาชน

(17 ก.พ.66) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน 'ตีเนียน' ย้ำถามถึงเพื่อไทยจะจับมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พปชร.หรือไม่ ต้องประกาศคำมั่นสัญญาให้ชัดเจน เช่นเดียวกับ 'อุ๊งอิ๊ง' ถ้าต้องการเป็นนายกฯ ตามอารมณ์ความรู้สึกของโพลแล้ว เพื่อไทยควรแถลงให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพียงคนเดียว ซึ่งบางกลุ่มจะส่งข้อมูลที่ตัวเองยังไม่รู้มาช่วยประชาสัมพันธ์ให้

นายจตุพร กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยโดยผู้มีอำนาจทั้งอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวทักษิณ ชินวัตร และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค หรือทักษิณ ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดของพรรค ต้องแถลงให้ชัดจะจับมือกับ พล.อ.ประวิตรและ พปชร. หรือไม่ และเพื่อให้เกิดความเด็ดขาด น่าเชื่อมั่น และสังคมจะยอมรับ จึงเป็นวิธีการแก้ปัญหาได้ง่ายที่สุด

"แต่วันนี้ คนไม่มีบทบาทนำของเพื่อไทย เป็นแค่กองเชียร์กลับมาพูดว่า เลือกอิ๊งค์ ก็ต้องได้อิ๊งค์เป็นนายกฯ สิ จะไปได้ป้อม (พล.อ.ประวิตร) ได้ยังไง ดังนั้นควรเอากันให้ชัดเลยว่า เพื่อไทยต้องการให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ จริงหรือเปล่า ถ้าต้องการจริง ต้องเสนออุ๊งอิ๊ง เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทยเพียงคนเดียว"

นายจตุพร ระบุว่า พปชร.ก็ควรเสนอ พล.อ. ประวิตร คนเดียว ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แม้ยังไม่มีมติพรรคก็ควรเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้แถลงแล้วจะเสนออนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรค เช่นกันกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็เสนอจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค

ดังนั้น คำถามง่ายๆ คนที่มีอำนาจและบทบาทเต็มของเพื่อไทยต้องออกมายืนยันให้เป็นคำมั่นสัญญา ว่า แม้ผลเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ก็ไม่มีวันไปจับมือกับ พล.อ.ประวิตร-พปชร.เด็ดขาด ซึ่งข้อกล่าวหาใดๆ ที่ตามมาจากคำถามนี้ย่อมเป็นที่ยุติ ไม่มีการพูดถึงต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในทางการเมืองที่ผ่านมา พรรคการเมืองมักอ้างความจำเป็นมาเปิดช่องว่างหลบหลีกคำสัญญาที่ให้กับประชาชนเสมอ กรณีปี 2535 เป็นที่ชัดเจน เพราะ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีต ผบ.ทบ. หัวหน้าทหาร จปร.รุ่น 5 สัญญาไม่เป็นนายกฯ แต่กลับอ้างความจำเป็นมาเป็นนายกฯ จนประชาชนออกมาต่อต้านรุนแรงถึงชีวิต เลือดเนื้อและการสูญหายของประชาชนจำนวนมาก

‘อิ๊งค์’ ตอก ส.ว. ตั้งธงไม่เลือกนายกฯ จาก พท. ย้อน!! เหตุผลสุดเชย นี่แหละถึงต้องปิดสวิตช์

‘อิ๊งค์’ แขวะ ส.ว.เชยบอกถึงวุฒิภาวะ ไล่ดูอายุผู้นำทั่วโลก แต่ต้องขอบคุณช่วย เพื่อไทยหาเสียงปิดสวิตช์ ส.ว. ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ ถ้า ปชช.เลือก ฟาก ‘เต้น’ สับ ‘ประยุทธ์’ มะนาวไม่มีน้ำ สาวหาวไม่มีเว้น เลิกบิดเบือน ปม ‘ตู้ห่าว’ แซะหลักฐานคาบัญชี คาที่ดิน

(17 ก.พ. 66) ที่วัดม่วงเดียด หลวงพ่อลี อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการปักธงภาคอีสานว่า พรรคเราเคยรับใช้ประชาชนมาแล้ว และแสดงให้ประชาชนเห็นนานแล้วว่าเราทำได้จริง เราเคยมีรัฐบาลที่เคยรับใช้ประชาชนจริง ๆ เรามีพลังของคนรุ่นใหม่จริง ๆ ที่จะสามารถผลักดันนโยบายเหล่านั้นให้เป็นจริงได้ ฉะนั้น ตนมั่นใจว่าประชาชนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของเขาเช่นกัน 

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้ ส.ส.อุบลราชธานียกจังหวัด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มั่นใจมาก ๆ ผู้สมัครของเราพร้อมแล้ว และวันนี้เราคิดว่าคนจะมาประมาณ 1 หมื่นคน แต่สรุปนับกันไปนับกันมาจะ 3 หมื่นคน ซึ่งตนเห็นรูปก่อนที่เข้ามาถึง ต้องขอบคุณพี่น้องชาวอุบลมาก ๆ ที่ให้การต้อนรับดี ถือเป็นกำลังใจให้พรรค พท.ที่จะไปอีกหลายจังหวัดใน 3 วันนี้ นี่เป็นแค่เวทีแรก เรายังเหลืออีก 8 เวที 

น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.ตั้งธงว่าแม้ พท.จะชนะแลนด์สไลด์ก็จะไม่เลือกนายกฯ จากพรรค พท.ว่า ต้องขอบคุณที่ช่วยพรรค พท.หาเสียง เพื่อทำให้ประชาชนประจักษ์ว่าที่เขาสงสัยกันอยู่ ว่าทำไมเราถึงพูดว่าปิดสวิตช์ ส.ว.มันจำเป็นแค่ไหน ขอฝากขอบคุณไปเลย เราหาเสียงเหนื่อยแบบนี้ มี ส.ว.ช่วยหาเสียง ขอขอบคุณมาก ๆ ส่วนกรณีที่มองว่าตนเองอ่อนประสบการณ์นั้น ตอนที่ตนอยู่ในด้านธุรกิจได้ไปหลายที่ ซึ่งคนอายุน้อยกว่าตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจและเก่งมากๆ แม้ตนไม่ได้เก่งที่สุดแต่มีทีมที่เก่งที่สุด ดังนั้นการคอมเมนต์เรื่องอายุ เป็นคอมเมนต์ที่เชยแล้ว ถ้าเรายังพูดแบบนี้เป็นความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ หันไปดูทั่วโลกว่าเกิดอะไรบ้าง ผู้นำแต่ละที่อายุเท่าไรกันบ้าง ไม่ใช่แค่ผู้นำทางการเมืองแต่ผู้นำบริษัททั้งในและต่างประเทศก็มีเด็กเก่ง ๆ อยู่มาก 

“อย่าคอมเมนต์แบบนี้อีกเลย มันเป็นคอมเมนต์ที่ไม่สร้างสรรค์และแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เมื่อถามว่าถ้าประชาชนสนับสนุนพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ถ้าประชาชนเลือก ก็แน่นอน ต้องสู้เต็มที่อยู่แล้ว เพราะอิ๊งค์มีทีมและนโยบายพรรค พท.ที่ทำกันอย่างเข้มข้น อันนี้มันต้องเคารพเสียงของประชาชนอยู่แล้ว”

เมื่อถามย้ำอีกว่าหมายความว่าคือพร้อมเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนรู้สึกเขิน พอพูดแบบนี้ก็รู้สึกว่า เรายังไม่มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ 

เมื่อถามว่าความคิดเห็นของ ส.ว.ออกมาแบบนี้ ยิ่งต้องตอกย้ำให้ ส.ว.เห็นว่าเราพร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนี้คือสิ่งที่ทำให้ตนมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แต่ตนไม่ขอท้าทายกับดราม่าทางการเมืองแบบนี้ ตนขอท้าท้ายด้วยเสียงและสิทธิของประชาชน ไม่จำเป็นต้องเลือกอิ๊งค์เป็นนายกฯ อิ๊งค์จะเป็นแคนดิเดตหรือเปล่า ตอนนี้ชื่อยังไม่ออกเต็มที่ แต่เคารพเสียงของประชาชนด้วย ที่คุณบอกว่าคุณเคารพเสียงประชาชน คุณเคารพเสียงของเขาหรือเปล่า

‘ส.ว.อุปกิต’ ฟ้อง!! ‘โรม’ ปมอภิปรายหมิ่น เรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

(17 ก.พ. 66) ที่ศาลอาญา รัชดา นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ข้อหาหมิ่นประมาทเนื่องจากในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงดึกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายรังสิมันต์ ได้อภิปรายในหัวข้อ ‘เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา’ โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต

'ลุงป้อม' เตรียมลุย 'เมืองจันทร์-ตราด' 20 ก.พ.นี้ เยี่ยมชมวิสาหกิจ-ตรวจโครงการแก้มลิงหนองฉุงใหญ่

(17 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริหารจัดการน้ำ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ มีกำหนดลงพื้นที่ปฎิบัติราชการที่จังหวัดจันทบุรี โดยช่วงเช้าเดินทางไปตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

จากนั้นเป็นประธาน เปิดงาน 'บจธ. มอบสิทธิ มอบสุขในที่ดินทำกิน' มอบป้ายสัญลักษณ์สิทธิในที่ดินให้แก่ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนฯ จำนวน 10 คน และมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ให้กับผู้แทนประชาชน จำนวน 5 คน และเยี่ยมชมร้านค้าจำหน่ายผลผลิตเกษตรในพื้นที่ และชมแปลงเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่

‘อรรถวิชช์’ จี้ กกพ. ปรับลดค่าไฟลงทันที หลังราคาก๊าซต้นทุนผลิตไฟฟ้า ลดลงตั้งแต่ ธ.ค.65

(17 ก.พ. 66) ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าชาติพัฒนากล้า กล่าวเรียกร้องให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาลดค่าไฟฟ้าทันที เพราะราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตไฟฟ้า ราคาลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ดร.อรรถวิชช์ ชี้แจงว่า ราคาก๊าซอ่าวไทย (Gulf Gas) ลดลง 4.38 บาท/ล้านบีทียู อยู่ที่ 238.8008 บาท/ล้านบีทียู, ก๊าซจากพม่า (Myanmar Gas) ลดลงมา 17.68 บาท/ล้านบีทียู อยู่ที่ 375.1649 บาท/ล้านบีทียู, ก๊าซธรรมชาตินำเข้า (LNG) ลดลงมา 117.57 บาท/ล้านบีทียู อยู่ที่ 599.1430 บาท/ล้านบีทียู, รวมถึงราคา Spot LNG ปลาย ม.ค.66 อยู่ที่ 19 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ราคาต่างกันลิบลับกับช่วง ส.ค.65 ซึ่งอยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ที่เป็นช่วงที่สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนรุนแรงที่สุด

'ทหาร' แจง!! เวทีสภาสันติสุข ไม่เคยแทรกแซง รร. ในนราฯ ยืนยัน!! เคารพทุกเสรีภาพในการนับถือศาสนา

(17 ก.พ. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา อบต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ประธานสภาสันติสุขตำบลบาเจาะ เปิดเวทีสภาสันติสุข เพื่อติดตามการทำงานขับเคลื่อนสภาสันติสุขตำบลและพูดคุยประเด็นที่กำลังเป็นกระแสในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยมีหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ชุดสันติสุขที่ 405 ชุดทักษิณสัมพันธ์ที่ 401 ทพ.นย.15 นายมูฮัมมัดซูลฮัน ลามะมา อิหม่ามประจำมัสยิด (ตาดีกา) ฟัรฎูอินบูงอบังซอ บ้านดูกู ผู้นำศาสนาในพื้นที่ ผู้นำสภาเยาวชนบ้านดูกู และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

น.ส.รัชดา กล่าวว่า จากกรณีเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในประชาชนบางกลุ่มที่คิดว่าเจ้าหน้าที่ หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข เข้าไปแทรกแซงกิจการในโรงเรียนตาดีกา ฟัรฎูอินบูงอบังซอ บ้านกูดู อ.บาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเรื่องนี้หัวหน้าชุดหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ชุดสันติสุขที่ 405 ได้ชี้แจงในสภาสันติสุขเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วว่า การทำงานของฝ่ายความมั่นคงนั้นให้ความสำคัญกับการดูแลทุกข์สุขของประชาชน และเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนจะเข้าไปดูแลทันที

ซึ่งกรณีโรงเรียนตาดีกานี้ ทางหน่วยฯ ได้รับทราบมาว่า เสาธง ของโรงเรียนชำรุด จึงได้ประสานผ่านทางเจ๊ะครู เพื่อเข้าไปซ่อมแซมจนสำเร็จ อีกทั้งได้ให้ความรู้แก่เด็กๆในความหมายของธงชาติไทย รวมถึงแจกหนังสือคัดลายมืออาหรับ ให้กับเยาวชน เพื่อพัฒนาทักษะทางการเขียนที่ถูกต้อง โดยไม่ได้มีการแทรกแซงกิจการของโรงเรียนแต่อย่างใด

'บิ๊กตู่' เร่งแก้ปัญหา 'อาวุธปืน-ยาเสพติด' ย้ำ!! เอาจริง สั่งทุกฝ่ายเดินหน้าปราบปรามเข้มข้น

(17 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการหาแนวทางการป้องกัน และการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนและยาเสพติด ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขปัญหาอาวุธปืน และมีมาตรการดำเนินการ ดังนี้...

1.) การอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เพิ่มเติมเอกสารใบรับรองแพทย์ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการหารือกับกรมสุขภาพจิต และโรงพยาบาลสมเด็จพระยาในเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสุขภาพจิตและหาสารเสพติดของผู้ยื่นคำขอใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน รวมทั้งศึกษาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 

เนื่องจากพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ไม่ได้ให้อำนาจนายทะเบียนท้องที่ออกคำสั่งให้ผู้ขออนุญาตดำเนินการตรวจสุขภาพจิตและหาสารเสพติด, ออกหนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัดหรือนายจ้าง โดยกำชับนายทะเบียนท้องที่ให้ตรวจสอบประวัติอาชญากร และการรับรองความประพฤติของผู้ยื่นคำขออนุญาตทุกราย 

ทั้งนี้ การขออนุญาตให้ซื้ออาวุธหรือเครื่องกระสุนส่วนบุคคลให้มีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนสำหรับการค้าให้มีอาวุธปืน (แบบ ป.3) และการขอใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ให้มีอาวุธปืนไว้เพื่อเก็บ ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนชั่วคราว (แบบ ป.4) โดยในกรณีที่เป็นข้าราชการจะต้องผ่านการรับรองจากผู้บังคับบัญชา หรือหากเป็นบุคคลทั่วไปจะต้องได้รับการรับรองจากเจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครอง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งการออกใบรับรองให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งหากปรากฏภายหลังพบว่ามีพฤติกรรมชวนสงสัยหรือถูกดำเนินคดีอาญา ต้องแจ้งให้ มท. ทราบเพื่อดำเนินการแจ้งนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการตามอำนาจต่อไป 

ปัจจุบัน มท. อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ในประเด็นการกำหนดอายุใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน, ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขออนุญาต กำชับนายทะเบียนท้องที่ให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นคำขออนุญาต ทั้งก่อนและหลังการออกใบอนุญาตและซักซ้อมแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติให้ผู้ที่จะยื่นคำขอต่อนายทะเบียน ตามแบบ ป.3 หากเป็นการซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนในราชอาณาจักรให้ขออนุมัติผ่อนผันและรายงานให้ มท. ทราบทุกครั้ง 

ทั้งนี้ กรณีสนามยิงปืนจะอนุญาตให้ซื้อกระสุนปืนได้เฉพาะสนามยิงปืน ที่จัดตั้งเป็นสมาคมกีฬาโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 และต้องแก้ไขชนิดและขนาดปืนที่ได้รับอนุญาตตามแบบ ป.4 เท่านั้น กรณีมีผู้ยื่นคำขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนชนิดหรือขนาดเดียวกันจำนวนมากผิดปกติ ให้เรียกอาวุธปืนและใบอนุญาตมาตรวจสอบเป็นราย ๆ ไป

หากพบว่ามีการแสดงข้อมูลเป็นเท็จโดยใช้ชื่อตนเอง เพื่อซื้ออาวุธปืนให้บุคคลอื่นให้เพิกถอนใบอนุญาตทันที, เพิกถอนใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว มีการกำชับแนวทางการอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวภายในเขตจังหวัด และแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพิกถอนใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) ได้ทันที หากพบว่าเป็นผู้ที่ไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ หรือถูกเพิกถอนแบบ ป.4, และเชื่อมโยงฐานข้อมูล มท. ได้อนุมัติสิทธิให้ ตช. (ส่วนกลาง) สามารถเข้าระบบเพื่อตรวจดูข้อมูลทะเบียนอาวุธปืนได้ และอยู่ระหว่างการหารือด้านเทคนิคการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน

2.) การจัดการอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฎหมายห้ามออกใบอนุญาต กระทรวงมหาดไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นในระบบกฎหมายกลาง โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่

(1) หากบุคคลที่มีการครอบครองอาวุธปืนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายและอยู่ในความควบคุมของรัฐโดยได้รับการยกเว้นโทษ
(2) กรณีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ให้ผู้ครอบครองส่งมอบให้อยู่ในการควบคุมของรัฐโดยได้รับการยกเว้นโทษ
และ (3) กำหนดให้มีการจัดเก็บอัตลักษณ์หัวกระสุนและปลอกกระสุนของอาวุธปืนทุกกระบอกโดยให้มีกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้ฝ่าฝืนไว้ด้วย ทั้งนี้ อัตราการออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคล (แบบ ป.3) ระหว่างเดือนกรกฎาคม-15 ธันวาคม 2565 มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

'ศักดิ์สยาม' ตอบหมด 6 ปมฝ่ายค้าน พร้อมตอกหน้า!! โชว์อันดับ Logistic Performance Index ไทยดีขึ้น

(17 ก.พ. 66) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 16 ก.พ.66 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงการดำเนินการของกระทรวงคมนาคม โดยยืนยันว่า ได้บริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและโปร่งใสมาตลอด รวมทั้งได้กำหนดเป็นนโยบายให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปีที่ผ่านมาได้ผลักดันการดำเนินการสำคัญจนมีผลเป็นรูปธรรมถึง 79 นโยบาย 157 โครงการ ซึ่งสิ่งที่สะท้อนถึงผลงานของกระทรวงคมนาคมตลอดช่วงเวลาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี คือ ผลการจัดอันดับ Logistic Performance Index โดยธนาคารโลก ที่ไทยได้รับการจัดอันดับสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 13 อันดับ โดยปรับจากอันดับที่ 45 มาเป็นอันดับที่ 32

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า 1.) ประเด็นการต่อขยายสัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 และทางพิเศษสายบางปะอิน-ปากเกร็ด จากการสอบถามการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มูลหนี้ที่มีการอภิปรายว่า หากแพ้คดีกับเอกชนผู้รับสัมปทาน จะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 3 แสนล้านบาทนั้น เป็นมูลค่าที่สูงกว่าข้อเท็จจริง ที่จะมีมูลหนี้จำนวน 1.37 แสนล้านบาท และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เจรจาต่อรองจนเหลือ 7.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นฐานที่เอามาคำนวณขยายระยะเวลาสัญญา

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเงื่อนไขให้ประชาชนขึ้นทางด่วนฟรี ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยจะมีประชาชนได้รับประโยชน์ เป็นจำนวน 19 วันต่อปี หรือ 300 วัน ตลอดระยะเวลาสัมปทาน คิดเป็นมูลค่า 10,867.50 ล้านบาท ส่วนตัวเลขการขาดทุนที่มีการอภิปรายว่าจะมีการขาดทุน 65,000 ล้านบาทนั้น เป็นตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น สถานะทางการเงินในภาพรวมที่แท้จริงยังมีผลประกอบการที่กำไรทุกปี โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยสามารถนำเงินส่งรัฐปีละประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท มาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายนี้ กรณีการขยายสัญญาตามมติคณะรัฐมนตรีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ที่ยังไม่ได้มีข้อสรุป

2.) ประเด็นการไม่บันทึกบัญชีที่ดินเขากระโดง ในงบการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เนื่องจาก การบันทึกบัญชีที่ดินในงบการเงิน จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 16 เรื่องที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ซึ่งจะต้องเป็นที่ดินที่ไม่มีปัญหาการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ ดังนั้น ในกรณีที่ดินบริเวณเขากระโดง จึงได้บันทึกเฉพาะที่ดิน จำนวน 69.19 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเส้นทางเดินรถแยกจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์เข้าไปที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณเขากระโดง ซึ่งไม่มีปัญหาการโต้แย้งกรรมสิทธิ มีข้อมูลครบถ้วน ชัดเจน สำหรับพื้นที่ที่เหลือในจำนวน 5,083 ไร่ ที่ยังไม่ได้บันทึกทะเบียนสินทรัพย์ นั้น เป็นที่ดินที่ยังมีปัญหาการโต้แย้งกรรมสิทธิ และอยู่ระหว่างกระบวนการพิสูจน์สิทธิ ทำให้ไม่สามารถลงบันทึกในทะเบียนสินทรัพย์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 16 ได้ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ฟ้องเพื่อพิสูจน์สิทธิต่อศาลปกครองกลางไปแล้ว ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการดำเนินการของการรถไฟแห่งประเทศไทยแต่อย่างใด

3.) ประเด็นการเตรียมการรองรับผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินายศักดิ์สยาม ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพปัญหาความแออัดคับคั่งของผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมมอบนโยบายการแก้ไขปัญหา โดยได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ รวมถึงได้เปิดให้บริการจุดเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Check-In: CUSS) และจุดโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) บริเวณโถงผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความแออัดคับคั่งบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน ซึ่งสถานการณ์การให้บริการในปัจจุบันดีขึ้นอย่างมาก

รวมทั้ง ได้แก้ไขปัญหาความล่าช้าในการรอสัมภาระในระยะเร่งด่วน โดยให้บริษัทผู้ให้บริการภาคพื้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้ง 2 ราย มีการเพิ่มจำนวนบุคลากรและอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการเปิดประเทศ รวมทั้ง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ขยายระยะเวลาให้บางสายการบินบริการภาคพื้นด้วยตนเอง เป็นการชั่วคราว สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการสรรหาผู้ให้บริการภาคพื้นเพิ่มเติม เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

'บิ๊กป๊อก' แจง 'ตู้ห่าว' ได้สัญชาติไทยถูกต้องตั้งแต่ปี 56 ด้าน 'บิ๊กช้าง' เผย กรณี 'ร.ล.สุโขทัย' อยู่ในระหว่างสืบสวน

(16 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงกรณีการขอแปลงสัญชาติไทยของตู้ห่าว ว่า มีการขอใช้ชื่อไทยว่า นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ซึ่งได้ร้องขอแปลงสัญชาติในกรณีเป็นสามีของ พ.ต.ท.หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ซึ่งเป็นคนสัญชาติไทย ได้ร้องขอยื่นแปลงสัญชาติเมื่อวันที่ 3 ส.ค.54 ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และผ่านขั้นตอนของคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ก่อนส่งไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ โดยได้พิจารณาเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.56 จากนั้น เป็นขั้นตอนของ รมว.มหาดไทย ขณะนั้นคือ นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ ได้อนุญาตให้แปลงสัญชาติได้ในปี 56 ถือว่าสิ้นกระบวนการได้รับสัญชาติไทยเรียบร้อย

ทั้งนี้ เมื่อผ่านขั้นตอนการปฏิญาณตนแล้ว กระทรวงมหาดไทยได้ทำประกาศเพื่อลงราชกิจจานุเบกษา ฉะนั้น ถือว่าเขาได้ใช้สิทธิตามกฎหมายแต่งงานกับคนสัญชาติไทย และผ่านขั้นตอนการพิจารณาจบสิ้นแล้ว

จากนั้น พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีเรือหลวงสุโขทัย ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รมว.กลาโหม สั่งการให้กองทัพเรือดูแลกำลังพลให้ดีที่สุด ปัจจุบันกองทัพเรือดำเนินการแล้วทั้งเรื่องเงินบำเหน็จ การเลื่อนยศ และให้กองทัพเรือตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ และการรับผิดทางละเมิด โดยให้กองทัพเรือดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วนกระทรวงกลาโหม รมว.กลาโหมได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงขั้นตอนการค้นหา ปัจจุบันคณะกรรมการสอบสวนของกองทัพเรือ ได้สอบสวนผู้เกี่ยวข้อง และเชิญหน่วยงานภายนอกมาสอบสวนถึง 289 คน สามารถลำดับเหตุการณ์ให้เห็นภาพได้ แต่เนื่องจากต้องมีข้อมูลประกอบด้วย รมว.กลาโหมจึงสั่งการให้เร่งรีบสรุปผลการดำเนินการ โดยกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการสอบสวนด้วยอีกทาง

'โรม' แฉ!! 'ขบวนการไทยเทา' อยู่เบื้องหลังทุนจีนสีเทา เตรียมส่งเรื่องยื่น ป.ป.ช. เตือน 'บิ๊กตู่' อย่าลอยตัวเหนือปัญหา

(16 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) ว่า เป็นการอภิปรายที่เดือดมาก และมีข้อมูลหลายอย่าง ประชาชนหลายคน และพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้เห็นความจริงมากขึ้น พวกเขาเข้ามาชื่นชมในเรื่องของการอภิปราย ซึ่งนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ชื่นชมตนในเฟซบุ๊ก สิ่งที่ตนอภิปรายทุกคนเห็นและช่วยกันยืนยันว่าเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนขอเรียกว่า 'ไทยเทา' กำลังเป็นปัญหาของประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มเมียนมาและทุนจีนสีเทา ซึ่งพยายามเข้ามาในประเทศ และยังมีกลุ่มทุนจีนบางกลุ่มมาในรัฐสภา มาเยี่ยมกรรมาธิการคาสิโน และอาจเกี่ยวข้องกับการค้าอวัยวะเถื่อน

“ในบันทึกชวเลขที่ได้มาจากสภาฯ มีความพยายามเซ็นเซอร์ชื่อของผู้เข้าร่วมประชุม แต่พรรคเข้าก้าวไกลมี ส.ส. ในกรรมาธิการชุดนี้ จึงได้ข้อมูล ตนเห็นทุนสีเทาที่นำโดยไทยเทาพาเข้ามาเกี่ยวกับรัฐสภา เกี่ยวกับอำนาจที่ประชาชนเลือกเข้ามา ความเกี่ยวพันชัดเจนว่าเราไม่สามารถกำจัดได้ เพราะมีผู้มีอำนาจ แม้ตำรวจนครบาลทำหน้าที่ได้ดี สุดท้ายโดนย้าย” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ ไม่ใช่การเปิดโปงและอยากจะสดุดีพลเมืองดีอย่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่พยายามปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน หากเราไม่มีนายชูวิทย์ หรือตำรวจน้ำดี ที่พยายามนำข้อมูลต่าง ๆ มาให้ เราไม่สามารถอธิบายได้ และการเปิดโปงครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้น ตนจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ จะนำข้อมูลทั้งหมดไปยื่นต่อ ป.ป.ช. และสำนักงานอัยการสูงสุด

'ชัยวุฒิ' ขอบคุณฝ่ายค้าน ชี้ข้อเสนอแก้กลุ่มทุนสีเทา ยันรัฐบาลเร่งแก้อยู่ แนะ!! ต้องมี 'กม.-ระเบียบ' เอื้อ

'รมว. ดีอีเอส' ขอบคุณฝ่ายค้านที่ให้ข้อเสนอแนะหลายด้าน โดยเฉพาะประเด็นกลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งรัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหา ด้วยการออก พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

(16 ก.พ.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันแรก ว่า ขอบคุณฝ่ายค้านที่ได้พูดประเด็นปัญหาหลายอย่าง ซึ่งหลายเรื่องเป็นเรื่องที่สะสมมานาน รัฐบาลพยายามแก้ไขอยู่ นำไปสู่นโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนในรัฐบาลสมัยหน้า โดยเฉพาะธุรกิจสีเทา ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการปราบปรามมาอย่างต่อเนื่อง และที่มีข่าวในช่วงนี้ เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจไปปราบปรามและดำเนินคดีอย่างจริงจัง แต่ธุรกิจสีเทาเหล่านี้ได้ทำมานานแล้วกว่า 10 ปี ไม่ได้พึ่งมีในสมัยนี้ ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง เพราะทุนจีนสีเทาเหล่านี้มักชอบวิ่งไปหาผู้มีอำนาจ ดังนั้น ต้องแก้ที่กฎหมาย และกฎระเบียบ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top