‘จตุพร’ เปิดใจ!! เรื่องในอดีตที่ทำให้เจ็บปวด ชี้!! ยึดอํานาจจะไม่เกิด หากไร้ผู้ร่วมสมคบคิด

เมื่อไม่นานนี้ ผู้ใช้ติ๊กต็อกบัญชี ‘@RudyH20’ ได้แชร์คลิปวิดีโอ ‘คุณจตุพร พรหมพันธุ์’ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ‘Thairath Talk’ เกี่ยวกับประเด็น ‘คุณทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมมือสมคบคิดจนเกิดการปฏิวัติ ซึ่งคุณจตุพร ได้ระบุว่า… 

“ผมเป็นประธาน นปช. และเป็นผู้นําในการต่อสู้ที่อักษะ ซึ่งผมจะอยู่ในบริบทตกลงในเรื่องความรับผิดชอบหน้าที่ในการชุมนุม รับผิดชอบเรื่องเวทีพร้อมกับบรรดาแกนนํา ผมในฐานะหัวแถวก็ได้รับภารกิจนี้”

“ส่วนในเรื่องของคน แน่นอนที่สุดในการชุมนุมชนิดที่ต้องค้างคืนยาวนาน มันต้องใช้ ‘ระบบขนคนหมุนเวียน’ ซึ่งจะมีพี่น้องเสื้อแดงจากต่างจังหวัดอยู่แล้ว ส่วนช่วงตอนเย็นคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็จะมาร่วมสมทบ แล้วค่อยกลับบ้านกัน แต่ว่าต้องมีคนที่อยู่ประจําเป็นหลัก ซึ่งตกลงกันว่าในเรื่องของการขนคน จะมีจุดเช็ก รวมถึงมีจุดต่าง ๆ ก็ให้ในส่วนของนายกฯ ทักษิณเป็นคนรับผิดชอบ ส่วนเรื่องเวทีผมจะเป็นคนรับผิดชอบ ก่อนการเจรจาวันที่ 21 พ.ค. 2557 ในช่วงเช้า คนจาก 3 หมื่น เหลือไม่ถึง 500 คน จนกระทั่งเหลือหลักร้อยคน ผมก็รู้ว่ามีปัญหาแล้ว ก็รู้ว่ามีน้องในคณะสาม ป. ไปอยู่กับนายกฯ ทักษิณ จึงเป็นที่มาของการตัดกําลังคน เพราะว่าถ้าคนยังอยู่ที่อักษะ รองพื้น 3 หมื่นคนเหมือนเดิม ตอนเย็นเติมเป็นแสนคน การยึดอํานาจจะไม่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย แต่ว่าเพราะมีการสมคบคิดกัน ขนาดวันที่ 19 พ.ค. 2553 ปิดล้อมสลายการชุมนุม คนยังเหลืออยู่ 5 พันคน ในแต่ละจุด แต่วันนั้นเหลือไม่ถึง 500 คน มีคนที่ทําได้คนเดียวคือ นายกรัฐมนตรี” 

เมื่อถามถึงสถานการณ์ตอนที่รู้ว่า เกิดปฏิวัติขึ้นแล้ว ถูกปิดห้องแล้ว คุณจตุพรโทรไปหาคุณทักษิณแล้วคุยอะไรกัน? คุณจตุพร ตอบว่า…

“ผมไม่ได้โทร ผมมีโอกาสพูดกับ 3 คนสุดท้ายก่อนการยึดอํานาจ มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และตัวผมเอง ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็บอกว่าไม่มีอะไร คุยกันแล้ว และประกาศในห้องว่า คุยเรื่องห้องน้ำห้องท่า แล้วก็ชี้ไปที่ กกต. ว่านี่ก็ไม่เลือกตั้ง ชี้ไปที่คุณชัยเกษม ว่านี่ก็ไม่ลาออก ดังนั้น ผมจึงขอยึดอํานาจตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ทําท่าทางประมาณว่าไม่ทันแล้ว หลังจากนั้น ก็เริ่มทยอยถูกนําตัวออกไป ซึ่งคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถูกนำตัวออกไปเป็นคนแรก” 

เมื่อถามว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุณจตุพรทะเลาะกับคุณทักษิณใช่หรือไม่? แบบนี้ประชาชนทุกคนก็จะไม่รู้เรื่องนี้ คุณจตุพร ตอบว่า…

“ผมก็ไม่พูด ผมก็กลืนเลือดไป ผมเจ็บมากนะ เพราะว่านั่นคือ ‘การยึดอํานาจ’ และไปกระทําการโดยที่เราอยู่ในสนามรบ รับผิดชอบชีวิตผู้คน และไปเจรจากับผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น แต่ว่าผมก็รู้แล้วว่า เราทําได้เพียงแค่ต้องการยื้อเวลา แล้วก็สามารถยื้อได้สองวัน แต่สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี” 

คุณจตุพร ยังเล่าต่อว่า ตนไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องใส่ร้าย ถ้าไม่เป็นความจริงก็เรียงกันมาหน้าถลกหนังผมแดงเถือกแล้ว เมื่อเรานําทัพการต่อสู้ แล้วดันถูกทรยศหักหลังซึ่งหน้ากันแบบนั้น เราเจ็บปวด แต่เรารู้ว่าถ้าเราพูดในขณะนั้นคนที่เจ็บปวดมากกว่าเรา คือ ‘ประชาชน’ 

เมื่อถามว่า ในมุมของคุณจตุพร รู้สึกโกรธคุณทักษิณ หรือพลเอกประยุทธ์? คุณจตุพร ตอบว่า…

“ณ วันนี้มันเลยความโกรธทั้ง 2 คนนั้นไปแล้ว ในวันนั้นผมโกรธทั้ง 2 คน ทั้งคนเปิดประตูให้ยึดกับคนยึด มันก็ควรโกรธเสมอภาคกันอย่างสมควร ถ้าไม่เปิดประตูให้ยึด การยึดก็ไม่ง่ายหรอก แต่เพราะว่ามันเกิดการสมคบ เกิดการสยบยอม โดยที่ไม่ได้บอกความจริงกับประชาชน”