Tuesday, 21 May 2024
คนเสื้อแดง

ล้มแลนด์สไลด์!! 'เสื้อแดง' เหนือ-อีสาน ส่งสัญญาณต้านพท.  ลั่นเจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย

อดีตประธานคนเสื้อแดง ย้ำเลิกหลงเชื่อวาทกรรมประชาธิปไตยจอมปลอม ลั่นไม่ยอมเป็นควายให้สนตะพายหมาในคอก ชวนคนเสื้อแดงลาออกจากสมาชิกไปสมัครพรรคป้องสถาบัน 

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา นางนิตยา นาโล หรือนักสู้ปอสี่  อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า วันนี้ตนเองและสมาชิกได้ออกมาต่อต้านพรรคเพื่อไทย (พท.) อย่างหนัก หลังพรรค พท.จะดึงคนเสื้อแดงมาร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งอยากให้คิดทบทวนความหลังด้วยว่า ที่พวกเราคนเสื้อแดงและอดีตคนเสื้อแดงเคยออกมาต่อสู้เพื่อพรรค พท. จนทำให้หลายคนติดคุก หลายคนเสียชีวิต สุดท้ายมีนักการเมืองคนไหนมาช่วยเหลือพวกเราบ้าง มิหนำซ้ำในปี  2554 พรรค พท.คัดสรรผู้สมัครเป็น ส.ส.แต่ละจังหวัดก็เป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชนคนเสื้อแดงที่เคยออกมาต่อสู้ด้วยกัน คนสู้กลับถูกปล่อยทิ้ง คนมีเงินกลับได้เป็นผู้สมัคร ส.ส. สุดท้ายแกนนำบางคนกลับได้รับตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรี ก็ไม่เคยสนใจจะมาช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ได้รับความเดือดร้อน บางคนต้องติดคุกหรือหนีตายออกนอกประเทศ

“วันนี้คุณกลับจะมาถามหาคนเสื้อแดงเพื่อจะมาเป็นครอบครัวเพื่อไทย คุณเคยคิดบ้างไหมว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องพบเจออะไรมาบ้าง คุณยังจะมาล้อเล่นกับความรู้สึก พอเสียทีเถอะค่ะกับวาทกรรมสวยหรู แต่แท้จริงแล้วเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม ที่ทำเพื่อตัวเองและครอบครัว อย่าเอาประชาชนหรือคนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยในอดีตมาเป็นเครื่องมืออีกต่อไปเลย ถ้าคุณรักประเทศไทยจริงๆ ต้องหันมาร่วมมือกันสลายสีเสื้อให้เป็นสีเดียวกัน นั่นคือสีแห่งความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” นางนิตยากล่าว

คนเสื้อแดงภาคอีสานปลื้มน้ำตาไหล  ‘ทักษิณ’ ประกาศปีหน้าเราเจอกันที่เมืองไทย ฟาดรัฐบาลตะแบงเก่ง มั่นใจประชาชนตัดสินใจลงโทษได้ชัดเจน ยันเลือกตั้งเพื่อไทยทำได้

24 ก.ค.2565 – นายอนุวัฒน์ ทินราช ประธานเครือข่ายคนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา และภาคอีสาน เปิดเผยว่า มีการจัดกิจกรรมของคนเสื้อแดงในโอกาสวันคล้ายวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีอายุครบ 73 ปี ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 โดยปีนี้กลุ่มคนเสื้อแดงที่มาจากหลายจังหวัดในภาคอีสานมารวมกลุ่มกันที่บ้านกลางไพร อ.ทวีฯ สวนอินทผาลัม อ่างห้วยยาง ต ธงชัยเหนือ อำเภอปักธงชัยฯ กว่า 300 คน โดยมีการจัดทำเค้กขนาด 5 ปอนด์ สีครีม ขอบสีแดง มีครีบสีแดงเป็นดอกกุหลาบ 14 ดอก ตรงกลางเค้กมีรูปหน้า นายทักษิณ ชินวัตร สวมสูท ใช้ครีมเสีแดงเขียนข้อความว่า  HAPPY BIRTHDAY ” พณ.ทักษิณ ชินวัตร ” 26 ก.ค. 65 ด้วยรักและศรัทธา จาก…มวลชนคนเสื้อแดง และมีตัวเลขเทียนปักเลข 37 ปีให้เป็นเคล็ดว่ายังหนุ่มแน่น โดยอายุจริงคือ 73 ปี

นายอนุวัฒน์ กล่าวว่า โดยการจัดงานเมื่อกลางคืนของวันที่ 23 ก.ค.2565 ที่บ้านสวนกลางไพร ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มีนายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายคนเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสาน ร่วมพบปะรับประทานอาหาร โดยภายในงานมีเซอร์ไพรส์ เมื่อ นายทักษิณ โฟนอินมาพูดคุยกับครอบครัวเพื่อไทย และร่วมเป่าเค้กส่งเสียงขับร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์

‘ตู่ - จตุพร’ ลากไส้ ‘ทักษิณ’ หลอกใช้คนเสื้อแดง จวกเละ พอหมดประโยชน์ถีบหัวเรือส่ง

เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก ประชาชนคนไทย (ปท.) เผยแพร่คำกล่าวของ ‘ตู่ - จตุพร พรหมพันธุ์’ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โดยระบุว่า

“ผมมักพูดเสมอว่า การซื่อสัตย์กับคนไม่ซื่อสัตย์ ถ้าเป็นเรื่องเฉพาะตัว ก็ยอมรับกันได้ เมื่อรักเองต้องเจ็บเอง ให้ถูกใช้เอง ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติ จะนำพาสู่ความหายนะ เกิดความเสียหาย เพราะชัยชนะที่ได้มันสั้นทุกครั้งคราว และต้องแลกกับการถูกล้มกระดานแล้วแพ้ระยะยาว และสู่ความพินาศย่อยยับทุกครั้ง”

แม้ปัจจัยการยึดอำนาจเป็นสิ่งภายนอก ควบคุมไม่ได้ แต่สามารถป้องกันได้ โดยผู้มีอำนาจต้องไม่โกง ไม่ลุแก่อำนาจ และต้องไม่คิดว่าประเทศนี้เป็นเจ้าของ จะทำอะไรก็ได้ ยิ่งได้รับคะแนนมากเท่าไรก็หลงใหล ว่า ตนเองมีอำนาจมากเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่า อำนาจมากก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น

แม้วันนี้ประชาชนสิ้นหวัง แต่ยังคาดหวังว่า เมื่อมีเลือกตั้งจะยังไปเลือกตั้ง ผมจึงมาบอกให้สงสารประชาชนบ้างกับการพาประชาชนไปแพ้ทุกครั้ง แล้วโทษแต่การยึดอำนาจอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม หากเป็นรัฐบาลไม่โกง และซื่อสัตย์ต่อประชาชน ทหารหน้าไหนจะกล้ามายึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ยึดอำนาจปี 2557) และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน (ยึดอำนาจปี 2549) ก็ไม่มีวันมายึดอำนาจได้เลย

การย้ายขั้วสลับข้างมาสังกัดพรรคเพื่อไทย แล้วมีการแถลงขอโทษนายทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า เรื่องแรกถ้าไม่สถาปนาตัวเองว่าเป็นเจ้าของประชาธิปไตย ลำพังด้วยการประกาศว่า ย้ายออกเพื่อไทยเป็นคนทรยศ เป็นพวกงูเห่า ไปไล่หนูตีงูเห่า ที่ศรีสะเกษ จนทำให้สังคมประจักษ์กับพฤติกรรมนักการเมืองย้ายพรรคไม่ได้นั้น หากทำได้ตามที่พูดแล้ว คนจะสรรเสริญว่า เป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริง และประชาชนก็ไม่อาจยอมรับพฤติกรรมนักการเมืองแบบนี้ได้

คุณทักษิณ จะพูดอะไรก็ได้ พูดถึงเสียงปืนนัดแรก พูดพายเรือมาส่ง ความจริงก็ถีบหัวเรือเลย แต่เราจะปล่อยให้ความผิดพลาดมันเดินต่อไปไม่ได้ เราจึงวิจารณ์ เมื่อเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ย่อมมีถูก มีผิด ไม่ใช่ถูกทุกเรื่อง กำลังสถาปนาตัวเองเป็นเทพเจ้าหรืออย่างไร คือ หมายความว่า พูดอะไรก็ถูกหมด ทั้งที่พูดผิดหลายเรื่อง ทำไม่ถูกหลายเรื่อง และทำถูกก็มีหลายเรื่อง นี่เป็นหลักมนุษย์ธรรมดา ถ้าไม่วิพากษ์วิจารณ์กันในวันที่เรากำลังวิจารณ์กันได้ เรากำลังเดินเข้าไปในวงจรเดิม ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น

อดีตประธาน นปช. กล่าวต่อไปว่า การต่อสู้ของประชาชน เมื่อปี 2553 ไม่ได้อะไรที่คุ้มค่าตามเจตนารมณ์เลย รัฐบาลในยุคนั้น (ชุดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ยังไม่กล้าลงนามกับศาลอาญาระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ หรือที่เรียกว่า ICC (International Criminal Court) แค่กลัว พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดอำนาจ แต่สุดท้ายก็เอาตัวไม่รอด ถูกพล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจจนได้ อีกทั้งไม่สร้างขบวนการต่อสู้ของประชาชนแล้วยังไปแบ่งแยก และทำลายขบวนการของประชาชนในแต่ละที่อีกด้วย

“มีคนมาถามผมว่า ทำไมคนเสื้อแดงกลายเป็นคนเสื้อส้มจำนวนมาก ผมเล่าแบบขำ ๆ และเจ็บใจตัวเองว่า สมัยก่อนพรรคอนาคตใหม่ (ชื่อเดิมพรรคก้าวไกล ก่อนถูกยุบ) ตึกติดกับพรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มาเก็บเสื้อแดงที่ถังขยะหน้าเพื่อไทย ไปล้างทำความสะอาด เอาไปใส่ แล้วเอาเสื้อส้มมาให้ใส่ ซึ่งจะสังเกตว่า หลังปี 2554 มา ไม่ได้ใช้ขบวนการเสื้อแดงในการหาเสียงเลย ไม่ว่าจะไปในฐานะพรรคเพื่อไทย หรือพรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกยุบก็ตาม แต่มาครั้งนี้เพื่อไทยต้องการเสียงแลนด์สไลด์ ก็ปลุกคนเสื้อแดงขึ้นมาใหม่อีก เหมือนปลุกผีที่เคยถูกทอดทิ้งขวางไปแล้ว และคงเพิ่งนึกได้ เวลาอยากก็ต้องการ เมื่อไม่อยากก็ทิ้งขวางไป”

มีการเรียกร้องหาความยุติธรรมให้คนเสื้อแดงในเหตุการณ์ชุมนุม เมื่อปี 2553 ว่า คุณไม่ได้กระทำเลย ตนทนเยอะแยะมากมาย ความจริงคดีก่อการร้ายที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนั้น จำเลยที่หนึ่งคือ ทักษิณ ส่วนผมเป็นจำเลยที่สาม แต่อัยการไม่สั่งฟ้องทักษิณ ซึ่งต่อมาอัยการคนนี้ก็เคยเป็นแคนดิเดตนายกฯ และเป็น รมต. หมายความว่าอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องไม่อดทนไปตลอดชีวิต เราต้องอธิบายถูกเป็นถูก ผิดก็เป็นผิด

“วันนี้ ใครวางแผนที่จะมาตอบโต้ผมนั้น ให้ลองนึกกันช้า ๆ ว่า มีตรงไหนไม่เป็นความจริงบ้าง ขณะเดียวกันผมขอสงวนสิทธิ์ตอบโต้ทุกกรณี และจะหนักมากกว่านี้อีก วันนี้ผมไม่ได้ขัดขวางชัยชนะของเพื่อไทย แต่ไม่เห็นด้วยกับการชนะด้วยท่วงทำนองการสถาปนา ว่า ตนเองเป็นนักประชาธิปไตย”

นั่นเป็นคำพูดของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. หรือคนเสื้อแดง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำการชุมนุมคนเสื้อแดงมาอย่างยืดเยื้อยาวนานนับปี ซึ่งในตอนนั้นหลายคนมองว่า มีเป้าหมายเพื่อทวงคืนอำนาจให้กับนายทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวของเขาให้กลับมาเป็นรัฐบาล แต่สุดท้ายในบั้นปลายบรรดาแกนนำหลายคน รวมทั้งตัวเขา (จตุพร) ต้องติดคุก และยังมีคดีความเหลืออยู่ ขณะเดียวกัน ด้วยการมีประวัติต้องคดีอาญาดังกล่าว ทำให้เขาขาดคุณสมบัติทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ

'ณัฐวุฒิ'​ ปัด 'ทักษิณ'​ แยกสลายเสื้อแดง โบ้ยต้นเหตุมาจาก 'จตุพร'​ ถูกพรรคเพื่อชาติต้ม

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่อง "จุดแยกทางแกนนำนปช. ความจริงอีกมุมหนึ่ง เพื่อความครบถ้วนรอบด้าน" โดยระบุว่า “เมื่อมีเหตุการณ์ที่แกนนำ นปช. แยกทางกันออกเป็น 2 ส่วน และการดำรงสภาพขององค์กร นปช.ไม่ได้มีอยู่จริงอีกเลยนับตั้งแต่บัดนั้น หลังจากที่คุณจตุพรในฐานะแกนนำ ออกจากคุกกลางปี 2561 เราก็มีการพบปะ ประชุมกันตามปกติ เพราะวิถีขององค์กร นปช.ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงช่วงเวลานั้น กระทั่งวันหนึ่งคุณจตุพรได้ปรารภหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว ในช่วงที่มีการสังสรรค์กันกับพี่น้องนปช.จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีผมนั่งอยู่ในนั้นด้วยว่า ได้ตกลงใจที่จะทำพรรคการเมืองหนึ่งคือ พรรคเพื่อชาติ ร่วมกับนักการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง นำโดยนักการเมืองคนสำคัญ ซึ่งเป็นที่ข่าวปรากฎว่าร่วมกันก่อตั้งพรรคการเมืองกับคุณจตุพร นั่นเอง”

“ผมนั่งฟังจนจบแล้วก็ทักท้วงขึ้นมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มา สำหรับขบวนการของเราที่เดินกันมา เพราะเราไม่เคยคุยกันอย่างจริงจังว่าเราจะตั้งพรรคการเมือง ผมจึงเสนอไปว่าเรื่องนี้ควรต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำนปช. ถ้าหากไปตกลงกันไว้ก่อน มันไม่ใช่วิถีทางที่เรายึดถือ ปฏิบัติร่วมกันมา บรรยากาศตอนนั้นก็เริ่มกลายเป็นความเห็นไม่ตรงกัน ผมมีเซ้นส์ว่าภารกิจนั้นจะเดินต่อไปด้วยความลำบาก และถึงที่สุดคงไม่ประสบความสำเร็จ จังหวะหนึ่งผมเดินไปเข้าห้องน้ำ พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ ก็เดินตามไป ผมบอกพราหมณ์ว่าเป็นห่วงใยอย่างยิ่งในเรื่องที่เราคุยกัน และเรื่องนี้จะมีการต้มกันครั้งยิ่งใหญ่ ความหมายของผมในตอนนั้นคือระวังกลุ่มที่มาชวนคุณจตุพรนั่นแหละ จะต้มกันและภายหลังก็ทราบว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองนี้มีความขัดแย้งกันอย่างสูง ตั้งแต่ส่งรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งเหตุผลข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างไรผมไม่ก้าวล่วง หลังจากนั้นผมก็เสนอไป 2-3 ครั้งในไลน์กลุ่มของแกนนำนปช.ว่าเรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำนปช. ซึ่งอาจารย์ธิดาก็เห็นตรงกันว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุมตามวิถีของเรา แต่ข้อเสนอไม่ได้รับการตอบสนอง ไม่มีการประชุมนัดหมายแกนนำนปช.อีกเลย ขณะที่วาระของพรรคเพื่อชาติก็ยังเดินทางต่อไป”

“เรื่องของพรรคเพื่อชาติ ผมได้ติดต่อไปยังนายกฯทักษิณ ว่าท่านมีแนวทางให้ทำพรรคเพื่อชาติหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีแนวทางดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งอยากตรวจสอบ เราไม่ได้ไปด้วยกับพรรคเพื่อชาติ เพราะไม่ได้มีการหารือกันตั้งแต่ต้น เวลานั้นยังไม่มีเรื่องพรรคไทยรักษาชาติ...ซึ่งเราเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติในภายหลัง โดยการพูดคุยกันได้ข้อสรุปรวมกัน ดังนั้นจุดแยกที่สำคัญขององค์กร นปช.จึงอยู่ที่กระนวนการในการทำงานซึ่งเราไม่ได้รักษาวิถีแห่งเรา ไม่ได้บอกกล่าว ไม่ได้ประชุมใด ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญ นี่เป็นข้อเท็จจริงยังผลให้องค์กรนำของนปช. ไม่คงสภาพอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวก็ผ่านมาหลายปี ผมไม่มีเจตนาจะหาคนถูกคนผิดในเรื่องนี้ แต่เหตุผลของผมก็คือความจริงมันต้องถูกบันทึก และนำเสนอ ผมกับพี่น้องแกนนำนปช.ที่เรายังทำงานการเมืองร่วมกัน เราก็รักษาแนวปฏิบัติเดิม คือมีอะไรเราก็ต้องหารือร่วมกัน เราหันว่าเหตุการณ์ที่เป็นจุดแยกของแกนนำนปช.เป็นเรื่องสำคัญต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ให้ครบถ้วนรอบด้าน"

ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า "ในช่วงที่ติดคุกนั้น มีคนทักษิณไปเยี่ยมตลอด และพูดให้มาช่วยพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 เพื่อเอาคะแนนไปเติมให้กับฝ่ายประชาธิปไตย ตนบอกให้ทักษิณการันตีจึงจะไป เมื่อออกจากคุกทักษิณก็โทรศัพท์มาการันตี ขณะเดียวกันก็เอา นปช.อีกส่วนหนึ่งไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งไปคนละทาง แล้วต้องมาโกรธกันจริงจังเลยในตอนนี้ ส่วนคนที่เดินเกมที่เป็นคนของทักษิณ ก็เอาลูกไปอยู่ไทยรักษาชาติ แล้วตัวเองมาอยู่เพื่อชาติที่ชวนผมไปช่วยหาเสียง ขณะเดียวกันก็ดึงคนที่อยู่เพื่อไทยไปอยู่ไทยรักษาชาติ คนหนึ่งถูกหลอกมาเป็นแคนดิเดทนายกฯ ส่วนเพื่อไทยเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแคนดิเดทนายกฯ โดยที่ไม่บอกว่า ไทยรักษาชาติจะเสนอใครเป็นแคนดิเดทนายกฯ"

"เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบ จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว แต่ดิ้นไม่ออกต้องบากหน้าเดินหาเสียงให้เพื่อชาติไปจนจบ แล้วประกาศเลิกลากันไป ทั้งที่เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ครอบครัวเดือดร้อนสาหัส ยิ่งกว่านั้น ขบวนการเสื้อแดงถูกเกมทักษิณแยกสลาย และก็ทำได้ด้วย ที่สำคัญมีบาดแผลยากเยียวยา แล้วต้องแยกกันตลอดกาล เราพยายามเจอกันบ้างเวลาขึ้นศาลมีคดี"

'แดงอ่างทอง' ประกาศคว่ำบาตรพรรคเพื่อไทย อัดอั้น!! ไม่เคยเห็นหัวเสื้อแดงที่สู้ร่วมกันมา

(4 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดอ่างทอง ได้รวมตัวกันที่ร้านชาบู บาร์ เลขที่ 171/ก ม.5 ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อแสดงจุดยืนในการคว่ำบาตรพรรคเพื่อไทย

นางวรรนา ยิ้มสร้อย ป้าจิ้ม วัย 66 ปี พูดทั้งน้ำตาว่า เป็นเผด็จการ ว่าแต่ชาวบ้านเขา แต่ตัวเองกลับมาทำ และจะทำอะไรก็เห็นใจพวกแดงบ้าง ที่ทุ่มเทต่อสู้กันมาตลอด แต่ไม่เคยเห็นหัวพวกเรา เราสู้เราทนทำเพื่อพรรคมากว่า 10 ปี คือความอัดอั้นของพวกเรา และอยากจะบอกให้กับทางพรรคให้หันมาดูว่า สิ่งที่พวกเราทำในวันนี้ เป็นการทำถูกหรือทำผิด ก่อนที่จะมีการรวมตัว ทำการกรวดน้ำคว่ำบาตร และการเผาเสื้อ แสดงจุดยืนตัดขาด พรรคเพื่อไทย

ด้าน นายชัยภัทร ตรีอุดม กล่าวว่า หลังจากทางพรรคมีมติในการทำโพล จังหวัดอ่างทอง ใครชนะได้ลงสมัครเป็นตัวแทนในเขต 1 จังหวัดอ่างทอง ส่วนใครที่แพ้ได้ลงสมัครรับการเลือกตั้งในเขต 2 แต่หลังจากผลโพลออกมา ผู้ที่มีผลโพลชนะจากการทำโพลทั้ง 3 ครั้ง แต่กลับได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 2 ทำให้กลุ่มเสื้อแดง รับไม่ได้ จึงได้มารวมพูดคุย พร้อมแสดงจุดยืน ในการคว่ำบาตร ตัดขาด ไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย

‘คนเสื้อแดง-เหลือง’ จับมือเปิด ‘หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน’แสดงความจงรักภักดี ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย

(15 ก.พ. 66) ณ ศาลากลางบ้านหนองม่วงส้ม ต.โหรา อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นางนิตยา นาโล หรือ ‘นักสู้ปอสี่’ ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน นายสงกา มูลพิรัตน์ กำนันตำบลโหรา นายสะอาด อินทรไธสง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโหรา นายมะณีเรือง สุระมะณี ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วงส้ม นายศักดิ์ชัย ปะวิสุทธิ ผ.อ.โรงเรียนบ้านหนองย่างวัว นางสาวลำเพย สัตยา หัวหน้าคุณครู กศน. นักการเมืองท้องถิ่น และ ประชาชน จำนวนมากร่วมผนึกกำลังกับ ‘คนเสื้อแดง’ และ ‘คนเสื้อเหลือง’ ในพื้นที่อำเภออาจสามารถ และ อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดร้อยเอ็ด เปิด ‘หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน’ พร้อมประกาศดังลั่น ‘อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี’ ตามแนวทาง ‘แรมโบ้’ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนออกมาแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ

‘ก่อแก้ว’ ฉะ 'วิทยา' เทเพื่อไทย หนุน 'บิ๊กตู่' เย้ย 'รทสช.' ไม่มีทางได้ ส.ส.อีสานสักคนเดียว

(23 ก.พ. 66) นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคอีสานและมีแกนนำเสื้อแดงมาเปิดตัวด้วย ว่า ตนเชื่อว่าพี่น้องคนอีสานเป็นคนที่รักประชาธิปไตยและรังเกียจเผด็จการ คนอีสานรักความเป็นธรรม จริงจัง จริงใจ และรู้ทันว่าใครเป็นอย่างไร

“ส่วนการที่มีแกนนำเสื้อแดงไปเปิดตัวเป็นผู้สมัคร ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนเหล่านั้น ล้วนผิดหวังจากพรรคเพื่อไทยที่ไม่ส่งลงสมัคร หาที่ลงไม่ได้จึงหาที่ลง แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว ขออย่ามาอ้างว่าเป็นคนเสื้อแดง เพราะว่าคนเสื้อแดง เป็นสัญลักษณ์ของผู้รักประชาธิปไตย และมีอุดมการณ์ในการต่อสู้ หากใครย้ายไปเป็นนั่งร้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ ก็ไม่ควรอ้างตัวเองว่า เป็นคนเสื้อแดง” นายก่อแก้ว กล่าว

นายก่อแก้ว กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพี่น้องคนอีสานยังเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย และยังรักนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนมาถึงเพื่อไทย ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องคนอีสานมาโดยตลอด เพราะพรรคเพื่อไทยได้ช่วยดูแลพ่อแม่พี่น้อง ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน

รวมพลคนบาดเจ็บ!! 'เจ๋ง ดอกจิก' รวมเสื้อแดงถูกเท ตั้ง 'กลุ่มรวมใจรักชาติ' ปลุกแดงทั่วไทย หนุน 'ประยุทธ์' หยุดแลนด์สไลด์

'เจ๋ง ดอกจิก' จับมือคนเสื้อแดงที่ถูกทอดทิ้งตั้ง 'กลุ่มรวมใจรักชาติ' เดินสายทั่วประเทศขอคะแนนเสียงหนุนพรรครวมไทยสร้างชาติดัน 'ประยุทธ์' นั่งนายกฯอีกสมัย ลั่นเป้าหมายหลักหยุดแลนด์สไลน์พรรคไทย ชี้หมดยุค 'สู้เพื่อเขาเราติดคุกถูกทอดทิ้ง'
.
(11 มี.ค.66) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ 'เจ๋ง ดอกจิก' อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมกับ นายสมหวัง อัสราศี และอดีตแกนนำ นปช.หลายจังหวัดที่เคยเป็นคนเสื้อแดง ร่วมต่อสู้ด้วยกันมาในอดีตมาตั้งกลุ่มรวมใจรักชาติ มีตนเป็นประธานกลุ่มฯ จุดประสงค์ก็เพื่อไปรวบรวมติดตามค้นหาเชิญชวนจูงใจพี่น้องเสื้อแดงในทุกจังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน 17 ที่ถูกทำร้ายถูกทอดทิ้งมาหนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะยังมีคนเสื้อแดงจำนวนมากที่เคยร่วมทัพกันมาแต่ถูกกระทำแบบนี้ ตนติดคุกมา 4 รอบแต่ขาดการเหลียวแล หรือเขาเหลียวแลแต่ถูกอมกลางทางสู้เพื่อเขาแต่เราติดคุกสู้เพื่อเขาแต่เราขาดการเหลียวแลพอแล้ว
.
“กลุ่มรวมใจรักชาติจะร่วมมือกับคนเสื้อแดงทำประโยชน์เพื่อชาติ คนเสื้อแดงเหมือนเปรียบเสมือนหมาล่าเนื้อ ล่าเสร็จเขาก็เอาเนื้อไปแบ่งกันกิน ทอดทิ้งให้หมาเลียแผลตัวเองจากการต่อสู้ที่บาดเจ็บ พอเนื้อหมดก็ให้ออกไปล่าต่อ ขอโทษที่เปรียบเป็นหมาล่าเนื้อ แค่เพียงการเปรียบเปรยเท่านั้น เพราะคนเสื้อแดงถูกย่ำยีถูกทอดทิ้งมาตลอด ผมในนามประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ จะไปรวบรวมคนเสื้อแดงที่บาดเจ็บขาดการดูแลถูกทอดทิ้งไม่ให้เกียรติมาเป็นกลุ่มรวมใจรักชาติ เพื่อเชิญชวนให้มาสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเป็นพรรคที่ทำประโยชน์เพื่อประชาชนจริงๆ มีนโยบายดีๆออกมาดูแลประชาชนจำนวนมากและจับต้อง” นายยศวริศกล่าว
 

‘เจ๋ง ดอกจิก’ ปลื้ม!! ‘รทสช.’ มาแรง หลัง ปชช.พอใจนโยบาย ฉะ ‘เพื่อไทย’ อย่าหลอกใช้คนเสื้อแดงเพื่อหวังแลนด์สไลด์

(14 มี.ค. 66) นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ เปิดเผย ว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดแพร่ เพื่อช่วยว่าที่ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หาเสียง ได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เป็นอดีตแกนนำคนเสื้อแดงที่เคยนำมวลชนมาต่อสู้ในช่วงปี 53, 54 และ 57 พรรครวมไทยสร้างชาติเห็นความสำคัญ ให้ความไว้วางใจเลือกให้ลงในเขต 1 อุตรดิตถ์ แกนนำเสื้อแดงคนนี้เป็น 1 ในคนที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการเหลียวแลเช่นเดียวกับคนเสื้อแดงในจังหวัดอุตรดิตถ์อีกหลายคน

นายยศวริศ กล่าวว่า แม้จะต้องแข่งกับพรรคการเมืองใหญ่ที่เป็นอดีต ส.ส. แต่ประชาชนเขาก็อยากได้คนใหม่ ประกอบกับนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติจับต้องได้ ประชาชนพอใจกับนโยบายพรรค พร้อมที่จะสนับสนุน ตนได้ไปอธิบายนโยบายของพรรคให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้น เช่น การเพิ่มเงินในบัตรประชารัฐ 300 เป็น 1,000 บาท การเพิ่มเงินเดือนให้ อสม. 2,000 บาท รวมทั้งเบี้ยยังชีพอายุ 60 ปีขึ้นไป มาได้เป็น 1,000 บาท พร้อมแนะนำตัวผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติทุกเวที

นายยศวริศ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของตนเน้นนำเสนอนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ประชาชนก็เข้าใจ แต่ก็ยังมีคนที่คลั่งไคล้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทยมาด่าตนว่าขายอุดมการณ์ ทำให้ทัวร์มาลงบ้าง แต่ต้องเข้าใจว่า ส.ส.เสื้อแดงในพรรคเพื่อไทยมีมากที่เข้าใจคนเสื้อแดง แต่คนประเภท เฮีย เจ๊ หรือเศรษฐีที่เข้าไปอยู่ ไม่ได้จริงใจกับคนเสื้อแดง แถมรังเกียจคนเสื้อแดง หาว่าเป็นคนชั้นล่าง เป็นไพร่สกปรก คนเหล่านี้ไม่เคยให้เกียรติคนเสื้อแดง ไปหาก็ไม่ให้การต้อนรับ

“ที่ผมพูดแบบนี้ เพราะพรรคการเมืองนี้จบด้วยวอร์รูมประชุมกันในห้องแอร์ ส.ส.ไม่มีปากมีเสียง คนเสื้อแดงก็จะถูกหลอกมาใช้งานอีกครั้งช่วงเลือกตั้ง หลังเลือกตั้งเสร็จก็คงถูกทิ้ง เพราะการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจคนในห้องแอร์ คนพวกนี้รังเกียจคนเสื้อแดง ขยะแขยงคนเสื้อแดง ถึงเวลาจะใช้งาน ทำทีเอ็นดูคนเสื้อแดงเหลือเกิน ดูจากการปราศรัย มาพบกับคนเสื้อแดง ดูแววตาก็รู้ว่าไม่จริงใจ ยกเว้น นส.ส.เสื้อแดง คนกลุ่มนี้ยังจริงใจอยู่ การเลือกตั้งครั้งนี้ คนเสื้อแดงก็คงถูกหลอกใช้ ถูกหลอกแลนด์สไลด์เหมือนเดิม นี่คือแผนเอาคนเสื้อแดงมาหลอกคนเสื้อแดงด้วยกัน แต่สุดท้ายการตัดสินใจทุกเรื่องอยู่ที่ เจ๊ จ. เจ๊ ด. เฮียนั่น เฮียนี่” นายยศวริศ กล่าว

‘สมหวัง’ อดีต นปช. จ่อเดินสายหาเสียงภาคอีสาน หวังโน้มน้าวคนเสื้อแดง หนุน ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯ อีกสมัย

(30 มี.ค. 66) นายสมหวัง อัสราษี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)และอดีตแกนนำ นปช. กล่าวว่า ตนมีกำหนดการลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยกับ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ของพรรค รทสช. ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เพื่อช่วยพรรคโน้มน้าวใจให้คนเสื้อแดงที่เคยอยู่ร่วมกันมา ให้หันมาสนับสนุนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพื่อมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย รวมถึงจะไปชี้แจงนโยบายของพรรคให้ชาวบ้านได้เข้าใจ และบางเวทีจะไปร่วมกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ

นายสมหวัง กล่าวว่า ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจ ตนก็เฝ้าดูมาตลอดว่าทําอะไรบ้าง กระทั่งเข้ามาสู่ระบบการเลือกตั้ง ถือว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีบางพรรคพยายามพูดโจมตีเวลาหาเสียง กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเผด็จการ ตนอยากถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด เวลานี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยแล้ว การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งในสภาฯ เวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ลงเลือกตั้งในระบบพรรค ทำไมยังมาพูดโจมตีอีกว่าเป็นเผด็จการ ถ้าเป็นเผด็จการจะมีการเลือกตั้งไหม ดังนั้น เลิกพูดได้แล้ว

“ประเทศชาติทุกวันนี้ ความขัดแย้งลดลงไหม ต้องยอมรับ ไอ้ที่จะมาเย้ว ๆ ไม่มีแล้ว เพราะทุกคนเข้าใจ แต่มีพวกบางคนที่เข้าเส้นเลือดไม่เปลี่ยนความคิด คิดด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ผมไม่ใช่อย่างงั้น ที่ผมมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ผมถือสุภาษิตว่า เจ็บแล้วจําคือคน ถ้าเจ็บแล้วทนคือควาย ผมไม่ใช่ควาย ผมไม่ให้ใครเอาเชือกมาร้อยจมูกเอากระดิ่งมาแขวนคอ” นายสมหวัง กล่าว

นายสมหวัง กล่าวว่า สมัยตนอยู่กับ นปช. ตนไม่เคยขอเงินใครแม้แต่บาทเดียว ดังนั้น อย่ามาพูดว่าทรยศหรือเนรคุณ ชีวิตนี้ไม่เคยทรยศใคร ไม่เคยเนรคุณใคร เมื่อไม่เคยมาช่วยเหลือ แล้วเอาบุญคุณมาจากไหน เพราะสิ่งที่ทำทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ตนไม่เคยมาขอเงิน ไม่ใช่สัมภเวสี ไม่ใช่เหลือบไร ไม่ใช่หมัด ที่จะไปขอเงินใคร ตนเป็นคนมีต้นทุน และต้นทุนสูงด้วย ดังนั้น ถ้าเคารพการตัดสินใจแต่ละฝ่าย ความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่ แต่ถ้าไม่เคารพการตัดสินใจก็ไม่เป็นไร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top