Friday, 18 April 2025
คนเสื้อแดง

‘เต้น ณัฐวุฒิ’ รำลึก 13 ปี สลายการชุมนุม 10 เม.ย.53 ให้คำมั่น!! จะตามหาความยุติธรรมให้ทุกคนอย่างถึงที่สุด

(12 เม.ย.66) เพจ ‘พรรคเพื่อไทย’ ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า…ในคืนวันที่ 10 เมษายน ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ไม่เคยหลับตาลงง่ายๆ บางปีถ้าอยู่คนเดียว มันก็จะคิดอ่านรำพึงรำพันกับตัวเองไปสารพัด บางช่วงบางปีอยู่ในสถาการณ์อยู่กับเพื่อนพี่น้อง ก็นั่งคุยกันจนดึกดื่นขึ้นรุ่ง เพื่อที่จะให้มันหลับลงได้ 

คืนวันนั้น เราอยู่กันที่นั้นแต่แต่หัวค่ำยังเช้า อยู่เพื่อให้พี่น้องเราไปแย่งศพของคนที่ถูกยิงตาย เพราะเรากลัวว่าเขาจะเอาศพไปทำลาย เพื่อนพี่น้องเราถูกไล่ยิงตามตรอกซอกซอย หนีตายหัวซุกหัวซุน จนเสื้อแดงตัวที่ใส่ไม่ใช่เปียกแค่เหงื่อ แต่มันเปียกไปด้วยน้ำตาประชาชน น้ำตาพี่น้องที่วิ่งมาร้องไห้หลังเวที

สำหรับผม มันไม่มีอะไรหนาวเท่าหนาวน้ำตาประชาชนอีกแล้ว เวลาเขามาร้องไห้กับอกเรา เวลาเขาเข้ามากรีดร้องอยู่กับอก แล้วผมให้คำตอบไม่ได้ว่าใครอยู่ที่ไหน ใครเจ็บ ใครตายแล้วศพอยู่ตรงไหนอย่างไร นี่มันคือ มันคือสิ่งที่ มันวิ่งอยู่ในชีวิตผมมาตลอด

ผมก็เลยไม่รู้ว่า จะต้องแสดงออกอย่างไรว่า ว่าเรื่องนี้มันคือชีวิตผม ผมก็เลย ตั้งชื่อลูกผมนี่แหละครับ ผมตั้งชื่อลูกสาวผมซึ่งเกิดท่ามกลางสถานการณ์ล้อมปราบที่ราชประสงค์ว่า ด.ญ.ชาดอาภรณ์ ซึ่งกว่าผมจะได้อุ้มลูกครั้งแรกก็ต้องไปติดคุกอยู่ 9 เดือนกว่าเราจะได้เจอหน้ากัน

ชื่อเสื้อแดง เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดในชีวิตเอ่ยปากได้ภูมิใจว่าเป็นคนเสื้อแดง ชีวิตเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง อยากเป็นผู้แทนฯ สมัครตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยไม่เคยคิดออกมาต่อสู้เป็นแกนนำม็อบ ไม่เคยคิดเกิดมามีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ใดๆที่จะเติบโตมากับโลกที่บอกว่ามาเพื่อความเปลี่ยนแปลงอะไร 

‘จตุพร’ เปิดใจ!! เรื่องในอดีตที่ทำให้เจ็บปวด ชี้!! ยึดอํานาจจะไม่เกิด หากไร้ผู้ร่วมสมคบคิด

เมื่อไม่นานนี้ ผู้ใช้ติ๊กต็อกบัญชี ‘@RudyH20’ ได้แชร์คลิปวิดีโอ ‘คุณจตุพร พรหมพันธุ์’ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ‘Thairath Talk’ เกี่ยวกับประเด็น ‘คุณทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมมือสมคบคิดจนเกิดการปฏิวัติ ซึ่งคุณจตุพร ได้ระบุว่า… 

“ผมเป็นประธาน นปช. และเป็นผู้นําในการต่อสู้ที่อักษะ ซึ่งผมจะอยู่ในบริบทตกลงในเรื่องความรับผิดชอบหน้าที่ในการชุมนุม รับผิดชอบเรื่องเวทีพร้อมกับบรรดาแกนนํา ผมในฐานะหัวแถวก็ได้รับภารกิจนี้”

“ส่วนในเรื่องของคน แน่นอนที่สุดในการชุมนุมชนิดที่ต้องค้างคืนยาวนาน มันต้องใช้ ‘ระบบขนคนหมุนเวียน’ ซึ่งจะมีพี่น้องเสื้อแดงจากต่างจังหวัดอยู่แล้ว ส่วนช่วงตอนเย็นคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็จะมาร่วมสมทบ แล้วค่อยกลับบ้านกัน แต่ว่าต้องมีคนที่อยู่ประจําเป็นหลัก ซึ่งตกลงกันว่าในเรื่องของการขนคน จะมีจุดเช็ก รวมถึงมีจุดต่าง ๆ ก็ให้ในส่วนของนายกฯ ทักษิณเป็นคนรับผิดชอบ ส่วนเรื่องเวทีผมจะเป็นคนรับผิดชอบ ก่อนการเจรจาวันที่ 21 พ.ค. 2557 ในช่วงเช้า คนจาก 3 หมื่น เหลือไม่ถึง 500 คน จนกระทั่งเหลือหลักร้อยคน ผมก็รู้ว่ามีปัญหาแล้ว ก็รู้ว่ามีน้องในคณะสาม ป. ไปอยู่กับนายกฯ ทักษิณ จึงเป็นที่มาของการตัดกําลังคน เพราะว่าถ้าคนยังอยู่ที่อักษะ รองพื้น 3 หมื่นคนเหมือนเดิม ตอนเย็นเติมเป็นแสนคน การยึดอํานาจจะไม่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย แต่ว่าเพราะมีการสมคบคิดกัน ขนาดวันที่ 19 พ.ค. 2553 ปิดล้อมสลายการชุมนุม คนยังเหลืออยู่ 5 พันคน ในแต่ละจุด แต่วันนั้นเหลือไม่ถึง 500 คน มีคนที่ทําได้คนเดียวคือ นายกรัฐมนตรี” 

เมื่อถามถึงสถานการณ์ตอนที่รู้ว่า เกิดปฏิวัติขึ้นแล้ว ถูกปิดห้องแล้ว คุณจตุพรโทรไปหาคุณทักษิณแล้วคุยอะไรกัน? คุณจตุพร ตอบว่า…

“ผมไม่ได้โทร ผมมีโอกาสพูดกับ 3 คนสุดท้ายก่อนการยึดอํานาจ มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และตัวผมเอง ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็บอกว่าไม่มีอะไร คุยกันแล้ว และประกาศในห้องว่า คุยเรื่องห้องน้ำห้องท่า แล้วก็ชี้ไปที่ กกต. ว่านี่ก็ไม่เลือกตั้ง ชี้ไปที่คุณชัยเกษม ว่านี่ก็ไม่ลาออก ดังนั้น ผมจึงขอยึดอํานาจตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ทําท่าทางประมาณว่าไม่ทันแล้ว หลังจากนั้น ก็เริ่มทยอยถูกนําตัวออกไป ซึ่งคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถูกนำตัวออกไปเป็นคนแรก” 

เมื่อถามว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุณจตุพรทะเลาะกับคุณทักษิณใช่หรือไม่? แบบนี้ประชาชนทุกคนก็จะไม่รู้เรื่องนี้ คุณจตุพร ตอบว่า…

“ผมก็ไม่พูด ผมก็กลืนเลือดไป ผมเจ็บมากนะ เพราะว่านั่นคือ ‘การยึดอํานาจ’ และไปกระทําการโดยที่เราอยู่ในสนามรบ รับผิดชอบชีวิตผู้คน และไปเจรจากับผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น แต่ว่าผมก็รู้แล้วว่า เราทําได้เพียงแค่ต้องการยื้อเวลา แล้วก็สามารถยื้อได้สองวัน แต่สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี” 

คุณจตุพร ยังเล่าต่อว่า ตนไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องใส่ร้าย ถ้าไม่เป็นความจริงก็เรียงกันมาหน้าถลกหนังผมแดงเถือกแล้ว เมื่อเรานําทัพการต่อสู้ แล้วดันถูกทรยศหักหลังซึ่งหน้ากันแบบนั้น เราเจ็บปวด แต่เรารู้ว่าถ้าเราพูดในขณะนั้นคนที่เจ็บปวดมากกว่าเรา คือ ‘ประชาชน’ 

เมื่อถามว่า ในมุมของคุณจตุพร รู้สึกโกรธคุณทักษิณ หรือพลเอกประยุทธ์? คุณจตุพร ตอบว่า…

“ณ วันนี้มันเลยความโกรธทั้ง 2 คนนั้นไปแล้ว ในวันนั้นผมโกรธทั้ง 2 คน ทั้งคนเปิดประตูให้ยึดกับคนยึด มันก็ควรโกรธเสมอภาคกันอย่างสมควร ถ้าไม่เปิดประตูให้ยึด การยึดก็ไม่ง่ายหรอก แต่เพราะว่ามันเกิดการสมคบ เกิดการสยบยอม โดยที่ไม่ได้บอกความจริงกับประชาชน”

'แดงปทุมฯ' ให้กำลังใจ 'หมอชลน่าน' ขอให้จัดตั้งรัฐบาลได้อย่างราบรื่น

(15 ส.ค.66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ตรีชฎา ศรีธาดา สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรค รับมอบหนังสือและดอกไม้จากตัวแทนพี่น้องเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดจันทบุรี และชมรมแท็กซี่สุวรรณภูมิ แท็กซี่กรุงเทพ ที่มาให้กำลังใจที่พรรคเพื่อไทย ให้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ พร้อมประกาศพร้อมอยู่เคียงข้างทำงานให้ประชาชนเต็มความสามารถ

‘คนเสื้อแดงปทุมฯ’ เข้าให้กำลังใจ ‘เศรษฐา’ ตะโกน “นายกฯ ชื่อเศรษฐา คนไทยจะเป็นเศรษฐี”

(24 ส.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มเสื้อแดงปทุมธานี นำโดย นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ หรือ จ่ายุทธ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 พรรคเพื่อไทย มอบดอกไม้ให้กำลังใจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยจ่ายุทธกล่าวว่า ดีใจที่ท่านได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสวัสดิการเรื่องปากท้อง ผู้สูงอายุที่พรรคเพื่อไทยมีท่านจะผลักดันไปได้ดี เพราะท่านเป็นนักธุรกิจใหญ่ ทำความสำเร็จมาแล้ว

ก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงปทุมธานีจะพร้อมใจกันตะโกนว่า “นายกฯ ชื่อเศรษฐา คนไทยจะเป็นเศรษฐี”

ขณะที่นายเศรษฐากล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มที่วันนี้มากันมากมาย ภูมิใจที่วันนี้มาถึงตรงนี้ได้ แม้จะไม่ได้ สส.ทุกจังหวัด แต่ก็ทราบดีว่ามีการสนับสนุนที่ดีมาโดยตลอด และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลในรอบ 9 ปี และมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทยโดยได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพี่น้อง เพราะเรามี สส. ที่มีคุณภาพนโยบายดี ๆ ต่าง ๆ เชื่อว่าจะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกคน

จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงปทุมธานีตะโกน “เพื่อไทยจงเจริญ” พร้อมตะโกนย้ำอีกครั้งว่า “นายกฯ ชื่อเศรษฐา คนไทยจะเป็นเศรษฐี”

‘เฒ่าสามนิ้ว’ ลั่น!! บัดนี้เลิกใส่ ‘เสื้อสีน้ำเงินเข้ม’ แล้ว โลกนี้มีเสื้อสีอื่นให้เลือกอีกเยอะ จะไปแคร์ทำไม?

(5 ก.ย. 66) นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี อดีตศิลปินแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Suchart Sawadsri’ ระบุว่า…

“กองทัพมีผลงานอะไร? กองทัพมีผลงาน 99 ศพ!!”

“ครั้งหนึ่งมี ‘หญิงเสื้อแดง’ คนหนึ่งถามผมว่า เมื่อตอนเขาฆ่าคนเสื้อแดง ปี 53 ปัญญาชนคนชั้นกลางเช่นผมทำอะไรอยู่ ผมตอบไปด้วยความจริงใจว่า ผมกำลังวาดรูปอยู่ และนี่คือความจริง ผมไม่ใส่ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อส้ม แต่ใส่เสื้อ ‘นํ้าเงินเข้ม’ มาตลอด ในแทบทุกวาระ และบัดนี้ ผมคิดว่าผมจะเลิกใส่ ‘นํ้าเงินเข้ม’ แล้ว ใส่ ‘นํ้าเงินเข้ม’ มานานก็เบื่อ โลกนี้มีสีต่างๆ ให้เลือกมากมาย จะไป Care ทำไม ไม่มีหลานให้เลี้ยง อยากแบกอะไรก็แบก”

‘คนเสื้อแดง’ เชียงราย แห่รับ!! 'ทักษิณ' เตรียม!! ปราศรัยหาเสียง ‘นายกฯ อบจ.’

(5 ม.ค. 68) เวลา 09.30 น. ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เดินทางถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยได้ใช้บริการสายการบินพาณิชย์ ก่อนที่จะเดินทางขึ้นเวทีปราศรัยด้วยรถตู้เล็กซัส สีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร

จุดแรกช่วงเที่ยงจะไปที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม อ.เทิง และโรงเรียนห้วยซ้อวิทยาคม อ.เชียงของ ในช่วงบ่าย จากนั้นในช่วงเย็น นายทักษิณจะขึ้นปราศรัยที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม

ทันทีที่มาถึงนายทักษิณ ได้เดินมาพบกับกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงราย ที่มารอให้การต้อนรับ โดยคนเสื้อแดงได้มอบพวงมาลัย ขอกอด และขอถ่ายรูปร่วมกับนายทักษิณ แน่นสนามบินแม่ฟ้าหลวง

‘โด่ง อรรถชัย’ เข้าใจเสื้อแดงศรีสะเกษ ร่ำไห้ถูกคนเพื่อไทย ด้อยค่า รับเจอกับตัวแล้วอึ้งเลย โดยเฉพาะเอานกหวีด - สลิ่ม มามีตำแหน่ง

(4 ก.พ. 68) นายอรรถชัย อนันตเมฆ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ได้โพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นกรณี แกนนำคนเสื้อแดงศรีสะเกษแถลงข่าวถูกคนในเพื่อไทยด้อยค่า ไม่ให้เกียรติ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ขอพูดตรงๆ ในฐานะคนเสื้อแดง
ผมเองก็พบเจอ.. เรื่องแบบที่แกนนำศรีสะเกษพูด..ว่า ไม่ให้เกียรติคนเสื้อแดง..??
กลับจากต่างประเทศ เข้าพรรควันแรกได้ยินคนในพรรคสอนว่า “อย่าแดงมาก”
ไม่เชื่อหู นึกว่าเข้าพรรคผิด..??
ผมไม่สนใจ.. เดินหน้าแดงต่อไป..

ในการเลือกตั้ง ปี’66 จน จบภาระกิจ
จนถึงเลือกตั้งซ่อม พิษณุโลก..
จนเลือก นายก อบจ.ครั้งนี้ ..??
จะไปช่วยหาเสียง เดินทางไปเอง แท้ๆ ยังไม่มี ที่ยืนแม้แต่ “ถ่ายรูป ” …..??

“ไม่เกี่ยวกับ คุณทักษิณนะครับ”
คุณทักษิณ ไปไหนยังถามหาพี่น้องเราเสมอ..ไม่เคยลืม..ยังจำพี่น้องเราได้แม้ แต่แกนนำ เล็กๆ
แต่คือ “คนในพรรค” วันนี้
คนของพรรคชุดนี้ทำอะไร ไม่เคยคิดถึงใจคนเสื้อแดง เป็นมุ้งเป็นเหล่า เอาแต่พวกอุดมการณ์คืออะไร ไม่ชัดเจน
เสื้อแดงไม่ต้องการอะไร แค่ให้เกียรติกันบ้าง เท่านั้นยังไม่มี
.
ที่บอกไม่มีอุดมการณ์ไม่ใช่ใส่ความ แต่ได้ยินกับหู ช่วงส้มกำลังตึง คนในพรรคบอก
“ไม่เอาแดง” อย่าแดงมาก...??
ตรงข้ามมักได้ยินคำนิยมส้ม จากคนในพรรค อยู่เนืองๆ
ทั้งที่ คือ คนของพรรคเพื่อไทย

รวมทั้งการเอาฝ่ายตรงข้ามมา มีบทบาทในพรรค นอกพรรค…ทั้งที่คนเหล่านั้น คือ นกหวีด สลิ่ม
ไม่ต้องมาให้ตำแหน่ง อะไรกับคนเสื้อแดง แต่เอาฝ่ายตรงข้าม มามีตำแหน่ง นี่

ผมยังอึ้ง…
คนในพรรคเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top