Saturday, 25 May 2024
POLITICS

'ธนกร' ซัดกลับ 'ก้าวไกล' ปมที่ตั้งตึก 'รทสช.' กล่าวหาไร้ข้อมูล ยัน เช่าถูกต้องตามกฎหมาย

(16 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบฯ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายตามมาตรา 152 พาดพิงอดีต ส.ว.ทรงเอ ถูกโยงว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ย่านซอยอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพฯ

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค รทสช. ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนก็ได้ดูการอภิปรายอยู่เช่นกัน ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เป็นเรื่องไม่จริง และเรื่องต่าง ๆ เหล่านั้นเป็นข้อมูลที่นายกฯ ทราบอยู่แล้ว เพราะนายกฯ เป็นคนสั่งการให้ดำเนินคดีกับทุกฝ่ายทั้งคดีตู้ห่าว และเรื่องอักษรย่อต่าง ๆ และ ผบ.ตร.ก็รายงานนายกฯ มาโดยตลอด ซึ่งจะเป็นได้ว่ากระบวนการทุนจีนสีเทาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว

ดังนั้น เมื่อเกิดคดีใหม่ก็ต้องให้เครดิตนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล ซึ่งคดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นผู้จับกุมครั้งแรก และมีการขยายผลเมื่อนายชูวิทย์เปิดเผยข้อมูล ผบ.ตร.ก็ได้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ นายชูวิทย์ก็ชื่นชม ผบ.ตร. และ ผบ.ตร.ก็ได้รายงานนายกฯ โดยตลอด นายกฯ จึงกำชับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่ช่วยเหลือปกป้องใครทั้งนั้น สุดท้าย อัยการสั่งฟ้อง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว สิ่งที่ ส.ส.รังสิมันต์ อภิปรายมาจึงไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด และนายกฯ ก็เต็มที่กับเรื่องนี้ สั่งการอย่างเด็ดขาด เมื่อพบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก็ไล่ออก ปลดออกไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีการโยงที่ดินและอาคารที่ทำการพรรค รทสช. เกี่ยวโยงกับ ส.ว.คนดังกล่าว นายธนกร กล่าวว่า "ตรงนี้เป็นการกล่าวหาที่ไร้ข้อมูลมาก ๆ เรื่องนี้ผมก็ทราบมาก่อนว่า ตึกที่พรรค รทสช.ไปเช่าถูกต้องตามกฎหมาย และอดีต ส.ว.มีชื่อครอบครองตั้งแต่ปี 60-62 แต่ตอนนี้ปี 66 แล้วไม่มีชื่อเขา ดังนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับตึก รทสช. และหัวหน้าพรรคก็เป็นอดีตผู้พิพากษารู้กฎหมายดี มีความซื่อสัตย์สุจริต เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ เราไม่ไปเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ เป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม

หากผมบอกว่า พรรคก้าวไกล หรือพรรคอนาคตใหม่ เดิมเช่าตึกไทยซัมมิทอยู่ แล้วเจ้าของตึกมีคดีรุกป่า มีคดีน้องชายติดสินบนใต้โต๊ะพนักงานที่สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถ้าผมกล่าวหาอย่างนี้ ก็คงไม่ถูก เพราะพรรคก้าวไกลเองก็คงไม่ทราบว่าเจ้าของตึกไปทำอะไรมา จึงต้องให้ความเป็นธรรมด้วย มิใช่พูดเอามันอย่างเดียวโดยไม่สนใจอะไรเลย

และสุดท้ายก็จะไปตัดคลิปอะไรสั้น ๆ แล้วบอกว่า รทสช.เกี่ยวพัน ตัดบางท่อนที่นายกฯ พูดบ้าง ผมพูดบ้างแล้วไปบิดเบือน ส่งไปในโลกโซเชียลเป็นการเมืองที่ตรรกะวิบัติที่สุด ทำการเมืองแบบนี้ตลอด พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่แนวทางคนรุ่นใหม่ ควรเลิกได้แล้ว หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยที่เช่าตึกชินวัตรอยู่เหมือนกัน ทั้งที่เจ้าของตึกก็กระทำความผิดมากมาย แล้วเราจะไปกล่าวหาพรรคเพื่อไทยอย่างนั้น ผมก็คิดว่าไม่เป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทย อย่างนี้เป็นการกล่าวหาตีหัวเข้าบ้าน มันไม่ถูก"

‘ชลน่าน’ เย้ย ‘ประยุทธ์’ ทำงาน 8 ปีไม่มีผลงาน ซัด!! อ้างทำหมดทุกอย่าง แต่ผลลัพธ์เท่ากับล้มเหลว

(16 ก.พ. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายในวันที่ 15 ก.พ.ว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้อย่างดียิ่งในการนำเสนอข้อเท็จจริงสอบถามไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนที่นายกฯ จะตอบว่า สิ่งที่ฝ่ายพูดไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ต้องบอกกับสภาเอง และหลายเรื่องที่เราอภิปรายสามารถนำไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่ครั้งนี้เป็นการอิปรายทั่วไปรัฐมนตรีก็ต้องไปดูว่าเป็นจริงตามที่เราพูดหรือไม่

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าบางประเด็นสามารถอภิปรายไม่ไว้ใจได้นั้น จะมีการนำไปยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นที่นำมาพูดและมีหลักฐานชัด สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ เป็นแนวทางที่เราหารือไว้แล้ว ซึ่งมีหลายเรื่อง เช่นเรื่อง น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยอภิปรายถึง การฮั้วการประกอบธุรกิจโดยมิชอบมีการเอื้อประโยชน์ แม้รัฐมนตรีไม่เกี่ยวเนื่องโดยตรงแต่มีเรื่องจริยธรรมอยู่

'จุรินทร์' สวนฝ่ายค้าน พืชเกษตรไม่ได้ตกต่ำ ยัน ราคาดีทุกตัว ชี้ ส่งออกยังบวก ลั่น!! FTA ไทย กำลังไล่แซงเวียดนาม

(16 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นชี้แจงฝ่ายค้านประเด็นต่าง ๆ ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (15 ก.พ. 66 เวลา 21.00 น.) โดยนายจุรินทร์ได้กล่าวว่า ประเด็นที่พาดพิงประเด็นแรกที่พูดถึงเงินเฟ้อ และของแพงทั้งแผ่นดิน เป็นประเด็นเดิมที่อภิปรายแล้ว ไทยเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเป็นลำดับ เงินเฟ้อลดลง เดือน ม.ค. 66 เหลือ 5% อัตราเฉลี่ยของโลก IMF คาดว่าปี 66 เงินเฟ้อโลก 6.5% แต่ไทยจะเฟ้อแค่ 2.8% ดีกว่าหลายประเทศ เพราะรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และเอกชน กำกับราคาต้นทุนการผลิตบางอย่าง ราคาสินค้าดีตามสมควร

แม้ราคาน้ำมัน แก๊ส ค่าไฟยังไม่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่บอกแพงทั้งแผ่นดิน ความจริงราคาสินค้าลดลงเยอะมาก 58 รายการจำเป็น ที่ติดตามทุกวัน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น หมูเนื้อแดง ที่เคยอภิปรายว่าจะ 300 บาท/กก. พบเฉลี่ย 165 บาท/กก., ผักชีลดลง 27%, กวางตุ้ง ลดลง 23%, ต้นหอม ลดลง 28%, น้ำมันปาล์ม 48-50 บาท/ขวด ลดลง 17%, ชุดตรวจ ATK ลดลง 28%, ฟ้าทะลายโจร ลดลง 63%, ข้าวสาลี ลดลง 21%, ปุ๋ยเคมีทำจากแก๊สธรรมชาตินำเข้า 100% เข้าไปกำกับดูแล แก้ปัญหาดังนี้

1.) ปุ๋ยไม่ขาด นำเข้าจากซาอุฯ หลายแสนตัน
2.) ราคาลดลง เช่น ยูเรีย 46-0-0 ลดลง 25% ประมาณ 400 บาท/กระสอบ, ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ลดลง 30% ลด 300 กว่าบาท/กระสอบ, ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ลดลง 8% 100 กว่าบาท/กระสอบ เป็นต้น ที่บอกแพงทั้งแผ่นดินไม่เป็นอย่างนั้น

และที่สมาชิกอภิปรายว่า พืชเกษตรตกต่ำทุกตัว ตกต่ำมาตลอด ไม่จริง ราคาพืชเกษตเฉลี่ยดีเกือบทุกตัว โดยที่ประกันรายได้ ข้าวเปลือก เกือบ 10,000 บาท/ตัน, ข้าวหอมมะลิ 1,4000-15,000 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกเหนียว 11,000-12,000 บาท/ตัน, มันสำปะหลัง ก่อนรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละบาทกว่า วันนี้ 3 บาทกว่า/กก.

ล่าสุด ตนพาฟิลิปปินส์มาเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 2,000,000 ตันที่นครราชสีมา ปากช่อง ยิ่งช่วยดีมากราคามีแนวโน้มดีขึ้น ปาล์มน้ำมันก่อนนี้ 10-12 บาท/กก. ตอนนี้ 5 บาทกว่า/กก. ก่อนรัฐบาลนี้ เพียง 2 บาทกว่า/กก., ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สมัยก่อน 6-7 บาท/กก. เดี๋ยวนี้ 12-13 บาท/กก., ผลไม้ยิ่งดี ราคาปีที่แล้ว ทุเรียนหมอนทองเฉลี่ย 145 บาท/กก., มังคุดเกรดส่งออก 60 บาท/กก., ลำไยช่อส่งออก เกรดเอเอ 42.50 บาท/กก. 

และกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล ประสานงานเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ดูแลชดเชยไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ ตนลงนามเข้า ครม.แล้ว รอพิจารณา เงาะโรงเรียน  20.50 บาท/กก., ลองกอง 12.50 บาท/กก., ลิ้นจี่ 75 บาท/กก., มะม่วงน้ำดอกไม้ 45 บาท/กก., ส้มเขียวหวาน 25 บาท/กก., หอมแดงแห้ง 48 บาท/กก. จาก 26 บาท/กก., กระเทียม 78 บาท/กก. ราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัว ยกเว้นยางพารา ตอนนี้ 45-49 บาท/กก. เนื่องจาก

1.) เศรษฐกิจโลกชะลอตัว รถยนต์ขายยากขึ้น ขายล้อรถน้อยลง
2.) สถานการณ์โควิดดีขึ้น ใช้ถุงมือยางลดลง แต่รัฐบาลนี้มีประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรชาวสวนยาง 3 ปีที่ผ่านมา ชดเชยเงินส่วนต่างให้ แต่ปีนี้ช้าหน่อย ครม.กำลังจะพิจารณาในอีกไม่กี่สัปดาห์ จะชดเชยใช้ส่วนต่างให้ได้ต่อไปเหมือนที่ผ่านมา

'บิ๊กตู่ ติดตามปัญหานายทุนต่างชาติ ใช้นอมินีลอบทำธุรกิจในไทย กำชับทุกหน่วยลงพื้นที่ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายเข้มข้น

(16 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามประเด็นการแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติหลบเลี่ยงทำธุรกิจโดยไม่ขออนุญาต และใช้คนไทยเป็นผู้ถือหุ้นแทน (นอมินี) โดยกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ตรวจสอบการจดทะเบียนของแต่ละบริษัท ห้างร้าน อย่างเข้มงวด ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ป้องกันไม่ให้เกิดช่องว่างจากธุรกิจสีเทาที่เข้ามาฉวยโอกาสทำธุรกิจของคนไทย

นายอนุชา กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบข้อมูลการขอจดทะเบียน พฤติกรรมของผู้ยื่นจดทะเบียนว่า มีความน่าเชื่อถือและสอดคล้องกับเงินทุนที่ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่หรือไม่ ในย่านเยาวราช สัมพันธวงศ์ รัชดาฯ และห้วยขวาง ประมาณ 200 บริษัท นอกจากนั้น ยังเน้นย้ำการตรวจสอบในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ไม่จำกัดเฉพาะจังหวัดใหญ่ หรือเมืองท่องเที่ยว แต่เน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่พัก โรงแรม รถเช่า ร้านขายของที่ระลึก ธุรกิจนวด และสปา เป็นต้น

โดยขั้นตอนการตรวจสอบ จะดูลักษณะว่าประกอบธุรกิจอะไร ซึ่งหากเป็นธุรกิจที่อยู่ในบัญชีแนบท้ายตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว ไม่สามารถทำธุรกิจได้ คือ

‘บิ๊กตู่’ ตอบโต้ ‘ฝ่ายค้าน’ จะกล่าวหาใครต้องมีหลักฐาน-ตรวจสอบให้ชัด อย่ามาพูดตีกินให้เสียหาย ยันไม่เคยเอื้อประโยชน์ใคร

เมื่อวานนี้ (15 ก.พ. 66) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย​ โพธิ์​สุ​ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งแรก ว่า ฟังมาตั้งแต่เช้า มีหลายท่านที่แสดงความคิดเห็น ทั้งแนะนำ กล่าวหา ติเตือน หลายอย่างอยากบอกว่าที่ท่านพูดมาทั้งหมด ด้านเศรษฐกิจทำมาหมดแล้ว แต่ยังไม่เกิดผลผูกพัน ก็เอามาตีกินกันตรงนี้ ที่พูดมาทั้งหมดเวลารัฐบาลพูดท่านก็ไม่ฟัง กระทรวงการคลังชี้แจง หน่วยงานชี้แจงก็ไม่ได้ฟังอีก

"เพราะฉะนั้นนโยบายอะไรของท่าน เมื่อท่านเป็นรัฐบาลท่านก็ทำเถอะครับ ถ้าท่านได้เป็นนะ" นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน เราทำตั้งแต่ฐานราก ทั้งเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ กองทุนหมู่บ้าน ประชาชนที่มีรายได้น้อยมีการแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้า ท่านลองไปศึกษาดู ถ้ามันง่ายอย่างที่ท่านพูดมาก็คงทำไปนานแล้วสมัยก่อนท่านก็ทำไม่ได้

นายกแจ๊สโชว์ผลงาน 2 ปี พลิกโฉมปทุมธานี สู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะมั่นคงปลอดภัย

(15 ก.พ. 66) ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี แถลงผลการดำเนินงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดยมี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น แพทย์ประจำตำบล และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีร่วมรับฟังและซักถามข้อสงสัยในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาสังคม การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ด้านสาธารณสุขและการกีฬา ด้านการเมือง 

ด้าน พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง การเดินหน้าพัฒนาปทุมธานี เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีกว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ “พลิกโฉมปทุมธานี สู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะที่มั่นคงและปลอดภัย ก้าวไกลเศรษฐกิจ บนวีถีชีวิตใหม่ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมไทย” องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ยังเดินหน้าไม่หยุด พร้อมขับเคลื่อน นโยบาย ให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้ง 6 ด้านได้แก่ 

1.) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค สาธารณูปการ จัดให้มีระบบการคมนาคม การขนส่งที่เชื่อมต่อ ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภายในเขตจังหวัดปทุมธานี โดยการก่อสร้างปรับปรุงถนน สะพาน ตามมาตรฐานทางหลวงชนบท บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไข ปัญหาการจราจร ที่ติดขัดอย่างเป็นระบบบูรณาการร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการวางและจัดทำผังเมืองรวม จัดให้มีระบบไฟฟ้าสาธารณะอย่างทั่วถึง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม อย่างเพียงพอและทั่วถึงเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และปัญหาน้ำขาดแคลน สนับสนุนเครื่องมือ เครื่องจักรกล และบุคลากร เช่น รถดูดโคลนเลน ในการขุดลอกท่อระบายน้ำ และคูคลอง ตลอดจนได้ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมด้วยการมอบ โฟมลอยน้ำ ถุงยังชีพ และทรายถม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้นำไปใช้ประโยชน์ และบรรเทาความเดือดร้อน

2.) พัฒนาสังคม การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ทำการส่งเสริม และพัฒนา คุณภาพชีวิต ของเด็กสตรีคนชรา ผู้พิการ และ ผู้ด้อยโอกาส การสังคมสงเคราะห์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จัดการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา อย่างทั่วถึง บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหา ยาเสพติดในจังหวัดปทุมธานีอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมและทำนุบำรุง ศาสนา ให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องประชาชน ชาวจังหวัดปทุมธานี ให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข อนุรักษ์ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมสถาบันครอบครัว ให้มีความอบอุ่น และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน และบรรเทา สาธารณภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดปทุมธานี บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดระเบียบสุนัขและแมวจรจัดให้มีที่อยู่และมีการดูแลอย่างเหมาะสม

3.) นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปลูกฝังจิตสำนึกของประชาชนและเยาวชนในจังหวัดปทุมธานีในการร่วมกันอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด พัฒนาแม่น้ำลำคลองให้สะอาดปราศจากน้ำเน่าเสีย ภายใต้โครงการ “คลองสวยน้ำใส  วิถีไทยต้องกลับมา” 

‘โรม’ ชี้ คำสั่งย้าย ‘หมอสุภัทร’ ไม่เป็นธรรม เหมือนส่งสัญญาณข่มขู่ ‘หมอ’ ที่เห็นต่าง

(15 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนภาคีเพื่อนหมอสุภัทร ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านน.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน โดยมี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ. เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือ กรณีขอให้ตรวจสอบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฐานผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 185

ด้านนายสมบูรณ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ โดนย้ายไปเป็น ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา คำสั่งจากสาธารณสุข ซึ่งเป็นข้อกังขาว่าไม่เป็นธรรม และเชื่อว่ามีอำนาจทางการเมือง โดยเฉพาะจากนายอนุทิน น่าจะเป็นคนดำเนินการในเรื่องของการย้าย ซึ่งตามหลักของรัฐธรรมนูญมาตรา 185 วรรค 3 ได้ระบุถึงเรื่องการแทรกแซง ข้าราชการในกระทรวง อาจจะเข้าข่ายผิดและอาจจะต้องถูกถอดถอน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ด้วย ซึ่งเราต้องอาศัยอำนาจของรัฐสภา ผ่านนายชวน และ ฝากประสานไปยังพรรคการเมืองทุกพรรค ให้ช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมของนายอนุทิน ในครั้งนี้ว่าเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถึงแม้รัฐสภาเหลือเวลาอีกไม่นาน แต่เวลาที่เหลืออยู่น่าจะเพียงพอที่จะตั้งเรื่องดังกล่าวให้เป็นบรรทัดฐานกับนักการเมือง

ขณะที่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยว่ากรณีที่มีการย้ายแบบนี้ไม่เป็นธรรม และเห็นด้วยว่าการย้ายเกิดขึ้นจากสาเหตุในเรื่องของแรงจูงใจทางการเมือง และตนขอเพิ่มเติมว่าการย้ายตรงนี้จุดประสงค์หลักคือเพื่อสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นในวงการหมอ และวงการสาธารณสุข ใครก็ตามที่ไม่ได้เป็นแค่หมออย่างเดียว แต่ออกมาขับเคลื่อนทางสังคม ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมก็จะโดนแบบเดียวกันกับนพ.สุภัทร

“นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่านายอนุทิน พยายามส่งออกไปถึงหมอทุกคนว่าถ้าพวกคุณไม่เชื่อฟังคุณก็จะถูกย้าย ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากจะเห็นในภายใต้รัฐบาลชุดนี้ และตนค่อนข้างผิดหวังที่เราเห็นฝ่ายการเมืองมาทำอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับนพ.สุภัทร ซึ่งไม่แน่ใจว่าการทำแบบนี้ดูแล้วคล้ายกับสิ่งที่อำนาจเผด็จการเขาชอบทำ และไม่แน่ใจว่านายอนุทิน อยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มากจนเกินไป จนอาจจะทำให้สุดท้ายพยายามจะใช้วิธีการแบบนี้ซึ่งเป็นการรังแกคนที่ต้องการปกป้องชุมชนหรือปกป้องพี่น้องประชาชน” นายรังสิมันต์ กล่าว

‘คนเสื้อแดง-เหลือง’ จับมือเปิด ‘หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน’แสดงความจงรักภักดี ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย

(15 ก.พ. 66) ณ ศาลากลางบ้านหนองม่วงส้ม ต.โหรา อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นางนิตยา นาโล หรือ ‘นักสู้ปอสี่’ ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน นายสงกา มูลพิรัตน์ กำนันตำบลโหรา นายสะอาด อินทรไธสง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโหรา นายมะณีเรือง สุระมะณี ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วงส้ม นายศักดิ์ชัย ปะวิสุทธิ ผ.อ.โรงเรียนบ้านหนองย่างวัว นางสาวลำเพย สัตยา หัวหน้าคุณครู กศน. นักการเมืองท้องถิ่น และ ประชาชน จำนวนมากร่วมผนึกกำลังกับ ‘คนเสื้อแดง’ และ ‘คนเสื้อเหลือง’ ในพื้นที่อำเภออาจสามารถ และ อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดร้อยเอ็ด เปิด ‘หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน’ พร้อมประกาศดังลั่น ‘อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี’ ตามแนวทาง ‘แรมโบ้’ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนออกมาแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ

‘พิธา’ ชี้ เกือบ 10 ปี รัฐบาลทำ ปชช. เสียโอกาสหลายอย่าง ซัด!! ใช้งบมหาศาล แต่ ‘ปากท้อง-คุณภาพชีวิต’ ไม่พัฒนา

(15 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายเปิดเป็นคนแรกของพรรคก้าวไกลในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยกล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้สำคัญกว่าการอภิปรายครั้งไหนใน 2 เรื่อง หนึ่งคือแม้ ส.ส. ลงมติไม่ได้ แต่ประชาชนลงมติได้ในการเลือกตั้ง และสอง แม้เป็นการอภิปราย 152 ครั้งสุดท้ายแต่จะเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ ที่ประชาชนจะได้ฟังข้อมูลก่อนเข้าสู่คูหาเลือกตั้ง

พิธา กล่าวว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในทศวรรษที่สูญหาย เกือบ 10 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้เงินภาษีประชาชนรวมกันไปแล้ว 28 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับทองคำพันล้านแท่ง สามารถเอาไปชุบถนนทั่วประเทศไทยได้เกือบ 2 รอบ อย่างที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี เคยบอกว่าถ้าประเทศไทยเลิกคอร์รัปชัน จะปูถนนเป็นทองคำก็ทำได้ แต่ถึงวันนี้ ประเทศไทยยังไม่มีอนาคตเหมือนเดิม

สิ่งที่คนไทยได้จากการบริหารประเทศตลอดเกือบ 10 ปี ของ พล.อ. ประยุทธ์ คือ ‘การเมืองเดิม ปากท้องเดิม อนาคตแบบเดิม’ เราลงทุนไป 28 ล้านล้านบาทก็ได้อนาคตแบบเดิม อนาคตที่ประเทศไทยจะแพ้เพื่อนบ้านแบบไม่เห็นฝุ่น เป็นประเทศเดียวที่จีดีพีรั้งท้ายอาเซียนและยังไม่ฟื้นตัวจริงจากโควิด นอกจากนั้น คือเราสูญหายเวลาไปกับ 3 สิ่งสำคัญคือ (1) การศึกษา คะแนนมาตรฐานโลกอย่าง PISA ก็รั้งท้าย (2) คอร์รัปชัน ปี 2557 อันดับความโปร่งใสของเราอยู่ที่อันดับ 85 แต่ปี 2565 อยู่ที่อันดับ 110 และ (3) ภัยแล้ง ก่อนหน้านี้มีพรรครัฐบาลบอกว่า “มีลุงไม่มีแล้ง” แต่ที่ผ่านมาเกือบ 1 ทศวรรษ พื้นที่แล้งซ้ำซากในภาคอีสานเพิ่มจาก 40 ล้านไร่เป็น 49 ล้าน

เรายังสูญหายโอกาสในการปฏิรูปสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการปฏิรูปตำรวจ ภาพลักษณ์ของตำรวจตอนนี้ ประชาชนมีคำถามว่าจริงหรือไม่ที่ตำรวจมีส่วนกับทุนจีนสีเทา จริงหรือไม่ตำรวจตั้งด่านรีดไถนักท่องเที่ยวไต้หวัน แทนที่จะเป็นผู้พิทักษ์ราษฎรกลับเป็นส่วนหนึ่งของการทำร้ายราษฎร รวมถึงระบบเส้นสาย-ตั๋ว ที่ทำให้ตำรวจมีปัญหาสุขภาพจิต 

ส่วนกองทัพ รัฐบาลยังลอยตัว ประชาชนยังไม่ได้คำตอบ อะไรคือสาเหตุของเรือหลวงสุโขทัยล่ม ที่ทำให้ทหารชั้นผู้น้อยสูญเสียมากขนาดนั้น เท่าไรคือค่าใช้จ่ายที่กองทัพใช้ในการบินเครื่องบินรบ F16 ที่เอาไปดูแลกิจกรรมในครอบครัวของอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ อะไรคือสาเหตุของการบริหารในกองทัพที่ทำให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงโคราชและความรุนแรงต่อทหารชั้นผู้น้อย

‘โรม’ ขู่!! ไม่จบแค่อภิปราย แต่ยื่นเอาผิดทาง กม. เพียบ ไม่หวั่น!! หากสภาฯ ล่ม พร้อมอภิปรายต่อนอกสภาฯ

'โรม' ขู่ไม่จบแค่ซักฟอก ยื่นเอาผิดกฎหมายต่ออีกเพียบ ฮึ่ม!สภาล่มจะอภิปรายนอกสภาต่อ ไม่หวั่นไร้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ตอกรัฐบาลเย้ยข้อมูลเก่า แต่หน้าชาทุกรอบ

(15 ก.พ. 66) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามาตรา 152 ว่า ในวันที่ 15 ก.พ. พรรคจะมีผู้อภิปรายจำนวน 5 คน มีเนื้อหาทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง ทุจริต การอภิปรายครั้งนี้แม้จะไม่มีการลงมติ แต่ใกล้การเลือกตั้งใหญ่ เราจึงจะทำงานในระดับเดียวกับการเลือกตั้งใหญ่ มั่นใจว่าเรามีหลักฐานในการเอาผิดรัฐบาล และไม่จบแค่การซักฟอก แต่จะมีการดำเนินการตามกฎหมายอีกเยอะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายรัฐบาลออกมาระบุว่าถ้าการอภิปรายเหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะประท้วง รวมถึงมีการนับองค์ประชุม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจจะทำเช่นนั้นทำไม การที่ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบได้ดีและเป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งเมื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนแล้วรัฐบาลไม่ต้องการให้เราทำหน้าที่นี้ ตกลงรัฐบาลต้องการอะไร ไม่ได้ต้องการให้ประชาชนรับรู้ข้อมูล รับรู้การทุจริตใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นรัฐบาลกำลังยอมรับว่าตัวเองมีบาดแผลเหวอะหวะเต็มตัวใช่หรือไม่ แล้วกลัวว่าประชาชนจะรู้เลยพยายามปิดบังฝ่ายค้าน

‘สุทิน’ ห่วงองค์ประชุม ม.152 ไม่ครบจ่อแก้เกม อภิปรายนอกห้องประชุม

(15 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวันนี้ซึ่งเป็นวันแรก ว่า จะเริ่มโดยผู้นำฝ่ายค้านแถลงญัตติ และขยายความภาพรวม จากนั้น จะเป็นกลุ่มหัวหน้าพรรค ก่อนเริ่มการอภิปรายตามลำดับ สำหรับวันแรกฝ่ายค้านจะอภิปรายถึงประเด็นเศรษฐกิจ พลังงาน และต่างประเทศ ส่วนพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) จะอภิปรายประเด็นปัญหายาเสพติด ปัญหาสังคม และการทุจริต 

เมื่อถามว่า คาดว่าจะเปิดประชุมได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมากันครบ ขอให้มั่นใจว่าฝ่ายค้านไม่มีปัญหา หากจะมีปัญหาก็มีที่รัฐบาล ดังนั้น วันนี้องค์ประชุมจะครบหรือไม่ก็คง 50 - 50 ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างน้อยพรรคประชาธิปัตย์ก็ยืนยันมาร่วมประชุม แต่องค์ประชุมคงหวุดหวิดพอสมควร คงต้องลุ้นกัน

“เรากำชับวิปรัฐบาลให้ช่วยกันรักษาระบบสภา เพราะการอภิปรายใหญ่ ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ คงอยู่ที่ความสำนึก แต่เรายังหวังว่าไม่น่าจะถึงขั้นทำให้ระบบนี้หายไป อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านเตรียมแผนไว้แล้วว่าหากองค์ประชุมล่มวันนี้ และพรุ่งนี้ประชุมต่อแล้วล่มอีก เราจะอภิปรายนอกห้องประชุมสภาที่โพเดียมห้องโถงแห่งนี้” นายสุทิน กล่าว

'เหลิม' ซัด!! ส.ว.ปัญญาทึบ ไม่โหวต 'อิ๊ง' เป็นนายกฯ ด่ากราด พปชร. แค่พวกอวดรู้ที่มาก่อตัวเป็นพรรค

(14 ก.พ. 66) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขู่จะไม่โหวตให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า การเป็น ส.ว.เขาเรียกว่าสภาสูง โดยหลักต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถถึงจะได้รับแต่งตั้ง

"กรณีที่ส.ว.มีการพูดว่าหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยยังมีอายุน้อยและไม่มีความเหมาะสมเป็นนายกฯนั้น ฟังดูคำให้สัมภาษณ์บอกว่าหัวหน้าครอบครัวยังอายุน้อย แสดงถึงปัญญาทึบไม่ได้มองโลก โดยนายกฯ ประเทศนิวซีแลนด์ก็อายุ 30 ปี นิดๆ ขณะที่นายกฯ ฝรั่งเศสก็ 30 ปีหน่อยๆ ส่วนผู้นำครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งไม่ทราบว่าในอนาคตจะเป็นนายกฯหรือไม่นั้น ก็อายุ 37 ปี เรียนจบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เรียน ป.โท จบเมืองนอก เหมาะสมไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง การที่ส.ว.มาพูดว่ายังละอ่อน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว 

'ครูธัญ' นำทีมก้าวไกล ร่วมงานจดแจ้งสมรสเพศหลากหลาย ชี้ สังคมไทยพร้อมเปิดรับสมรสเท่าเทียม ลุ้น รบ.ใหม่ สานต่อ

(14 ก.พ. 66) ที่ห้อง Sunset Terrace ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์พาเลซ นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล และนายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรม “รักแท้…ไม่แพ้พ่าย” ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พร้อมกันกับหลายสำนักงานเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และที่ว่าการอำเภอหลายแห่งในประเทศไทย ที่จัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถจดแจ้งการสมรสได้

นายธัญวัจน์ ระบุว่า แม้การจัดงานในวันนี้อาจมีความเห็นที่แตกต่างกันไป บางส่วนเห็นว่าเป็นการจดแจ้งที่ไม่มีผลตามกฎหมายและไม่ทำให้ได้อะไรขึ้นมา แต่ตนคิดว่าอย่างน้อยที่สุด ทำให้เห็นว่าสังคมไทยมีฉันทมติระดับหนึ่งแล้ว ว่าการสมรสเท่าเทียมควรต้องเกิดขึ้นในประเทศไทยเสียที

โดยเฉพาะจากการตอบรับโดยหน่วยงานราชการ ที่มีการจัดสรรงบประมาณ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเท่าเทียมทางเพศ และเปิดพื้นที่ให้บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศได้แสดงตัวตน ก็ถือว่าเป็นพลวัตในการเปลี่ยนแปลงและเป็นพลังในการขับเคลื่อนที่เป็นด้านบวก

'วิรัช' ซัด ไอ้โม่งปลอมหนังสือ สั่งปลดป้ายผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ ยืนยันส่งคนเดิมลง เชื่อ ไม่ใช่ฝีมือคนในพรรคแน่นอน

(14 ก.พ. 66) ที่วัดมังกรกมาลาวาส (เล่งเน่ยยี่) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเผยแพร่หนังสือลงนามโดย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร.ให้ปลดป้ายหาเสียง 2 ผู้สมัคร จังหวัดชัยภูมิ ออก ว่า...

"วันนี้ได้ให้ผู้ที่มีผลกระทบไปดำเนินคดีแจ้งความกับกรณีที่มีหนังสือปลอมออกมา จนทำให้ผู้สมัคร ส.ส.ได้รับความเสียหายที่ไปให้เขาปลดป้ายลง และเราเชื่อว่าหนังสือฉบับนี้ พล.อ.วิชญ์ ไม่ได้เซ็น ซึ่งมีการตรวจสอบหมดแล้ว ในความเป็นจริงไม่มีหรอกหนังสือแบบนี้ หนังสือที่ออกจากพรรคในระบบแบบนี้ไม่มี อีกทั้ง ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคไม่มีอำนาจเซ็นหนังสืออยู่แล้ว หนังสือฉบับนี้ออกมาโดยที่พรรคไม่รู้เรื่อง

ทั้งนี้ สำหรับผู้สมัครเป็นไปตามเดิม นาทีนี้จะไปเปลี่ยนเขาได้อย่างไร เขามีความผิดตรงไหน และเขายังเป็นประธานจังหวัด รวมถึงประธานสาขาด้วย อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร.ยังไม่ทราบเรื่องนี้ ยังไม่ได้คุย แต่เชื่อว่าจะไม่กลายเป็นความขัดแย้งในพรรค

'สมศักดิ์' ยัน ไม่แยกวง 'สุริยะ' ยังอยู่ 'พปชร.' ทั้งคู่ ย้ำ ตนไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ร่วมงานได้กับทุกคน

(14 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 09.05 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม ครม.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวการย้ายกลับพรรคเพื่อไทย (พท.) แม้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. จะยืนยันว่าทั้งคู่ยังอยู่กับพรรค พปชร. ว่า ตนกับนายสุริยะ ทำการเมืองด้วยกันมาเกือบ 30 ปี เรามีแนวทาง วิธีคิดต่าง ๆ เหมือนกัน นายสุริยะประกาศแล้ว ประกาศอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ส่วนที่สื่ออยากรู้ คือเรื่องทีมงานในจังหวัดสุโขทัย จะย้ายไปพรรคอื่นหรือไม่นั้น ตนขอบอกว่าไม่เคยหวงห้ามใครทั้งสิ้น

ก่อนหน้านี้ทีมงานในกลุ่มสามมิตรก็ย้ายไปพรรคอื่น และพาพวกไปด้วย 7-8 คน โทรไปเป็นเรื่องของคนที่จะต้องเติบโต เพื่อหาแนวทางเดินต่อไป ประกอบกับเรามีเรื่องเส้นเวลา คือเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถ้าเราอยากเป็น ส.ส. ก็จำเป็นต้องสังกัดพรรคตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เขาทนไม่ไหวเลยต้องหาที่อยู่ใหม่ ในกรณีที่มีพื้นที่เลือกตั้งยาก เราก็ต้องปล่อย ซึ่งเราก็ต้องหาคนใหม่มาเสริม คิดว่าสามารถหาได้ ไม่มีปัญหา เพราะเวลายังมีอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ว่าจะไม่ย้ายแล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายสุริยะได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว แต่เราจะพัฒนากลุ่มที่อยู่ด้วยกัน ไม่เป็นหัวหน้ากลุ่มรอง ๆ ให้มีสิทธิ์มีเสียงที่จะเสนอตัวขึ้นมาเป็นผู้บริหารในวันข้างหน้า

“ผมยืนยันว่า ตัวผมเองและท่านสุริยะไปด้วยกัน ทิศทางเดียวกัน ท่านสุริยพูดอย่างงั้น ก็โอเค” นายสมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ส.ส.สุโขทัย พรรค พปชร. 2 คน จะย้ายไปพรรค พท.หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตอนแรกก็บอกอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ก็หายไป ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top