Thursday, 15 May 2025
POLITICS

‘ชัยวุฒิ’ เผย ‘ลุงป้อม’ ให้ความมั่นใจยังอยู่กับ พปชร. ลั่น!! ไม่เคยมีใครพูดว่าลุงป้อมไม่รับตำแหน่งรัฐบาล พท.

(12 ส.ค. 66) ที่สนามหลวง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่า พล.อ.ประวิตรได้ให้ความมั่นใจกับสมาชิกว่าจะทำงานร่วมกับพรรค เพื่อให้พรรคเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไป

เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีการขอให้ซื่อสัตย์กับลุงป้อม นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็คงมีบางคนพูด แต่ก็เป็นแนวทางของเราอยู่แล้วที่จะต้องมีความจริงใจต่อกันในการทำงาน ตั้งใจทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพรรคและทำนโยบายของพรรคต่อไปในอนาคต

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรได้กำชับสมาชิกในพรรคเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งต่อไปหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร บอกจะยกทั้ง 40 สส. โหวตนายกฯ ให้เพื่อไทย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีคุยกันเรื่องนี้ งานวันเกิดไม่ใช่การประชุมพรรค เดี๋ยวคงจะมีการประชุมพรรคเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงแนวคิดของ สส.บางกลุ่ม แต่มันจะเป็นทางการก็ต่อเมื่อมีการประชุมพรรค เป็นมติพรรค และแถลงข่าวร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้สมาชิกในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกันว่าแนวทางการโหวตจะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนว่านักการเมืองตอนนี้คุยกันในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลถือเป็นวาระสำคัญของสภาฯ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวการจัดตั้งรัฐบาลที่ออกมาคิดว่าจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องรอติดตามดูอีกที ตนก็รู้จากนักข่าวนี่แหละว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะมันเป็นข่าวจากหลายพรรคหลายที่ตนก็รู้แต่เรื่องในพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อถามว่าในส่วนของ พล.อ.ประวิตร ชัดเจนหรือไม่จะไม่รับตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้ เพราะมีกระแสข่าวว่าจะให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ รับตำแหน่งแทน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกัน

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้มีการบอกหรือไม่ว่าจะวางมือในรอบนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็เห็นยังฟิตทำงานอยู่ตลอดจะวางมือตอนไหน พลังประชารัฐทุกคนก็ยังคงทำงานร่วมกันโดยมี พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค และดูจากวันเกิดก็จะเห็นว่ามีลุงก็มีเรา อย่าคิดมาก

เมื่อถามว่า มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตรจะไม่รับตำแหน่งในรอบนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ใครบอกว่าไม่รับตำแหน่ง ท่านไม่เคยพูดสักหน่อย ตนยังไม่เคยได้ยินเลย ลุงป้อมเคยพูดที่ไหน ถ้าท่านทำงานได้ท่านก็ทำอยู่แล้ว และตอนนี้ พล.อ.ประวิตรยังคงเป็นแคนดิเดตนายกฯ อยู่ ดังนั้น จะมาบอกว่าท่านจะไม่รับตำแหน่งในรัฐบาลนี้ได้อย่างไร แต่ว่าโอเคอาจจะไม่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ทำไมสื่อชอบไปยุให้ท่านถอนตัวหรือวางมือ

เมื่อถามว่า มีกระแสคัดค้านลุงก่อนหน้านี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มีลุงมีเราอย่าไปคิดมาก ส่วนที่มีสื่อบางสำนักไปลงว่ามีลุงไม่มีแรงนั้นไม่ทราบ แต่ยืนยันว่ามีลุงก็มีเรา ยังอยู่ๆ อย่าคิดว่าลุงไม่อยู่ เพราะท่านก็ยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ยังไม่ได้วางมือทางการเมือง สื่อต้องลงข่าวให้มีข้อเท็จจริงด้วย เพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน

'เพื่อไทย' ประกาศเดินหน้าต่อ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ มั่นใจ!! ช่วยชุบชีวิตเศรษฐกิจไทยครั้งใหญ่

(11 ส.ค.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย แถลงการเดินหน้านโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ในช่วงแรกที่พรรค เพื่อไทย ไม่ใช่แกนนำจัดตั้งรัฐบาล การเจรจาต้องให้เกียรติพรรคแกนนนำ แต่วันนี้บริบทเปลี่ยนไปแล้ว พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมาพร้อมความรับผิดชอบในนโยบายที่หาเสียงคือต้องดูแลพี่น้องประชาชน วันนี้จึงอยากประกาศอย่างเป็นทางการในการเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ประชาชนทุกคนอายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินดิจิทัลจำนวน 1 หมื่นบาท โดยใช้ระบบการชำระเงินแบบใหม่เทคโนโลยีบล็อกเซน เงื่อนไขรับเงิน คือ ต้องใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามภูมิประเทศ และต้องถูกใช้ภายใน 6 เดือน ส่วนคนที่เข้าไม่ถึงแอปพลิเคชันนี้ก็ไม่มีปัญหา สามารถใช้บัตรประชาชนและโค้ดส่วนตัวได้

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อนั้น ยืนยันว่าทีมเศรษฐกิจได้ทำความเห็นอย่างถี่ถ้วน ไม่ได้ทำให้เกิดเงินเฟ้อ รวมถึงได้คำนึงผลกระทบทั้งทางบวกและลบในด้านความมั่นคงทางการคลัง ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางการคลังของประเทศ ซึ่งนอกจากจะที่เป็นการชุบเศรษฐกิจครั้งใหญ่แล้วยังจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่มีการชำระเงินแบบนี้ ทั้งนี้มีที่ต้องเรื่องทำคู่ขนานคือ ตลาดทุนคู่ขนาน เปิดตลาดทุนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล และจะมีการตั้งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ดิจิทัลขึ้นมา เพื่อดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ ทั้งหมดนี้ คือการยืนยันของพรรคเพื่อไทย เราเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตเต็มรูปแบบเพื่อประโยชน์ของประเทศ

'เพชร กรุณพล’ ถาม? เอกสารประชุมรายงานสภาแบบเก่า ควรเปลี่ยนเป็นไฟล์ดิจิทัลได้หรือยัง ชี้!! สร้างขยะมากไป

(9 ส.ค.66) นายเพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ สส.พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจ 'Karoonpon Tieansuwan' ระบุว่า...

"เราควรเปลี่ยนการเสนอรายงานแบบเก่าเป็น ไฟล์ดิจิตอล ได้รึยังนะ ทั้งหมดนี้พิมพ์แจกส.ส.ทุกคน ให้อ่านเพื่อตรวจสอบและขออภิปรายแก้ไขหรือตั้งข้อสังเกต เรากำลังสร้างขยะมากเกินไปหรือไม่"

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น...

“พิมพ์แค่บทสรุปผู้บริหาร ส่วนไฟล์รายละเอียด ถ้าสนใจให้สแกนเป็น QR Code ก็พอครับ” 
“เดี๋ยวงบประมาณไม่ได้ใช้ครับ” 
“งานพิมพ์ต้องมา” 
“สมควรมาก ๆ โดยเฉพาะการนำไปให้ทีมงานเอาไปทำฐานข้อมูลเพื่อวิเคราะห์หรือติดตามงานได้ง่ายขึ้นมาก ส่วนที่พิมพ์เอาเท่าที่จำเป็นพอ”

‘ไอซ์ รักชนก’ ขอบคุณ ‘วัน อยู่บำรุง’ ยังคงลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน

หลังจากเป็นกระแสดรามาและเกิดวิวาทะกันขึ้น ระหว่าง น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ สส.กทม. เขตบางบอน-จอมทอง-หนองแขม พรรคก้าวไกล กับ นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย

แต่ล่าสุดเหมือนรอยร้าวของทั้ง 2 คนจะจบลงแล้ว เมื่อ น.ส.รักชนก รีโพสต์ของนายวัน ที่แม้จะไม่ได้เป็น สส. แต่ยังลงพื้นที่ทำงานให้กับประชาชนอยู่ โดยในโพสต์นั้น นายวันระบุว่า “ทางเดิน คสล.คลองสรศักดิ์ข้างโรงงานมิตซูมารุ บางบอน 5 ที่ผมประสานเขตบางบอนมาซ่อมแซม บัดนี้เรียบร้อยแล้วครับ #ใจถึงพึ่งได้ #ป๋าวันไม่ทิ้งประชาชน #ผู้แทนนอกสภา”

หลังจาก น.ส.รักชนก แชร์โพสต์ดังกล่าว ยังมีข้อความระบุว่า “พี่วันยังทำพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ยังคงเป็นที่พึ่งให้พ่อแม่พี่น้องเหมือนดังเดิม น่ารักที่สุด ในฐานะ สส.เขตต้องขอบคุณแทนพ่อแม่พี่น้องประชาชนด้วยค่ะ”

‘ธนกร’ รับ ‘สมศักดิ์’ ชวนเข้าร่วมรัฐบาล ชี้ หากไปต้องไปทั้งพรรค มั่นใจ!! ไม่มีงูเห่า

(11 ส.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม และแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า มีการชักชวนเข้าร่วมรัฐบาล ว่า ตนกับนายสมศักดิ์ อยู่กันมานานเป็นเหมือนครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่คนละพรรคกันแต่ความสัมพันธ์ก็เหมือนเดิม ได้พูดคุยและพบกันบ่อยครั้ง มีกิจกรรมที่ชอบ เตะฟุตบอลได้เจอกันอยู่แล้วมีการคุยเรื่องการเมือง โดยคุยกันว่าถ้ามาก็ต้องมาทั้งพรรค เป็นการส่งสัญญาณมาทางตน แต่ตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจาของพรรค แต่คนที่จะเจรจาคือหัวหน้าพรรค ตนจึงทำได้แค่ส่งสัญญาณให้พรรคทราบว่าทิศทางการเมืองเป็นแบบนี้ ส่วนการตัดสินใจทางพรรครวมไทยสร้างชาติอาจมีการประสานงานกันอยู่แล้วแต่ตนไม่ทราบ เพราะหัวหน้าพรรคยังไม่ได้บอก

ซึ่งนายสมศักดิ์ก็ไม่ได้บอกว่าคุยกับหัวหน้าพรรค เลขาพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ แต่เท่าที่ดูมีสัญญาณที่ดี แต่ตนเชื่อว่าการเมืองใกล้ถึงจุดที่จะจบแล้ว เท่าที่ดูบริบทต่าง ๆ คิดว่าอีกไม่นาน คงจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเวลาที่เหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีเงื่อนไขอะไรในการจะร่วมรัฐบาลเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี นายธนกร กล่าวว่า รวมไทยสร้างชาติ มีการทำงานในสภาของ สส.36 คน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว

ส่วนการเจรจาต่อรองต่าง ๆ คงจะไม่มี เพราะทำงานได้อยู่แล้วเพราะเรามีแค่ 36 คน ไม่ใช่มีเป็น 100 คน มีการพูดคุยกันแต่คงไม่ได้ไปต่อรองอะไร ย้ำว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติพรรคหากจะออกมาเป็นอย่างไร สส.ทั้ง 36 คน พร้อมทำตาม แม้ว่าวันนี้อาจจะมองว่ามีปัญหาอะไรในพรรคหรือไม่มีการแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ นั้นเพราะมาจากหลากหลายความคิดเห็นแตกต่างก็เป็นเรื่องปกติแต่เชื่อว่าคุยกันได้หมด

ทั้งนี้ ส่วนตัวหากมีปัญหาอะไรแม้ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะไม่ยุ่งและเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว เลิกก็คือเลิกเลย แต่ตนก็ยังไปปรึกษาในหลายเรื่องเพราะตนอยู่กับ พลเอก ประยุทธ์ มานานแม้ว่าเลิกเล่นการเมืองไปแล้วในอนาคตทางการเมืองของตนก็ยังมีการปรึกษาทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร และ พลเอก ประยุทธ์ ได้แนะนำในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทุกครั้งที่พูดไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนท่านจะให้นึกถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก นึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ท่านพูดแบบนี้ตลอด

เมื่อถามว่า หากจะเข้าร่วมรัฐบาลถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรค 36 คน ไม่มีงูเห่าใช่หรือไม่ นายธนกร ยืนยันว่า ตนมั่นใจว่า ไม่มี ถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรค เพราะการเมืองมันควรเป็นอารยธรรมทางการเมืองที่ดี แม้ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ควรที่จะมีงูเห่า งูจงอาง อะไรแล้ว

‘ภูมิธรรม’ เบรก รบ.รักษาการแต่งตั้ง-โยกย้าย ขรก. ชี้!! ควรรักษามารยาท ปล่อยให้เป็นหน้าที่รัฐบาลชุดใหม่

(11 ส.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่อนแถลงการณ์ระบุว่า ในห้วงเวลานี้ เป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่จะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง จะเข้ามาบริหารประเทศ 

• ข้อเสนอต่อรัฐบาลรักษาการ

รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลรักษาการมีอำนาจหน้าที่อันจำกัด เช่น ห้ามอนุมัติโครงการที่จะสร้างความผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป ห้ามแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ รวมถึง พนักงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ เพื่อรอให้รัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มทั้งจากตัวบทกฎหมาย และอาณัติจากประชาชนเข้ามาบริหารตามแนวนโยบายที่ได้ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชน

ดังนั้น รัฐบาลรักษาการควรรักษามารยาทตามธรรมเนียมปฏิบัติ และปฏิบัติตามข้อกำหนดของบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย ด้วยการยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงทุกตำแหน่ง ที่จะมีผลต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาลใหม่

การกล่าวอ้างว่าจะมีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุราชการเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากยังไม่สิ้นปีงบประมาณ และกลไกระบบราชการยังสามารถดำเนินอยู่ได้

รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำนโยบายของรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศตามที่เสนอไว้ต่อพี่น้องประชาชน เพราะถือเป็นสัญญาประชาคมที่จะต้องเข้ามาเร่งดำเนินการทันที ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน และต้องอาศัยข้าราชการเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายให้ประสบผลสำเร็จ

ทั้งนี้เพราะปัญหาวิกฤตของประเทศมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูผู้ประกอบการธุรกิจทุกกลุ่ม และฟื้นฟูความกินดี อยู่ดีของพี่น้องประชาชน 

ดังนั้นรัฐบาลใหม่จึงต้องมีกลไกที่สามารถขจัดอุปสรรค และเร่งทำตามนโยบายให้ลุล่วงโดยเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นหมายถึงการมีข้าราชการอย่างเช่นระดับปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ที่สามารถปฏิบัติงานในการตอบสนองการบริหารงานของรัฐบาลใหม่ เพื่อร่วมสร้างผลสำเร็จต่อทุกนโยบายของรัฐบาลใหมให้สามารถแก้วิกฤตของประเทศและประชาชนได้

สิ่งที่เรานำเสนอ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ และความชอบธรรมของรัฐบาลใหม่ในการเข้ามาบริหารประเทศ และเป็นสิ่งที่รัฐบาลรักษาการไม่ควรกระทำอย่างยิ่งในช่วงรอยต่อที่รัฐบาลที่มีอำนาจเต็มจะเข้ามาบริหารประเทศ เพราะนอกจากจะผิดรัฐธรรมนูญแล้ว ยังผิดต่อธรรมเนียมปฏิบัติ และมารยาททางการเมืองที่สำคัญยิ่ง

• ความคิดเห็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดกระทรวง ทุกกระทรวง

เนื่องจากท่านเป็นกลไกสำคัญในการตอบสนองการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่ได้รับความเห็นชอบจากสภา เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ สามารถบรรลุผลอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นที่ท่านควรจะต้องชะลอการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ระดับสำคัญ โดยรอรับนโยบายจากรัฐบาลใหม่ เพื่อให้การทำงานร่วมกันกับรัฐบาลใหม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงและสามารถแก้วิกฤตของประเทศ ให้หลุดพ้นจากปัญหาต่าง ๆ ที่สั่งสมกันมาโดยเร็ว

โดยหวังว่าท่านจะร่วมกับรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้อย่างราบรื่น มาร่วมกันสร้างประเทศไทย ให้ดีขึ้นกว่าเดิม 

'หมอเก่ง' ยอมรับคุย 'ไผ่ ลิกค์' ชวนโหวตจริง แต่ถามในบริบทเพื่อน ไม่ได้ดีลให้ร่วมรัฐบาล

จากกรณีที่ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยพาดพิงว่าพรรคก้าวไกล ก็เคยมาขอคะแนนจากพรรค พปชร.ให้โหวตให้แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลเช่นกันนั้น

ซึ่งต่อมานายไผ่ ออกมาเปิดเผยว่าคนจากพรรคก้าวไกล ที่โทรมาขอคะแนนเสียงจากพรรค พปชร.คือ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งวันที่โทรมาขอนั้น มีมดดำ คชาภา ตันเจริญ อยู่ด้วย

ล่าสุด นพ.วาโย เปิดใจในรายการแฉของ มดดำ คชาภา ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ต้องตอบว่า จริง แต่ขอเล่าในบริบทวันนั้น ตนอยู่บ้านของมดดำ และเราก็นั่งคุยกันสบายๆ ซึ่งตนก็จำไม่ได้ว่าใครโทรหาใครก่อน เพราะตอนนั้นพรรคก้าวไกล สื่อสารกับ สส. ทุกพรรค เพื่อให้ช่วยกันโหวตนายพิธา เป็นนายกฯ เพราะว่าเราต้องการปิดสวิตช์ สว. โดยพฤติการณ์ตอนนั้น ยอมรับเลยว่า เราต้องการให้ช่วยโหวต นายพิธา เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่มาจากพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง และพรรคอันดับหนึ่งสามารถรวมเสียงได้ 312 เสียง ซึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของ สภาผู้แทนราษฎร เราก็เรียกร้องไปกับทุกฝ่ายทั้ง สส. และ สว. เราพยายามคุยกับทุกคนเท่าที่จะคุยได้

ซึ่งในส่วนของพรรค พปชร. คนที่จะพูดคุยด้วยได้มีไม่เยอะมาก หนึ่งในนั้นที่เราคุยเล่นได้ได้ คือ นายไผ่ วันนั้น เราคุยกันแบบเพื่อนคุยกัน แล้วมดดำก็อยู่ด้วย

มดดำถามว่า แต่ทางนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ออกมายืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่เคยขอให้ พรรค พปชร.โหวตให้ ด้าน นพ.วาโย กล่าวว่า "ถูกต้อง วันนั้นไม่ใช่การดีลกันเป็นกิจลักษณะเพื่อให้มาโหวตกัน และร่วมรัฐบาลกัน เรียกว่าขอลม ว่างั้นเถอะ เราขอแบบเป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนกันทำงานร่วมกันมาที่มีความสนิทระดับหนึ่ง"

78 ปี 'บิ๊กป้อม' พร้อมหน้า '3ป.-นักการเมือง-ทหาร-ตำรวจ' ด้าน 'บิ๊กป๊อก' มอบโมเดลม้าหมุน ขอให้มีความสุขนิรันดร์

(11 ส.ค. 66) ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ วันครบรอบวันคล้ายวันเกิดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อายุครบ 78 ปี โดยมีคนสนิทใกล้ชิด ทั้งนายทหาร นักการเมืองจากพรรคต่าง ๆ ทยอยมาเข้าร่วมอวยพร ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาในเวลา 08.00 น. โดยนำกระเช้าดอกไม้ พร้อมของขวัญมามอบให้

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารมว.มหาดไทย นำโมเดลม้าหมุน 8 ตัว สีฟ้ามรกต แบบไขลาน ซึ่งมีความหมายว่า ให้มีความสุขแบบไม่มีที่สิ้นสุดมามอบให้แก่ พล.อ.ประวิตร พร้อมร่วมรับประทานอาหารเช้า และพูดคุยเป็นการส่วนตัวภายในห้องรับรอง ประมาณ 30 นาที ซึ่งในห้องนั้น มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา อยู่ด้วย พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เข้ามาอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประวิตร เท่านั้น 

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางกลับและผู้สื่อข่าวได้พยายามขอให้ถ่ายรูปร่วม 3ป. และได้อวยพรวันเกิด พล.อ.ประวิตร อย่างไรบ้าง แต่พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้ม และไม่ตอบ 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามพล.อ.อนุพงษ์ ที่เดินออกต่อกันมาถึงโมเดลม้าหมุน ที่มอบให้เป็นของขวัญ สื่อความหมายขอให้มีความสุขแบบไม่มีที่สิ้นสุด ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ได้พยักหน้ารับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกความหมายหนึ่งของโมเดลม้าหมุน 8 ตัว สีฟ้ามรกต แบบไขลาน คือ ชัยชนะ 8 ทิศ และเลื่อนหมุนตำแหน่ง 

สำหรับบรรยากาศที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ในวันนี้มีแกนนำพรรคการเมือง และนายทหารเข้ามาอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดพล.อ.ประวิตร ต่อเนื่อง อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายพิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรคพลังประชารัฐ, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.พรรคไทยศรีวิไลย์, พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร, สมาชิก สว. และพล.อ.สนิธชนก สังฆจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม

จากนั้นในช่วง 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาอวยพรพลเอกประวิตรด้วย ขณะที่ในเวลา 11.00 น. พรรคพลังประชารัฐ และ สส.ทั้งหมดได้มาอวยพร นำโดยพรรคพลังประชารัฐ และสส.ทั้งหมด นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค

'สรรเพชญ' จี้ รัฐบาลใหม่ดันเรื่องยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ เสนอ 3 มาตรการ 'ป้องกัน-ปราบปราม-ฟื้นฟู' ขจัดปัญหาให้สิ้น

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.66 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายผลการปฏิบัติงานของ ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี 2564 โดยนายสรรเพชญกล่าวว่า "ยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกรัฐบาลพยายามแก้ไขและให้ความสำคัญ แต่ปัญหายาเสพติดก็ยังไม่ทุเลาเบาบางลง จากสถิติของการจับกุมคดียาเสพติด พบว่า ปี 2564 มีการจับกุมคดียาเสพติด ทั้งหมด 337,186 คดี ผู้ต้องหา 350,758 คน ซึ่งตัวเลขที่มากขนาดนี้ นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยที่ควรจะได้รับการแก้ไขปราบปรามอย่างจริงจังโดยเร็ว"

นายสรรเพชญ ได้กล่าวต่อว่า "ตนมีความห่วงใยกับสถานการณ์ยาเสพติดที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เนื่องจากยาเสพติดในทุกวันนี้เข้าถึงทุกชุมชน ทุกหมู่บ้าน และยังมีการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่เป็นช่องทางให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย"

นอกจากนี้ นายสรรเพชญ ได้เสนอ 3 มาตรการ ในการจัดการกับปัญหายาเสพติด คือ ‘มาตรการในการป้องกัน ปราบปราม และฟื้นฟู’ โดย ‘มาตรการในการป้องกัน’ คือ การให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง รวมถึงให้หน่วยงานส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตน ‘มาตรการที่สอง คือ การปราบปราม’ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระดมสรรพกำลังในการทำงานให้สอดคล้องกัน และสุดท้าย ‘มาตรการในการฟื้นฟู’ ต้องให้ผู้ที่เคยกระทำความผิด ได้กลับตัวกลับใจเข้าสู่ตลาดแรงงานหลังได้รับการฟื้นฟู มีงานทำ มีรายได้ จะได้ไม่ต้องกลับเข้าไปสู่วงจรยาเสพติดอีก

"โดยทั้งสามมาตรการที่ได้เสนอไป ตนเชื่อว่าอาจจะช่วยให้ ป.ป.ส. สามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และปราบปรามยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไม่เพียงแต่ ป.ป.ส. ที่ต้องจัดการแก้ไขเพียงหน่วยงานเดียว แต่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็ควรที่จะร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เพื่ออนาคตที่ดี และชีวิตที่มีคุณภาพของลูกหลาน จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดในอนาคตต่อไป" นายสรรเพชญ กล่าว

‘โบว์ ณัฏฐา’ งัดหลักฐานความสัมพันธ์ ‘ก้าวไกล-ทะลุวัง’ เคยประกันตัว ‘ตะวัน’ ชูรูป ‘บุ้ง’ ในสภา แต่วันนี้บอกไม่รู้จักกัน

จากกรณี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ที่รวมตัวไปที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าไม่ทราบรายละเอียด และไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวทุกคน โดยปฏิเสธว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้เกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว

ล่าสุด (10 ส.ค.66) น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Bow Nuttaa Mahattana’ ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว ศาลเคยมอบหมาย คุณพิธา ในฐานะนายประกัน ‘ตะวัน ทะลุวัง’ ให้ดูแลให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขการประกันตัว

ต่อมา น.ส.ณัฏฐา ยังได้แชร์ข่าวกรณีศาลอาญาสั่งปล่อยชั่วคราว ‘ตะวัน’ อดีตสมาชิกทะลุวัง เป็นเวลา 1 เดือน - ติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม โดยวางเงื่อนไขห้ามกระทำการกระทบสถาบันฯ ห้ามก่อความวุ่นวาย ตั้ง ‘พิธา’ เป็นผู้กำกับดูเเลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข รวมทั้งกรณีตำรวจยื่นถอนประกันตัวชั่วคราวผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุวัง หลังบุกก่อความวุ่นวายที่พรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ น.ส.ณัฏฐายังได้แนบรูปภาพพร้อมคอมเมนต์เพิ่มเติมว่า รูป ‘บุ้ง ทะลุวัง’ ที่ชูในสภาวันนั้น…วันนี้ไม่รู้จักกันแล้ว

'พปชร.' ลั่น!! พร้อมโหวตนายกฯ ให้ ‘เพื่อไทย’ แง้ม!! ชวนร่วม รบ. ก็รับ เป็นฝ่ายค้านก็ไม่ติด

(10 ส.ค. 66) ที่รัฐสภา นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนพรรคพลังประชารัฐในการโหวตนายกรัฐมนตรี ได้มีการทาบทามมาจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ตั้งแต่ที่ไปหารือกับพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการทาบทามอะไร แต่ในพรรคพลังประชารัฐได้หารือกันเห็นว่าประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาหลาย ๆ อย่าง เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประเทศควรมีรัฐบาล จึงเห็นว่าควรโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย โดยจะสนับสนุนทั้งพรรคไม่ขาดแม้แต่คนเดียว

“เราจะมาก็มาทั้งหมด จากที่ได้คุยกับพรรคเพื่อไทยคร่าว ๆ ได้หารือเกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ ที่อยากจะผลักดันร่วมกันไม่จะเป็นเรื่องที่ดินสปก. ภัยแล้ง การเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รวมถึงการดำเนินการต่อในนโยบายบัตรประชารัฐ ถือว่าได้รับการสนับสนุน ที่สำคัญคือเราเคยทำงานกับพรรคเพื่อไทยมา ผมก็เคยเป็นเด็กเก่าพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นว่าจะทำได้ ผ่านวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจทั้งหมด ที่สำคัญที่สุดก่อนหน้านี้ในช่วงการโหวตแคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล ผมก็ได้รับการประสานจากทางพรรคก้าวไกลมาให้ช่วยโหวตได้หรือไม่ ผมว่าก็ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก วันนี้พวกเราพร้อมที่จะทำให้บ้านเมืองก้าวข้ามปัญหาเหล่านี้ไป” นายไผ่ กล่าว

เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายไผ่ กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ การเข้าร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องเล็ก ขอให้ผ่านตรงนี้ไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน ถ้าพรรคเพื่อไทยทำได้ดีก็ว่าไป ถ้าเรามีโอกาสเราก็พร้อมทำเต็มที่ แต่ถ้าไม่มีโอกาสเราก็พร้อมตรวจสอบเต็มที่

เมื่อถามว่าเงื่อนไขพรรค 2 ลุง ที่กำลังเป็นปัญหาสำหรับพรรคเพื่อไทย จะเป็นประเด็นหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เรายังไม่ได้คุยถึงการร่วมรัฐบาลเลย เราพูดถึงนโยบาย พรรคตนก็สนับสนุนอยู่แล้ว มีลุงไม่มีแล้ง ยืนยันว่าไม่มีการตกลงร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เราจะสนับสนุนให้มีการจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน 

เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทราบหรือยินยอมแล้วหรือไม่ว่าจะโหวตนายกฯ ให้พรรคเพื่อไทย นายไผ่ กล่าวว่า ตนว่าเราคุยเรื่องนโยบายกันดีกว่า การให้สัมภาษณ์ของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็บอกแล้วว่าพร้อมนำนโยบายของแต่ละพรรคมาทำตนก็เห็นว่าเป็นข้อดี เพราะหากเว้นไป 10 เดือนเราไม่มีรัฐบาล สู้มีรัฐบาลไป 10 เดือนแล้วค่อยว่ากันดีกว่าหรือไม่

เมื่อถามว่าการโหวตให้พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ไม่มีข้อแม้ ข้อเสนออะไรทั้งสิ้น เมื่อถามย้ำว่ามีการแจ้งไปยังพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ไม่ต้องแจ้ง เราก็ออกมาเต็มที่

เมื่อถามว่า จะโหวตให้ทั้ง 40 คนเลยใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า พวกเราไปกันทั้งหมด ถามย้ำว่า ไปกันทั้งหมดถือเป็นมติพรรคหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า วันนี้เป็นจุดยืน ถ้าเป็นมติมันเป็นทางการที่ต้องมาแถลง แต่วันนี้เราคุยกันแล้วว่าจะสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เผลอ ๆ จะไปหาเสียงให้ด้วย

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้อะไร นายไผ่ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายหลายอย่างที่ได้ทำ และนโยบายที่ไปพูดกับชาวบ้านแล้ว กำแพงเพชรเราได้ สส.ยกจังหวัด ชาวบ้านคาดหวัง เราต้องทำตามที่พูด ประเทศจะได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะพรรคเพื่อไทยพูดเองว่าถ้าได้จัดตั้งรัฐบาล นโยบายดี ๆ  หลายอย่างจะทำให้สำเร็จ

เมื่อถามว่า หากโหวตให้มีเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลภายหลังหรือไม่ นายไผ่ กล่าวยืนยันว่า เรายังไม่ได้คุยกันเลย สิ่งจำเป็นตอนนี้คือต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน 

เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐโหวตให้ แต่ต้องไปเป็นฝ่ายค้านก็รับได้ใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า อย่างไรก็ได้ไม่มีข้อแม้อะไรทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร จะโหวตให้ด้วยหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เรามาทุกคน

เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ว่าสุดท้ายจะโดนพรรคเพื่อไทยหลอก นายไผ่ กล่าวว่า เราไม่ได้โดนหลอก เราไม่คาดหวังก็จะไม่ผิดหวัง ส่วนถ้าพรรคเพื่อไทยจะทาบทามร่วมรัฐบาล เราก็พร้อมเต็มที่ เพราะเราเป็นรัฐบาลมาแล้ว หากช่วยประเทศตรงไหนได้เราก็พร้อม

‘สส.โตโต้’ ชงสภาฯ ตั้ง กมธ. สอบสลายม็อบสามนิ้ว สืบหาข้อเท็จจริงกรณี จนท.ใช้กำลังในการควบคุมฝูงชน

(10 ส.ค. 66) นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ ‘โตโต้’ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อดีตหัวหน้าการ์ดวีโว่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า…

“โตโต้ เอาจริง เสนอสภาฯ ตั้ง กมธ.วิสามัญ ตรวจสอบมาตรการสลายการชุมนุมที่ผ่านมา

นายปิยรัฐ จงเทพ ผู้แทนราษฎร เขตพระโขนง บางนา พรรคก้าวไกล ได้ยกร่างญัตติเสนอขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ชื่อ “คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณามาตรการควบคุมฝูงชน และแสวงหาข้อเท็จจริงการสลายการชุมนุมอัน เนื่องมาจากเหตุการณ์การชุมนุมของเยาวชน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ตั้งแต่ พ.ศ. 2563 ถึง พ.ศ. 2565”

โดยวัตถุประสงค์ เพื่อคณะกรรมาธิการชุดนี้จะได้ทำหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริงในกระบวนการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังสลายการชุมนุมนับครั้งที่ถูกรายงานไว้กว่า 66 ครั้ง อันนำมาสู่การสูญเสีย บาดเจ็บ และมีประชาชนถูกดำเนินคดีนับพันราย

หวังว่าสิ่งที่จะได้นำมาถกแถลงในคณะกรรมาธิการชุดนี้ จะมีทั้งข้อเท็จจริง ข้อมูลเชิงลึก แผนปฏิบัติการ และขั้นตอน มาตรการควบคุมฝูงชนต่างๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้บทสรุปร่วมกัน และถอดเป็นรายงานเสนอต่อสภาฯ ต่อไป

การเสนอญัตติตั้ง กมธ. ครั้งนี้อยู่ในขั้นตอนการขอรายชื่อ สส. จำนวน 25 คน เพื่อลงนามสนับสนุน ซึ่งขณะนี้ได้มี สส.พรรคก้าวไกลลงนามครบแล้ว และจะนำเสนอส่งสภาฯ พิจารณาบรรจุญัตติตามขั้นตอนต่อไป”

‘ภูมิธรรม’ ปัดขอก้าวไกลช่วยโหวตเลือกนายกฯ มั่นใจ มีเสียงเพียงพอ ลั่น!! ขอให้รอดูผลวันจริง

(10 ส.ค. 66) ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยไปขอเสียงพรรคก้าวไกลให้ช่วยโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มั่นใจเสียงสนับสนุนของ สว.ว่าจะได้ตามจำนวนหรือไม่ ว่า…

“ไม่ใช่ครับ เสียงมีพอ พร้อมทุกอย่าง ขอให้รอดูในวันโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งต้องรอหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้ง โดยให้รอดูผลการโหวตในวันนั้น”

เมื่อถามว่าการไปเชิญพรรคก้าวไกล จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลอื่นเกิดความระแวงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า ขอให้รอดูผลโหวต

ส่วนกรณีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความตอบโต้นายภูมิธรรม ด้วยข้อความที่ค่อนข้างรุนแรง ถือเป็นการกระทบกระทั่งกันหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็เป็นนานาทัศนะของแต่ละคน”

เมื่อถามว่า นางอมรัตน์ยังเป็นน้องที่น่ารักอยู่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็เหมือนเวลาเราบอกกับเด็กตัวเล็กๆ ว่า น่ารักน่าชัง”

‘อ.เจษฎ์’ เตือน!! ‘ก้าวไกล’ ต้องรีบปราม ‘ชาวด้อมก้าวร้าว’ ชี้!! ยิ่งปล่อยให้อาละวาด ยิ่งสร้างภาพด้านลบให้พรรค

(9 ส.ค. 66) รองศาสตราจารย์เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มทะลุวังว่า ในความเป็นพรรคก้าวไกล มันมีเรื่องของกลุ่มทะลุวัง ที่กำลังเป็นประเด็นกันอยู่ ไปจนถึงเรื่องของคณะก้าวหน้า 

สำหรับพรรคก้าวไกลเอง ปัจจุบันนี้ ไม่ได้รับการยอมรับในสายตาของพรรคการเมืองด้วยกัน ยกเว้นกลุ่มที่ต้องเข้าไปจับมือด้วยความจำเป็น ซึ่งมีไม่มากนัก ขณะที่ภาพรวม พรรคส่วนใหญ่ ไม่เอาด้วยกับก้าวไกล ด้วยประเด็นของการที่พรรคก้าวไกล มุ่งมั่นจะแก้ไข ยกเลิก ม.112 เรื่องนี้หลายพรรคเขาไปต่อด้วยไม่ได้ เพราะมันกระทบกันหมด กระเทือนกันหมด 

นอกจากนั้น อย่างที่บอกว่าพรรคก้าวไกล มันมีคณะก้าวหน้า และกลุ่มนู้นกลุ่มนี้เต็มไปหมด ซึ่งการทำงานของพรรคก้าวไกลคือ การไม่ผูกมิตร สวนทางกับธรรมชาติการเมือง ที่มันไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร แน่นอน เมื่อใครเห็นก้าวไกล ก็ไม่อยากทำงานด้วย

“มวลชนของพรรคก้าวไกล คือ ตัวฉุดพรรค ให้ดิ่งต่ำลง ยกตัวอย่าง ถ้าพรรคก้าวไกล มีความคิด มีชุดอุดมการณ์ เขาปรับแต่งได้ เรื่องการทำงานกับฝ่ายต่าง ๆ ประสบการณ์จะสอนเขาเอง เรื่องท่าทีทางการเมือง เขาจะเข้าใจ เมื่อมีพัฒนาการ เมื่อมีวุฒิภาวะ ว่าจะทำอย่างไร ให้ได้ในสิ่งที่ตั้งใจ แต่มวลชน ซึ่งไม่ว่าจะช่วงอายุไหน ก็เห็นความก้าวร้าว และไม่ย่อท้อในการสร้างเงื่อนไขไปสู่ความขัดแย้ง นี่คือ สิ่งที่แบกก้าวไกล ไปพร้อม ๆ กับดึงรั้งพรรคก้าวไกล มวลชนพรรคก้าวไกล มีความคิดดี ๆ ก็มาก เช่น การปราบทุจริต การทำลายระบบทุนผูกขาด การทำลายเรื่องเส้นสาย แต่ปัญหาคือ วิธี ที่เขามุ่งจะใช้ความรุนแรงในการทำลาย และสิ่งใหม่มาแทนที่ มันถึงได้เกิดการไล่ล่า” รองศาสตราจารย์เจษฎ์ กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล ต้องรับผิดชอบกับพฤติกรรมของมวลชนหรือไม่ รองศาสตราจารย์เจษฎ์ กล่าวว่า ตนว่าคนทำงานการเมือง เข้าไปนั่งในสภา คงไม่อยากไปไล่ล่าใคร เขาแค่ต้องการแบ่งแยก แล้วปกครอง แต่ที่สุดแล้ว พรรคการเมืองหนึ่งจะต้องรับผิดชอบต่อกองเชียร์ของตน ในแง่ของการเข้าไปห้ามปรามไม่ให้เกิดความก้าวร้าวรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าต้องจัดการในเรื่องนี้ก่อน

‘อดีตคนพรรคส้ม’ ข้องใจหลัง ‘พลอย’ แฉ ‘บุ้ง เนติพร’ ตั้งคำถามชวนคิด ‘นายทุน’ หนุน ‘แก๊งทะลุวัง’ คือใคร?

จากกรณี น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส หรือ พลอย ทะลุวัง อดีตแกนนำกลุ่มทะลุวัง ออกมาวิจารณ์การเคลื่อนไหวของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ซึ่งรับสมอ้างเป็นผู้ปกครองเพื่อใช้ประโยชน์จากเยาวชนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีเบื้องหลังในการขอทุนเคลื่อนไหว แต่เงินทุนกลับไม่ถึงเยาวชน

ล่าสุด (9 ส.ค.66) นายคริส โปตระนันทน์ หัวหน้าพรรคเส้นด้าย และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงประเด็นดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก คริส โปตระนันทน์ - Chris Potranandana ว่า…

"ผมเคยคิดนะ ว่ามันแปลกมากที่กลุ่มนี้ทำกิจกรรมได้ตรงจังหวะการเมือง คล้าย ๆ กับเป็น organized group แต่ผมยังเชื่อว่ามีเด็กบางส่วนที่อาจจะเข้าร่วมด้วยใจบริสุทธิ์จริง ๆ แต่คำถามคือ แล้วส่วนที่ organized เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ 

วันนี้เราเจอ organizer (คนจัดการ) แล้ว คำถามที่สำคัญที่สุดคือแล้วใครคือ financier ใครให้ทุนบุ้ง และกลุ่มทะลุวัง"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top