Sunday, 5 May 2024
POLITICS

‘ส.ว.’ แนะ 'อุ๊งอิ๊ง' เร่งเสริมกระดูกการเมือง แล้วค่อยกลับมาอีกทีในสถานการณ์โลกแบบนี้

(13 ก.พ. 66) นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ระบุ ส.ว.พร้อมแลนด์สไลด์ไม่โหวตเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ไปรวบรวมเสียงให้เกิน 376 เองว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่เชื่อว่า ส.ว.ส่วนใหญ่จะเคารพเสียงของประชาชน และทำเพื่อบ้านเมือง ส.ว.จะดูว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ไม่มีเบื้องหลังทุจริต นำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการความเห็นของนายวันชัย ในเรื่องดังกล่าวจะกระทบภาพลักษณ์ ส.ว.หรือไม่ เพราะขณะนี้ ส.ว.ถูกกระแสตีกลับว่าไม่เคารพเสียงประชาชน นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วง สมาชิกท่านอื่น ให้ไปถามที่เจ้าตัว ส่วนที่มองว่า ส.ว. ไม่เคารพเสียงประชาชนนั้น ยอมรับว่ากังวล ประชาชนและสื่อมวลชนจะเข้าใจผิดว่า ส.ว. คิดแบบเดียวกันทั้งหมด

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า กรณีพรรคเพื่อไทยจะชู น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี หากมีเสียงเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นลำดับที่ 1 ส.ว.จะพร้อมโหวตให้หรือไม่นั้น ต้องขอดูก่อน เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์และได้ ส.ส.เกินครึ่งก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ การรวบรวมเสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรี 376 เสียงนั้นต้องขอดูก่อน ว่า หากใกล้ ๆ น.ส.แพทองธาร สามารถปรับลุคและมีผลงาน มีนโยบายที่ดีอาจจะพิจารณาอาจจะพิจารณาหน้างานอีกครั้ง

‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่ตรวจแผนพัฒนาแหล่งน้ำ - มอบที่ทำกิน ขจัดความยากจน - พา ปชช. ก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำ

(13 ก.พ. 66) เวลา 14.00 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมว.ดีอีเอส, รมว.ศธ., รมช.คลัง, รมช.กห. และคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อติดตามการพัฒนาทรัพยากรน้ำ และแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี

โดยเมื่อเดินทางถึง ที่ทำการโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ได้ร่วมประชุมหารือและรับฟังการบรรยายสรุป จาก ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผวจ., รองเลขาฯ สทนช., อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล, กรมชลประทาน ,ผอ.สคทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปภาพรวม จ.กาญจนบุรี อยู่ในพื้นที่ ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำท่าจีน ปัญหาน้ำท่วมมักเกิดจากน้ำหลากจากเทือกเขาต้นน้ำ ลำน้ำระบายได้ช้า เนื่องจากมีสิ่งกีดขวาง และลำน้ำตื้นเขิน ปัญหาภัยแล้งเกิดจากภาวะฝนน้อย และฝนทิ้งช่วง ทำให้ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร และความต้องการจากการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ทั้งงบปี 61-65, งบกลางปี 65 และงบบูรณาการปี 66 รวมทั้งอีก 3 โครงการสำคัญ วงเงิน 16,669 ล้านบาท ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์ 75,469 ครัวเรือน ได้แก่ โครงการขยายความจุอ่างเก็บน้ำลำอีซู และโครงการผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ระยะที่ 1 และโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ รวมทั้งดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล และขยายระบบส่งน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะ อ.เลาขวัญ และอ.ห้วยกระเจา ซึ่งประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดเรียกว่าเป็น ‘อีสาน จ.กาญจนบุรี’

'เพื่อไทย' ขู่!! เตรียมเปิดเวทีนอกสภาฯ แก้เกมรัฐบาลไม่ร่วมองค์ประชุมล้มซักฟอก

‘เพื่อไทย’ แก้เกมรัฐบาล ทำองค์ประชุมล่ม หนีซักฟอก ขู่!! เปิดอภิปรายนอกสภาฯ เตรียม35 ขุนพลรอถล่ม พร้อมแฉ ‘ทุจริต-ธุรกิจสีเทา’ ย้อน!! ส.ว.สายแข็ง เคารพเสียงประชาชน ควรโหวตนายกฯ หากเพื่อไทยได้เสียงเกินครึ่ง

(13 ก.พ. 66) ที่พรรคเพื่อไทย คณะแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่มีบทบาทต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ตามที่มีการบรรจุญัตติกำหนดการอภิปรายวันที่ 15-16 ก.พ. ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการเตรียมความพร้อม

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยไม่มีการลงมติ วันที่ 15-16 ก.พ. ใช้เวลารวม 32 ชั่วโมง การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในสมัยอายุของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ในญัตติโดยรวมจะสอบถามข้อเท็จจริง เสนอแนะแก้ปัญหาจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 ประการ ซึ่งมีข้อเท็จจริงปรากฏว่า ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน รัฐบาลต้องตอบคำถามให้กับพี่น้องประชาชนในหลายเรื่องที่ไม่มีความชัดเจน เช่น กรณีธุรกิจสีเทา ภัยด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี การทุจริตคอร์รัปชัน จะถูกหยิบยกขึ้นมา ขอตั้งชื่อการอภิปรายครั้งนี้ว่า ยุทธการกระชากหน้ากากคนดี มาจากที่สื่อมวลชนตั้งชื่อรัฐบาลหน้ากากคนดี เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้ว่า หน้ากากคนดีที่แท้จริงเป็นอย่างไร

นพ.ชลน่านกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ได้รับรู้มาคือจะมีการปิดกั้นไม่ให้อภิปรายจากการที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะไม่เป็นองค์ประชุม ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น เชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนจะไม่กระทำการใดที่เป็นการทำลาย แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง พร้อมจะกำหนดวันอภิปรายนอกสภา ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลที่ไม่มีโอกาสตอบข้อเท็จจริง หากเกิดกรณีดังกล่าวจริงอาจถือเป็นการปิดกั้นไม่ให้มีการตรวจสอบ เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะเตรียมพร้อมไว้ และจะเป็นประเด็นที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนได้อย่างดียิ่ง โดยเฉพาะคนที่เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่ทำตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

‘ดร.เสรี’ แนะ 6 ข้อ ‘FC ลุงตู่’ ต้องรีบทำ หากอยากได้นายกฯ ชื่อ ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’

(13 ก.พ. 66) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร ซึ่งมีจุดยืนทางการเมือง สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ถ้ารักลุงตู่ อยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯต่อ Fc ทั้งหลายพึงปฏิบัติดังต่อไปนี้

1. ช่วยกันเผยแพร่ผลงานของลุงตู่ อาจจะ Post อาจจะ share ที่คนอื่น Post มา

2. ช่วยกันเขียน comments เพิ่มเติม เพื่อให้มีการสนทนาเรื่องดี ๆ ของลุงตู่

3. ช่วยกัน repurpose เรื่องดี ๆ ของลุงตู่จาก platform หนึ่ง ไปยัง platforms อื่น ๆ เพื่อให้เข้าถึงคนที่ใช้ platform ที่ต่างกันเป็นจำนวนมากขึ้น

'อนุชา' ปัด 'พปชร.' ล็อบบี้พรรคร่วมฯ ล้มอภิปราย ม.152 ชี้ ที่บรรยากาศเงียบเหงา เพราะทุกคนโฟกัสการหาเสียง

(13 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 09.30 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาและคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ลงชื่อเข้าร่วมการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ ว่า ขอรับประกันว่าไม่มีเรื่องนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่กลัวการตรวจสอบ เนื่องจากเป็นเรื่องการเมืองตามปกติ ดังนั้น ต้องขึ้นอยู่กับสภาฯ แต่ตนเองก็พยายามที่จะดูแลอยู่แล้ว ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง แต่ก็ยอมรับว่า ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีปัญหาเกิดขึ้น ทำให้สภาฯ ไม่ครบองค์ประชุม และต่างฝ่ายต่างโยนปัญหากันไปมา ซึ่งเรื่องนี้ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทำให้สภาฯ ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

'ชัยธวัช' ดักคอ 'ส.ส.รัฐบาล' อย่าคิดหนีอภิปราย 152 ลั่น!! 'ก้าวไกล' พร้อมจัดหนัก เช็กบิลรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง

(13 ก.พ. 66) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล อาจไม่อยู่เป็นองค์ประชุมในการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 15-16 ก.พ. ที่จะถึงนี้ เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ถ้าทำจริง จะยิ่งเปลือยประจานตนเอง กระแสเสื่อมศรัทธาต่อฝ่ายรัฐบาลจะเพิ่มสูงขึ้นทันที เพราะการอภิปรายเป็นกลไกปกติในการตรวจสอบรัฐบาล

และขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสให้รัฐบาลได้ชี้แจงประเด็นที่สังคมสงสัย โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมามีหลายเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น หากการอภิปรายมาตรา 152 ครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง กลับไม่ร่วมมือแม้แต่เป็นองค์ประชุม ประชาชนจะยิ่งเห็นว่ารัฐบาลเป็นวัวสันหลังหวะ และข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านเป็นความจริง

'เพื่อไทย' โว!! เตรียมข้อมูลอภิปรายรัฐบาลแน่น!! ท้า 'บิ๊กตู่' หากมั่นใจบริสุทธิ์ มาเจอกันในสภาฯ

(12 ก.พ. 66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 วันที่ 15-16 ก.พ.ว่า เตรียมขุนพลไว้อภิปราย 18 คน อาจจะมีเพิ่มขึ้นหรือลดลงบ้าง หากมีข้อมูลซ้ำซ้อนก็จะถอยออก ยืนยันว่าพร้อมเต็มที่เพราะได้มีการซักซ้อมมาแล้ว และจะอภิปรายตามเวลาที่กำหนด พรรคหวังว่าการอภิปรายครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลทำอะไรไม่ดีบ้าง ปกป้องคนทำผิดอย่างไร เกิดความไม่ชอบมาพากล ทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างไร แต่พี่น้องประชาชนจะอย่างไรก็อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า นายวิษณุ ระบุว่าหากองค์ประชุมไม่ครบหรือสภาฯล่ม ถือว่าจบการอภิปรายและสิ้นสุดญัตติทันที นายสมคิด กล่าวว่า นายวิษณุ พูดอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ก็มีความใกล้เคียงบ้าง เพราะสภาฯล่มญัตติไม่ได้ตกไปในวันนั้นทันที สมมุติว่าวันที่ 15 ก.พ. องค์ประชุมไม่ครบ แต่ญัตติก็ยังค้างสภาฯอยู่ จากนั้นวันที่ 16 ก.พ. มาประชุมใหม่ก็ใช้ญัตติเดิมเข้ามาอภิปรายต่อ ดังนั้นเมื่อสภาฯล่มเราก็ไม่ได้พูดเท่านั้นเอง แล้วสภาฯปิดสมัยประชุมญัตติก็ตกไปโดยปริยาย รวมทั้งวันที่ 23 ก.พ. เป็นอาทิตย์สุดท้ายของสภาฯชุดนี้ด้วย

'คริส' ยอมรับ!! ก้าวไกลมักจุดประเด็นดีๆ ให้สังคม แต่ถ้าอยากให้พรรคเข้มแข็ง ต้องทําให้เหมือนที่พูดด้วย

หลังจาก ‘คริส โปตระนันทน์’ ประกาศลาขาดกับพรรค ‘ก้าวไกล’ แล้ว เรื่องดรามาต่าง ๆ ก็ตามมามากมายเลยทีเดียว คนในพรรคก้าวไกลก็ออกมาให้ข่าวกันตามสไตล์ของตัวเอง บ้างก็บอกว่าเสียดายคนแบบคริส แต่บางคนกลับบอกว่า ไม่เคยคิดเสียดายคนไม่มีสปิริต 

ล่าสุด ‘คริส โปตระนันทน์’ ได้ไปให้สัมภาษณ์ที่ช่อง Voice TV ในรายการ Talking THAILAND โดยบางช่วงบางตอนในการสัมภาษณ์คริสได้พูดถึงข้อดีที่มีพรรคก้าวไกล ความควาดหวังต่อพรรค และเรื่องนโยบายของพรรค โดยระบุว่า…

“ผมพูดด้วยความสัตย์จริง ผมอยากให้พรรคก้าวไกลดีกว่านี้ แล้วการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล มีคุณูปการกับสังคมหลายหลายเรื่อง สร้างให้เกิดการถกเถียงกันในประเด็นหลากหลายที่พรรคการเมืองอาจจะไม่เคยมาคุยเรื่องพวกนี้เลย เมื่อสมัยก่อน ผมสอนกฎหมายป้องกันการผูกขาด ไม่มีใครมานั่งคุยเรื่องการผูกขาดกันนะในประเทศไทย ไม่มีใครเคยสนใจลงวิชานี้เลย พรรคก้าวไกลทําให้ประเด็นเรื่องการผูกขาด มันกลับขึ้นมาเป็นประเด็นฮอตฮิตในสังคม ทําให้ประเด็นเรื่อง LGBT กลับมาคุยกันว่ามันเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ทําให้ประเด็นที่ต้องมาคุยกันเรื่องรัฐสวัสดิการ มันน่าคุย ปรากฏว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลแสดงออกเป็นสิ่งที่ดี แต่วันนี้ผมจะบอกว่าถ้าเราจะทําพรรคให้มันเข้มแข็ง มันต้องมาดูโครงสร้างภายในด้วย ทําให้มันเหมือนกับที่เราพูด แค่นั้นเอง”

ส่วนในเรื่องของนโยบาย คริส ได้กล่าวไว้ว่า “มันมีปัญหามากด้วย เพราะว่าในสายตาผมนะ นโยบายที่ออกมาจากพรรคการเมืองที่จะทําให้ประชาชน ถ้าไม่ใช่นโยบายห้องแอร์ มันควรจะมาจากผู้สมัคร หรือว่านักการเมืองท้องถิ่น ลงพื้นที่คลุกคลีกับประชาชน แล้วได้รับปัญหารับฟังมา ให้รู้สึกด้วยนะ ว่ามันมีปัญหา เอากลับไปบอกที่พรรค ไปบอกนักนโยบายนี่แหละ ไปบอกนักรบห้องแอร์นี่แหละ ให้เขาคิดแผนคิดอะไรออกมา แล้วเมื่อได้นโยบายนั้น ต้องส่งกลับมาที่ท้องถิ่น ก็อย่างน้อยก็ส่งกลับมาที่เขตให้เอาไปคุยกับประชาชนว่า มันใช่หรือไม่ใช่. มีบวกหรือมีลบ แล้วสะท้อน feedback กลับไป แล้วเมื่อสะท้อน feedback กลับไป พรรคก็เอา feedback นั้น ไปร่างเป็นนโยบายชุดสุดท้าย แล้วก่อนที่จะเอามาหาเสียงเลือกตั้ง มันก็ควรจะผ่านคณะกรรมการนโยบาย ที่ได้รับการเลือกจากที่ประชุมใหญ่ในพรรค”

‘สมคิด’ เตือน รบ. อย่าหันหลังหนีอภิปราย 152 ชี้!! ควรใช้โอกาสนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับ ปชช.

(11 ก.พ.66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค จะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15-16 ก.พ. หากเป็นเช่นนั้นจริงก็เป็นการเล่นเกมการเมืองเพื่อป้องกันตัวเอง และไม่เปิดโอกาสให้พรรคร่วมและฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาลได้ แม้ญัตติอภิปราย 152 จะไม่ตกไป แต่ฝ่ายค้านไม่สามารถเปิดการอภิปรายได้ ดังนั้นหากพรรคร่วมรัฐบาลจะใช้วิธีการนับองค์ประชุมมาเป็นเกมการเมือง เพื่อต้องการให้สภาล่มจากการไม่ครบองค์ประชุม ไม่สามารถประชุมต่อไปได้ ก็จะเลื่อนญัตติออกไปเรื่อย ๆ ในครั้งต่อไป หากยังไม่ครบก็ไม่สามารถเปิดประชุมได้ จนกว่าองค์ประชุมจะครบจึงจะสามารถเปิดการอภิปรายได้ การทำเช่นนั้นไม่ดีกับทุกฝ่าย   

'ลุงป้อม' จับมือ 'นายกฯ มาเลย์' ร่วมจบปัญหาภาคใต้ ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช. เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

(10 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ให้การต้อนรับและหารือร่วมกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และคณะ ณ โรงแรมเชอราตัน

ซึ่งภาพรวมความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่แนบแน่นระหว่าง พล.อ.ประวิตร และนายอันวาร์ ส่งผลให้บรรยากาศการพูดคุยเป็นกันเองและมีความจริงใจต่อกัน โดยเฉพาะประเด็นด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต่างเห็นพ้องร่วมกัน ให้เกิดความสงบไม่มีความรุนแรงและเปิดพื้นที่พัฒนาร่วมกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน โดยมุ่งมิติทางสังคม วัฒนธรรม และชุมชน ควบคู่ไปกับความมั่นคง ซึ่งจะมีการประสานการทำงานร่วมกันอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานด้านการข่าว

‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ โต้ ‘คริส’ ใส่ร้ายก้าวไกล ลั่น!! คนแบบนี้ไร้สปิริต ไม่เคยคิดเสียดาย

(10 ก.พ. 66) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ตอบโต้นายคริส โปตระนันทน์ อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล ว่า…

“ในส่วนตัวไม่เคยเสียดายคนอย่างคริส โปตระนันทน์ การใส่ร้ายพรรคไม่ใช่สปิริตที่ดี เช่น กล่าวหาว่าไม่มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค”

‘โรม’ ย้อน ‘ตู่’ คสช. เคยนิรโทษกรรมตัวเอง แซะ!! เลิกสั่งสอนความสามัคคีจอมปลอมให้ ปชช.

‘โรม’ ย้อน ‘ประยุทธ์’ จำได้ไหม คสช. นิรโทษกรรมตัวเอง เลคเชอร์ความปรองดอง ไม่ใช่สร้างสามัคคีแบบปลอม ๆ แต่ต้องนิรโทษกรรมประชาชน ไม่นิรโทษกรรมผู้มีอำนาจ

(10 ก.พ. 66) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นการนิรโทษกรรม ระบุทุกคนที่ทำผิดกฎหมาย ต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม ถ้านิรโทษกรรมให้คนบางกลุ่ม แสดงว่าต้องนิรโทษกรรมให้คนทั้งคุกเลยหรือไม่

รังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องถือเป็นความกล้าหาญของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สอนคนอื่นให้เคารพกฎหมาย ทั้งที่ตัวเองเป็นอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ กระทำความผิดที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง แต่ยังลอยหน้าลอยตาเป็นนายกฯ มาได้จนถึงปัจจุบัน เพราะเขียนนิรโทษกรรมตัวเองและพวกลงในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 279 แม้ประชาชนนับแสนคนเคยเข้าชื่อขอแก้รัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว เพื่อเปิดทางให้มีการดำเนินคดีกับคณะรัฐประหาร แต่ก็ถูก ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ปัดตก จึงไม่รู้ว่าตอนที่พูดประโยคเหล่านั้นออกมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฉุกคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำมาก่อนบ้างหรือไม่

'ลุงป้อม' ปลื้ม!! แก้ปัญหาที่ดินทำกิน คืบเกือบ 8 หมื่นราย ย้ำ มุ่งหน้าทำต่อเนื่อง ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างยั่งยืน

วันนี้ (10 ก.พ. 66) เวลา 09.00 น. ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนา 'สานพลังยกระดับการขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดิน' ในโอกาสครบรอบ 2 ปี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)

รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน โดยเน้นกระจายการถือครองและการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ผ่านการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ในลักษณะแปลงรวม โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ บนกรอบแนวคิดที่ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ได้มีสิทธิทำกินและอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้ความมั่นใจในการประกอบอาชีพ สร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิต ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พอใจการขับเคลื่อนแก้ปัญหาจัดการที่ดิน และขอบคุณ สคทช. ที่ขับเคลื่อนแก้ปัญหาที่ดินมีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรมมาเป็นลำดับ ตั้งแต่ ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน โดยสามารถเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายไปแล้ว จำนวน 1,491 พื้นที่ เนื้อที่ประมาณ 5.7 ล้านไร่ ครอบคลุม 70 จังหวัด และสามารถจัดคนเข้าใช้ประโยชน์ให้ได้มีที่อยู่อาศัย มีที่ดินทำกิน เลี้ยงชีพได้แล้ว จำนวน 78,109 ราย

'อารยะ ชุมดวง' อดีต ส.ส. 5 สมัยร่วมทัพ ปชป. ยึด 4 ที่นั่ง 'ฟูลทีม' สุโขทัย เผยถูกใจนโยบายที่ดินทำกิน 'จุรินทร์' เปิดตัวสวมเสื้อสีฟ้าชื่นมื่น

ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายอารยะ ชุมดวง อดีต ส.ส. สุโขทัย 5 สมัย พร้อมทีมงาน ได้เข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง เพื่อแสดงความจำนงสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สุโขทัย ซึ่งนายจุรินทร์ได้ให้การต้อนรับและแสดงความยินดีกับการเข้าร่วมทำงานกับพรรค พร้อมกับมอบบัตรสมาชิกพรรคและมอบเสื้อแจ็คเก็ตพรรคให้

สำหรับนายอารยะ ชุมดวง เกิดที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย สำเร็จการศึกษา สาขาการปกครอง จากวิทยาลัยเคอร์รี่ สหรัฐอเมริกา ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุโขทัย สมัยแรกในปี 2526 จากนั้นได้รับเลือกต่อมารวม 5 สมัย เคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นอกจากนี้ นายอารยะยังเป็นนักการเมืองที่ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้านในพื้นที่ จ.สุโขทัย มาโดยตลอด

นายอารยะ กล่าวถึงสาเหตุที่มาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ว่า นอกจากความศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ยังเห็นว่าทีมงานประชาธิปัตย์ที่จังหวัดสุโขทัยมีความเข้มแข็งและสนิทสนมกับตนเป็นอย่างดี จึงต้องการมาช่วยกันทำให้ทีมประชาธิปัตย์สุโขทัยมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น  รวมทั้งพรรค ปชป. มีนโยบายโดนใจ ทั้งนโยบายแจกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี และนโยบายออกกรรมสิทธิ์ทำกิน ให้ผู้ทำกินในที่ดินของรัฐ เพราะเรื่องที่ทำกินถือเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกใจประชาชนเป็นอย่างมาก และยังมีรายละเอียดนโยบายอีกหลายอย่างที่ทราบว่าประชาธิปัตย์กำลังจะทยอยออกมา 

จุรินทร์ฯ เซ็นตั้ง นิพนธ์ฯ นั่งประธานสร้างเศรษฐกิจ ท้องถิ่น พัฒนาการค้า การลงทุน การเชื่อมโยงการตลาด พร้อมจับคู่ธุรกิจให้พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามหนังสือแต่งตั้งคณะทำงานกำหนดแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงพาณิชย์ โดยได้แต่งตั้งนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคณะทำงานฯ เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงติดตามและขับเคลื่อน การแก้ไขปัญหากทางเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็ง ด้านเศรษฐกิจของพื้นที่ ให้เกิดการยกระดับการค้า และการตลาด ให้กับกลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งด้านผลผลิต การพัฒนาผลผลิต เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมทั่วไปและอุตสาหกรรมฮาลาล พร้อมการเชื่อมโยงการตลาด โดยการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ กับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top