Monday, 17 June 2024
POLITICS

ศึกนี้มีที่มา!! หลัง 2 ตัวตึงก้าวไกลใส่กันยับ จนเจ้าของวิกต้องสั่งระงับ 'ห้ามปูด-ห้ามกัด'

ตลอด 2 วันมานี้ กรณีพิพาทระหว่าง 'พิธา-ปิยบุตร' ดุเดือดยิ่งกว่ามวยศึกวันทรงชัย ซัดดุเด็ดเผ็ดพริกยกสวน เมื่อตัวตึงใต้รั้วก้าวไกลอย่างพิธากับปิยบุตรกร้าวใส่กันอย่างหนัก แม้สุดท้ายวันนี้จะจูบปากกันเป็นที่เรียบร้อย

เรื่องนี้อยากขยาย...

บรรดาคนรักพรรคก้าวไกลตาปริบๆ เมื่อท่านหัวหน้าพรรค พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กร้าวใส่ท่าน ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เต็มคาราเบล ว่าให้เลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำได้แล้ว ส่วนปิยบุตรก็ฟาดกลับด้วยความแรงพอกันว่า พิธานั้นเอาดีใส่ตัว แต่เอาชั่วใส่ปิยบุตร แถมพูดขาวดำเป็นดำ พูดดำเป็นขาว

ก่อนหน้านี้ไม่นาน ปิยบุตรเปิดเกมว่า กระแสพรรคก้าวไกลไม่ไกลไปกว่านี้ มีแต่จะเกาะเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เพราะยุทธศาสตร์การนำพรรคในปัจจุบัน คิดว่าเรื่องนี้น่าจะทำให้พิธาคันคะเยอจนฟาดใส่ไม่ยั้ง

แต่พิธาก็สมฐานะนายโรงลิเก ที่ก่อนจะด่าต้องโหมโรงด้วยคำหวานโอ้โลม ท้าวความหลังครั้งหวานชื่นเราสามคนที่มี ธนาธร, ปิยบุตร และ พิธา เป็นแกนนำพรรคอนาคตใหม่ พอพูดหวานจบ ก็ตบปากใครบางคนทันทีว่า ในฐานะผู้นำพรรคย่อมรับการวิพากษ์วิจารณ์ได้ ตัวเองโดนมาตลอดสามปีที่เป็นหัวหน้าพรรค เข้าใจว่านี่เป็นอิสรภาพในการแสดงออก แล้วลำเลิกว่า ตนมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในวันที่พรรคไม่มีใคร

จากนั้นร่ายยาวว่าปิยบุตรต้องเลิกทำตัวมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ และต้องทำตัวเป็นมืออาชีพ 

ตรงนี้ป้าบเข้าให้!! เหมือนกระทืบกลางใจท่าน ดร. เพราะการถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นมืออาชีพ คือสิ่งที่ ปิยบุตรทนไม่ได้ มันเป็นการกระแทกจุดอ่อนแบบเต็มทีน ซ้ำพิธา ก็ยังย้ำอีกว่า ปิยบุตรควรทำตามที่ธนาธรเคยขอไว้ ฮั่นแน่...มีกั๊ก มีความลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพราะประโยคนี้แปลได้ว่า มีเรื่องลับอันเป็นพันธะสัญญาของธนาธร ปิยบุตร และพิธา ที่คนนอกไม่รู้นั่นเอง

พิธาปิดท้ายฝากถึงปิยบุตรว่า ขอให้ตนเองมีสมาธิในการทำงานให้พรรค แปลไทยเป็นไทยคือ ไม่เผือกนะครับ ขอให้พอได้แล้ว ชะเอิงเอิงเอย บัดนั้น เชิด!!

คาดว่าปิยบุตรอ่านเจอก็หัวร้อน เพราะพิธาแท็กไปหา เลยตะบึงแล่นเข้ามาตอบในเพจพิธาแบบจัดเต็ม 

แน่นอนว่าปิยบุตรเมนต์ยาวเหยียดตามสไตล์ โดยมีใจความเด็ดกล่าวหาพิธาปังๆ ว่า กำลังเอาดีเข้าตัว แต่เอาชั่วเข้าปิยบุตร แล้วร่ายยาวด่ากระทบจิกกัดตามธรรมชาตินิสัยของปิยบุตรเหมือนผ่านมา ชื่อหลวงประดิษฐ์วาทกรรมไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะจ๊ะ     

แต่สำนวนโวหารคุณหลวงประดิษฐ์วาทกรรมไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว ไม่เชื่อดูที่ปิยบุตรฟาดพิธากลับสิว่า ใครกันแน่ที่จับเสือมือเปล่า ใครกันแน่ที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ นั่นไง...มาแล้วตั้งสองสำนวน นี่ขนาดยังไม่เขียนชี้แจงนะ

ยี่ห้อปิยบุตรย่อมสุดฝีทีนเสมอ จิกกัดแซะทุกประโยค เช่น จิกพิธาว่าใจเสาะ พิธาน่ารังเกียจที่เขียนดำเป็นขาวขาวเป็นดำ กล่าวหาปิยบุตรว่าเป็นคนทำลายพรรค  แต่ตัวเองเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมากอบกู้พรรค อะไรประมาณนั้น
 
เรื่องนี้ร้อนถึงทนายหน้าหออย่างโรม อุตส่าห์ลงจากเหล่าเต๊งมาปกป้องลูกพี่ปิยบุตร ด้วยการพูดหล่อออกสื่อ แก้ตัวแทนว่า พรรคเราไม่มีความขัดแย้งกัน ไปตัดแว่นใหม่เถอะ โรม ไปห้างแว่นท็อป (บู้ต) เจริญก็ได้ มองลงมาจากดาวอังคารยังเห็นรอยร้าวในพรรคเลย 

นี่ยังไม่นับบรรดาคนเทพรรคก้าวไกลที่ออกมาแฉรัว ๆ ก่อนหน้านี้อีกเพียบ เพราะวันนี้ระดับตัวตึงพรรคชี้หน้าด่ากันแบบไม่เผาผี ยังกล้าพูดอีกเหรอว่าไม่มีความขัดแย้ง ว่าง ๆ โทรหาคริส ตัวท็อปอีกรายที่เพิ่งเทก้าวไกลบ้างเถอะ จะได้เลิกเพ้อเจ้อ เพราะพอเกิดปมขัดแย้ง คริส ยังออกมาแฉต่อเลยว่าวัฒนธรรมการซุกปัญหาใต้พรม ไม่ใช่ส่วนผสมของประชาธิปไตย วะว้าว...เท่านี้ก็เปิดไพ่ชัดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในพรรค

จริงๆ ปมขัดแย้งคุกรุ่นมาตั้งแต่ปีกลาย ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ฝีเพิ่งมาแตกเอาตอนนี้เอง...อย่างเมื่อกลางปี 2022 ปิยบุตร ประกาศปังดังลั่นว่า จะเขียนบทความยาวเป็นซีรีส์ที่เป็นข้อเสนอแนะไปถึงพรรคก้าวไกล...พอปลายปีก็เขียนตำหนิพรรคก้าวไกลว่า ไม่จริงใจในการแก้มาตรา 112 ตกลงว่าพรรคอยากแก้ ม.112 อย่างแท้จริงหรือว่าแค่ยกประเด็นมาเพื่อหาเสียงเท่านั้น...ตอนสิ้นปี ปิยบุตรเขียนบอกโลกว่า จากนี้ไปจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคก้าวไกลแล้ว เพราะอึดอัด พรรคนี้ไม่เปิดพื้นที่ให้ตัวเองได้ใช้สมอง แล้วย้ำว่าระวังคนจะเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย 

ปชป.เปิดแนวรุกภาคตะวันตก ! 'เฉลิมชัย-อลงกรณ์' นำทัพประชาธิปัตย์เปิดตัวผู้สมัครส.ส. เพชรบุรี 24 ก.พ. นี้เป็น จว.แรก มั่นใจปักธงสีฟ้าแม่พระธรณีทั้ง3เขต

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยวันนี้(23 ก.พ.)ว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าโดยจะส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตทุกจังหวัดซึ่งได้ทะยอยเปิดตัว ผู้สมัครส.ส. เป็นระยะ ๆ พร้อมกับประกาศนโยบายฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากชุดแรกไปแล้ว

สำหรับภาคกลางตะวันตกจะมีการเปิดเวทีปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดแรกในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00-18.00 น. ที่สนามหน้าโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศโดยดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและตนจะเปิดแนวทางการทำงานการเมืองและการพัฒนามิติใหม่ภายใต้ยุทธศาสตร์ "ก้าวใหม่เพชรบุรี ก้าวใหม่ประชาธิปัตย์" พร้อมด้วยคำประกาศเจตนารมณ์ของ 4 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้แก่นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันเพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อจังหวัดเพชรบุรี และขอโอกาสให้อดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์คือนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี และส.ส. บัญชีรายชื่อ 6 สมัย  ดร.กัมพล สุภาแพ่ง อดีต ส.ส.เขต 2 เพชรบุรี 3 สมัย และนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยพาณิชย์และอดีต ส.ส.เขต 3 เพชรบุรี 4 สมัยลงสมัคร ส.ส.เขต1-2-3และ นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขอดีต ส.ส.เขต 1 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2สมัยลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้กลับมาเป็นปากเสียงและตัวแทนของคนเมืองเพชรฯ.อีกครั้งหนึ่งดังเช่นที่ผ่านมา

'ไทย-มาเลย์' หารือ 'แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขฯ' หวังลดความขัดแย้ง-เพิ่มความสงบสุข ในพื้นที่ชายแดนใต้

(22 ก.พ. 66) คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ กับคณะผู้แทน BRN นำโดย อุซตาส อานัส อับดุลเราะห์มาน ได้พบหารือและพูดคุยแบบเต็มคณะ ครั้งที่ 6 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยมี พล.อ.ตันศรี ดาโตะซรี ซุลกีฟลี ไซนัล อะบิดิน เป็นผู้อำนวยความสะดวก และมีผู้เชี่ยวชาญร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ซึ่งผลการพูดคุยฯ มีความคืบหน้าที่สำคัญในการกำหนดแนวทางการปฏิบัติร่วมกัน และกรอบเวลาที่ชัดเจนในการแก้ไข ความขัดแย้งและนำสันติสุขสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย

1.) คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ และคณะผู้แทน BRN เห็นพ้องที่จะร่วมกันจัดทำ 'แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขแบบองค์รวม' หรือ Joint Comprehensive Plan towards Peace (JCPP) เพื่อเป็นแนวทางขับเคลื่อนการพูดคุย ให้คืบหน้าในรูปแบบที่ครอบคลุมและเป็นองค์รวม อีกทั้ง มีกรอบเวลาที่ชัดเจน ในการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของหลักการทั่วไป ของกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (General Principles of the Peace Dialogue Process) โดย JCPP จะมีเนื้อหาสำคัญ 2 ส่วน คือ การลดความรุนแรงในพื้นที่ และการจัดการปรึกษาหารือกับประชาชน เพื่อนำไปสู่การแสวงหาทางออกทางการเมือง

‘ครูแก้ว’ จวก ‘ส.ส.เพื่อไทย’ พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น ฉะ!! ไม่แสดงตนก็นั่งเฉยๆ - ไม่ควรใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น

(22 ก.พ. 66) ที่ประชุมสภาฯ เข้าสู่วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... วาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยทันทีที่เข้าสู่วาระได้ลงมติมาตรา 15 กระทั่งเวลา 14.00 น. ช่วงเสียบบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุมก่อนลงมติในมาตรา 15/3 เกิดปัญหาเดิมๆ ขึ้นต้องรอถึงครึ่งชั่วโมงจึงมีสมาชิกแสดงตนครบเป็นองค์ประชุม โดยมีทั้งสิ้น 211 คน จากสมาชิกทั้งหมดที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ 416 คน

อย่างไรก็ตาม ระหว่างรอสมาชิกแสดงตน นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลรู้สึกจะบางตามาก จึงอยากให้ประธานสั่งการพรรคของท่านให้มาประชุมด่วน ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น กล่าวตอบว่า พรรคของตนประชุมเต็มอยู่แล้ว แต่นี่ทุกฝ่ายบางตา ขอให้นายอุบลศักดิ์เลิกเสียที พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น

จากนั้นนายอุบลศักดิ์ โต้ว่า นายศุภชัยไม่ควรจะทำหน้าที่ประธาน เพราะประธานต้องพูดด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งนายศุภชัย ตอบกลับว่า ทุกฝ่ายมีสภาพบางตาหมด จะให้ไล่เรียงรายชื่อพรรคหรือไม่ นายอุบลศักดิ์พูดหลายครั้งจึงต้องเตือน ไม่ควรใส่ร้ายป้ายสีใคร นับจากนี้ส.ส.มีเวลาวันครึ่ง ถึงอย่างไรร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่จบอยู่ดี แต่ส.ส.ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จนถึงวาระสุดท้ายของสภาชุดนี้

นายอุบลศักดิ์ ประท้วงว่า ประธานต้องควบคุมการประชุม ไม่เสียดสีใส่ร้ายคนอื่น ความจริงตนไม่ได้ใส่ร้ายใครเลย เพียงเรียกร้องให้นายศุภชัยช่วยตามเพื่อนในพรรคของท่านมาเท่านั้น

‘ภูมิใจไทย’ ลั่น!! ไม่ถอย ‘ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ’ พร้อมเสนอใหม่ รบ.หน้า ฝาก ปชช. ร่วมหนุนต่อ

'ภูมิใจไทย' รับ 'ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ' ถกไม่ทันสมัยประชุมนี้ ฝาก ปชช. กาภูมิใจไทย ช่วยกันป้องไม่ให้กลับเป็นยาเสพติด ลั่น! สู้ต่อ นำกลับมาเสนอใหม่รัฐบาลหน้า

(22 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจาณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชง กัญชา พ.ศ. .... แถลงถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ในสภาฯ ว่า พรรคภูมิใจไทยยังยืนยันว่า ถึงแม้ว่าจะมีการปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2565 เราเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องมีร่างกฎหมายกัญชาเป็นการเฉพาะ เพื่อมาจำกัดการใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้สังคมมีความปลอดภัย รวมทั้งมีการสนับสนุนเรื่องการปลูก การนำเข้า ส่งออก การจำหน่ายต่าง ๆ รวมถึงการใช้ ซึ่งต้องควบคุมสังคมให้ดี

‘เพื่อไทย’ จี้ รบ. นำ พ.ร.บ.เช็ค ขึ้นพิจารณา ลั่น!! พร้อมร่วมประชุมถก กม. ที่ค้างหลายฉบับ

(22 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรค น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย และนายกฤษดา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย รับหนังสือจาก น.ส.สมหญิง รัตนุ่มน้อย เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร เร่งรัดพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเลิกพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 เพื่อให้มูลความผิดของผู้ที่ไม่มีเจตนาทุจริตในการสั่งจ่ายเช็ค มีโทษเพียงทางแพ่ง แต่ไม่มีโทษอาญาที่ต้องถูกปรับ และจำคุกอีกต่อไป

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ประสานงานกับผู้ได้รับผลกระทบมาสักระยะแล้ว โดยประชาชนที่เดือดร้อนได้เรียกร้องผ่าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ช่วยเร่งรัดกระบวนการทางกฎหมายที่ค้างในสภาฯ ซึ่งนพ.ชลน่าน ได้นำเรื่องปรึกษาประธานสภาฯ เพื่อหาวิธีการเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเดือดร้อนของประชาชน อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ (23 ก.พ.) เป็นวันสุดท้ายของการประชุมสภาฯ ในสมัยประชุมนี้ ตนจึงหวังว่าจะมีการเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นว่ากฎหมายที่ค้างอยู่หลายฉบับเป็นสิ่งสำคัญ พวกเราส.ส.พรรคเพื่อไทย ยินดี และพร้อมทำงาน ซึ่งหากพิจารณาวาระแรกได้ เมื่อรัฐบาลหน้าเข้ามาค่อยว่ากันต่อ พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ถ้าเลือกตั้งเสร็จแล้วพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะยืนยันกฎหมายฉบับนี้ เพื่อแก้ไขให้ประชนชนที่ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 5 ล้านราย

‘บิ๊กป้อม’ โชว์ฟิต ลงพื้นที่ 3 จว. ก่อนยุบสภาฯ ลุยตรวจน้ำ ‘อุดรฯ-หนองคาย-เลย’ 24 ก.พ.นี้

(22 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีกำหนดการลงพื้นที่จ.อุดรธานี จ.หนองคาย และจ.เลย ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยจะเดินทางไปตรวจติดตามอ่างเก็บน้ำลำห้วยเชียงตอนบน ต.ขอนยูง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ในเวลา 10.30 น. จากนั้นเดินทางไปตรวจติดตามการบริหารการจัดการน้ำ จ.อุดรธานี พร้อมทั้งมอบนโยบายและพบปะประชาชน ที่โรงเรียนภูพานวิทยา ต.ของยูง อ.กุดจับ

จากนั้นเวลา 13.50 น. พล.อ.ประวิตร เดินทางสู่ จ.หนองคายเพื่อตรวจติดตามโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง กรมชลประทาน อ.ท่าบ่อ จากนั้นเดินทางไปตรวจติดตามการบริหารการจัดการน้ำ จ.หนองคาย พร้อมมอบนโยบาย พบปะประชาชนในพื้นที่และผู้นำท้องถิ่น และรับเรื่องแก้ปัญหาน้ำประปาเพื่อการอุปโภค-บริโภคของ อ.โพธิ์ตาก ที่ลานวัฒนธรรม เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ และเดินทางไปตรวจติดตามโครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ

ตี๊ต่าง!! ‘ปิยบุตร’ VS ‘พิธา’ ซัดกันไปมา ยังกะ ‘จูเลียส ซีซาร์’ VS ‘บรูตุส’

ต่อกรณีของ ‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดวิวาทะกับ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผ่านสมรภูมิเฟซบุ๊ก โดยมีผู้สันทัดกรณีและแฟนคลับของแต่ละฝ่ายเฝ้าติดตามด้วยความระทึกในหัวใจกับศึกสายเลือดครั้งนี้เป็นจำนวนมาก เพราะแม้ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ตัวพ่อลงทุนออกโรงหมายหย่าศึกด้วยตนเองแล้ว แต่ดูเหมือนทั้งสองยังไร้ทีท่าจะรามือกันแต่อย่างใด

ผู้ชมริงไซต์บางคนบอกนึกถึง ‘จูเลียส ซีซาร์’ (Julius Caesar) รัฐบุรุษแห่งกรุงโรม กับ ‘มาร์คุส ยูนุส บรูตุส’ (Marcus Junius Brutus) หรือ ‘บรูตุส’ นักการเมืองวัยห้าวชาวโรมัน สองตัวละครระดับตำนาน ‘แทงข้างหลัง’ ที่โลกจารึก

ฝ่ายแรก คือ บุรุษผู้กอบกู้และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่โรม แม้ช่วงหลังของการครองบัลลังก์จะถูกมองว่า “...เขาไม่สนใจจารีตเก่า ไม่แม้แต่จะเหลียวมองกลุ่มขั้วอำนาจการเมืองที่ยังคงอยากรักษาสถานะทางสังคมของพวกเขาเอาไว้ ในยามที่กรุงโรมกำลังอยู่ในสถานการณ์ความวุ่นวาย เขากลับเป็นอำนาจที่ไม่อาจโค่นล้มได้”

ขณะที่คนหลังเป็นนักการเมืองหนุ่ม อนาคตไกล ผู้มีอุดมการณ์ต่างจากซีซาร์คนละขั้ว แต่ยังคงได้รับความเมตตาตลอด เพียงเพราะชื่อ ‘เซอร์วิเลีย’ (Servilia) นางผู้เป็นที่โปรดปรานของซีซาร์ และก็คือมารดาของบรูตุส ดังนั้นสายตาที่มองมายังบรูตุส จึงไม่ต่างจากบิดามองลูกชายตน

เรื่องนี้จบอย่างไรหลายคนทราบดี - ส่วนคนไม่รู้ก็ไปหาอ่านเอาเอง

แต่ประเด็นสำคัญมิได้อยู่ที่ว่า ‘พิธา กับ ปิยบุตร’ หรือ ‘บรูตุส กับ ซีซาร์’ เพราะเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นมา ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ต้องกล่าวโทษอีกฝ่ายว่า คือ ‘ผู้ผิด’ เสมอ ดังที่ ปิยบุตรพูด (เขียน) ถามถึงพิธาก่อนว่า “...ผู้นำพรรคก้าวไกลมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะชนะในเขตเลือกตั้งได้หรือไม่?”

ขณะที่พิธาโต้กลับตรง ๆ ว่า ปิยบุตรต้อง “เลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” - “เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ” เสียที

สองคนมองเหมือนว่าตนคือซีซาร์ผู้ถูกแทงกลางหลังโดยคมมีดของอีกฝ่าย

และทั้งปิยบุตรกับพิธาก็ถูกมองว่าคือ ‘บรูตุส’ ผ่านสายตาอีกฝั่งเช่นกัน

แต่หากพิเคราะห์ดี ๆ แล้ว เนื้อหาโพสต์เฟซบุ๊กซึ่งตอบโต้กันอย่างเปิดเผยคราวนี้ กลับแทบไม่ต่างจากการชี้หน้าด่ากันกลางตลาด หากเพียงตัดรูปประโยคสวยหรูทว่าแสนรุงรังออกทิ้ง เรื่องทั้งมวลจะเหลือแค่แกนหลักของเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘สาวไส้’ ของกันและกันออกมา ‘กอง’ ต่อหน้าสาธารณชนรับรู้ ส่วนคนดู (กา) จะกิน ปรบมือ เป่าปาก โห่ หรือฮา ก็แล้วแต่วิจารณญาณของใครของมัน

‘อดีตเพื่อนธร’ ชี้!! ‘พิธา-ปิยบุตร’ แตกคอ!! ความจริงการเมือง แค่วาทกรรมอันสวยงาม

(22 ก.พ. 66) นายพิชิต ไชยมงคล อดีตโฆษกกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และแกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pichit Chaimongkol’ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตอบโต้และขัดแย้งกันระหว่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า มีเนื้อหาดังนี้...

ก้าวไกลบอกก้าวไปไกลๆ

ปรากฏการณ์ พิธาสวนปิยบุตร ธนาธรเล่นบทพระเอก พูดหลักการ
บทสะท้อนความเป็นจริงทางการเมือง สังคม ที่ตรงกันข้ามกับความฝันวาทกรรมที่สวยงาม

มันคือการเมืองเรื่องของอำนาจ โดยอ้างเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคม ทุกพรรคก็เป็นเช่นนี้ เป็นเรื่องอำนาจที่ต้องกุมสภาพการนำให้ได้ ซึ่ง ปิยบุตร คงอยากกุมอำนาจโดยการกำหนดทิศทางนอกพรรค ก็เหมือนทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นผู้มี อิทธิพลนอกพรรค ทักษิณทำเช่นไร ปิยบุตรก็คล้ายๆ กันเช่นนั้น

เพียงแต่

เพื่อไทยไม่มีใครโต้ทักษิณ
ก้าวไกลกล้าตอบโต้ปิยบุตรแค่นั้นเอง

'สมคิด' จี้ 'กกต.' จัดการเลือกตั้งให้โปร่งใส-ยุติธรรม ลั่น!! 'พท.' แลนด์สไลด์แน่นอน เหตุ ปชช.ตอบรับนโยบาย

(22 ก.พ. 66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบล ราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า จากที่พรรคพท.ลงพื้นที่ในนามครอบครัวเพื่อไทยในหลายพื้นที่ พบว่า ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ตั้งเป้าว่า หลังจากหมดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญ พรรค พท.จะเปิดเวทีทั้งในนามพรรคและในนามครอบครัวเพื่อไทยทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคต่อประชาชน มั่นใจว่าประชาชนจะตอบรับผู้สมัครของพรรคทั่วประเทศอย่างแน่นอน จากการที่ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อนำนโยบายดี ๆ ของพรรคไปชี้แจงกับประชาชน พบว่าสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

เชื่อว่าจะสามารถสร้างแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินได้อย่างแน่นอน มั่นใจว่า ผู้สมัครของพรรคจะได้รับชัยชนะมากกว่า 250 เขต เลือกตั้งทั่วประเทศ เพราะพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศตอบรับนโยบายของพรรค และมั่นใจว่าเป็นนโยบายที่สามารถจับต้องได้ นำมาปฏิบัติได้จริง ต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีนโยบายไหนที่ช่วยพี่น้องเกษตรกรอย่างจริงใจได้เลย ระบบเศรษฐกิจทุกระดับเสียหายหมด ยกเว้นระดับนายทุนใกล้ชิดรัฐบาลที่รวยขึ้น

ผู้ร่วมก่อตั้งอนาคตใหม่ เผย ‘ปิยบุตร’ ที่รู้จัก เลย ‘มือพาย’ ไปไกล แค่หวั่นใจทิศทางวันนี้

(22 ก.พ. 66) นายภูวกร ศรีเนียน หรือ 'จ.เจตน์' หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดพะเยา โพสต์เฟซบุ๊ก Phuvakorn Srinean แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในหัวข้อ 'อ.ปิยบุตร ที่ผมรู้จัก' มีเนื้อหาดังนี้...

"มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
ช่วงปี 53 หลัง ทหารสลายการชุมนุมเสื้อแดง
กระแสสังคม คนกรุง ที่มีความรู้ ทันสมัย ส่วนใหญ่
เหยียบย่ำ ซ้ำเติม ผู้ชุมนุม

มีกลุ่มอาจารย์จำนวนหนึ่ง ออกมายืนยันความถูกต้อง ออกมายืนยันสิ่งที่ควรจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

หนึ่งในนั้น มีอาจารย์กฏหมาย ชื่อ ปิยบุตร
นี่คือครั้งแรกในชีวิต ที่ผมรู้จักเค้า 

"มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
ช่วงก่อน น้ำท่วม ปี 54  กลุ่มอาจารย์เหล่านั้น
ใช้ชื่อ ว่า นิติราษฏร์ ออกมา พูดดัง ๆ ในสังคม

ล้างพิษรัฐประหาร 49 จนเป็นความหวังของคนในสังคม ที่แสวงหาหลักการประชาธิปไตยอย่างจริงจัง

เป็นการจุดคบเพลิงความคิดที่มีพลัง
แน่นอน หนึ่งในนั้น มีอาจารย์ป๊อก รวมอยู่ด้วย

"มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
กฏหมาย มาตรา 112 เริ่มถูกพูดถึง ในยุคที่วัยรุ่น
ยังไม่ตื่นตัวทางการเมือง

ความเสี่ยงต่าง ๆ ในการอธิบายเรื่องนี้ต่อสังคม 
แน่นอน มีน้อยคนที่จะกล้าหาญ
หนึ่งในนั้น มีอาจารย์ป๊อก รวมอยู่ด้วย

"มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
ช่วงก่อตั้งอนาคตใหม่ ต้นปี 61 หลายคนต้องตัดสินใจเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเอง  
ในวันที่ไม่มีใครรู้ว่า การตั้งพรรคการเมืองแนวใหม่ จะประสบผลอย่างไร

‘จักรพล’ จวก รัฐเมินแก้ปัญหา นทท. ล้นสนามบิน ชี้!! ควรยกระดับการบริการ กู้ภาพลักษณ์ประเทศ

(22 ก.พ. 66) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฏภาพในโซเชียลที่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ณ ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งซ้ำรอยกับวันที่ 30 ต.ค.65 นักท่องเที่ยวบางกลุ่มแสดงความคิดเห็นว่านี่คือฝันร้ายในช่วงนั้น การบริการที่เกิดขึ้นอาจส่งผลภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อประเทศ จึงขอเสนอแนะมาตรการเพื่อบรรเทาและเพิ่มประสิทธิภาพในการรับนักท่องเที่ยวดังนี้ 

1.) ยกเครื่องระบบการต้อนรับนักท่องเที่ยวให้อยู่ในรูปแบบ One single Service หรือ One single checkpoint ให้ครบจบในที่เดียว ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเหลือทั้งท่าอากาศยาน ชายแดน หรือในรูปแบบอื่น ๆ อีกทั้งต้องเพิ่มช่องตรวจหนังสือเดินทางที่ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เป็น 150 ช่องในช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่น โดยวิเคราะห์จากข้อมูลการเข้าประเทศย้อนหลัง และควรระบายผู้โดยสารเฉลี่ย 8,000 คนต่อชั่วโมงให้ได้

เรา 3 คน...

เรา 3 คน...

'โรม' จ่อ ยื่น 'ป.ป.ช.' ฟัน 'อุปกิต' ปมแสดงทรัพย์สินเท็จ เหน็บ 'ส.ว.' ปากบอกเป็นคนดี แต่สุดท้ายช่วยพวกเดียวกัน

(22 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ กรณีการยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ว่า ตนตั้งเป้าว่าภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ตนจะเอานายอุปกิตเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ควรจะเป็นให้ได้ ซึ่งเป็นบันไดขั้นสำคัญที่เราจะต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมและประชาธิปไตยเรากลับคืนมา

แม้ปากของรัฐบาลบอกว่าจะจัดการเรื่องทุนสีเทา แต่ถึงเวลาก็ไม่ทำอะไร ไม่แม้แต่จะเสแสร้งว่าจะทำ หากตนเป็นนายกฯ ก็คงจะบอกว่าจะจัดการให้ จะตั้งตำรวจให้มีการสอบสวน แต่รัฐบาลไม่แม้แต่จะพูดประโยคนี้ แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะปล่อยเรื่องนี้ให้สังคมลืมไป ซึ่งเมื่อมีตำรวจน้ำดีทำเรื่องนี้ ก็ถูกสั่งย้าย ฉะนั้น เราจะปล่อยให้คนดีอยู่อย่างลำบากไม่ได้ ขณะเดียวกัน คนที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการค้ายาไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย และไล่ฟ้องปิดปากคนอื่นไปทั่ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนรับไม่ได้ที่สุด

‘ผบ.เหล่าทัพ’ เข้าประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ หลัง ‘บิ๊กตู่’ ประกาศยุบสภาฯ เดือนมีนาคม

(22 ก.พ. 66) ที่ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตตแก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมประชุม

โดยเมื่อเวลา 08.30 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เดินทางไปยัง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยมี ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุดขึ้นแท่นรับความเคารพจากทหารกองเกียรติยศ และตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ก่อนเดินทางไปยังท้องพระโรงชั้นในเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในท้องพระโรงชั้นใน และลงนามในสมุดเยี่ยม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top