Sunday, 11 May 2025
POLITICS NEWS

นายกฯ มอบ “บิ๊กป้อม” ประชุม รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM ) ครั้งที่ 15 และการประชุม ADMM - Plus ครั้งที่ 8

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกัฐมนตรี เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน หรือ ADMM ครั้งที่ 15 และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา หรือ ADMM-Plus ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 15-16 มิ.ย. 64  ที่ศาลาว่าการกลาโหม โดยมี กระทรวงกลาโหม บรูไน เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ผ่านระบบ VTC  

โดยจะมีการหารือแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงของภูมิภาคและระหว่างประเทศร่วมกัน รวมทั้งร่วมกันพิจารณาเอกสารความร่วมมือริเริ่มใหม่  เพื่อกำหนดกรอบแนวคิดความร่วมมือของ กลาโหมอาเซียนด้านต่างๆ ร่วมกัน
 

“บิ๊กตู่” สั่ง เลขา สมช.-บิ๊กวิน-อธิบดี กร.แจง ยันพร้อมเพรียง ไม่มีขัดแย้งได้บิ๊กวินยันไม่มีการเด้งปลัดกทม.ตามข่าวลือ

ที่ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พอ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคง แห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม .นพ.โอภาส อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวขี้แจง หลังเกิดปัญหาความขัดแย้งการกระจายวัคซีนระหว่าง กทม. กับ กระทรวงสาธารณสุข ที่โทษกันไปมา และโยนมาที่ ศบค. 

ทั้งนี้ พล.ต.อ. อัศวิน ยืนยันไม่มีความขัดแย้งกับ สธ.และต้องขอขอบคุณทาง สธ.ที่มอบหมายให้หน่วยวานต่างๆมาช่วยทาง กทม.ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงการอุดมศึกษา เป็นต้น และขณะนี้ที่มีการเลื่อนการฉีดสัคซีนออกไปนั้นตำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และผู้ที่ได้รับการแจ้งเลื่อน ระหว่าง 15-21 มิ.ย.เมื่อกทม.ได้รัยการจัดสรรวัคซีนมาก็พร้อมแจ้งจ้อความแบะให้เข้ามารัยการฉีดได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ทั้งนี้ยืนยันปฏิเสธไม่มีการเด้งปลัดกรุงเทพมหานครอย่างตามข่าวลือท่านเป็นคนที่ขยันขันแข็งมากเป็นผู้หญิงแกร่งยืนยันไม่มีข่าวนี้ไม่ทราบว่ามาจากไหนที่สำคัญผมกับเขาสนิทกันมาก

ด้าน เลขา สมช.ยืนยันไม่มีความขัดแย้ง ไม่ทีวัคซีนการเมืองที่สร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับประขาขน บริการสถานการณ์โควิดมา  14 เดือน มีความภาคภูมิใจอย่าวมาก สิ่งใดที่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจก็ต้องกลับขออภัยนะโอกาสนี้

"ทัพเรือ” ส่งทีมแพทย์พยาบาล หนุนราชทัณฑ์" คัดกรองผู้ป่วยในเรือนจำ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) นางสาว ปรียาดา บัวสมบุญ (หมอพลอย) ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เรือนจำ กรมราชทัณฑ์จึงขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่เพื่อทำการคัดกรองผู้ป่วยในเรือนจำ ผ่านศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)

ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพเรือ (ศปม.ทร.) จึงได้บูรณาการประสานความร่วมมือกับ ศปม.ทุกเหล่าทัพ จัดบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 5 นาย ประกอบด้วยแพทย์ 1 นาย และพยาบาล 4 นาย โดยมี นาวาเอก สุเชษฐ ตรรกธาดา แพทย์ผู้ชำนาญการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นหัวหน้าชุดแพทย์ ลงปฏิบัติภารกิจเพื่อทำการคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่เรือนจำกลางบางขวาง โดยเริ่มทำการตรวจคัดกรองตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2564 ไปจนกว่าจะจบภารกิจ

ทบ. สนับสนุนฌาปนสถาน ประกอบพิธีศพโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนอย่างเป็นรูปธรรม เดือนเดียวช่วยแล้ว 161 ราย 

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.ท.หญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ติดตามภารกิจการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และเห็นถึงข้อจำกัดการประกอบพิธีและฌาปนกิจศพของครอบครัวที่สูญเสียญาติพี่น้องจากโรคโควิด-19 จึงมีนโยบายสนับสนุนฌาปนสถานของกองทัพบก ให้กับครอบครัวที่มีความประสงค์ 

โดยกองทัพบกเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ ตั้งแต่การคลื่อนย้ายศพจากโรงพยาบาลเและการจัดพิธีฌาปนกิจ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 64 เป็นต้นมา มีประชาชนประสานขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ. แล้วมากกว่า 500 ครั้งและมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฌาปนสถานของกองทัพบกมีศักยภาพในการช่วยเหลือที่มีมาตรฐานการจัดการและเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคของสาธารณสุข ทั้งนี้กองทัพบกพร้อมให้การสนับสนุนทั้งกำลังพลและทรัพยากรอย่างเต็มที่เพื่อดำรงการช่วยเหลือตามความเดือดร้อนของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ 

ฌาปนสถานของกองทัพบกในพื้นที่ กทม. มี 3 แห่ง ได้แก่ วัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด, วัดโสมมนัสวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เขตบางเขน ในส่วนของพื้นที่ภูมิภาค สาขากองทัพภาคที่ 2 อีก 1 แห่ง คือวัดสุทธจินดาวรวิหาร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รวมทั้งหมด 4 แห่ง โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงปัจจุบัน สามารถให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 161 ราย (14 มิ.ย. 64) สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ผ่านศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ. โทร 0-2270-5685 ตลอด 24 ชม.

คุมร้านอาหารทำมาตรฐานระบายอากาศกันติดโควิด

นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแล สคบ. ได้สั่งการด่วนให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงแนวทางการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร้านอาหาร โดยเฉพาะการจัดระบบระบายอากาศภายในร้านอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่จะเข้าไปใช้บริการได้เกิดความมั่นใจว่า เมื่อไปใช้บริการแลวจะไม่มีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังเป็นการสร้างมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขให้กับร้านอาหารต่างๆ ในประเทศไทยด้วย 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. ได้มีการหารือกับหน่วยงานต่างๆ เป็นนัดแรก โดยมีทั้งกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมอนามัย กรุงเทพมหานคร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อมาหารือกันเบื้องต้นถึงลักษณะโดยทั่วไปของร้านอาหาร เช่นเดียวกับเรื่องของกฎหมาย ข้อกำหนด หรือกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการดูแลร้านอาหาร โดยเฉพาะระบบการระบายอากาศและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในร้านที่ต้องมีมาตรฐานมากขึ้น  

ขณะเดียวกันในการหารือครั้งนี้ยังมีการกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่องที่รับผิดชอบ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ต้องพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตเปิดร้านอาหาร และการติดตั้งระบบระบายอากาศภายในร้าน ซึ่งที่ประชุมได้มีการเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาไว้หลายเรื่อง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนั้น สคบ. จะหารือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง ก่อนรวบรวมและเสนอรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รับทราบ พร้อมกับมีหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและดำเนินการแก้ไขต่อไป 

“ศรีสุวรรณ” ยื่นศาลปกครองฟ้องผู้ว่าฯนนท์ ละเลยหน้าที่ปล่อย บ.จัดสรรชื่อดังทำผิดกฎหมายแก้ไขผังโดยไม่ฟังเสียงชาวบ้าน พร้อมขอให้เพิกถอนใบอนุญาต

ที่ศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรนนทบุรี คณะกรรมการจัดสรรกลาง คณะกรรมการจัดสรรนนทบุรี และหัวหน้าสำนักงานที่ดินบางใหญ่ ต่อศาลปกครองกลาง ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ โดยปล่อยให้ผู้ประกอบการเรียลเอสเตทชื่อดังอักษร “Q” มาก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรบริเวณ ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่ไม่บังคับให้เป็นไปจัดผังจัดสรรที่ขออนุญาต ทำให้ชาวบ้านที่มาซื้อโครงการเสียหายกันถ้วนหน้า เมื่อร้องเรียนผู้ว่าฯก็ทำเป็นเพิกเฉย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาการไม่บังคับให้ผู้ประกอบการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรให้เป็นไปตามผังจัดสรรที่ขออนุญาต อาทิ การแก้ไขผังจัดสรรมากว่า 11 ครั้งโดยไม่ขอความเห็นชอบจาก คชก. หรือสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด ไม่มีการถมพื้นดินหมู่บ้านให้สูงกว่าถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก 60 เมตรตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาต มีการปิดกั้นทางออกของชาวบ้านพื้นที่ด้านในสุดนอกรั้วโครงการฯ ทั้งๆ ที่เคยรับปากว่าจะทำทางออกให้ มีการขยายพื้นที่จัดสรรเป็นเฟส 2 เฟส 3 และเฟส 4 โดยไม่ขอความเห็นชอบจากผู้อยู่อาศัยในเฟส 1 เสียก่อนตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาต ทำให้ผู้อยู่อาศัยเฟส 1 ต้องแบกรับสาธารณูปโภคส่วนกลางโดยลำพัง

นอกจากนั้น การจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียไม่เป็นไปตามสเปคที่ EIA เห็นชอบ มีการแอบปล่อยน้ำเสียโดยไม่มีการบำบัดออกมาจากหมู่บ้านจัดสรรลงคลองบางค้อ (บางคูลัด) ไปจนถึงคลองบางคูเวียง ทำให้สภาพน้ำมีกลิ่นเหม็นสีคล้ำดำและมีฟองลอยเต็มคลองไปหมด กลายเป็นแหล่งมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสมาชิกในหมู่บ้านต่างๆและผู้อื่น และยังมีปัญหาอื่นอีกมากมายที่ปล่อยให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้ซื้อโครงการฯ 

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าว สมาคมฯ และชาวบ้านในหมู่บ้านจัดสรรได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด และยังร้องเรียนไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะผู้ให้ความเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA แล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้ แต่ยังคงอนุญาตให้มีการขยายพื้นที่จัดสรรออกไปอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งปล่อยให้มีการแก้ไขผังจัดสรรโดยไม่มีการรับฟังความติดเห็นของชาวบ้านในโครงการฯเลย อันชี้ให้เห็นถึงการปล่อยปละละเลยการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตและไม่เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดใน EIA ชาวนนทบุรีที่อยู่อาศัยในโครงการดังกล่าว จึงมาร้องขอให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันนี้ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดปฏิบัติตามกฎหมาย และเพิกถอนใบอนุญาตจัดสรรต่อไปด้วย และหลังจากนี้จะนำความไปยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. เอาผิดผู้ว่าฯ นนทบุรีต่อไป 

"อนุทิน" เปิดใจปมวัคซีน เร่งแก้ปัญหาการสื่อสาร กทม.-สธ. พร้อมขออภัยประชาชน หลังมีปัญหาขลุกขลัก เล็งใช้ศูนย์กลางบางซื่อ ฉีด "หมอพร้อม" คนกรุงฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า 

การทำงานของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เป็นผู้อนุมัติหลักการต่างๆ เพื่อให้หน่วยงสนระดับรองลงมานำไปปฏิบัติ กรณีการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 สธ.มีบทบาท จัดสรรวัคซีนตามที่ ศบค.เห็นชอบร่วมกันกับหน่วยงานราชการและการนำเสนอของกรมควบคุมโรค ดังนั้นหน่วยงานข้างต้น ต้องเห็นพ้องต้องกัน จึงสรุปออกมาว่า จะให้ สธ.จัดส่งวัคซีนไปที่ไหน อย่างไร เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) จังหวัดต่างๆ หน่วยงาน องค์การ หรือสมาคมห้างร้าน 

“กทม. ชัดเจนที่สุด คือว่า ศบค.จะตกลงกับกทม.และกรมควบคุมโรค ว่าเดือนมิ.ย. จะได้ตัวเลขจริงที่ 1 ล้านโดส โดยกรมควบคุมโรคต้องส่งวัคซีนไปตามจุดที่กทม. บอกมา ไม่ใช่ส่งไปที่คลังของกทม.เท่านั้น ยังส่งไปที่โรงพยาบาล (รพ.) เล็ก รพ.น้อย เราก็ส่งไปถึงรพ.นั้นๆ เพราะเราว่าจ้างบริษัทขนส่งให้ดำเนินการจัดส่งตามระบบลูกโซ่คงวามเย็น” 

เมื่อถามถึงการจัดสรรวัคซีนของศบค.ที่ให้กับกทม. ตลอดเดือนมิ.ย. จำนวนเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า เริ่มต้นจาก 2.5 ล้านโดส แต่ว่ามีการจัดสรรให้กับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) 11 แห่ง 5 แสนโดส ต่อมามีสำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตนม.33 อีก 1 ล้านโดส ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของกทม. ดังนั้น จะเหลือตัวเลขกลมๆ มาที่ กทม. ประมาณ 1 ล้านโดส โดยตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. กรมควบคุมโรค ส่งวัคซีนไปให้กทม.แล้ว 5 แสนโดสและปลายสัปดาห์นี้ก็จะส่งเพิ่มอีก 5 แสนโดส 

นายอนุทิน กล่าวว่า จะหาทางสื่อสารระหว่าง กทม.และกรมควบคุมโรค ให้ลงรายละเอียดกันมากกว่านี้ ต้องปรับปรุงการสื่อสาร ทั้งนี้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า หากกรมควบคุมโรคมีมากก็ส่งให้มาก เพราะจริงๆ ส่งไปสัปดาห์ละ 2.5 แสนก็ได้ แต่มีมากเราก็ส่งไป 5 แสนโดสก่อน 

"จะกำชับกับกรมควบคุมโรคให้แจ้งกับหน่วยงานที่รับวัคซีนให้ชัดเจน เพื่อให้เฉลี่ยวัคซีนแต่ละสัปดาห์ โดยจะต้องหารือกันว่าหากส่งวัคซีนไปเท่าไหร่ ก็ให้บริหารจัดการตามเหมาะสม และอาจให้คาดการณ์จำนวนวัคซีนล็อตถัดไปด้วย แม้จะไม่ทราบวัน เวลาที่ส่งที่แน่นอน แต่ให้บอกช่วงการคาดการณ์ไป 

ซึ่งเหมือนกับที่ไทยรับวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่แจ้งเป็นรายสัปดาห์ ขณะนี้ 2 สัปดาห์แรก แต่ส่วนกลางต้องบริหารกว่า 100 ล้านโดส อาจขรุขระในช่วงต้นบ้าง ต้องขออภัยประชาชน"

เมื่อถามถึงการจองคิวฉีดวัคซีนในหมอพร้อม ที่มีการระบุในสัดส่วนของ กทม. นายอนุทิน กล่าวว่า ในช่วงแรกของการลงทะเบียนหมอพร้อม ก็เพื่อการฉีดให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ซึ่งกลุ่มนี้ที่อยู่ในกทม. ดังนั้นวัคซีนจำนวน 1 ล้านโดสของกทม. จะต้องครอบคุลมการฉีดในหมอพร้อมด้วย 

โดยวันนี้ตนจะหารือกับอธิบดีกรมควบคุมโรค เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่จองผ่านหมอพร้อม โดยมีแนวทางว่าจะให้ไปรับวัคซีนที่ศูยน์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ

พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามโครงการส่งน้ำ "คลองสะพาน-ประแสร์ " พอใจได้ผลตามเป้า  เตรียมผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล เสริมน้ำต้นทุน มั่นใจปชช. มีน้ำใช้เพียงพอภาคตะวันออก สร้างความเชื่อมั่น นักลงทุน รองรับ EEC

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม./ผอ.กอนช.ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อติดตามการดำเนินงานมาตรการรับมือฤดูฝนปี 64 ในพื้นที่ภาคตะวันออกโดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.รง.,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กษ.และ ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.รง. ร่วมคณะ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ประแสร์ อ.วังจันทร์  จ.ระยอง ทั้งนี้มี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ให้การต้อนรับ

พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางถึง บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ประแสร์ จ.ระยอง รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก และการพัฒนาเศรษฐกิจ EEC จากรองเลขาฯสทนช.,เลขาฯ EEC และอธิบดีกรมชลประทาน ตามลำดับ ซึ่งมีความคืบหน้า อย่างน่าพอใจ และเป็นไปตามนโยบายที่เคยมอบไว้ เมื่อครั้งมาตรวจพื้นที่ เมื่อ 15 พ.ค.63 โดยคาดว่าในอนาคตอันใกล้ พื้นที่ภาคตะวันออกจะสามารถพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และมีน้ำต้นทุนภายใต้ระบบโครงข่ายน้ำต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมที่จะรองรับความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ ทั้งภาคประชาชน เกษตรกรรม การบริการ การท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่น และเป็นแรงจูงใจให้แก่นักลงทุน ที่จะเข้ามาลงทุนในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลได้ ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายที่สำคัญ ให้แก่ สทนช.,กษ.,ทส.,การนิคมอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จะต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างมีคุณภาพ ภายใต้ 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี64 และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก รวมถึงการกักเก็บน้ำสำรอง ทั้งบนดิน ใต้ดิน ไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า และเตรียมการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากภัยแล้ง และน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ เสริมความเชื่อมั่นด้านน้ำ สามารถรองรับให้กับทุกภาคส่วน และ EEC ได้อย่างยั่งยืน ต่อไป

จากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะได้เดินทาง ต่อไปยังบริเวณจุดติดตั้งสถานีสูบน้ำ คลองสะพาน-ประแสร์ โดยได้เยี่ยมชมการทำงานของระบบสูบน้ำ พร้อมกดปุ่มเปิดการทำงานของเครื่องสูบน้ำ และได้กำชับกรมชลประทาน จะต้องดูแลรักษาเครื่องสูบน้ำให้สามารถใช้งานได้ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด และคุ้มค่า ก่อนเดินทางกลับ กทม.

“เลขาฯ สมช.” ยัน สธ.-กทม. ไร้เกาเหลาปมวัคซีน รับ ปัญหาต่างคนต่างสื่อสาร ปัดตอบหมอชนบท จวกการบริหารของ ศบค.รับเหตุขัดข้องเพราะไร้วัคซีน โวทีมพร้อมหลักพัน รอของเข้าพร้อมฉีดทันที 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ กทม.ระบุว่าไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ส่วนสธ.แย้งว่าการเป็นการบริหารของศบค. ว่า การจัดการทั้งหมดยังเป็นไปตามแผน โดยศบค. จะพิจารณาการจัดสรรวัคซีนเป็นรายเดือน แจกจ่ายให้เป็นงวด ไม่ใช่ได้รับโควต้าเดือนนั้นๆทีเดียวรวดเดียว ทุกส่วนยังทำหน้าที่ของตัวเองได้หมด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะทยอยส่งวัคซีนให้ หน่วยฉีดก็ฉีดตามโควต้าที่ได้รับไปจนครบ 1 เดือน ก็เป็นไปตามแผนที่ศบค.เห็นชอบ ไม่มีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่บอกว่าเป็นไปตามแผนหมายถึงแผนการจัดหาวัคซีนหรือแผนการฉีดวัคซีน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า แผนจัดหาวัคซีน ตามที่เคยชี้แจงไปแล้วว่าเดือนมิ.ย.จะมีวัคซีนเข้ามา ประมาณ 6 ล้านโดส และขณะนี้ก็กำลังทยอยเข้ามา 

เมื่อถามว่ากทม.ออกมาระบุว่า ตั้งแต่ 15 มิ.ย.ไม่มีวัคซีนฉีดทางศบค.จะดูแลอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นไปตามข้อเท็จจริงเพราะวัคซีนไม่มา วันนี้จะให้กทม.ชี้แจงเพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าวัคซีนจะทยอยเข้ามาสัปดาห์ต่อไป ปัจจุบันไม่มีใคร ยืนยันว่าวัคซีนจะเข้ามาเมื่อใด แต่ก็ทราบว่าจะเข้ามาในเดือนนี้ กทม. จึงใช้วิธีประมาณการณ์ ไปว่าจะจัดฉีดวัคซีนให้หลังจากวัคซีนเข้ามาแล้ว เมื่อถามว่า ทางศบค. จะเข้าไปช่วยกทม.ในการจัดสรรวัคซีนหรือไม่ เลขาฯสมช. กล่าวว่า ทางศบค. จะดูในภาพรวม 

เมื่อถามว่าหากวัคซีนมาล็อตเดียวจำนวนมากเป็น 5 ล้านโดส จะบริหารจัดการทันหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าทันแน่นอน ความจริงเพราะมีขีดความสามารถสูงมาก ทำให้เมื่อวัคซีนเข้ามาน้อยจึงมีปัญหาเล็กน้อย ความจริงเราเตรียมการว่าหากวัคซีนมาจำนวนมาก 10 ล้านโดส จะฉีดได้ทันหรือไม่ และปัจจุบันทั่วทั้งประเทศมีหน่วยบริการฉีดเป็นพันหน่วย หากมา 10 ล้านโดส เราฉีดทันแน่นอน แต่เมื่อวัคซีนเข้ามาน้อยจึงไม่สอดคล้องกับขีดความสามารถที่มีอยู่ เมื่อวัคซีนมาเยอะเราจะสามารถฉีดอย่างเพียงพอ เมื่อถามว่าการจัดการวัคซีนในล็อตต่อไป กทม.ควรจะเน้นไปผู้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม หรือของกทม. ก่อน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เดี๋ยวไปต้องไปหารือกัน 

เมื่อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการสื่อสารให้ประชาชนไม่ชัดเจนใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นทำนองนั้น โดยวันนี้จะมีการคุยกับผู้รับผิดชอบ เพราะแผนใหญ่ก็เป็นไปตามแผนอยู่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าศบค.จะเข้าไปจัดการความขัดแย้งกับกทม. และ สธ.หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ไม่มีอะไรขัดแย้ง เพียงแต่แต่ละส่วนต่างชี้แจงในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ ศบค.ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพบูรณาการยังทำไปตามแผนไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำกรณีที่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท ออกมาระบุว่า ปัญหา ทั้งหมดเกิดจากศบค. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะผอ.ศบค. พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า "ผมขออนุญาตไม่ตอบ" 

เมื่อถามว่าการผ่อนคลาย 5 กิจการในกรุงเทพฯในวันนี้ จะมีประกาศออกมาเป็นอย่างทางการหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าคาดว่าจะออกประกาศในวันนี้ ต้องดูว่านายกฯ เน้นย้ำในรายละเอียด เมื่อประกาศให้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆที่กำกับจะต้องเป็นไปตามเรียบร้อย เพราะในสังคมยังมีส่วนให้ผ่อนคลาย และยังห่วงใย 

ผู้สื่อข่าวถามว่าการขยายเวลาให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐปฏิบัติงานจากที่บ้านหรือเวิร์กฟอร์มโฮม ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.หรือไม่ เลขาฯ สมช. พยักหน้า จากนั้นจึงกล่าวว่าเป็นไปตามประกาศของหน่วยงานต่างๆ 

ราเมศ ย้ำ ปชป เปิดตัวผู้สมัคร ทำพื้นที่ พร้อมทุกสถานการณ์

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการเปิดตัวผู้สมัครในพื้นที่เขตเลือกตั้งต่างๆ ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้กำชับบุคลากรของพรรคตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้ว ว่าทุกเขตเลือกตั้งจะต้องไม่หยุดนิ่งในการทำพื้นที่โดยเฉพาะการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน มีทั้งอดีตผู้สมัคร ส.ส.และตัวแทนพรรคประจำจังหวัดรวมถึงสาขา ขณะนี้มีประจำทุกเขตเลือกตั้งครบ 350 เขต กระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ทุกประการ รวมถึงการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคซึ่งมีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธาน ก็ได้มีการติดตามดูการทำพื้นที่ในทุกพื้นที่เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการสรรหาตัวผู้สมัคร

การประกาศตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งก็เป็นหนึ่งในกระบวนการที่ผู้สมัครจำต้องเปิดตัวเพื่อให้สมาชิกรวมถึงประชาชนได้รู้จักและพร้อมทำงานร่วมกัน สมาชิกและประชาชนจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการสรรหา ในส่วนของสมาชิกสำคัญที่สุดเพราะในเขตพื้นที่ที่เปิดตัวผู้สมัครจะเป็นส่วนสำคัญในการมีส่วนร่วมกับพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคก็ดำเนินการให้มีส่วนร่วมมากที่สุด เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายพรรคการเมือง 

นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า การเปิดตัวไม่ได้มีสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการยุบสภา แต่เป็นการทำตามขั้นตอนที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด และเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลาเป็นเรื่องปกติ ขณะนี้หัวหน้าพรรคได้กำชับให้ทุกคนในพรรคทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะยุบสภาตอนไหนคงไม่มีใครสามารถตอบได้เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีการเตรียมความพร้อมในส่วนของพรรคในฐานะสถาบันทางการเมืองทำทุกเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเรื่องใดน่ากังวล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top