Saturday, 20 April 2024
POLITICS NEWS

โฆษกรัฐคนใหม่ เผย “บิ๊กตู่” กำชับดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเต็มความสามารถ ควบคู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด “แจง” เงินช่วยเหลือ ม. 33 ใน 16 จ.โอนแล้วกว่า 600 ล้าน ส่วน ม.39 โอนแล้ว 5.6 พันล้าน ขณะที่ ม.40 รอรับระหว่าง 24 - 25 ส.ค. วันละ 2 ล้านคน จากนั้น 2

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตน ม. 33 ลูกจ้างสัญชาติไทยคนละ 2,500 บาท ในพื้นที่ 16 จังหวัด (นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม สิงห์บุรี) รวม 249,235 คน เป็นเงินกว่า 623 ล้านบาท ส่วนนายจ้างในพื้นที่ 16 จังหวัด ที่จะได้รับเงินเยียวยาให้กับลูกจ้างไม่เกิน 200 คน คนละ 3,000 บาท ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้นั้น สำนักงานประกันสังคมกำลังทยอยตรวจสอบข้อมูลที่นายจ้างกรอกไว้ในระบบ E-Service และจะทำการโอนเข้าบัญชีที่ระบุไว้ทุกวันศุกร์

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน ม. 39 และ ม. 40 นั้น เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม ได้เริ่มโอนเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน ม. 39 ในพื้นที่ 13 จังหวัด (กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา) รวม 1.12 ล้านคน เป็นเงินกว่า 5.6 พันล้านบาท ส่วน ม. 40 ในพื้นที่ 13 จังหวัด มีจำนวน 4.5 ล้านคน ทำการโอนระหว่างวันที่ 24 - 25 สิงหาคม 2564 วันละ 2 ล้านคน จากนั้นวันที่ 26 สิงหาคม โอนที่เหลืออีก 5 แสนคน เป็นเงิน 22,482 ล้านบาท สำหรับกำหนดการโอนเงินให้ผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ในกลุ่ม 16 จังหวัด (กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง) จำนวน 802,397 คน จะได้รับเงินเยียวยาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 ในพื้นที่ 13 จังหวัดล็อกดาวน์ จะได้รับเงินเยียวยา ระยะเวลา 2 เดือน ส่วนผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 ในพื้นที่ 16 จังหวัดที่ประกาศล็อกดาวน์ภายหลังจะได้รับเงินเยียวยา 1 เดือน ซึ่งผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th/eform_news

"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม  ห่วงใยประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเต็มความสามารถ เร่งหาหนทางเพื่อช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจกับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อมทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ควบคู่ไปกับการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด"โฆษกรัฐบาลกล่าว

“วรวุฒิ อุ่นใจ” แนะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายใหญ่ ปรับตัวสู่การตลาดใหม่ “ออมนิแชลแนล”  ชี้ต้องทำให้ได้ภายใน 3-5 ปี ก่อนที่จีนจะมาตั้งฐานที่มั่น ถึงเวลานั้นสู้ยังไงก็ไม่ชนะ 

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้งออฟฟิศเมท อดีตซีอีโอบริษัทซีโอแอล จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันเป็น รองหัวหน้าพรรคกล้า เข้าร่วมเป็นวิทยากร ในการสัมมนา Online business opportunities : สร้างโอกาสทางธุรกิจ ปั้นผู้ประกอบการสินค้าไทยให้ดีพร้อม จัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยนายวรวุฒิ กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคโควิด 19 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก ไม่เคยมียุคใดสมัยใดที่บังคับให้เราต้องนั่งทำงานอยู่ที่บ้านขณะเดียวกันการเดินทางระหว่างประเทศก็ไม่มี ส่งผลให้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องปรับตัวแบบ 360 องศา ถ้าองศาไหนที่มองแล้วว่ามันดีและไปได้ก็ต้องไป 

นายวรวุฒิ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมีประสบการณ์การทำงานทั้งแบบ บีทูบี บีทูซี และบีทูจี โดยเมื่อแรกตั้งออฟฟิศเมท เราจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มออฟฟิศ องค์กร และหน่วยงานราชการ ส่วนบีทูซี คือกลุ่มลูกทั่วไปที่มาพัฒนาทีหลัง เชื่อว่าผู้ประกอบการหลายรายก็มีกลุ่มลูกค้าในลักษณะเดียวกันนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในภาวะที่ลูกค้าหายาก จำเป็นต้องขยายตลาดไปยังจุดที่เราไม่เคยทำ ซึ่งในปัจจุบันโอกาสทางตลาดที่น่าสนใจและกำลังมาแรงคือ "Omni Channel" เป็นช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์ หรือแบบค้าปลีก และออนไลน์ ซึ่งช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเอาไว้ เพื่อทำให้การเข้าถึงข้อมูลลูกค้าเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็ว เช่น ลูกค้าคือใครและสนใจสินค้าประเภทไหน 

“สิ่งที่ยากกับการทำตลาด Omni Channel คือ ต้องมีระบบบริหารจัดการข้อมูล ที่เชื่อมต่อกันแบบแบบไร้รอยต่อ พูดง่าย ๆ คือ ในอนาคลูกค้าจะซื้อแบบรีเทลก็ได้ หรือจะซื้อออนไลน์ก็ได้ แต่การเปลี่ยนคืนสินค้า ต้องสามารถทำได้ในทุกระบบ เช่น ซื้ออนไลน์ มาเปลี่ยนหน้าร้านได้ หรือซื้อหน้าร้านก็สามารถเปลี่ยนช่องทางออนไลน์ได้ ข้อดีของตลาดแบบนี้คือ เปิด 24 ชม. วิธีนี้มันเป็นเป้าหมายสูงสุดของการเทรดดิ้ง และคนที่ทำตลาดแบบนี้ได้ดีที่สุดคือ อาลีบาบา แพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งที่สุดของจีน ถามว่าบ้านเราทำได้ไหม ก็ต้องบอกว่าทำได้ และต้องเร่งทำ แต่ความยากอยู่ที่ระบบปฏิบัติการและตัวฐานข้อมูล ต้องซิงค์และเชื่อมกันแบบไร้รอยต่อ ปัจจุบันยังไม่มีใครทำได้ดีเท่าจีน ดังนั้น หากเราไม่เร่งพัฒนาให้แล้วเสร็จภายใน 3 - 5 ปี หลังโควิด โอกาสที่จีนจะเข้ามาตีตลาดเป็นไปได้สูง และเมื่อถึงเวลานั้น เราจะไม่สามารถสู้เขาได้ ทั้งความพร้อมเรื่องโลจิสติกส์ ฐานข้อมูล ระบบเอไอ ที่คำนวณพฤติกรรมผู้บริโภค จีนเขานำเราไปมาก เวลานี้ผู้ประกอบการรายใหญ่และห้างดัง ๆ ส่วนใหญ่ก็ปรับตัวมาใช้ระบบนี้กันมากขึ้น แต่มันไม่ง่ายที่จะทำให้เสร็จในชั่วข้ามวัน ข้ามเดือน เนื่องจากต้องเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างสาขาและระหว่างแชลแนล ที่สำคัญลงทุนสูง แต่ที่น่าสนใจคือ เอสเอ็มอี จะทำได้ง่ายกว่า ด้วยความเล็กมีความยืดหยุ่นสูงระบบการคอนโทรลไม่ซับซ้อนมากนัก” นายวรวุฒิ กล่าว

นายวรวุฒิ กล่าวถึงสินค้าที่โมเดิร์นเทรดต้องการ ว่า ก็ต้องดูว่าสินค้าที่มีความต้องการสูงในเวลานั้นคืออะไร ซึ่งเชื่อว่าทุกห้างก็หากันอยู่แล้ว แต่ถ้าสินค้าเหมือนกันโอกาสเลือกมันก็จะน้อย ที่ผ่านมาสิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับเอสเอ็มอีคือ เรื่องของดีไซน์แพคเกจจิ้ง สินค้าหลายตัวเป็นสินค้าที่ดีมาก แต่การตลาดสู้แบรนด์ดังไม่ได้ ทั้งการออกแบบแพคเกจ รวมถึงการออกแบบโปรโมชั่น เช่น ปัจจุบัน สินค้ากลุ่ม อาหารเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ที่มีความต้องการทางการตลาดสูง และการขายของแบบ Multi pack ก็จะเป็นที่นิยมเพราะคนนิยมซื้อสินค้าไว้คราวละมากๆ เพื่อไม่ต้องไปซื้อบ่อยครั้ง เหล่านี้คือการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคแบบชาญฉลาดก็จะสามารถครองตลาดได้ และมักจะได้รับการคัดเลือกเข้าไปอยู่ในห้าง ปัญหาของเอสเอ็มอี คือต้องตีโจทย์ให้แตก ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ถ้าเป็นอาหาร สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ รสชาติที่ลูกค้าชอบไม่ใช่เราชอบ ให้เอาความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก คุณภาพจะขายตัวเองในระยะยาวโดยไม่จำเป็นต้องทำโปรโมชั่น

รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ว่า ต้องพยายามหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด การขาย บีทูบี บางครั้งเราไม่ต้องทำตลาดกับลูกค้าหลากหลายมากนัก แต่ต้องรู้ว่าใครมีอำนาจตัดสินใจซื้อ เข้าถูกคนหรือไม่ ขณะเดียวกัน ข้อมูลหลักฐานต้องเตรียมพร้อม เช่น สินค้าเครื่องไฟฟ้าต้องมี มอก. สิ่งที่ห้างกลัวคือ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสินค้าปลอม ต้องเช็คให้ดีงจับ เพราะห้างจะเดือดร้อน นอกจากนี้ศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะบางครั้งต้องทำเป็นบิ๊กล็อต เพื่อวางจำหน่ายในสาขาของห้างทั่วประเทศ กำลังการผลิตเราพอไหม เงินทุนหมุนเวียน ที่จะนำมาใช้จ่ายมีเพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้ยังฝากข้อคิดไว้ด้วยว่า ข้อมูลที่เราเคยทำเป็นสินค้าออนไลน์ ได้รับความนิยม เป็นอีกหนึ่งจุดขายที่สำคัญ ที่ห้างจะชอบ 

“ยุคนี้ลู่ทางที่เราจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น เราต้องพยายามไปทุกที่ เพราะโควิดจะอยู่กับเราไปอีกพักใหญ่ ถ้าเราเร่งการขายให้เกิดได้เราก็ต้องไป เรื่องออนไลน์อย่าละเลย แม้บางครั้ง เราจะยังไม่ขายก็จริง แต่การทำการสื่อสาร ช่องทางออนไลน์มีประโยชน์มาก วันนี้คนไทยใช้โซเชียลมากกว่า 9 ชั่วโมงต่อวัน ช่องนี้จึงเป็นโอกาสมาก ต้องไปคิดตีโจทย์ให้แตก โดยเฉพาะ การค้าขายแบบ บีทูบี ถ้าเราทำออนไลน์ได้แข็งแรง การจัดซื้อจะตัดสินใจง่ายมาก” นายวรวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

ครม.อนุมัติค่าเครื่องมือนักเรียนอาชีวศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติอัตราค่าเครื่องมือประจำตัวผู้เรียนเฉพาะอาชีพของนักเรียนสายอาชีพ อาชีวศึกษาต่อคน ตามประเภทวิชา ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปี 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจำนวน 10 ประเภทวิชา ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป 

สำหรับการช่วยเหลือ ประกอบด้วย ประเภทวิชาอุตสาหกรรมอัตราค่าเครื่องมือ  2,000 บาทต่อคนต่อปีการศึกษา,  พาณิชยกรรม 1,000 บาท, ศิลปกรรม 1,000 บาท, คหกรรม 1,200 บาท, เกษตรกรรรม 1,600 บาท, ประมง 1,200 บาท, อุตสาหกรรมสิ่งทอ  1,200 บาท, เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 1,800 บาท, อุตสาหกรรมท่องเที่ยว 1,200 บาท และ อุตสาหกรรมบันเทิงและดนตรี 1,000 บาท

ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะฝีมือให้เต็มศักยภาพ ฝึกประสบการณ์อาชีพได้อย่างเต็มที่ต่อเนื่องตลอดหลักสูตร เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษา และยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง สร้างแรงจูงใจให้มีการเรียนต่อสายอาชีวศึกษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน 

ส่วนงบประมาณการค่าใช้จ่ายในปีการศึกษา 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 383 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าเครื่องมือนักเรียนสายอาชีพระดับปวช.ปีที่ 1 ในสถานศึกษาของรัฐ 429 แห่ง จำนวน 275ล้านบาท และสถานศึกษาของเอกชน 445 แห่ง จำนวน 107ล้านบาท

‘สิระ’ ยังไม่จ่าย 1 ล้าน กังขา ‘ไฮโซลูกนัท’ ตาบอดจริงหรือไม่ หลังแหล่งข่าวกระซิบมองเห็น 15% ยันไม่บ่ายเบี่ยง ลั่น เงินมีเยอะ ท้า ตรวจหมอคนกลางรพ.รัฐ 3 คน พิสูจน์ความจริง

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ได้มีการท้าพิสูจน์กับนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ว่าดวงตาบอดสนิทจริงหรือไม่ ว่า วันนี้ไม่ขอเรียกว่าไฮโซลูกนัทแล้ว ขอเรียกนายธนัตถ์ เพราะรู้สึกว่าพ่อแม่ของนายธนัตถ์ไม่แฮปปี้ตามที่เป็นข่าว เพราะได้ไปร่วมชุมนุม ส่วนเรื่องของดวงตา เมื่อวานนี้ตนบอกว่าหากนายธนัตถ์ตาบอดสนิทและต้องหาแพทย์มายืนยันพร้อมใบรับรองแพทย์ ตนพร้อมให้เงิน 1 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคืนนี้เห็นว่ามีใบรับรองแพทย์แล้ว และแพทย์บอกว่าต้องรักษาดวงตา 6 เดือน ถามว่าตอนนี้บอดสนิทจริงหรือไม่ ซึ่งที่ตนทราบมาจากแหล่งข่าว อาจเป็นข่าวดีของนายธนัตถ์ว่ามองเห็นแล้ว 15% ซึ่งหากเป็นข่าวดีและข่าวจริงก็ขอแสดงความดีใจกับนายธนัตถ์ว่าดวงตาพอมองเห็น

นายสิระ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) นายธนัตถ์ได้ไปออกรายการโทรทัศน์ ซึ่งตนจับผิดได้หลายเรื่อง คือการที่นายธนัตถ์มาแหกตาตัวเองก็แหกตาได้คนเดียว จะแหกตาคนทั้งประเทศไม่ได้ แค่นิ้วอยู่ใกล้ดวงตา ตาก็กระพริบ คนตาบอดที่ไหนจะกระพริบตา และเมื่อวานนี้แพทย์ไปหรือไม่ ก็ไม่ได้ไป ใครเขาจะให้คนตาใกล้บอดไปแหกตาออกทีวี พิธีกรใจร้ายไปหรือไม่ นายธนัตถ์แหกตาตัวเองเพื่ออะไร เรื่องนี้ต้องให้แพทย์แหก ต้องการแหกตาตัวเองเพื่อแหกตาคนทั้งประเทศหรือ หากนายธนัตถ์ตาบอดสนิทจริง ใบรับรองแพทย์ต้องระบุว่าไม่สามารถรักษาได้ แล้วทำไมถึงบอกว่าต้องรักษา 6 เดือน หากตาบอดจริงไปถามแพทย์เลยว่าต้องควักดวงตาออกหรือไม่ เมื่อควักดวงตาออกแล้วจะใส่ดวงตาเทียมหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากตาบอดจริงตนต้องขอแสดงความเสียใจกับนายธนัตถ์ และตนจะพานายธนัตถ์ไปสภากาชาดไทยเพื่อขอไปรับบริจาคดวงตาจากผู้มีจิตศรัทธา

“ถ้านายธนัตถ์แน่จริง วันจันทร์นัดเจอกัน ไม่เอาที่สภา มาที่บ้านผมก็ได้ ผมเอาเงิน 1 ล้านบาท ส่วนนายธนัตถ์เอาเงิน 10 ล้านบาทมาประกบกันและหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้แพทย์คนกลางมาตรวจสอบ 3 คนว่านายธนัตถ์ตาบอดจริงหรือไม่ ผมก็กลัวว่าตอนนี้ที่บ้านไม่เอาด้วย นายธนัตถ์จะมีเงิน 10 ล้านบาทหรือไม่ ซึ่งหากนายธนัตถ์ไม่ได้ตาบอดจริง ผมก็ขอให้นายธนัตถ์เอาเงิน 10 ล้านบาทไปซื้อข้าวหอมมะลิแจกคนหลักสี่-จตุจักร และผมจะบอกว่าเงินค่าข้าวสารหอมมะลินี้มาจากนายธนัตถ์” นายสิระ กล่าว

เมื่อถามว่าวันนี้นายธนัตถ์จะเดินทางมาที่รัฐสภาจะไปเจอกันหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ไม่เจอ เพราะว่าสิ่งที่เขานำมาแพทย์คนเดียวจะวินิจฉัยถูกหรือไม่ เคยเห็นหรือไม่แพทย์ลืมผ้าก๊อซในช่องท้อง หรือแพทย์วินิจฉัยโรคและทำให้คนตาย วันนี้หากนายธนัตถ์ตาบอดจริงไปเบิกประกันหรือยัง ตนเชื่อว่ามีการทำประกัน ไปถามประกันเลยว่านายธนัตถ์ได้มาทำเรื่องตาบอดสนิทหรือยัง

เมื่อถามว่าเป็นการบ่ายเบี่ยงที่จะไม่จ่ายเงินหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ‘ไม่ใช่บ่ายเบี่ยง ถามว่าแพทย์คนเดียวจะเชื่อได้หรือไม่ว่าวินิจฉัยถูกต้อง และแพทย์คนนั้นเป็นคนรักษาซึ่งรับเงินค่ารักษาจากนายธนัตถ์อยู่แล้ว ทำไมไม่เอาแพทย์คนกลาง เงินน่ะผมมีเยอะ ผมต้องการจ่ายและจะแสดงความยินดีกับนายธนัตถ์ที่ไม่เสียดวงตา แต่หากตาไม่บอดจริง นายธนัตถ์ก็ต้องทำตามที่พูด หากอยากพิสูจน์ความจริงเอาแพทย์คนกลางจากโรงพยาบาลรัฐบาล หากนายธนัตถ์แน่จริงมั่นใจว่าดวงตาบอดสนิท ทำไมไม่ยอมพิสูจน์กับหมอคนกลาง ผมคิดว่าแฟร์ ๆ’ 


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครม. เปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลใหม่ ‘ธนกร วังบุญคงชนะ’ ขึ้นแท่นตามประสงค์นายกฯ หวังเพิ่มบทบาทให้ตอบโต้ทางการเมืองมากขึ้น

ทำเนียบรัฐบาล 24 ส.ค.- ที่ประชุมครม. เปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลใหม่ ‘ธนกร วังบุญคงชนะ’ ขึ้นแท่นตามประสงค์นายกฯ หวังเพิ่มบทบาทให้ตอบโต้ ทางการเมืองมากขึ้น พร้อมโยก ‘อนุชา บุรพชัยศรี’ นั่งรองเลขาฯ นายกฯ ฝ่ายการเมือง ส่วน ‘นพ.ไตรยฤทธิ์’ เป็นอธิบดีดีเอสไอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน วันนี้ (24 ส.ค.) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คนใหม่

ขณะเดียวกันเห็นชอบให้นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทนนายอนุชา บูรพชัยศรี มาที่ถูกโยกไปเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง

ทั้งนี้ มีรายงานว่า การเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลคนใหม่เป็นความประสงค์โดยตรงของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากต้องการให้โฆษกรัฐบาลคนใหม่เข้ามามีบทบาทตอบโต้ทางการเมืองมากยิ่งขึ้น


ที่มา : https://tna.mcot.net/politics-764733


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศรีสุวรรณ เรียก "โลโซลูกนัท" หลังแจ้งความสน.ชนะสงคราม ฝ่ากฎหมายร่วมม็อบ-แต่งกายเลียนแบบไม่เหมาะสม

ที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ "ไฮโซลูกนัท" ทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งได้เข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มทะลุฟ้าเมื่อวันที่ 22 ส.ค.64 ที่ผ่านมาบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีฐานความผิดหลายข้อหา อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองนั้น

การกระทำดังกล่าวเริ่มต้นที่สี่แยกคอกวัว แล้วเคลื่อนขบวนพาเหรดกีฬาสีทะลุฟ้า ไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อันเป็นการกีดขวางทางสัญจรของประชาชน มีการปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง ซึ่งมีแนวร่วมส่งเสียงโหวกเวก เป็นที่เบื่อหน่าย สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและสาธารณะ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ เป็นพฤติการณ์ที่ไม่ย่ำเกรงกฎหมายของบ้านเมือง ทั้งๆที่นายธนัตถ์เคยเป็นถึงผู้สมัคร ส.ส. เป็นผู้มีมีการศึกษาสูง ควรที่จะมีสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง รู้ชอบชั่วดี แยกผิด แยกถูกได้ แต่กลับมาเป็นแกนนำสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมือง

การกระทำของไฮโซลูกนัท มีหลายกระทงความผิดด้วยกัน อาทิ ความผิดฐานฝ่าฝืน มาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง(ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 3 ส.ค.64, ความผิดฐานฝ่าฝืน หรือการกระทำใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558

อีกทั้งยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.215 ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป  หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแล้วไม่เลิก ตาม ม.216, ความผิดฐานกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 และยังพบว่าบริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีการพ่นข้อความในลักษณะหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี ตาม ปอ.112 ด้วย ซึ่งไฮโซลูกนัทและผู้ที่ร่วมชุมนุมดังกล่าวย่อมต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำความผิดมาตราดังกล่าวด้วย ตาม ป.อ.มาตรา 83 นอกจากนั้นยังแต่กาย Cosplay ใส่สูท สะพายกล้อง ตาบอดในลักษณะล้อเลียนเบื้องสูง ทำให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันมากมายทั้งประเทศ

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงไม่อาจปล่อยให้นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ซึ่งต้องเรียกใหม่ว่า "โลโซลูกนัท" ย่ามใจในการชุมนุมที่ผิดกฎหมายสร้างความปั่นป่วนให้กับสังคมดังกล่าวต่อไปอีกได้ จึงนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงครามในวันนี้ เพื่อดำเนินการสอบสวนเอาผิดและดำเนินคดีตามครรลองของกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคม

“ก้าวไกล” ยันจุดยืนแก้รธน. หนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เสนอ ปรับปรุงคำนวณคะแนนรธน.ปี 40 เอื้อพรรคใหญ่ โว ใครจะไปรู้ บัตร 2 ใบ ปี 40 ก้าวไกลอาจได้แลนด์สไลด์ 

ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่. … พ.ศ. … (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือก) รัฐสภา แถลงจุดยืนของพรรคก้าวไกลต่อวาระการประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 24-25 ส.ค.เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 

โดยนาย ปดิพัทธ์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกล คือ 1.สนับสนุนการแก้ไขกติกาการเลือกตั้งให้ใช้บัตร 2 ใบ และไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมกลายพันธุ์ตามรัฐธรรมนูญ 60 อันเป็นปัญหาทางการเมืองและความไม่สง่างามของรัฐสภาในปัจจุบัน 2.ขอเสนอให้ปรับปรุงกติกาการคำนวณคะแนนของรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เหมือนกับที่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทยเสนอ เพราะถึงจะเป็นการส่งเสริมความมั่นคงของพรรคการเมือง แต่มีความชัดเจนในข้อเท็จจริงว่าเป็นการคำนวณคะแนนที่เบี่ยงเบน ไม่สะท้อนเสียงที่ถูกต้องของประชาชนที่ลงคะแนน และเอื้อประโยชน์ให้ให้กับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ 3.ขอเสนอการคำนวณจำนวนเก้าอี้ ส.ส. ด้วยระบบจัดสรรปันสัดส่วนที่ถูกต้อง เพื่อให้จำนวนเก้าอี้ ส.ส. ตรงกับจำนวนคะแนนของพรรคที่ได้รับในการเลือกตั้ง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเป็นธรรม สะท้อนเจตจำนงของประชาชนได้อย่างถูกต้อง ป้องกันการเกิดเสียงข้างมากและทำให้การเลือกตั้งเป็นกระบวนการสร้างฉันทามติ

นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า 4.พรรคก้าวไกลยืนหยัดในความถูกต้อง ชอบธรรมของกระบวนการนิติบัญญัติ เนื่องจากการพิจารณาในชั้นกมธ. มีกมธ.จำนวนมากและนักวิชาการทางกฎหมาย ได้ชี้ถึงประเด็นที่บกพร่องในร่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหลักการไว้แคบมากให้แก้ไขเพียง 2 มาตรา เหตุผลประกอบหลักการที่ขัดแย้งในตัวเอง และกมธ.เสียงข้างมากที่หยิบเอามาตราที่รัฐสภามีมติไม่เห็นชอบไปแล้วในวาระที่ 1 มาเพิ่มในชั้นกมธ. การเพิ่มเติมและตัดมาตราอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในหลักการ ถือเป็นการกระทำที่ทำลายหลักความถูกต้องของกระบวนการนิติบัญญัติ รวมถึงจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่จะเป็นแหล่งอ้างอิงที่อันตรายในอนาคตและสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น นายธีรัจชัย จึงได้เสนอญัตติด่วนให้รัฐสภาวินิจฉัยก่อนจะพิจารณาในวาระ 2 และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอการแปรญัตติสงวนความเห็นในมาตรา 83 และ 91 เท่านั้น เพื่อเป็นทางออกให้กับรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศอย่างถูกต้อง รอบคอบที่สุด

ด้าน นายธีรัจชัย กล่าวถึงญัตติขอให้รัฐสภาวินิจฉัยตีความข้อบังคับรัฐสภา ว่า ในการทำงานของคณะกมธ.มีการพิจารณาว่า สามารถแก้ไขให้เหมือนร่างของพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยที่ถูกตีตกในชั้นรับหลักการไปแล้วได้หรือไม่ นอกจากนี้ กมธ.บางคนยังได้อ้างถึงข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 114 หลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ให้กำหนดโดยชัดแจ้ง หมายความว่า แก้ไขได้เฉพาะมาตรา 83 และมาตรา 91 เท่านั้น แต่ที่แก้ไขปัจจุบันมีการแก้ไขที่นอกเหนือจาก 2 มาตรานี้ ซึ่งกมธ.บางคนได้ระบุไว้ระหว่างการพิจารณาว่าสามารถนำสิ่งที่ถูกตีตกแล้วมาใส่ไว้ได้ แต่ตามข้อบังคับรัฐสภาข้อที่ 124 กำหนดไว้ว่าให้สมาชิกรัฐสภาเป็นผู้แปรญัตติเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลง แต่ในชั้นกมธ.นั้น กมธ.กลับเป็นผู้เสนอแก้ไขเอง โดยไม่ได้มาจาก ส.ส.หรือส.ว.แปรญัตติ ขณะเดียวกันกระบวนการพิจารณากฎหมายมหาชน หลักคือไม่มีกฎหมาย ไม่มีอำนาจ ซึ่งกมธ.ไม่มีกฎหมายให้อำนาจว่าจะต้องแก้ไขขัดต่อหลักการหรือเกินกว่าหลักการได้ แต่สามารถแก้อะไรก็ได้ภายใต้หลักการ ที่ผ่านมาในชั้นกมธ. ไม่ให้กมธ.ลงมติว่าเห็นด้วยกับผู้แปรญัตติหรือไม่ แต่บอกว่าหากผู้แปรญัตติไม่เห็นด้วยกับกมธ.ให้สงวนความเห็น การกระทำเช่นนี้ถือว่าไม่ชอบ

เมื่อถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคก้าวไกลแก้ระบบเลือกตั้งเพื่อให้พรรคได้ประโยชน์ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ระบบการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลได้ประโยชน์ที่สุดคือบัตรใบเดียว เพราะจะทำให้เราได้ ส.ส.จำนวนมาก แต่ต่อให้เป็นบัตร 2 ใบ แบบปี 40 ใครจะไปรู้ แลนด์สไลด์รอบหน้าอาจจะมาที่พรรคก้าวไกลก็เป็นไปได้ ตั้งแต่วาระที่ 1 พรรคก้าวไกลได้เคยยืนยันไปแล้วว่านักการเมืองไม่ควรมาเถียงกันเอง แต่ควรเป็นเรื่องของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในการร่างรัฐธรรมนูญและเคยบอกไปแล้วว่าหากแก้ระบบเลือกตั้งแต่ไม่ปิดสวิตช์ ส.ว. ไม่มีประโยชน์ แต่ตอนนี้ต้องสู้เพื่อความถูกต้อง คือกระบวนการนิติบัญญัติจะต้องถุกต้อง หากผ่านไปเช่นนี้จะเป็นปัญหาในอนาคตและเป็นบรรทัดฐานอย่างไม่รู้จบ พรรคก้าวไกลไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่สู้เพื่อความถูกของกติกา

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เป็นขั้นตอนต่อไป เราจะสู้เรื่องการวินิจฉัยข้อบังคับก่อน ไม่แน่ว่าเราอาจจะชนะในรอบนี้ก็ได้

“บิ๊กตู่” สั่งติดตามผู้ป่วยโควิดที่กักตัวที่บ้านและดูแลผ่านระบบออนไลน์

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบ Video Conference โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ตอนหนึ่งว่า ขอให้ติดตามผู้ป่วยโควิด - 19 ที่กักตัวที่บ้านและดูแลผ่านระบบออนไลน์ โดยขอให้ทำงานต่อไป ทุกโรงพยาบาลให้มีการดูแลผู้ป่วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังขอให้ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณให้เพียงพอ และยังกล่าวถึงการพัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด- 19  mRNAของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งคืบหน้าไปอย่างมากโดยขอให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมไปถึงกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นได้ติดตามอย่างใกล้ชิดนอกจากนี้ยังขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

“บิ๊กตู่”มอบโฆษกรัฐบาล ถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2564

ที่วัดราชาธิวาสวิหาร นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถวายเครื่องสักการะ ประกอบด้วย ธูปเทียนแพ พุ่มดอกไม้ ผ้าไตร และเครื่องไทยธรรม ถวายแด่พระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร เจ้าคณะภาค 16, 17, 18 และประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2564 

สายเขียวเฮ ! ปลดล็อค เสรี "กระท่อม" แล้ว มีไว้ครอบครอง ซื้อขายได้ “รมว.ยธ.” เผยปล่อยตัวนักโทษกระท่อม 1,038 คน 

ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงปลดล็อค ให้พืชกระท่อมไม่เป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป หลังเริ่มมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่8 พ.ศ. 2564 วันนี้เป็นวันแรก โดยให้ถือว่าประชาชนสามารถปลูกพืชกระท่อมได้อย่างเสรี หรือจะบริโภคก็สามารถทำได้ ส่วนกรณีการเทียบสัดส่วน 4×100 ยังเป็การผิดกฎหมายอยู่ 

โดยสาระสำคัญการบังคับใชกฎหมายคือให้ผู้ที่ปลูกกระท่อม ไว้ครอบครองสามารถซื้อ ขาย หรือนำมาบดเคี้ยวได้ และปลูกต้นกระท่อมเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังขยายไปถึงการสามารถส่งขายเป็นพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมโดยไม่ต้องขออนุญาต และหลังจากนี้จะมีการออกกฎหมายรองตามมา ซึ่งจะมีบทบัญญัติเพิ่มเติม อาทิ การกำหนดห้ามขายให้แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ซึ่งเป็นเยาวชน รวมถึงสตรีมีครรภ์ และเตรียมกำหนดสถานที่ห้ามขาย เช่น ในโรงเรียน วัด ส่วนประเภทธุรกิจการส่งออกหรือนำเข้านั้นจะต้องขออนุญาต

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าสำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดี อยู่ในเรือนจำ 1,038  คน จะได้รับการปล่อยตัว รวมถึงในชั้นตำรวจ และอัยการ ประมาณ 1 หมื่นคน จะถือว่าไม่เคยกระทำความผิด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top