“วราวุธ” ชี้ “ปิดถ้ำนาคา” 1 เดือนตามนโยบายฟื้นธรรมชาติอุทยาน ปรับปรุงระบบรับนักท่องเที่ยว ย้ำ! เจอ "ยงยุทธ" ที่เชียงรายไม่คุยการเมือง ไปทำงานแก้ปัญหาหมอกควัน พร้อมปัด ทส.ขัดแย้งกรมชลฯ ยันทำตามหน้าที่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงการปิดปรับปรุงฟื้นฟูถ้ำนาคา 1 เดือน ว่า เป็นนโยบายที่ให้ไว้ตั้งแต่ก่อนสถานการณ์โควิด19 ว่าภายใน 1 ปีอุทยานทุกแห่งทั่วประเทศต้องปิดอย่างน้อย 1 เดือน ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่ได้พักแต่ให้อุทยานหรือธรรมชาติได้พัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้มีเวลาซ่อมแซมและพัฒนาปรับปรุงการทำงานระบบต่างๆภายในอุทยานให้ดีขึ้น โดยเฉพาะที่ถ้ำนาคาเป็นสถานที่ที่ประชาชนให้ความสนใจนิยมไปสักการะ ที่ผ่านมาจึงมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมจำนวนมาก ดังนั้นการปิดลงครั้งนี้เพื่อเป็นการซักซ้อมปรับปรุงประสิทธิภาพ 

"การที่หยุด 1 เดือนนี้ที่ถ้ำนาคา ถ้าหากมีอุบัติเหตุหรืออะไรเกิดขึ้นบนยอดเขาการลำเลียงผู้ป่วยลงมาข้างล่างถือเป็นสิ่งที่ทำได้ยากเพราะทางเดินค่อนข้างแคกจึงใช้เวลา1เดือนเพื่อปรับปรุงระบบและดูว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวันได้มากขึ้นแค่ไหน" นายวราวุธ กล่าว

เมื่อถามว่าการปิดปรับปรุงครั้งนี้เกี่ยวกับปัญหาเก่าเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าพอมีปัญหาเราจะเก็บข้อมูลไว้และทุกปีเมื่อมีการปิด 1 เดือนอุทยานจะมานำเสนอว่าปัญหาต่างๆจะแก้ไขได้อย่างไร และมีวิธีใดทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น 

เมื่อถามว่า วันที่ 1 พ.ค.เปิดประเทศเต็มรูปแบบ กระทรวงทรัพยฯมีความพร้อมในการเปิดอุทยานรับนักท่องเที่ยวอย่างไร นายวราวุธกล่าวว่า เราย้ำตั้งแต่ก่อนช่วงสงกรานต์เพราะตนคิดว่าเมื่อเปิดประเทศแล้วจำนวนนักท่องเที่ยวคงไม่มากเท่าช่วงสงกรานต์ แต่มาตรการที่ใช้ในช่วงสงกรานต์ทั้งการเว้นระยะห่วง การทำความสะอาด จำกัดนักท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้ยังคงไว้อย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะหลังจากวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่เราห้ามนำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าอุทยานจึงขอความร่วมมือประชาชนและให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาหากพบเห็นเจ้าหน้าที่หรืออุทยานใดทำไม่ถูกตามกติกานั้นให้แจ้งมาเราจะดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงต่อไป

นอกจากนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงการพบ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ที่จังหวัดเชียงรายมีการพูดคุยเรื่องการเมืองหรือไม่ว่า ไม่ได้คุยเรื่องสถานการณ์การเมือง แต่คุยกันเรื่องสถานการณ์หมอกควันไฟป่าที่ภาคเหนือ ซึ่งนายยงยุทธ เป็นหัวหน้าคณะทำงานวิจัยฯเกี่ยวกับเรื่องหมอกควัน ที่ตนไปเป็นการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สวทช. จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนักวิจัยมาทำงานศึกษาเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการดูจุดความร้อนในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การทำงานดังกล่าวตนขอบคุณจังหวัดเชียงรายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำให้สถานการณ์จุดความร้อนและสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือในปีนี้ดีขึ้นกว่าปีก่อนๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่

อีกทั้งยัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรณีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งความเอาผิดองค์การบริหารส่วนตำบล เกาะพระทอง จังหวัดพังงา และสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 15 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากกรณีโครงการแก้มลิงเกาะพระทองบุกรุกป่าชายเลนและป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาตเนื้อที่กว่า 428 ไร่ ว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมายอันนี้เป็นที่น่าเสียดาย ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เร่งประสานงานและดูต้นสายปลายเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่มีการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

ตนขอฝากประชาชนเวลาจะทำอะไรในพื้นที่ใด เวลาเราเห็นต้นไม้อยู่ปริมาณมาก แต่ละต้นใช้เวลานับสิบปีร้อยปีกว่าจะโตขึ้นมาให้คุณค่ารักษาสมดุลของโลก ก่อนที่จะตัดหรือทำอะไรอยากให้ทุกฝ่ายคิดให้ถี่ถ้วน ตรึกตรองให้ดีเสียก่อนเพราะการตัดมันง่ายใช้เวลาแปบเดียว อย่างพื้นที่ที่เกาะพระทองทราบว่าใช้เวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์มีเครื่องจักรขนาดหนักลงไปก็ราบพณาสูรไปแล้ว ดังนั้นการตัดเป็นเรื่องง่าย การปลูกเป็นเรื่องไม่ยาก แต่การรอเขาโตขึ้นมาและปกป้องชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน ฝากทุกฝ่ายก่อนตัดต้นไม้ขอให้พินิจพิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียและความคุ้มค่าที่จะดำเนินการ 

เมื่อถามว่าถือเป็นความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นความขัดแย้งและไม่อยากใช้คำว่าอุบัติเหตุเช่นกัน แต่บางครั้งการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนซึ่งมีกฎหมายหลายตัวในการทำงานแต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดไปแล้วขอย้ำไม่ใช่เรื่องขัดแย้ง เพราะเราเข้าใจบทบาทหน้าที่ของกรมชลประทาน ที่ดูแลเรื่องน้ำในการทำการเกษตร ขณะเดียวกันหน้าที่กระทรวงทรัพยฯมีบริบทในการอนุรักษ์ดูแลพื้นที่ ต่างฝ่ายต่างมีภารกิจหน้าที่แตกต่างกันไป แต่ย้ำไม่ใช่ความขัดแย้งเพราะตนและผู้บริหารในกรมชลฯรู้จักกันมานาน