Monday, 6 May 2024
POLITICS NEWS

‘บิ๊กป้อม’ ล่าก๊วนป่วนภาพลักษณ์ไทย หลังเหตุระเบิด 2 ปั๊มน้ำมันยะลา

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้สั่งการ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) และหน่วยงานความมั่นคงให้ขยายผลสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดป่วนปั๊มน้ำมัน 2 จุด ที่ อ.ยะหริ่ง และ อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้สถานีเชื้อเพลิงได้รับความเสียหายเมื่อคืนที่ผ่านมา 

พร้อมย้ำ ขอให้หน่วยงานข่าวและหน่วยงานความมั่นคง เฝ้าระวังป้องกัน ไม่ประมาทจากการก่อเหตุทั้งในและนอกพื้นที่ที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ยกระดับความเข้มข้น ตื่นตัวเฝ้าระวังและตรวจสอบติดตามความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอกพื้นที่ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลกับเทคโนโลยีเฝ้าตรวจ เพื่อปฏิบัติการป้องกันเชิงรุกและสามารถปฏิบัติการแก้ปัญหาต่อเหตุการณ์และเป้าหมายได้รวดเร็วทันต่อสถานการณ์

‘ทิพานัน’ เผย ประชาชนให้ความสนใจ APEC 2022 พร้อมชู ‘BCG โมเดล’ พัฒนาศก.ไทย กระจายรายได้สู่ฐานราก

‘ทิพานัน’ เผยประชาชนตื่นตัวให้ความสนใจการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก โชว์ศักยภาพไทยพัฒนาเศรษฐกิจ BCG โมเดล กระจายรายได้สู่ฐานราก โต้เพื่อไทยชูทักษิณนักโทษหนีคดีเป็นแบบอย่างน่าอายไปทั่วโลก

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและช่องทางสื่อสารในสังคมออนไลน์ มีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวในการเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปก 2022 ในช่วงสัปดาห์นี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประโยชน์ที่จะได้รับจากการนำเสนอประเทศไทยในมิติต่าง ๆ รวมถึง ‘เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG’ เพื่อให้เอเปกมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจน สร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่รัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เร่งผลักดันและส่งเสริมนั้น ได้รับความสนใจจากนานาชาติ โดยเฉพาะศักยภาพทางด้านการออกแบบสินค้าเชิงสร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ในภาคอุตสาหกรรม การสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่หลายผลิตภัณฑ์ของไทยได้มาตรฐานสากลและวางจำหน่ายในยุโรปบางประเทศแล้ว ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน การกระจายรายได้ในชุมชนถึงรากหญ้า 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กระแสโมเดลเศรษฐกิจ BCG ยังปลุกให้บรรดาสตาร์ตอัปในประเทศให้ความสนใจและเข้าใจโมเดล BCG มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมนูอาหารของผู้นำเอเปกที่นำวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศมาประกอบอาหาร กลายเป็นสินค้าขายดี นำเสนอซอฟต์พาวเวอร์อย่างเห็นผล สร้างรายได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่สำคัญการประชุมเอเปกยังเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้ทำหน้าที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพหลัก จัดการประชุมสุดยอดซีอีโอแห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก 2022 หรือ ‘เอเปก ซีอีโอ ซัมมิท 2022’ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย.65 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่มีภาคเอกชน ผู้นำและซีอีโอระดับชั้นนำของภูมิภาคมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่จะมีการนำประเด็นโมเดลเศรษฐกิจ BCG เข้ามาแลกเปลี่ยนเพื่อต่อยอดกัน โดยเป้าหมายหลักจะเน้นในเรื่องของการส่งเสริมการเปิดเขตเสรีการค้าและการลงทุน รวมถึงความร่วมมือด้านสังคมและการพัฒนาในทุกมิติ

‘บิ๊กตู่’ เปิดประชุมวิชาการเอเปค ที่จุฬาฯ ชู ‘ภาคการศึกษา’ พื้นฐานขับเคลื่อน ศก. – สังคม

เริ่มทางการแล้วประชุมวิชาการเอเปค ‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาว เปิดงาน APEC University Leaders ย้ำความร่วมมือระหว่างกันเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาประเทศให้ก้าวผ่านวิกฤตไปได้ ขอคนไทยโชว์รัก สามัคคี พร้อมต้อนรับด้วยยิ้มแห่งสยาม 

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 16 พ.ย. ที่อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน APEC University Leaders’ Forum: “Preventing the Next Pandemic (AULF) ภายใต้หัวข้อการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดครั้งต่อไป โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า 

ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมทางวิชาการ APEC University Leaders Forum 2022 ในวันนี้ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิกกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งสอดรับกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายใต้ APEC โดยเป็นโอกาสให้เครือข่ายการศึกษาทั่วโลกได้พัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในระดับนานาชาติ และเป็นเวทีในการแบ่งปันประสบการณ์ในมิติต่าง ๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่และอาจต้องเผชิญอีกในอนาคตโดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนนั้น เป็นพื้นฐานสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันจากความท้าทายดังกล่าว อีกทั้งเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการฟื้นฟูและเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมั่นคงและยั่งยืน ได้ต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยในปีนี้ เรามุ่งผลักดันการสร้างความร่วมมือภายใต้แนวคิด 'Open. Connect. Balance.' เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในยุคหลังโควิด - 19 โดยในส่วนของเรื่อง Open เน้นการผลักดันให้เอเปคนำเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิกมาหารือใหม่ เพื่อให้เอเปคสามารถรับมือกับความท้าทายและใช้โอกาสจากบริบทโลกแบบใหม่ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล การค้ากับโรคระบาด และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

ในส่วนของ Connect ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูความเชื่อมโยงของภูมิภาคในทุกมิติ ทั้งการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างสะดวกปลอดภัย และความเชื่อมโยงทางดิจิทัล เพื่อให้เอเปคมีแนวทางการรับมือกับวิกฤตโรคระบาดในอนาคต โดยยังสามารถรักษาการเดินทางและกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากที่สุด และสุดท้าย Balance เน้นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุล ยั่งยืน และครอบคลุม โดยส่งเสริมโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ที่สร้างผลกำไรควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และชับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมกันทั้งสังคม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งผลลัพธ์สำคัญของการเป็นเจ้าภาพเอเปคในครั้งนี้ คือ ไทยจะเสนอให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รับรองเอกสารเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG เพื่อนำแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ของไทยมาเร่งกระบวนการทำงานในเอเปค และวางบรรทัดฐานใหม่ให้เอเปคมุ่งเน้นการสร้างเสริมการค้าการลงทุนควบคู่ไปกับการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในครั้งนี้ที่นอกจากจะให้ความสำคัญกับด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังมุ่งขยายความสำคัญไปถึงการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยเพื่อยกระดับองค์ความรู้ใหม่ในการพัฒนาสังคมและสร้างความปลอดภัยในชีวิตให้แก่ประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตนเชื่อว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ผู้วางนโยบาย และผู้นำธุรกิจจะได้มาร่วมมือกันสร้างสรรค์นโยบาย ออกแบบทิศทางและแผนการบริหารประเทศที่สอดรับกับวิถีความปกติใหม่ของโลก โดยเฉพาะความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ที่แม้ว่าเราจะก้าวผ่านการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 มาแล้ว แต่องค์ความรู้ด้านการแพทย์และสาธารณสุขยังต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความจำเป็นเร่งด่วนของทั่วโลกในขณะนี้คือการทำวิจัยที่เกี่ยวกับชีวการแพทย์ การบำบัดโรค และการพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์ที่พร้อมต่อการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุด คือนวตกรรมเชิงป้องกัน และการนำงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดผลเป็นรูปธรรมสำหรับประชาชนอย่างทั่วถึง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในวิกฤตสาธารณสุขที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า ความถูกต้องของข้อมูลและการเผยแพร่ รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในการบริหารสถานการณ์วิกฤตของรัฐบาล การเผยแพร่ข้อเท็จจริงสู่สาธารณชน ต้องอาศัยความถูกต้องทางวิชาการ ทั้งจากการศึกษา ค้นคว้า ซึ่งภาคการศึกษา มหาวิทยาลัย นักวิชาการ เป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งในการชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องแก่สังคม เพื่อขจัดข้อมูลเท็จ โฆษณาชวนเชื่อ และข่าวปลอมที่แพร่กระจายและเป็นภัยอยู่ในสังคม ยกตัวอย่างเช่นในช่วงต้นของการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ที่ประชาชนบางส่วนมีความกังวลใจเกี่ยวกับผลค้างเคียงของวัคซีนจากข้อมูลข่าวสารที่อาจไม่ถูกต้อง 

แต่ในภายหลัง ความหวาดกลัวได้คลายลงเมื่อข้อมูลทางวิชาการที่เชื่อถือได้เริ่มปรากฏออกมามากขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้อย่างน่าพอใจ และในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ การสร้างความร่วมมือระหว่างกันเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาประเทศให้ก้าวผ่านวิกฤตไปได้ โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลก และนานาประเทศถึงนโยบายและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการดูแลประชาชน ทั้งการป้องกัน การควบคุมโรค การรักษาพยาบาล และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และด้วยความสำเร็จนี้ องค์การอนามัยโลกได้เลือกให้ประเทศไทยเป็นประเทศต้นแบบในโครงการนำร่องการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นความภาคภูมิใจที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคการศึกษา ทั้งสถาบันการศึกษาและศูนย์วิจัยต่าง ๆ ตลอดจนอาสาสมัครและประชาชนทุกคน และมิตรประเทศ รวมถึงความม่งมั่นในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี ยารักษาโรค วัคซีน และเครื่องมือทางการแพทย์กับประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องด้วย

“ผมขอชื่นชมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและภาคการศึกษาทั้งหมดที่ได้ร่วมมือกับ ศบค. ในการช่วยเหลือประเทศภายใต้รูปแบบ นวัตกรรมเพื่อสังคมโดยได้นำผลการศึกษาวิจัยมาพัฒนาให้สามารถใช้งานได้จริง และนำมาช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤต เช่น CU-RoboCOVID (ซี-ยู-โรโบ-โควิด) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ให้การสนับสนุนด้านการแพทย์ภายในโรงพยาบาลสนาม และ Chula COVID-19 Strip Test (จุฬา-โควิด-19-สตริป-เทสต์) รวมถึงนวัตกรรมการรักษา 'วัคซีนใบยา' ที่เป็นวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA (เอ็ม-อาร์-เอ็น-เอ) ที่ทางมหาวิทยาลัยพัฒนาขึ้น โดยนวัตกรรมต่าง ๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเกิดขึ้นจากการร่วมมือพัฒนาของนักวิชาการและนักวิจัยสหสาขา 

บิ๊กป้อม ย้ำต้องไม่มีใครมาขัดขวางการประชุม APEC 2022 ขอบทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศ ย้ำ ผบ.ตร.เพิ่มความเข้มการักษาความปลอดภัย และอำนวยการจราจร 

วันนี้ (16 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการฯ ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร./รอง ผอ.กอร. เป็นประธานประชุมขับเคลื่อนกองอำนวยการร่วมฯ ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว สภาพภูมิอากาศ และแผนการปฏิบัติรักษาความปลอดภัยและการจราจรประจำวัน บูรณาการทุกภาคส่วน รวมกว่า 30 หน่วยงาน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมการปฏิบัติมีความพร้อมทุกภาคส่วน และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้สถานการณ์ด้านการข่าวทั้งในและนอกพื้นที่ กทม. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกฝ่ายได้เตรียมแผนการปฏิบัติรองรับไว้แล้ว และ สภาพการจราจรในวันนี้ ปริมาณรถน้อยเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการตามที่รัฐบาลกำหนด ทั้งนี้ ได้มีประกาศราชกิจจาลงวันที่ 14 พ.ย. 65 ประกาศข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรในเขต กทม. ว่าด้วยการจัดการจราจรการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 - 19 พ.ย.65 ดังนี้
1. ห้ามรถทุกชนิดเดินรถในถนนตลอดเวลา ถนนรัชดาภิเษก (ตั้งแต่แยกอโศกมนตรี ถึงแยกพระรามที่ 4) และถนนดวงพิทักษ์ (ตลอดสาย)
2. ห้ามรถทุกชนิดเดินรถในถนนเฉพาะเวลา 18.00 น. – 06.00 น.(ของวันรุ่งขึ้น) ถนน 5 สาย
3. ให้เดินรถทางเดียวในถนนเฉพาะเวลา 18.00 น. – 06.00 น.(ของวันรุ่งขึ้น) ถนน 3 สาย

งดการใช้สถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 16 – 19 พ.ย.65 และกำหนดพื้นที่ควบคุมการเดินเรือเป็นการเฉพาะคราวแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.65  สำหรับการลงทะเบียนของผู้พักอาศัยบริเวณถนนที่งดการใช้การจราจรขณะนี้มีกว่า 48,000 รายในพื้นที่ สน.ลุมพินี และ สน.ทองหล่อ และได้เปิดให้ลงทะเบียนต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 พ.ย.65 กรณีเจ้าหน้าที่ขนส่งพัสดุ ไปรษณีย์ อาหารหรือเอกสารต่างๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณจุดตรวจและแสดงเอกสารหลักฐานเพื่อขอเข้าพื้นที่ได้ตามแต่กรณี

‘ธนกร’ ซัด ‘พิธา’ วิจารณ์ ‘BCG Model’ มั่วนิ่ม เหน็บ!! ไม่พูดสักเรื่อง ก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้

‘ธนกร’ สวน ‘พิธา’ หยุดวิจารณ์ BCG Model ถ้าไม่รู้จริง อัดอย่าเอาทุกเรื่องมาปนกันจนประชาชนสับสน แจงปัญหา PM2.5 นายกฯ สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง เหน็บไม่พูดเรื่องที่ไม่รู้จริงสักเรื่องก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้ โว BCG Model จะเป็นฐานเศรษฐกิจหลักของประเทศที่สร้างมูลค่ากว่า 4.4 ล้านล้านบาท ใน 5 ปีข้างหน้า

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า รัฐบาลฝันที่จะใช้การประชุมเอเปกสร้างเศรษฐกิจสีเขียว แต่แค่ PM2.5 ฝุ่นข้ามชาติ ยังไร้ภาวะผู้นำที่จะแก้ไขว่า ถ้านายพิธาไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรเพื่อให้ตัวเองได้คะแนนนิยม การไม่วิจารณ์เรื่องการประชุมเอเปกแบบมั่ว ๆ ด้วยชุดข้อมูลผิด ๆ สักเรื่องก็คงไม่มีใครหาว่านายพิธาเป็นใบ้ เพราะนายพิธาไม่ควรเอาทุกเรื่องมาโยงเป็นเรื่องเดียวกันจนทำให้ประชาชนสับสน 

ทั้งนี้ เรื่อง BCG Model เป็นเรื่องหลักที่รัฐบาลจะนำไปหารือในการประชุมเอเปกครั้งนี้ ซึ่งเป็นจุดแข็งในภาคเกษตรของไทย มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ลดขยะ และเน้นการใช้กระบวนการที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รวมถึงในอนาคตการประกอบธุรกิจภายใต้แนวคิด BCG อาจจะได้ประโยชน์ทางด้านภาษีเมื่อทำการค้าระหว่างประเทศด้วย สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกเรื่องสิ่งแวดล้อม ถือเป็นหนึ่งทางออกที่ครอบคลุมให้ทุกการพัฒนาไม่มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลด้วย 

ส่วนเรื่องปัญหา PM2.5 นั้น รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ดังนั้น หากนายพิธาไม่รู้ก็ควรจะหาข้อมูลให้ได้ข้อเท็จจริงก่อน ไม่ใช่วิพากษ์วิจารณ์แบบตีหัวแล้วเข้าบ้าน ซึ่งไม่น่าจะใช่แนวทางของนักการเมืองรุ่นใหม่อย่างที่พรรคนายพิธามักจะกล่าวอ้างอยู่บ่อย ๆ

นายธนกร กล่าวอีกว่า BCG Model ดำเนินการภายใต้นโยบายของรัฐบาลไทยตามแผนการปฏิบัติด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564-2570 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) อย่างน้อย 5 เป้าหมาย ได้แก่ การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ความหลากหลาย ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การลดความเหลื่อมล้ำ อีกทั้งยังสอดรับกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นหลักสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย 

‘อุ๊งอิ๊ง’ เทียบฟอร์ม APEC 19 ปีก่อนยุคไทยรักไทย ไม่ใช่แค่เชิญใครมาหรือจัดงานได้ยิ่งใหญ่แค่ไหน

(16 พ.ย. 65) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ เฟซบุ๊ก เรื่อง APEC ระบุว่า...

เมื่อ 19 ปีที่แล้ว รัฐบาลไทยรักไทย ใช้ APEC เป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศไทยที่กำลังฟื้นฟูหลังวิกฤตต้มยำกุ้งและโรคระบาดซาร์ส

เวที APEC ครั้งนั้น คือโอกาสสำคัญที่จะใช้การทูตเชิงเศรษฐกิจ เพื่อสร้างผลประโยชน์แก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด รัฐบาลตอนนั้นมีความตั้งใจจะสร้างความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก APEC หรือ 21 เขตเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างและความหลากหลายสูง 

เพราะถ้าประเทศไทยเราทำข้อตกลงต่าง ๆ ได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ก็จะเกิดการจ้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ เกษตรกรมีรายได้ ผู้ส่งออกได้ส่งออกสินค้า มีเงินตราไหลเข้าประเทศ และพลิกฟื้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว 

ดังนั้น เราในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง จึงคาดหวังค่ะว่าจะได้รับผลประโยชน์อะไรจากการประชุม APEC ครั้งนี้ เหมือนครั้งเมื่อ 19 ปีที่แล้วที่รัฐบาลยึดถือและมีหัวใจคือประชาชนเป็นสำคัญ 

ดิฉันเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพและมีเสน่ห์มากพอที่จะดึงดูดให้ใครหลาย ๆ คน หลาย ๆ ประเทศ ให้ความสนใจในระดับเวทีโลก 19 ปีที่แล้ว เรายังทำได้ เป็นทั้งหนึ่งในผู้นำสำคัญของอาเซียนและยังถูกพูดถึงว่าเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย ในปีนี้ ก็ต้องทำได้เช่นกัน

'กรณ์' ถอดรหัสความสำเร็จเจ้าภาพ G20 ซูฮก ‘โจโกวี’ สุดยอดผู้นำ พาอินโดฯโดดเด่นบนเวทีโลก

‘กรณ์’ ชื่นชม โจกีวี สุดยอดผู้นำ พาอินโดนีเซีย รุ่งเรือง ยกเป็นต้นแบบบริหารประเทศ ด้าน ‘เทมส์ ไกรทัศน์’ เสนอใช้ เวทีเอเปคเปิดฤดูท่องเที่ยว วอนอย่าทำเสียบรรยากาศ  

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีต รมว.คลัง กล่าวเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 โดยหยิบยกประเด็นที่ชาวโลกกำลังให้ความสนใจต่อประเทศอินโดนีเซีย และตัวประธานาธิบดี นายโจโก วิโดโด หรือ โจโกวี ที่ชาวโลกชื่นชมมากที่สุด เนื่องจากสัปดาห์นี้อินโดนีเซีย จะเป็นเจ้าภาพประชุม G20 ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 20 ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการประชุมประจำปี บางครั้งสำคัญ บางครั้งไม่สำคัญ แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่สำคัญมาก เหมือนกับเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญมาก เป็นช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งในครั้งนั้นประเทศไทยได้เข้าร่วมประชุม โดยมีประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพ และได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น และตนในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการการคลัง เข้าร่วมแสดงความเห็นว่าวิกฤตเศรษฐกิจของโลก ควรจะได้รับการแก้ไขร่วมกันอย่างไร 

“ปีนี้ โจโกวี ได้เชิญผู้นำระดับโลก ที่ทุกคนจับตา ทั้งวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ,นายวอลอดือมือร์ แซแลสกึย ประธานาธิบดียูเครน ,นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ข้าร่วมประชุมด้วย จึงเป็นการประชุมที่สำคัญ เพราะสถานการณ์โลก มันตึงเครียดมาก ชาวโลกก็จับตาว่า ทั้งหมดมาเจอกันแล้วจะออกมายังไง แต่ก็ลดดรามาไปได้ระดับหนึ่ง เมื่อปูติน กับ แซแลนสกึย ไม่มา แต่ใช้ระบบออนไลน์แทน ส่วนถ้าไบเดนประชุมกับ สีเจิ้นผิง ปฏิสัมพันธ์ออกมาดี ก็จะเป็นข่าวดี สำหรับทุก ๆ ประเทศทั่วโลก” อดีต รมว.คลัง กล่าว 

นายกรณ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ทำให้ประเทศอินโดนีเซียน่าสนใจ นอกจากจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุม G20 แล้ว ประชากรของอินโดนีเซีย ยังมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจประเทศหนึ่งด้วย ดูจาก จีดีพีโตขึ้น กว่า  5% ต่อปี อัตราเงินเฟ้อ ก็ 5% กว่า ๆ เท่านั้น เมื่อเทียบกับหลายประเทศโลกอยู่ที่ 8-10% ส่งออกโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้วประมาณ 30% ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนโยบายเศรษฐกิจ ที่ชัดเจนของประธานาธิบดีโจโกวี 

อดีต รมว. คลัง กล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดี โจโกวี อดีตเคยเป็นช่างเฟอร์นิเจอร์ ก่อนจะมาเป็นผู้ว่าเมืองจากาตาร์ แล้วก็ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ตอนนี้เป็นสมัยที่สองซึ่งเป็นสมัยสุดท้ายของเขา ตลอดการบริหารงานสองสมัย ท่านมีผลงานมากมาย ทั้งตัดถนนมอเตอร์เวย์เพิ่มขึ้นให้กับอินโดนีเซียถึง 2,000 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ที่ทำไปได้แค่ประมาณ 700 กว่ากิโลเมตร และยังมีสนามบินใหม่อีก 16 แห่ง ท่าเรืออีก 18 แห่ง เขื่อนกั้นน้ำอีก 20-30 แห่ง ทั้งหมดเป็นสาเหตุทำให้เศรษฐกิจของอินโดนีเซียเติบโต และไม่ใช่แค่ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานเท่านั้น อินโดนีเซีย ยังเป็นแหล่งสตาร์ทอัพที่อยู่ในสเกล ยูนิเคอร์นมากกว่า 10 ราย ซึ่งในนั้นก็คือ gojek แพลตฟอร์มที่คนไทยรู้จักดี ซึ่งผู้ก่อตั้งคือนายนาเดีย มาคาริม ได้รับการตั้งแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีศึกษาธิการและเทคโนโลยี ในวัยเพียง 38 ปีเท่านั้น การเลือกใช้คนเก่ง เป็นสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้อินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้ รมว.คลังของอินโดนีเซีย นางศรี มุลยานี อินดราวาตี ก็เป็น รมว.คลัง ที่ทั้งโลกให้การยอมรับ และเคยได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้ว และโดยส่วนตัวตนถือศักดิ์เหมือนกับพี่สาว เพราะสมัยที่ตนอยู่ในตำแหน่งรมว.คลัง ท่านก็อยู่ในตำแหน่ง รมว.คลัง เช่นกัน ได้มีโอกาสต่อสายพูดคุย และขอคำปรึกษาจากท่านหลาย ๆ เรื่อง ตลอดมา นี่คือการเมืองของอินโดนีเซีย ซึ่งนอกเหนือจากการใช้คนที่ถูกต้องแล้ว ยังเป็นการเมืองสมานฉันท์ สามารถเอาอดีตคู่แข่งที่เป็นผู้นำกองทัพ มาเป็น รมต.กลาโหมในรัฐบาลของตัวเองได้ และยังเป็นการเมืองที่ให้ความสำคัญกับเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ จะเห็นได้จากเกือบทุกบทสัมภาษณ์ ของโจโกวี จะพูดถึงความกังวลที่มีต่อพี่น้องประชาชน ทางด้านเศรฐกิจ และปากท้อง เพราะฉะนั้น เราสามารถเรียนรู้จากประเทศเพื่อนบ้านของเราได้มาก ทั้งในเรื่องของ การเมืองและเศรษฐกิจในอนาคต ว่าเราจะต้องบริหารจัดการอย่างไร เพื่อความสุขและการอยู่ดีกินดีของคนไทยเรากันเอง  

'บิ๊กตู่' ยังรอดโควิด กลับจากกัมพูชาตรวจแล้ว หลัง 'ฮุน เซน' ติดเชื้อโควิด งดร่วมเวทีเอเปค

(15 พ.ย. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่ สมเด็จอัครมหาเสนบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ติดเชื้อโควิด - 19 ได้มีการส่งใครมาร่วมประชุมเอเปคแทนหรือไม่ ว่า ตามกติกาเป็นการเชิญผู้นำโดยตรง สรุปว่าสมเด็จฮุน เซน ไม่ได้มาร่วมประชุมเนื่องจากไม่สบาย

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯได้ตรวจโควิด-19 แล้วหรือยัง เนื่องจากในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กัมพูชา นายกฯได้ใกล้ชิดกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนตรวจบ่อยอยู่แล้วและมีตรวจที่บ้านกันเองด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจ และวันไหนไปงานพิเศษอะไรต่าง ๆ ก็มาตรวจที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย แต่ที่บ้านมีการตรวจกันเป็นประจำ และหลังจากกลับมาจากกัมพูชาตนก็ได้ตรวจ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ตอนกลางคืนก็ตรวจอีก ก็ยังโอเคอยู่

เมื่อถามว่า แสดงว่ากัมพูชาไม่ได้ส่งใครมาร่วมประชุมเอเปคใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ใช่ส่งใครมา แต่ตามกติกาจะต้องเป็นตัวผู้นำจริง ๆ ที่มา เมื่อถามว่าจะต้องเพิ่มมาตรการตรวจโควิดในการประชุมเอเปคหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีตรวจอยู่แล้วที่โรงแรม และผู้ที่มาร่วมประชุมก็มีผลการตรวจมาแสดงอยู่แล้ว ระมัดระวังที่สุด ทุกคนไม่มีใครอยากเป็นหรอก และช่วงนี้การเดินทางก็มีบ่อยและเจอกันเยอะแยะ ฉะนั้นอยากฝากพวกเรา ขอเตือนด้วยแล้วกัน ซึ่งวันนี้ได้มีการฉีดเข็มกระตุ้น การใช้หน้ากากในพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ไม่อยากให้มันกลับมาอีก ตอนนี้ท่องเที่ยวก็เต็มอะไรก็เต็ม คนก็เยอะ ธุรกิจก็ดีขึ้น ฝากด้วยแล้วกัน

‘เพื่อไทย’ จี้ ศธ. สอบปมครูทำร้ายนร. จ.หนองคาย ชี้!! โรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน

(15 พ.ย. 65) นายนพดล ปัทมะ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเผยแพร่คลิปครูลงโทษนักเรียนด้วยความรุนแรงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.หนองคายเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ถ้าเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นจริง ฐานะของคนเป็นพ่อซึ่งมีลูกในวัยเรียนรู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก สถาบันการศึกษาควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับนักเรียน ครูต้องไม่ใช้ความรุนแรงภายในโรงเรียนอย่างเด็ดขาด ต้องดูแลนักเรียนให้เหมือนกับดูแลบุตรหลานของตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็ก อาจจะกลายเป็นความทรงจำอันเลวร้ายที่จะติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต เราต้องไม่ให้การกระทำของบางคนกระทบครูท่านอื่นที่เป็นครูดีรักลูกศิษย์ กระทรวงศึกษาธิการในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบจะต้องตื่นตัว เอาจริงเอาจังกับปัญหาความรุนแรงและการละเมิดสิทธิผู้เรียนในสถาบันการศึกษาเสียที  

นายนพดล กล่าวต่อว่า กระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งดำเนินการสอบสวนรายละเอียดในคลิปดังกล่าว ให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ถ้าจริงควรหาทางเยียวยานักเรียน รัฐบาลที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ต้องกล้าประกาศว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงในสถาบันการศึกษาทุกรูปแบบ ตนเคยเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการสร้างความชัดเจนในมาตรการการขนส่งนักเรียน จากกรณีลืมเด็กไว้ในรถตู้ ขณะนี้ความคืบหน้าเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อมีมาตรการเชิงระบบป้องกันไม่ให้พ่อแม่คนใดสูญเสียอีก

'บิ๊กตู่' ดีใจคนรุ่นใหม่สนใจการลงทุน แนะ!! ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี อย่าหลงเชื่อจากคำโฆษณา

จากกระแสข่าวนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ขาดทุนอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ บางคนถึงขั้นสูญเงินแทบหมดตัว และมีจำนวนไม่น้อยถึงขั้นล้มละลาย จากที่เคยมีเงินนับหมื่นล้าน แต่เพียงชั่วข้ามคืนกลับมาเหลือเพียงศูนย์บาทเท่านั้น 

โดยก่อนหน้านี้ มีนักการเมืองและนักลงทุนรายใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศ ต่างออกมาเชียร์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยระบุว่า เป็นการลงทุนแห่งอนาคต ที่ให้ผลตอบแทนสูง ทำให้คนหลงเชื่อและขาดทุนจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลไปจำนวนมาก

แต่ทว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกมาเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าว โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2564 ได้แสดงความเป็นห่วง โดยระบุว่า เป็นห่วงนักลงทุนในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่วัยทำงาน หลังพบว่า มีเข้ามาลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยเหตุเพราะเข้าถึงได้ง่าย ใช้ระยะเวลาสั้นแต่ได้รับผลตอบแทนที่รวดเร็ว 

พร้อมทั้ง ได้ฝากเตือนให้นักลงทุนพิจารณาถึงความเสี่ยงจากการลงทุนประเภทนี้ให้มาก เนื่องจากคริปโตเคอเรนซีไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เป็นการเก็งกำไรและมีความผันผวนสูง ส่วนผู้ปกครองที่เปิดบัญชีให้เยาวชน ต้องมีความระมัดระวังในการลงทุนและดูแลอย่างใกล้ชิด จึงขอให้ผู้สนใจที่จะลงทุนทำความเข้าใจในลักษณะความเสี่ยง ต้องแน่ใจว่าสามารถยอมรับการสูญเสียเกือบทั้งจำนวนได้ หาข้อมูลและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ และที่สำคัญ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา ต้องเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top