Saturday, 24 May 2025
NEWS

พม.มอบรางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคม "กัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช" หลังทำประโยชน์ด้านมอบมรดกทางธรรมชาติเยาวชนรุ่นหลัง

วันที่ 21 มีนาคม 2566 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดพิธีมอบรางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคม กระทรวง พม. ครั้งที่ 11 ขึ้น โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้มอบให้


ซึ่งมีคนดีและคนดัง ในสังคมทุกระดับที่ได้รับการประกาศคุณความดี 10 คน 10 ด้าน นายกัมพล สัจจา ประธานสวนนงนุช ได้รับรางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคมด้านผู้มีปณิธานอันแน่วแน่ ที่จะมอบมรดกทางธรรมชาติให้เป็นมรดกทางการศึกษาแก่เยาวชนรุ่นหลังได้มาเรียนรู้และพัฒนาสืบต่อไป

ก.แรงงาน เยี่ยมสถานประกอบการ จ.ลพบุรี มุ่งคุ้มครองสิทธิ – สวัสดิการแรงงานได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม

วันที่ 21 มีนาคม 2566 เวลา 13.30 น. นางโสภา เกียรตินิรชา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดลพบุรี ตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการที่จ้างคนต่างด้าวทำงาน เพื่อตรวจคุ้มครองดูแลสิทธิแรงงานของลูกจ้างแรงงานต่างด้าวให้ได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกับแรงงานไทย โดยมี นายนฺสิทธิ์ ตันติบูล ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท วี สถาปัตย์ จำกัด (สำนักงานใหญ่) นางวันทนา ณัฐพูลวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดลพบุรี ให้การต้อนรับ ณ บริษัท วี สถาปัตย์ จำกัด สถานประกอบการประเภทก่อสร้าง ตั้งอยู่ที่ (แคมป์ก่อสร้าง) ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี เลขที่ 321 ถนนนารายณ์มหาราช ตำบลทะเลชุมศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี (การก่อสร้างอาคารศูนย์กีฬาและวิทยาศาสตร์สุขภาพ) มีลูกจ้างทั้งสิ้น 46 คน เป็นแรงงานไทย 35 คน แรงงานต่างด้าว 11 คน สัญชาติเมียนมา 8 คน สัญชาติลาว 3 คน

นางโสภาฯ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อตรวจติดตามการดำเนินการตรวจคัดกรองเบื้องต้นการบังคับใช้แรงงาน หรือบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในแรงงานต่างด้าว ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจคัดกรอง (SOP) รบ.1 ให้เป็นไปตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานการตรวจคุ้มครองแรงงาน และการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ หรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในแรงงานต่างด้าว รวมทั้งเพื่อตรวจติดตามการรายงานผลการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจากการใช้มาตรฐานการปฏิบัติงาน และ แบบ รบ.1 เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจะเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ หรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตาม NRM ตลอดจนรับทราบปัญหาอุปสรรค กระบวนการ วิธีการตรวจคุ้มครองแรงงาน และการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน

'กฟน.' เตือน!! 'ยกเลิก-เปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า' หลังย้ายบ้าน อาจเจอบิลค้างชำระค่าไฟของผู้อยู่อาศัยรายใหม่ได้

MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะหน่วยงานให้บริการด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ เตือนผู้ใช้ไฟฟ้าเจ้าของเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า หากมีการเปลี่ยนเจ้าของสถานที่ ควรยกเลิก หรือเปลี่ยนชื่อเจ้าของเครื่องวัดฯ เพื่อป้องกันการรับผิดชอบหนี้ค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้น ณ สถานที่ใช้ไฟฟ้านั้น เนื่องจากในปัจจุบัน มีประชาชนบางส่วนที่ย้ายสถานที่อยู่อาศัย แต่ไม่ได้ยกเลิก หรือเปลี่ยนชื่อเจ้าของเครื่องวัดฯ ให้เป็นเจ้าของรายใหม่ ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้ารายเดิม แม้จะย้ายที่อยู่ไปแล้ว แต่ก็อาจได้รับผลกระทบจากการค้างชำระค่าไฟฟ้าของผู้อยู่อาศัยรายใหม่ได้ ซึ่ง MEA ไม่สามารถดำเนินธุรกรรมการยกเลิก หรือเปลี่ยนชื่อเจ้าของเครื่องวัดฯ แทนผู้ใช้ไฟฟ้าได้ 

ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีความประสงค์จะรับบริการดังกล่าว สามารถติดต่อได้ผ่าน 2 ช่องทาง คือ ที่ทำการไฟฟ้านครหลวงเขตต่าง ๆ หรือ ช่องทางออนไลน์ ผ่านบริการ MEASY (https://eservice.mea.or.th/measy) โดยในกรณียกเลิกชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า สามารถใช้เอกสารหลักฐานของผู้เป็นเจ้าของเครื่องวัดฯ และกรณีการเปลี่ยนชื่อเจ้าของเครื่องวัดฯ สามารถใช้เอกสารหลักฐานของเจ้าของรายใหม่ ซึ่งทั้ง 2 กรณี ใช้เอกสารหลักฐาน ดังนี้

1 บัตรประจำตัวประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) หรือ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
2 เอกสารแสดงความเกี่ยวพันกับสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น ทะเบียนบ้าน หนังสือให้เลขบ้าน หรือหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย สัญญาเช่า สัญญาเช่าซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือโฉนดที่ดิน ที่มีชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นเจ้าของ (กรณีผู้ดำเนินการ ไม่มีชื่อเป็นผู้ใช้ไฟฟ้า)
3 หนังสือมอบอำนาจพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง (กรณีมอบอำนาจ)

คนนับหมื่น!! ร่วมพิธีแห่ ‘หลวงพ่อสามพี่น้อง’ วัดบ้านซ่าน จ.สุโขทัย จัดใหญ่เข้าปีที่ 119 ขบวนแห่ยาวเหยียด ไป-กลับ 12 กม.

(21 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านซ่าน หมู่ 1 ต.บ้านซ่าน อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ได้มีการจัดงานประจำปี “สรงน้ำปิดทอง หลวงพ่อขาว หลวงพ่อสามพี่น้อง” ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2566 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 119 ภายในงานมีมหรสพสมโภชหลากหลาย

ขณะที่ไฮไลท์เป็นการอัญเชิญพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น 3 องค์ ลักษณะงดงาม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อสามพี่น้อง” ขึ้นล้อเกวียนโบราณ เพื่อประกอบพิธีแห่จากวัดบ้านซ่านไปยังวัดปากคลองแดน รวมระยะทางไป-กลับ 12 กิโลเมตร โดยมีชาวบ้านและคณะศรัทธาทั่วสารทิศนับหมื่นคนมาร่วมพิธี

ระหว่างทางจะมีชาวบ้านคอยแจกเครื่องดื่มให้คนร่วมขบวน ส่วนที่วัดปากคลองแดนก็จะมีการตั้งโรงทานแจกอาหารฟรีมากมาย เมื่อขบวนไปถึงก็จะหยุดพัก และเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้กราบสักการะ “หลวงพ่อสามพี่น้อง” ก่อนจะเดินแห่กลับมาที่วัดบ้านซ่านอีกครั้งในช่วงบ่าย เพื่อประกอบพิธีสรงน้ำ และกราบไหว้ขอพร

‘สสส.-สกศ.’ ร่วมกันทำเว็บ ‘ปฐมวัยไทยแลนด์’ ดูแลเด็กเล็กครบวงจร หวังใช้สื่อเชื่อม ภาครัฐ-โรงเรียน-ผู้ปกครอง ให้ใกล้กันมากขึ้น

(21 มี.ค. 66) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา และ ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ “ปฐมวัยไทยแลนด์ https://ecd.onec.go.th” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการเผยแพร่ผลงานของคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง และเสิร์ฟข้อมูลออนไลน์ส่งตรงถึงครูและผู้ปกครอง เพื่อดูแลเด็กเล็กให้เติบโตขึ้นอย่างมีความสุขพร้อมกับพัฒนาการที่สมวัย

นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลและ ศธ. เห็นตรงกันกับผลการวิจัยทั่วโลกที่ย้ำถึง “การลงทุนดูแลเด็กปฐมวัย” ที่มีความคุ้มค่าสูงสุดกว่าในวัยอื่นถึง 7 เท่า จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของทุกครอบครัวและประเทศชาติ โดย สสส. และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ได้ร่วมกันจัดทำ Website “ปฐมวัยไทยแลนด์” หวังใช้สื่อโซเชียลเชื่อมต่อภาครัฐ โรงเรียน และพ่อแม่ผู้ปกครอง ให้ใกล้กันมากขึ้น โดยสำนักนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย สกศ. พร้อมสนับสนุนข้อมูลสถิติ งานวิจัย และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยจากทุกภาคส่วน

‘คลัง’ ยัน ‘บัตรสวัสดิฯ’ รอบใหม่ ไปต่อ!! แม้ยุบสภา ย้ำ!! หากยืนยันตัวตนสำเร็จ เริ่มใช้สิทธิ 1 เม.ย. ตามเดิม

จากกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 นั้น กระทรวงการคลังขอยืนยันว่า ไม่มีผลต่อการดำเนินงานในโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 หรือ บัตรคนจนรอบใหม่ โดยทุกกระบวนการ ทั้งการยืนยันตัวตน การใช้สิทธิรอบใหม่ และการยื่นอุทธรณ์กรณีไม่ผ่านสิทธิ ยังเป็นไปตามที่ประกาศไว้

สำหรับ การยืนยันตัวตนของผู้ได้รับสิทธิ เดินทางไปยืนยันตัวตนที่ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา ได้ทุกวันจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 สาขาทั่วไปตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. และสาขาในห้างสรรพสินค้าตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 น.

ส่วนช่วงระยะเวลามีทั้งหมด 5 รอบ คือ

รอบที่ 1 ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 1-26 มีนาคม 2566 จะได้เริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 เมษายน 2566
รอบที่ 2 ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-26 เมษายน 2566 เริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
รอบที่ 3 ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 27 เมษายน-26 พฤษภาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 มิถุนายน 2566
รอบที่ 4 ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม-26 มิถุนายน 2566 เริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 กรกฎาคม 2566
รอบที่ 5 ยืนยันตัวต้นระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป และเริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 สิงหาคม 2566

โดยผู้ที่ยืนยันรอบ 2-4 จะได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจาก “ร้านธงฟ้า” เท่านั้น) สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวตนรอบที่ 5 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โดยจะได้รับสิทธิเฉพาะเดือนที่กระทรวงการคลังดำเนินการตั้งวงเงินให้

ขณะที่ ผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ สามารถขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-1 พฤษภาคม 2566 (62 วัน) โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น.ของทุกวัน

หรือขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

ยังไม่จบ! บิ๊กอู๊ด ลุยต่อเนื่องจับแก๊งยาเสพติดภาคใต้ สั่งภูธรภาค 8 เปิดยุทธการ "สยบอันดามัน 1/66" จับแก๊งยาครั้งใหญ่กว่า 300 คน

วันที่ 21 มีนาคม ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (บช.ภ.8) จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.พีรยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภ.8  พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน บก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.เธียรวิโรฒ เชี่ยวชาญ รอง ผบก.อก.ภ.7 พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.วจ.สยศ.ตร. และ พ.ต.อ.จารุพันธ์ เสริมพงศ์ รอง ผบก.อฎ. ร่วมกันแถลงข่าว ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดภูธรภาค 8 รวม 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด ตามยุทธการ "สยบอันดามัน 1/66" เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด และยึดทรัพย์เครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ให้เป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ยุทธการ "สยบอันดามัน 1/66" สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. สั่งการให้กวาดล้างคดียาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ ตนจึงสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร สุราษฎธานี นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ พังงา และภูเก็ต เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดที่จะทำลาย จำนวน 247 เครือข่าย เป้าหมายการปิดล้อมตรวจค้น
จำนวน 516 เป้าหมาย แบ่งเป็นเป้าหมายการตรวจคัน 468 เป้าหมาย และเป้าหมายเพื่อจับ จำนวน 48 เป้าหมาย

ติวเข้ม! ผู้ประกอบการ ร้านเกม อินเทอร์เน็ต ป้องกันปัญหาแหล่งมั่วสุมและยาเสพติด

วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจผู้ประกอบการ ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันปัญหาแหล่งมั่วสุมและยาเสพติด เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบกิจการ 


วันที่ 21 มี.ค.66 ที่ ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ การประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบกิจการ จัดโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแก่น มีนางกมนรัตน์ สิมมาคำ วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยผู้ประกอบกิจการร้านเกม ร้านคาราโอเกะ พนักงานเจ้าหน้าที่จาก 26 อำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและผู้ประกอบกิจการตาม พรบ.ภาพยนตร์ฯ จำนวน 150 คน เข้าร่วมประชุม โดยวิทยากร คือ อัยการจังหวัดขอนแก่น พันตำรวจโทเมธี ศรีวันนา รองผู้บังคับการป้องกันและปราบปราม ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น บรรยายให้ความรู้


นางกมนรัตน์  สิมมาคำ วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ในฐานะผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในพื้นที่ มีหน้าที่และอำนาจในการเป็นหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบงานตาม พรบ.ภาพยนตร์ฯ เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตประกอบกิจการผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์  ร้านเกม ร้านคาราโอเกะ ร้านให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายวีดิทัศน์ ที่ยังพบปัญหาอันเกิดจากสถานประกอบกิจการฯ เช่น ร้านคาราโอเกะ ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ ซึ่งหลังจากที่สถานประกอบกิจการฯ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ขาดการตรวจติดตามและสร้างความรู้ความเข้าใจในการให้บริการตามเงื่อนไข พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ อย่างเคร่งครัด และอาจมีความเสี่ยงที่ร้านคาราโอเกะ ร้านเกม-ร้านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ จะกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของเด็ก เยาวชนและประชาชนได้

บลูเทค ซิตี้ ร่วมสนับสนุนโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ เขต อบตท่าสะอ้าน ประจำปี 2566

วันนี้ (21 มี.ค. 2566) ทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ได้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมสนับสนุนน้ำดื่ม จำนวน 50 แพ็ค ให้แก่ โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ณ วัดท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา  โดยมี นางนิภา วงศ์ชโยประสิทธิ์ ประธานชมรมผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะอ้าน เป็นคนกล่าวเปิดพิธี

สำหรับวันนี้ทางชมรมผู้สูงอายุได้ ดำเนินการจัดกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้จัดกิจกรรมมาในช่วงโควิด เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีการพบปะพูดคุย มีกิจกรรมร่วมกัน ตลอดจนมีความรู้ใหม่ๆ ในการดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งในปัจจุบันสังคมไทย มักจะพบปัญหาด้านการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงโรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคติดต่อใหม่ ๆ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หากผู้สูงอายุไม่มีความรู้ในการปฏิบัติตนเอง จะทำให้เกิดโรคได้ง่าย ทำให้เกิดปัญหาด้านการดูแลผู้สูงอายุ


ทั้งนี้ ทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ยังร่วมสนุกจัดกิจกรรมลุ้นรับรางวัลให้แก่ผู้สูงอายุอีกด้วย

‘เรือไฟฟ้าคลองผดุง’ กลับมาให้บริการอีกครั้ง แต่ชาวเน็ตกลับโฟกัส ‘คนขับเรือ’ จนกลายเป็นไวรัล

สนง. เขตป้อมปราบ ลงคลิป ‘เรือไฟฟ้าคลองผดุง’ กลับมาให้บริการแล้ว แต่ชาวเน็ตกลับโฟกัสที่คนขับเรือ จนเป็นกระแส “คนขับเรือหล่อบอกต่อด้วย” ทำเอาสาวๆ อยากไปนั่งเรือกันทันที! 

TikTok @pomparp ช่องทางการของสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ได้ลงคลิปแจ้งว่าเรือไฟฟ้า EV คลองผดุงกรุงเกษม ได้กลับมาวิ่งให้บริการอีกครั้งแล้วเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันแรก 

โดยให้บริการนั่งฟรีตลอดสาย มีรอบวิ่งวันจันทร์-วันศุกร์ วันละ 2 ช่วง คือ 06.00-09.00 น. และ 16.00-19.00 น. ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ ให้บริการเวลา 08.00-19.00 น. มีความถี่ครั้งละ 20 นาที 

คลิปดังกล่าวมียอดเข้าชมและแชร์ออกไปจำนวนมาก ด้านชาวเน็ตสาวๆ กลับพากันโฟกัสไปที่ "คนขับเรือ" ที่มีการลงความเห็นกันว่าหล่อทะลุแมสก์ จนเกิดเป็นกระแสติดแฮชแท๊ก #คนขับเรือหล่อบอกต่อด้วย กันระนาว


ที่มา : https://www.tiktok.com/@pomparp/video/7210748072488455450?lang=es
Mgronline


 

ผบ.ตร.ส่งชุดเฉพาะกิจ ศปทส.ตร. นำโดย รองต่อศักดิ์ฯ ร่วมกับ ตำรวจภาค 2 เร่งตรวจสอบคดี สารซีเซียม 137 สูญหาย ทำความจริงให้ปรากฏ ย้ำดำเนินคดีผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องทุกราย หวั่นผลกระทบต่อประชาชน

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.66 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึง กรณี สารซีเซียม 137 สูญหายไปว่า “ คดีนี้ได้รับรายงานจากตำรวจว่า เมื่อ 7 มี.ค.66 เวลา 08.00 น. บริษัท เนชั่นแนล พาวเวอร์ แพลนท์ 5 เอ ตรวจพบว่าสารซีเซียม 137 สูญหายไปและ 10 มี.ค.66 ได้มาแจ้งความที่ สภ.ศรีมหาโพธิ ต่อมา 19 มี.ค.66 สำนักงานปรมณูเพื่อสันติ ได้ตรวจพบรังสีจากการหลอมของโรงงาน ที่ กบินทร์บุรี พื้นที่ สภ.ศรีมหาโพธิ   พงส.ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ คดีอาญาที่ 363/2566 ในความผิดฐาน “ในกรณีที่เกิดอันตรายหรือเสียหายอันเกิดจากการประกอบกิจการตามใบอนุญาต ผู้รับอนุญาตมีหน้าที่ระงับเหตุเบื้องต้นตามแผนป้องกันอันตรายจากรังสี และต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบทันที รวมทั้งต้องให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือแก่พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไข บรรเทาหรือระงับซึ่งอันตรายหรือความเสียหายนั้น”  ตาม พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ฯ  มาตรา 100, 126 และ 143  คดีอยู่ระหว่างสอบสวนและร่วมประชุมกับคณะกรรมการจังหวัด เพื่อเรียก บริษัทฯ มาแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมายต่อไป


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการเพิ่มเติม ให้สืบสวนสอบสวนทุกมิติทั้งประเด็น การสูญหายได้อย่างไร มีใครลักลอบเอาออกไป รวมทั้งแหล่งรับซื้อ การส่งผลกระทบต่อประชาชน สิ่งแวดล้อม มีใครต้องร่วมรับผิด รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 


โดยมอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจ ตร. มี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศปทส.ตร. รับผิดชอบทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. ตรวจสอบร่วมกับ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พิสูจน์หลักฐาน และ กรมควบคุมมลพิษ  ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ดำเนินการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีเอาผิด กับบุคคลที่กระทำผิดในกรณีนี้ ให้ครบทุกมิติ


โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า “ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยประเด็นสารซีเซียม 137 สูญหาย ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ บูรณาการแก้ปัญหา
   

ผบ.ตร.รับนโยบาย จึงได้ส่งชุดเฉพาะกิจร่วมกับตำรวจพื้นที่ และหน่วยงานเกี่ยวข้องไขข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขอเวลาตำรวจทำงาน ยืนยันจะเร่งทำความจริงให้ปรากฎ พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป”

ตำรวจ ปส.(NSB) ทลายเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาได้ 20 คน ของกลางยาบ้า 15.5 ล้านเม็ด , ไอซ์ 880 กก. , คีตามีน 450 กก. ยึดทรัพย์กว่า 24 ล้านบาท

วันนี้ (21 มี.ค.66) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร.,พร้อมด้วย        พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส.,พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รอง ผบช.ปส., พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส.,พล.ต.ต.เอกภพ อินทวิวัฒน์ ผบก.ขส.บช.ปส., พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 และ พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด(NSB) เดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร จะพบว่าสถานการณ์ยาเสพติดขณะนี้เครือข่ายมีความพยายามอย่างหนักในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก โดยซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าทางการเกษตร หรือแม้แต่การดัดแปลงช่องลับของรถซุกซ่อนยาเสพติด ส่วนมากจะถูกลำเลียงมาจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ ก่อนจะกระจายไปยังเครือข่ายรายย่อย ล่าสุด ตำรวจ ปส. (NSB) สามารถทลายได้หลายเครือข่ายรวมผู้ต้องหา 20 คน ของกลางเป็น ยาบ้า 15.5 ล้านเม็ด, ไอซ์ 880 กก., คีตามีน 450 กก., รถยนต์ 9 คัน, มือถือ 11 เครื่อง และยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท โดยแยกเป็น 7 คดีดังนี้


คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส., บก.ขส. และ บก.ปส.3 ได้ร่วมกันจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหา เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง อยู่ใน อ.พบพระ จ.ตาก ใช้รถกระบะจำนวน 4 คัน เพื่อสำรวจเส้นทางและขนยาเสพติด โดยนำผักมาวางปิดบังยาเสพติดไว้เพื่ออำพราง โดยจับกุม นายเอกยุทธ ได้บริเวณด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี จากนั้นได้ติดตามไปจับกุมนายธนนันท์ นายธนธัส และจับกุมนายณัฐพล ได้ทั้งหมด พร้อมของกลาง ไอซ์ 600 กก., ยาบ้า 12 ล้านเม็ด, คีตามีน 400 กก., โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง, รถกระบะ 4 คัน และตรวจยึดเงินสดรวม 5 หมื่นบาท โดยผู้ต้องหาทั้งหมด รับว่ากำลังลำเลียงยาเสพติดไปส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง

 
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติด ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี โดยหาความเชื่อมโยง ติดตามตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน จนสามารถออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายได้อีก 4 ราย และสามารถยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนี้ไว้ตรวจสอบ หลายรายการ อาทิเช่น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมที่ดิน 3 หลัง ราคาประมาณ 20 ล้านบาท และที่ดินเปล่า 1 แปลง รวม 23 ล้านบาท
 คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 และบก.ขส. ได้วิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระทั่งเช้ามืดวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันตรวจยึดยาบ้า 8 กระสอบ รวม 2,000,000 เม็ด ได้ในบริเวณไร่มันในเขตพื้นที่หมู่ 5 บ้านโคกสว่าง ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี พร้อมยึดรถกระบะ 2 คัน โดยผู้ต้องหาได้ขับรถกระบะหลบหนีเข้าไปในไร่มันสำปะหลัง แล้วทิ้งรถพร้อมยาเสพติดไว้ ขณะนี้ตำรวจ ปส.2 ได้ติดตามตัว ขยายผลเครือข่ายรายนี้ และติดตามเจ้าของรถมาเพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
- 2 -

คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด จ.ปทุมธานี ทราบว่า แก๊งค้ายาเสพติดจะมีการลักลอบส่งยาเสพติดใน จ.ปทุมธานี จึงเฝ้าติดตามจับกุม และนำกำลังเข้าจับกุมนายปรีชา, นายนัฐพงษ์, นายอนุชา,น.ส.มนัดดา ได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 88/6 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยคีตามีน 31 กก. ภายในบ้าน และติดตามจับกุมนายอรุณ และนางกรรณิการ์ ที่บริเวณโรงแรมไนซ์อินน์ ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พร้อมคีตามีน ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์รวม 15 กก. ซึ่งผู้ต้องหา รับว่าเป็นยาเสพติดที่จะนำไปส่งให้กับลูกค้าใน จ.ปทุมธานี   รวมคีตามีน   ของกลาง 46 กก. ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลต่อไป

เหมืองทองอัคราได้ฤกษ์เปิดกิจการ ชาวบ้าน250คน เฮดีใจได้งานทำเม็ดเงินสะพัด10-12ล้านบาท/เดือน ส่งผลเศรษฐกิจชุมชนคึกคัก

เหมืองทองอัคราพิจิตรได้ฤกษ์กดปุ่มเดินเครื่องจักรเพื่อผลิตทองคำและเงิน เบื้องต้นเดินหน้าแค่ 1 โรงงาน โดยขณะนี้มีการจ้างพนักงานชาวบ้านคนพื้นที่ 250 คน รวมค่าแรงประมาณ 10-12 ล้านบาท/เดือน ส่งผลตลาดร้านค้าในชุมชนคนรอบเหมืองทองคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ตอบคำถามที่มีข่าว ป.ป.ช.ชี้มูล เจ้าหน้าที่ของรัฐและฝ่ายอัคราในเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินว่า ข่าวมีความคลาดเคลื่อน ในขณะที่ตั้งความหวังจะได้รับโอกาสให้เข้าชี้แจงด้วยพยานและหลักฐาน มั่นใจอัคราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
 
วันที่ 21 มีนาคม 2566 นายวรงค์ สราญฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร , นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร  บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)   ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 9 ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร  ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมสังเกตการณ์การเปิดเดินเครื่องจักร  โดย นายเชิดศักดิ์  อรรถอารุณ  ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกในการที่ บ.อัครา กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งภายหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการครบถ้วนแล้ว โดยในช่วงเวลานี้ บ.อัครา เริ่มการผลิตจากโรงงานที่ 2 ที่เพิ่งซ่อมแล้วเสร็จเพียงแห่งเดียวก่อน และหลังจากนี้อีกระยะหนึ่งถึงจะซ่อมโรงงานที่ 1 ที่เป็นโรงงานเก่ากว่า  หากเมื่อซ่อมโรงงานที่ 1 เสร็จ บ. อัคราก็จะมีสองโรงงานที่ทำงานได้พร้อมๆ กัน และมีผลผลิตทองคำประมาณปีละ 5.5 ล้านตันสินแร่ สำหรับขณะนี้วันนี้ บ.อัคราเปิดเดินเครื่องเฉพาะโรงานที่ 2 ซึ่งได้มีการจ้างพนักงาน 90% เป็นคนในพื้นที่ 3-4 อำเภอ (พิจิตร-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ ) ซึ่งอยู่รอบๆ บ.อัครา ประมาณ 250-260 คน ซึ่งต้องมีการจ่ายค่าจ้างพนักงานในทุกระดับรวมกัน 10-12 ล้านบาทเศษ/เดือน  ซึ่งเม็ดเงินหล่านี้จะช่วยหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ชุมชนที่อยู่รอบๆเหมืองทองอัครา ซึ่งสังเกตได้จากร้านค้าในชุมชน ตลาดนัด ตลาดสดยามเช้า-เย็น ร้านของชำ ต่างคึกคักด้วยเม็ดเงินจากค่าแรงส่วนนี้ ส่งผลให้การเงิน เม็ดเงิน หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทวีคูณเป็น 2-3 เท่าตัว จึงถือได้ว่าการเปิดดำเนินกิจการของ บ.อัครา ในครั้งนี้ช่วยให้คนมีงานทำ มีเงินเดือน มีรายได้ทางตรงและร้านค้าในชุมชนก็ ได้รับอานิสงส์มีรายได้ทางอ้อมไปได้ด้วยกันทั้งคู่

วธ.เปิดตัวเทศกาลดนตรีแห่งปี “MOC MU FES 2023” Summer Hit Songs เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ผู้รักเสียงเพลงทั้งไทยและต่างชาติ ชมฟรี

วธ.เปิดตัวเทศกาลดนตรีแห่งปี “MOC MU FES 2023” Summer Hit Songs เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ผู้รักเสียงเพลงทั้งไทยและต่างชาติดื่มด่ำกับเสียงเพลงต่อเนื่องตลอดปี ประเดิมด้วยการแสดง  “๑๐๐ ปี ดนตรีไทยสากล” - มหกรรมดนตรีไทย – ลีลาศสุนทราภรณ์ - การแสดงคอนเสิร์ต ๘๔ ปีสุนทราภรณ์ ๓๑ มีนาคม ๑ , ๒ และ ๙ เมษายน ๒๕๖๖ ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข หอประชุมใหญ่ และอาคารอเนกประสงค์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ชมฟรี 
 
วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการแถลงข่าวเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival : Summer Hit Songs (MOC MU FES) ประจำปี ๒๕๖๖ โดยมีผู้บริหาร  นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นายประยงค์ ชื่นเย็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยลูกทุ่ง) นายสมโภชน์ อินทรกำแหง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีไทย และ นางอติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสุนทราภรณ์ ในพระราชูปถัมภ์  รวมไปถึงผู้แทนเครือข่ายการจัดงานแสดงทางศิลปะและวัฒนธรรม เข้าร่วมแถลงข่าวอีกมากหมาย อาทิ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รองประธานกรรมการมูลนิธิรอยัลแบงค์คอกซิมโฟนีออร์เคสตร้า ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ,นายจุมพจน์ เชื้อสาย เลขาธิการทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ,ผศ.ดร. สุกัญญา สมไพบูลย์ คณะทำงานจัดงาน ๘๔ ปี ลูกทุ่งไทย  คุณพารณี ยนตรรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลคัลเจอรัล โปรโมชั่น จำกัด กล่าวถึงการจัดงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ ๒๕ เป็นต้น รวมทั้งผู้แทนเครือข่ายการแสดงดนตรี การแสดงต่าง ๆ พร้อมศิลปินนักร้องผู้มีชื่อเสียง ร่วมงาน ณ ลานหน้าศาลาไทย ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ประธานกล่าวว่า งานเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival : Summer Hit Songs (MOC MU FES) ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖ ในครั้งนี้ นับเป็นการจัดงานเทศกาลดนตรีครั้งที่ ๒ สืบเนื่องจากการจัดงานครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๖๕ ที่จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรม โดยการจัดงานเทศกาลดนตรีในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๖๖ กำหนดจัดการแสดง ๔ รายการใหญ่ ประกอบด้วย การแสดงดนตรีไทยสากล ๑๐๐ ปี เพลงไทยสากลยอดนิยม ในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข กระทรวงวัฒนธรรม การแสดง ลีลาศสร้างสุขกับ สุนทราภรณ์ โดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๖ ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข การแสดงมหกรรมดนตรีไทย ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๖ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และ การแสดงดนตรี ๘๔ ปี สุนทราภรณ์ ในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๖ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 

'เอนก' ยันสารซีเซียม-137 ที่พบ 2 จุด ยังไม่น่าวิตก เล็งเรียกถกคณบดีแพทย์ ร่วมวางแผนเฝ้าระวัง

‘เอนก’ ขอ ปชช.สบายใจ ยังไม่พบซีเซียม-137 เกินค่ามาตรฐาน เรียกถกคณบดีแพทย์กว่า 20 สถาบัน วางแผนเฝ้าระวัง ย้ำปิดพื้นที่ห้ามเข้า-ออก ชี้ต้องทำงานด้วยหลักการ ไม่ใช่สามัญ เผย "นายกฯ" ย้ำเอาข้อมูลความจริงมาทำความเข้าใจปชช. ต้องสอบทานได้ ยันไม่มีงุบงิบ-ฮั้วโรงงาน 

เมื่อเวลา 09.20 วันที่ 21 มีนาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมกับเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ว่า จากการรายงานสรุปข้อมูล เบื้องต้นจากการสอบทานและตรวจสอบ ดิน น้ำอากาศ ในบริเวณ 2 จุด คือ ที่ซีเซียมหาย และบริเวณที่พบซีเซียม ไม่มีค่ากัมมันตรังสีที่มากกว่าค่าปกติ ในระดับที่เป็นอันตราย ยังไม่มีอะไรที่น่าวิตกมากนัก แต่ยังต้องระวัง โดยมีการตั้งจุดตรวจทั่วประเทศ 18 จุด และตรวจในน้ำในทะเลอีก 5 จุด ทั้งหมดรายงานมาว่ายังไม่พบซีเซียมอยู่ในระดับที่เกินค่ามาตรฐานปกติ ในตอนนี้ให้เบาใจได้

นอกจากนั้น จะให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีวิชาและคณะสาขาที่มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องปรมาณูและกัมมันตรังสี เข้าไปตรวจสอบ และจะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟังรับรู้ในการตรวจวัดปริมาณซีเซียมในระยะต่อไป เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีปริมาณซีเซียมในดิน น้ำ อากาศ ที่เป็นอันตราย เราต้องติดตามอย่างจริงจัง ไม่ใช่รับฟังรายงานอย่างเดียว

นายเอนก กล่าวว่า นอกจากนั้นจะประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ว่ามีกัมมันตรังสีแพร่กระจายหรือไม่ และขอให้รายงานมาที่ประเทศไทย และรายงานต่อองค์การระดับโลก ที่ทำงานเกี่ยวกับการควบคุมกัมมันตรังสีได้รับทราบด้วยว่าปริมาณซีเซียมในดิน น้ำ อากาศ ในประเทศรอบบ้านเรา ยังไม่มีระดับที่ผิดปกติอะไร ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะมั่นใจขึ้น และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ามีคนที่บาดเจ็บ หรือสุขภาพได้รับความเสียหายจากกัมมันตรังสี จึงเบาใจได้เพิ่ม แต่ย้ำว่าไม่ละเลยเรื่องนี้ โดยเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ตนจะเชิญคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของโรงเรียนแพทย์ทั้งหมด กว่า 20 แห่ง มาประชุมเพื่อสั่งการว่าจะเตรียมการอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการควบคุมพื้นที่บริเวณดังกล่าวไว้ก่อนหรือไม่ นายเอนก กล่าวว่า ใช่ ในพื้นที่มีการก่ออิฐ มีการใช้วิทยาการระดับสูงเข้าไปดำเนินการ ไม่ใช่ทำตามสามัญสำนึก ส่วนการกำจัดกากที่เหลือ ได้มอบให้สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเข้าไปดำเนินการ และมีวิธีทำงานให้เกิดความปลอดภัย

เมื่อถามว่า จะต้องมีระยะเวลาติดตาม เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ไปนานแค่ไหน นายเอนก กล่าวว่า ให้ใช้เวลาทำงานให้เต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ โดยจะสอบทานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่พบกัมมันตรังสี และจากไอเออีเอ ที่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับกัมมันตรังสีทั่วโลก ว่าพบมีรายงานสั่งไปพบที่ประเทศใด เพื่อให้สบายใจ เพราะดูแล้วว่าประชาชนสนใจเรื่องนี้มากกว่าการยุบสภา และเวลานี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนเต็มที่หลายหน่วยงานลงไปช่วยกัน และจะเพิ่มมากขึ้นโดยสำนักงานได้ลงไปตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าที่จุดเกิดเหตุมีนักนิวเคลียร์ นักฟิสิกส์ ลงไปช่วย และรายงานว่าสถานการณ์ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าวิตก

เมื่อถามถึงกรณีภาพที่เผยแพร่การปิดล้อมโรงงานหลอมเหล็กที่พบสารซีเซียม-137 ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจว่าจะสามารถดูแลป้องกันสุขภาพและสารกัมมันตรังสีได้มากน้อยแค่ไหน ว่ามั่นใจได้ทำตามหลักวิชาและเรื่องกัมมันตรังสีอยากเรียนให้พี่น้องได้เข้าใจด้วยว่าเป็นเรื่องสากลด้วยมาตรการต่างๆ ที่เราใช้จะต้องถูกกำหนดโดยองค์การระดับประเทศทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) เข้ามาตรวจสอบเราเป็นระยะๆ อยู่เสมอ ถ้าบอกว่าล้อมเอาไว้เพื่อไม่ให้กัมมันตรังสีเผยแพร่ออกไป มันถูกกำหนดไว้หมดว่าจะต้องทำอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องวิตกเฉพาะเมืองไทยหรือประเทศอื่นๆ เท่านั้น แต่กัมมันตรังสีสามารถแพร่ไปได้ทั่วโลก เพราะฉะนั้นประเทศอื่นๆ ก็เข้ามาตรวจสอบของเราด้วย

"เรื่องนี้ถ้าถามว่ารัฐบาลคิดอย่างไร ผมกราบเรียนได้เลยว่า ผมได้กราบเรียนท่านนายกฯ วันนี้จะเรียกประชุมคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ซึ่งมีหน้าที่ทางวิชาการส่วนเรื่องการกันพื้นที่เป็นเรื่องของทางจังหวัด นายกฯ บอกว่าให้เอาความจริงออกมาให้พูดข้อมูลตามที่เป็นจริงและให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้าใจ ซึ่งจะเข้าใจได้ก็ต้องรับรู้รับทราบในข้อมูลและสอบถามได้ เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเราจะฮั้วกับโรงงานนั้น บอกได้เลยว่ารัฐบาลโดยเฉพาะระดับสูงระดับนายกระดับกระทรวงระดับกรมเราทำจริงจังแน่ และเรื่องนี้เป็นนโยบายที่เป็นมาตรฐานสากลด้วย ดังนั้น เราจะมาทำแบบงุบงิบไม่ได้" นายเอนก กล่าว

ด้าน นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพที่เก็บสิ่งปนเปื้อนสารซีเซียม-137 ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการกักเก็บไม่มิดชิด ว่าภาพดังกล่าวเราเปิดเพื่อถ่ายรูป พอถ่ายเสร็จก็ปิด ทั้งนี้ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติมีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจที่โรงงานหลอมเหล็กดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจ และเพื่อตรวจวัดโรงงานและบริเวณรัศมีรอบๆ เป็นชั้นๆ ต่อเนื่อง รวมถึงการวัดดิน น้ำ อากาศ อาหารที่อยู่ในตลาด จะมีการเก็บมาตรวจสอบทั้งหมด เพื่อความมั่นใจในการทำมาหากินของประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top