Monday, 19 May 2025
NEWS

ร่วมกิจกรรม รักษ์ทะเลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเกาะเกล็ดแก้ว รร.ชุมพลทหารเรือ

วันที่ 12 มิ.ย.66 นาวาเอก จิระวัฒน์ อภิภัทรชัยวงศ์ ผู้บังคับการโรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เป็นประธาน เปิดกิจกรรมวันทะเลโลก "รักษ์ทะเล รักษ์เกาะเกล็ดแก้ว" ว่ายน้ำเก็บขยะรอบเกาะและบนเกาะเกล็ดแก้ว ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดยมี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียนจ่าทหารเรือ รร.ชุมพลทหารเรือ หน่วยงานภาครัฐ นักว่ายน้ำ จิตอาสา กลุ่มอาสาสมัครเพื่อการอนุรักษ์ทะเล ข้าราชการและประชาชน เกือบ 200 คน เข้าร่วมกิจกรรม
ผู้บังคับการ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กล่าวว่า สำหรับเกาะเกล็ดแก้วถือเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางทะเลและระบบนิเวศในทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะหาดเกล็ดแก้วก็เช่นเดียวกัน เป็นชายหาดที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวและพักผ่อน ปัจจุบันประสบกับปัญหาขยะทะเล

โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่ส่งผลให้ทรัพยากรทางทะเลได้รับความเสียหาย โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ จึงได้จัดกิจกรรมวันทะเลโลก "รักษ์ทะเล รักษ์เกาะเกล็ดแก้ว" ขึ้น เพื่อปลุกจิตสำนึกในการรักษ์ทะเลรักษ์เกาะเกล็ดแก้ว ด้วยการจัดกิจกรรมร่วมเก็บขยะบริเวณชายหาดเกล็ดแก้ว และว่ายน้ำเก็บขยะรอบเกาะเกล็ดแก้ว ให้มีความสะอาดเป็นธรรมชาติทางทะเลที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์

โดยการจัดกิจกรรมโครงการ "รักษ์ทะเล รักษ์เกาะเกล็ดแก้ว" มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการตระหนักถึงความสำคัญของท้องทะเล ปลุกจิตสำนึกให้แก่เยาวชน โดยเฉพาะนักเรียนจ่าทหารเรือ รวมทั้งทุกคนให้มีความรักทะเลและรู้จักรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างความร่วมมือสร้างพลังรักษ์ทะเลขึ้น

ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จากหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชนหลายๆ หน่วยงาน อาทิ เทศบาลตำบลบางเสร่ เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว มูลนิธิรักษ์ปะการัง โดยความอุปถัมภ์ของ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ฝั่งตะวันออก โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา  บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน)
รวมทั้งกลุ่มอาสาสมัครเพื่อการอนุรักษ์ทะเล นำโดย พลเรือโท ชูศักดิ์ ชูไพฑูรย์ นำกลุ่มนักว่ายน้ำจิตอาสาเพื่อการอนุรักษ์ทะเล หรือ VOSEA (Volunteers for Sea )

โดยการสนับสนุนจาก บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมกิจกรรมว่ายน้ำไปเก็บขยะรอบเกาะเกล็ดแก้ว "รักษ์เต่า รักษ์ทะเล ลดขยะ" เพื่อเป็นการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ลดผล กระทบของขยะทะเล ก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ ห่วงโซ่อาหารใต้ท้องทะเลมีสภาพดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเล ให้เกิดความยั่งยืนในอนาคตต่อไปอีกด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 909535645
วิมล 0811013663 ผู้ประสานงาน
 

สืบนครบาลจับกุมบัญชีม้าแม่ลูกอ่อนหลอกลงทุนเทรดหุ้นคลิปโต อ้างสามีเป็นผู้ชักชวนจนทำร้ายตนเอง

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก

โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบนครบาลตรวจพบว่า นางสาวปรียานุช  มั่นมาก มีบัญชีธนาคาร จำนวน 6 บัญชี เป็นบัญชีม้าไว้สำหรับการหลอกลงทุนออนไลน์ประเภทหุ้นคลิบโตเพื่อสร้างรายได้ทางออนไลน์ รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท

เมื่อถูกสืบนครบาลจับกุม ยอมรับว่าสามีเป็นคนชักชวนเปิดบัญชี เมื่อรู้ว่าถูกออกหมายจับ สามีชิงฆ่าตัวตาย ทิ้งให้ตนเลี้ยงลูกเพียงลำพัง 3 คน คนโตอายุ 13 ปี คนเล็ก อายุ 2 เดือน  ชุดปฏิบัติสืบนครบาลจึงประสานครอบครัวให้มาดูแลเด็กๆ และสนับสนุนค่าเลี้ยงดู

วันที่ 11 มิถุนายน 2566  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หัวหน้าชุด PCT 5 ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ  พ.ต.ต.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์  สว.กก.สส.1ฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ชป.3) กก.สส.1 บก.สส.บช.น.ได้ร่วมกันจับกุมตัวนางสาวปรียานุช  มั่นมาก อายุ 31 ปีที่อยู่ 146/15 ม.2 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี หมายจับ ศาลอาญา ที่ 550/2566 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน" หมายจับ ศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 71/2566 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2566กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน"

โดยกล่าวว่า ฉ้อโกงประชาชน
สถานที่จับกุม ฟิวเจอปาครังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าเมื่อประมาณ เดือนเมษายน 2565 แฟนของผู้ต้องหา นายมาดแมน ศรีเพชร ได้ชักชวนให้ผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน6 บัญชี เพื่อที่จะใช้ลงทุนออนไลน์ หารายได้ ต่อมาปรากฏว่า เดือนพฤษภาคม2566 นายมาดแมนฯ ได้ฆ่าตัวตายเนื่องจาก ทราบว่าตนถูกหมายจับเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน ต่อมาในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบนครบาลมาจับกุมตน ซึ่งตนรู้ตัวว่าตนนั้นจะต้องถูกดำเนินคดี ในชั้นจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรายละเอียดคดี  สน.สายไหม

หลอกลงทุนเทรดหุ้นคลิปโต เมื่อลงทุนแล้วไม่สามารถถอนกำไรได้ จำนวน 537,229 บาท   ส่วนสน.แม่จัน จว.เชียงรายหลอกลงทุนเทรดหุ้นคลิปโต บริษัท อมตะ ซึ่งหลอกลวงว่าให้ผลตอบแทนสูง ความเสียหายทั้งสิ้น 269,512 บาท

ต่อมาชุดสืบสวนได้ประสานครอบครัวของผู้ต้องหามารับเด็กๆไปดูแล และมอบเงิน จำนวน 2,000 บาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับเด็กๆ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หัวหน้าชุด PCT 5 กล่าวว่าขอแจ้งเตือนไปยังผู้กระทำผิด ว่าท่านไม่สามารถหลบรอดกฎหมาย  และประชาชนหากมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.

‘ลุงป้อม’ ชื่นชม การแก้ไขปัญหานำร่องที่ดินคืบหน้า ย้ำ ต้องเร่งช่วยเหลือ ให้ทั่วถึงทุกภาค

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีพร้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ดินทำกิน และการบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึงตามนโยบายของรัฐบาล

โดย พล.อ. ประวิตร และคณะ ได้เดินทางไปที่ว่าการ อ.หนองไผ่ มี ผวจ. เพชรบูรณ์ และ หน.ส่วนราชการต่างๆให้การต้อนรับ เพื่อรับทราบความคืบหน้าการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล จาก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ซึ่งในภาพรวมพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ สามารถบริหารจัดการพื้นที่จาก ป่าห้วยทินและป่าคลองตีบ ป่าลุ่มน้าป่าสักฝั่งซ้าย ป่าห้วยน้าโจนและป่าวังสาร ป่าวังโป่ง ชนแดนและป่าวังกำแพง ให้ชุมชนได้แล้วถึง 12,224 ไร่ ประชาชนสามารถเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าร่วมกันได้เกือบ 1,215 ราย

ต่อจากนั้นได้กระทำพิธีมอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในป่าสงวนแห่งชาติ ให้กับประชาชนที่ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน และมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ( ส.ป.ก. 4-01) กับประชาชน ป่าเขาโปลกหล่น ต.ทุ่งสมอ และ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ รวมจำนวน 231 คน พื้นที่ 261 แปลง รวม 1,722 ไร่

พล.อ. ประวิตร’ กล่าวชื่นชมและพอใจ การทำงานร่วมกันของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และส่วนราชการต่างๆที่ร่วมกับขับเคลื่อนแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน จากความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน ตามนโยบายรัฐบาล

โดยย้ำขอให้ เร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอีกมาก ที่ยังไม่มีที่ดินทำกินให้ทั่วถึงทุกภาค โดยให้บริหารความสมดุลของการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ และให้ตามไปส่งเสริมพัฒนาอาชีพและสาธารณูปโภค เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน

ต่อจากนั้น บ่ายวันเดียวกัน ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้า การก่อสร้างระบบส่งน้ำ อ่างเก็บน้ำคลองลำกง ต.วังดี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 5,000 ไร่

รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะ 1 พร้อมรองรับ 50,000 คนต่อชั่วโมง/ทิศทาง

เพจเฟซบุ๊ก ทันข่าว Today ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วง กทม.-นครราชสีมา โดยมีใจความว่า ...      

โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วง กทม.-นครราชสีมา ประกอบด้วย 6 สถานี คือ สถานีกลางบางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ปากช่อง และนครราชสีมา ระยะทางรวม 250.77 กม. 

กำหนดสร้างแล้วเสร็จในปี 2569 มี 15 สัญญา แบ่งเป็นงานโยธา 14 สัญญา งานระบบ 1 สัญญา ขณะนี้ ก่อสร้างเสร็จแล้ว 1 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 10 สัญญา และรอการลงนาม 3 สัญญา

คาดว่า จะใช้ขบวนรถรุ่น ฟู่ซิงห้าว (Fuxing Hao) CR300AF มาให้บริการ แบ่งประเภทที่นั่งได้ 3 ระดับ คือ ชั้น 1 แบบเก้าอี้เดี่ยว ชั้น 2 ประเภทธุรกิจ และชั้น 3 ความจุ 600 คน/ขบวน ต่อพ่วงได้ 3-10 คัน/ขบวน รองรับผู้โดยสารได้ 5 หมื่นคน/ชั่วโมง/ทิศทาง

จีนพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยี ทักษะและองค์ความรู้เกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูง 11 ด้านให้ไทย เช่น วัสดุที่ใช้ในการสร้างรางรถไฟ, แนวปฏิบัติในการวางรางในภูมิประเทศลักษณะต่าง ๆ, การออกแบบสถานีให้ผู้โดยสารสัญจรไปมาได้ดีขึ้น, การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำหรือแหล่งอื่น ๆ ด้วยความเร็วที่มากขึ้นและต้นทุนที่ต่ำลง, การออกแบบและสร้างอุโมงค์ที่ปลอดภัย รวมถึงอบรมการบริหารรถไฟความเร็วสูง การซ่อมบำรุง และการขับรถไฟ

ทางหลวงสายใหม่ อุดรธานี-บึงกาฬ มาตรฐานมอเตอร์เวย์ ไร้จุดตัดทางแยก เชื่อมต่อสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 5

เพจเฟซบุ๊ก โครงสร้างพื้นฐานประเทศไทย Thailand Infrastructure ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ทางหลวงสายใหม่ อุดรธานี-บึงกาฬ โดยมีใจความว่า ...

ทางหลวงสายใหม่ อุดรธานี-บึงกาฬ ร่นระยะทางกว่า 65 กม
มาตรฐานมอเตอร์เวย์ ไร้จุดตัดทางแยก เชื่อมต่อสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) และสนามบินบึงกาฬ
วันนี้เอาอีกหนึ่งโครงการถนนยุทธศาสตร์ ด้านการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน คือเส้นทางทางหลวงสายใหม่ อุดรธานี (กุมภวาปี) - บึงกาฬ เพื่อตัดตรง จากถนนมิตรภาพ เข้าสู่บึงกาฬ โดยตรง 
ซึ่งถนนสายใหม่เส้นนี้ สามารถลดระยะทาง ได้กว่า 65 กิโลเมตร จากเดิม 220 กิโลเมตร เหลือเพียง 155 กิโลเมตร 

การยกระดับมาตรฐานทางหลวง ขนาด 4 ช่องจราจร เทียบเท่ามอเตอร์เวย์ ไร้จุดตัดทางแยก และทางกลับรถกลางถนน เพื่อความปลอดภัย และความสะดวกของประชาชน
นอกจากนั้น ถนนสายใหม่นี้ จะเป็นอีกหนึ่งสายที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น

- ทะเลบัวแดง
- คำชะโนด
- หินสามวาฬ
- ถ้ำนาคา

สำคัญที่สุด จะเป็นโครงข่ายสนับสนุนการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ที่กำลังก่อสร้าง และจะเสร็จประมาณปี 67 คู่ขนานกับการเชื่อมต่อสนามบินบึงกาฬที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้

รายละเอียด ถนนสายใหม่ อุดรธานี-บึงกาฬ 

- ระยะทางรวม 155 กิโลเมตร 
- เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร
- มาตรฐานการออกแบบ เป็นทางหลวงระหว่างเมือง ไม่มีจุดตัดทางแยก (เทียบเท่ามอเตอร์เวย์)
- มีทางต่างระดับเพื่อเชื่อมต่อทางหลวงสายหลัก 3 จุด ได้แก่ จุดตัดถนนมิตรภาพ (ทล.2) ที่ กม. 424 (ต้นทาง) , จุดตัดทางหลวงสาย 22 ที่ กม. 30 และ จุดตัด ถนนเลี่ยงเมืองบึงกาฬ ที่ กม. 2 (ปลายทาง)
- มีสะพานข้ามแยก 7 จุด เพื่อเชื่อมต่อกับถนนขนาดเล็ก 

แนวเส้นทาง
เริ่มต้นโครงการจาก ถนนมิตรภาพ กม. 424 ในอำเภอกุมภวาปี มุ่งหน้าขึ้นเหนือ ผ่านอำนาจประจักษ์ศิลปาคม เข้าสู่อำเภอหนองหาน ตัดกับทางหลวงสาย 22 (อุดรธานี-นครพนม) ซึ่งเป็นทางต่างระดับ เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อทุกด้าน
จากนั้นก็มุ่งหน้าต่อผ่านอำเภอทุ่งฝน อำเภอพิบูลย์รักษ์ อำเภอบ้านดุง ตัดกับทางหลวง 2022 (สามารถเดินทางต่อยปคำชะโนดได้)
จากนั้น มุ่งหน้าต่อ เข้าเขตจังหวัดหนองคาย อำเภอโพนพิสัย ตัดกับทางหลวง 2023 และ ทางหลวง 2267 และจะมีพื้นที่จุดบริการทางหลวง อยู่ที่อำเภอเฝ้าไร่
จากนั้นเข้าสู่เขตจังหวัดบึงกาฬ ที่อำเภอโซ่พิสัย ตัดกับทางหลวง 2095 เข้าสู่เขตอำเภอเมืองบึงกาฬ
ซึ่งบริเวณ นี้จะเชื่อมต่อกับตำแหน่งสนามบินบึงกาฬ แห่งใหม่ ที่กำลังศึกษาความเป็นไปได้ และผลกระทบสิ่งแวดล้อมอยู่
สุดท้าย ปลายทางจะไปบรรจบกับถนนเลี่ยงเมืองบึงกาฬ ซึ่งจะเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ด้วยเช่นกัน
 

ผบ.ตร. สั่งตั้งคณะทำงาน เตรียมยกเครื่อง ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ การรับบุคคลเป็นตำรวจสัญญาบัตร ให้สอดคล้อง พ.ร.บ.ตำรวจใหม่

ผบ.ตร. สั่งตั้งคณะทำงาน เตรียมยกเครื่อง ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ การรับบุคคลเป็นตำรวจสัญญาบัตร ให้สอดคล้อง พ.ร.บ. ตำรวจใหม่  

โดยจะเปิดกว้าง โปร่งใส ตรวจสอบได้ เน้นพิจารณาคนในเป็นพิเศษ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจตำรวจ และความเชื่อมั่นประชาชน

วันนี้ (12 มิ.ย.66 ) พล.ต.ท. อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวว่า  “  ตามที่มีข่าวประเด็นข้อสงสัยของสังคมเกี่ยวกับกรณีของ ร.ต.อ. หญิง อาทิติยา และข้าราชการตำรวจรายอื่นๆ ของหลักสูตร กอส. แม้ว่าในเบื้องต้นกระบวนการทั้งการคัดเลือก การแต่งตั้ง การเข้าเรียนหลักสูตร กอส. การบรรจุด้วยวุฒิปริญญาโท จนการเลื่อนยศ  จนถึง ร.ต.อ. จะเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย กฎ ก.ตร. ที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียด หลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงที่ ผบ.ตร. เข้ามารับตำแหน่ง กว่าระยะเวลา 8 เดือน ก็ยังไม่ได้มีการเปิดรับบุคคลภายนอกมาเป็นตำรวจตามที่หน่วยงานร้องขอแต่อย่างใด
เพื่อให้การแก้ไขเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ จึงได้สั่งการ มอบหมาย ให้ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ฝ่ายบริหาร ตั้งคณะทำงาน เพื่อทบทวน ปรับปรุง แก้ไข ระเบียบ คำสั่ง กฏ ก.ตร และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการรับบุคคลเข้ามาเป็นตำรวจสัญญาบัตร การบรรจุ แต่งตั้ง ครองยศ

รวมถึงการเข้าเรียนหลักสูตรการอบรมบุคคลภายนอกที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร(กอส.) , หลักสูตรการอบรมบุคคลภายใน(ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน) เป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอน.) , และหลักสูตรที่เทียบเคียงอื่นๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทันต่อยุคสมัย และสอดรับกับ พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ฉบับใหม่


รวมทั้งนำกรณีของ ร.ต.อ. หญิง อาทิติยาฯและข้าราชการตำรวจรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มอบหมายให้สำนักงานกำลังพลไปถอดบทเรียน มาประกอบการพิจารณาเพื่อยกร่างกฎระเบียบใหม่
โดยจะมีการเปิดกว้างในการรับบุคคลภายนอกที่มีคุณภาพ มาเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตรงกับความต้องการของหน่วยและจะมีการพิจารณาเพิ่มโควต้าคนในให้มากขึ้นกว่าเดิมโดยพิจารณาจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถจากผลการประเมินจากผู้บังคับบัญชาหรือกรณีที่ตำรวจไปศึกษาเพิ่มเติมจนจบชั้นปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก โดยจะเปิดให้มีการแข่งขันกันเอง ให้เป็นสัญญาบัตรได้ในสายงานต่างๆ เช่นสายงานสอบสวน สายงานป้องกันปราบปราม เป็นต้น

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า “ สำหรับ หลักสูตร กอส. ที่สังคมตั้งคำถาม  เป็นหลักสูตรที่ใช้สำหรับการฝึกอบรมความรู้พื้นฐานสำหรับบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร โดยมีที่มาจากการสอบแข่งขัน การคัดเลือก ทายาทของตำรวจที่เสียชีวิต การรับโอนจากส่วนราชการต่าง ๆ  หรือคุณวุฒิขาดแคลนตามที่หน่วยร้องขอ  

โดยเงื่อนไขของบุคคลภายนอกที่เข้ามาเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรทุกนาย จะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนได้อย่างแท้จริง

เพื่อให้การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ครบถ้วนทุกมิติ คณะทำงานชุดนี้ จะมีการพิจารณาในทุกประเด็น โดยเฉพาะการรับบุคคลเข้ามาเป็นตำรวจสัญญาบัตร การเข้าเรียนหลักสูตร กอส. รวมทั้ง
หลักสูตรอื่นๆภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

ทั้งนี้ เพื่อให้มีการเปิดกว้าง มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อที่จะรับบุคคลภายนอกที่มีคุณภาพ ตรงกับที่หน่วยต้องการ และจะเน้นการเพิ่มจำนวนโควต้าพิจารณาคนใน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจผูัปฏิบัติงาน  และสามารถสร้างความเชื่อมั่น เป็นที่ยอมรับของประชาชน สังคมต่อไป
 

‘ศรีสุวรรณ’ ประกาศตั้งองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เพื่อตรวจสอบข้าราชการ – นักการเมือง ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ทุจริตคอรัปชัน

ภายหลังที่อธิบดีกรมการปกครอง ออกคำสั่งเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ให้เพิกถอนการรับจดทะเบียนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ของนายศรีสุวรรณ จรรยา โดยระบุว่ามีการแอบอ้างชื่อบุคคลไปขอจดทะเบียน

ขณะที่นายศรีสุวรรณ ยังคงย้ำจุดยืนว่า ตนจะยังคงทำหน้าที่เพื่อตรวจสอบต่อไป ล่าสุดได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว รายงานความคืบหน้าในการจัดตั้ง องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน พร้อมระบุข้อความว่า ...

ขอเชิญชวนทุกท่านที่มีอุดมการณ์ “รักชาติ รักแผ่นดิน” เดียวกัน มาร่วมเป็นสมาชิกขององค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1)ต่อต้านการแก้ไขหรือยกเลิก ปอ.112 และการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงทุกรูปแบบ
2)ติดตาม ตรวจสอบ จับผิด นักการเมือง พรรคการเมือง ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือทุจริตคอรัปชัน(Corruption)
3)ติดตาม ตรวจสอบ จับผิด ชี้เบาะแส การเลือกตั้งในทุกระดับที่ส่อจะไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
4)ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐหรือการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ทุกมาตรา
5)เป็นตัวแทนประชาชนในการนำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาลหากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม เดือดร้อนและเสียหาย จาการใช้อำนาจรัฐหรือการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายประชาชนหรือ Fc ท่านใดประสงค์จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน โดยไม่เสียค่าสมัครใด ๆ ทั้งสิ้น สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้โดยการเขียนจดหมายแจ้งความประสงค์ พร้อมระบุ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่ชัดเจน พร้อมถ่ายสำเนาบัตรประชาชนจำนวน 1 แผ่น เซ็นต์ชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมทั้งขีดทับและเขียนข้อความว่า “สมัครสมาชิกองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน” ลงวันที่สมัครให้ครบ แล้วจัดส่งเป็นจดหมายไปรษณีย์มาที่ ตู้ ปณ.9 ปณล.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ครับ

ไวรัลเงา ‘พระธาตุดอยสุเทพ’ ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า  ‘อ.เจษฎ์’ เฉลยแล้ว ไม่ใช่ปาฏิหาริย์

กลายเป็นภาพไวรัลที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wiradej Thongsuwan ได้โพสต์ภาพลงในกลุ่ม ชมรมคนรักมวลเมฆ จนเป็นฮือฮา บ้างก็ว่าปาฏิหาริย์ บ้างก็ว่าตัดต่อ

ล่าสุด รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้อธิบายข้อเท็จจริงผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก 'อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์' ระบุว่า

"รูปพระธาตุดอยสุเทพ ลอยกลางท้องฟ้า ไม่ใช่ภาพปาฏิหาริย์อะไรนะครับ แต่เป็นเงาของตัวพระธาตุ ที่โดนแสงสปอตไลต์ ส่องไปกระทบกับเมฆที่ลอยต่ำอยู่เหนือท้องฟ้าเชียงใหม่ เป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง โดยไม่ได้มีการตัดต่ออะไรภายหลัง

โดยภาพนี้เป็นเป็นฝีมือการถ่ายภาพของ รศ.ดร. วีระเดช ทองสุวรรณ ภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่นำไปโพสต์ไว้ที่เพจ facebook ของชมรมคนรักมวลเมฆ 

สัมภาษณ์ จาก เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เปิดใจ ความรู้สึกถึงประเทศไทย และคนไทย

รองศาสตราจารย์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการ นักเขียน นักรัฐศาสตร์และอดีตนักการทูตชาวไทย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้โพสต์คลิปสัมภาษณ์ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยพล.ต.ต.ปวีณ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเทศไทยและคนไทยไว้ โดยมีใจความว่า ...

ก่อนอื่นเลยนะครับผมต้องขอขอบคุณคนไทยที่ช่วยกัน เปลี่ยนแปลงประเทศ โดยเฉพาะประเทศของเราที่มันมืดมิดมานาน กลายเป็นประเทศแห่งความหวัง ตรงนี้ต้องขอขอบคุณคนไทยด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่หลายคนมีความปรารถนาดี ต่อผม แน่นอนครับว่าสถานการณ์จะดีกว่าที่ผ่านมามากมาย พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวทิ้งท้าย

สวนนงนุชพัทยา เนรมิต “สวนมิตรภาพ” (Friendship Garden)  ในสถานทูตอินเดีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้นำทีมจัดสวนด้วยตนเองพร้อมทีมงานมากกว่า 100 คน เข้าปรับปรุงภูมิทัศน์สวนมิตรภาพสถทนทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย (Friendship Garden) ที่ สถานกงสุลใหญ่ 5/120-121 อาคารโอเชียน ทาวเวอร์ 2 42nd Floor ซอย สุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 

โดยมี นายนาเคศ สิงห์ (H.E. Mr. Nagesh Singh) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย อำนวยความสะดวกให้กับทางสวนนงนุชพัทยาเข้าปรับปรุงภูมิทัศน์  พร้อมขอบคุณ สวนนงนุชพัทยา ที่สรรสร้างสิ่งดีงาม เสมือนดั่งมิตรไมตรี ระหว่างสองประเทศที่มีต่อกันมายาว

ทั้งนี้สวนนงนุชพัทยา ได้นำอุปกรณ์ นักจัดสวน พร้อมต้นไม้นับพันต้น เข้าปรับภูมิทัศน์  ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวคิด Friendship Garden ซึ่งถือว่าเป็นการจัดสวนสถานฑูตอินเดีย ประจำประเทศไทยเป็นสวนลำดับที่2ของ ปี พ.ศ 2566 และเป็นสวนที่ 14 ที่เข้าปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่าง 2 ประเทศ ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนาน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และโลตัส ลงพื้นที่ เร่ง “เตือนภัยนักช้อป น็อกโจร ไซเบอร์” 

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 เวลา 16.00 – 18.00 น. ณ โซนหน้า Fresh Food โลตัส สาขารามอินทรา พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท ,พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.กลุ่มงานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บก.ตอท. บช.สอท,พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา อาจารย์ (สบ2) กลุ่มงานคณาจารย์ คณะสังคมศาสตร์ รร.นรต. รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ร่วมงาน

“เตือนภัยนักช้อป น็อกโจร ไซเบอร์” ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และโลตัส พร้อม คุณสาคริต นันทจิต รองผู้อำนวยการ ฝ่าย Solution Architect, DevOps และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ โลตัส และ คุณเทวินธวี คุณารัตนวัฒน์ (จอห์นสัน) ดารา/นักแสดง

โดยวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้มุ่งรณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้แก่ประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักรู้และเฝ้าระวัง ภัยจากโจรไซเบอร์ ซึ่งภายในงานมีการเสวนาหัวข้อ “เรียนรู้กลโกง...น็อกโจรไซเบอร์”  พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ได้ยกตัวอย่างในระหว่างการเสวนา กรณีกลโกงแจ้งsmsค่าไฟ,กลโกงหลอกทำงานออนไลน์,หลอกให้กู้เงินแบบไม่ได้เงิน, ฯลฯ พร้อมยกตัวอย่างความเสียหาย

ปัจจุบันมีคนไทยตกเหยื่อกลโกงของโจรออนไลน์แล้วมีการรับแจ้งความกว่า2แสนเคส, มูลค่าความเสียหายกว่า3หมื่นล้าน ย้ำ!ให้ตั้งข้อสงสัยทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อของออนไลน์ แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางที่เชื่อถือได้ พร้อมให้ความรู้ถึงข้อสังเกตุเบื้องต้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์ ไม่เชื่อ! ไม่รีบ! ไม่โอน!

ด้าน คุณสาคริต นันทจิต รองผู้อำนวยการ ฝ่าย Solution Architect, DevOps และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ โลตัส กล่าวเพิ่มเติม เรื่องของวิธีการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าว่ามีการจัดเก็บข้อมูลต่างๆที่รัดกุม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวังภัยออนไลน์  ทางโลตัสเองได้สร้างความมั่นใจเพิ่มเติมว่าทางโลตัสเองได้มีการยกเลิกข้อความสั้นและการแนบลิงก์ต่างๆแล้ว เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสนระหว่างsmsที่ทางโลตัสจัดส่งกับsmsแนบลิงก์ของมิจฉาชีพ พร้อมสร้างความมั่นใจว่าโลตัสให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอดและยังดำเนินการอย่างเต็มที่ต่อไป

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเพิ่มเติมว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นและดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยไซเบอร์ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือในภาคประชาชนให้ช่วยกันส่งต่อ แชร์เรื่องราวกลโกงต่างๆที่ได้พบเจอเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นการร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อตัดตอนของอาชญากรรมออนไลน์ให้หมดไปจากสังคมไทย

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันชาติรัสเซีย

วันที่ 9 มิ.ย. 66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันชาติรัสเซีย ตามคำเชิญของสถานทูตรัสเซีย โดยมี นายเยฟกินี โทมิคิน (H.E. Mr. Evgeny Tomikhin) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา ถ.เจริญกรุง กรุงเทพมหานคร

ไทยกับสหพันธรัฐรัสเซียมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 กับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ยืนยาวมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 126 ปี 

ในส่วนกองทัพไทยกับกองทัพรัสเซียได้ยกระดับความสัมพันธ์ทางทหารโดยแต่งตั้งผู้ช่วยทูตทหารและผู้ช่วยทูตทหารบกเมื่อ พ.ศ.2521 และในส่วนกองทัพเรือได้เปิดสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารเรือไทยประจำกรุงมอสโก เมื่อ 1 ต.ค.55 โดยมีความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพเรือรัสเซีย ประกอบด้วย

- การประชุม Navy to Navy Talks โดยมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในหลายด้านที่จะเกิดขึ้นภายหลังการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลระหว่าง กระทรวงกลาโหม กับ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย
- ด้านการศึกษาและดูงาน ซึ่งกองทัพเรือจัดส่งข้าราชการไปศึกษาอบรมหลักสูตรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
- การเยี่ยมเยือนเมืองท่าของเรือรบของทั้งสองประเทศ เช่น การเยือนเมืองท่าของนักเรียนนายเรือ
- ความร่วมมือในการฝึกทางทะเล และการฝึกอื่นๆ เช่น การฝึก PASSEX
- ความร่วมมือด้านการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล เป็นผลจากการประชุม Navy to Navy Talks ซึงเป็นการฝึกในระดับทวิภาคี
- ความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวสาร
- ความร่วมมือด้านการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุง ให้มีการจัดทำแนวทางในการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงของเรือรบและเรือช่วยรบ ระหว่างการเยี่ยมเมืองท่าและในกรณีซ่อมทำฉุกเฉิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ
- ความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เช่น การจัดดุริยางค์ทหารเรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ระหว่างสองประเทศ

อันเป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และการมีบทบาทนำด้านความร่วมมือ และความมั่นคงในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (สดช.) ลงพื้นที่ติดตามประเมินผลโครงการติดตั้งเทคโนโลยี 5G

(9 มิ.ย 2566) นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะผู้บริหารสดช. พร้อมด้วยนางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่เพื่อติดตามประเมินผล โครงการติดตั้งเทคโนโลยี 5G สำหรับระบบบริหาร จัดการเมืองอัจฉริยะ ครั้งที่ 2 ที่ เทศบาลตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เทศบาลตำบลบ้านฉางดำเนินการพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐานด้วยระบบดิจิทัล ตามนโยบายพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)

โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อการนำศักยภาพทางเทคโนโลยีและการสื่อสารโทรคมนาคมอัจฉริยะด้วยระบบ 5G สำหรับปฏิบัติงานในการบริการประชาชน และบริการสาธารณะมาใช้งาน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาด้านโครงข่ายการสื่อสารระหว่างหน่วยงานหรือองค์กร รวมทั้งปัญหาด้านระบบจัดเก็บข้อมูล อีกทั้งการจัดทำโครงการติดตั้งเทคโนโลยี 5G สำหรับระบบบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ เป็นการช่วยยกระดับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของประชาชน และการสร้างโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจในพื้นที่ท้องถิ่น

โดยมุ่งเน้นไปที่มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชน ผู้อาศัยในอำเภอบ้านฉาง นักท่องเที่ยว และเอกชนผู้ประกอบการธุรกิจ จะได้รับบริการและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G Smart city และหน่วยงานของรัฐจะพัฒนาเป็นองค์กรดิจิทัล สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

ทั้งนี้ นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ Data Center ซึ่งเป็นห้องควบคุมระบบความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดของตำบลบ้านฉางทั้งหมด เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุขัดข้องทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการลงพื้นที่ช่วยได้อย่างทันท่วงที ลดอุบัติเหตุและการก่ออาชญากรรมในพื้นที่ สร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และเดินทางไปสำรวจเสาอัจฉริยะ ณ โรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา ซึ่งเป็นจุดติดตั้งเสาอัจฉริยะอีกหนึ่งจุดของโครงการติดตั้งเทคโนโลยี 5G สำหรับระบบบริหารเมืองอัจฉริยะและเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโดยกล้องวงจรปิด CCTV พร้อมอุปกรณ์แจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS และกระจายสัญญาณ Wireless Fidelity (Wi-Fi) ฟรีให้กับประชาชน

ด้าน นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้มาติดตามการจัดสรรทุนตามนโยบายของคณะกรรมการ 5G แห่งชาติ ซึ่งจะควบคุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านสาธารณสุข ด้านการเกษตร การศึกษา และการคมนาคม เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในตำบลบ้านฉาง เรื่องของระบบนิเวศหรือมลพิษ จะมีเสาที่นำมาติดตั้งจำนวน 20 เสาและมีห้องควบคุมในการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากบ้านฉางจังหวัดระยองเป็นการนำร่องจังหวัดตัวอย่าง Smart city ให้กับเมืองอื่นๆ ที่อยากจะพัฒนาในส่วนนี้

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังกล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ จะทำให้ระบบราชการ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการส่วนกลางข้าราชการส่วนท้องถิ่น ก็สามารถที่จะนำข้อมูลนั้นnมาวิเคราะห์ประมูลข้อมูลสามารถทราบได้ว่าจำนวนครัวเรือนที่เกิดขึ้นการศึกษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน นักท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวต่างๆรวมถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพราะฉะนั้นเทคโนโลยี 5Gจึงเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่จะมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และช่วยให้ผู้บริหารนำมาวางแผนนำมากำหนดโครงการนำมาติดตามประเมินผลเพื่อที่จะใช้แก้ไขงานที่ดำเนินไปแล้วให้ปรับปรุงได้ดียิ่งขึ้น

จากการลงพื้นที่ครั้งนี้พบว่าผลตอบรับจากประชาชนที่อยู่ในตำบลบ้านฉางต่างรู้สึกพึงพอใจกับโครงการนี้ เนื่องจากทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้นด้วยระบบ Wireless Fidelity (Wi-Fi) ฟรี และระบบการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมพื้นที่จากกล้อง CCTV ของเสาอัจฉริยะ

‘ขี้คุกเขียนรูป’ โพสต์ข้อความสุดซึ้ง สำนึกในพระคุณของแม่ ที่ยอมทนลำบากเพื่อลูก

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ที่ชื่อ ‘ขี้คุกเขียนรูป’ ได้โพสต์ข้อความสุดซึ้ง ถึงแม่ ที่ต้องทนลำบากขายของ เพื่อนำเงินมาให้ลูก โดยมีใจความว่า ...

เมื่อครั้งที่เราอยู่ข้างใน…เคยสงสัยว่าแม่เอาเงินที่ไหนมาเยี่ยมเราทุกอาทิตย์เลย 
เวลาถาม..แม่จะตอบกลับมาว่า แม่ขายของมา บอมม์อย่าห่วง
พอเราได้มีโอกาศออกมา…วันนั้นแม่บอกแม่ขายของ เราผ่านทางนั้นพอดีเลยแวะไปดู
สิ่งแรกที่เห็นน้ำตามันไหลออกมาเองเลย แม่ลำบากขนของขึ้นรถมาขาย หนักมาก
ไม่เคยอายว่าจะบอกใครว่าแม่ทำอาชีพอะไร…เพราะอาชีพนี้ล่ะที่แม่ส่งเรา10ปีข้างใน
ทุกวันนี้บอกให้หยุดขายได้แล้ว…แต่แม่ก็บอกว่าออกไปขายคลายเครียดเบื่ออยู่บ้าน
#จะขับรถเก๋งหรือใส่ทองเส้นเท่าควาย แต่ถ้าพ่อแม่ยังไม่สบายผมยอมไม่มีอะไรดีกว่า
สิ่งเดียวที่แม่ขอเลยคือ #อย่ากลับไปเป็นแบบเดิมก็พอ
ไม่ว่าเราจะเป็นคนดีหรือเลวผู้หญิงคนเดียวที่ไม่เคยทิ้งเราไปไหนเลยคือ….แม่
ผมบอกรักแม่ทุกวัน…เพราะทุกวันคือวันแม่ของผม

เครื่องบินการบินไทย เฉี่ยวเครื่องบินของ EVA  ที่สนามบินฮาเนดะ โตเกียว เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

โดยเครื่องบินทั้งสองลำนั้น มีผู้โดยสารและลูกเรือมากกว่า 200 คน ซึ่งทุกคนปลอดภัยดี แต่ปีกเครื่องบินของการบินไทยนั้น ได้รับความเสียหาย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top