Saturday, 24 May 2025
NEWS

‘ศาลฯ’ สั่ง ‘อานนท์’ จำคุก 4 ปี คดีหมิ่นสถาบัน เจ้าตัวเผย กำลังใจยังดีและการต่อสู้จะคงดำเนินต่อไป

(26 ก.ย. 66) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำอ. 2495/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายอานนท์ นำภา อายุ 39 ปี ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง ร่วมกันมั่วสุมชุมนุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง พ.ร.ก.การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 พ.ร.บ.จราจรทางบก ฯ กรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง ที่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยบางช่วงบางตอนของการปราศรัย จำเลยได้กล่าว แสดงความอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นสถาบันฯ

นายอานนท์กล่าวว่า ทั้งขบวนคนรุ่นใหม่ได้สร้างปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนประเทศไป จนไม่สามารถย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้แล้ว ในแง่ของความคิดคน ตนมองว่าตอนนี้คนทั้งประเทศเชื่อในสิทธิเสรีภาพ เห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นอารยะเห็นได้จากทุกรูปแบบทั้งในสื่อโซเชียล บนท้องถนน ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ชัดเจนแล้ว คนรุ่นใหม่ก็โตมาโดยเชื่อในสิทธิเสรีภาพความเท่าเทียม ตนคิดว่าการชุมนุมในปี 63 ทำให้สังคมเปลี่ยนไปเยอะมากเป็นการต่อสู้ที่คุ้มค่า

เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงนักเคลื่อนไหวในตอนนี้ นายอานนท์ กล่าวว่า อยากให้กำลังใจ วันนี้เรายังไม่ทราบคำพิพากษา ถ้าออกมาในทางร้ายก็คงติดคุกซึ่งเราก็ต้องสู้ต่อไป อย่างไรก็ตามหากตนต้องถูกขังภายหลังก็ต้องเบิกตัวตนออกมาศาลเพื่อทำหน้าที่ทนายความและจำเลย เพราะตนเป็นทนายความให้กับคดีการเมือง กรณีชุมนุมที่ ห้าแยกลาดพร้าว ปี 63 จะทำหน้าที่จากในคุกและนอกคุก ฝากให้กำลังใจขอบคุณคนที่สนับสนุน ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด

นายอานนท์กล่าวว่า ตอนนี้กำลังใจยังดี คำพิพากษาวันนี้เป็นเรื่องเมื่อ 14 ต.ค.ซึ่งตนไปปราศรัยปรามไม่ให้ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุม การที่วันนี้อาจจะสูญเสียเสรีภาพตามคำพิพากษา อาจจะหลายปี แต่ก็คุ้ม ที่เหตุการณ์ดังกล่าวที่เราเดินจากราชดำเนินไปล้อมทำเนียบไม่เกิดการสูญเสีย เป็นการเสียเสรีภาพโดยส่วนตัวต่อส่วนรวมที่คุ้มค่าอย่างมากด้วยความเต็มใจ

เมื่อถามว่าหากวันนี้ นายอานนท์ต้องเข้าคุก จะมีกลุ่มนักกิจกรรมออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ นายอานนท์กล่าวว่า แน่นอน เพราะการเคลื่อนไหวยังมีเรื่อย ๆ มีการผ่อนไปตามสถานการณ์แต่เราจะไม่หยุด การต่อสู้มีเป้าหมายชัดเจนว่าเราต่อสู้เพื่ออะไร

ล่าสุด ศาลอาญา สั่งจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา อานนท์ นำภา หมิ่นสถาบัน ปรับ 2 หมื่น ผิด พ.ร.ก. บริหารราชการฉุกเฉิน ฯ 2548 ม็อบ 14 ต.ค. 63

‘นายกฯ’ ยินดี ‘น้องเทนนิส’ คว้าเหรียญทองเทควันโด เอเชียนเกมส์ 2022 ชื่นชม!! ‘ความทุ่มเท-ตั้งใจ’ สร้างชื่อเสียง-ความภาคภูมิใจให้กับประเทศ

(26 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ‘เทนนิส’ น.ส.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาวเบอร์ 1 โลก ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 และแชมป์เก่าเอเชี่ยนเกมส์ 2018 เตะพลิกนรกเอาชนะ ฉิง กั๋ว นักกีฬาเจ้าภาพจีน 2-1 ยก ด้วยคะแนน 7-6, 1-2, 12-9 ป้องกันแชมป์รุ่น 49 กก.หญิง เอเชี่ยนเกมส์ สมัยที่ 2 ในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางความระทึกของคนไทยทั้งประเทศนั้น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ทวีตข้อความแสดงความดีใจและยินดีกับน้องเทนนิสว่า “ทั้งดีใจ และยินดีมาก ๆ กับน้องเทนนิส ‘พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ’ ที่คว้าเหรียญทองเหรียญแรกให้กับประเทศไทย จากการแข่งขันเทควันโด ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 หางโจวเกมส์ ประเทศจีน”

นายเศรษฐา ยังระบุอีกว่า “ต้องชื่นชมความมุ่งมั่นทุ่มเทของทั้งตัวนักกีฬา และโค้ชที่ฝึกซ้อมกันอย่างหนัก ที่สำคัญ ‘เทนนิส’ ยังเป็นนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2 สมัยติดต่อกัน และเป็นนักกีฬาเทควันโดคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์เอเชียนเกมส์ที่ทำได้ ถือเป็นอีก 1 ข่าวดีในวันนี้ที่สร้างรอยยิ้มให้กับพวกเราคนไทยทั้งประเทศปลื้มใจจริง ๆ ครับ“

เฟกนิวส์!! 'นายกฯ เศรษฐา' จับมือ 'ไบเดน' อาจเป็นภาพตัดต่อ หลังเทียบภาพดันเหมือนตอน 'ลุงตู่' จับมือไบเดนที่กัมพูชา

(26 ก.ย. 66) จากเฟซบุ๊ก 'Warat Gap' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า..

สรุปเท่าที่อ่านข่าวย้อนหลัง

1. นายกเศรษฐา ‘น่าจะ’ ได้พบไบเดนในงานเลี้ยง UNGA จริง แต่ไม่มีหลักฐานว่าได้จับมือกัน ซึ่งก็แปลกที่ไม่มีภาพของงานเลี้ยงนี้เลย แม้แต่เว็บไซต์ไทยคู่ฟ้า หรือว่าไม่อนุญาตให้มีการถ่ายภาพ? หรือว่านายกเข้าไปคนเดียวเลยไม่มีคนถ่ายรูปให้?

ซึ่งนายกเศรษฐายอมรับเองว่าได้พบกันสั้น ๆ และคาดว่าจะได้คุยกันยาวขึ้นในเดือน พ.ย. นี้ในการประชุมทวิภาคี

2. ภาพของประชาชาติธุรกิจ ที่เศรษฐาจับมือกับไบเดน เป็นภาพตัดต่อจากภาพของลุงตู่ที่จับมือกับไบเดนที่กัมพูชา ซึ่งไม่รู้ว่าคนทำ ทำไปเพื่ออะไร ใช้อะไรคิด บก.มีหรือไม่ แถมยังเอาภาพ background ที่มีเศรษฐาอีกคนอยู่ในภาพ (หลังไบเดน) ด้วย

ซึ่งทั้งการใช้ภาพ และพาดหัว ต้องนับว่าเป็น Fake News ก็จะรอดูว่าประชาชาติธุรกิจ ในเครือมติชน จะมีแถลงการณ์ขออภัย และมีมาตรการลงโทษผู้รับผิดชอบหรือไม่อย่างไร

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายและวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันมหิดล

โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ (รพ.สก.พร.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย และวางพวงมาลาถวายราชสักการะ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล 

โดยมีพลเรือตรี กิตตินันท์ งามศิลป์ ผู้อำนวยการ รพ.ฯ เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ รพ.ฯ และหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมพิธีสงฆ์ และวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ พระราชานุสาวรีย์ฯ รพ.พระนางเจ้าสิริกิติ์ พร.

เนื่องในวันมหิดล ตรงกับวันที่ 24 กันยายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย“ ด้วยพระราชกรณียกิจที่ทรงวางรากฐานทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทย ให้มีเจริญก้าวหน้า และในปีนี้ วันมหิดล 24 กันยายน ประจำปี 2566 เป็น “วันมหิดลและวันประโยชน์ ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง”

สอ.รฝ.จัดพิธีส่งกำลังพลชุดผลัดเปลี่ยนหน่วยเฉพาะกิจ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง

พลเรือตรี ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพลชุดผลัดเปลี่ยนหน่วยเฉพาะกิจ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โดยมีผู้บังคับบัญชาหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งร่วมพิธีฯ 

หน่วยเฉพาะกิจฯ ที่จะผลัดเปลี่ยนกำลังพล จำนวน 10 หน่วย มีกำลังพล จำนวน 254 นาย เพื่อไปผลัดเปลี่ยนกำลัง ตามวงรอบการปฏิบัติราชการ ของหน่วยเฉพาะกิจที่หน่วยบัญชาการ ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ณ กองบัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้ให้โอวาทและแนวทางในการไปปฏิบัติราชการ โดยขอให้กำลังพลร่วมแรง ร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน และมีระเบียบวินัย การไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ต่างๆ ยังมีความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน ขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังอย่าอยู่ในความประมาท ขอให้มีสติอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งต้องปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต หลีกเลี่ยง การกระทำในสิ่งใดๆ ที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบกฎเกณฑ์ หรือผิดกฎหมายบ้านเมือง และให้เชื่อฟังผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด และที่สำคัญพึงระลึกอยู่เสมอว่า ท่านคือทหารหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หากประสบปัญหาระหว่างการปฏิบัติงาน ให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบโดยทันที เพื่อสนับสนุนและแก้ไขปัญหาให้ต่อไป 

พร้อมทั้ง ขอให้กำลังพลและครอบครัว จงประสพแต่ความสุข ความเจริญ  มีสุขภาพ พลานามัยที่สมบูรณ์ กำลังใจเข้มแข็ง ที่จะไปปฏิบัติราชการเพื่อนำความเจริญมาสู่ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ และประเทศชาติต่อไป

‘จากสมาคมชาวปักษ์ใต้’ รวมพล 26 ก.ย.สโมสรตำรวจ ร่วมให้กำลัง ‘บิ๊กโจ๊ก’ เชื่อ!! ถูกรังแกจากอิทธิพลมืด

(25 ก.ย.66) สมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก ขอเชิญร่วมให้กำลังใจแก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ความว่า…

เรียน ที่ปรึกษา/กรรมการ/อนุกรรมการ/สมาชิกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ/นายกสมาคมประธานชมรมชาวใต้ทั้ง14จว.ภาคใต้ทุกพื้นที่/เครือข่ายสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ/สมาชิกสมาคมชมรมชาวใต้ทุกพื้นที่/ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน

สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ขอเชิญทุกท่านร่วมให้กำลังใจ แก่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคม ชาวปักษ์ใต้ฯ ปกป้องคนดีที่ถูกรังแกจากอิทธิพลมืด

นัดหมายตามรายละเอียดดังนี้...
พบกันในวันอังคารที่ 26 กันยายน 2566
เวลา 09.00 น. ณ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร
การแต่งกาย สวมเสื้อสีเหลือง กรรมการสวมสูททับ และติดโลโก้สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ บุคคลทั่วไปสวมเสื้อเหลืองใช้สูททับหรือแต่งกายด้วยชุดสุภาพ (สวมเสื้อเหลือง) สมาคมชมรมชาวใต้ใส่เสื้อเหลือง(สูททับ)หรือสวมเสื้อเหลืองแต่งกายสุภาพ

"เราทำความดีด้วยหัวใจ"
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

ขอแสดงความนับถือ
ดร.อนันต์ ชูรักษ์
ผอ.สำนักอำนวยการ เลขาธิการ
สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ
0813508549

รศ.(พ)ดร.เชวงศักดิ์ ลักษณะวิลาศ
อุปนายกฝ่ายประชาสัมพันธ์
ผู้แจ้งข่าว/ประสานงาน 0628539645

หมายเหตุ...
ขอความกรุณาช่วยส่งต่อข่าวนี้ไปยังสายงานของท่านด้วย

‘ไทยทิคเก็ตฯ’ แถลง หลัง ‘แบมแบม’ จี้ตรวจสอบปมบัตร VVIP เหตุมีคนกดได้หลายใบ ล่าสุดเรียกคืนบางส่วน-เตรียมเปิดขายอีกครั้ง

(25 ก.ย.66) จากกรณี แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หนึ่งในสมาชิกวง GOT7 ที่กำลังมีคอนเสิร์ต 2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR [AREA 52] อยู่ในขณะนี้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเรียกร้องให้ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ตรวจสอบการขายบัตรหลังการเปิดขายบัตรคอนเสิร์ตรอบที่ 2 วันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด ได้ออกเอกสารชี้แจงกรณีปัญหาเรื่องการกดบัตรโซน VVIP คอนเสิร์ต 2023-2024 BAMBAM THE 1ST WORLD TOUR [AREA 52] IN BANGKOK โดยระบุว่า “ทางบริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาและขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้จัด (iMe TH) ศิลปิน (BamBam) และแฟนคลับ (อากาเซ่) โดยขอชี้แจงเป็น 2 กรณี ดังนี้

1. กรณีมีแฟนคลับกังวลใจเกี่ยวกับปุ่มกดบัตร VVIP ที่ไม่สามารถกดเลือกจำนวนบัตรเพื่อซื้อบนหน้าเว็บไซต์ได้ ทางบริษัทฯ ขอยืนยันว่า เราได้มีการจำหน่ายบัตรทางเว็บไซต์จริงตามปกติ แต่เนื่องจากมีผู้กดบัตรพร้อมกันเป็นจำนวนมาก

จึงทำให้บัตรถูกจำหน่ายหมดทุกที่นั่งในระยะเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากเปิดจำหน่ายบัตรทุกช่องทาง หลังจากบัตรจำหน่ายหมดเราจึงนำโซน VVIP ออกจากระบบทันที ทำให้ไม่มีจำนวนบัตรให้ท่านเลือกซื้อ

2. กรณีมีผู้กดบัตรโซน VVIP ได้เป็นจำนวนมาก และนำบัตรมาขายต่อในราคาที่สูงขึ้นกว่าราคาปกติ ทางบริษัทฯ ได้ตรวจสอบ และเห็นถึงความผิดปกติ เราจึงทำการเรียกบัตรโซน VVIP คืนเข้าสู่ระบบบางส่วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะแจ้งเวลาเปิดจำหน่ายให้ทราบอีกครั้ง

ในนามตัวแทนจัดจำหน่าย ทางบริษัทฯ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกฝ่าย และทางบริษัทฯ ขอยืนยันว่าเราไม่ได้สนับสนุนมิจฉาชีพ แต่เป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบหน้าสาขาในวันที่และเวลาที่เปิดจำหน่ายบัตร ว่าใครคือบุคคลที่ซื้อบัตรเพื่อสนับสนุนศิลปินอย่างแท้จริง หรือซื้อบัตรเพื่อไปจำหน่ายต่อ

โดยเบื้องต้นบุคคลที่มากดบัตรหน้าเคาน์เตอร์ มาในลักษณะของลูกค้าตามปกติ (ซื้อคนละ 4 ใบ แต่ทำงานเป็นทีม) ทำให้เราไม่สามารถปฏิเสธการให้บริการได้ เพราะฉะนั้นขอให้แฟนๆ ระวังมิจฉาชีพที่มาในทุกรูปแบบ ทั้งการซื้อบัตรจากบุคคลภายนอก หรือผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นตัวแทนจำหน่าย หากไม่ซื้อบัตรที่จำหน่ายในราคาสูงเกินกว่าราคาปกติเท่ากับไม่สนับสนุนมิจฉาชีพ

สุดท้ายนี้ เราระลึกอยู่เสมอว่า แฟนๆ ตั้งใจซื้อบัตรเพื่อไปสนับสนุนศิลปินที่รัก ทางบริษัทฯ ขอขอบพระคุณจากใจจริงเสมอมา และไม่ได้นิ่งนอนใจต่อความรักของทุกท่าน และเราจะพยายามพัฒนาระบบการขายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกท่านต่อไป”

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ แบมแบมระบุว่า มีผู้ประกาศว่ามีบัตร VVIP อยู่ในมือหลายใบ และขายต่อในราคาที่สูงกว่ามูลค่าหน้าบัตรหลายเท่า รวมถึงที่แฟนคลับที่รอคอยการกดบัตรนั้นต่างพากันแจ้งข้อมูลว่า ไม่เห็นแม้กระทั่งปุ่มให้กดซื้อบัตรโซน VVIP เลยด้วยซ้ำ
ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์มากมายบนโลกออนไลน์ ส่งผลให้  #BamBamAREA52inBKK2ndShow และ #กดบัตรแอเรีย52แบมแบมรอบ2 ทะยานขึ้นอันดับ 1 ในเทรนด์ทวิตเตอร์ (X) อย่างรวดเร็ว

‘บิ๊กโจ๊ก’ ยัน!! ไม่รู้จัก 'มินนี่' เจ้าแม่เว็บพนัน หลังคลิปร้องเพลงคู่ว่อนเน็ต ย้ำ แค่ไปงานเลี้ยงลูกน้องเท่านั้น เชื่อ!! เหตุการณ์นี้เป็นการดิสเครดิตตน

(25 ก.ย. 66) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีในโลกโซเซียลได้แชร์คลิปร้องเพลงคู่กันกับ ‘มินนี่’ เจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ ว่า ตนนั้นรู้มานานแล้วว่าจะมีการนำเอาคลิปนี้นั้นมาทำการดิสเครดิตตน และบอกว่าตนไม่ได้รู้จักเลย ว่าผู้หญิงที่มาร้องเพลงด้วยนั้นเป็นใคร

โดยวันนั้นเป็นงานเลี้ยงลูกน้องของตนโดยมีตนเป็นเจ้าภาพ แต่ว่าการที่ใครจะนำคนนอกเข้ามาในงานนั้นตนไม่ทราบ ยืนยันว่าตนไม่ได้รู้จักหรือมีการติดต่อตัวของ ‘มินนี่’ แต่อย่างใด ส่วนในเรื่องที่มีภาพออกมาว่าลูกน้องของตนนั้นมีการไปโอบกอดตัวของ ‘มินนี่’ อย่างสนิทสนมนั้น ทางลูกน้องนั้นก็ต้องไปตอบให้ได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร หากเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดี

“ผมนั้นไม่ได้ท้อแท้ ผมก็ยังออกมาทำงานตามปกติ เบื้องต้น สิ่งที่ออกมาในวันนี้ไม่ได้กระทบการทำงานของผม แต่อย่างใดก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษา ก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องว่าไปตามกระบวนการพยานหลักฐาน ส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะจะออกมาแฉ ถ้าไม่ใช่ความจริงก็จะดำเนินคดีกลับไป ซึ่งตนก็ได้มีการดำเนินการฟ้องนายอัจฉริยะอยู่แล้วที่ศาลอาญาเรื่องของการหมิ่นประมาท” รอง ผบ.ตร.กล่าว

โซเชียลชื่นชม!! ‘อดีต รปภ. ม.ราม’ สอบติด ‘อัยการผู้ช่วย’ รุ่น 64 ยกเป็นตัวอย่างคน ‘พากเพียร - มุ่งมั่น - ตั้งใจ’ จนประสบความสำเร็จ

(25 ก.ย. 66) เฟซบุ๊ก ‘อุดม สุขทอง’ ของนายอุดม สุขทอง ผู้อำนวยการส่วนรักษาการณ์ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และอาจารย์พิเศษที่มีชื่อเสียงในแวดวงสอบราชการ โพสต์ข้อความระบุว่า…

"ความพยายามไม่เคยทรยศใคร ขอแสดงความยินดีกับ คุณผดุงเกียรติ พรหมแก้ว อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง สังกัดองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) มีความพากเพียรพยายามจนสอบติดอัยการผู้ช่วย (รุ่น 64) สนามใหญ่ ลำดับ 47 ขอจงมีความเจริญก้าวหน้า และผดุงความยุติธรรมให้สมกับความคาดหวังของประชาชนต่อไป ไม่เพียงศรัทธาในตัวเขา จงศรัทธาและปลุกพลังในตัวเอง"

ทั้งนี้ หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีชาวเน็ตให้ความสนใจจำนวนมาก และเชื่อว่าเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับผู้ที่อาจไม่มีต้นทุนชีวิตสูง ให้มีความพากเพียรขยัน สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ต่างกัน โดยโพสต์มียอดกดไลก์แล้วกว่าพันครั้ง

ยิงสลุต 19 นัด เป็นเกียรติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเยี่ยมอำลากองทัพเรือในโอกาสเกษียณอายุราชการ

​วันนี้ (25 กันยายน 2566) เวลา 10.00 น. พลเอก เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางไปเยี่ยมอำลากองทัพเรือ เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งจอดเทียบภายในท่าเทียบเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก เชิงชาย  ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งจัดให้มีพิธีเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

เมื่อผู้บัญชาการทหารสูงสุดเดินทางขึ้นเรือหลวงจักรีนฤเบศร ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เรียนเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุดขึ้นแท่นรับความเคารพ โดยมี เรือหลวงปิ่นเกล้ายิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติ จำนวน 19 นัด จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เรียนเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุดลงนามในสมุดเยี่ยมพร้อมทั้งกล่าวสดุดีและมอบของที่ระลึกแด่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวอำลาชีวิตราชการ พร้อมทั้งขอบคุณกองทัพเรือ ที่ได้จัดพิธีเพื่อเป็นเกียรติในวันนี้

การจัดพิธีในวันนี้ มีการจัดกำลังพลจากกองเรือยุทธการ ร่วมกับ กำลังทางเรือเข้าร่วมในพิธี ประกอบด้วย เรือหลวงจักรีนฤเบศร เป็นเรือรับรอง และ เรือหลวงปิ่นเกล้า เป็นเรือยิงสลุต   โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวสดุดีผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในโอกาสอำลาชีวิตราชการ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปี กองทัพไทยที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของท่าน กำลังพลทุกเหล่าทัพได้ร่วมกันปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเต็มกำลัง สามารถสนองตอบนโยบายรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญท่านยังเป็นผู้บังคับบัญชาที่เปี่ยมด้วยความเป็นผู้นำ ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ จนเป็นที่ประจักษ์และยอมรับนับถือโดยทั่วกัน กองทัพเรือมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การบังคับบัญชาของท่าน ซึ่งท่านได้สนับสนุนการเสริมสร้าง และพัฒนากองทัพเรือ ทั้งในด้านองค์บุคคลและองค์วัตถุให้มีความพร้อม และมีความเข้มแข็งเป็นอย่างดียิ่ง”

นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323

กระบี่-ไทยจับมือ สปป.ลาว ดันปัญหายาเสพติดเป็นวาระระดับภูมิภาค ในการประชุมทวิภาคีไทย - ลาวฯ ครั้งที่ 19 ระดับรัฐมนตรี ที่จังหวัดกระบี่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธารา กอล์ฟ แอนด์สปา รีสอร์ต จ.กระบี่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รอง รมต.ป้องกันความสงบ และหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ แห่ง สปป.ลาว พ.อ.อินปง จันทะวงสา เลขาธิการ สนง.คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตรา และควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว ประชุมทวิภาคีไทย-ลาว เรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 19 ระดับรัฐมนตรี หารือเรื่องมาตรการปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน, การส่งผู้ร้ายข้ามแดน, การทำลายแหล่งผลิตยาเสพติด และการสร้างเตาเผายาเสพติดร่วมกัน โดยยกเป็นวาระของภูมิภาคระดับนานาชาติ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวหลังการประชุมว่า จากการประชุมหารือร่วมกัน จะเห็นว่าทั้งไทยและลาว มีปัญหาที่ตรงกัน เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของยาเสพติด ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อทั้ง 2 ประเทศ จากข้อมูลที่หารือกันพบปัญหาหลายเรื่องที่ตรงกัน เช่น ผู้ที่ถูกดำเนินคดีอาญาที่อยู่ในเรือนจำของทั้ง 2 ประเทศ อย่างของลาว นักโทษ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นคดียาเสพติด ส่วนของไทยประมาณร้อยละ 85-90 ก็เป็นคดียาเสพติดเช่นกัน จะเห็นได้ว่าปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ของทั้ง 2 ประเทศมาจากปัญหายาเสพติดเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ยกปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติเหมือนกัน เราจึงเห็นด้วยกันว่าปัญหายาเสพติด นอกจากจะเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ควรยกระดับเป็นวาระในระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เพราะทุกประเทศทั่วโลก ต่างพบกับปัญหายาเสพติดเหมือนกัน

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า การจะแก้ปัญหาในประเทศตัวเองจึงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ จำเป็นต้องยกระดับร่วมมือกันระหว่างประเทศในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีข้อมูลตรงกันว่า ยาเสพติดที่แพร่ระบาดอยู่ตอนนี้ เราพบว่าไม่มีการผลิตในประเทศ แต่มาจากแหล่งผลิตในต่างประเทศ เป็นข้อมูลเดียวกันกับ สปป.ลาว จึงตกลงเป็นทวิภาคีร่วมกัน ในเรื่องการป้องกัน การปราบปราม และบังคับใช้กฎหมาย และยังมีความเห็นตรงกันว่า ผู้เสพยาเสพติด หรือผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อาจจะมีบางส่วนเป็นผู้หลงผิด เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการบำบัดฟื้นฟู หลังการประชุมร่วมกันครั้งนี้ จะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดหัวข้อการแก้ปัญหาที่ตกลงไว้ร่วมกัน 12 ประเด็นหลัก การประชุมครั้งนี้จึงถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่มีการทำสัญญาร่วมกัน เพราะปัญหายาเสพติดเป็นความทุกข์ของคนทั้ง 2 ประเทศ...

กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย” มอบทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนฯ ต่อเนื่องทุกระดับชั้นแก่เยาวชนที่ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ประจำปี 2566

วันนี้ (วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ  นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย คณะกรรมการมูลนิธิฯ และผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาต่อเนื่องทุกระดับชั้น ประจำปี 2566  ให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 156 สถาบัน 910 ทุน รวมงบประมาณ 12,615,000 บาท (สิบสองล้านหกแสนหนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน)  เพื่อให้เยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมโดยไม่ต้องละทิ้งหรือยุติการศึกษาลงเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ เติมเต็มความมุ่งหวังในชีวิต เติบโตพร้อมมีวิชาความรู้ สร้างอนาคตของตนเองและครอบครัว เป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นตัวแทนรับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2  อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต และนักศึกษา เยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักในงานสังคมสงเคราะห์ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ดำเนินการมาแล้วเป็นเวลากว่า 50 ปี เป็นความมุ่งหวัง เพื่อช่วยเหลือปกป้องสังคม สนับสนุนให้เยาวชนมีโอกาสเท่าเทียมทางการศึกษา ไม่ต้องละทิ้งหรือยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ สร้างเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม มีความรู้ สร้างอนาคตตามที่มุ่งหวังของตนเองและครอบครัว เป็นทรัพยากรมีคุณภาพของสังคม ประเทศชาติ โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมอบทุนฯ แก่เยาวชนในระดับชั้นประถมศึกษาไปแล้ว 1,500 ทุน และในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม 2566 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อมอบทุนการศึกษาในส่วนภูมิภาค (ทุนสัญจร) ให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาในพื้นที่จังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร และบึงกาฬ รวม 4 จังหวัด 53 สถาบัน 265 ทุน เป็นลำดับต่อไป

รวมงบประมาณการมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชน นิสิต นักศึกษา ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประจำปี 2566 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 17,870,000 บาท (สิบเจ็ดล้านแปดแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน)

ตลอดระยะเวลากว่า 113 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา   เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงการพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

‘หมอยง’ ชี้ RSV เด็กเล็กติดซ้ำได้ แถมบางคนเป็นทุกปี เหตุเพราะ ‘วัคซีน’ ที่ไม่ได้รับการพัฒนาในตัวเด็ก

(25 ก.ย. 66) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า RSV เป็นแล้วเป็นซ้ำได้อีก เด็กบางคนเป็นทุกปี

RSV เป็นโรคที่เป็นแล้วเป็นได้อีก เด็กบางคนเป็นได้ทุกปี โดยพบว่าในการเป็นครั้งแรกจะมีอาการมากที่สุด โดยปกติมากกว่า 80% จะได้รับภูมิต้านทานส่งต่อจากมารดาและภูมินี้จะหมดไปที่ประมาณ 6 เดือนหลังคลอด

เด็กจึงมีโอกาสติด RSV ครั้งแรกหลัง 6 เดือนขึ้นไปได้สูง และเป็นเด็กเล็กอาการที่เกิดหลอดลมอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ จึงค่อนข้างเด่นชัด และเป็นเหตุให้ต้องนอนโรงพยาบาล ถ้ามีอาการมากถึงกับต้องให้ออกซิเจน

แต่โดยทั่วไปแล้ว การรักษาจะเป็นการแบบประคับประคองรอเวลาแล้วทุกอย่างก็ดีขึ้น ผู้ที่เสียชีวิตจาก RSV ในประเทศไทยพบน้อยมากๆ ยกเว้นในประเทศยากจนที่เด็กขาดอาหาร ร่างกายไม่แข็งแรง

เมื่อเป็นแล้วภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นไม่สามารถที่จะปกป้องการติดเชื้อในปีต่อไปได้ ก็จะมีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก

จากการศึกษาของเราที่ศูนย์ ในผู้ที่ติดเชื้อซ้ำจำนวน 81 ราย 72 ราย ติดเชื้อซ้ำอีก 1 ครั้ง 9 รายติดเชื่อซ้ำอีก 2 ครั้ง รวมเป็นติดเชื้อ 3 ครั้ง และส่วนใหญ่เกิดภายในอายุ 5 ปี แต่จากการศึกษาทางด้านภูมิคุ้มกันมีเด็กบางคนเมื่ออายุถึง 5 ปี ติดเชื้อทุกปี แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยเท่านั้น

เด็กที่ติดเชื้อและได้รับการวินิจฉัยที่เราทำการศึกษา 81 ราย เราศึกษาลงลึกถึงสายพันธุ์ของ RSV เรารู้ว่าสายพันธุ์ของ RSV มี 2 สายพันธุ์หลักคือ A และ B และมีสายพันธุ์ย่อย ของ A และ B อีกเป็นจำนวนมาก การศึกษาลงลึกของพันธุกรรมเราพบว่าปีนี้ติดเชื้อ RSV A ปีต่อไปก็สามารถติดสายพันธุ์ A ได้อีก หรือเป็นสายพัน B ก็ได้ ดังแสดงในรูป ในทำนองกลับกันสายพันธุ์หลักไม่ได้ช่วยป้องกันข้ามสายพันธุ์เลย และก็ไม่ช่วยป้องกันสายพันธุ์เดียวกัน รวมทั้งสายพันธุ์ย่อยที่เราพบเช่นสายพันธุ์ ON1 เมื่อติดเชื้อแล้วก็ยังติดเชื้อซ้ำในปีต่อไปได้

เหตุผลดังกล่าว RSV จึงมีปัญหาในการพัฒนาวัคซีนอย่างมาก โดยเฉพาะในเด็ก ถึงแม้ว่าจะมีการนำวัคซีนมาใช้ในผู้สูงอายุหรือสตรีตั้งครรภ์ แต่เชื่อว่าการป้องกันจะอยู่ระยะสั้น

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยคุกคามที่เรียกว่า “Slut Shaming” สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายมีโทษทางอาญา

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่มีความสำคัญของบุคคลในการแสดงออก แต่ผู้นั้นจะต้องกระทำภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ไม่ไปกระทบสิทธิของบุคคลอื่น ซึ่งหากปราศจากขอบเขตย่อมเกิดความเสียหายต่อประชาชน หรือประเทศชาติ

Slut Shaming หรือการประณามหยามเหยียดผู้หญิงที่มีพฤติกรรมทางเพศ หรือจัดการกับร่างกายตนเองต่างจากที่สังคมส่วนใหญ่คาดหวัง ซึ่งถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการประณาม และตัดสินบุคคลอื่น โดยบางครั้งบุคคลที่ประณามก็เป็นผู้หญิงด้วยกันเอง ยกตัวอย่างเช่น กรณีการมองผู้หญิงที่แสดงออกถึงอารมณ์ทางเพศว่าเป็นบุคคลที่ไม่ดี ทั้งที่จริงแล้วเรื่องทางเพศก็ถือเป็นเรื่องปกติ หรือกรณีมองว่าหญิงที่แต่งกายไม่มิดชิด ไม่เรียบร้อย เป็นบุคคลที่ไม่ดี ซึ่งความคิดดังกล่าวอาจนำไปสู่ Victim Blaming หรือการโทษหญิงซึ่งเป็นผู้เสียหายว่าตนเองเป็นต้นเหตุของการล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งนี้ประกอบกับที่ผ่านมาปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีเน็ตไอดอล หรือนักร้องหญิงที่มีชื่อเสียง ถูกสังคมแสดงความคิดเห็นในลักษณะดังกล่าวอย่างกว้างขวาง

การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ” หรือความผิดฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีดังกล่าวในส่วนของการเผยแพร่ภาพ หรือคลิปในสื่อสังคมออนไลน์ พนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ได้รับคำร้องทุกข์ และสอบสวนปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว ทางคดียังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยยังต้องรอผลการตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของกลางที่สามารถทำการตรวจยึดได้ รวมถึงการพิสูจน์ว่าผู้ใดเป็นผู้เผยแพร่ภาพ หรือคลิปดังกล่าวบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งหากพบการกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่ หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกฯ ” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4), 14(5) อย่างไรก็ตามการ Slut Shaming หรือการประณามหยามเหยียดผู้หญิงที่มีพฤติกรรมทางเพศแล้ว ยังมีรูปแบบของการประณาม และการตัดสินบุคคลอื่นที่น่าสนใจอีก อาทิ Body Shaming หรือการประณาม วิจารณ์ รูปร่างหน้าตาของบุคคลอื่น Rich Shaming หรือการเสียดสี ประชดประชันบุคคลที่ร่ำรวย หรือการที่ให้ความใส่ใจกับการใช้จ่ายเงินของคนอื่นมากเป็นพิเศษ Toxic Masculinity หรือแนวคิดความเป็นชาย ซึ่งการกระทำ หรือพฤติกรรมที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม ไม่ควรถูกด้อยค่า ถูกประณาม ดูหมิ่น หรือเหยียดหยามทั้งนั้น นอกจากจะส่งผลเสียต่อบุคคลที่ถูกกระทำ ส่งผลกระทบต่อจิตใจ จนอาจพัฒนากลายเป็นโรคทางด้านจิตเวชแล้ว ยังอาจจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมีโทษทางอาญาอีกด้วย

‘นศ.เวชนิทัศน์ ปี 2 ม.ขอนแก่น’ วาดภาพกระดูกอาจารย์ใหญ่ โซเชียลสุดทึ่ง!! เป๊ะทุกสัดส่วน เหมือนจริงราวกับภาพถ่าย

เมื่อไม่นานนี้ ได้เกิดไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊ก ‘ชมนาด อุปชิตกุล’ โพสต์ภาพ ‘ผลงานภาพวาดกระดูกอาจารย์ใหญ่ด้วยเทคนิคสีน้ำ’ ของนักศึกษา ชั้นปีที่ 2 อาจารย์ประจำสาขาวิชาเวชนิทัศน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ที่เหมือนจริงราวกับภาพถ่าย จนชาวโซเชียลต่างเข้ามาคอมเมนต์ และแชร์โพสต์ชื่มชนเป็นจำนวนมาก

ดร.ชมนาด อุปชิตกุล อาจารย์ประจำสาขาวิชาเวชนิทัศน์ คณะแพทยศาสตร์ มข.เปิดเผยว่า ผลงานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาจิตรกรรมขั้นสูงสำหรับเวชนิทัศน์ ซึ่งอยู่ในสาขาวิชาเวชนิทัศน์ คณะแพทยศาสตร์ แม้จะอยู่ในสังกัดคณะแพทย์ แต่นักศึกษาสาขานี้ไม่ใช่หมอ ซึ่งสาขาเวชทัศน์ คือการเรียนการสอนเพื่อสร้างสื่อทางการแพทย์ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ หุ่นจำลอง วิดีโอ ภาพถ่ายเพื่อเป็นสื่อการศึกษาทางการแพทย์ หรือแม้แต่แอพพลิเคชั่นเพื่อช่วยสื่อสารให้คุณหมอ นักศึกษาแพทย์ และคนไข้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น

“เวชนิทัศน์ เป็นการเรียนหลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต 4 ปีจบ ที่นักศึกษาจะได้เรียนทั้งวิชาด้านการแพทย์ เช่น อาการทางคลินิก วิชาปรสิตวิทยา วิชาพยาธิวิทยา หรือ Gross Anatomy จากอาจารย์หมอ ควบคู่กับการเรียนรู้เทคนิคด้านการสร้างสื่อเทคโนโลยี และศิลปะ เราอาจนิยามได้ว่านักศึกษาเราคือ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์ อย่างไรก็ตาม การวาดภาพทางการแพทย์นั้น ต้องใช้เทคนิคที่แตกต่างจากการวาดภาพธรรมดา เพื่อให้เห็นภาพความเป็นจริง ใส่รายละเอียด สัดส่วนที่แม่นยำ ถูกต้อง เพื่อให้ใช้อ้างอิงในเชิงวิชาการได้ ซึ่งต้องได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ หรือคุณหมอ ไม่ใช่เพื่อความสมจริง และสวยงามเท่านั้น” ดร.ชมนาด กล่าว

ดร.ชมนาดกล่าวอีกว่า ด้วยความตั้งใจที่อยากให้นักศึกษามีกำลังใจในการเรียน และเป็นเหมือนบอร์ดเก็บผลงานลูกศิษย์ ตนจึงตัดสินใจโพสต์ภาพวาดบนโซเชียล แต่ผลตอบรับที่ได้กลับมานั้นเกินความคาดหมาย เพราะยอดไลก์ ยอดแชร์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันอาจารย์หมอ หรืออาจารย์คณะอื่นๆ ก็ติดต่อเข้ามาว่าสนใจให้นักศึกษาไปช่วยวาดภาพวิทยาศาสตร์การแพทย์ต่างๆ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนด้วย

“ผู้ที่สนใจเข้าศึกษาต่อที่สาขาวิชาเวชนิทัศน์ ไม่จำเป็นต้องวาดภาพเก่ง หรือถนัดทั้งสายวิทย์ และสายศิลป์ แต่ขอให้เป็นคนที่ชื่นชอบการเรียนรู้ผ่านการฝึกปฏิบัติจริง เพราะตั้งแต่ปี 1-2 นักศึกษาจะได้เรียนรู้การสื่อสารสำหรับเวชนิทัศน์ ฝึกฝนการ Drawing พื้นฐานศิลปะ กราฟิก และการปั้น ขึ้นปี 3 จะเริ่มเรียนรู้วิชาหุ่นจำลองทางการแพทย์ ฝึกฝนการทำ Motion Graphic, Coding การวาดการ์ตูนสำหรับเวชนิทัศน์ ไปจนถึงถ่ายภาพทางการแพทย์ เป็นการสร้าง Multi skill ก่อนชั้นปี 4 ได้เรียนรู้วิชานิทรรศการ สร้างโปรเจ็กต์สื่อทางการแพทย์จากสิ่งที่แต่ละคนชื่นชอบ และสนใจ ซึ่งอาจร่วมมือกับอาจารย์ หรือนักศึกษาคณะอื่นๆ เพื่อบูรณาการศาสตร์ต่างๆ ให้นักศึกษาได้เรียนรู้บริบทการทำงานของนักเวชนิทัศน์ในโรงพยาบาล และการสร้างสื่อการเรียนการสอนในสายการศึกษาด้วย” ดร.ชมนาด กล่าว

ดร.ชมนาดกล่าวอีกว่า มีนักเรียนสมัครเข้ามามากขึ้น เพราะเราพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริง เมื่อแต่ละคนไปฝึกสหกิจ ก็ทำให้สถานประกอบการสนใจ และให้ทำงานต่อทันทีกว่า 30% ทั้งในไทย และประเทศอาเซียน ซึ่งพบว่าหลังจากจบการศึกษา มีภาวะว่างงานน้อยในสายงานการตลาดที่หลากหลาย

นายนนทกรณ์ จันทร์หวาน นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาเวชนิทัศน์ คณะแพทยศาสตร์ มข.กล่าวว่า หลังเห็นฟีดแบ็กบนโซเชียลก็ดีใจ ที่มีคนชื่นชอบผลงานภาพวาดครั้งนี้ เพราะเป็นการวาดภาพกระดูกอาจารย์ใหญ่ของจริงครั้งแรก และเป็นภาพวาดที่ใช้เทคนิคสีน้ำขั้นสูงครั้งแรก ก่อนวาดก็จะวัดสัดส่วนกระดูก ดูมุมแสง และเงา เก็บรายละเอียดต่างๆ จนมั่นใจว่าเหมือนจริง และถูกต้องทุกรายละเอียด จึงรังสรรค์มาเป็นผลงานกระดูกแขน และมือ

“ผมเลือกวาดกระดูกส่วนแขน และมือ เพราะเป็นส่วนที่มีรายละเอียดเยอะ ใช้เวลาวาดประมาณ 3-5 ชั่วโมง ผลงานก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ และหวังว่าภาพวาดนี้จะถูกนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือสื่อการศึกษาทางการแพทย์ในอนาคต แม้จะไม่เคยรู้จักสาขาวิชาเวชนิทัศน์มาก่อน แต่ผมเลือกที่จะลองเข้ามาเรียนรู้ เพราะสนใจในหลักสูตรที่บูรณาการทั้งวิทยาศาสตร์ และศิลปะไว้ด้วยกัน โดยหวังว่าการผลิตสื่อทางการแพทย์ของตัวเอง จะไม่ใช่เพียงสื่อที่ให้แพทย์ได้ศึกษาเท่านั้น แต่จะเป็นตัวกลางระหว่างหมอกับคนไข้ ให้สื่อสารเรื่องยากได้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น” นายนนทกรณ์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top