Sunday, 28 April 2024
NEWS

โรงพยาบาลพญาไท 3 มอบกระเป๋ายาและเครื่องเวชภัณฑ์ทางการแพทย์แก่ ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในรัชกาลที่ 9

วันที่ 20 มีนาคม 2566 เวลา 12.30.น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
พล.ต.ต.จีรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และโฆษก บชน. พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล  รอง ผบก.จร.  พ.ต.ท.ไพฑูรย์ คตกฤษณ์ รอง ผกก.6 บก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ  รับมอบกระเป๋ายา และเครื่องเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้ ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสพอุบัติเหตุบนท้องถนน อีกทั้ง ปฐมพยาบาลเบื้องต้นหญิงคลอดฉุกเฉินบนรถ ตามที่เป็นข่าวบ่อยครั้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในรัชกาลที่ 9 จากโรงพยาบาลพญาไท 3 โดยคุณศุภกร พะวันนา ผู้อำนวยการบริหารการตลาดเครือพญาไท - เปาโล คุณณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลพญาไท 3 และคณะ ณ ลานเอนกประสงค์กองบัญชาการตำรวจนครบาล.....

'ผู้เชี่ยวชาญ' ชี้!! 'ซีเซียม-137' ที่หายไม่อันตรายอย่างที่คิด พบมีค่าปริมาณกัมมันตรังสีที่ต่ำ ประชาชนอย่าตื่นตระหนก

(20 มี.ค.66) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงการติดตามผลกระทบต่อสุขภาพหลังมีท่อบรรจุสารซีเซียม-137 หายออกจากโรงงานผลิตไฟฟ้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และพบว่ามีการหลอมไปตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.แล้วนั้น ในขณะนี้ยังต้องรอความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการระบุพื้นที่ใดบ้าง แต่เบื้องต้น ต้องมีการตรวจสุขภาพทั่วไปของพนักงานโรงงานหลอมเหล็กดังกล่าว และตรวจหาสารตกค้างในปัสสาวะ 

ทั้งนี้เนื่องจากสารดังกล่าวเป็นสารอันตรายพิเศษ ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถตรวจได้ ทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ซึ่งมีห้องปฏิบัติการพิเศษจึงเป็นผู้ตรวจสอบ โดยมีการตรวจพื้นที่รอบ ๆ โรงงาน ประชาชนในอำเภอนั้น ๆ และใน จ.ปราจีนบุรี

ขณะที่ด้าน นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า ขณะนี้ เราพบว่าวัตถุบรรจุซีเซียม-137 หายไป และพบเบาะแสที่โรงหลอมเหล็กว่า มีการหลอมเหลว ต้องเรียนว่าของต้นทางหายไปโดยมนุษย์ ที่เราจะต้องติดตามต่อว่าหายไปได้อย่างไร เหตุการนี้เป็นอุบัติการ ที่ยังไม่กระทบต่อชีวิตมนุษย์ ยังไม่ใช่อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์แบบเชอร์โนบิล หรือ ฟุกุชิมะ โดยกฎหมายฉบับใหม่ หากรู้ว่าอุปกรณ์รังสีสูญหายต้องแจ้งโดยพลัน แต่เมื่อไม่แจ้งโดยพลันจึงเกิดเหตุการณ์นี้ เราจึงติดตามได้โดยเครื่องมือของปรมาณูเพื่อสันติ หลังรับแจ้งทีมเข้าตรวจสอบโรงงานในวันรุ่งขึ้น แต่ตอนนี้ทางโรงงานยังไม่รู้ว่าหายเพราะอะไร 

บิ๊กอู๊ด ลงพื้นที่ลุยค้นยาเสพติดและอาวุธปืนครั้งใหญ่กว่า 600 จุด ในพื้นที่ภูธรภาค 9 วันเดียวจับผู้ต้องหากว่า 200 คน สั่งขยายผลทลายเครือข่ายตัดเส้นทางการเงิน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 มี.ค. ที่ ห้องประชุมชัยจินดา สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.พิชัย กิระวาณิช รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.เธียรวิโรจน์  เชี่ยวชาญ รอง ผบก.อก.ภ.7 พ.ต.อ.ภัคพงศ์  สายอุบล รอง ผบก.วจ.สยศ.ตร. พ.ต.อ.จารุพันธ์  เสริมพงศ์ รอง ผบก.อฎ. พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ร่วมกันแถลงผลการติดตาม และเร่งรัดการปฏิบัติขับเคลื่อนการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) โดยได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 319 เครือข่าย รวม 609 จุด ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการวันนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. สั่งการให้กวาดล้างคดียาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างหลังพบการแพร่ระบาดจำนวนมาก เช้าวันนี้ตนจึงได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดใน 7 จังหวัด ประกอบด้วยสงขลา ตรัง สตูล พัทลุง ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 609 จุด จากการตรวจค้นสามารถจับกุมได้ 227 คดี รวมผู้ต้องหา 235 คน ยึดของกลางเป็นยาเสพติด ประกอบด้วย ยาบ้า 320,829 เม็ดไอซ์ 4.75 กรัม เฮโรอีน 4.81 กรัม อาวุธปืน 29 กระบอก นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ จำนวน 72 รายการ มูลค่าทรัพย์สิน รวม 17,446,723 บาท โดยเบื้องต้นได้สั่งการตำรวจภูธรภาค 9 ขยายผลการจับกุมเพื่อสาวให้ไปถึงตัวการรายใหญ่ต่อไป

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาถึงวันที่ 15 มี.ค. ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ได้ 4 เครือข่าย ประกอบด้วย 1. เครือข่าย น.ส.สุภาพร หรือ สุ ฟักหมิด และนายพิชิต หรือ บิ๊ก บัวผุด (ในพื้นที่ จว.พัทลุง) 2. เครือข่าย นายนฎดล หรือ บ่าว เข็มนาค ( พื้นที่ จว.สงขลา ) 3. เครือข่าย นายวีรยุทธ หรือเล็ก ทส. (พื้นที่ จว.สงขลา ) และ 4. เครือข่าย นายมะตายูดิน หรือ แช เจ๊มะ (พื้นที่ จว.ยะลา ) ได้ผู้ต้องหารวมทั้ง 4 เครือข่าย รวม 18 คน ได้ของกลางยาบ้า 1,971,700 เม็ด ไอซ์ 30 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินทั้งหมด 14,274,500 บาท

ผบ.ตร.แสดงความเสียใจเหตุการณ์สายไหม ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย สั่งกำชับสำนวนคดี ตั้งคณะทำงาน รวบรวมหลักฐานทุกมิติ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.66 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่สายไหมว่า  “ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดความสูญเสีย 


สำหรับสถานการณ์วันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับทีมแพทย์ และนักจิตวิทยาของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มีการพูดคุยและประเมินอาการของผู้ก่อเหตุตลอดเวลา  เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามทุกอย่าง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย

  
ซึ่งการดำเนินการควบคุมสถานการณ์ต้องใช้ความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ที่ทำงาน และประชาชน จึงต้องระมัดระวังในการดำเนินการตามหลักยุทธวิธีอย่างดีที่สุด จะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยเกี่ยวข้อง เน้นการเจรจามาตลอด แต่เมื่อมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ ตำรวจได้ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธี จนกระทั่งผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จับมือหน่วยงานภาคีเครือข่าย เปิดโครงการ 'ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง' ประจำปี 2566 เตรียมพร้อมช่วยภัยแล้ง ในพื้นที่จังหวัดกระบี่

เมื่อ (17 มี.ค. 66) ,กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 /ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จัดพิธีเปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2566 โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ณ บริเวณศาลาโอฬาร ร.15 พัน.1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยมีการปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำ ออกแจกจ่ายน้ำให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน รวมจำนวน 6 หน่วยงาน ทั้งนี้เพื่อสนองการปฏิบัติงานตามนโยบายของกองทัพบก ที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ตามแผนการบรรเทาสาธารณภัยให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดการประสานสอดคล้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน โดยมี นายกิตติพนธ์ วุฒิวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิด

ด้วยปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่ห้วงฤดูร้อน และพบว่าได้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศ รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ก็เริ่มมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่จะประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค/บริโภค ในสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดยในทุกๆปีเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน สภาพอากาศของประเทศไทยนั้นจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ปริมาณน้ำเริ่มลดลง และฝนทิ้งช่วง เป็นเหตุให้สถานการณ์ภัยแล้งขยายวงกว้างมากขึ้น และส่งผลกระทบถึงด้านเกษตรกรรมอีกด้วย ตามนโยบายของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ที่ให้ความสำคัญและมุ่งหวังในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้เบาบางลงจากความเดือดร้อน และผลกระทบในสถานการณ์ภัยแล้ง 

พลเอก ประวิตร เยี่ยมพี่น้องชาวใต้ติดตามผลการบริหารจัดการน้ำ จ.กระบี่-พังงา กำชับทุกหน่วยเร่งสำรองน้ำใช้รับสถานการณ์แล้งนี้ และเดินหน้าตามแผนรับมืออุทกภัย 66

วันนี้ (20 มี.ค. 66) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและพบปะประชาชน จ.กระบี่ และ จ.พังงา โดยในช่วงเช้าได้ติดตามผลการดำเนินโครงการสำคัญในจังหวัดกระบี่ ณ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองไหล ช่วง 2 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่ โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต้อนรับและรายงานสรุปงานในภาพรวมของ จ.กระบี่ รองเลขาธิการ สทนช. นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กระบี่ และ นายธีระชุณ บุญสิทธิ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นำเสนอการดำเนินงานโครงการอนุรักษณ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองไหล

รองต่อศักดิ์ฯ มอบเงิน 2 แสน ช่วยสร้างบ้านใหม่ให้ คุณยาย ชาวบัวลาย โคราช ไฟไหม้บ้านสิ้นเนื้อประดาตัว ส่งจดหมายแทนความขอบคุณรอง ผบ.ตร. ขณะที่ ทหาร ตำรวจ จิตอาสา เร่งรื้อถอนบ้านไฟไหม้เร่งด่วน

(20 มี.ค.66) เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบ้านเลขที่ 8 หมู่ 8 ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา นายสามารถ สุวรรณมณี ปลัดจังหวัดนครราชสีมา ตัวแทนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำถุงยังชีพพระราชทาน มามอบให้ นางหนูอวน วิระฬา ซึ่งบ้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา 

ภายหลัง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ จิตอาสา 904 ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ตำรวจภูธรบัวลาย ชมรมฮักเขาใหญ่ ร่วมกับ พ.อ.อรรถชัย รักษาศิลป์ รอง ผบ.มทบ.21 ,รอง ผอ.รมน.จ.นครราชสีมา ทหาร มทบ.21 -ทหารช่าง พัน สร.2 ฝ่ายปกครองอำเภอบัวลาย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด พสบ.กองทัพภาคที่ 2 เป็นตัวแทนนำเงิน 200,000 บาท มามอบให้นางหนูอวน วิระฬา เพื่อใช้ก่อสร้างบ้าน

โดยภายหลัง จิตอาสา 904 ตำรวจ ทหาร ชาวบ้าน อบต.หนองหว้า ช่วยกันทำความสะอาดบ้านที่ถูกไฟไหม้ของ นางหนูอวน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด และมอบสิ่งของเยี่ยวยาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยเหตุการณ์เพลิงไหม้ทำให้นางหนูอวน และลูกสาว พร้อมคนในครอบครัว 8 ชีวิต  ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แทบสิ้นเนื้อประดาตัว

‘แม่ค้า’ จ.อุทัยฯ เผย หลังไข่ไก่ขึ้นราคา 6 บาท/แผง ลั่น!! ลูกค้าหันไปซื้อ ‘ข้าวสาร-น้ำมัน’ ฯลฯ ที่จำเป็นมากกว่า

(20 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาขายไข่ไก่ ที่หน้าแผงขายไข่สดในเขตเทศบาลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี หลังจากที่ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มขยับราคาขึ้นอีกครั้งรวมแล้วที่ 6 บาท/แผง ส่งผลให้ปัจจุบันราคาไข่ไก่หน้าแผงตอนนี้แต่ละเบอร์ต้องถูกปรับราคาขึ้นมาอีกรอบ

โดยไข่ไก่เบอร์ 4 ราคาแผงละ 100 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาแผงละ 110 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาแผงละ 115 บาท และไข่ไก่เบอร์ 1 ราคาแผงละ 120 บาท ส่วนไข่เยี่ยวม้านั้นยังคงอยู่ที่ราคาฟองละ 8 บาท แผงละ 220 บาท และลังละ 350 บาท 

เนื่องจากใช้ไข่เป็ดในการทำ ประกอบกับปัจจุบันราคาไข่เป็ดหน้าเล้านั้นยังคงไม่มีการปรับขึ้นราคา ส่วนราคาไข่ไก่ที่ปรับขึ้นมาอีกรอบในครั้งนี้ ทำให้หน้าแผงยังคงต้องปรับตัวแบ่งขายแบบชุด 5 ฟอง 20 บาท 10 ฟอง 45 บาท และ 12 ฟอง 120 บาท เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการซื้อไข่ยกแผง

งดงาม!! พิธีสวมเกตุทองคำ 'พระพุทธเมตตา' วัดบางพลีใหญ่กลาง เตรียมจัดงานสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ให้ประชาชนกราบสักการะ

ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ภายในพระมหาเจดีย์พิศาลวุฒิกิจมงคลมหาชนบูชิต ได้มีการประกอบพิธีสวมเกตุพระพุทธเมตตาซึ่งเป็นทองคำแท้น้ำหนักรวม 4.4 กิโลกรัม นำขึ้นประดิษฐานไว้ด้านบนพระเศียรองค์พระพุทธเมตตา ก่อนที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางเตรียมจัดพิธีสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ให้ประชาชนได้เข้ามากราบสักการะบูชา

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานนำเกตุพระพุทธเมตตาทองคำนำขึ้นประดิษฐานไว้ด้านบนพระเศียรองค์พระพุทธเมตตา โดยมี คณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลางร่วมประกอบพิธี ซึ่งการประกอบพิธีอัญเชิญพระเกตุทองคำในครั้งนี้ ตรงกับวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566 แรม 13 ค่ำ เดือน 4 เวลา 09.09 น. 

สำหรับองค์พระพุทธเมตตาองค์ทองคำนี้ ที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจัดสร้างขึ้น มีขนาดความสูงที่ 9 เมตร 90 ซม.หน้าตักกว้าง 8 ซอก 9 นิ้ว ตั้งประดิษฐานไว้ภายในพระมหาเจดีย์พิศาลวุฒิกิจมงคลมหาชนบูชิตวัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดย พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ อดีต รอง ผบก.ชลบุรี เป็นคนอัญเชิญเกตุพระพุทธเมตตาทองคำ ถวายแด่ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ประธานฝ่ายสงฆ์ นำขึ้นสวมบนพระเศียรองค์พระพุทธเมตตา 

อีกทั้ง ภายในพิธียังได้รับความเมตตาจาก พระมงคลธรรมธัช เจ้าคณะอำเภอบางเสาธง เจ้าอาวาสวัดศิริเสาธง พระราชาคณะชั้นสามัญ ร่วมในพิธีคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล

‘ภูเก็ต-อีสาน’ ติดอันดับ 50 สถานที่ยอดเยี่ยมของโลก ปี 66 ฟาก ‘สุวรรณภูมิ’ ติดอันดับ 68 สนามบินยอดเยี่ยม ปี 66

(20 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่จังหวัดภูเก็ต และภาคอีสานของประเทศไทย ติดอันดับ 50 สถานที่ยอดเยี่ยมของโลกประจำปี 2566 จากนิตยสาร Time และสนามบินสุวรรณภูมิของประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับสนามบินยอดเยี่ยม โดยอยู่ในอันดับที่ 68

นายอนุชา กล่าวว่า นิตยสาร Time นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับให้ จังหวัดภูเก็ต และภาคอีสาน ของประเทศไทย ติดอันดับ 50 สถานที่ยอดเยี่ยมของโลกประจำปี 2566 (2023 World's Greatest Places) โดยทางนิตยสารระบุว่า จังหวัดภูเก็ตมีทิวทัศน์ธรรมชาติและหาดทรายที่งดงาม อีกทั้งยังมีส่วนผสมทางวัฒนธรรมจากงานเทศกาลต่าง ๆ ที่ลงตัว เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวกันเป็นครอบครัว รวมถึงมีโรงแรมที่พักทุกระดับและหลากหลายราคา ส่วนภาคอีสาน เป็นสถานที่ที่อาหารมีความเป็นเอกลักษณ์ อาทิ ส้มตำ ลาบ ที่มีรสชาติ เผ็ดและเปรี้ยว อุดมไปด้วยสมุนไพร รวมทั้งภาคอีสานมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมอันสวยงามอีกด้วย ซึ่งการคัดเลือก 2023 World's Greatest Places มาจากการเสนอชื่อจากเครือข่ายของสื่อมวลชนและนักเขียนของนิตยสาร Time จากทั่วโลก

'ซ้อต่าย' โพสต์เดือด แฟนขอนแก่น ขอตั๋วฟรี แต่มาตะโกนคำว่า "ชูวิทย์" ลั่นสนามบุรีรัมย์

ความเคลื่อนไหวฟุตบอลไทยลีก 2022-23 นัดที่ 24 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 64 คะแนน ทิ้งห่างรองจ่าฝูง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 15 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด หากแมตช์ต่อไปเก็บ 3 แต้มได้ จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของไทยไปครองทันที แถมยังมีลุ้นคว้าครบ 3 แชมป์ในไทยเป็นสมัยที่ 5 ของทีมอีกด้วย

'ซ้อต่าย' กรุณา ชิดชอบ โพสต์เดือด หลังเกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดช้าง อารีนา ชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 4-1 เกมไทยลีก วันเสาร์

หลังชัยชนะดังกล่าว ที่ทำให้ บุรีรัมย์ ก้าวใกล้แชมป์ไปอีกขั้น นางกรุณา โพสต์ว่า...

“ตั๋ว ก็มาขอฟรี เราก็ให้ฟรี ไม่ต้องเสียตังค์สักสลึง แล้วทำกิริยา แบบนั้นอ่ะนะ”

ชวนรู้จัก ‘ซีเซียม-137’ สารกัมมันตรังสีสุดอันตราย ชี้ ถ้าได้รับปริมาณมาก ‘ก่อมะเร็ง-พันธุกรรมผิดปกติ-ส่งผลถึงชีวิต’

ชวนรู้จัก ‘ซีเซียม-137’ สารกัมมันตรังสี สุดอันตรายที่หายออกจากโรงไฟฟ้า ใช้ทำอะไร-คร่าชีวิตคนได้จริงหรือ ทำไมต้องตามหากันวุ่น

เป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจ สำหรับกรณีท่อบรรจุสาร 'ซีเซียม-137' หรือ 'Cs-137' หายเป็นปริศนาจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ จ.ปราจีนบุรี โดยเกรงว่าหากมีผู้สัมผัสอาจเกิดอันตรายได้ พร้อมตั้งรางวัลนำจับไว้ 50,000 บาท สำหรับผู้ชี้เบาะแสนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้ วันนี้ทีมข่าวสดขอพาทุกคนมาทำความรู้จักซีเซียม-137กัน

ซีเซียม-137 (Caesium-137) คืออะไร

ซีเซียม-137 คือ สารไอโซโทปของซีเซียมซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสีที่มีเลขอะตอมเท่ากับ 55 มีครึ่งชีวิต 30 ปี จาก 300 ปี สลายโดยปล่อยรังสีบีตาและรังสีแกมมา เป็นหนึ่งในผลผลิตการแบ่งแยกนิวเคลียส นอกจากนี้ซีเซียม-137 ยังเป็นสารก่อมะเร็ง

ประโยชน์ของซีเซียม-137

ซีเซียม-137 มีประโยชน์อย่างมากในด้านอุตสาหกรรม เนื่องจากมีความแรงรังสีสูง มีเครื่องมือมากมายที่ใช้ซีเซียม-137 อาทิ

-เครื่องวัดความชื้นและความหนาแน่น ที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
-เครื่องวัดระดับ เพื่อตรวจวัดการไหลของของเหลวในท่อและแทงก์
-เครื่องวัดความหนา สำหรับวัดความหนาของแผ่นโลหะ กระดาษ ฟิล์ม และอื่น ๆ
-เครื่องหยั่งธรณี ในอุตสาหกรรมขุดเจาะ เพื่อช่วยบอกลักษณะเฉพาะของชั้นหินต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังใช้ในทางการแพทย์ โดยใช้บำบัดมะเร็ง ใช้เป็นต้นกำเนิดรังสีแกมมา

ซีเซียม-137 เข้าสู่สิ่งแวดล้อมได้อย่างไร?

ซีเซียม-137 ในสิ่งแวดล้อมมาจากต้นกำเนิดหลายชนิด แต่ที่ใหญ่ที่สุดและมาจากต้นกำเนิดเดียวคือ ฝุ่นกัมมันตรังสี (Fallout) จากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในบรรยากาศ ในช่วงปี พ.ศ. 2490 และ 2500 ทำให้มีการกระจายและการสะสมของซีเซียม-137ไปทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามซีเซียม-137จำนวนดังกล่าวได้สลายตัวไปมากกว่า 1 ครึ่งชีวิตแล้ว

นอกจากนี้ กากและอุบัติเหตุจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์สามารถปล่อยซีเซียม-137 ได้เช่นกัน เช่น อุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ในยูเครน ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระดับสูง

สำหรับประเทศไทยเคยเกิดเหตุการณ์ซีเซียม-137หาย ย้อนกลับไปเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2543 มีคนเก็บเอาแท่งโคบอลต์-60 ที่ใช้ในเครื่องฉายรังสีทางการแพทย์ที่เสื่อมสภาพและถูกทิ้งไว้ในบริเวณลานจอดรถเก่าไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งแท่งนี้ถูกนำมาแยกชิ้นส่วนจนทำให้กัมมันตรังสีข้างในแผ่ออกมา มีผู้บาดเจ็บรุนแรงถึง 12 คน

ซีเซียม-137 เข้าสู่ร่างกายคนเราได้อย่างไร

เราอาจได้รับซีเซียม-137 จากการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อน หรือสูดดมฝุ่น ถ้าซีเซียม-137เข้าสู่ร่างกายจะกระจายตัวไปทั่วร่างกาย เมื่อเทียบเวลาตกค้างของซีเซียม-137 กับสารกัมมันตรังสีตัวอื่น ซีเซียม-137 มีเวลาสั้นมากและจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ

หากได้รับซีเซียม-137 ควรรับประทานปรัสเซียนบลู (Prussian blue) ซึ่งเป็นสารให้สีน้ำเงินและไม่เป็นพิษ มีการประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์คือ เป็นยาต้านพิษไอโซโทปรังสีของซีเซียมและแทลเลียม และใช้ย้อมสีเนื้อเยื่อเพื่อดูการสะสมของธาตุเหล็ก

ความเสี่ยงต่อสุขภาพ หากได้รับซีเซียม-137 เข้าสู่ร่างกาย

‘เจนิส’ แชร์อุทาหรณ์ ‘อาการป่วย’ ร่างกายถึงขั้นเกือบวิกฤต อึ้งสาเหตุ!! ดื่มน้ำเยอะ-พักผ่อนน้อย ทำให้แร่ธาตุเจือจาง

ทำเอาแฟนๆ แห่เป็นห่วงและส่งกำลังใจให้รัวๆ เมื่อนักแสดงสาว ‘เจนิส เจณิสตา พรหมผดุงชีพ’ โพสต์ภาพขณะนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล หลังติดเชื้อไวรัส-ประสาทสัมผัสไม่ดี อึ้งสาเหตุเพราะดื่มน้ำเยอะเกินไป

โดย ‘เจนิส’ ได้แชร์อุทาหรณ์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวระบุว่า "ขอบคุณทุกคนที่อวยพรวันเกิดนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าาาา เกิดมาฉันไม่เคยกินวิตามินบำรุงร่างเลย พึ่งรู้ว่ามันสำคัญมากกก มันถึงเวลาแล้วจิง พึ่งเคยอายุ 28 อะเนอะ หมอบอกว่าขาดแร่ธาตุในร่างกายเกือบขั้นวิกฤต และติดเชื้อไวรัสใดไม่ทราบได้ มีอาการแขนขาชา หนาวสั่น อาเจียน ประสาทสัมผัสไม่ดี ความรู้สึกช้า เหนื่อยเพลีย

แล้วไอ้เราเป็น นสด. มันต้องใช้ความรู้สึก ทำไงทีนี้ งานก็พัง ร่างก็พัง ต้องหอบร่างไร้วิญญาณไร้ความรู้สึก มาตรวจหาสาเหตุ หมอบอกว่า เกิดจากพักผ่อนน้อย กินน้ำมากเกินไป !!! กินน้ำเยอะจริงๆ ทำให้แร่ธาตุเจือจาง คิดมาตลอดว่ากินน้ำเยอะแล้วดี เอ้าต้องคิดใหม่ ให้กินน้ำวิตามิน กิน berocca แทน ถ้าจะกินเยอะขนาดนั้น ตามนั้นค้าาาา

'ตำรวจไซเบอร์' พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณี ตำรวจไซเบอร์พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ดังนี้

ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้มีการประกาศเผยแพร่ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ซึ่งกำหนดให้มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.66 ที่ผ่านมานั้น ก็เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อคุ้มครองประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินผ่านการหลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ และเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าวให้ลดน้อยลง หรือหมดสิ้นไปโดยเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์พร้อมปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวก และความยุติธรรมให้กับประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบรับจ้างการเปิดบัญชีธนาคาร และปัญหาการครอบครองหมายเลขโทรศัพท์ โดยได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันวางมาตรการในการป้องกันปราบปราม คุ้มครองประชาชนจากมิจฉาชีพโดยเร็ว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการตาม พ.ร.ก.ดังกล่าว อย่างเคร่งครัด รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมประเภทดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยับยั้งความเสียหายได้ทันท่วงที รวมถึงสร้างการรับรู้ให้กับภาคประชาชนเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร และใช้หมายเลขโทรศัพท์ รวมถึงเป็นธุระจัดหา หรือโฆษณา มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมถึงกำชับให้พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ และดำเนินการตามกฎหมาย ภายใต้กรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ พ.ร.ก. ดังกล่าว มีประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องปฏิบัติ และประเด็นที่ประชานควรรับทราบ ดังต่อไปนี้

1. เมื่อประชาชนถูกหลอกลวง หรือสงสัยว่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ (มาตรา 7, 8) ให้รีบดำเนินการแจ้งธนาคาร หรือสถาบันการเงินผ่านหมายเลขศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพทันที เพื่อเป็นการยับยั้งการทำธุรกรรมการเงินที่ต้องสงสัย หรือที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดชั่วคราว จากนั้นให้เร่งดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจได้ทุกท้องที่ทั่วประเทศ หรือพนักงานสอบสวน บช.สอท. ไม่ว่าความผิดนั้นจะเกิดที่ใดในราชอาณาจักรก็ตาม หรือแจ้งผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com ภายในระยะเวลา 72 ชม. เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการส่งหมายอายัดเงินในบัญชีให้กับสถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบธุรกิจ ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องทุกข์ โดยให้ถือว่าการร้องทุกข์ดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายแล้ว

2. กำหนดให้มีระบบการเปิดเผยและแลกเปลี่ยนข้อมูล (มาตรา 4, 5) ระหว่างสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ (กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์) และระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม หรือผู้ให้บริการอื่น โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีอำนาจนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขปัญหาการรับจ้างเปิดบัญชีเงินฝาก การครอบครองหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่สามารถระบุผู้ใช้บริการได้ ป้องกันมิจฉาชีพเข้าถึงประชาชนในช่องทางต่างๆ และช่วยเหลือ ยับยั้ง ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ไขข้อข้องใจ 'รถไฟความเร็วสูง' เชื่อม 'ไทย-ลาว-จีน' เหตุผลที่ทำไมไทยต้องเป็นจีน และเหตุใดถึงล่าช้า

(20 มี.ค. 66) 'อ.ต่อตระกูล' รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง รถไฟความเร็วสูง เชื่อม ไทย-ลาว-จีน ที่สร้างไปได้มากแล้ว ว่า

รถไฟความเร็วสูง เชื่อม ไทย-ลาว-จีน ลงทุนด้วยเงินไทย สร้างโดยช่างไทย โดยใช้จีนให้เป็นผู้ออกแบบและเป็นที่ปรึกษา เป็นการเลือกที่ถูกต้องที่สุด ในระยะยาวเราจะมีความรู้ ความชำนาญก่อสร้างได้ด้วยตนเอง และไม่ต้องเอาที่ดินและทรัพยากรชาติไปประกันเงินกู้จีนแบบที่ลาวทำ

อีก 4 ปี จะเสร็จ วิ่งได้ถึงโคราช

ขณะนี้พร้อมสร้างต่อไปให้ถึงหนองคายเพื่อข้ามไปเชื่อมรถไฟสายลาว-จีน

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีการสนทนาสอบถามถึงเหตุผลที่ทำไมต้องให้จีนออกแบบ แล้วทำไมถึงยังดูล่าช้าจากลูกเพจ ซึ่งเรื่องนี้มีคำตอบว่า...

วิศวกรไทยเราสามารถออกแบบเสาและทางวิ่งได้ แต่เราออกแบบระบบควบคุมและสร้างตัวรถไฟไม่ได้ พวกนี้เราต้องซื้อและจีนทำได้ดีและถูกสุด ล่าสุดอังกฤษยังให้จีนไปสร้างให้เลย เราและประเทศในโลกนี้ ไม่มีใครชำนาญการสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงมากเท่าจีน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top