Saturday, 11 May 2024
NEWS

“นิพนธ์” มั่นใจ สงขลา เขต 1 เขต 2 เขต 3 ประชาธิปัตย์มาทั้งแผง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง เป็นผู้รับผิดชอบเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และ 3 ของ จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการที่ผู้สมัครทั้ง 3 เขต  ได้ทำการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในเขตเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง ตั้งปี 2565 เป็นต้นมา ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เวลาทีเหลือก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัครทุกเขตและผู้ให้การสนับสนุนทั้งในพื้นที่และของพรรค จะช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่  ในฐานะที่ทำงานการเมืองมานาน มีประสบการณ์ ทำให้เชื่อมั่นว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เขตเลือกตั้งทั้ง 3 ได้ ผู้สมัครของพรรคจะได้เลือกกลับเข้ามาอย่างแน่นอน


ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่นำเสนอต่อประชาชนที่ชัดเจน ทั้งในเขตเมืองใหญ่ เมืองขนาดกลางและเมืองเล็ก เพราะวันนี้ประเทศไทยภายใต้ นโยบายการกระจายอำนาจ ที่พรรคประชาธิปัตย์ทำสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยไม่มีเขตชนบทอีกต่อไป นโยบาย” “สร้างคน  สร้างเงิน สร้างชาติ “ ที่เป็น นโยบายหลักของพรรค เป็นนโยบายที่ทำได้จริง และหลายอย่างทำสำเร็จมาแล้ว เช่นการ ประกันรายได้ให้เกษตร การแจกโฉนดที่ดิน ซึ่งตนเป็น รมช. มหาดไทยมา 3 ปี สามารถแจกโฉนดที่ดินถึง 400,000 ฉบับ ถ้าประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลอีก จะแจกโฉนดให้ได้ 1 ล้านฉบับในเวลา 4 ปี

‘อดีตบิ๊ก ศรภ.’ จี้หน่วยข่าวกรอง ขุดเบื้องลึกมือพ่นสีวัดพระแก้ว เชื่อ!! ต้องมีแรงจูงใจ เพราะขณะลงมือมีการไลฟ์ออกอากาศ

(30 มี.ค.66) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์’ ระบุว่า กล้าทำถึงขนาดนี้ จะว่าไม่รู้อะไร ก็ไม่ได้แน่ครับ มันต้องมี ‘แรงจูงใจ’ มาจากอะไรซะอย่าง หน่วยงานข่าวกรองต้องขุดเบื้องหลังออกมาให้ได้ ไม่ค่อยจะทำงานอะไรกันเลย เพราะขณะที่ พ่นสียังมีการไลฟ์สดเลย ที่บอกเช่นนี้ เพราะ เค้า อาจจะได้เป็น รมช.กระทรวงอะไรสักกระทรวงหนึ่ง หลังการเลือกตั้งจบลง เพื่อใช้ ‘ความกล้า’ แบบนี้ทำอะไรต่อไปอีก 

ซึ่งไม่กล้าคิดต่อไปเลยครับ กับ อนาคตของประเทศไทยในอีก 4 เดือนข้างหน้านี้ จะมีใครในรัฐบาลออกมาพูดอะไรบ้างไหม!

‘สภากาชาดฯ’ ชวนบริจาคเลือด พร้อมเผยเหล่าฮีโร่ที่ออกมาบริจาค รับไปเลย ‘ผ้ายันต์ สมเด็จธงชัย’ เสริมพลังมงคลชีวิต จำกัด 2 แสนผืน

(30 มี.ค 66) ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย แจ้งว่า ฮีโร่บริจาคโลหิตทั่วประเทศ ‘รับผ้ายันต์’ สมเด็จธงชัย เสริมพลังมงคลชีวิต ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 เมษายน 2566

ขอเชิญผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง มาแสดงพลังฮีโร่ ด้วยการบริจาคโลหิต ต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยในโครงการ BLOOD HERO ปี4 #พลังการให้เสริมมงคลชีวิต พร้อมรับมงคล 4 ประการ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทย

1)มงคลช่วยชีวิต : บริจาคโลหิตเป็นการเสียสละโลหิตในร่างกายตนเองช่วยต่อชีวิตให้กับผู้อื่น
2)มงคลสุขภาพดี : บริจาคโลหิตช่วยกระตุ้นการทำงานของไขกระดูก สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงใหม่
3)มงคลได้บุญ : บริจาคโลหิตเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ สุขใจผู้ให้ อิ่มใจผู้รับ
4)มงคลได้ผ้ายันต์ : บริจาคโลหิตรับ “ผ้ายันต์พระนารายณ์ทรงครุฑประทับบนพระราหู” เสริมมงคล ค้าขายดี มีกำไร ไม่ขาดทุน โชคดีตลอดไป

พิเศษสุด สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) จัดทำและมอบ ‘ผ้ายันต์นารายณ์ทรงครุฑประทับบนพระราหู’ รุ่น LIMITED EDITION ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จำนวนจำกัด 200,000 ผืน **ผ่านพิธีมังคลาภิเษก ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร**

มอบเป็นพลัง "เสริมมงคลชีวิต ค้าขายดี มีกำไร ไม่ขาดทุน โชคดีตลอดไป" ให้แก่เหล่า BLOOD HERO ที่ออกมาร่วมปฏิบัติการเติมเลือดให้เต็มคลัง 

'โซเชียล' แชร์!! บริการจาก รพ.รัฐ เปลี่ยนไปมาก รวดเร็ว สุภาพ สะอาด โละภาพจำเดิม ๆ จนหมดสิ้น

(30 มี.ค.66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'สม ดำรงสิริรัช' ได้แชร์เรื่องราวดีๆ ผ่านเฟซบุ๊กหลังได้ไปใช้บริการสถานพยาบาลของรัฐไว้ว่า...

มาตามหมอนัด....เราไม่ได้นัดหมอ
รพ.ราชพิพัฒน์ (สังกัด กทม.)
คนเยอะมาก...แต่บริการเป็นระบบ
รวดเร็ว เจ้าหน้าที่สุภาพ น่ารัก
สถานที่สะอาด ทำให้ภาพจำของ
รพ.รัฐฯ ที่เคยน่าเบื่อ น่ากลัว หายไป

ขอบคุณบุคคลากรทางการแพทย์
ขอบคุณระบบสาธารณะสุขของไทย

ที่มา: เฟซบุ๊ก สม ดำรงสิริรัช

เชียงใหม่-ระดม!! อากาศยานทุกรูปแบบ ปฏิบัติภารกิจเข้าควบคุมไฟป่า

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 บูรณาการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ภาคเหนือ

พล.ต.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช เลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 3 /รองผู้อำนวย การศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 กล่าวว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ คงทราบกันดีว่า สภาพอากาศมีคุณภาพที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วแล้วก็ค่อนข้างแย่ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย พี่น้องประชาชนประกอบกับ เราทำงานปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อควบคุมไฟป่า ภาคเหนืออยู่ทุกวันแล้ว แต่ว่า ประชาชนไม่ค่อยจะทราบเลยว่าเราทำอะไร  

ถือโอกาสที่วันนี้ มีจุดความร้อนค่อนข้างเยอะแล้วก็ชัดเจนว่าจะต้องมาร่วมกันดับไฟป่า โดยใช้อากาศยานเข้าไปช่วยหน่วยภาคพื้น ถือโอกาสรวมอากาศยาน ที่ปกติจอดกระจายอยู่ ในที่ต่างๆ เอามารวมกัน แล้วเชิญสื่อมวลชนมา ให้เห็นว่าจริงๆเรามียุทโธปกรณ์มากขนาดไหน พร้อมทั้งสื่อมวลชนขึ้น เฮลิคอปเตอร์ MI-17 เพื่อติดตามทำการใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 กรม ปภ. ดับไฟป่า อ.เชียงดาว 

ในขณะเดียวกันวันนี้ ยังได้เชิญภาคประชาชนมาร่วมดูข้อเท็จจริงที่การทำงานของเราด้วย มีทั้งผู้นำชุมชน และภาคส่วนที่กำลังทำเรื่องการจัดการเชื้อเพลิง ที่จะช่วยเราทในำโครงการแก้ปัญหาระยะยาว ในการเก็บรวบรวมเชื้อเพลิง ต้นเหตุ  ไฟป่า หมอกควัน ออกจากป่า ออกมาใช้ประโยชน์ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ก็เลยเป็นที่มาของการรวมอากาศยานในวันนี้ 

พระพยอม’ เตือน พระสงฆ์ที่ทำพิธีลงนะหน้าทองให้สีกา หากแตะเนื้อต้องตัวสีกา ถือเป็น ‘ศิษย์นอกครู-อาบัติ’

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพระสงฆ์ทำพิธีลงนะหน้าทองให้กับสีกาจำนวนหลายท่าน โดยมีพฤติกรรมการแตะเนื้อต้องตัว ใช้นิ้วแตะหน้าผาก และจับมือ ทำให้เกิดกระแสดราม่าในโลกโซลเชี่ยลว่าไม่เหมาะสม

(30 มี.ค.66) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566  ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับทาง พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม จั่นเพชร กลฺยาโณ กล่าวว่า การลงนะหน้าทองโดยปกติแล้วจะต้องใช้ธูปและเทียนในการทำพิธี แต่จากกรณีนี้เห็นว่าเป็นการจับด้วยมือแตะหน้าผากสีกา ตนพึ่งเห็นเป็นรายแรก แต่จะมีที่อื่นอีกหรือไม่ตนไม่ทราบแต่ครั้งนี้เห็นชัดเจน ตนจึงขอใช้คำว่าศิษย์นอกครู

พระพยอม กล่าวว่า ธรรมดาแล้วพระพุทธเจ้าเป็นพระบรมครู ครูเสก ครูสวด ครูเจิม ครูสัก เป็นครูที่นอกเหนือจากพระบรมครู ใครที่ไม่เอาพระพุทธเจ้าเป็นบรมครู แต่ไปนักถือครูอื่นแทน และมาอ้างว่าพระพุทธเจ้าบอกว่าทำได้ตนมองว่าไม่ควรทำ ถ้าทำลงไปแล้วจับสีกาไปแล้วถือว่าอาบัติ ถือว่าโลกวัชชะ แต่ละวัดที่คิดจะทำแบบนี้ขอให้รักษาประเพณีเดิม เอาดอกไม้ธูปเทียน เอาดอกบัวเคาะ ก็ว่ากันไป ซึ่งทางวัดตนก็ไม่มีการทำพิธีเช่นนี้เพราะเป็นการหากิน ถ้าจะเป็นพระแค่บิณฑบาตก็ควรพอแล้ว ให้หาวิธีอื่นมาทำแทนดีกว่าจะไปจับไปแตะขนาดนั้น จะไม่มีอะไรครอบงำบุรุษนอกจากสตรี ทั้งกลิ่นเนื้อหนังและการสัมผัส และก็ไม่มีอะไรครอบงำสตรีได้นอกจากรูปงามของบุรุษเช่นเดียวกัน

"ในการที่พระสงฆ์ทำเช่นนี้เป็นการผิด ถ้าไม่เอาพระพุทธเจ้าเป็นบรมครูไปนับถือครูอื่นก็จะมีแต่ตกต่ำ จะต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง เพราะจากที่ดูแล้วพระสงฆ์ที่ทำพิธีอายุก็ยังไม่มาก ซึ่งการทำพิธีลงนะหน้าทองมีหลายแบบและมีเยอะ อย่าเป็นผีเน่ากับโลงผุ เป็นผู้หญิงก็อย่ายื่นหน้ายื่นตาไปให้พระ เป็นพระก็อย่าหมิ่นเหม่ไปเกี่ยวข้องกับพรหมจรรย์ ทุกอย่างจะได้บริสุทธิ์และสมบรูณ์แบบ"พระพยอม กล่าว


ที่มา : https://www.naewna.com/likesara/720850

‘ถนอม สามโทน’ เจ้าของเสียงเพลงเจ้าภาพจงเจริญ เสียชีวิตแล้วด้วยโรค ‘มะเร็งตับ’

(30 มี.ค.66) มีรายงานว่า นายวิทยา เจตะภัย หรือ ถนอม สามโทน ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ วานนี้ (29 มีนาคม) ราว 23.00 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยครอบครัวจะนำร่างไปบำเพ็ญกุศลที่วัดนวลจันทร์ กทม.

สำหรับ วิทยา เจตะภัย ชื่อเล่น ถนอม หรือที่รู้จักในชื่อ ถนอม สามโทน เป็นนักร้อง นักแสดงชาวไทย เป็นหนึ่งในสมาชิกวง ‘สามโทน’ ศิลปินวงชายล้วนวงแรกของค่ายคีตา เรคคอร์ดส (Kita Records) ร่วมกับ สุธีรัชย์ ชาญนุกูล (บุ๋มบิ๋ม สามโทน), ธงชัย ประสงค์สันติ (ธง สามโทน) มีเพลงดัง อาทิ เจ้าภาพจงเจริญ, น้ำตาฟ้า, ขบวนการโป๊ง โป๊ง ชึ่ง

ขณะที่มิตรสหายของครอบครัวเจตะภัย ก็ได้แสดงความอาลัย โดยระบุว่า “เพื่อนไม่ได้อยู่กับเรา ตลอดไป…รักกันไว้นะ ถ้าคุณ​ยังมีเพื่อน การพลัดพรากเป็นเรื่องธรรมดาของโลก เกิดก็เพื่อตาย ก่อนไปฝากดีเอาไว้ให้โลกจำ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวเพื่อนนะคะ ขอให้เพื่อนไปสู่ภพภูมิที่ดีค่ะ ด้วยความอาลัย”


ที่มา : https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_3900614

คดีคนต่างด้าวถือครองที่ดินโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

สืบเนื่องจากปรากฏข้อมูลบนสื่อออนไลน์ว่า มีบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในประเทศไทย ซื้ออสังหาริมทรัพย์และถือครองที่ดิน ใน จ.เชียงใหม่ เป็นจำนวนมาก 


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ บก.ตม.5 ร่วมกับ ภ.จว.เชียงใหม่ ตรวจสอบบริษัทที่เข้าข่ายต้องสงสัยที่ใช้ช่องว่างของกฎหมายในการถือครองตรวจสอบการถือครองที่ดินอสังหาริมทรัพย์และประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พบว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งเข้าข่ายลักษณะดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พงส.สภ.สันกำแพง 


ภ.จว.เชียงใหม่ จึงเร่งรัดให้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการขอหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 8 หมาย ได้แก่ นิติบุคคล 1 หมาย คนจีน จำนวน 3 หมาย และคนไทย จำนวน 4 หมาย 


ต่อมาวันที่ 28 มี.ค.66  ภ.จว.เชียงใหม่ , บก.ตม.5 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการปิดล้อมและติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย ดังนี้

1.บริษัท ฟ้าหลวงการเกษตร จำกัด แจ้งข้อกล่าวหา Mrs.Qingfang Li (นางชิ่งฟาง หลี่) ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต”


2.Mrs.Qingfang Li (นางชิ่งฟาง หลี่) สัญชาติจีน เป็นผู้ที่ใช้ชื่อ นางปาริชาติฯ ถือหุ้นแทนตนและเป็นกรรมการ(Nominee)  ข้อหา “เป็นคนต่างด้าว ยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าว ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้นหรือมิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย”


3.นางปาริชาติ  เป็นผู้ที่ถูก Mrs.Qingfang Li (นางชิ่งฟาง หลี่)   ใช้ชื่อถือหุ้นแทนตนและเป็นกรรมการ(Nominee)ข้อหา “เป็นผู้ช่วยเหลือ หรือสนับสนุน ให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ โดยการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์นี้เป็นธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษ ตามบัญชีท้าย บัญชีหนึ่ง ลำดับที่ 9 การค้าที่ดิน , เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้นหรือมิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย”

‘สภาทนายความฯ’ แถลง ให้คำปรึกษากฎหมายประชาชน ฟรี! ชี้ ติดต่อมาที่ช่องทางต่าง ๆ ของสภาทนายความฯ ได้เลย

จากกรณีที่ทนายความดัง ชี้แจงค่าจัดแถลงข่าวราคา 300,000 บาท  เพราะมีความเสี่ยงถูกฟ้อง ตลอดจนเปิดเรตค่าปรึกษาทนาย ระหว่าง 1,000-3,000 บาทนั้น

(30 มี.ค.66) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงการณ์ เรื่องการให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่ประชาชนฟรี ความว่า สภาทนายความในพระบรมราชปถัมภ์ ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ประชาชนที่ต้องการขอรับคำปรึกษาทางกฎหมายจากสภาทนายความ สามารถติดต่อมายังช่องทางต่าง ๆ ของสภาทนายความ ฯ ได้แก่ สายด่วน 1167,โทรศัพท์ 0-25227124-27 ต่อ 135,ปรึกษาทางไลน์ @lct249, ที่ทำการสภาทนายความ (ส่วนกลาง), ที่ทำการประธานสภาทนายความจังหวัดทั่วประเทศ, ที่ทำการกรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 1-9, ศาล (ส่วนกลาง 15 แห่ง ภูมิภาค 106 แห่ง), สถานีตำรวจนครบาล 1-9 จำนวน 50 สถานี และสถานีตำรวจภูธร ภาค 1-9 (153 สถานี)


ที่มา : https://www.matichon.co.th/local/news_3900456

พัทยาคึกคัก นักท่องเที่ยวจีนแห่เที่ยวเกาะล้านต้องปลอดภัย

วันที่ 29 มีนาคม 2566 หลังจากที่ประเทศไทย เปิดรับนักท่องเที่ยวจีน เมืองพัทยาซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่หนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวจีนให้ความสนในการเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อน ชมความสวยงามของทะเล ทำให้บรรยากาศที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายพัทยาใต้ เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งบริเวณท่าเทียบเรือ มีรถบัสเริ่มเข้ามาจอดส่งนักท่องเที่ยวจีนที่มาท่องเที่ยวเป็นกรุ๊ปทัวร์มากยิ่งขึ้น ทำให้ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาขึ้นเรือสปีทโบ๊ทเพื่อเดินทางไปเล่นน้ำ ดำน้ำดูประการัง บริเวณเกาะล้านเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการสปีดโบ๊ดมีรายรายเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าและเมืองพัทยา ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเคร่งครัดให้นักท่องเที่ยวต้องสวมใส่เสื้อชูชีพทุกคน และขึ้นเรือตามที่ขนาดเรือได้กำหนดไว้ก่อนเรือออกจากท่า เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางไปท่องเที่ยวเกาะล้าน

กอ.รมน.จังหวัดเลย ร่วมกับภาครัฐและเอกชนตลอดจนพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีบรรพชาสามเณร

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.66 เวลา 09.00 น. ที่ วัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมืองเลย จ.เลย พ.อ.พุทธิวัฒน์  สิริพงศ์พล รอง ผบ.มทบ.28/รอง ผอ.รมน.จังหวัดเลย (ท.) มอบหมายให้ พ.อ.หญิงศรินธร  ท้าวฤทธิ์ หน.กบค.กบ.กอ.รมน.จังหวัดเลย ร่วมกับภาครัฐ เอกชน คณะสงฆ์ตลอดจนพุทธศาสนิกชน พื้นที่ จ.เลย ร่วมพิธีบรรพชาสามเณร และบวชศีลจาริณี ภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  โครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทยร่วมกิจกรรมโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย เพื่อส่งเสริมให้เด็กเยาวชน และประชาชน  ได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามีจิตสำนึกในคุณงามความดี เป็นคนดี ตลอดจนเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามของไทย โดยมีพระราชวชิระสุรี เจ้าคณะจังหวัดเลย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายบุญเดิม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

ผบ.มทบ.25 รับมอบโดม “ศูนย์ฝึกอนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย” จาก KI SUGAR GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด

วันที่ 29 มีนาคม 2566 พลตรีสาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นผู้รับมอบโดม “ศูนย์ฝึกอนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย” จาก KI SUGAR GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด โดย คุณยงยุทธ เสถียรถิระกุล กรรมผู้จัดการ เป็นผู้ส่งมอบโดม “ศูนย์ฝึกอนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย”

ก.แรงงาน ผนึกกำลัง 3 มูลนิธิ ลงนามความร่วมมือ ส่งเสริมคนพิการมีงานทำ ยกระดับคุณภาพชีวิต

วันที่ 29 มีนาคม 2566 นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน 
เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วย “การส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการ” ระหว่าง กระทรวงแรงงาน โดย กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ร่วมกับ มูลนิธิเลนำคิน มูลนิธิภาณี ยิบอินซอย และมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ โดยมี บาทหลวงภัทรพงศ์ ศรีวรกุล ประธานมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ประธานมูลนิธิเลนำคิน ประธานมูลนิธิภาณี ยิบอินซอย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดชลบุรี ร่วมให้การต้อนรับ ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

กาฬสินธุ์เตรียมส่งปปช.เชือดคดีตำรวจสืบเมืองกาฬสินธุ์รีดเงินยาบ้า

พนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนคดีชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์เรียกรับเงิน 5 แสนบาทแลกปล่อยตัวคดียาเสพติดให้กับปปช.ลงดาบ เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ
จากกรณีตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ 3 นาย ถูกตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์จับกุมคาห้องสืบสวนภายในโรงพัก สภ.เมืองกาฬสินธุ์

หลังร่วมกันเรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องหาคดียาเสพติด 5 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด และเบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน 3 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมาย ส่วนอีก 8 นายที่ถูกกล่าวหาซัดทอดอยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่ห้องประชุม สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.อิทธเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี

โดยพ.ต.อ.อิทธเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีเดียวกัน แต่ขั้นตอนต้องแบ่งการสอบสวนเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกเป็นการจับกุมตำรวจชุดสืบสวน 3 นาย ประกอบด้วย ยศ ด.ต. อายุ 27 ปี, ยศ ส.ต.อ. อายุ 30 ปี และ ยศ ส.ต.อ. อายุ 27 ปี  3 ราย พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 364,000 บาทในห้องสืบสวน ซึ่งเป็นการจับกุมตัว พร้อมของกลาง หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้สอบปาก 3 นายแล้ว และทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขอไม่ให้การในชั้นสอบสวน และขอให้การในชั้นศาล รวมทั้งได้ตำแหน่งประกันตัวออกไป 

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับ บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริม เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเกม 

วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๖  เวลา ๐๙.๓๐ น. นายโกวิท ผกามาศ  อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.)  ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริม เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเกม กับ ดร. ศรุต วานิชพันธุ์  ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย) ในฐานะผู้แทนจาก บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี นางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้บริหาร สวธ. และนายดนุภณ ศรีเมฆ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามดังกล่าว  ณ ห้องประชุมชั้น ๔ สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์  กรมส่งเสริมวัฒนธรรม 
 
นายโกวิท ผกามาศ  อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.)  กล่าวว่า สืบเนื่องจากในปี พ.ศ. 2563    ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้มีบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ สำนักบริหารคณะกรรมการจัดระดับเกมแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (Game Rating and Administration Committee  - GRAC) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างวินัยในการเล่นวีดิทัศน์ (เกม) และได้มีโอกาสเข้าร่วมงานจัดแสดงเกมนานาชาติ G – Star และเยือนภาคส่วนต่างๆ ในอุตสาหกรรมเกมของสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการจัดระดับเกมและอุตสาหกรรมเกม ระหว่างวันที่ 19 – 23 พฤศจิกายน 2565 ณ เมืองปูซาน และ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกมในสาธารณรัฐเกาหลีที่ผ่านมานั้น สามารถนำองค์ความรู้และวิธีการต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในราชอาณาจักรไทยได้  ดังนั้น กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้มีการดำเนินตามนโยบายหลัก 8 ด้าน ของรัฐบาลไทย ข้อที่ 3 ว่าด้วยเรื่องการทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ข้อ 3.1 ส่งเสริมวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของชาติ รัฐบาลไทยนั้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้สถาบันทางสังคมร่วมปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดี รวมทั้งการทำนุบำรุงศาสนา การอนุรักษ์ ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรมไทยและการยอมรับประเพณี วัฒนธรรมที่ดีที่มีความหลากหลาย เพื่อสร้างสังคมให้มีคุณภาพ คุณธรรม และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข  

โดยสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม Paradigm Shift เปลี่ยนฉากทัศน์วัฒนธรรม สู่ก้าวที่มั่นคงและยั่งยืน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้นำเนื้อหาจากการหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของสาธารณรัฐเกาหลี นำมาใช้เพื่อส่งเสริมมิติทางวัฒนธรรม (Soft Power) ที่สามารถสร้างมูลค่าและเผยแพร่ค่านิยมและวัฒนธรรมความเป็นไทยผ่านอุตสาหกรรมเกม   

ในนามกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้บรรลุข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริม เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเกม ระหว่าง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กับ บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเกมของประเทศ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการส่งเสริม พัฒนาศักยภาพ และองค์ความรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ในการเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านเกม อันนำไปสู่การต่อยอดระดับอาชีพในอุตสาหกรรมเกม หรือทักษะต่างๆ ในการประกอบอาชีพอื่นๆได้  อธิบดี สวธ. กล่าวทิ้งท้าย 
ด้าน ดร. ศรุต วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปัจจุบันมีการปรับตัวในการใช้เทคโนโลยีออนไลน์กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน จากสถิติในประเทศไทยพบว่ามีผู้เล่นเกมมากถึง ๓๐ ล้านคน โดยมีสัดส่วนของกลุ่มผู้เล่นเพื่อความสนุกสนานผ่อนคลาย และผู้ที่เล่นเกมเป็นกีฬาอีสปอร์ต  

จนสามารถพัฒนาตนเองจนเป็นนักกีฬามืออาชีพเข้าแข่งขันในรายการระดับโลกต่างๆและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้รับชมกีฬาอีสปอร์ตซึ่งเปรียบได้กับผู้ชื่นชอบรับชมกีฬาประเภทอื่นๆ เช่น ฟุตบอล อยู่เป็นจำนวนมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ที่สามารถรับชมร่วมกันในเวลาเดียวกันได้ ทำให้เราสามารถนำเสนอคอนเทนต์ต่างๆส่งตรงไปยังคนกลุ่มเหล่านี้ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการนำเสนอ เผยแพร่เนื้อหาที่สอดแทรกประยุกต์ความเป็นไทยเข้าไปในลักษณะการเผยแพร่ที่เป็น Soft Power

รวมทั้งการรณรงค์ส่งเสริมค่านิยมพฤติกรรมการเล่นเกมที่ดีที่สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาศักยภาพความสามารถของผู้เล่นให้เกิดประโยชน์ในแง่ต่างๆได้  ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่เราจะร่วมกันใช้ความเชี่ยวชาญของทั้งสองหน่วยงานในการร่วมกันต่อยอดการนำเสนอวัฒนธรรมไทยมิติใหม่ที่มีรูปแบบที่นำเอาความสร้างสรรค์ของนวัตกรรมมาผนวกเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อให้สื่อสารถึงความเป็นไทยวัฒนธรรมไทยในรูปแบบที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้นและยังกระตุ้น  ให้เกิดแรงบันดาลใจในรูปแบบ Digital Inspiration ให้กับกลุ่มเป้าหมายเพื่อพัฒนาตนเอง ไปพร้อมๆกับการพัฒนาของอุตสาหกรรมดิจิทัลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ซึ่งจะเป็นการยกระดับอีโคซิสเต็มของทั้งอุตสาหกรรมให้มีการเติบโตต่อไปในอนาคต 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top