Thursday, 28 March 2024
NEWS

ครม. วาง 4 ยุทธศาสตร์พัฒนา ‘รบ.ดิจิทัล’ ปี 66-70 มุ่งดันดัชนี EGDI ไทย ขึ้นอันดับ 40 ของโลก

ครม.เห็นชอบแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ.66-70 ตั้งเป้าดันดัชนี EGDI ไทยขึ้นอันดับ 40 ของโลก กำหนด 4 ยุทธศาสตร์ ยกระดับบริการภาครัฐสะดวก โปร่งใส ทันสมัย ตอบโจทย์ประชาชน

ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบและอนุมัติ (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 - 2570 เพื่อกำหนดกรอบและทิศทางการบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะในรูปแบบของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาประเทศต่อไป

(ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการบริหารงานของภาครัฐไปสู่ระบบดิจิทัล และสามารถยกระดับการให้บริการประชาชนให้มีความสะดวกและเปิดเผยมากขึ้น โดยมีแนวทางการพัฒนาที่มุ่งเน้นความสำคัญ (Focus Area) 10 ด้าน 

ได้แก่ (1) ด้านการศึกษา (2) ด้านสุขภาพและการแพทย์ (3) ด้านการเกษตร (4) ด้านความเหลื่อมล้าทางสิทธิสวัสดิการประชาชน (5) ด้านการมีส่วนร่วม โปร่งใส และตรวจสอบได้ของประชาชน (6) ด้านการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (7) ด้านสิ่งแวดล้อม (8) ด้านแรงงาน (9) ด้านท่องเที่ยว และ (10) ด้านยุติธรรม โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. วัตถุประสงค์ 3 ข้อ คือ 
(1) เพื่อพัฒนาบริการดิจิทัลสาธารณะของรัฐที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ สามารถอำนวยความสะดวกในการให้บริการและเป็นที่ยอมรับของประชาชน 

(2) เพื่อเป็นแนวทางสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการยกระดับการบริหารจัดการและการดำเนินงานภาครัฐให้มีความยืดหยุ่นคล่องตัว มีการบูรณาการแบบไร้รอยต่อ เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน 

(3) เพื่อเป็นกรอบทิศทางให้หน่วยงานภาครัฐจัดทาแผนการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ พ.ร.บ. การบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 และสร้างความต่อเนื่องในการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของไทย

2. ตัวชี้วัดความสำเร็จและค่าเป้าหมาย คือ ระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการใช้บริการออนไลน์ภาครัฐไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 และอันดับดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E - Government Development Index: EGDI) ของไทยไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 40 ของโลก ซึ่งปัจจุบันอันดับของไทยอยู่ที่ 55 ของโลก

3. กลไกการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติจะต้องอาศัยกลไกการขับเคลื่อนสำคัญ คือ 
(1) กลไกด้านนโยบาย ที่จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล 

(2) กลไกการทำงานร่วมกัน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินกิจกรรม หรือโครงการร่วมกันภายใต้แผนดังกล่าว

(3) กลไกด้านงบฯ กำหนดเกณฑ์ในการอนุมัติงบฯ เพื่อให้การจัดสรรงบฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

(4) กลไกการติดตามและประเมินผลโครงการ มีการพัฒนาชุดข้อมูลการดำเนินโครงการฯ ต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวในการรวบรวมข้อมูล เพื่อตรวจสอบติดตามและประเมินผลโครงการของแผนรัฐบาลดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ยุทธศาสตร์ 4 ข้อสำคัญ คือ
- ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลภาครัฐ เพื่อการบริหารงานที่ยืดหยุ่น คล่องตัว และขยายสู่หน่วยงานภาครัฐระดับท้องถิ่น เช่น ภาครัฐดำเนินการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันผ่านศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลาง โดยภายในปี 2570 ร้อยละความสำเร็จของการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลในด้านสำคัญคิดเป็นร้อยละ 100 ประกอบด้วยการพัฒนาที่สำคัญ 2 ด้าน ได้แก่ ด้านบริการพื้นฐาน (Common Services) และด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Foundation) รวม 14 โครงการ เช่น โครงการบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ โครงการพัฒนาศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางภาครัฐ

- ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาบริการที่สะดวกและเข้าถึงง่าย เพื่อประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐได้อย่างครบถ้วน ณ จุดเดียว (One - Stop Service) โดยภายในปี 2570 ระดับความสำเร็จในการพัฒนาแพลตฟอร์มบริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จในด้านสำคัญคิดเป็นร้อยละ 100 ประกอบด้วยแนวทางการพัฒนาที่มุ่งเน้นความสำคัญ (Focus Area) 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพและการแพทย์ ด้านความเหลื่อมล้ำทางสิทธิสวัสดิการประชาชน และด้านสิ่งแวดล้อม รวม 8 โครงการ เช่น โครงการแพลตฟอร์มระบบสุขภาพดิจิทัลแห่งชาติ โครงการแผนที่สิ่งแวดล้อม โครงการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคนและการพัฒนาสมรรถนะด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิตของไทย (E - Workforce Ecosystem) โครงการพัฒนาระบบบูรณาการข้อมูลสิทธิสวัสดิการเพื่อการวิเคราะห์และอำนวยความสะดวกในการให้บริการ

- ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างมูลค่าเพิ่มและอานวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ เพื่อผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการดิจิทัลของภาครัฐ โดยภายในปี 2570 ระดับความสำเร็จในการพัฒนาแพลตฟอร์มบริการภาคธุรกิจแบบเบ็ดเสร็จในด้านสำคัญ คิดเป็นร้อยละ 100 ประกอบด้วยแนวทางการพัฒนาที่มุ่งเน้นความสำคัญ (Focus Area) 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเกษตร ด้าน SMEs ด้านแรงงาน และด้านท่องเที่ยว รวม 7 โครงการ เช่น โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลการเกษตร โครงการหนึ่งรหัสหนึ่งผู้ประกอบการ (One Identification : ID One SMEs)

‘ชัยวุฒิ’ ถกหน่วยงานด้านเทคโนโลยีระดับโลก ดึงนานาชาติร่วมแก้ปัญหา online scams

‘ชัยวุฒิ’ ผลักดันแก้ปัญหา online scams ในเวทีการประชุมระหว่างประเทศด้านเทคโนโลยี ณ เมืองบาร์เซโลน่า

เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.66) ในระหว่างการประชุม GSMA Ministerial Programme ภายใต้งาน Mobile World Congress 2023 (MWC 2023) ณ เมืองบาร์เซโลนา ราชอาณาจักรสเปน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้หารือกับผู้บริหาร GSMA และผู้บริหารบริษัท OneWeb เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในอนาคตระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในด้านการพัฒนาโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทยตลอดจนได้ผลักดันแนวทางความร่วมมือในการแก้ปัญหา online scams 

‘อุ๋ย บุดด้าเบลส’ โร่แจ้งความ สน.ทองหล่อ หลังถูกตัดต่อคลิปโปรโมตเว็บพนันออนไลน์

อุ๋ย บุดด้าเบลส เดินทางเข้าแจ้งความ สน.ทองหล่อ หลังถูกตัดต่อคลิป โปรโมตในเว็บพนันออนไลน์ เผยรู้ชื่อของบัญชีม้าแล้ว ตร.เร่งตามตัวดำเนินคดี

จากกรณีเว็บพนันออนไลน์ที่กำลังเป็นกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้ จนนำไปสู่การกวาดล้างเครือข่ายเว็บรายใหญ่ และสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้หลายรายนั้น

ล่าสุด นายนที เอกวิจิตร หรือ อุ๋ย บุดดาเบลส นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเพจเฟซบุ๊ก Oui Bddhabless ที่ถูกเว็บไซต์พนันออนไลน์แห่งหนึ่ง นำคลิปในรายการ ‘คุยกับอุ๋ย’ EP.28 ซึ่งมี ‘โค้ช เคี้ยง เอกภพ’ เป็นแขกรับเชิญ ไปตัดต่อเพื่อนำไปโปรโมตในเว็บพนันออนไลน์

‘สว.ดาวน้อย’ รับรางวัล 'โพธิ์ทองคนต้นแบบ' รางวัลสำหรับฆราวาสผู้ส่งเสริมพุทธศาสนา

ประธานองคมนตรี ร่วมงานครบรอบ 90 ปี แห่งการก่อตั้งพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมมอบมอบโล่เกียรติคุณรางวัล 'โพธิ์ทองคนต้นแบบ' แก่ผู้ส่งเสริมพระพุทธศาสนา

เมื่อวันที่ (27 ก.พ. 66) ที่ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานมอบโล่รางวัลเกียรติคุณ 'โพธิ์ทองคนต้นแบบ' แก่ฆราวาสผู้ส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยมี ศ.ดร.ศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการจัดงาน '90 ปี แห่งความยั่งยืน ร่มเย็นเป็นสุข เจริญด้วยธรรมะ' ให้การต้อนรับ

โฆษก ตร. เตือน หยุดแชร์ข่าวเก่าปี 62 'ชายกร่างป่วนจุดตรวจ' คนที่ปรากฏในคลิปถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนตรวจสอบข่าวสารที่ได้รับก่อนแชร์

(28 ก.พ. 66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ตามที่ปรากฏมีการแชร์คลิป “ตำรวจก็ไม่มีศักดิ์ศรีเลยปล่อยให้ชาย อ้างว่าเป็นทหาร ซึ่งไม่รู้ว่าเป็น ทหารจริงหรือไม่ ถือปืนกร่างแบบนี้ แล้วไม่ยอมจับกุมเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่รู้สน.ไหน” จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการให้ตรวจสอบ จนได้รับรายงานว่า  เหตุการณ์เป็นข่าวเก่าที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2562 เวลาประมาณ 03.00 น. ขณะที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตั้งจุดตรวจบนถนนพุทธรักษา ได้มีชายที่ปรากฎในคลิป คือ ร.ต.อ.สมยศ รอง สว. (สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ภ.จว.สมุทรปราการ  ขับรถกระบะคันดังกล่าวเข้ามาในด่าน เหยียบกรวยยาง ตำรวจอาสาที่อยู่ในเหตุการณ์จึงส่งสัญญาณให้รถหยุดก่อนที่ ร.ต.อ.สมยศ เดินถือปืนลงมาจากรถและก่อกวน ตามที่ปรากฎในคลิป ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีอาญา แจ้งข้อกล่าวหา แก่ ร.ต.อ.สมยศ ตามขั้นตอนและกระบวนการแล้ว 

ขอยืนยันว่า ข่าวที่มีการแชร์ เป็นข่าวเก่า และทาง ตร.ได้ดำเนินการกับบุคคลที่ปรากฏในคลิปอย่างเด็ดขาดแล้ว จึงขอความร่วมมือพี่น้อง ประชาชนหยุดแชร์ ซึ่งลักษณะของข่าวดังกล่าวข้างต้น กระทบต่อความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เจ้าหน้าที่ตำรวจตัวปลอมระบาดหนัก

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอฝากเตือนภัยมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกลวงให้ประชาชนโอนมาตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ดังนี้

ในปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้สร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ซึ่งเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่มีรูปแบบการทำงานเป็นทีม หรือเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน หลอกลวงเหยื่อโดยการใช้ความกลัว ความโลภ และความไม่รู้ของประชาชนเป็นเครื่องมือ 

โดยที่ผ่านมาพบว่ามีหลากหลายรูปแบบ เช่น การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งสินค้า แจ้งไปยังผู้เสียหายว่าบัญชีธนาคาร หรือพัสดุที่ส่งไปต่างประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือบัญชีธนาคารของคุณถูกอายัด เป็นหนี้บัตรเครดิต เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด การฟอกเงิน มีคดีความ หรือหลอกลวงว่าได้เช็คเงินคืนภาษี หรือหลอกถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อนำไปปลอมแปลงในการทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม เป็นต้น

ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่าถูกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง สร้างความน่าเชื่อถือโดยการแจ้งข้อมูลผู้เสียหาย ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ ได้อย่างถูกต้อง จากนั้นจะให้ผู้เสียหายทำการแอดไลน์เพิ่มเพื่อนกับสถานีตำรวจปลอมดังกล่าว แล้วทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวโดยแจ้งว่า ผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในคดีต่างๆ พร้อมส่งภาพการจับกุมผู้ต้องหา ภาพบัญชีธนาคารคารของกลาง และเอกสารคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ของสำนักงาน ปปง. เรื่องการส่งทรัพย์สินเข้าตรวจสอบฯ หรือเอกสารราชการอื่นๆ เช่น หมายเรียก หมายจับ ที่มีชื่อของผู้เสียหาย เป็นต้น รวมไปถึงการเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยการใช้ไลน์วิดีโอคอลมายังผู้เสียหาย สวมเครื่องแบบเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงบัตรประจำตัวข้าราชการ และสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมือนอยู่ที่สถานีตำรวจจริง ต่อมามิจฉาชีพจะให้ผู้เสียหายโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีที่มิจฉาชีพเตรียมไว้ ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ได้โทรศัพท์ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชาผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง” ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายจะต้องเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด รวมถึงเตรียมหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักฐานการโอนเงิน บันทึกการสนทนา รายการเดินบัญชีธนาคาร เป็นต้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่มิจฉาชีพมักใช้คือการสร้างความน่าเชื่อถือ ใช้จิตวิทยา เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของคน มีการเขียนบทสนทนาเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ เพื่อทำให้เหยื่อคล้อยตามหลงเชื่อ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น การใช้ระบบตอบรับอัตโนมัติ IVR (Interactive Voice Response) หรือเทคโนโลยี Deepfake เป็นต้น เพราะฉะนั้นประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ให้พึงระมัดระวังการรับสายโทรศัพท์หมายเลขที่ไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมายเลขที่โทรมาจากต่างประเทศ ปัจจุบันจะมีเครื่องหมาย+697 ให้ท่านตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก หลงเชื่อง่ายๆ และอย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลเลขบัตรต่างๆ รหัสใช้ครั้งเดียว หรือ One Time Password (OTP) กับผู้ใดโดยเด็ดขาด

ครอบครัวนาวีเฮ้าส์ บริจาคเงิน 8 แสนบาทเตียงไฟฟ้าพร้อมที่นอนลม และสุขภัณฑ์ แก่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ อุทิศส่วนบุญกุศลให้ คุณแม่สาลี ใคร่ครวญเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้หอผู้ป่วยวิกฤตหัวใจและหลอดเลือด

วันนี้ (28 ก.พ.66) ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พร้อมด้วยคุณปัญชริน ใคร่ครวญ ภรรยา และ ครอบครัว 'ใคร่ครวญ' นำคณะเข้าบริจาคเงิน จำนวน 800,000 บาท เตียงไฟฟ้าพร้อมที่นอนลม เก้าอี้สุขภัณฑ์ 2 ตัว เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้ กับคุณแม่สาลี ใคร่ครวญ ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมี พลเรือตรี กิตตินันท์ งามศิลป์ ผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นผู้รับมอบ พร้อมกล่าวขอบคุณ พลเรือเอก ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ คุณปัญชริน ใคร่ครวญ เจ้าของโครงการหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ ที่ได้มอบเงินและสิ่งให้โรงพยาบาลฯ ในครั้งพร้อมกับจะได้นำเงินและสิ่งของที่ได้รับบริจาคในครั้งนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อกำลังพลและครอบครัวของกองทัพเรือ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่เจ็บป่วย และเข้ามารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ แห่งนี้ 

คณะผู้แทนไทย หารือ สหรัฐ แจง แนวทางแก้ปัญหาค้ามนุษย์ หรือ TIP Report ขณะที่สหรัฐ สนใจปัญหา หลอกลวงออนไลน์ ย้ำการคัดแยก เยียวยาเหยื่อ ทำได้ดีขึ้น รอง ผบช. มั่นใจ หากรักษาแนวทางนี้ได้ ปีหน้าไทยมีโอกาสได้เทียร์ 1

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 66 คณะผู้แทนประเทศไทย นำโดย นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง (ศพดส.ตร.) ได้เดินทางเข้าพบหารือกับ น.ส.ซินดี ดายเออร์ ผู้อำนวยการแผนกต่อต้านการค้ามนุษย์ ที่กระทรวงการต่างประเทศ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เพื่อสรุปกรอบการดำเนินการในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับ ในการจัดทำ TP Report ปี 2566 หลังจาก ปีที่แล้ว ไทยได้รับการปรับระดับ จาก 2.5 เป็น 2 

นอกจากความคืบหน้าด้านการปราบปรามแล้ว ในครั้งนี้ ศพดส .ตร . ยังได้นำเสนอความก้าวหน้าในการคัดแยกเหยื่อ และการเยียวยาผู้เสียหาย โดยให้ผู้เสียหายเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา โดยระบุว่าในปี พ.ศ.2565 มีคดีค้ามนุษย์ทั้งสิ้น 250 คดี มีผู้เสียหายในคดีค้ามนุษย์ทั้งสิ้น 569 ราย ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาแล้ว 322 คน คิดเป็น 62.04% นี่ทำให้สหรัฐอเมริกา ชื่นชมถึงความตั้งใจจริงของประเทศไทยในการแก้ปัญหา

สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวฯ ฉลองครบรอบ 40 ปี ร่วมพลังขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้กลับคึกคัก

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 ที่โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่ เวลา 17.30 - 22.30 น. นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่  และคณะกรรมการสมาคมฯจัดงานครบรอบ 40 ปี สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่โดยได้มีการแนะนำคณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ชุดใหม่ ซึ่งมีนายปวิณ ชำนิประศาสน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนางนฤมล ปาลวัตร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นอกจากนี้ยังมีนายกสมาคมในภาคธุรกิจบริการและท่องเที่ยว เป็นที่ปรึกษาด้วย โดยมีอดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการและท่องเที่ยว ผู้มีเกียรติร่วมงานจำนวนมาก

นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 โคยการรวมตัวของผู้ประกอบการภาค การเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย กลุ่มโรงแรมและที่พัก กลุ่มภัตตาคารและร้านอาหาร กลุ่มสปาและบริการสุขภาพ กลุ่มกีพาและนันทนาการ กลุ่มของฝากและของที่ระลึก กลุ่มขนส่ง และกลุ่มบริการด้านการท่องเที่ยวอื่น ๆใน โอกาสที่สมาคมฯ มีอายุการก่อตั้งครบรอบ 40 ปี

สวธ.จัดโครงการถ่ายทอดงานศิลป์กับศิลปินแห่งชาติ 'ศิลปินแห่งชาติสืบสานศิลป์' จุดประกายศิลปินรุ่นใหม่ ต่อยอดภูมิปัญญาพัฒนามรดกศิลป์ถิ่นล้านนา

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรมถ่ายทอดงานศิลป์กับศิลปินแห่งชาติ ๓ สาขา 'ศิลปินแห่งชาติสืบสานศิลป์' ถ่ายทอดประสบการณ์ สืบสานองค์ความรู้ จากศิลปินแห่งชาติสู่เยาวชน ปั้นศิลปินรุ่นใหม่ต่อยอดศิลปวัฒนธรรมของชาติ ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ โดยมีนายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธาน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม พร้อมคณะกรรมการกองทุนฯ  ศิลปินแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้าส่วนราชการ โดย รศ.ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ มีคณาจารย์ เด็กนักเรียนและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรมเปิดประสบการณ์เรียนรู้งานศิลป์กับศิลปินแห่งชาติอย่างอบอุ่น 

วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า โครงการถ่ายทอดงานศิลป์กับศิลปินแห่งชาติ นี้ มีความสำคัญในการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมงานศิลปะและวัฒนธรรมไปสู่เยาวชน และผู้ที่สนใจในส่วนภูมิภาค  โดยศิลปินแห่งชาติ ได้ให้ความกรุณาอุทิศตนและเสียสละเวลามาถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ และเทคนิควิธีการต่าง ๆ เพื่อฝึกฝนและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาทักษะในงานศิลปะ ทั้งด้านทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ และศิลปะการแสดง ให้แก่ นักเรียน เยาวชน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ โดยภายในงานยังมีการจัดแสดงผลงานฝีพระหัตถ์ของ อัครศิลปิน วิศิษฏศิลปิน และผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชน และประชาชนในส่วนภูมิภาค ได้สัมผัสกับผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะต่อไป

กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายทางวัฒนธรรม ให้การสนับสนุนการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย สมาคมขัวศิลปะ  โรงเรียนและสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงราย ทั้งยังได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติ จำนวน ๑๓ ท่าน 
นำผลงานมาจัดแสดง และเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ในการสร้างสรรค์งานศิลป์ ประกอบด้วย ฐานการเรียนรู้ รวม ๙ ฐาน ดังนี้  ฐานที่ ๑ เทคนิคจิตรกรรมและสื่อผสม นายธงชัย รักปทุม  ฐานที่ ๒ เทคนิคสร้างสรรค์ภาพพิมพ์ ดร.กมล ทัศนาญชลี  ฐานที่ ๓ เทคนิคประติมากรรม นายศราวุธ ดวงจำปา  ฐานที่ ๔ เทคนิคสถาปัตยกรรม นางสาววนิดา พึ่งสุนทร  ฐานที่ ๕ เทคนิคศิลปะผ่านเลนส์ ได้แก่ นายวรนันทน์ ชัชวาลทิพากร 

แม่ทัพภาคที่ 3 ประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ร่วมประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ประจำปี 2566 เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม 

ซึ่งแนวโน้มการบุกรุกพื้นที่ป่าและรับรอบการตัดไม้ทำลายป่า ยังคงมีความรุนแรงทำให้พื้นที่ป่าลดลงอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสมดุลทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรวม ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีความรุนแรงมากขึ้น ปัญหาด้านยาเสพติดซึ่งยังคงความรุนแรง โดยพื้นที่ภาคเหนือด้านจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ยังคงเป็นพื้นที่นำเข้าหลักและเป็นทางผ่านของยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใดของประเทศ ส่งผลให้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดยังคงความรุนแรงต่อเนื่อง และด้านแรงงานต่างด้าวและผู้รับรอบเข้าเมือง 

แนวโน้มแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่ขาดคุณสมบัติและมีข้อจำกัดในการดำเนินการจะยังคงลักลอบเข้าเมืองเพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะถูกจับกุมและผลักดันกลับประเทศแต่ยังคงความพยายามลักลอบหลบหนีเข้ามาใหม่ โดยส่วนใหญ่พบในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตลอดจนภัยสังคมในรูปแบบต่าง ๆ 

'ดีเจวิว' เจ้าของวลีดัง “เอ้า ไปไป-อะฮิฮิฮิ” เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์

(28 ก.พ. 66) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘Sarayut Iammongkhon’ ซึ่งเป็นผู้จัดการดีเจวิว ดีเจเด็กชื่อดัง เผยข่าวเศร้าว่า…

“ธัญยธรณ์ โพธิ์มณี หรือ ‘ดีเจวิว’ เจ้าของวลีดัง “เอ้า ไปไป”, “อะฮิฮิฮิ” เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อช่วงเวลาตี 1 ของวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา”

ก่อนหน้านี้ ทางผู้จัดการของน้องวิวยังระบุว่า…

“จากที่ดีเจวิว ได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผม ผจก.ดีเจวิว ขออัปเดตอาการล่าสุดให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ ทราบครับ ดีเจวิวหมดสติขณะนำส่งโรงพยาบาล อยู่ในความดูเเลอย่างใกล้ชิดของเเพทย์ครับ ขอกำลังใจจากทุกคนที่รู้จักน้อง ขอให้น้องผ่านพ้นขีดอันตรายนี้ไปได้ ขอปฏิหาริย์จงเกิดกับน้องครับ”

มองพรรคการเมืองไทย ผ่านเลนส์ ‘ดร.ธีรภัทร์’ หมั่นรับฟัง ปชช. มุ่งทิ้งปมขัดแย้งในพรรค

แม้หมอกควันความขัดแย้งระหว่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะจางลงพร้อมกับหน้าฉากที่หลายคนมองว่า ‘จบสวย’ แต่นั่นก็กำลังสะท้อนภาพความเป็นจริงของเบื้องหลังพรรคการเมือง ที่หากคิดต่างอย่างไม่ลดละ อคติแบบไม่ยอมความ ก็อาจจะนำมาสู่ความเสียหายต่อภาพรวมของพรรคนั้นๆ ทั้งๆ ที่ในโลกแห่งการเมือง ความร้านฉานชั่วขณะ มักมิใช่สิ่งแปลกใหม่อันใด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์’ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นักวิชาการประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้มองปมประเด็นดังกล่าวพร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวของบรรดาพรรคการเมืองในห้วงเวลานี้กับ THE STATES TIMES ไว้อย่างน่าสนใจว่า... 

ในเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะในองค์กรหรือสถาบันใด ย่อมต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้เสมอ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของพรรคการเมือง ที่มักมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ก็มีสิ่งที่หลายคนอาจจะวิตกก็คือ เรื่องของความเห็นที่แตกต่างกันบางครั้ง มันควรจะเป็นเรื่องที่พูดคุยกันในพรรค ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน 

กรณีของคุณ ‘พิธา-ปิยบุตร’ สะท้อนให้เห็นว่า พรรคการเมืองควรจะต้องมีกระบวนการในการรับฟังความคิดเห็นกันมากขึ้น แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังดีที่พรรคก้าวไกลนั้นมีผู้นำอย่าง คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งถือว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ที่แม้ว่าจะไม่มีสิทธิ์ในการลงสมัครต่างๆ ก็ตาม แต่ตนคิดว่าความคิดเห็นของบุคคลเหล่านี้ ก็เป็นหัวใจสำคัญที่จะผสานความเข้าใจและนำพาพรรคให้เดินหน้าต่อไปได้ 

‘ชูวิทย์’ เดือด!! 'สธ.' บุก รร.เดวิส ตรวจบาร์กัญชา เชื่อ!! ถูกกลั่นแกล้ง หลังพูดแตะเรื่องกัญชา

(27 ก.พ. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษษฏ์ ได้ไลฟ์สด ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ หลังกรมการแพทย์ไทยและการแพทย์ทางเลือก ของกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาตรวจสอบบาร์กัญชา ในโรงแรมเดอะ เดวิส ซึ่งตั้งอยู่ย่านสุขุมวิท โดยเจ้าตัวเผยว่า ถือเป็นการกลั่นแกล้งประชาชน พอพูดความจริงก็รับไม่ได้

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ และสอบถามว่าจะกลั่นแกล้งเหรอ พอตนพูดถึงเรื่องกัญชา ก็มาตรวจ ถือว่าใช้ได้ที่ไหน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้มาแนะนำ ทำหน้าที่ ทางนายชูวิทย์จึงสอบถามว่าทำไมเพิ่งมาร้านแห่งนี้ อยากรู้เหตุผล เพราะพอตนพูดถึงกัญชา กลับเดินทางมา ทั้งที่เจ้าหน้าที่ไม่เคยออกกฎห้ามเลย เรื่องเยาวชนมาซื้อ เอาแต่พูดถึงข้อดี แต่ไม่เคยพูดถึงเด็กเล็ก ๆ กลับเล่นกัญชา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อ้างว่า เพิ่งได้ข้อมูลมา โดยได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งนายชูวิทย์ได้สอบถามอย่างเดือดระอุว่า “ใครสั่งมา”

มูลนิธิ มิราเคิลฯ ร่วมสวนนงนุชพัทยา ส่งมอบต้นพระศรีมหาโพธิ์ ให้กระทรวงวัฒนธรรม 99 ต้น นำถวายวัด ปลูกเป็นพุทธบูชา

(27 ก.พ. 66) ดร.มนัส โนนุช ประธานมูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ฯ พร้อมด้วย นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้นำต้นพระศรีมหาโพธิ์ จากประเทศอินเดีย ในโครงการ 'หนึ่งใจ..ให้ธรรมะ' ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นพุทธบูชาทุกวัดทั่วแผ่นดิน จำนวน 99  ต้น มอบให้ พระสังฆาธิการ หัวหน้าส่วนราชการ กระทรวงวัฒนธรรม พุทธบริษัท และศิลปินดารา เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top