Friday, 3 May 2024
NEWS

‘รัฐบาล’ เพิ่มช่องทางแจกถุงยางฟรีผ่าน ‘สิทธิบัตรทอง’ ภายใต้แคมเปญ ‘ตู้เลิฟปัง รักปลอดภัย’ นำร่องติดตั้งแล้ว 7 จุด

(16 พ.ค.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใยปัญหาด้านสุขภาพโดยเฉพาะปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ เพิ่มช่องทางการให้บริการ ‘บริการถุงยางอนามัย’ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ ‘บัตรทอง 30 บาท’ เพื่อร่วมป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สิทธิประโยชน์บัตรทอง ในกลุ่มประชาชนกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ ภายใต้แคมเปญ ‘เลิฟปัง รักปลอดภัย’ เริ่มให้บริการฟรีแล้ววันนี้ โดยจะได้รับถุงยางอนามัยครั้งละ 10 ชิ้นต่อคนต่อสัปดาห์ ไม่เกิน 52 ครั้ง/คน/ปี ขณะนี้ใช้ได้เฉพาะผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทเท่านั้น ส่วนสิทธิอื่นๆ เช่น สิทธิประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ อยู่ระหว่างรอความชัดเจน และ สปสช.จะประกาศให้ทราบอีกครั้ง

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ขั้นตอนการขอรับถุงยางอนามัยทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ 
1. เสียบบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อตรวจสอบสิทธิ 
2. อ่านเงื่อนไข >>  กด ‘ยอมรับ’ (ต้องกดยอมรับ จึงจะไปต่อ) 
3. เลือกขนาดไซด์ของถุงยาง >> ไซด์ 49 / 52 / 54 / 56 (ต้องเลือกจึงจะไปต่อ) 
4. ตู้จะ pop up QR code ของ สปสช. ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ถุงยาง >>   กด ‘ตกลง’ หลังจาก scan เสร็จ  
5. รับถุงยาง กรณีติดขัดปัญหา เกี่ยวกับการใช้งานตู้แจกถุงยางอัตโนมัติ เช่น กรอกข้อมูลสำเร็จแต่ถุงยางไม่ตกลงมา เป็นต้น สามารถแจ้งปัญหาการใช้งานได้ดังนี้  @Line @vendingplus โทรศัพท์หมายเลข 02-0090-500

“สำหรับสถานที่จุดติดตั้งตู้ ได้แก่ 1. ท่าเรือแหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี 2. โรงพยาบาลเมืองพัทยา จ.ชลบุรี 3. หาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ 4. ตลาดต้นสัก อ.เมือง จ.นนทบุรี และที่นี่เป็นแห่งที่ 5. ห้างสุขอนันต์ ปาร์ค สระบุรี 6. มหาวิทยาลัยรังสิต ตึกเภสัชศาสตร์ และ 7. ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา ทั้งนี้ในอนาคตจะมีการขยายจุดติดตั้งให้บริการเพิ่มมากขึ้น” น.ส.รัชดา กล่าว

‘บิ๊กป้อม-ชัชชาติ’ ร่วมพิธีปิดซีเกมส์ 17 พ.ค. นี้ พร้อมรับธงซีเกมส์ ในฐานะเมืองเจ้าภาพครั้งต่อไป

(16 พ.ค. 66) พิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 จะมีขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม ที่สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช โดยมีพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ส่วนผู้แทนประเทศไทยจะมี ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ร่วมในพิธี โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางช่อง T SPORTS 7 เวลา 18.00-20.30 น.

สำหรับพิธีการเจ้าภาพยังคงนำเสนอศิลปวัฒนธรรมของกัมพูชาส่งท้ายการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกของประเทศ ส่วนไทยจะมีการแสดงชุด ‘สวัสดี ซีเกมส์’ ที่ออกแบบและแสดงโดย ‘คิดบวกสิปป์’ กลุ่มคนรักนาฏศิลป์ที่ออกแบบการแสดงที่แปลกใหม่ จนคว้าแชมป์การแข่งขันไทยแลนด์ ก็อต ทาเลนต์ ซีซั่น 1 มาเมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อรับมอบธงเจ้าภาพต่อในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รวมทั้งนายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมรับมอบธงเจ้าภาพ ในฐานะเมืองเจ้าภาพร่วมในครั้งหน้า

เตือนภัยออนไลน์ หลอกทำใบขับขี่โดยไม่ต้องสอบ และลงทุนทิพย์

เนื่องจากในรอบสัปดาห์ มีข่าวการหลอกลวงทำใบขับขี่โดยไม่ต้องไปสอบที่ขนส่ง  และมีคดีออนไลน์ ที่เกิดขึ้นมาก ได้แก่ การหลอกให้ลงทุนในแอปพลิเคชันปลอม Wish Shop สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นห่วงพี่น้องประชาชน ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพดังกล่าว จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง  ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วยคณะทำงาน แถลงข่าวเตือนภัย เมื่อวันที่ 16 พ.ค.๒๕๖๖ เวลา ๑0.๐๐ น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  
พล.ต.อ.สมพงษ์  ชิงดวง  ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.กล่าวว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (7 -13 พ.ค.2566)  มีสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุดยังเป็นคดีเดิมๆ  5 อันดับ ได้แก่  อันดับ 1)  คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ  2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ  3) คดีหลอกลวงให้กู้เงิน 4) คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) และ 5) คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับคดีออนไลน์ที่มิจฉาชีพนำมาหลอกลวงในช่วงนี้ คือ หลอกลวงให้โอนเงินทำใบขับขี่โดยไม่ต้องไปสอบที่ขนส่ง  และหลอกให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอม Wish Shop ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนต้องเตือนให้ประชาชนได้รับทราบ  
พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี      บช.สอท. กล่าวถึงรายละเอียดภัยออนไลน์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นมากในรอบสัปดาห์  
1. เรื่องที่ ๑ มิจฉาชีพแอบอ้างว่าสามารถทำใบขับขี่ได้โดยไม่ต้องไปสอบที่ขนส่ง    คดีนี้ 
มิจฉาชีพโพสรับทำใบขับขี่ใน Facebook โดยไม่ต้องไปสอบที่ขนส่ง มีหน้าม้าโพสรีวิวว่าสามารถทำได้ และได้รับใบขับขี่จริง ผู้เสียหายทักสอบถามรายละเอียด มิจฉาชีพให้ผู้เสียหายเพิ่มเป็นเพื่อนในไลน์ แล้วให้ส่งข้อมูลส่วนตัว ชื่อ ที่อยู่ รูปถ่าย และรูปบัตรประชาชน หน้า-หลัง พร้อมทั้งขอเก็บเงินล่วงหน้า ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ก่อน ต่อมาผู้เสียหายติดต่อขอรับใบขับขี่  มิจฉาชีพอ้างว่ามีค่าเอกสาร ค่าดำเนินการ ค่าขนส่ง ต้องโอนเงินเพิ่ม  สุดท้ายไม่ได้รับใบขับขี่ และสูญเสียเงินโดยมีผู้เสียหายแจ้งความเข้ามาเป็นจำนวนมาก 
1.1 จุดสังเกต   
      1.1.1 ตรวจสอบในเพจ  มีการกดถูกใจน้อยมาก        
      1.1.2 มีการกดอีโมชันด้านลบ (โกรธ)     
      1.1.3 เป็นการทำใบขับขี่ในประเทศไทย แต่คนจัดการเพจส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ 
๑.๑.๔ กรมการขนส่งไม่มีการทำใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภท โดยไม่ต้องมีการสอบ 
         และไม่มีการทำใบอนุญาตขับขี่แบบออนไลน์ 
1.2 วิธีป้องกัน  
  1.2.1 ตรวจสอบกฎเหล็ก Facebook ดังนี้ 
1.2.1.1 เป็นบัญชีทางการ (Official) ที่น่าเชื่อถือหรือไม่ (มีเครื่องหมาย ✔ หรือไม่) 
1.2.1.2 มีการกดอิโมชันด้านลบ (โกรธ) หรือไม่ 
1.2.1.3 เพจมีความโปร่งใสหรือไม่ 

1) ประวัติการสร้างเพจ : สร้างมานานหรือไม่ 
2) ประวัติการเปลี่ยนชื่อ : เปลี่ยนชื่อบ่อยหรือไม่  
3) คนจัดการเพจอยู่ที่ใด สอดคล้องกับเพจหรือไม่ 
4) ในข้อมูลเกี่ยวกับ : มีการสร้างยอดผู้ติดตามให้เห็นว่ามีจำนวนมากหรือไม่   

1.2.2 กรณีมีข้อสงสัยให้ติดต่อสอบถามสำนักงานขนส่งทุกสาขาหรือโทร  Call Center 1584 
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่าปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างว่าสามารถทำธุรกรรมกับกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ผ่านทางเพจ Facebook โดยเฉพาะรับทำหรือต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ โดยจะนำรูปตราสัญลักษณ์ ขบ. มาใส่ในรูปโฟรไฟล์  หรือนำรูปภาพของผู้ที่ได้รับใบขับขี่มาแอบอ้าง  เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือโดยจะโฆษณาหลอกลวงว่าสามารถออกใบขับขี่หรือต่ออายุใบขับขี่โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง หรือใช้คำว่า “รับทำใบขับขี่โดยไม่ต้องสอบ ไม่ต้องอบรม รอรับได้เลย” และมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ประมาณ  1,000 – 6,000 บาท เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้วจะเรียกร้องให้โอนเงินเพิ่มอีกและเงียบหายไป ขบ. จึงขอย้ำเตือนว่าหย่าหลงเชื่อหรือทำธุรกรรมกับเพจเหล่านี้โดยเด็ดขาด นอกจากจะทำให้สูญเสียทรัพย์สินและเอกสารส่วนบุคคลแล้ว  ยังเสี่ยงที่จะได้รับใบขับขี่ปลอมและเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารทางราชการหรือใช้เอกสารราชการปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเพจ Facebook ปลอมให้กดรายงานบัญชีหรือเพจ Facebook (report) หรือสามารถแจ้งเบาะแสมาได้โดยตรง หรือ โทร.1584 ตลอด 24 ชั่วโมง 

2. เรื่องที่ 2 มิจฉาชีพชักชวนให้ลงทุนในแอปพลิเคชันปลอม Wish Shop โดยโฆษณาทาง Facebook ชักชวนให้ลงทุนโดยใช้รูปและโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือ   ผู้เสียหายหลงเชื่อทักสอบถาม มิจฉาชีพคนที่ 1 จึงให้แอดไลน์ มิจฉาชีพคนที่ 2 เพื่อแจ้งรายละเอียดการทำงาน โดยให้ผู้เสียหายโหลดแอปพลิเคชัน Wish ปลอม(นอก Play Store) สมัครสมาชิก และตั้งชื่อร้าน  โดยให้ทำตามขั้นตอน เริ่มจากลงทะเบียน เลือกสินค้ามาขาย โดยมีเงื่อนไขและจำนวนที่จะทำให้ผ่านภารกิจ และต้องเติมเงินก่อนขายทุกครั้ง ช่วงแรกให้สั่งซื้อสินค้าครั้งละ 3 ชิ้น และสามารถถอนเงินทุนและกำไรคืนได้  แต่ช่วงหลังจะมีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นมา คือ สินค้าต้องถึงมือลูกค้า และต้องเคลียร์สินค้าทุกชิ้นก่อน จึงจะได้ถอนเงินได้  ผู้เสียหายเริ่มติดปัญหา เช่น ออร์เดอร์ของลูกค้ามีราคาสูงขึ้น ทำให้ต้องเติมเงินเพิ่มขึ้นตามราคาสินค้า หรือ มีจำนวนออร์เดอร์ใหม่เข้ามาจำนวนมาก หรือ สินค้าไปไม่ถึงมือลูกค้า ผู้เสียหายจึงขอปิดร้าน แต่มิจฉาชีพอ้างว่ายังมีออร์เดอร์ค้างอยู่ และถ้าจะปิดหรือถอนเงินจะต้องเสียค่าใช้จ่าย 1) ค่าปิดร้าน 2) กรณีถอนเงิน ต้องจ่ายภาษี 7% 3) ค่าธรรมเนียมโอน 5% 4) ค่าบริการโอนเงิน 15% และ 5) อ้างว่าเงินสะสมในร้านมีจำนวนมากเกิน 2 ล้าน ถูกจำกัดโดยระบบ ต้องโอนยอด 30% เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นบัญชีของผู้เสียหาย โดยจะหลอกให้โอนเงินทีละขั้นตอน หากไม่ทันเวลาจะถูกหัก 10% ของยอดเงิน เมื่อโอนเงินแล้ว จึงจะหลอกขั้นตอนต่อไป และทุกครั้งจะหลอกว่าจะโอนเงินคืนทั้งหมด 
 
2.1 จุดสังเกต

2.1.1 การเปรียบเทียบของปลอม-ของจริง  
1) ใช้โลโก้แบบเก่า  1) เปลี่ยนรูปแบบโลโก้และไอคอนเป็นแบบใหม่ 
2) คะแนน Rating เขียน “Rating”  2) คะแนน Rating เขียน “Ratings” 
3) นำโลโก้ Shoppee ผสมใน App Wish และเพิ่มองค์ประกอบต่างๆ  3) ใช้โลโก้ wish เท่านั้น  
4) ใช้โทนสีส้มเป็นหลักคล้ายกับแอป Shopee และใช้ไอคอนเมนูจากแหล่งอื่น 4) ใช้โทนสีฟ้า-เขียว-เหลือง 

2.1.2 ปัจจุบันแอปพลิเคชั่น Wish ยังไม่รองรับการซื้อขายสินค้าในประเทศไทย  
2.1.3 Wish เป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่นิยมใช้ไลน์ ในการสนทนาแบบ ข้อความด่วน ฉะนั้นในไลน์ จึงไม่มีบัญชี Wish ที่เป็นทางการ 
2.1.4 เนื้อหาภาษาไทยในแอป และฝ่ายบริการลูกค้า การสนทนาทางไลน์ ใช้การแปลคำจากภาษาต่างประเทศ 

2.2 วิธีป้องกัน
2.2.1 ศึกษากลโกงของมิจฉาชีพจากแหล่งความรู้ต่างๆ  เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

2.2.2 ตรวจสอบกับทางบริษัทหรือร้านค้าทุกครั้งก่อนทำภารกิจใดๆ                     
2.2.3 การทำงานหรือทำภารกิจใดๆ  ที่ต้องมีการโอนเงินให้ก่อน  ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นกลโกง 
ของมิจฉาชีพ 
2.2.4 หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ  
Apple Store เท่านั้น ไม่ควรดาวน์โหลดจากลิ้งค์หรือข้อความที่มีคนส่งให้

 3. เรื่องที่ 3 มิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงหลอกโอนเงิน โดยส่ง SMS แจ้งว่าเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจดเลขมิเตอร์เกิน ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ โดยเพิ่มเพื่อนใน line กับมิจฉาชีพซึ่งใช้ชื่อสำนักงานการไฟฟ้า และอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงแล้วส่งลิงก์มาให้หลงเชื่อและกดลิงก์ เพื่อให้ผู้เสียหายดาวน์โหลดแอพพลิเคชันควบคุมเครื่องโทรศัพท์ แล้วโอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหาย          
3.1 จุดสังเกต   - การเปรียบเทียบของปลอม-ของจริง  
ของปลอม ของจริง 
1) เวบไซต์ชื่อ www.xk-line.cc นามสกุลของโดเมนไม่ถูกต้อง 1) เวบไซต์ชื่อ www.mea.or.th นามสกุลของโดเมนคือ .or.th 
2) ไลน์เป็นบัญชีส่วนบุคคล สามารถโทรหากันได้ 2) ไลน์เป็นบัญชีทางการ ไม่สามารถโทรหากันได้ 
3) ใช้โลโก้ กฟน. เหมือนของจริง แต่ใช้ชื่อบัญชี “สำนักงานการไฟฟ้า” 3) ใช้ชื่อบัญชี “การไฟฟ้านครหลวง”  

3.2 วิธีป้องกัน  
3.2.1 ไม่เปิดอ่านหรือ กดลิงก์ใน SMS แปลกปลอม หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพหลอก 
ให้ติดตั้ง  
3.2.2 กรณีมีการส่ง SMS ที่ผิดปกติ  ควรโทรศัพท์ตรวจสอบกับการไฟฟ้านครหลวง MEA  
call center โทร. 1130 โดยตรง  
3.2.3 กรณีมีการส่ง Link แปลกปลอม  ให้ตรวจสอบจากเวบไซต์ www.who.is  
3.2.3  หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store  
หรือ Apple Store  เท่านั้น ไม่ควรดาวน์โหลดจากลิ้งค์หรือข้อความที่มีคนส่งให้ 
 พล.ต.อ.สมพงษ์  ชิงดวง  ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.กล่าวเพิ่มเติมว่า การระงับการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  พ.ศ.2566 ห้วงวันที่ 17 มี.ค.66 – 5 พ.ค.66 มีรายละเอียด ดังนี้ 
Case ID ในความรับผิดชอบ 
(Case ID) พงส.แจ้งธนาคารทราบถึงการรับคำร้องทุกข์ 
(Case ID) พงส.แจ้งให้อายัดการทำธุรกรรม/อายัดบัญชี 
(Case ID) จำนวนบัญชีที่ขอระงับ/อายัด 
(บัญชี) บัญชี จำนวนเงินที่ขออายัด 
(บาท) อายัดทัน 
(บาท) 
30,439 988 762 16,597 685,310,290 92,132,049 

ดีเจเพชรจ้า’ เล่าเหตุระทึก!! ถูกโจรอังกฤษทำร้ายหวังปล้น โชคดีไหวตัวทัน หลบหมัดได้ เกือบโดนสอยร่วง

(16 พ.ค.66) กลายเป็นเรื่องราวระทึกที่ทำเอา ‘ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย’ ถึงขั้นหวาดระแวงทีเดียว เมื่อเจ้าตัวเดินทางไปเที่ยวและทำธุระที่อังกฤษ ก่อนเดินทางไปยังเมืองแมนเชสเตอร์ แต่ทันทีที่ถึงเมืองยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็โดนดีเข้าให้ 

จังหวะยกมือถือมาเซลฟี่ เจอโจรวิ่งปรี่เข้าหา พร้อมปล่อยหมัดฮุก โชคดีหลบทัน ก่อนโวยวายจนโจรวิ่งหนี ทำเอาเจ้าตัวต้องถือขวดเบียร์กลับโรงแรม เพื่อเตรียมพร้อมหากโจรย้อนกลับมาจะได้เอาไว้ป้องกันตัว เรียกได้ว่าโชคดีที่เจ้าตัวมีสติสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบข้างตลอดเวลา มิเช่นนั้น โทรศัพท์มือถือ อาจโดนสอยไปแล้ว โดยดีเจเพชรจ้าได้โพสต์ระบุข้อความไว้ว่า…

“อรุณสวัสดิ์ หลังจากยกมือถือ ถ่ายภาพนี้ที่หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต ในเมืองแมนเชสเตอร์ ก็มีโจรวิ่งมาหาเฮีย แบบเห็นๆเลยว่ามันวิ่งมาที่เราอะ ช่วงเสี้ยววินาที เฮียดึงมือ เอามือถือยัดเข้ากระเป๋ากางเกง รู้ตัวอีกทีเห็นหมัด โจรพุ่งมาที่หน้า หลบได้ทัน พร้อมตะโกนใส่หน้ามัน โจรตกใจวิ่งหนีไป อีก 3 วินาที ตำรวจใน Supermarket วิ่งออกมา ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราบอกโจรวิ่งหนีไปแล้ว ไม่ได้เอาอะไรไป คิดในใจถ้าโดนชกที่หน้าจังๆคงล้มแล้วโดนขโมยของแน่นอน ขาเหยียบ เมืองไม่ถึง 30 นาที เจอโจรซะแล้ว เดินกลับโรงแรมด้วยการ ถือขวดเบียร์ขวดใหญ่ไว้ในมือ เผื่อแม่งเดินกลับมาอีก คราวนี้คงมีแลกกัน 🤬 โมโห ผสมแค้น เห็นหน้าจีนๆติ๋มๆ ผมคนจริง เอาจริงนะครับ”

ฉะเชิงเทรา-สโมสรโรตารีธนบุรีมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์รักษาผู้ป่วยโรคตาให้กับโรงพยาบาล พนมสารคาม และจัดสร้างโรงอาหาร ปรับปรุงห้องสมุดใหม่

พร้อมมอบอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียนบ้านหนองสองห้อง ในวาระครบรอบ 65 ปี การก่อตั้งสโมสรในประเทศไทย

เมื่อวันจันทร์ที่ 15 พ.ค. 2566  เวลา 11.00 น. ณ โรงพยาบาลพนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีพิธีส่งและรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคตา โดยมี นายไพบูลย์  โกสุมขจรเกียรติ์  นายกสโมสรโรตารีธนบุรี เป็นตัวแทนสโมสรในนามองค์กรโรตารีสากล เป็นผู้ส่งมอบในฐานะผู้ดำเนินการ และได้รับเกียรติจาก นายขจรเกียรติ  รักพาณิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานรับมอบ

การมอบเครื่องมือแพทย์ในครั้งนี้ เป็นการฉลองที่สโมสรครบรอบ 65 ปีในประเทศไทย โดยเมื่อต้นปี 2565 เริ่มมีการสำรวจเบื้องต้น พบว่าในเขตพื้นที่อำเภอพนมสารคาม มีผู้ป่วยโรคตาจำนวนมาก และต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา เนื่องจากโรงพยาบาลพนมสารคาม มีอุปกรณ์เครื่องมือที่จะใช้ในการรักษา ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง และครอบคลุมกับอาการเจ็บป่วยของคนไข้ในภาวะปัจจุบัน โดยเฉพาะทางโรงพยาบาลมีอุปกรณ์เป็นเครื่องรุ่นเก่า สโมสรโรตารีธนบุรี จึงจัดทำโครงการที่เรียกว่า Global Grant หมายเลข 2340638 ซึ่งเป็นโครงการที่ทำร่วมกับสโมสรคู่มิตรต่างประเทศในการจัดหาทุน เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางแพทย์รักษาโรคตา เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลพนมสารคาม เป็นของขวัญมอบให้กับประชาชนจังหวัดฉะเชิงเทรา

โครงการส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลพนมสารคาม สำหรับการรักษาคนไข้โรคตาครี้งนี้ เป็นชุดอุปกรณ์รวม 2 ชุดในมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,483,700 บาท โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ เริ่มสำรวจจนถึงวันนี้เป็นเวลา 1 ปีเต็ม 

เมื่อปี 2565 ได้จัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ชุดที่ แรกได้แก่เครื่องตรวจตาวัดเลนส์แก้วตาเทียม และเครื่องฉายจอภาพ มูลค่าโครงการ US$ 38,900 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,283,700 บาท 

และต่อมาในปี 2566 เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยโรคตาได้ครอบคลุมทั่วถึง มีประสิทธิภาพมากขึ้น คณะกรรมการบริหารสโมสรโรตารีธนบุรี  จึงได้มีมติเห็นชอบอนุมัติการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ ชุดที่ 2  ได้แก่ เครื่องถ่ายภาพจอแบบพกพา ปัญญาประดิษฐ์ โดยได้รับการสนับสนุนทุนจากสโมสรคู่มิตรต่างประเทศ มูลค่าโครงการ US$ 34,286 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,200,000 บาท 

ในการนี้ ไม่ใช่เฉพาะคนไข้ในเขตพื้นที่อำเภอพนมสารคามเท่านั้นที่จะได้รับบริการ ยังหมายรวมถึงประชาชนชาวบ้านที่อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทราทั้งหมด จะมีโอกาสมารับการรักษาโรคที่เกี่ยวกับดวงตา ได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย 


และในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ สโมสรโรตารีธนบุรี เดินทางไป ณ โรงเรียนบ้านหนองสองห้อง หมู่ที่ 13 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา นายไพบูลย์  โกสุมขจรเกียรติ์  นายกสโมสรโรตารีธนบุรี เป็นตัวแทนสโมสรในนามองค์กรโรตารีสากล ส่งมอบโรงอาหาร และปรับปรุงห้องสมุดใหม่ พร้อมมอบอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียนบ้านหนองสองห้อง มูลค่ารวม 350,000 บาท

โดยกิจกรรมนี้เป็นโครงการสืบเนื่องจากที่สโมสรได้มามอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลพนมสารคาม  โดยต้องการสนับสนุนเยาวชนในพื้นที่ ดูแล ด้านการศึกษา ซึ่งโรงเรียนบ้านหนองสองห้องอยู่ในเขตอำเภอพนมสารคาม  ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มี นักเรียน 75 คน ระดับการศึกษาตั้งแต่อนุบาล 2 – ประถมศึกษาปีที่ 6  เปิดทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี  2520 รวมอายุ 45 ปี ปัจจุบันมีครูและเจ้าหน้าที่ 7 คน ที่คอยดูแลให้เด็ก ๆ ในพื้นที่ได้รับการศึกษา  แต่เนื่องจากสภาพอาคารเรียนเริ่มผุพัง ประกอบกับความไม่สะดวกของการจัดกิจกรรมในร่ม  ทางสโมสรโรตารีธนบุรี จึงได้พิจารณาอนุมติงบประมาณเพื่อสร้างโรงอาหารขนาด  8 x 12 เมตร พร้อมใส่มุ้งลวด และหลังคากันฝนให้สามารถงานได้อเนกประสงค์   

นอกจากนี้ ทางสโมสรฯ ยังได้ทำการปรับปรุงห้องสมุดเดิม ให้สวยงาม พร้อมจัดหาหนังสืออ่านนอกเวลา เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้  รวมทั้งจัดซื้อชุดคอมพิวเตอร์มอบให้อีก 1 ชุด ด้วย 

(สุรินทร์) ผบ.มทบ.25 ตรวจเยี่ยมการ รับ-ส่งทหารกองเกินเข้ากองประจำการประจำปี 2566 ผลัดที่ 1

วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เวลา 10:30 น. พลตรี ชินวิช  เจริญพิบูลย์  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ การรับ-ส่งทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ประจำปี 2566 ผลัดที่ 1 ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพอีสานใต้ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยมี พันเอกสุดใจ  แพงพรมมา สัสดีจังหวัดสุรินทร์ รักษาการ หัวหน้าฝ่าย สรรพกำลังมณฑลทหารบกที่ 25 พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ เสนาธิการกองกำลังสุรนารี พันเอกสุรังค์  วิทยาวงศรุจิ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน  และ คณะนายทหารให้การต้อนรับ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 มณฑลทหารบกที่ 25 ได้ดำเนินการ รับ-ส่ง ทหารเข้ากองประจำการ ผลัดที่ 1/2566 จำนวน 390 นาย แยกเป็น แผนก กองทัพบก จำนวน 209 นาย แผนก กองทัพอากาศ จำนวน 108 นาย แผนก กองทัพเรือ จำนวน 73 นาย  พลตรี ชินวิช  เจริญพิบูลย์  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติในทุกขั้นตอน อย่างเคร่งครัด และได้พบปะพูดคุย กับผู้ปกครองและญาติของทหารใหม่ที่มาส่ง ให้คลายความกังวล และขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการของกองทัพ ที่จะดูแลทหารใหม่หรือน้องคนเล็ก เสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ในการรับ-ส่งทหารกองเกินเข้ากองประจำการประจำปี 2566 ผลัดที่ 1ในครั้งนี้ มณฑลทหารบกที่ 25 ได้จัด วงดนตรี จากหมวดดุริยางค์ทหารบก มณฑลทหารบกที่ 25 และการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทย มาให้ ผู้ปกครองและญาติทหารใหม่ได้ชมอีกด้วย

ต่อจากนั้น พลตรี ชินวิช  เจริญพิบูลย์  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 ได้เดินทาง ไปตรวจเยี่ยม การรับทหารใหม่ ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 25 ซึ่ง มีทหารใหม่เข้ากองประจำการ จำนวน 87 นาย

 ปุรุศักดิ์  แสนกล้า  ข่าว/ภาพ

ศลต.ตร.อัปเดตทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 42 ราย เฝ้าระวังพื้นที่รุนแรง แข่งขันสูงต่อเนื่อง เปิดภาพตำรวจขนส่งบัตรเลือกตั้งจากจุดห่างไกล จ.ยะลา ขึ้น ฮ.ท่ามกลางความมืด

วันนี้ (15 พฤษภาคม 2566) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษก ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) เปิดเผยว่า วันนี้ ศลต.ตร.ได้ประชุมสรุปภารกิจการรักษาความปลอดภัย การดูแลความสงบเรียบร้อย และอำนวยการจราจรในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เฝ้าระวัง เช่น พื้นที่ที่เคยพบการใช้ความรุนแรง หรือพื้นที่แข่งขันสูงอย่างต่อเนื่อง

“การปฏิบัติของ ศลต.ตร.ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาภาพรวมทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังปิดหีบแล้วเข้าสู่การนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง ตำรวจดูแลความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย ป้องกันการกระทบกระทั่ง โดยไม่มีรายงานเหตุวุ่นวายแต่อย่างใด หลังจากนั้น ในช่วงค่ำตำรวจได้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยการขนส่งหีบบัตรเลือกตั้งที่นับคะแนนแล้วไปยังศูนย์เลือกตั้งจังหวัด โดยมี 8 หน่วยเลือกตั้ง ในพื้นที่ อ.ยะหา บันนังสตา และธารโต จว.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาสูง อยู่ห่างไกล ต้องใช้ระยะเวลาการเดินทางขนส่งโดยรถยนต์เป็นระยะเวลานาน และเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยฯ จึงใช้วิธีการลำเลียงบัตรเลือกตั้ง โดยเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ โดยมีตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ตำรวจพลร่ม  และตำรวจ สภ.บันนังสตา สภ.แม่หวาด สภ.ปะแต จว.ยะลา ทำหน้าที่ขนส่ง และอารักขา เจ้าหน้าที่ กกต.และกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง นำบัตรเลือกตั้งส่งถึงศูนย์ฯ อย่างปลอดภัย” พล.ต.ท.นิธิธร ฯ กล่าว

ผู้ตรวจราชการ ก.แรงงาน เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ ยกระดับความร่วมมือในภูมิภาค ตั้งเป้ามุ่งขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายให้หมดไปในปี 2568

วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคเพื่อนำแนวทางอาเซียนในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายให้หมดไปในปี ค.ศ.2025 ไปปฏิบัติ โดยมี นาย Benedicto Ernesto R. Bitonio, Jr. ประธาน SLOM และปลัดกระทรวงด้านแรงงานสัมพันธ์ นโยบาย และการต่างประเทศ กระทรวงแรงงานและการจ้างงาน สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ พร้อมทั้ง ประธานคณะทำงานเจ้าหน้าที่อาวุโสแรงงานอาเซียน และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักเลขาธิการอาเซียน คณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก องค์การแรงงานระหว่างประเทศ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ เข้าร่วมด้วย ณ โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

นายสมาสภ์ กล่าวว่า ในปัจจุบันการใช้แรงงานเด็กยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศรายงานว่าแรงงานเด็กที่อายุระหว่าง 5 - 17 ปี มีจำนวนประมาณ 160 ล้านคน ทั่วโลก ซึ่งในกลุ่มนี้มีจำนวนประมาณ 48.7 ล้านคน อยู่ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งทุกภาคส่วนได้ร่วมกันเห็นชอบในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ดำเนินการตามแนวทางอาเซียนในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายให้หมดไปในปี พ.ศ. 2568 ไปปฏิบัติ 
เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายให้หมดไปในส่วนของประเทศไทย ในปี พ.ศ.2565 จากรายงานกระทรวงแรงงาน พบว่า ได้มีการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 รวมทั้งสิ้น 71,301 คน สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนงานของอาเซียนและการบูรณาการร่วมกันเกี่ยวกับตัวชี้วัดด้านศักยภาพของแรงงานเด็ก เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายในระดับภูมิภาค 

นายสมาสภ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงานในฐานะหน่วยงานหลักด้านการคุ้มครองแรงงาน ได้ดำเนินการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด โดยให้ความร่วมมือกับประชาคมโลกในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายให้หมดสิ้นไป ด้วยการให้สัตยาบันอนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับเด็กที่สำคัญหลายฉบับ รวมถึงร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ตามแผนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 8.7 ที่ดำเนินการโดยทันทีและมีประสิทธิภาพเพื่อขจัดแรงงานบังคับ ยุติความเป็นทาสสมัยใหม่และการค้ามนุษย์ รวมถึงยับยั้งและกำจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด ในด้านโครงสร้างกรอบกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็ก ประเทศไทยมีกฎหมายและระเบียบที่ห้ามการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดอย่างเพียงพอ อย่างน้อย 55 ฉบับ และมีการดำเนินงานที่สำคัญในปี พ.ศ. 2565 ได้แก่ การออกพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2565 การออกกฎกระทรวง แผนปฏิบัติการ ประกาศ ตลอดจนการดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยกระทรวงแรงงานได้มีการบูรณาการออกตรวจแรงงานอย่างเป็นระบบ และมีการประสานส่งต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีบทบาทและกลไกในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานเด็กที่แตกต่างกัน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น 

ศลต.ตร.เผย ทั่วประเทศทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 38 ราย ฉีกบัตรเลือกตั้งทั่วประเทศ 26 ราย ส่วนใหญ่คนแก่ ป่วย เมา เร่งตรวจสอบปมซื้อเสียง 

วันนี้ (14 พฤษภาคม 2566) เวลา 17.30 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปก.ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) เป็นประธานการประชุมสรุปผลการปฏิบัติในการเลือกตั้ง โดยสถานการณ์ภาพรวมทั่วระเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

ด้าน พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษก ศลต.ตร. เปิดเผยภายหลังปิดหีบเลือกตั้งว่า จากการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งปี 2566 ต่อเนื่องจนตลอดทั้งวันนี้ พบว่ามีการซื้อสิทธิขายเสียงทั้งสิ้น 8 คดีดำเนินคดีไปแล้ว 4 ราย อีก 4 ราย อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งซึ่งกันและกัน 

โฆษก ศลต.ตร. กล่าวว่า วันนี้มีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 38 ราย เป็นการฉีกบัตรเลือกตั้ง 26 ราย ถ่ายภาพบัตรเลือกตั้ง 4 ราย นำบัตรออกจากหน่วยเลือกตั้ง 1 ราย จำหน่ายสุราในเวลาต้องห้าม 7 ราย และพบการทำลายป้ายหาเสียงกว่า 1,000 ป้าย 

กรณีการฉีกบัตรเลือกตั้ง ส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้สูงอายุ บางรายเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ บางรายเมาสุรา หรือมีอุบัติเหตุหกล้มในคูหาเลือกตั้งจนบัตรฉีกขาด  อีกรายเกิดจากการลงคะแนนผิดจึงฉีกบัตร เพื่อขอบัตรใหม่ ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจต้องทำการสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริง แต่จากการสอบสวนผู้กระทำผิด ยังไม่พบว่าเป็นการตั้งใจก่อเหตุเพื่อแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง” พล.ต.ท.นิธิธร กล่าว

สำหรับด้านการจราจร พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวว่า ช่วงเช้ารถค่อนข้างติดในช่วงเช้า เนื่องจากประชาชนมารอใช้สิทธิตั้งแต่เช้า พบจุดรถติดขัด 6 จุด แต่สามารถเข้าคลี่คลายปัญหาการจราจรได้โดยเร็ว 
ส่วนกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนเรื่องการกระทำความผิดเรื่องกฎหมายเลือกตั้งผ่าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ทางตำรวจได้ติดตามดู จะนำข้อมูลเหล่านี้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ตำรวจท้องที่ทำการสอบสวนสอบสวน ซึ่งขณะนี้ยังถือว่าเป็นข้อมูลด้านเดียวอยู่ และทราบว่ามีเรื่องร้องเรียนตรงเข้ามาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะต้องประสานข้อมูลเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป

พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวด้วยว่า ศลต.ตร. จะเปิดไปจนถึงวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ยังมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น การดูแลการนับคะแนนเสียง การขนหีบบัตร รวมถึงการป้องกันเหตุกระทบกระทั่ง โดยเฉพาะใน 4 จังหวัดที่มีการแข่งขันกันสูง และเคยมีคดียิงกันหลังการนับคะแนน ประกอบด้วย จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และราชบุรี นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอีก 20 จังหวัดทั่วประเทศ

ปิดการแข่งขันแบดมินตันคนพิการนานาชาติ  (THAILAND PARA BADMINTON INTERNATIONAL 2023 ) ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา

ที่สวนนงนุชพัทยา ได้มีการจัดพิธีปิดและมอบเหรียญรางวัลสำหรับผู้ชนะการแข่งขันแบดมินตันคนพิการนานาชาติ Thailand Para  Badminton International  2023 ซึ่งการแข่งขันแบดมินตันคนพิการนานาชาติได้ แข่งขันกันไปเสร็จเรียบร้อยแล้วระหว่างวันที่ 9 - 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา 
      
สำหรับรางวัลแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มวิวแชร์,กลุ่มความพิการทางแขนขา,กลุ่มคนแคระ นักกีฬาที่ได้รับรางวัลมี 20 ประเทศรวม92 รางวัล ส่วนนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันได้รับรางวัล 7 คนโดยแบ่งเป็น
1.กลุ่มคนแคระ ได้รับเหรียญเงิน 1รางวัล ระเภทชายคู่ คลาส SH6 นายณัฐพงษ์ มีชัย คู่กับ นายบุญทัน แย้มมะลิ 

2.กลุ่มพิการแขนขา ได้รับเหรียญทองแดง 3รางวัล

ประเภทหญิงเดี่ยว คลาส SL3  นางดรุณี เห็นไพรวัลย์ 
ประเภทชายคู่ คลาส SU5 นายปรีชา สมศิริ คู่กับ นายณัฏฐพล ทวีทรัพย์
ประเภทคู่ผสม คลาส SL3-SU5 นายศิริพงษ์ เติมอารมณ์ คู่กับ นางสาวนิภาดา แสนสุภา
            
สำหรับรายการแข่งขันแบดมินตัน เพื่อ Qualify Paralympic 2024 กรุงปารีส ฝรั่งเศส จะมีรายการแข่งขัน 12 รายการ โดยสหพันธ์แบดมินตันโลกจะเลือก 6 รายการที่ดีที่สุดของนักกีฬาแต่ละคน หรือ แต่ละคู่มาจัดอันดับ 1-6 ตามลำดับเพื่อให้ได้สิทธ์ไปแข่งขันในรอบสุดท้าย ( แต่ละประเทศจะได้เพียง 1 สิทธิ์ ในแต่ละประเภท ) และในปีหน้าทางสหพันธ์แบดมินตันโลกได้อนุมัติให้ประเทศไทยจัดรายการ BWF World Para Badminton Championships 2024

ผบ.ทร. และคณะ เข้าร่วมพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ 2023 ณ อ่าวซูบิค ประเทศฟิลิปปินส์

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และคณะ เข้าร่วมพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ 2023 ณ อ่าวซูบิค  ประเทศฟิลิปปินส์ ตามคำเชิญของ ผู้บัญชาการทหารเรือฟิลิปปินส์ เนื่องในโอกาสที่ กองทัพเรือฟิลิปปินส์ จัดการประชุม ผบ.ทร.อาเซียนครั้งที่ 17 และในโอกาสครบรอบ 125 ปี กองทัพเรือฟิลิปปินส์ 

โดยมีเรือรบของกองทัพเรือชาติต่างๆ ในอาเซียน 7 ประเทศเข้าร่วมสวนสนามทางเรือ จำนวนทั้งสิ้น 10 ลำ โดยมีพลเอก Carlito Galvez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ เป็นประธานในพิธีบนเรือ BHP Davao Del Sur (602)  ในส่วนของกองทัพเรือไทย ได้ส่งเรือหลวงปัตตานี (หมายเลขเรือ 511) เข้าร่วมการสวนสนามในครั้งนี้ด้วย ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการสวนสนามทางเรือ เรือต่างๆ จะเข้าร่วมการฝึก ASEAN Multilateral Naval Excercise:AMNEX ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่13-16 พ.ค.66 บริเวณฝั่งทะเลด้านตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติการทางเรือร่วมกันของกองทัพเรือประเทศอาเซียน 

ซึ่งการฝึกดังกล่าวในครั้งแรก จัดขึ้นที่ประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน (The 50th Anniversary of ASEAN’s International Fleet Review 2017 – ASEAN IFR 2017) 


นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ผบ.ตร. ต่อแถวเข้าคิวใช้สิทธิพร้อมประชาชน ยันภาพรวมทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ห่วงการจราจร สั่งตำรวจคลี่คลายดูแลทุกมิติ เตือนอย่าทำผิดกฎหมาย พบมีซื้อสิทธิขายเสียงแล้ว 8 คดี 

วันนี้ 14 พ.ค. 66 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่เขตเลือกตั้ง 5 หน่วยเลือกตั้งที่ 10 โรงเรียนวัดสามัคคีธรรม ซอยลาดพร้าว 80 แยก 14 แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยต่อคิวเข้าแถวเลือกตั้งร่วมพี่น้องประชาชน ซี่งบรรยากาศภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คึกคัก มีประชาชนมาใช้สิทธิจำนวนมากและต่อเนื่อง

ผบ.ตร. กล่าวว่า “รู้สึกดีที่ได้เข้ามาใช้สิทธิ์ในฐานะพลเมืองไทยในวันนี้ โดยในการตั้งตั้งวันนี้มีกำลังพลตำรวจกว่า 150,000 นายคอยดูแลรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศ จำนวน 94,737 หน่วยเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นห่วงการจราจรที่ติดขัดสะสมในหลายพื้นที่ เนื่องจากมีผู้ออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก

โดยเฉพาะหน่วยที่มีผู้ใช้สิทธิเกิน 5,000 คนขึ้นไปในเขตกรุงเทพฯ มี 74 แห่ง ตั้งแต่ 10,000 คนขึ้นไปมี 5 แห่ง คิดว่าจะมีปัญหาเรื่องการจราจรพอสมควร แต่ได้สั่งการไปแล้ว ให้บริหารจัดการจราจร ตรึงกำลังเข้าคลี่คลายตามจุดต่างๆจนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ  ฝากถึงประชาชนหากพบเห็นมีตรงไหนติดขัด สามารถแจ้งมาได้ที่ 1197 ศูนย์ควบคุบและสั่งการจราจรของบช.น. หรือที่ 191 ทั่วประเทศ อีกทั้ง ตนได้สั่งการให้ตำรวจเตรียมเสื้อกันฝน เนื่องจากในหลายพื้นที่มีการพยากรณ์ว่าจะมีฝน"

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่าว่า “ขอฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ทั้งเรื่องการถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว หรือการใส่เสื้อโลโก้พรรค  การเอาบัตรออกนอกหน่วย การฉีกบัตรเลือกตั การจัดรถยานพาหนะถ้าประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งการเล่นพนันขันต่อการเลือกตั้ง 

ในส่วนการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เฉพาะคืนวานนี้  2 คดี และช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการซื้อสิทธิขายเสียง 8 คดี ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว 3 คดี รวมความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งประมาณ 49 เหตุ และมีการทำลายป้ายหาเสียง 145 เหตุ 

ทั้งนี้ภาพรวมทั้งประเทศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอเชิญชวนออกมาใช้สิทธิ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกและจัดจราจรเพื่อดูแลประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิอย่างเต็มที่จนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ”

ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ประดับเครื่องหมายนักเรียนบังคับบัญชา ชั้นปีที่ 5 จำนวน 38 นาย

พลเรือโท ประวุฒิ รอดมณี  ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายนักเรียนบังคับบัญชา ประจำปีการศึกษา 2566 ให้แก่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 จำนวน 38 นาย เพื่อเป็นเกียรติให้กับนักเรียนนายเรือชั้นสูงสุด ที่ผ่านการพิจารณาจากกรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของโรงเรียนนายเรือร่วมประดับเครื่องหมายนักเรียนบังคับบัญชา และมีหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงของโรงเรียนนายเรือ ตลอดจนกำลังพลของโรงเรียนนายเรือ เข้าร่วมพิธีฯ ดังกล่าว ณ ลานสวนสนามโรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

'ชาวบ้าน' โวย!! ภาพลักษณ์ 'วัดพระธาตุพนม' ถูกบั่นทอน หลัง 'ถนนลายขิด' ถูกตีเส้นทำที่จอดรถ ทำลายความสวยงาม

(14 พ.ค. 66) ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดระเบียบวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าวางขายของในพื้นที่โซนนิ่งของทางคณะกรรมการวัดจัดไว้ให้ โดยมีนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ในฐานะประธานมูลนิธิกองทัพธรรม ไวยาวัจกรวัด เป็นประธานดูแลบริหารทั้งภายในภายนอกวัดพระธาตุพนมฯ จัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เข้ามาดูแลจัดระเบียบ ป้องกันการฉกฉวยโอกาสเรียกรับผลประโยชน์ ด้วยการให้เช่าพื้นที่ขายของในบริเวณวัดของคณะกรรมการวัดบางกลุ่มที่ฝังรากลึกมายาวนาน
.
จนกระทั่งการจัดระเบียบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทางบรรดาพ่อค้าแม่ค้า พร้อมใจยินยอมที่จะเข้าไปขายของในพื้นที่ที่ทางวัดจัดให้ อีกทั้งคณะกรรมการวัดกำลังแก้ไขปัญหาจัดระเบียบทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับการจัดพื้นที่ขายของแบบถาวร เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อความสวยงามไม่รกหูรกตาเหมือนที่ผ่านมา ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในการท่องเที่ยว และให้เป็นไปตามระเบียบขั้นตอน ในการเสนอองค์พระธาตุพนมขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
.
ล่าสุดได้มีแกนนำชาวบ้านออกมาร้องเรียนให้ข้อมูลผ่านสื่อ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สะท้อนปัญหาเกี่ยวกับความสวยงามของถนนบริเวณหน้าวัด จากทางเข้าประตูวัดด้านหน้า ที่เคยมีปัญหากับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาก่อนหน้านี้ ลักษณะเป็นรูปตัวที (T) ยาวไปถึงประตูโขงติดถนนเลียบแม่น้ำโขง โดยจากข้อมูลพบว่า เป็นพื้นที่ถนนลานธรรม ที่ออกแบบก่อสร้างมาเป็นพิเศษ พื้นถนนกว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณเกือบ 500 เมตร ส่วนพื้นที่การออกแบบเป็นบล็อกปูพื้น พิมพ์สีออกมาเป็นลวดลายแบบพิเศษ ที่เรียกว่าลายขิดอีสาน สื่อถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีของชาวอีสาน เพื่อให้เกิดความสวยงามโดดเด่น หากมีการจัดกิจกรรมขบวนแห่ต่างๆ สามารถสร้างความตื่นตาให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
.
ส่วนริมถนนที่เป็นฟุตบาท จะมีการจัดรวบรวมข้อมูลประวัติความเป็นมา กล่าวถึงความสำคัญขององค์พระธาตุพนม ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ชื่นชมศึกษา แต่ปัจจุบันพื้นลายขิดดังกล่าว มีความสวยงามน้อยลง ไม่มีความโดดเด่น เนื่องจากกรรมการวัดออกแบบ ให้มีการตีลายเส้นสีขาวทับถนนลายขิดอีสาน เพื่อจัดเป็นที่จอดรถ ทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และไม่คุ้มค่ากับงบประมาณการออกแบบ ที่ต้องใช้งบประมาณสูงเกือบ 5 ล้านบาท จึงต้องการเรียกร้องผ่านสื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไข ให้มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สมกับงบประมาณที่ก่อสร้าง และประชาชน นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงาม โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น

“อลงกรณ์”ปลื้มส่งออกข้าวไทย 4 เดือน พุ่ง 3.05 ล้านตัน ดันราคาข้าวในประเทศสูง ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น คาดปี2566 ส่งออกทะลุเป้า7.5ล้านตัน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าววันนี้(14 พ.ค.)ว่า เป็นข่าวดีที่การส่งออกข้าวของไทย 4 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณสูงถึง 3.05 ล้านตัน และความต้องการข้าวในตลาดยังมีต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ราคาข้าวในประเทศเกือบทุกประเภทสูงเกินราคาประกันรายได้โดยเฉพาะข้าวเจ้าซึ่งมีปริมาณการผลิตมากที่สุด คาดว่า การส่งออกข้าวของไทยในปี2566 จะทะลุเป้าหมาย 7.5ล้านตันและน่าจะแซงตัวเลขการส่งออกข้าวในปี2565

สำหรับการส่งออกข้าวไทยปี 2565 อยู่ที่ 7.69 ล้านตัน โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการส่งออกสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7.5 ล้านตัน ขณะที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 138,451.8 ล้านบาท คิดเป็น 3,970.9 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 26.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาดเป็นยุทธศาสตร์หลักบนความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนและกระทรวงพาณิชย์โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มุ่งทำงานเชิงรุกร่วมกับภาคเอกชน และภาคเกษตรกรมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ผลผลิตต่อไร่สูงมีคุณภาพมาตรฐานตรงความต้องการของตลาด การยกระดับข้าวแปลงใหญ่พร้อมกับเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในต่างประเทศมากขึ้นรวมทั้งค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เป็นปัจจัยสำคัญทำให้การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ ประการสำคัญคือชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top