Saturday, 10 May 2025
NEWS

ปักกิ่งประกาศต่อสาธารณะต่อสหรัฐอเมริกา และแคนาดาในวันเสาร์ (27 มีนาคม) ต่อการที่ชาติตะวันตกเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ต่อการที่ปักกิ่งปฏิบัติต่อมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอย่างไร้มนุษยธรรม

ด้าน วอชิงตันชี้ ยิ่งจีนตอบโต้ยิ่งทำให้เพิ่มความสนใจต่อปัญหาซินเจียงจากทั่วโลกมากขึ้น

ก่อนหน้านี้เอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลปักกิ่งสั่งจับชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ไม่ต่ำกว่าล้านคนให้อยู่ภายในค่ายกักกัน อ้างอิงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน และยังมีการใช้กำลังบังคับจับหญิงชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ทำหมันโดยไม่สมัครใจ รวมไปถึงการใช้แรงงานบังคับ และส่งผลให้สหภาพยุโรป, อังกฤษ, แคนาดา และสหรัฐฯ ออกคำสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จำนวนไม่กี่คนของซินเจียงที่อยู่ในระดับทางการเมือง และเศรษฐกิจต่อปัญหานี้

ทันทีที่เหตุการณ์ล่วงล้ำเรื่องราวอุยกูร์ในซินเจียงขยายวง ทำให้จีนได้ออกแถลงการณ์ประณามอังกฤษโดยชี้ว่า ลอนดอนได้ออกมาตรการลงโทษคว่ำบาตรต่อจีนแต่ฝ่ายเดียว เพื่อลงโทษบุคคลต่อประเด็นสิทธิมนุษยชนซินเจียง โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานใด นอกจากคำโกหก และข้อมูลเท็จ และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และประเพณีพื้นฐานการกำกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยุ่งเกี่ยวกิจการภายในของจีนอย่างเลวร้าย รวมไปถึงบั่นทอนความสัมพันธ์จีน-อังกฤษ

โดยกลุ่มในอังกฤษที่ตกเป็นเป้าหมายการคว่ำบาตรของจีนในครั้งนี้ ได้ครอบคลุมไปถึงสมาชิกรัฐสภาสามัญชนผู้ดี 5 คน และสภาขุนนางอังกฤษอีก 2 คน และรวมไปถึงนักกฎหมาย และนักวิชาการ

นอกจากนี้ยังมีอีก 4 องค์กรที่ถูกคว่ำบาตรได้แก่ กลุ่มวิจัยจีน (China Research Group) คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนพรรคคอนเซอร์เวตีฟ (Party Human Rights Commission) องค์กรตรวจสอบอุยกูร์ อุยกูร์ ทริบูนอล (Uyghur Tribunal) และองค์กรทางกฎหมาย Essex Court Chambers

ขณะเดียวกันยังมีการคว่ำบาตรของจีนต่อสหรัฐฯ และแคนาดา โดยทางปักกิ่งให้เหตุผลว่า ต้องการตอบโต้เนื่องมาจากวอชิงตัน และออตตาวาใช้สิทธิ์คว่ำบาตรบนพื้นฐานของข่าวลือ และข้อมูลที่เป็นเท็จ

โดยกระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า สมาชิก 2 คนของคณะกรรมาธิการด้านเสรีภาพทางศาสนาระหว่างประเทศประจำสภาคองเกรสสหรัฐฯ 2 คนและสมาชิกรัฐสภาแคนาดา 1 คน รวมไปถึงสมาชิกคณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนประจำรัฐสภาแคนดา 1 คนถูกห้ามเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และมาเก๊า

การตอบโต้ทางการทูตระหว่างปักกิ่ง และชาติตะวันตกเกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้าปัญหาฝ้ายซินเจียงปะทุจนเป็นประเด็นหลังเสื้อผ้าแบรนด์ดังชาติตะวันตกเข้าร่วมขบวน เป็นต้นว่า ร้านเสื้อผ้าชื่อดังสวีเดน H&M ออกมาปฏิเสธที่จะไม่ซื้อฝ้ายจากซินเจียงที่เชื่อว่ามีการใช้แรงงานบังคับของมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งในแถลงการณ์ของ H&M ปีที่แล้วทางบริษัทยืนยันว่า ไม่มีความร่วมมือกับบริษัททอผ้าตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงาน

เอเอฟพีรายงานว่า ผลจากปัญหาฝ้ายซินเจียงทำให้ดาราชื่อดังของจีน และบริษัทไฮเทคต่างแห่ถอนตัวจากการเป็นพันธมิตรทางการค้ากับไนกี้ H&M อดิดาส เบอร์บิวรี และแคลวิน ไคลน์

.

ที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9640000029511?fbclid=IwAR0DnHsmKBd2nzgwXocbRJ5x8aNuM8uBfeBnrUagA2ObgTLnnq8oier6xkk


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

เอย่าได้ดูคลิปที่หลายคนจะเรียกได้ว่าเป็นคลิปเรียกน้ำตาแห่งปีก็ว่าได้ เมื่อ มิสแกรนด์เมียนมา ‘ฮันเลย์’ (Han lay) ใช้เวทีประกวดขอให้นานาชาติเข้ามาช่วยประเทศของเธอ เพราะตอนนี้ทหารกำลังเข่นฆ่าประชาชน

สำหรับคนที่ไม่อยู่ในเมียนมาตอนนี้ คงน้ำตาท่วมจอแล้วบอกว่า ทหารเมียนมาช่างเป็นคนโหดร้ายฆ่าคนเป็นผักเป็นปลา แต่สำหรับ เอย่า ที่อยู่ในเมียนมาตอนนี้ อยากตั้งคำถามไปยัง ฮันเลย์ ว่า “ทำไมเธอพูดความจริงเพียงครึ่งเดียวล่ะ”

อย่างที่คนไทยทราบดีว่าเวทีมิสแกรนด์นี้ เป็นเวทีประกวดนางงามที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเวทีเรียกแขกได้ตลอด ตั้งแต่ผู้จัดที่เอียงข้าง จนถึงตัวแทนประเทศไทยที่จะเรียกได้ว่าได้ตำแหน่งเพราะถอดแบบผู้จัดออกมาแบบด้ามเดียวกัน โดยเฉพาะทัศนคติทางการเมืองที่สุดโต่งแบบค้านระบอบการปกครองของไทยที่เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

แต่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งสุดโต่งของเวทีนี้จะไม่ได้สะเทือนแค่ในประเทศไทยเท่านั้น เมื่อตัวแทนมิสแกรนด์คนนี้ได้ขึ้นพูดสุนทรพจน์ด้วยน้ำตาประหนึ่งว่าช่วยผู้คนของเธอด้วย และพยายามบอกว่าประชาชนของพวกเขากำลังโดนฆ่าด้วยทหารของพวกเขาเอง เอย่าว่านี่มันไม่ใช่แล้ว

อันแรกฮันเลย์ ถ้าเธอจำได้ เมื่อหลายปีก่อนผู้นำหญิงที่เธอรักตอนนั้นได้ร่วมมือกับทหารในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา แม้ต่างประเทศจะประณามอย่างไร จะถอดรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างไรก็ตาม ‘โนสน โนแคร์’ ทำไมเธอไม่พูดล่ะ หรือเพราะนั่นเป็นผู้นำที่เธอรัก

อย่างว่าแหละ…รักใครชอบใคร ตดที่ว่าเหม็นก็ยังหอม!!

เรื่องต่อมาทำไมเธอไม่พูดให้ครบล่ะว่าภาพที่เกิดขึ้นหลายๆ ภาพในประเทศเธอทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปิดกั้นถนนด้วยวัสดุต่างๆ ก็ดี หรือล่าสุดคือการเผายางกลางถนนก็ดี มันไม่ได้เป็นฝีมือของทหาร แต่เป็นฝีมือของชาวบ้านที่ข่าวใช้คำว่าผู้ก่อการร้าย

ในเมียนมาตอนนี้ไม่มีผู้ก่อการร้ายหรอก มีแต่ผู้ประท้วงหัวรุนแรงเท่านั้นแหละ!!

ทำไมเธอไม่พูดให้หมดละว่าทำไมคนเมียนมาที่เขาไม่ยอมรับในอำนาจทหารแต่เขาเลือกจะอยู่ที่บ้าน ไม่ออกไปประท้วงหรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ประท้วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่เป็นแกนนำ ก็ไม่เสียชีวิต

ทำไมเธอไม่พูดล่ะว่าการที่ทหารบุกค้นบ้านพักหรือสถานที่ใดๆ ก็ดี เขาเรียกให้เปิดก่อน แต่ด้วยคนในบ้านไม่เปิดไม่ตอบ เขาถึงต้องใช้กำลังในการบุกเข้าไป

อย่าลืมสิว่าเขาเข้าตรวจค้นนะ จะรอให้พวกคุณทำลายหลักฐานก่อนก็คงไม่ใช่!!

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นตามภาพข่าวนั้น พวกคุณน่าจะรู้ดีนะ บ้านพม่าไม่ใช่หลังใหญ่ขนาดคนเคาะประตูหน้าห้องแล้วจะไม่ได้ยิน ถ้าคุณรีบเปิดประตู ความสูญเสียจากการใช้กระสุนปืนคงไม่เกิดขึ้น คงไม่ต้องบอกนะว่า เอย่า กำลังพูดถึงกรณีไหน? หลายๆ คนคงทราบดี

ถามว่าทำไมถึงรู้? เพราะการบุกค้นไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่บ้านหรือสำนักงานของคนเมียนมาเท่านั้น แม้แต่สำนักงานที่มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติเขาก็ค้น แต่ถ้าเราไม่ขัดขืน ทำตามที่เขาบอก เขาอยากดูอะไร เช็คอะไร เปิดให้เขาดู

คุณรู้ไหมฮันเลย์ ตำรวจและทหารที่เข้าตรวจค้น เขาพูดว่าอะไร เขาบอกว่า “ขอโทษนะครับที่ทำให้พวกคุณกลัว พวกผมทำไปตามหน้าที่ครับ”

ถามว่าคำพูดแบบนี้ทำไมมันไม่เคยปรากฎต่อหน้าสื่อละ เพราะพูดไปใครๆ ก็หาว่าโกหกไงละ เพราะคนพม่าเลือกจะเชื่อไปแล้ว

สุดท้ายในเมื่อคุณเลือกที่จะ ‘หาแสง’ คุณอย่ามาอ้างว่าคุณกลับประเทศคุณไม่ได้ คุณสามารถดำเนินการกลับประเทศคุณได้นะ โดยติดต่อสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ไม่ต้องทำอะไรเลยจ้า แค่ยื่นพาสปอร์ต ลงชื่อไว้ เดี๋ยวเดือนหน้ามี Relieve Flight ทางสายการบินก็ติดต่อคุณเพื่อซื้อตั๋วก็แค่นั้น

แถมไม่ต้องมีการตรวจโควิดหรือทำเอกสาร Fit to Fly ก่อนบินด้วยนะไม่เหมือนคนต่างชาติ…อ้อ ได้ข่าวว่าต้นเดือนเมษายนนี้นี่ มีไฟลท์ คุณก็กลับได้แล้ว อย่าใช้คำอ้างว่าอันตรายแล้วตีเนียนขอลี้ภัยใช้ประเทศไทยเพื่อมาสร้างปัญหาในประเทศเมียนมา

ส่วนคนไทยในคลิปที่อ้างว่านางกลับไปเมียนมาไม่ได้นั้น ไม่ใช่นะจ๊ะ คนเมียนมาไม่มีเงิน เดินทางโดยเครื่องบินไม่ได้หรอก การที่นางมาได้ นางต้องประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับตอนกลับไว้แล้ว สิ่งที่นางได้กระทำบนเวทีมิสแกรนด์นั้น นางก็แค่เป็นเหมือนดาราจำนวนหนึ่งที่ไม่เอาด้วยกับการรัฐประหารครั้งนี้

อย่ามาหากินกับวิกฤตบ้านเมืองตัวเอง ถ้าอยากออกตัวแรงวิ่งหาแสง ก็ควรจะรับผิดชอบโดยไปร่วมชุมนุมกับผู้เรียกร้องของเธอนะ อย่ามาเสวยสุขกินหรูอยู่สบายในไทย แล้วปล่อยให้พี่น้องที่เธอบอกว่าทหารกำลังฆ่าพวกขาตายนั้นถูกฆ่าไป โดยอ้างว่ากลับไปไม่ได้

เลือกจะพูดแล้วก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูดนะคะ เอย่าหวังว่าทางการไทยคงไม่ปล่อยให้นางเป็นคนที่จะสร้างปัญหาในประเทศไทยนะคะ ทุกวันนี้ลำพังปัญหาคนกลุ่มนี้ในประเทศไทยก็มากมายเหลือคนานับแล้ว เป็นเอย่าจะรีบส่งกลับประเทศเมียนมาให้ไวเลยค่ะ

.

ที่มา: AYA IRRAWADEE


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

"สิระ" ซัด "อมรัตน์" หยุดสะตอ ชี้! เลือกปฏิบัติ ย้อน! เคยไปดูตำรวจที่บาดเจ็บบ้างหรือไม่ แนะ ปชช.จำหน้าคนผลาญภาษีให้ดี ครั้งหน้าอย่ากาผิดอีก

วันที่ 29 มีนาคม 2564 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่ายาเสพติดที่อ้างว่าตรวจค้นเจอในหมู่บ้านทะลุฟ้า ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริง รวมไปถึงเซ็กส์ทอย ถุงยางอนามัย เป็นของกลุ่มหลากหลายทางเพศที่นำเข้าไปจัดกิจกรรมนิทรรศการนั้น นางอมรัตน์ต้องหยุดสะตอ...ก่อน หยุดเอานิสัยตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานชี้ว่าคนอื่นเขาจะต้องทำเหมือนตัวเองคิด แต่ละครั้งที่ออกมาแพล่ม ลักษณะเหมือนคนอ่านนิยายเยอะ มโนภาพ จินตนาการเก่ง น่าจะเหมาะกับอาชีพนักแต่งเรื่องมากกว่า ส.ส.

นายสิระ กล่าวต่อว่า นางอมรัตน์น่าจะเบอร์ต้นๆ ของพรรคก้าวไกลที่เที่ยวตระเวนไปประกันตัวพวกอันธพาลป่วนเมือง ก่อม็อบทำผิดกฎหมายทุกครั้ง แต่กลับไม่เคยเห็นนางอมรัตน์พูดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่ในการชุมนุมแม้แต่ครั้งเดียว ทั้ง ๆ ที่ 2 ฝ่ายก็คือสถานะคนไทยทั้งคู่ ทำไมถึงเลือกปฎิบัติ นี่หรือคือความคิดของคนที่เข้ามาเป็นตัวแทนประชาชน ตนขอฝากไปถึงประชาชนที่เคยลงคะแนนเลือกพรรคการเมืองนี้เข้ามา ผ่านมา 2 ปี ส.ส.แต่ละคนของพรรคทำประโยชน์อะไรให้พวกท่านบ้างหรือไม่ จำหน้าคนพวกนี้ที่เข้ามาผลาญภาษีประชาชนให้ดี การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้ไม่กาผิดพลาด

นายสิระ กล่าวต่อว่า การชุมนุมในวันนี้มีการพัฒนาขึ้นอีกระดับหนึ่ง ช่วงแรกยังเจอแค่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ แต่เมื่อวานนี้หมู่บ้านทะลุฟ้าพบทั้งถุงยางใช้แล้ว เซ็กซ์ทอย ยาเสพติด ทำให้ปฎิเสธไม่ได้ว่า ผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมมั่วเซ็กส์ มั่วยา ออกมาชุมนุมเพราะต้องการมีแหล่งมั่วสุม ตนก็ขอเตือนให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานของท่านด้วย นอกจากเรื่องการติดคุก ติดตารางจนหมดอนาคตแล้ว วันนี้สิ่งที่ต้องระวังคือเยาวชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์กำลังจะตกเป็นเหยื่อทางเพศและยาเสพติด หลอกใช้ให้กระทำผิดกฎหมาย

รัฐบาลอังกฤษ นำโดยนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ได้ออกกฎใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ทั่วเกาะอังกฤษ ให้สถานที่ราชการทุกแห่งในอังกฤษ เวลส์ และ สก็อตแลนด์ ต้องเชิญธงชาติอังกฤษทุกวัน เพื่อปลุกจิตสำนึกความภาคภูมิใจในความเป็นชาวอังกฤษ

โดยปกติธงชาติอังกฤษจะมีการเชิญสู่ยอดเสาในสถานที่ราชการเฉพาะช่วงวันสำคัญเท่านั้น อาทิ วันเฉลิมพระชนม์พรรษา สมเด็จพระราชินีนาถอลิซเบธที่ 2 ซึ่งในแต่ละปีจะมีพิธีเชิญธงประมาณ 20 วัน

แต่หลังจากที่อังกฤษได้ Brexit ออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปโดยสมบูรณ์แล้ว จึงต้องการที่จะปลุกจิตสำนึกความภาคภูมิใจในชาติอังกฤษให้คืนกลับมา โดยทางกระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอให้เชิญธงชาติอังกฤษเป็นประจำทุกวันนับจากนี้ เพื่อให้ธง Union Jack เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติ

ขณะเดียวกันหากบางสถานที่ราชการมีเสาเชิญธง 2 เสา ที่บางโอกาสต้องเชิญธงสัญลักษณ์มากกว่า 1 ผืน ก็ต้องให้ธงอังกฤษอยู่สูงกว่าธงชาติอื่นเสมอด้วย

สำหรับธง Union Jack ของอังกฤษ เริ่มใช้ครั้งแรกในปี 1606 ในสมัยพระเจ้าเจมส์ ที่ 1 ซึ่งตรงกับสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถของไทย ที่ออกแบบโดยการรวมเอาธงชาติอังกฤษ, สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ ไว้ด้วยกัน และใช้เป็นธงชาติของสหราชอาณาจักรมาจนถึงทุกวันนี้

ส่วนเรื่องระเบียบพิธีการเชิญธงอังกฤษเคยมีการถกเถียงกันในสภาอังกฤษมาก่อนในช่วงปี 2008 โดยนายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ แห่งพรรคแรงงาน ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐแต่ละแห่งตัดสินใจกันเองว่าช่วงเวลาไหน วันไหน ที่จะเชิญธงชาติขึ้นที่หน้าสำนักงาน โดยไม่จำเป็นต้องมีระเบียบข้อบังคับ

แต่พอมาถึงสมัยของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน จากพรรคอนุรักษ์ ผู้เป็นแกนนำในการพาอังกฤษออกจากสมาชิกภาพ EU ได้สำเร็จ ต้องการดึงความรู้สึกรัก และความภาคภูมิใจในชาติผ่านสัญลักษณ์ธงชาติ ที่ควรมีการเชิญขึ้นสู่ยอดเสาในสถานที่ราชการทุกแห่งเป็นประจำทุกวัน ทั้งอังกฤษ เวลส์ และ สก็อตแลนด์ ที่ยังมีประเด็นการเคลื่อนไหวเพื่อแยกประเทศออกจากสหราชอาณาจักร

แต่ระเบียบข้อบังคับนี้ ยังไม่ครอบคลุมถึงฝั่งไอร์แลนด์เหนือ ที่ยังคงให้สิทธิ์แก่รัฐบาลท้องถิ่นในการตัดสินใจเรื่องระเบียบการใช้ธงชาติเอง

อย่างไรก็ตาม ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทางผู้แทนฝ่ายพรรคชาติสก็อต หรือ SNP ที่แสดงความไม่เห็นด้วยเรื่องกฏระเบียบการเชิญธงชาตินี้ อย่างเผ็ดร้อนว่า “รัฐบาลพรรคอนุรักษ์น่าจะเน้นเรื่องการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนมากกว่าจะมาวุ่นวายเรื่องการเชิญธงชาติ และต่อให้มีธง Union Jack ติดให้เห็นทุกเสาไฟฟ้า ก็ไม่ได้ช่วยให้กระแสการต้องการแยกประเทศของชาวสก็อตแลนด์ลดน้อยลงแต่อย่างใด และชาวเวลส์ก็น่าจะรู้สึกเช่นเดียวกัน”

ถึงกระนั้นฟากรัฐบาลอังกฤษ ก็ยังคงมั่นใจในนโยบายเรื่องธงชาติ เพราะเชื่อว่าชาวอังกฤษเป็นจำนวนมากโหยหาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และธง Union Jack ก็มีประวัติศาสตร์อันยานนาน ผ่านร้อน ผ่านหนาวคู่กับชาวอังกฤษมาหลายยุคสมัย ที่ทำให้ชาวอังกฤษได้ระลึกถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศ

ก็คงต้องมาดูว่าชาวอังกฤษส่วนใหญ่จะคิดเช่นเดียวกับรัฐบาลหรือไม่ เมื่อเห็นธงชาติโบกสะบัดไหว บนยอดเสาในทุกๆ วันนับจากนี้

.

อ้างอิง

https://www.bbc.com/news/uk-politics-56514501

https://www.theguardian.com/politics/2021/mar/24/government-buildings-to-fly-union-jack-every-day-under-new-rules

https://www.euronews.com/2021/03/24/union-jack-flag-must-be-flown-on-all-government-buildings-uk-decrees


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

ผู้ปกครองแห่แจ้งความเอาผิดผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ภายหลังชักปืนข่มขู่จ่อหัวนักเรียน ขณะที่เจ้าตัวอ้างไม่ใช่ปืนจริงเป็นแค่ปืนยิงนก

ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี รวมตัวกันกว่า 20 คน เดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ภายหลังมีนักเรียนชั้น ป.4 และ ป.5 รวม 4 คน ระบุว่าถูกผู้อำนวยการโรงเรียนใช้ปืนจ่อหัว ขณะนั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

การเจรจาครั้งนี้มี นายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองโดน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหนองโดน เป็นคนกลางเข้าเจรจา ระหว่างผู้อำนวยการโรงเรียนและกลุ่มผู้ปกครอง

แต่ก็ยังไม่ได้รับการชี้แจงจากทางผู้อำนวยการโรงเรียนแต่อย่างใด ทำให้หลายคนไม่พอใจ โดยเฉพาะผู้ปกครองของนักเรียน 3 คนที่ถูกกระทำ จึงชักชวนกันไปแจ้งความที่ สภ.หนองโดน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกเหนือจากร้องเรียนเอาผิดทางวินัย

จากการสอบถามนักเรียนที่ถูกกระทำดังกล่าว ต่างก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด หรือมีความขัดแย้งกับผู้อำนวยการโรงเรียนแต่อย่างใด และไม่รู้ถึงสาเหตุที่ผู้อำนวยการโรงเรียนใช้ปืนจ่อหัวในครั้งนี้

ส่วนความคืบหน้าล่าสุด ต้นสังกัดของโรงเรียนที่เกิดเหตุ คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สระบุรีเขต 1 ได้ มีคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้ย้ายออกจากพื้นที่แล้ว โดยให้ไปทำหน้าที่ที่สำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สระบุรี มีผลตั้งแต่วันนี้หรือวันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นไป จนกว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น

.

ที่มา: https://www.bugaboo.tv/news/548391?fbclid=IwAR1cGIbI0-SIKz6FISghs3B6SemTNQPS268Mw-XvcF42993bsX5K_D3bzX0


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

เสื้อคลุมดาบพิฆาตอสูร ถูกแบน! ใส่ไปโรงเรียนถึงขนาดโดนยึด!? | News​ มีนิสส​ More​ Minutes Contrast

ดราม่าเสื้อคลุมดาบพิฆาตอสูร เมื่อเสื้อคลุมไม่เกี่ยวกับการเรียนแล้วทำไม โรงเรียนถึงต้องยึด?

.

.


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

สาธารณสุขแถลงผลสอบเบื้องตัน ยืนยัน!! ชายเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดในท้องโป่งพองแตก ไม่เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 แต่เกิดจากโรคประจำตัวเส้นเลือดโป่งพอง

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีการเสียชีวิต ของผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตก ภายหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 แต่น่าจะเป็นเหตุร่วมหรือเหตุบังเอิญ

“มีผู้ได้รับผลข้างเคียงรุนแรง 2 รายที่แพ้วัคซีนโควิด-19 ในลักษณะลมพิษขึ้น ส่วนอีก 1 ราย กำลังนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีน คือกรณีมีผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตกและเสียชีวิตหลังรับวัคซีน แต่คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวัคซีน เนื่องจากว่าผู้ป่วยรายนี้ป่วยโรคเส้นเลือดโป่งพองในท้องอยู่ระหว่างรับการรักษา ซึ่งโรคนี้มีโอกาสที่เส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา ซึ่งเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนดังนั้นตามหลักแล้วเมื่อมีอะไรที่เกิดขึ้นระหว่างการรับวัคซีนก็ต้องนำเข้าคณะกรรมการเพื่อสอบสวนต่อไป”

ด้าน รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า มีข้อมูลจากการสอบสวนโรค เบื้องต้นเป็นผู้ป่วยชายมีโรคประจำตัวอยู่เดิมเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ซึ่งได้มีการผ่าตัดในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ปลายเดือนมกราคมหลังจากผ่าตัด 40 วัน กลับบ้านไปพักฟื้นที่บ้าน 1 สัปดาห์อาการปกติ

โดยผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัว แต่เห็นว่าตัวเองมีความเสี่ยงจึงเข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อต้นเดือนมีนาคม หลังจากนั้นอาการปกติ มีการส่งข้อมูลเข้าระบบตามปกติ ข้อมูลรายงานวันที่ 1-3 มีนาคมอาการปกติ โดยวันที่ 7 มี.ค. ทางผู้ติดตามไม่สามารถติดต่อได้ ปรากฏว่าวันถัดไปวันที่ 8 - 9 ของการฉีดวัคซีน มีอาการแน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ เป็นลมจึงเข้าแอดมิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นคนไข้มีอาการทรุดลงและวันที่ 13 มีนาคม ก็เสียชีวิต

แพทย์สรุปว่าผู้ป่วยรายนี้ น่าจะเสียชีวิตเสียชีวิตจากหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง มีอาการแตกหรือรั่วซึมเป็นโรคเก่าของผู้ป่วย แต่รายนี้บังเอิญไปฉีดวัคซีนโควิดไปเมื่อ 10 วันที่แล้ว ซึ่งเบื้องต้นทางทีมแพทย์คณะผู้เชี่ยวชาญสรุปไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน และวัคซีนไม่ได้เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต

.

ที่มา: https://www.posttoday.com/social/general/648909


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

“ครูกัลยา” ห่วงนักเรียนถูกราดซีม่า สั่งเร่งสอบข้อเท็จจริง เตรียมส่งคณะทำงานลงพื้นที่เยี่ยมเด็กพร้อมให้กำลังใจครอบครัว

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อมูลปรากฏเป็นข่าวกรณีที่นักเรียนพี่เลี้ยงชั้น ป.5 และชั้น ม.4 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เขาพนม จังหวัดกระบี่ ได้ใช้ยาซีม่าราดตามตัวเด็กชายภูผา บุตรชายนางจินตนา มาชะอุ้ม วัย 9 ขวบ ชั้น ป.2 ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยผิวหนังเกิดรอยไหม้ และมารดาของเด็กได้มารับตัวไปรักษาตัวที่ รพ.เขาพนม ในวันที่ 23 มีนาคม 2564 หลังจากเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับทราบเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้แสดงความห่วงใยมายังเด็กชายภูผาและครอบครัว และสั่งให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย และรายงานผลการสอบสวนมายังหน่วยงานต้นสังกัดโดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปยังจังหวัดกระบี่ เพื่อไปเยี่ยมนักเรียนคนดังกล่าวพร้อมให้กำลังใจกับครอบครัวที่ประสบเหตุ

นางดรุณวรรณ กล่าวต่อว่าตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับนายศักดิ์ชัย สุวรรณคต ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 เพื่อสอบถามเบื้องต้นถึงเหตุการณ์ดังกล่าวทราบว่าโรงเรียนอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และจะมีบทลงโทษไปตามกฎระเบียบของโรงเรียนต่อไป ทั้งนี้คุณหญิงกัลยาได้กำชับให้โรงเรียนทุกโรงเรียนเพิ่มมาตรการในการดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความรัดกุมในการตรวจตรา ตรวจสอบ โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีลักษณะเป็นโรงเรียนกินอยู่ประจำที่มีนักเรียนพักค้างในโรงเรียนอยู่ร่วมกันทุกชั้นปี ที่สำคัญคือต้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก 

“ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง ขอส่งกำลังใจให้น้องภูผาและครอบครัวและขอให้น้องหายป่วยโดยเร็ว และอยากเรียนทุกท่านให้ทราบว่าคุณหญิงกัลยา ในฐานะที่กำกับดูแลโรงเรียนราชประชานุเคราะห์มีความห่วงใยในปัญหาที่เกิดขึ้น และกำชับผู้เกี่ยวข้องให้เร่งสอบสวนข้อเท็จจริง โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงต้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นอีกในสถานศึกษาทุกแห่งภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้หากผลการสอบข้อเท็จจริงพบว่าคุณครู หรือนักเรียนพี่เลี้ยงมีข้อบกพร่องหรือมีความผิดพลาดในการดูแล ก็ให้โรงเรียนใช้มาตรการในการตักเตือนหรือลงโทษตามระเบียบ ข้อบังคับของทางโรงเรียนหรือทางราชการต่อไป ส่วนในกรณีของคดีความหากผู้ปกครองต้องการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องก็ถือเป็นสิทธิ และสามารถดำเนินการได้ภายใต้กระบวนการทางกฎหมาย” นางดรุณวรรณ กล่าว

มิงกาลาบาชีน สวัสดีค่ะ วันนี้ เอย่า ขอนำเสนอเรื่องราวนอกประเทศเมียนมาหน่อยนะคะ เพราะเมื่อเช้าเห็นข่าวพาดหัวตัวแรงว่า Facebook ได้ทำการแบนเพจของ 'Brian Berletic'

เขาคือใครนั่นหรือคะ ? เขาก็คือ Blogger ในช่อง Land Destroyer ที่ทำคลิปออกมาทั้งแฉเบื้องหลังม็อบทำลายสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทย รวมถึงคลิปที่ชำแหละว่าเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือของอเมริกาในก่อความวุ่นวายในประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่อาหรับสปริงมาจนถึงสถานการณ์ในเมียนมานั่นเอง

หลังจากที่เอย่าไปดูช่อง Land Destroyer แล้วเห็นได้ว่าไบรอันมีคลิปเยอะมาก และหลาย ๆ คลิปเป็นการแหกเบื้องลึก เบื้องหลังว่าตัวการใหญ่ในประเทศหลาย ๆ ประเทศนั้นมีสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ไบรอัน เป็นคนที่พยายามแสดงให้เห็นถึงเบื้องหลังความวุ่นวายในประเทศไทยที่มาจากม็อบก็ดี รวมถึงคลิปอีกหลาย ๆ คลิปที่มีการแฉว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วุ่นวายในหลาย ๆ ประเทศและเมียนมาก็เป็นหนึ่งในนั้น

ย้อนกลับไปเมื่อสักเดือนที่แล้วไบรอันมีการลงคลิปในช่องของเขาพูดถึง Facebook เป็นเครื่องมือในการเป็นเครื่องมือของฝ่ายที่ทางอเมริกาหนุนหลังอยู่ โดยปิดกั้นการเข้าถึงของอีกฝ่าย (ดูได้จาก : https://youtu.be/d0telN24-kM)

.

.

รวมถึงการเปิดโปงเรื่ององค์กรโอเพ่นโซไซตี้ของ จอร์จ โซรอส โดยชำแหละให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจอร์จ โซรอสคือใคร

นอกจากนี้ยังฉีกหน้ารอยเตอร์ว่า เป็นสื่อสนับสนุนให้สหรัฐฯ กระทำผิดในต่างประเทศด้วย หากใครสนใจลองดูจากลิงค์นี้ได้ ซึ่งลิงค์นี้มีการบอกอย่างชัดเจนว่าทำไมกองทัพเมียนมาจึงจัดการอย่างเด็ดขาดกับ Mizzima Media รวมถึงการสมคบคิดครั้งใหญ่เพื่อบ่อนทำลายรัสเซียของรอยเตอร์และบีบีซี : 

.

.

ถึงจุดนี้ เรามาดูกันหน่อยว่าชายคนนี้เป็นใครกันแน่...

ไบรอัน เป็นอดีตนาวิกโยธินของสหรัฐอเมริกา ประจำการอยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่หลายปี และในขณะที่เขาประจำการอยู่นั้น เขาได้มาซ้อมรบกับกองทัพไทยทุกปีในชื่อการฝึก Cobra Gold ทำให้เขาได้มีโอกาสได้สัมผัสกับความเป็นไทยและเริ่มสร้าง Blog ขึ้นในชื่อ Anthony Cartalucci และปิดบังหน้าตา

แต่ไม่นานมานี้เมื่อเขาได้เริ่มทำช่อง Land Destroyer เขาได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงและทำการเปิดโปงม็อบต่าง ๆ ที่มีนัยยะว่าใครอยู่เบื้องหลังม็อบเหล่านั้น จนล่าสุดเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนได้ทราบข่าวว่า ไบรอันได้เข้าร่วมทีมกับทางสถาบันทิศทางไทยก่อนที่จะถูก Facebook แบนในวันนี้

เอย่าขอกล่าวสั้น ๆ ว่าการกระทำของ Facebook ในครั้งนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งต่างๆที่ไบรอันได้นำเสนอออกมานั้น มีมูลความเป็นจริง

ใครจะไปรู้ว่าภายใต้หน้ากากของกัปตันอเมริกานั้น อาจจะเป็นผู้นำขององค์กรไฮดราอย่างไอ้กระโหลกแดงก็เป็นได้

.

ที่มา: AYA IRRAWADEE


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

สธ.เผยมีผู้เสียชีวิตจากเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตก หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 เร่งสอบข้อเท็จจริง แต่คาดไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะป่วยโรคนี้อยู่ก่อนแล้ว มีโอกาสเส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการให้วัคซีนป้องกัน โควิด-19 กล่าวถึงกรณี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีไข้หลังรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้องเข้าโรงพยาบาล 4 วัน ว่าตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย

แต่ที่ผ่านมาตามระบบการรายงานติดตามอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีนยังไม่พบว่ามีเคสที่มีอาการข้างเคียงรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนรายงานอาการข้างเคียงส่วนใหญ่ที่พบเป็นอาการไม่มาก เช่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด และอาการมีไข้หลังการรับวัคซีน ก็เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่ประมาณ 1 วันหรือ 2 วันก็หายแล้ว

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ส่วนผลข้างเคียงรุนแรงที่พบ มี 2 ราย แพ้วัคซีนในลักษณะลมพิษขึ้น ส่วนอีก 1 ราย ที่กำลังนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีน คือ กรณีมีผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพอง แตกและเสียชีวิตหลังรับวัคซีน แต่คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวัคซีน

เนื่องจากว่าผู้ป่วยรายนี้ป่วยโรคเส้นเลือดโป่งพองในท้อง อยู่ระหว่างรับการรักษาอยู่แล้ว ซึ่งโรคนี้มีโอกาสที่เส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา ซึ่งก็เกิดขึ้นหลังรับวัคซีน ดังนั้น ตามหลักแล้วเมื่อมีอะไรที่เกิดขึ้นระหว่างการรับวัคซีนก็ต้องนำเข้าคณะกรรมการเพื่อสอบสวนต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดของผู้เสียชีวิต นพ.โสภณกล่าวว่า ขอให้สอบถามไปยังกรมควบคุมโรค เบื้องต้นคาดว่าอายุน่าจะไม่ถึง 60 ปี

.

ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000028891


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

อัยการจับตา “เสก โลโซ” ขออนุญาตฎีกา หากศาลรับมีเวลา 15 วันยื่นค้านหรือไม่

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงาน อัยการสูงสุด กล่าวถึงคดี ที่ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกานายเสกสรรหรือเสกโลโซ ศุขพิมาย ในคดีอาวุธปืนกับขัดขวางเจ้าพนักงาน เเต่อนุญาตปล่อยชั่วคราว  ตาม พรบ. วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 ว่าเท่าที่อ่าน รายละเอียดคำชี้แจงจากเอกสารของศาลอาญามีนบุรีพอจะสรุปได้ว่าในคดีนี้มีการกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม พรบ.อาวุธปืนและขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา อีกส่วนนึงคือคดีเสพยาเสพติดซึ่งเป็นไปตาม พรบ. วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 

ซึ่งในคดีอาวุธปืนและคดีขัดขวางการจับกุมสิ้นสุดตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไปแล้ว แต่ในคดียาเสพติดหรือเสพยาไอซ์ ตามกฎหมายบัญญัติไว้ว่าหากศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกายังสามารถยื่นฎีกาได้ตามกฎหมาย ส่วนศาลฎีกาจะมีคำสั่งอย่างไรเป็นดุลพินิจปกติแล้วคดียาเสพติดจะจบเสร็จสิ้นในชั้นศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะคดีเสพยาไอซ์ที่ศาลพิพากษาลงโทษเพียงจำคุกเพียงแค่ 6 เดือนซึ่งถือว่าเป็นโทษสถานเบาอย่างไรก็ตามศาลตามกฏหมายมิได้กำหนดว่าศาลฎีกาจะต้องมีคำสั่งภายในระยะเวลาเท่าใด

เมื่อถามว่าทำไมเสก โลโซถึงไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีขัดขวางการจับกลุ่มเจ้าพนักงานและคดีอาวุธปืน โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีเดียวกันแต่ถูกฟ้องเป็น 3 ข้อหาคือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดตามกฎหมายยาเสพติด 

เมื่อถามว่าถ้าหาก เสกโลโซ ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาในคดียาเสพติดแล้วทางอัยการจะยื่นคำร้องคัดค้านหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่รู้ว่าเสกจะยื่นฎีกาเมื่อไหร่และศาลฎีกาจะมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่เท่ากับว่าตอนนี้เป็นเรื่องของเสกกับศาลฎีกายังไม่เกี่ยวกับอัยการแต่ถ้าหากศาลฎีกามีคำสั่งรับฎีกาไว้พิจารณาก็จะแจ้งมาทางอัยการซึ่งอัยการมีเวลา 15 วันที่จะพิจารณาว่าจะยื่นคัดค้านคำร้องของเสกหรือไม่

ดราม่าวันนี้ ยืนหนึ่งในดงฝ้าย เมื่อ H&M บริษัทแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลกจากสวีเดน คึกดีหมีขั้นสุด ประกาศแบนผลิตภัณฑ์ฝ้ายที่ผลิตในมณฑลซินเจียง เพราะมีข่าวเรื่องการกดขี่แรงงานชาวมุสลิม อุยกูร์ ที่ทำงานในไร่ฝ้ายของภูมิภาคนี้

การประกาศแบนฝ้ายของซินเจียง สืบเนื่องมาจากสหรัฐอเมริกา ที่จุดประเด็นการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ในอุตสาหกรรมการเกษตรในมณฑลซินเจียง และประกาศแบนฝ้าย และมะเขือเทศจากจีนที่เป็นผลผลิตจากมณฑลนี้ ตามติดมาด้วยการร่วมลงขันแบนชุดใหญ่ ของสหรัฐ อังกฤษ แคนาดา และบางประเทศในสหภาพยุโรป ร่วมกันแบนเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงของจีนที่รับผิดชอบในเขตซินเจียงถึง 13 คน รวมถึงสินค้าจากบริษัท Xinjiang Production and Construction Corps ที่เป็นบริษัทกึ่งรัฐ กึ่งกองทัพ ที่บุกเบิกพัฒนาส่งเสริมพื้นที่การเกษตรในแถบซินเจียง

และทาง H&M ก็รับลูกต่อ โดยการแบนผลิตผลใยฝ้ายจากซินเจียงเช่นเดียวกัน โดยอ้างประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ของชนกลุ่มน้อยชาวซินเจียง-อุยกูร์ และก็สร้างความไม่พอใจกับชาวเน็ตจีนอย่างมาก ที่ออกมารณรงค์ให้แบนสินค้า H&M ทั้งหมดที่ขายในจีน

เหตุผลหลักที่ชาวเน็ตจีนไม่พอใจ คือการเหมารวมว่าผลิตภัณฑ์ใยฝ้ายทั้งหมดมาจากการกดขี่แรงงานชาวอุยกูร์เพียงด้านเดียว ซึ่งพื้นที่เกษตรกร และไร่ฝ้ายมาจากหลายพื้นที่ในมณฑล

และการแบนฝ้ายจากซินเจียง ก็จะกระทบกับรายได้ของชาวซินเจียง ทั้งเกษตรกรรายใหญ่ และรายย่อยทั้งมณฑล ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานชาวอุยกูร์อย่างผิดกฎหมายอย่างที่กล่าวอ้าง นั่นจึงเป็นเหตุให้เกิดแคมเปญบอยคอตสินค้า H&M ในจีน

และก็ไม่ใช่แค่การแสดงพลังแค่ในโลกออนไลน์เท่านั้น แต่มีผลกับแบรนด์สินค้าในตลาดทันทีเมื่อชาวจีนเริ่มตอบรับกระแสบอยคอตนี้ ซึ่งล่าสุดมีการถอดสินค้า H&M ในช่องทางออนไลน์ Alibaba และ Taobao แล้ว

สมาร์ทโฟนยี่ห้อดังของจีนทั้ง Huawei Xiaomi และ Vivo ได้ถอดแอปพลิเคชันของร้าน H&M ออก จากการให้บริการทันที ส่วนเว็บ Seach Engine รายใหญ่ของจีนทั้ง Baidu และ Dianping ถอดชื่อร้าน H&M ออกจากบริการค้นหาร้านในระบบแผนที่ของแอพ

นอกจากนี้ หวง ซวน และ ซ่ง เฉียน นักแสดงชื่อดังของจีนที่เป็น แบรนด์ แอมบาสเดอร์ให้กับ H&M ในจีนได้ประกาศถอนตัวจากงานพรีเซ็นเตอร์แล้ว เพื่อเป็นการตอบโต้นโยบายของ H&M เช่นเดียวกัน

ธุรกิจของ H&M นั้นก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ในช่วงวิกฤติ Covid-19 ส่งผลที่ยอดรายได้โดยรวมตกลงถึง 88% ในปี 2020 ทีผ่านมา และยังมีข่าวการปิดร้าน H&M ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

มีเพียงตลาดจีนที่กิจการ H&M ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่อื่น และยังคงรักษายอดขายอยู่ได้ แต่จากกระแสการต่อต้านของชาวจีน ที่ลุกลามกลายเป็น Viral แล้วในขณะนี้ ย่อมส่งผลกับกิจการของ H&M ในจีน ที่เปรียบเหมือนหม้อข้าว หม้อใหญ่ที่ยังเหลืออยู่เพียงไม่กี่ใบแล้วในขณะนี้

.

อ้างอิง

https://www.globaltimes.cn/page/202103/1219362.shtml

https://www.aljazeera.com/economy/2021/3/24/chinanetusers-call-for-hm-boycott-after-ban-of-xinjiang-cotton

https://supchina.com/2021/03/24/hm-faces-boycott-in-china-over-year-old-xinjiang-cotton-ban/


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

สวีเดน มั่นใจศักยภาพด้านอวกาศไทย ปักหมุดให้ไทยเป็น HUB อุตสาหกรรมอวกาศเอเชียแปซิฟิก พร้อมผลักดันให้ไทยเข้าสู่ Global value chain ด้านอวกาศอย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 ณ อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ หรือ (Space Krenovation Park : SKP) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Jon Åström Gröndahl, Swedish Ambassador to Thailand) และผู้บริหารบริษัท SSC Space Thailand พร้อมคณะเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) GISTDA หรือ สทอภ. พร้อมหารือเรื่องความร่วมมือด้านอวกาศ

โดยมี นายทรงศัก สายเชื้อ ที่ปรึกษาสทอภ. นายตติยะ ชื่นตระกูล รองผู้อำนวยการสทอภ. และ ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวด ปฏิบัติงานรองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ GISTDA พร้อมคณะให้การต้อนรับ Space Krenovation Park : SKP เป็นส่วนหนึ่งของเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม และนวัตกรรมดิจิทัล หรือ EECd ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนประเภทวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ผู้ประกอบการในประเทศ และต่างชาติจะมีโอกาสในการได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ภายในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการทางด้านอวกาศ

ซึ่งในพื้นที่ SKP มีการดำเนินโครงการลงทุนสถานีดาวเทียมร่วมกับบริษัท SSC ถือเป็นโครงการครั้งแรกในการลงทุนด้านธุรกิจอวกาศของบริษัทต่างประเทศในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของรัฐบาลสวีเดน และบริษัท SSC ต่อนโยบาย และศักยภาพด้านอวกาศของไทยในพื้นที่ EEC เพื่อหวังจะให้พื้นที่ EEC เป็นฐานสำคัญในการขยายธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูงในด้านอุตสาหกรรม และบริการที่เกี่ยวกับอวกาศ พร้อมทั้งสร้างให้เป็นจุดศูนย์รวมในการเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมอวกาศในภูมิภาค และยังช่วยผลักดันให้ไทยเข้าสู่ Global value chain ด้านอวกาศอย่างเป็นรูปธรรม

ประเทศสวีเดนเป็นผู้ริเริ่มโครงการเพื่อความยั่งยืนโดยให้ SSC ในฐานะผู้นำในด้านนี้ได้ก่อตั้ง Global Trust ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้ SSC ที่ใช้ประโยชน์ของดาวเทียมเพื่อชี้นำองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกในการพัฒนา และนำเสนอกลยุทธ์ในการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาแบบยั่งยืน

SSC ยังร่วมมือ USN เป็นบริษัทในด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมอวกาศให้บริการสถานีภาคพื้นดินเชิงพาณิชย์แห่งแรกในระดับโลก และมีประสบการณ์ในการสร้างดาวเทียมรวมถึง Payload ของดาวเทียม นอกจากนี้ยังได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับภารกิจบอลลูน และจรวด รวมถึงโครงการอวกาศอื่น ๆ เช่นเดียวกับภารกิจ ISS หรือภารกิจ Moon Mission ด้วยการสร้างดาวเทียมขนาดเล็กดวงแรกที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเพื่อไปยังวงโคจรของดวงจันทร์ หรือ Smart-1 อีกทั้งมองเห็นการจัดทำ Spaceport (ท่าอวกาศยาน) ขึ้นที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคต ได้มองเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี และนวัตกรรมอวกาศมีความก้าวหน้าไม่มีที่สิ้นสุด

จากความร่วมมือกับ GISTDA เริ่มขึ้นเมื่อปี 2558 ซึ่งบริษัท SSC ได้ใช้สถานีดาวเทียมในประเทศสวีเดนเพื่อให้บริการติดตามยืนยันตำแหน่งของดาวเทียมค้างฟ้าที่อยู่ในห้วงอวกาศในภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิกรวมถึงการให้บริการปรับแก้ข้อมูลเชิงตำแหน่งให้กับดาวเทียมนำทางของญี่ปุ่น (QZSS) จนมาถึงปัจจุบัน ด้วยศักยภาพด้านอวกาศของไทยมีความเหมาะสมทั้งในด้านทำเลที่ตั้ง บุคลากร ตลอดจนการสนับสนุนจากทางรัฐบาลทำให้ทางรัฐบาลประเทศสวีเดน และบริษัท SSC ลงทุนตั้งสถานีรับส่งสัญญาณดาวเทียมขนาดใหญ่ในพื้นที่ประเทศไทย โดยมี GISTDA ให้เป็น Strategic Partner และได้กำหนดให้ประเทศไทยเป็น Hub ในพื้นที่อาเซียนจึงได้จัดตั้ง SSC Space Thailand เพื่อนำประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญทั้งหมดมาช่วยสร้างระบบนิเวศอวกาศของไทย โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความร่วมมือกับหน่วยงาน และบริษัทของไทยในการพัฒนาโครงการอวกาศ และอุตสาหกรรมอวกาศในประเทศไทย และอาเซียนต่อไป

.

ที่มา : https://www.facebook.com/109141292809477/posts/1649307845459473/?d=n


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

รัฐบาล ปลื้ม หลังประเทศไทย ถูกปรับลดอันดับ ประเทศที่มีขยะพลาสติกในทะเลสูงสุดในโลกจากอันดับ 6 เป็น อันดับที่ 10 ได้สำเร็จ พร้อมเดินหน้า 9 มาตรการ แก้ปัญหาขยะต่อ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งเดินหน้าแก้ปัญหาขยะพลาสติกในทะเลอย่างจริงจัง ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ โดยให้สอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจ BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green: BCG Model) ที่รัฐบาลกำหนดเป็นโมเดลเศรษฐกิจในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและเป็นวาระแห่งชาติ

น.ส.รัชดา กล่าวว่า "รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาขยะพลาสติกในทะเลอย่างจริงจัง โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการด้านต่างๆ อาทิ การจัดทำ โร้ดแม็ปการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 - 2573 โดยตั้งเป้าเลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม พลาสติกผสมสารอ็อกโซ่ และไมโครบีดส์ ภายในปี 2562"

น.ส.รัชดา กล่าวว่า "เลิกใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ที่มีความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมใส่อาหาร หลอดและแก้วพลาสติกชนิดบางแบบใช้ครั้งเดียว ภายในปี 2565 รวมถึงการนำขยะพลาสติกเป้าหมาย กลับมาใช้ใหม่ ร้อยละ 100 ภายในปี 2570 เป็นต้น จนทำให้ประเทศไทยสามารถปรับลดอันดับประเทศที่มีขยะพลาสติกในทะเลสูงสุดในโลกจากอันดับ 6 เป็น อันดับที่ 10 ได้สำเร็จ โดยลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกได้กว่า 25,284 ล้านใบ หรือ 228,820 ตัน"

น.ส.รัชดา กล่าวว่า "รัฐบาลโดยกระทรวงที่เกี่ยวข้องยังจะนำข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินในการแก้ปัญหาขยะพลาสติกในทะเล ทั้ง 9 ข้อ มาพิจารณาดำเนินการเพื่อการจัดการขยะในภาพรวมของประเทศที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วย ประกอบด้วย

1.) ให้มีการนำระบบมัดจำค่าขวดพลาสติกมาใช้

2.) ให้มีการส่งเสริม สนับสนุนการออกแบบผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

3.) ให้มีการส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินธุรกิจ และการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

4.) ให้มีการออกกฎหมาย กำหนดให้ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบในการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ที่ตนผลิต

5.) ให้มีการออกกฎหมาย กำหนดให้ประชาชนในฐานะผู้ทำให้เกิดขยะ มีหน้าที่ในการคัดแยกขยะ

6.) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาการดำเนินงานในการเก็บ ขน และกำจัดขยะ ให้เป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทั่วถึงเขตพื้นที่รับผิดชอบของตนโดยเฉพาะทางน้ำ

7.) ให้มีการส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากขยะ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อชุมชนรอบข้าง

8.) ให้มีการจัดสรรงบประมาณ เพื่อจัดให้มีเรือเก็บขยะที่เพียงพอ สำหรับการปฏิบัติงานในจังหวัดชายฝั่งทะเล และส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีในการจัดเก็บขยะในน้ำ ทั้งในแม่น้ำ ลำคลอง และทะเล เพื่อให้เรือเก็บขยะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

9.) ให้หน่วยงานของรัฐ บูรณาการจัดการขยะพลาสติกกับองค์กรภาคเอกชน และประชาชน ตลอดจนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เรื่องสร้างจิตสำนึกในการลดใช้พลาสติก และการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี"


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

ศาลสูงสิงคโปร์พิพากษาให้บล็อกเกอร์รายหนึ่งชดใช้ค่าเสียหายแก่นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง เป็นเงิน 133,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเกือบ 3 ล้านบาท ในความผิดฐานหมิ่นประมาท จากการที่จำเลยได้แชร์บทความกล่าวหานายกฯ ลี

ผู้นำสิงคโปร์ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนาย เหลียง ซื่อ เฮียน (Liang Sze Hian) ที่ปรึกษาด้านการเงิน สืบเนื่องจากการที่นาย เหลียง ได้นำบทความจากเว็บไซต์ข่าว The Coverage ของมาเลเซียมาแชร์ลงเฟซบุ๊กเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2018 โดยที่บทความดังกล่าวมีการอ้างว่านายกฯ ลี พัวพันกับเครือข่ายฉ้อโกงเงินกองทุน วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB)

ทีมทนายของ ลี ระบุว่า บทความดังกล่าวเต็มไปด้วยข้อครหาที่ “ไม่ถูกต้องและไม่มีมูลความจริง” และยังกล่าวหา เหลียง ว่าจงใจแชร์โพสต์ดังกล่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงของผู้นำประเทศ ขณะที่ เหลียง ก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งหลังจากที่แชร์ไปได้เพียง 3 วัน

ผู้พิพากษา เอดิต อับดุลเลาะห์ ระบุในคำตัดสินว่า เหลียง “ไม่สามารถอ้างอย่างมีเหตุผลได้ว่า ถ้อยคำดูหมิ่นเหล่านั้นไม่เป็นการกล่าวหา นายกฯ ลี” เนื่องจากบทความดังกล่าวมีการระบุชัดเจนว่านายกฯ สิงคโปร์ “อย่างน้อยที่สุดก็เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอาญาร้ายแรง”

ผู้พิพากษาระบุด้วยว่า โพสต์ของ เหลียง ถูกตั้งค่าเป็นสาธารณะ และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึง 45 คน

เหลียง อ้างว่าเขา “แค่แชร์” บทความดังกล่าวโดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือปรับแก้เนื้อหาเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังปฏิเสธข้อครหาที่ว่าตนมีเจตนามุ่งร้ายต่อนายกฯ ลี

เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของ ลี แถลงว่า คำตัดสินดังกล่าวเป็นดุลยพินิจของศาล และนายกฯ ไม่มีอะไรจะกล่าวเพิ่มเติมอีก

ด้านนาย เหลียง ให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกโล่งใจที่คดีนี้มาถึงจุดจบเสียที แต่ก็ยอมรับว่าผิดหวังกับคำตัดสินของศาล และเตรียมที่จะขอคำปรึกษาทางด้านกฎหมาย รวมถึงรับฟังความเห็นจากชาวสิงคโปร์คนอื่น ๆ

ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่ประกาศนโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” กับการทุจริตคอร์รัปชัน ลี เซียนลุง วัย 69 ปี เคยใช้กลไกทางกฎหมายปกป้องชื่อเสียงของตนมาแล้วหลายครั้ง ในขณะที่บรรดาผู้นำอาวุโสของพรรคกิจประชาชน (PAP) ซึ่งรวมถึง ลี กวนยู บิดาของนายกฯ ลี ก็เคยฟ้องร้องเอาผิดกับสื่อต่างชาติ, ศัตรูทางการเมือง รวมถึงบุคคลที่โพสต์ข้อความดูหมิ่นทางออนไลน์มาแล้วด้วย

ที่มา: รอยเตอร์

https://mgronline.com/around/detail/9640000028254


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top