Wednesday, 14 May 2025
NEWS

ขสมก. จัดเดินรถ Shuttle Bus จำนวน 3 เส้นทาง ให้บริการฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เดินทางไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เริ่ม 7 มิ.ย.นี้

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงคมนาคม จะให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แก่ประชาชนทั่วไป ที่ได้ลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนฯ ผ่านค่ายโทรศัพท์มือถือ AIS, Dtac, True Move และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ (CENTRAL VACCINATION CENTER : CVC) ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ขสมก. จึงเตรียมจัดเดินรถ Shuttle Bus ให้บริการฟรี จำนวน 3 เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาเข้ารับการฉีดวัคซีนฯ เริ่มให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. หรือจนกว่าประชาชนจะออกจากพื้นที่หมดโดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.) เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สถานีกลางบางซื่อ ให้บริการด้วยรถโดยสารปรับอากาศยูโรทูจำนวน 12 คัน ความถี่ในการปล่อยรถ คันละ 5-10 นาที

-เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพหลโยธิน) ไปตามถนนพหลโยธิน เลี้ยวซ้ายไปตามถนนกำแพงเพชร เลี้ยวขวาไปตามถนนโรงปูน ผ่านศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สุดเส้นทางที่สถานีกลางบางซื่อ (ไม่จอดรับ-ส่งระหว่างทาง)

2.) เส้นทางท่าเรือบางโพ-สถานีกลางบางซื่อ ให้บริการด้วยรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู จำนวน 6 คัน ความถี่ในการปล่อยรถ คันละ 10 นาที

-เริ่มต้นจากท่าเรือบางโพ ไปตามถนนประชาราษฎร์ สาย 2 (จอดรับผู้ใช้บริการที่สถานี MRT เตาปูน) เลี้ยวขวาไปตามถนนเตชะวณิช เลี้ยวซ้ายไปตามถนนประดิพัทธ์ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนกำแพงเพชร เลี้ยวซ้ายไปตามถนนโรงปูน ผ่านศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สุดเส้นทางที่สถานีกลางบางซื่อ

3.) เส้นทางเซ็นทรัลลาดพร้าว-สถานีกลางบางซื่อ (เดินรถวงกลม) ให้บริการด้วยรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู จำนวน 12 คัน ความถี่ในการปล่อยรถ คันละ 5-10 นาที

-เริ่มต้นจากเซ็นทรัลลาดพร้าว ไปตามถนนพหลโยธิน เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหอวัง เลี้ยวซ้ายไปตามถนนวิภาวดีรังสิต เลี้ยวขวาไปตามถนนพหลโยธิน (จอดรับ-ส่งผู้ใช้บริการที่สถานี BTS หมอชิต) เลี้ยวขวาไปตามถนนกำแพงเพชร เลี้ยวขวาไปตามถนนโรงปูน ผ่านศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (จอดรับ-ส่งผู้ใช้บริการที่สถานีกลางบางซื่อ) เลี้ยวขวาไปตามถนนกำแพงเพชร 6 เลี้ยวซ้ายไปตามถนนกำแพงเพชร 2 (จอดรับ-ส่งผู้ใช้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร)) เลี้ยวขวาไปตามถนนรัชดาภิเษก เลี้ยวขวาไปตามถนนวิภาวดีรังสิต เลี้ยวซ้ายไปตามถนนพหลโยธิน สุดเส้นทางที่เซ็นทรัลลาดพร้าว

นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดเดินรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ-ส่งประชาชน ณ บริเวณประตูทางเข้าศูนย์ฯ (จุดติดตั้งนาฬิกาประจำสถานี) และบริเวณประตูทางออก (ฝั่งสถานีรถไฟบางซื่อ) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอีกด้วย

ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช้บริการสอบถามเส้นทางรถเมล์ หรือ แนะนำบริการได้ที่ www.bmta.co.th, facebook : BMTA องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ Call Center 1348 ทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 05.00 - 22.00 น.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทรงพระเจริญ ในหลวงพระราชทานอุปกรณ์การแพทย์กรมราชทัณฑ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่ กรมราชทัณฑ์ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับรองรับและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่แพร่กระจายในทัณฑสถาน และเรือนจำต่างๆ ส่งผลให้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในหมู่ผู้ต้องขังเพิ่มมากขึ้น และบางรายมีอาการหนัก ซึ่งต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์พิเศษ


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ผบ.ทบ.’ ปธ.จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ‘พระราชินี’ 3 มิถุนายน 2564

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 43 พรรษา 3 มิถุนายน 2564 ประกอบด้วย พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จากวัดโสมนัสราชวรวิหาร จำนวน 10 รูป ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5, พิธีถวายเครื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดี และถวายพระพรชัยมงคล ณ ห้องจัดเลี้ยง 221 อาคาร 2 ชั้น 2, พิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์, พิธีสงฆ์สำหรับการไถ่ชีวิตกระบือ และพิธีมอบบัตรประจำตัวสัตว์ ณ ห้องรับรอง 212-213 อาคาร 2 ชั้น 1 และกิจกรรมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล

นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ อีกทั้งได้จัดสถานที่ให้กำลังพล รวมถึงประชาชน ได้ลงนามถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างร่วมใจกันจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน กองทัพบกในฐานะหน่วยงานความมั่นคงที่มีภารกิจสำคัญสูงสุด คือ การพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงพร้อมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล อาทิ การบริการทางการแพทย์ การบริจาคโลหิต รวมทั้งการจัดนิทรรศการ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระมหากรุณาธิคุณอย่างสมพระเกียรติและสง่างาม ทั้งในส่วนกลาง และหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกทั่วประเทศ

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานสถาปนาพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมราชินี ทรงพระนามว่า สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท และทรงแบ่งเบาพระราชภาระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนและประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการพระราชดำริต่างๆ อีกทั้งทรงเป็นแบบอย่างแก่ทหารในด้านความเข้มแข็ง มีระเบียบวินัย และสง่างาม

กองทัพบก ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคล แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ พบ “บิ๊กตู่” ย้ำความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้น พร้อมผลักดันความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-19

ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบ รัฐบาล นางเวนดี้ อาร์. เชอร์แมน (H.E. Mrs. Wendy R. Sherman) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เนื่องในโอกาสเยือนประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีกับการรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมเชื่อมั่นว่า ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ รมช.กต. สหรัฐฯ จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่ยาวนานกว่า 188 ปี ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีฝากความยินดีถึงนายโจเซฟ อาร์. ไบเดน ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พร้อมระบุว่าไทยได้ติดตามนโยบายของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง และหวังว่าไทยกับสหรัฐฯ จะเพิ่มพูนความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อกันในลักษณะ Win-Win ต่อไป

ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับ พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ มีความร่วมมือระหว่างกันที่แน่นแฟ้น โดยเฉพาะด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจ และ เห็นว่าขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากจากโควิด-19 ซึ่งสหรัฐฯ เข้าใจและมีนโยบายด้านการจัดหาวัคซีนเพื่อช่วยเหลือหลาย ๆ ประเทศให้ผ่านพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวรวมถึงพร้อมให้การสนับสนุนไทยในการเข้าถึงวัคซีน ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณและยินดีรับการสนับสนุนโดยจะดำเนินการตามกระบวนการนำเข้าวัคซีนต่อไป

จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นสำคัญอื่น ๆ ร่วมกัน อาทิ ประเด็นเรื่องสภาพภูมิอากาศที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยให้ความสำคัญ และสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว  (Bio-Circular-Green  Economy: BCG Economy) ของไทย ซึ่งจะนำเข้าเป็นวาระสำคัญในการประชุมเอเปค ปี 2565 ต่อไป ในส่วนประเด็นเรื่องความมั่นคงของมนุษย์ โดยเฉพาะการต่อต้านการค้ามนุษย์ รัฐบาลได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และมุ่งมั่นแก้ปัญหาผ่านความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่ง รมช.กต. สหรัฐฯ ชื่นชมความมุ่งมั่นของไทยและพร้อมสนับสนุนไทย

นอกจากนี้ ในประเด็นความร่วมมือพหุภาคี นายกรัฐมนตรีชื่นชมสหรัฐฯ ที่มีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในภูมิภาคอาเซียน และอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมาโดยตลอด ยืนยันว่า ไทยพร้อมสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์และความร่วมมือกับสหรัฐฯ ต่อไป ซึ่งในตอนท้าย ทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์ในเมียนมา ที่ผ่านมาได้ติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด เชื่อมั่นว่าไทยและอาเซียนมีการดำเนินการที่สร้างสรรค์เพื่อหาทางออกที่สันติ 

รมช.ต่างประเทศฯ สหรัฐฯ กล่าวแสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับกรณีผู้หนีภัย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยมีประสบการณ์เกี่ยวกับผู้หนีภัยภายใต้หลักมนุษยธรรมพร้อมยืนยันว่าไทยมุ่งหวังให้เกิดการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี 

ทนายตั้ม พา ‘ลุงพล’ มอบตัว หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดี ‘น้องชมพู่’

จากกรณีการหายตัวไปของ “น้องชมพู่” ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ก่อนถูกพบเสียชีวิตอยู่บริเวณเขาภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลาผ่านไปนานกว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมานำเนินคดีได้

โดยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ศาลจังหวัดมุกดาหารได้อนุมัติหมายจับ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” เลขหมายจับที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ใน 3 ข้อหา

คือพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, และกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความของนายไชย์พล หรือลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่เลขหมายจับที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตายและกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป เปิดเผยว่า วันนี้ตนจะพานายไชย์พลไปมอบตัวกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 10.00 น.

 

ที่มา : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2754307

ภาพจาก : ภาพจาก ทวิตเตอร์ @fm91trafficpro


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ประกันสังคม สรุปผลดูแลผู้ประกันตนตรวจโควิด-19 เชิงรุก ภาพรวม 10 จุด ล่าสุด 31 พ.ค. 64 ช่วยคัดกรองฯ ไปแล้วกว่า 2.35 แสนคน

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีนโยบายให้ความสำคัญกับการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตน จึงได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข โดย สปสช. ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ให้กับผู้ประกันตนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ภายใต้โครงการ “แรงงาน...เราสู้ด้วยกัน” เป้าหมายเพื่อดูแลผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 โดยเพิ่มช่องทางบริการตรวจเชื้อให้กับผู้ประกันตนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 10 จุดที่อยู่ในพื้นที่ในกรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรสาคร ภูเก็ต ระยอง และพระนครศรีอยุธยา เพื่อลดปัญหาความแออัดการตรวจคัดกรองในโรงพยาบาล และให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดีโครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคเอกชน และโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมดำเนินการตรวจโควิดเชิงรุกเป็นไปอย่างเรียบร้อย สามารถช่วยเหลือและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายความแออัดจากการเข้ารับบริการตรวจคัดกรอง ลดการกระจายของโรคป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ในสถานประกอบได้เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก

นายทศพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับภาพรวมในการดำเนินการตรวจโควิด-19 เชิงรุกให้กับผู้ประกันตน ณ 31 พ.ค. 64 ยอดรวมสะสมทั้งสิ้น ของการเปิดให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.-31 พ.ค.64 จุดตรวจอาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชน กรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง มีผู้มาตรวจจำนวน 89,921 คน ที่จังหวัดปทุมธานี จุดตรวจวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี มีผู้มาตรวจจำนวน 15,862 คน ตรวจเชิงรุก ในสถานประกอบการ มีผู้มาตรวจ จำนวน 25,416 คน รวมทั้งสิ้น 41,278 คน ที่จังหวัดสมุทรปราการ จุดตรวจสถาบันฝีมือแรงงาน ภาค 1 มีผู้มาตรวจจำนวน 9,453 คน ตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการมีผู้มาตรวจจำนวน 23,727 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 32,680 คน ที่จังหวัดนนทบุรี จุดตรวจเทศบาลเมืองพิมลราช มีผู้มาตรวจทั้งสิ้นจำนวน 3,369 คน ตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการ มีผู้มาตรวจจำนวน 12,494 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 15,863 คน ที่จังหวัดชลบุรี ตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการ มีผู้มาตรวจทั้งสิ้นจำนวน 23,000 คน ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการ มีผู้มาตรวจทั้งสิ้น จำนวน 10,777 คน ที่จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการ มีผู้มาตรวจทั้งสิ้นจำนวน 11,413 คน ที่จังหวัดภูเก็ตมีผู้มาตรวจทั้งสิ้นจำนวน 690 คน ที่จังหวัดระยอง ตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการ มีผู้มาตรวจทั้งสิ้นจำนวน 6,675 คน และที่จังหวัดอยุธยา ตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการ มีผู้มาตรวจทั้งสิ้นจำนวน 3,211 คน โดยภาพรวมทั้ง 10 จุด ในการตรวจโควิด-19 เชิงรุกให้กับผู้ประกันตน มีผู้มาตรวจทั้งสิ้นจำนวน 235,508 คน

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงานประกันสังคม พร้อมร่วมขับเคลื่อน การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ และควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงที่รอการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนต่อไป

รองโฆษก ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กกรณีตำรวจออกหมายจับ “ลุงพล” ในคดีน้องชมพู่

โดยนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษก ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีตำรวจออกหมายจับ “ลุงพล” ในคดีน้องชมพู่ ว่า 1 ปี คดีน้องชมพู่ #บางทีฆาตกรก็มาในรูปแบบของสื่อ (บางคน) ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับครอบครัวน้องชมพู่ ที่ตำรวจได้อกหมายจับลุงพล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากใช้เวลามาปีกว่า

คดีน้องชมพู่ อาจไม่ใช่เด็กคนเดียวที่เป็นเหยื่อจากฆาตกร แต่ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อของสื่อบางคน บางค่าย ที่ไร้จรรยาบรรณ ที่สมควรต้องแสดงความรับผิดชอบบ้างในฐานะที่มีส่วนฉุดกระชากสังคมให้บิดเบี้ยวจากการทำหน้าที่ เพียงแค่หวังเรทติ้ง 

เฝ้าติดตามการรายงานนี้อย่างห่างๆ เพราะทนดูไม่ได้กับสื่อบางช่องที่นั่งเล่าข่าวเรื่องนี้ได้เป็นเวลานานในแต่ละวัน เหมือนเป็นซีรีส์หนังดังอยู่แรมเดือน สร้างให้ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งกลายเป็นฮีโร่ ทั้งๆ ที่มีสถานะที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นฆาตกร หรือแค่ผู้ต้องสงสัย 

ทฤษฏีการกำหนดวาระของสื่อหรือ Agenda Setting ทำให้เห็นปรากฏการณ์นี้ได้ชัด ว่าความพยายามที่จะยัดเยียดข้อมูลให้ผู้รับสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนสนใจในประเด็นเหล่านั้นไปสักระยะ จนทำให้ผู้คนคล้อยตามจนทำให้รู้สึกว่าต้องสนใจและให้ความสำคัญราวกับดูละครหลังข่าวที่พลาดไม่ได้ในสักตอน โดยอาศัยช่องว่างทางความรู้ของผู้รับสารในฐานะคนเสพสื่อที่อาจไม่รู้เท่าทัน

และตราบใดที่สื่อ (บางคน) ยังต้องการเรทติ้งจนลืมความรับผิดชอบ เหตุการณ์แบบนี้คงเกิดขึ้นได้อีก 

พฤติกรรมแบบนี้จึงไม่ต่างกับการเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนไทยแบบผ่อนส่งด้วยการสร้างค่านิยมที่ผิดๆ ให้กับสังคมไทย จากการที่มีคนหลายคนติดตามรายการ และอาจนำไปเป็นแบบอย่างได้ว่าการเป็นผู้ต้องหาที่คดียังไม่ถึงที่สุดก็สามารถกลายเป็นพระเอกได้ในชั่วข้ามคืน ถ้ามีสือช่วยทำหน้าที่ในการประกอบสร้างความจริง ช่วยปั้นดินให้เป็นดาว แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นดินที่เปื้อนโคลนด้วยซ้ำ

วันนี้นอกจากเอาใจช่วยให้ตำรวจจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ยังอยากได้ยินคำขอโทษจากสื่อบางคน และไม่แน่ใจว่าระหว่างคำขอโทษจากสื่อ กับการจับตัวผู้ต้องหาได้ อะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน 
ดรุณวรรณ

2 มิถุนายน 2564

“บิ๊กป้อม” ให้เปิดปฎิบัติการกวาดล้างยาเสพติดชั้นใน-ชุมชนเมือง ย้ำ ไม่ให้ไทยเป็นทางผ่านส่งออกยาเสพติด กระทบภาพลักษณ์ประเทศ สั่งสอบลึกฟันเชื่อมโยงทุกระดับที่เกี่ยวข้อง

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก ประจำ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจการปฎิบัติงานของฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ ปปส. ทุกระดับที่ร่วมกันสกัดกั้นและกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลต่อเนื่องที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ที่ฝ่ายทหารและตำรวจได้ร่วมกันสนธิกำลังเข้าสกัดกั้น จับกุมการลักลอบขนย้ายและยึดยาเสพติดได้จำนวนมากในแต่ละครั้ง  

โดยภาพรวม ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 31 พ.ค.64 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 99,421 คน ยึดยาบ้าได้กว่า 210.42 ล้านเม็ด ยาไอซ์กว่า 11.4 ตัน และยึดสารเสพติดอื่นๆ ได้อีกจำนวนมาก ทั้งนี้พบความเคลื่อนไหว ของขบวนการค้ายาเสพติดผ่านการขนส่งพัสดุและการติดต่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำเป็นนโยบายและสั่งการกับฝ่ายความมั่นคง ต้องไม่ให้ขบวนการค้ายาเสพติดใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่าน ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากไทยส่งออกไปยังประเทศที่ 3 โดยเด็ดขาด ซึ่งมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ต่อประเทศโดยตรง โดยเฉพาะกรณีการซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากไปในสินค้ารูปแบบต่างๆ ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและอาหารเสริม ซึ่งถูกตรวจพบในฮ่องกง ออสเตรเลียและเกาหลีใต้ เมื่อ พ.ค.ที่ผ่านมา 

โดยขอให้ ตร.ประสานกับ ปปส.และศุลกากร ให้ความสำคัญคุมเข้มกวดขันสินค้าผ่านระบบศุลกากรอย่างจริงจัง และให้ร่วมกันเร่งสืบสวนขยายผลทางลึกเชื่อมโยงขบวนการตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางและบังคับใช้กฎหมายยึดทรัพย์เอาผิดทั้งหมดไม่มียกเว้น และหากมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจหรือมีส่วนเกี่ยวข้องให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดในทุกระดับ โดยให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว

“พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ขอให้ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง คุมเข้มสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนและคงความต่อเนื่อง พร้อมให้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ในพื้นที่ชั้นใน ชุมชนเขตเมืองอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ประสานการทำงานร่วมกับ ป.ป.ส. ติดตามความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดผ่านสื่อสังคมออนไลน์และส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์  เพื่อลดปัญหาภัยคุกคามบั่นทอนสังคมและเหตุของอาชญกรรม ลูกโซ่ที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่เกิดขึ้น ซ้ำเติมปัญหาโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้น” พล.ท.คงชีพ กล่าว

ศปก.ศบค.เผย กระทรวงสาธารณสุข เตรียมกระจายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ในวันที่ 3 หรือ 4 มิ.ย.นี้ เพื่อเริ่มฉีด 7 มิ.ย.

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขแจ้งข้อมูลมาว่าจะเริ่มกระจายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไปในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 3 หรือวันที่ 4 มิ.ย.เป็นต้นไป เพื่อใช้สำหรับการฉีดให้กับประชาชนกลุ่มทั่วไปภายในวันที่ 7 มิ.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถบอกได้ว่าการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในเดือน มิ.ย.จะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในแผนกระจายวัคซีนหรือไม่ เพราะการส่งมอบวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าจะทยอยส่งเป็นล็อต ซึ่งการวางแผนฯ คำนวณจากวัคซีนเต็มจำนวน แต่วัคซีนที่ได้มาเป็นการทยอยส่งเป็นระลอก จึงไม่อยากรับปาก เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาอาจมีเหตุการณ์ที่ขัดข้องเล็กๆน้อยๆ ทำให้เกิดความล่าช้าไปบ้าง แต่หากยึดตามสัญญาก็เป็นไปตามนั้น

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้ชี้แจงก่อนหน้านี้แล้วว่าการจัดส่งวัคซีนจะเป็นการทยอยส่งมอบ ซึ่งภายในเดือน มิ.ย.นี้จะส่งมอบครบจำนวน 6 ล้านโดส จึงจำเป็นต้องพิจาณาเป็นรายเดือน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะทยอยแจกจ่ายต่อไปตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับเข้ามา

"มีการรายงานมายัง ศบค.ว่า วัคซีนจะเข้ามาจำนวน 6 ล้านโดสในเดือน มิ.ย. เป็นแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวก ส่วนวัคซีนของซิโนฟาร์มนั้นยังไม่ทราบรายละเอียด" พล.อ.ณัฐพล กล่าว

ส่วนการฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะได้ครบตามจำนวนคนที่ลงทะเบียนไว้หรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีน อาจได้ครบหรือไม่ครบแล้วแต่ละจังหวัด แต่บางจังหวัดที่มีคนลงทะเบียนจำนวนมากอาจจะได้ไม่ครบ สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนก่อนหน้านี้หากอยู่ในระบบแอปลิเคชัน "หมอพร้อม" จะมีการแจ้งกลับไปว่าจะมีการเลื่อนฉีดวัคซีนออกไปหรือไม่อย่างไร ส่วนคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบแอปพลิเคชันจะมีการแจ้งผ่าน อสม.ผ่านสายงานการลงทะเบียนในช่องทางนั้นๆ

สำหรับกรณีที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มนั้น เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. กำลังพิจารณาอยู่


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้' ของคุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ นักเขียน และคนไทยในอเมริกา ได้โพสต์สถานการณ์การฉีดวัคซีนไปแล้วในหลายมลรัฐของสหรัฐอเมริกาว่า...

จากเฟซบุ๊ก 'เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้' ของคุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ นักเขียน และคนไทยในอเมริกา ได้โพสต์สถานการณ์การฉีดวัคซีนไปแล้วในหลายมลรัฐของสหรัฐอเมริกาว่า...

ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง

วันที่ 1 มิถุนายน 2564

รัฐอินเดียน่า (ไม่บริการคนที่ไม่ใช่พลเมือง)

ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแค่ 35 %

ส่วนรัฐยอดนิยมที่เปิดเสรีบริการนักท่องเที่ยวจากดัชนีวันที่ 1 มิถุนายน 2564

นิวยอร์กพลเมืองที่ฉีดครบสองเข็มแค่ 46%

แคลิฟอร์เนียจำนวนคนฉีดครบสองเข็ม 43%

รัฐอิลลินอยส์แค่ 39%

นอกจากนี้ ยังมีบทสนทนาของคนไทยในสหรัฐฯ ที่สะท้อนความกังวลใจต่อสถานการณ์ในสหรัฐฯ หลังจากเริ่มมีฉีดวัคซีนในประเทศ แต่ยังไม่ครอบคลุมพอจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

โดยบางความเห็นมองว่า ตอนนี้รัฐเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ทั้งมาจากละติอเมริกา / จากเอเชีย ส่อแววคุมยาก

บางความเห็นมองว่าเริ่มพบคนอเมริกันไม่ใส่หน้ากากมากขึ้น ตามแหล่งสาธารณะมีใส่กันราว 10% แถมเดินเบียดกันไปมา

สิ่งเหล่านี้สะท้อนความต้องการอิสรภาพของคนในประเทศ ที่ดูเหมือนจะสวนทางกับสถานการณ์การควบคุมเชื้อ หลังตัวเลขการฉีดวัคซีนดูจะยังไม่ครอบคลุม ปล่อยต่างชาติเข้าเมือง และเริ่มการ์ดตกกันเอง

ความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาระบาดซ้ำใน USA จึงเริ่มมีกันพูดถึงขึ้นมาอีกเป็นระยะๆ

จริงอีกด้านจากอเมริกา

 

ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10219625949502786&id=1337643342

https://usafacts.org/visualizations/covid-vaccine-tracker-states/state/illinois


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สุเทพ’ จี้ รัฐบาลเยียวยา ‘นวดสปา’ หลัง กมธ.แรงงานฯ รับเรื่องร้องขอความเป็นธรรม ซัด ‘ประยุทธ์’ ต้นตอปัญหาควรลาออก เพื่อเปิดทางมีรัฐบาลใหม่ ด้าน ‘ทวีศักดิ์’ ชี้ คำสั่ง กทม.- ศบค. ขาดความชัดเจน เล่นกับความทุกข์ร้อนของประชาชน

สุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเเรงงาน สภาผู้เเทนราษฎร พร้อม ทวีศักดิ์ ทักษิณ กรรมาธิการฯ รับหนังสือร้องของความเป็นธรรมจากกลุ่มอาชีพนวดและสปา ที่เรียกร้องให้รัฐบาลให้ผ่อนปรนเเละยกเลิกมาตรการสั่งปิด หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ทั้ง 3 ระลอก เเต่ไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ จากภาครัฐ 

สุเทพ กล่าวว่า ตนรู้สึกเศร้าใจกับการบริหารงานของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชน ซึ่งเกิดจากความไม่ชัดเจนด้านนโยบายของ ศบค.และรัฐบาล ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผู้ใช้เเรงงาน ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการในภาคส่วนต่างๆที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดสถานประกอบการ ทั้งร้านนวดเเละสปา ร้านอาหาร สนามกีฬา หรือสถานประกอบการ อื่นๆ ทั้งหมด ตนจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมาธิการเพื่อดำเนินการอย่างเร่งด่วน ขณะนี้มีหลายกลุ่มที่เดือดร้อนมาก เช่น พี่น้องเเรงงานนอกระบบกลุ่มรถยนต์ขับขี่สาธารณะ (แท็กซี่), กลุ่มลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างกว่า 1,300 คน จากบริษัทบิลเลียน จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งนับตั้งเเต่ถูกเลิกจ้างยังไม่ได้รับการเยียวยาจากผู้ประกอบการ จากสถานการณ์ที่มีความลำบากไปทั่วเช่นนี้ จึงขอเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกเพื่อเปิดทางให้บุคคลมีความสามรถเข้ามาบริหารงานแทน 

ด้าน ทวีศักดิ์ ทักษิณ ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการนวดแผนไทยเเละสปา ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างจากนโยบายที่ไม่ชัดเจนของภาครัฐที่ใช้ควบคุมการเเพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่ โดย เมื่อวานนี้ (31 พ.ค. 64 ) ทางกรุงเทพมหานครออกมาตรการปลดล็อก 5 กลุ่มธุรกิจซึ่งมีร้านนวดเเละสปาให้กลับมาเปิดกิจการได้ เเต่ไม่ทันข้ามวัน ในช่วงเย็น ทางศบค.กลับออกเเถลงการณ์ให้ชะลอมาตรการดังกล่าว จึงส่งผลกระทบต่อทางด้านจิตใจของพี่น้องประชาชนเเละผู้ประกอบการมาก เพราะทันที่ที่ได้ข่าวว่าปลดล็อก จากต้นทุนที่ไม่มีอยู่แล้วด้วยหวังว่าจะเปิดกิจการได้จึงไปกู้หนี้ยืมสินแต่สุดท้ายก็โดนยกเลิกไป เรื่องความเดือดร้อนของประชาชนแบบนี้ไม่ควรเกิดรัฐบาลต้องมีความชัดเจนต่อกรณีที่เกิดขึ้น

พิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย กล่าวว่า ในวันนี้ที่มายื่นเรื่องต่อประธานกรรมาธิการเเรงงาน เพื่อขอคัดค้านคำสั่งของ ศบค. ให้ปิดสถานที่ต่างๆรวมร้านนวดเเละสปาออกไปอีก 14 วัน กรณีความไม่ชัดเจนระหว่าง ศบค.กับ กทม. ที่เกิดขึ้น ผู้ประกอบการไม่มีทุนเป็นเดิมอยู่เเล้ว เเต่เมื่อรัฐประกาศมาตรการคลายล็อกออกมาก็ต้องเตรียมพร้อมเปิดร้านอีกครั้ง โดยต้องไปกู้นายทุนนอกระบบมาก่อน ทั้งในการพ่นยา ฆ่าเชื้อ เสื้อผ้า ซื้อหน้ากากอนามัย พอมาตรการรัฐออกมาสั่งปิดอีก 14 วัน ทุกคนแทบล้มทั้งยืน เพราะหนี้นอกระบบเขาเก็บเป็นรายวัน ไม่รู้จะเอารายได้มาจากไหน ตั้งแต่ระลอกแรกพวกเราได้รับผลกระทบด้วยการสั่งปิดทุกครั้งและแทบไม่ได้รับการเยียวยาเลย โครงการเราชนะ มีผู้ได้รับการช่วยเหลือเพียง 65% เท่านั้น อีก 35% คือ มีรายได้ในในปี 2562 เกิน 300,000 บาท ซึ่งทางรัฐบาลใช้ AI ตรวจสอบ แต่เราได้รับผลกระทบในปี 2563 จึงไม่ได้รับความช่วยเหลือ พนักงานของเราจะไปสมัครงานที่ไหนไม่ว่า ปั้มน้ำมัน ร้านอาหาร ก็ไม่มีตำแหน่งให้ ไม่รู้พวกเขาจะกินอยู่อย่างไรต่อไป จึงต้องการให้กรรมาธิการช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว 

ขณะที่ อักษิกา จันทรวินิจ ตัวเเทนผู้ประกอบการร้านนวดเพื่อสุขภาพในกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่าน นโยบายต่างๆ ที่ออกโดยศูนย์บริหารสถานการณ์เเพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรนา 2019 ( ศบค.) ทำให้กิจการได้รับผลกระทบจำนวนมาก แต่เป็นนโยบายแบบหว่านแห ปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเเละมีอยู่ทุกภาคส่วน มีหน่วยงานราชการ มีธนาคาร เเละมีร้านสะดวกซื้อ ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อทุกๆหน่วยงาน เเต่ทุกหน่วยงานได้รับการดูเเลอย่างเป็นธรรม ไม่มีหน่วยงานไหนถูกปิดทุกที่ทั่วประเทศเหมือนสปา ร้านสักคิ้ว ฟิตเนส ตรงนี้จึงต้องขอความเป็นธรรม เราขอให้ ศบค.และ กทม.ดูเเลพวกเราอย่างเท่าเทียม เราต้องการพื้นที่ในการทำงานได้ในภาวะติดเชื้อ เราไม่มีวันทำให้จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงได้ภายในเร็ววันนี้  ศบค. ทำลายความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่มีความตั้งใจ แต่ ศบค. ไม่เคยเห็นความตั้งใจดังกล่าวในการรับผิดชอบสังคมของพวกเรา กลับใช้นโยบายสั่งปิดเเบบหว่านแหและเหมารวม ขอเรียกร้ององให้ภาครัฐเร่งดูเเลผู้ประกอบการและพนักงานนวดสปาอย่างเร่งด่วน

Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัคราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้โพสต์ว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ทำการอนุมัติการใช้งานในกรณีฉุกเฉินแก่วัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่าง Sinovac ที่ผลิตโดย บริษัท ซิโนแวก ไบโอเทค

จากเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัคราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้โพสต์ว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ทำการอนุมัติการใช้งานในกรณีฉุกเฉินแก่วัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่าง Sinovac ที่ผลิตโดย บริษัท ซิโนแวก ไบโอเทค (Sinovac Biotech) บริษัทเวชภัณฑ์สัญชาติจีนแล้ว

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ค. องค์การอนามัยโลก ได้ดำเนินการตรวจสอบและอนุมัติวัคซีนที่พัฒนาขึ้นโดยซิโนฟาร์ม (Sinopharm) บริษัทเภสัชภัณฑ์สัญชาติจีน สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน ทำให้ Sinovac เป็นลำดับที่สองของวัคซีนจีน ตามหลังวัคซีน Sinopharm

ขณะเดียวกัน Sinovac ก็จัดเป็นลำดับที่ 7 ที่องค์การอนามัยโลกให้การรับรองวัคซีน

1.) Pfizer

2.) AstraZeneca

3.) Covisheild

4.) Johnson & Johnson

5.) Moderna

6.) Sinopharm

ทั้งนี้ ภายหลัง องค์การอนามัยโลก ได้ทำการประเมินวัคซีน Sinovac ของจีน อย่างละเอียดรอบคอบ และอนุมัติ EUL (Emergency Use Listing) เรียบร้อยแล้ว จะส่งผลให้วัคซีน Sinovac สามารถฉีดใน 92 ประเทศ ที่อยู่ในโครงการ COVAX ได้เลย

สำหรับประสิทธิผลในการป้องกันโรคที่รุนแรงจนนอนโรงพยาบาลได้ 100% โดยมีข้อมูลเพิ่มเติม จากอินโดนีเซียว่า ประสิทธิผลในการป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีน 120,000 คน สูงถึง 94%

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก รับรองให้วัคซีนฉีดได้ในประชาชนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป และสามารถฉีดในผู้สูงอายุที่มีวัยมากกว่า 60 ปีได้ด้วย

นับเป็นอีกข่าวดี สำหรับผู้ที่ยังกังวลใจเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีน Sinovac

 

ที่มา:

https://www.blockdit.com/posts/60b65729f85bd50d89b977e0

https://mgronline.com/china/detail/9640000053047

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4082918435088264&id=846555798724560


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทบ.จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมเชิญชวนร่วมลงนามถวายพระพรออนไลน์

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.ต.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2564 กองทัพบกกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสอันเป็นมหามงคล โดยหน่วยทหารทั่วประเทศจะร่วมกับส่วนราชการ และประชาชนจิตอาสาจัดกิจกรรม การถวายพระพร พิธีทางศาสนา การร่วมกันบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ กิจกรรมจิตอาสาทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 สำหรับในพื้นที่ส่วนกลาง กำหนดจัดกิจกรรมในวันพุธที่ 2 มิ.ย.64 ณ กองบัญชาการกองทัพบก กทม. โดยมีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 10 รูปถวายเป็นพระราชกุศล พิธีถวายราชสดุดีและถวายพระพรชัยมงคล พิธีเจริญพระพุทธมนต์ไถ่ชีวิตกระบือ 6 ตัว ถวายเป็นพระราชกุศล โดยนำไปมอบให้กับเกษตรกรโครงการเกษตรรวมใจอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครนายก, นำกำลังพลร่วมการบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล และเพิ่มปริมาณโลหิตสำรองเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย, การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และการลงนามถวายพระพร ณ กองบัญชาการกองทัพบก 

กองทัพบกจึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมในกิจกรรมกับหน่วยทหารทั่วประเทศ รวมทั้งขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิ.ย.64  ตามที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนร่วมลงนาม ผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ 1-6 มิ.ย.64 

มาเลเซียระดมงบประมาณเยียวยา Covid-19 กว่า 1.28 หมื่นล้านเหรียญ ข้าราชการกว่า 800,000 คน ยอมถูกตัดงบสวัสดิการ สมทบกองทุนช่วยชาติ

หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้ประกาศล็อกดาวน์ประเทศเป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์ เพื่อหวังที่จะตัดวงจร ควบคุมการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดของ Covid-19 ในมาเลเซีย ที่พบยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงเกือบ 7,000 คนต่อวัน โดยจะเริ่มล็อคดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน นี้เป็นต้นไป

ทันทีที่มีข่าวยืนยันว่าจะประกาศล็อกดาวน์ให้ชาวมาเลเซียได้เตรียมตัว เตรียมใจ นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ก็ได้ประกาศงบกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนใหม่กว่า 4 หมื่นล้านริงกิต หรือประมาณ 3 แสนล้านบาทเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากมาตรการปิดเมืองของรัฐบาล

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้กล่าวว่า การออกคำสั่งปิดทำการบริษัท ห้างร้านในช่วงล็อคดาวน์เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยาก เพราะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจของประเทศ และการใช้ชีวิตของประชาชนอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลก็ต้องยอมรับจากใจจริงว่าเรามีงบประมาณอย่างจำกัด แต่รัฐบาลก็จะพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดสรรงบประมาณมาเพื่อบรรเทาทุกข์จากวิกฤตินี้

ส่วนงบกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ เรียกว่า "Pemerkasa Plus" ที่จะมอบเงินเยียวยาจำนวน 2,500 ริงกิต (ประมาณ 19,000 บาท) ต่อ 1 ครัวเรือน สำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อยกว่า 5,000 ริงกิตต่อเดือน และเงินช่วยเหลือรายเดือนอีกจำนวนหนึ่ง ที่คาดว่าจะมีผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยานี้ถึง 2.5 ล้านคน

ส่วนผู้ประกอบการจะได้สิทธิ์ในการขอหยุดพักชำระหนี้ได้นาน 3 เดือน หรือลดจำนวนเงินในการผ่อนชำระลงครึ่งหนึ่ง ที่สามารถขยายการชำระหนี้ได้ 6 เดือน

แต่อย่างที่รัฐบาลมาเลเซียได้ออกตัวไว้แล้วว่า งบประมาณแผ่นดินมีอยู่อย่างจำกัด และตลอดช่วงวิกฤติ Covid-19 ที่ยาวนานมากกว่า 1 ปี ทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียติดลบไป 5.6% ในปี 2020 ดังนั้นงบกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับภาคประชาชนในครั้งนี้ บางส่วนจำเป็นต้องดึงมาจากงบสวัสดิการข้าราชการกว่า 800,000 คน

นาย ตัน สรี โหมด ซุกิ อาลี หัวหน้าเลขาธิการรัฐบาล ได้กล่าวว่า เงินสวัสดิการที่จะถูกตัดจะเป็นงบค่าจัดเลี้ยง รับรอง งบเบิกจ่ายหากมีภารกิจพิเศษจำนวน 3 เดือน ที่หักจากข้าราชการระดับสูงตั้งแต่เกรด 29 ขึ้นไปเท่านั้น คาดว่าน่าจะได้งบมาไม่น้อยกว่า 30 ล้านริงกิต ส่วนข้าราชการชั้นผู้น้อย หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในการดูแลสถานการณ์ Covid-19 จะไม่โดนตัดงบใดๆ

ซึ่งการเสียสละครั้งนี้เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกับรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ลำบาก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน และคณะรัฐบาลทั้งหมดจะงดรับเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่มิถุนายนนี้เป็นต้นไป เพื่อสมทบกองทุนกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติในครั้งนี้ด้วย

ช่างเป็นเวลาที่ลำบากอย่างมากจริงๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคประชาชนกับสถานการณ์ Covid-19 ที่เจ็บแต่ไม่จบสักที แต่หากทุกคนในชาติสามัคคี พร้อมที่จะแบกรับความยากลำบากร่วมกัน ต้องผ่านไปได้อย่างแน่นอน

 

อ้างอิง

https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/800000-malaysian-civil-servants-take-allowance-cut-to-contribute-to-covid-19-fund

https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/malaysia-announces-additional-128b-financial-stimulus-ahead-of-lockdown

https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/people-prepare-for-a-tough-time-during-lockdown-in-malaysia

https://www.aljazeera.com/news/2021/5/28/malaysia-pm-orders-total-lockdown-amid-covid-19-surge


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘หมอมนูญ’ หมอชี้ไวรัสโควิด-19 มีวิวัฒนาการนำหน้าเรา 1 ก้าวเสมอ คาดต้องอยู่กันไปอย่างน้อย 1-2 ปี

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ‘หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC’ ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 มีวิวัฒนาการทางธรรมชาติ นำหน้าเรา 1 ก้าวเสมอ

เมื่อปีที่แล้วประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดระลอกแรกเป็นอย่างดี ช่วงมกราคมถึง 14 ธันวาคม พ.ศ.2563 ระยะเวลา 11 เดือนครึ่ง มีผู้ป่วย 4,237 คน เสียชีวิต 60 คน

สหประชาชาติชื่นชมไทยรับมือโรคโควิดในด้าน

1.) การดำเนินมาตรการของรัฐบาล

2.) ความสามัคคีของประชาชนในการช่วยกันป้องกันโรค สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ

3.) ความรับผิดชอบต่อสังคมของอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.

มองย้อนหลังตัวแปรสำคัญคือเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนั้นสายพันธุ์ G ยังไม่เก่งเหมือนเชื้อปัจจุบัน อาจปรับตัวไม่เข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทยซึ่งร้อนและชื้น จึงหยุดการแพร่ระบาด

ขณะนี้ประเทศไทยเผชิญการระบาดอย่างรวดเร็ว การระบาดระลอก 3 เพียง 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม พ.ศ.2564 มีผู้ป่วยสะสม 130,929 ราย เสียชีวิตสะสมแล้ว 937 คน

จากการตรวจรหัสพันธุกรรมแบบทั้งตัวซึ่งต้องใช้เงิน 1-2 หมื่นบาท พบมีการระบาดของสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 ซึ่งติดต่อกันง่าย แพร่กระจายเร็ว ทนร้อน ทนชื้น รุนแรงทำให้ตายมากขึ้น การรับมือการระบาดครั้งนี้ต้องอาศัยวัคซีน เร่งฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุด

เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังนำหน้าเราไปอีกแล้ว ล่าสุดเวียดนามรายงานตรวจพบไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ที่เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์อินเดีย B.1.617 กับสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 สามารถติดต่อแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วทางอากาศ หมายความว่า เชื้อนี้เหมือนสายพันธุ์อินเดียแพร่กระจายได้ดียิ่งกว่าสายพันธุ์อังกฤษ แต่รุนแรงเท่าสายพันธุ์อังกฤษ

เราจะเผชิญกับโรคโควิด-19 ที่ติดต่อกันง่ายยิ่งขึ้น และยังรุนแรงมากเท่าเดิม ถ้าเชื้อกลายพันธุ์นี้สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนปัจจุบัน ยิ่งจะสร้างปัญหา จำเป็นที่ทุกคนต้องฉีดวัคซีนรุ่นใหม่ที่กำลังพัฒนาเพื่อครอบคลุมสายพันธุ์ใหม่ๆปีหน้า ดูสถานการณ์แล้วเราตามเชื้อไวรัสโควิดไม่ทัน โรคโควิด-19 คงจะอยู่กับเราอย่างน้อยอีก 1-2 ปี

 

ที่มา : https://www.facebook.com/หมอมนูญ-ลีเชวงวงศ์-FC-604030819763686


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top