Wednesday, 14 May 2025
NEWS

Meet THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน | ประจำวันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564

Update ข่าววัคซีนในประเทศไทย และต่างประเทศ

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทอ.เปิดให้บริการฉีดวัคซีน ระยะที่ 2 เป็นวันแรกสำหรับประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ กลุ่มที่มี 7 โรคประจำตัวเรื้อรัง

ที่กองทัพอากาศ โดย ศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ และกรมแพทย์ทหารอากาศ เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในระยะที่ 2 เป็นวันแรกตามที่รัฐบาลประกาศให้มีการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 7 มิ.ย.2564 ซึ่งจะเป็นการเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ กลุ่มที่มี 7 โรคประจำตัวเรื้อรัง ประกอบด้วย โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน

โดยกองทัพอากาศ ได้จัดตั้งศูนย์บริการฉีดวัคซีน ให้บริการกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ กลุ่มที่มี 7 โรคประจำตัวเรื้อรังดังกล่าว ที่ลงทะเบียนไว้แล้วจะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนที่ ชั้น 1 อาคารชุมนุมสัญญาบัตร โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ สามารถให้บริการได้วันละ 600 คน และ ห้องอาหาร ชั้น 2 อาคารสนับสนุน โรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) กรมแพทย์ทหารอากาศ สามารถให้บริการได้วันละ 200 คน

พร้อมกันนี้ จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่กำลังพลของกองทัพอากาศที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง หรือผู้ที่ปฏิบัติภารกิจในการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยง และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ศูนย์บริการฉีดวัคซีนกองทัพอากาศ ณ อาคารรณนภากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ซึ่งสามารถให้บริการได้วันละ 1,000 คน ระหว่างวันที่ 8-11 มิ.ย.

เมืองหลวงนิวเดลี และมุมไบ ประเทศอินเดีย เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มลดลงเรื่อยๆ หลังก่อนหน้านี้ ยอดผู้ติดเชื้อต่อวัน เคยพุ่งทะลุเกิน 400,000 คน

วันที่ 7 มิถุนายน 2564 สำนักข่าวแชนเนล นิวส์ เอเชีย รายงานว่า เมืองหลวงนิวเดลี และมุมไบประเทศอินเดีย เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยล่าสุดวันนี้ (7 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อเพียง 100,636 คนต่อวัน หลังก่อนหน้านี้ ยอดผู้ติดเชื้อเคยพุ่งสูงไปถึง 400,000 คนต่อวัน

ทั้งนี้ ที่เมืองหลวงนิวเดลี ทางการได้ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ให้ร้านค้าต่างๆ สามารถเปิดบริการได้ แต่ต้องสลับกันเปิดตามวันเลขคู่-คี่ ขณะเดียวกัน ให้สำนักงานออฟฟิศ และระบบการเดินทางของรถไฟ กำหนดความจุอยู่ที่ 50% อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่อนุญาตการรับประทานอาหารในร้าน รวมถึงยังคงบังคับปิดบริการสถานที่ อย่างโรงละคร และฟิตเนส

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง แต่มีความกังวลว่าโควิด-19 กำลังระบาดหนักตามชนบทของประเทศ ซึ่งขาดระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ รายงานข่าวระบุ ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงมีมากกว่านี้ แต่ตามชนบท ขาดประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูล และขาดการตรวจสอบผู้ติดเชื้อ

โดยการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 ที่อินเดีย ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ทำให้ระบบสาธารณสุขประเทศเข้าขั้นวิกฤต หลายเมืองขาดแคลนเตียงผู้ป่วย รวมถึงซัพพลายถังออกซิเจน โดยตอนนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดเกือบ 29 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดเกือบ 350,000 คน

 

ที่มา : https://www.prachachat.net/world-news/news-685789


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'สุริยะ' ปลื้ม กนอ. เตรียมคิกออฟฉีดวัคซีนผู้ปฏิบัติงาน กลุ่มนิคมฯมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ฯ 9 มิ.ย.นี้ ด้าน 'วีริศ' เผยจ่อกระจายทุกนิคมฯ ทั่วประเทศให้เร็วที่สุด ลดผลกระทบเศรษฐกิจ-ภาคการผลิต

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทาง กนอ. ถึงความพร้อมในการเริ่มทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับผู้ปฏิบัติงาน แรงงานภาคอุตสาหกรรม และชุมชนรอบข้าง พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกลุ่มมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จังหวัดระยอง ประกอบด้วย 5 นิคมอุตสาหกรรม และ 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม คือ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด, นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุด), นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย, นิคมอุตสาหกรรมผาแดง, นิคมอุตสาหกรรมอาร์ ไอ แอล และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ในวันที่ 9 มิถุนายน 2564

โดยเป็นการดำเนินงานตามมติของคณะกรรมการบริหารจัดการจุดบริการให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรมและประชาชน กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเร่งกระจายวัคซีนไปยังประชาชนโดยเร็ว เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับแรงงานภาคอุตสาหกรรมให้สามารถดำเนินการผลิตได้ตามปกติ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

“ถือเป็นเรื่องที่ดีในการสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการฉีดวัคซีนให้ได้ 5 แสนคนต่อวัน ซึ่งการนำร่องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกลุ่มมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ที่มีนิคมอุตสาหกรรมถึง 5 แห่ง และมีแรงงานจำนวนมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการกำกับดูแลและสามารถรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายสุริยะฯ กล่าว

ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ขณะนี้ กนอ.มีความพร้อมตั้งจุดบริการให้วัคซีนนอกสถานพยาบาลให้แก่ผู้ประกอบการในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมกลุ่มมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จังหวัดระยอง และชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม โดยที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างนิคมอุตสาหกรรมกลุ่มมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ระยอง และ กนอ. ซึ่งได้รับการจัดสรรวัคซีนจากทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง โดยจุดบริการฉีดวัคซีนตั้งอยู่ที่บริเวณอาคารสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (ห้องประชุมสมเจตต์) ใกล้กับโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ระยอง

“สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนกำหนดระยะไว้ 2 เดือน โดยให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. เริ่มวันแรก คือ วันที่ 9 มิถุนายนนี้ โดยสามารถรองรับผู้รับวัคซีนได้วันละประมาณ 1,000 คน ซึ่งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกลุ่มมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จังหวัดระยอง มีผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอรับวัคซีน จำนวนทั้งสิ้น 25,000 คน ซึ่งคาดว่าในระยะเวลา 2 เดือนจะดำเนินการฉีดวัคซีนได้ครบตามจำนวนที่แจ้งไว้” นายวีริศ กล่าว

นายวีริศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการจุดบริการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรมและประชาชน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้หารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ กนอ. เป็นผู้ดำเนินการประสานกับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ในการกรอกข้อมูลยืนยันการรับวัคซีนทางเลือกที่ ส.อ.ท.จะได้รับการจัดสรรจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งวัคซีนดังกล่าว ได้แก่ วัคซีนชิโนฟาร์ม จะได้รับมาในจำนวนจำกัด และจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 บาทต่อโดส ฉีดจำนวน 2 ครั้ง เท่ากับ 2 โดส

ทั้งนี้ จากการกรอกข้อมูลยืนยันการรับวัคซีนดังกล่าว ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก และเมื่อได้รับวัคซีนเข้ามาเรียบร้อยแล้วส.อ.ท.จะพิจารณาบริหารจัดการให้กับผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ คาดว่าจะสามารถทยอยฉีดได้ในช่วงประมาณปลายเดือนกรกฎาคมนี้


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครูต้นแบบ!! 'ครูอ่างทอง' แต่งตัวสมจริง ไลฟ์สอนออนไลน์

วันนี้ ที่บริเวณบ้านนางวนิดา สายะวงศ์ ตำบลบ้านแห อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง มีรายงานว่า ครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองอ่างทอง ได้สอนออนไลน์ แบบจัดเต็มให้ลูกศิษย์ชั้นประถม 4 ได้เรียนออนไลน์ วิชาภาษาไทย เรื่องพระอภัยมณี โดยแต่งตัวเป็นฤๅษี มีฉากละครสวยงาม การแต่งองค์ทรงเครื่อง มีความน่ารัก ความสนุกสนาน พร้อมวงปี่พาทย์ชุดใหญ่ให้นักเรียนได้เรียนรู้แบบจัดเต็ม

.โดยมี พ่อ แม่ พี่น้อง และหลานสาว มาช่วยในการเรียนการสอน ซึ่งหลานสาวช่วยถ่ายสื่อออนไลน์ ในการเรียนการสอน พ่อตีระนาด แม่ตีฉิ่ง พี่ชายตีกลอง และน้อง ๆ ช่วยแต่งชุดละครให้ คล้ายว่า ได้ชมละครชาตรีวงใหญ่ แบบไลฟ์สดผ่านสื่อออนไลน์ให้นักเรียนชั้นประถม 4 ได้เรียนรู้ ตัวละครแบบสมจริง ควบคู่ไปกับการสอนในตำรา และมีการบ้านปิดท้ายส่งครู

ทางด้านครูวนิดา ได้เล่าให้ฟังว่า เป็นครูภาษาไทยโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน สังกัดเทศบาลเมืองอ่างทอง ที่เรียนจบมาทางด้านนาฏศิลป์ มีคุณแม่เป็นหัวหน้าคณะละคร มีพ่อเป็นเจ้าของวงปีพาทย์ และที่ผ่านมาก็เคยเล่นละครในคณะของแม่มาตั้งแต่เด็ก โดยครั้งแรกนั้นเล่นเป็นบทลูกเมียน้อย ซึ่งตื่นเต้นมากไม่กล้าที่จะออกมา

ส่วนทางแม่ผลักให้ออกมาแสดงจึงร้องไห้ด้วยความตกใจ ทำให้คนดูแล้วสมบทบาท และเล่นละครเรื่อยมา ครั้งนี้ได้สอนออนไลน์ให้นักเรียนแบบจัดเต็ม โดยการเพิ่มเติมสีสันเข้าไปในบทเรียน เพื่อจะเป็นการเรียกให้ลูกศิษย์ได้เรียนออนไลน์ อย่างมีความสุข สนุกสนานต่อไป

 

ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/105549


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“แจ๊ส-บอล” อาสา ให้ “หมอยง” ปักเข็มวัคซีน ทำการวิจัย

จากกรณีที่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผุดโครงการวิจัยเรื่องความปลอดภัยและผลกระตุ้นภูมิต้านทานของวัคซีนโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 ในกลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน และได้โพสต์เฟซบุ๊กใจความว่า

"โควิด-19 วัคซีน ผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน เปรียบเสมือนการได้รับวัคซีน"

ถึงแม้ว่าผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน มีโอกาสติดเชื้อซ้ำ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลัง 3-6 เดือนไปแล้วการศึกษาในอิตาลีติดตามเปรียบเทียบ 2 กลุ่ม กลุ่มที่เคยติดเชื้อมาแล้ว และกลุ่มคนที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน โอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำของผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน พบว่าน้อยมาก เปรียบเสมือนผู้ที่ติดเชื้อมาก่อน มีภูมิต้านทานเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ เสมือนได้รับวัคซีนมาแล้ว

เมื่อดูภาพข้างล่างจะเห็นได้ชัดว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่ฉีด กับผู้ที่ติดเชื้อมาก่อนจึงมีลักษณะคล้ายกัน คือการติดเชื้อมาก่อนสามารถป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เท่ากับการฉีดวัคซีน Pfizer เมื่อติดตามไปจนครบ 1 ปี แต่ของวัคซีนติดตามสั้นกว่ามาก ในทางตะวันตกแนะนำให้ผู้ติดเชื้อมาแล้ว ฉีดวัคซีนได้ ในช่วง 3-6 เดือนหลังติดเชื้อ ในกรณีที่มีวัคซีนมากเพียงพอ

จากข้อมูลที่เราได้เห็น และจากการศึกษาของศูนย์ ผู้ที่ติดเชื้อมาแล้วเปรียบเสมือนได้รับวัคซีน ช่วงการติดเชื้อ ดังนั้น การจะได้รับวัคซีนอีก ขอเป็นเพียงกระตุ้น เพียงเข็มเดียวก็เพียงพอ ภูมิต้านทานจะสูงมากเพียงพอและอยู่ยาว มากกว่าคนที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน

ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลให้เราต้องทำการศึกษา การให้วัคซีนเพียงเข็มเดียว ในผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน และหลายคนยังมีข้อสงสัย เพราะต้องการได้ วัคซีน Passport ในความเป็นจริงในพาสปอร์ตควรจะบอกว่ามีการติดเชื้อมาก่อน และฉีดวัคซีนอีกเพียงเข็มเดียวก็น่าจะเพียงพอ มากกว่าที่จะต้องฉีดทั้ง 2 ครั้ง หรือถ้าบางประเทศเข้มงวดต้องฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ค่อยไปกระตุ้นก่อนเดินทางจริงซึ่งตอนนั้นวัคซีนทางเลือกมีให้มากมาย #หมอยง”

ล่าสุดวันนี้ (7 มิ.ย. 64) 2 ตลกชื่อดัง แจ๊ส ชวนชื่น และ บอล เชิญยิ้ม ที่เคยติดเชื้อโควิดและรักษาตัวจนหายดี และกลับมาชีวิตได้ตามปกติแล้วนั้น ก็ได้อาสาเข้าร่วมโครงการของ “หมอยง” โดยทั้งคู่ได้เดินทางไปที่ตึกสภากาชาดไทย พร้อมกับเผยภาพที่กำลังฉีดวัคซีน ซึ่งหมอยง เป็นผู้ปักเข็มวัคซีนให้ด้วยตัวเอง โดย แจง ปุณณาสา ภรรยาของ แจ๊ส ที่เดินทางไปกับสามีได้เผยภาพพร้อมข้อความว่า “คุณหมอยง มุขเยอะมาก มือเบามากๆ แจ๊สได้ร่วมโครงการวิจัยเรื่องความปลอดภัยและผลกระตุ้นภูมิต้านทานของวัคซีนโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 ในกลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน”

ในขณะที่ บอล ได้เผยภาพร่วมเฟรม หมอยง และได้เขียนแคปชั่นว่า “คุณหมอยง อารมณ์ดีเป็นกันเองมากครับ ผมได้ร่วมโครงการวิจัยเรื่องความปลอดภัยและผลกระตุ้นภูมิต้านทานของวัคซีนโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 ในกลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน”

 

ที่มา: https://www.pptvhd36.com/news/ข่าวบันเทิง/148988

ภาพ : IG ballyim_uri , jangjit


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ประชุมมีมติกำหนดราคากลางค่าบริการวัคซีนทางเลือก “โมเดอร์นา” ที่จะจัดซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในราคาเข็มละ 1,900 บาท หรือครบ 2 โดส จำนวน 2 เข็ม ราคา 3,800 บาท

วันที่ 7 มิ.ย.64 สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ประชุมมีมติกำหนดราคากลางค่าบริการวัคซีนทางเลือก “โมเดอร์นา” ที่จะจัดซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในราคาเข็มละ 1,900 บาท หรือครบ 2 โดส จำนวน 2 เข็ม ราคา 3,800 บาท เป็นราคารวมค่าวัคซีนและค่าบริการของโรงพยาบาลแล้ว

เบื้องต้นสมาคมโรงพยาบาลเอกชนกำหนดราคาให้บริการสำหรับประชาชนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ในอัตราเดียวกันทุกโรงพยาบาล เป็นราคาสุทธิรวมต้นทุนวัคซีน อัตราค่าบริการของโรงพยาบาล และประกันวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมดแล้ว ส่วนกำหนดส่งวัคซีนโมเดอร์นา ยังเป็นช่วงต้นของไตรมาส 4/2564 หรือช่วงเดือนต.ค. 64 โดยสมาคมโรงพยาบาลเอกชนสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์นา ผ่านองค์การเภสัชกรรมปริมาณรวม 10 ล้านโดส ซึ่งจะทยอยเข้ามาจำนวน 3 ครั้ง ล็อตแรก 4 ล้านโดสช่วงเดือนต.ค. 64 และอีก 1 ล้านโดสช่วงต้นปี 65 และที่เหลือ 5 ล้านโดส จะทยอยเข้ามาต่อเนื่อง

 

ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/regional/469546


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ดัน “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 - ทัวร์เที่ยวไทย” เริ่ม ส.ค.นี้ 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังพิจารณาแนวทางการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ค่อย ๆ คลี่คลายลง และมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเป็นส่วนใหญ่แล้ว โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว เบื้องต้นถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนในเดือนส.ค.นี้ จะเริ่มต้นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 และทัวร์เที่ยวไทย ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้กำหนดจำนวนคนร่วมโครงการเอาไว้ประมาณ 3 ล้านคน พร้อมกันนี้ยังเตรียมหามาตรการอื่น ๆ มาเสริมด้วย เพื่อจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้ตั้งเป้าหมายสตาร์ทการท่องเที่ยวในประเทศให้ได้ภายในเดือนส.ค.นี้ แต่การจะเริ่มต้นขึ้นได้จริงจัง คือต้องดูสถานการณ์ให้แน่ใจก่อน ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็ต้องไปดูเรื่องของวัคซีน โดยในช่วง 1-2 เดือนนี้ การฉีดวัคซีนจะระดมฉีดให้กับจังหวัดนำร่องต่าง ๆ ทั้ง 10 จังหวัดท่องเที่ยว รวมทั้งจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศด้วย ดังนั้นเมื่อถึงเดือน ส.ค.แล้วน่าจะมีจำนวนการฉีดวัคซีนที่มากขึ้นได้ และน่าจะเริ่มเปิดการเดินทางในประเทศ โดยตอนนี้ยังมีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และทัวร์เที่ยวไทยอยู่ คงผลักดันโครงการนั้นมาใช้ก่อน

ส่วนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากเปิดจังหวัดภูเก็ต นำร่องในวันที่ 1 ก.ค.นี้แล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังเตรียมส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว เดินทางไปเที่ยวภูเก็ตด้วย โดยภายในปลายเดือนมิ.ย. นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมลงนามความร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อดึงสมาชิกของหอการค้าทั่วประเทศ เดินทางไปเที่ยวภูเก็ตเป็นการนำร่องสร้างความมั่นใจ โดยจัดเที่ยวบินพิเศษนำสมาชิกที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเดินทางลงไปเที่ยวประมาณ 200 คน  

“ธนาธร” เทียบชัด! เปิดข้อมูลโควิดรัฐไทย-ตปท.ต่างกันฟ้ากับเหว มีไฟล์ก็โหลดไม่ได้-วอนรัฐเปิดเผยโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นประชาชน

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะะก้าวหน้า จัดเฟซบุ๊กไลฟ์รายการ “คิดไปข้างหน้ากับธนาธร” ทางเพจ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดและการจัดการวัคซีน โดยยกตัวอย่างการจัดการที่น่าสนใจจากต่างประเทศ มานำเสนอให้เห็นทิศทางการจัดการที่เหมาะสม

โดยนายธนาธร ระบุว่าเดือนมิถุนายนนี้เป็นเดือนที่สำคัญ ที่รัฐบาลไทย มีแผนที่จะฉีดวัคซีนในปริมาณมากให้แก่ประชาชน โดยมีเป้าหมายที่จะฉีดในให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน 5-6 ล้านโดส หมายความว่าในหนึ่งวันจะต้องฉีดถึง 2 แสนโดสต่อวัน และเดือนต่อๆ ไปอาจจะต้องเพิ่มศักยภาพในการฉีดไปถึง 5 แสนโดสต่อวัน 

ซึ่งหากรัฐบาลทำไม่ได้ตามแผนนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ประเทศไทยจะกลับสู่สภาวะปกติได้ช้าลงไป แต่ละวันที่ผ่านไปคือความเสียหายที่จะเกิดกับประชาชน

***ยกเคส “ดีทรอยท์” เปิดข้อมูลสารพัด เข้าถึงง่าย โหลดได้ทันที มีทุกอย่าง ตั้งแต่จำนวนวัคซีนไปถึงการใช้จ่ายของรัฐ***

โดยนายธนาธรได้ยกตัวอย่างที่น่าสนใจ คือกรณีของเมืองดีทรอยท์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่มีประชากร 6 แสนคน พื้นที่ 300 กว่าตารางกิโลเมตร หากเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของเมืองดีทรอยท์ จะเห็นได้ว่าเมื่อเข้ามาถึงจะพบกับกำหนดการฉีดวัคซีนทันที เมื่อเลื่อนลงมาดูก็จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด และข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนควรรับรู้เป็นลำดับถัดมา

จากนั้น นายธนาธรได้นำเสนอหน้าเว็บไซต์ของเมืองดีทรอยท์ พร้อมแสดงให้เห็นว่าในเว็บไซต์เพียงเว็ปเดียวนี้ มีข้อมูลทุกเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ไม่ว่าจะเป็นไทม์ไลน์ ซึ่งสามารถดูย้อนหลังได้, จำนวนเตียงที่มีอยู่และใช้ไปแล้ว ทั้งในโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม ฮอสปิเทล และห้องไอซียู, ผลการตรวจหาเชื้อในประชากร แสดงจำนวนและสัดส่วนระหว่างผลบวกและผลลบ รวมถึงแยกเป็นตามพื้นที่และประเภทการตรวจ

จำนวนผู้ป่วยแยกย่อยถึงระดับรายอำเภอและตำบล, จำนวนผู้ได้รับวัคซีนแล้ว, จำนวนวัคซีนที่ได้รับมาจากรัฐบาลกลาง ลงรายละเอียดไปถึงว่ามีวัคซีนยี่ห้ออะไรในจำนวนเท่าไหร่บ้าง, สถานที่ฉีดวัคซีนทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน มีในจุดใดบ้าง และมีวัคซีนยี่ห้ออะไรให้เลือกบ้าง, และข้อมูลนโยบายที่จูงใจให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน

นอกจากนี้ ในหน้าเว็บไซต์ยังมีการแสดงข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสถานการณ์โควิด ทั้งข้อมูลกิจกรรมที่มีการเบิกจ่าย จำนวนเงินที่มีการเบิกจ่าย ฯลฯ ที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลใช้งบประมาณไปกับอะไรบ้าง เบิกจ่ายให้กับใครไปบ้าง

ซึ่งทั้งหมด ล้วนแต่เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและสามารถเข้าดูได้ทันทีผ่านออนไลน์ โดยไม่มีการปกปิดหรือขั้นตอนที่ยุ่งยากในการเข้าดู

***เปิดเว็ปรัฐบาลไทยเทียบจะๆ ไร้ฐานข้อมูลเปิดให้ประชาชน ถึงมีปุ่มให้กดแต่ก็โหลดไม่ได้*** 

จากนั้น นายธนาธรได้ลองเข้าเว็บไซต์ของฝั่งไทยเพื่อเปรียบเทียบกัน โดยยกตัวอย่างหน้าเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งแม้จะมีอินโฟกราฟฟิก แต่ก็ไม่มีฐานข้อมูลที่ลึกและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ ไม่ว่าจะเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับมา และมีวัคซีนอะไรบ้าง รวมถึงข้อมูลประชากรที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด ซึ่งบนหน้าเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานครฯ ล้วนแต่ไม่มีข้อมูลเหล่านี้อยู่เลย

ส่วนบนหน้าเว็บไซต์ data.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ฐานข้อมูลกลางของรัฐบาล จะพบว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิดจำนวนหนึ่ง เช่นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ซึ่งสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ แต่ต้องกรอกอีเมล วัตถุประสงค์การใช้งาน และรายละเอียดของการใช้ข้อมูล

ซึ่งทำให้เห็นว่าการจะเข้าไปหาข้อมูลที่มีความสำคัญเช่นนี้ ไม่สะดวกสบายและไม่ง่ายเลยสำหรับประชาชน เมื่อเทียบกับตัวอย่างของเมืองดีทรอยท์ ที่ประชาชนสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ทุกข้อมูลในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งพาวเวอร์พอยท์และเอ็กเซล พร้อมให้ประชาชนเข้าถึงได้ในทันที

ส่วนรายงานข้อมูลด้านอื่นๆ เช่น รายงานข้อมูลโควิดในแต่ละเคส มีการแสดงผลให้ดาวน์โหลดได้ในรูปแบบ API แต่เมื่อกดเข้าไปแล้ว กลับไม่สามารถเข้าถึงหรือดาวน์โหลดได้ ขึ้นแสดงผลบนหน้าจอเป็นเพียงข้อความว่า “ไม่สามารถเปิดหน้าเว็ปนี้ได้ เนื่องจากเซิฟเวอร์หยุดการโต้ตอบ”

***ธนาธรโทรเอง! ต่อ DGA ขอทางเข้าถึงข้อมูลวัคซีน สุดท้ายได้คำตอบ “โหลดไม่ได้เหมือนกัน” ***

จากนั้น นายธนาธร ได้กดโทรศัพท์ไปสอบถามวิธีการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ซึ่งเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ ซึ่งต้องพบกับข้อความอัตโนมัติให้กดเบอร์ภายในหรือกดเลือกติดต่อกับโอเปอเรเตอร์ โดยนายธนาธรเลือกกดติดต่อโอเปอเรเตอร์เพื่อสอบถามการเข้าถึงข้อมูล เจ้าหน้าที่ได้โยนให้นายธนาธรติดต่อไปที่อีกเบอร์หนึ่งแทน

ซึ่งนายธนาธรได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับมา ซึ่งเป็นส่วนของ DGA Contact Center ก็ต้องพบกับระบบข้อความอัตโนมัติเหมือนเดิม และเมื่อติดต่อกับโอเปอเรเตอร์ได้แล้ว นายธนาธรได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามถึงการเข้าถึงข้อมูลเป็นระยะหนึ่ง ก่อนที่จะได้รับคำตอบว่าข้อมูล API ดังกล่าวไม่สามารถดาวน์โหลดได้ และทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ก็ไม่สามารถช่วยให้นายธนาธรเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ด้วยเช่นกัน นายธนาธรจะสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะข้อมูลที่มีหน้าแสดงผลขึ้นมาให้ดาวน์โหลดได้เท่านั้น พร้อมแนะนำให้นายธนาธรติดต่อไปขอข้อมูลจากกรมควบคุมโรคโดยตรงแทน

นายธนาธร จึงได้สอบถามกลับไปว่าถ้าไม่ให้ดาวน์โหลดแล้วเหตุใดจึงมีแท็บให้กดดาวน์โหลด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตอบกลับว่าข้อมูลในส่วนนี้ ตนทราบเพียงว่าทางกรมควบคุมโรคเป็นผู้นำมาลงในเว็บไซต์ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดว่าเหตุใดจึงไม่อนุญาตให้ดาวน์โหลดได้ และทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลก็ไม่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้เช่นเดียวกัน

***วอนรัฐบาลปรับปรุงการทำงาน เปิดข้อมูลทุกด้าน สร้างความเชื่อมั่นประชาชน จูงใจประชาชนรับวัคซีน***

หลังจากวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว นายธนาธรได้กล่าวต่อไป ว่าจากการค้นหาเพิ่มเติม ตนก็พบว่าความจริงภาครัฐก็มีการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนอยู่บ้าง ในเรื่องของการเก็บรักษา การกระจาย และจำนวนสต็อกวัคซีนเช่นกัน เช่น บนเว็บไซต์ของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม

แต่เมื่อลงไปดูในรายละเอียด ก็จะพบได้ว่าฐานข้อมูลที่นำมาแสดงยังน้อยเกินไป ไม่มีการอัพเดทให้เท่าทันสถานการณ์ ไม่มีการเปิดเผยอย่างกว้างขวางให้ประชาชนได้รับรู้ว่ามีฐานข้อมูลนี้ หนำซ้ำข้อมูลบางอย่างก็ไม่ตรงกันเอง บ้างก็ขัดแย้งกันเองด้วย

นายธนาธรกล่าวต่อไป ว่าเรื่องของการเปิดเผยข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก เพราะรัฐบาลที่มีความใส่ใจในประชาชนอย่างแท้จริง ย่อมต้องให้ความสำคัญและมีความพยายามอย่างมากในการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับวัคซีน ไม่ว่าจะเรื่องของจำนวนที่มีอยู่ ยี่ห้ออะไรบ้าง ฉีดไปแล้วเท่าไหร่ในแต่ละพื้นที่ เหลือวัคซีนอยู่เท่าไหร่ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อแยกย่อยเป็นรายพื้นที่

การเปิดเผยข้อมูลเช่นนี้จะทำให้คนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล และยังทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย เข้าถึงข้อมูลได้หมด ซึ่งจะนำไปสู่การชักจูงให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนมากขึ้น เพราะมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล

วัตถุประสงค์ของการฉีดวัคซีน คือการฉีดให้เยอะที่สุดและเร็วที่สุด ที่จะทำให้เกิดการป้องกันการแพร่ระบาดและการเสียชีวิตของประชาชน ซึ่งจะทำอย่างนี้ได้รัฐบาลต้องให้ข้อมูลกับประชาชนให้มากที่สุด ทำให้ประชาชนไว้ใจรัฐบาลและได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น

“อยากฝากถึงรัฐบาล ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่ผมนำเสนอไม่ได้เกินความสามารถ ใช้แล้วในหลายเมืองทั่วโลก ประเทศไทยก็มีศักยภาพที่จะทำได้ ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจในการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้กับประชาชน ประชาชนจะได้ไม่ต้องมาสับสนกันว่าตกลงตอนนี้วัคซีนรับมาเท่าไหร่แล้ว มีอยู่ในมือเท่าไหร่ จะต้องไปลงทะเบียนที่ไหน ก็หวังว่ารัฐบาลจะมีการปรับปรุงกระบวนการตรงนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วที่สุด ประชาชนจะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อการยืดเยื้อของสถานการณ์โควิดเช่นนี้” นายธนาธรกล่าวทิ้งท้าย

กลุ่มชาวเขา ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้ เนื่องจากไม่มีสถานะทางทะเบียนแม้ว่าบางคนจะเป็นผู้สูงอายุ เกือบ 80 ปี รวมถึงบางคนที่เกิดในประเทศไทยแต่ไม่มีบัตรประชาชน วอน!! ต้องการเข้าถึงวัคซีนป้องกันไวรัส ชี้!! ที่ผ่านแม้แต่วัคซีนไข้เลือดออกก็ไม่เคยได้สิทธิ์ 

หลังจากในจังหวัดเชียงราย ประชาชนส่วนใหญ่ได้ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ทั้งทางแอปพลิเคชันหมอพร้อม หรือลงทะเบียนด้วยตัวเองตามจุดต่างๆ และทำให้ในวันนี้ (7 มิ.ย. 64 ) ได้เริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงแล้ว

 แต่ในอีกมุมหนึ่ง พิกัดเดินทางห่างจากตัวเมืองเพียง 1 ชั่วโมง กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่บ้าน ‘เฮโก’ (ชนชาวเขาเผาลีซู) ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่มีประชากรประมาณ 400 คน บ้านเรือน 50 หลังคาเรือน เป็นหมู่บ้านชาวเขาที่มีฐานะยากจน มีอาชีพหลักคือทำเกษตรและหาของป่า อยู่บริเวณเส้นทางผ่าน จากบ้านกิ่วสะไต ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ไปดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย กำลังถูกตกสำรวจจากการฉีดวัคซีน

นายอาหลู งัวยา อายุ 50 ปี ผู้นำชุมชนหมู่บ้านเฮโก กล่าวว่า ในหมู่บ้านมีประชากรประมาณ 400 คน ซึ่งในส่วนนี้มีผู้ที่ไม่มีบัตรประชาชนหรือสถานะทางทะเบียนประมาณร้อยละ 10 หรือประมาณ 40 คน ทว่าในกลุ่มนี้เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาตั้งแต่เกิด แต่มีการตกสำรวจในช่วงแรกๆ ทำให้ไม่ได้มีสิทธิ์หรือสถานะทางทะเบียน รวมไปถึงทายาทที่เกิดตามมา

โดยในกลุ่มนี้มีความต้องการที่จะฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 เช่นกัน เพราะเขาเองก็ต้องเดินทางเข้าไปในชุมชน หรือ ตัวเมือง อ.แม่จัน เพื่อนำผลผลิตไปจำหน่าย หรือไปทำงานรับจ้าง แต่ก็กลัวที่จะติดไวรัสโควิด-19 แต่เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ไม่ได้สิทธิ์ในการช่วยเหลือจากทางภาครัฐ ทั้งการเยียวยาจากการเสียรายได้ สิทธิ์สวัสดิการต่างๆ แม้กระทั่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า ก็ตาม

"ก่อนหน้านี้ที่มีการระบาดในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทางหมู่บ้านก็ได้มีการปิดหมู่บ้านไม่ให้มีการเข้า-ออก เพื่อป้องกันคนนอกหมู่บ้านเข้ามาและนำเชื้อไวรัสเข้ามาติดในหมู่บ้าน ซึ่งในขณะนี้การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย ชาวบ้านต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงชีพหลังจากที่ปิดหมู่บ้านมากว่า 1 เดือน แต่ก็ไม่กล้าที่จะออกไปนอกหมู่บ้าน เพราะไม่มีสิทธิ์รับวัคซีนจากภาครัฐ แม้ว่าจะมีข่าวให้เอกชนนำวัคซีนเข้ามาได้ ก็ไม่สามารถหามาฉีดได้ เพราะไม่มีเงินซื้อเอง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลกลุ่มดังกล่าวด้วย" ผู้นำชุมชนบ้านเฮโก กล่าว

 

ที่มา: ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ผู้นำคนพิการ’ แสดงความยินดี และนำเสนอนโยบายด้านคนพิการ กับ ‘นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองชาก’ จังหวัดชลบุรี

นายณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก และรองนายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยพี่น้องประชาชนคนพิการที่อาศัยอยู่ในเขตตำบลหนองซาก เข้าพบ นายยงยุทธ สิทธิภานุวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองชาก และ นายคมกริช สิงห์โตทอง รองนายกเทศมนตรีฯ เพื่อแสดงความยินดี และคารวะ ในการที่ท่านได้รับเลือกตั้ง เป็นผู้บริหารเทศบาลชุดใหม่

ในการนี้ ‘ผู้นำคนพิการ’ ยังได้มีการปรึกษาหารือ พูดคุยเกี่ยวกับ นโยบายด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการในเขตตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ที่จะร่วมมือกับ ‘องค์กรคนพิการระดับชาติ’ ช่วยกันส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ ด้านต่างๆ อาทิ เช่นด้านการศึกษา ด้านอาชีพด้านความเป็นอยู่ ด้านสาธารณะสุข และอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์กับคนพิการ

อีกทั้ง ‘ผู้นำคนพิการ’ ยังหารือเกี่ยวกับการจัดตั้ง ‘ชมรมคนพิการเทศบาลตำหนองชาก’ เพื่อเป็นศูนย์บริการและให้การช่วยเหลือในด้านต่างๆ กับคนพิการในเขตพื้นที่ให้ได้รับความอำนวยสะดวกต่างๆ อย่างเท่าเทียมกับบุคคลอื่นต่อไป

นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยมติ ครม. ที่ได้อนุมัติค่าตอบแทนแก่ ‘อสม.ลำปาง’ และ ‘อสม.ทั่วประเทศ’ ต่ออีก 3 เดือน โดยจะเริ่มในเดือน ก.ค. 2564 นี้

จังหวัดลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยมติ ครม. ที่ได้อนุมัติค่าตอบแทนแก่ ‘อสม.ลำปาง’ และ ‘อสม.ทั่วประเทศ’ ต่ออีก 3 เดือน โดยจะเริ่มในเดือน ก.ค. 2564 นี้

ทั้งนี้ ครม. ได้อนุมัติโครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.อีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. 2564 วงเงินรวมไม่เกิน 1,575.4950 ล้านบาท เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีแก่ อสม. ผู้ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในชุมชน ซึ่งที่ผ่านมา อสม. ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติมอย่างถ้วนหน้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.2563-มิ.ย 2564 เป็นระยะเวลา 16 เดือน กรอบวงเงินรวม 8,348.6965 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติในอนาคต และกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเติม ก็สามารถขอรับเงินค่าตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่ อสม. เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน อสม. ได้ต่อไป

 

ที่มา: ภาวินันท์ บุตรหล้า


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ เผย เครื่องดื่มน้ำแข็ง รับประทานได้เหมือนเดิม แต่กระบวนการผลิตต้องสะอาด

จากกรณีพบการติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ที่โรงงานน้ำแข็งที่จังหวัด สมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี ทำให้หลายคนมีความกังวลในเรื่องของการบริโภคน้ำแข็งอยู่ไม่น้อย นายแพทย์นนท์ จินดาเวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ได้ออกมาเตือนประชาชนควรงดการบริโภคน้ำแข็งโดยตรง เช่น ใส่กับเครื่องดื่ม หรือขนมหวาน เพราะมีความเป็นไปได้ที่เชื้อจะอาศัยอยู่ในน้ำแข็งได้นานกว่าอุณหภูมิปกติ หากน้ำแข็งนั้นมีการปนเปื้อน

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีที่ชาวบ้านกังวลว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจจะติดมากับน้ำแข็งได้นั้นขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทางอาหารและน้ำ แต่อาจจะติดเชื้อจากบรรจุภัณฑ์ที่ใส่น้ำแข็งมากกว่า หากกระบวนการผลิตไม่สะอาดก็อาจจะมีเชื้อโควิด-19 ติดมากับน้ำแข็งได้ ซึ่งเชื้อโควิด-19 นั้นมีโอกาสอยู่ในน้ำแข็งได้นาน 2-3 วัน

ล่าสุด นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เคยระบุไว้ว่า โรคโควิด-19 ไม่ติดต่อทางการกินอาหาร เหมือนกับ โรคติดต่อทางการกินอาหาร หรือการดื่มน้ำ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ A, โรคท้องร่วงจากโนโรและโรตาไวรัส ทั้งนี้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อหลักๆ ทางการหายใจ ดังนั้น คลัสเตอร์ โรงงานต่างๆ รวมถึงเรือนจำ ที่อยู่อย่างแออัดและไม่มีการระบายอากาศที่ดีพอ จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เชื้อโควิด-19 ได้ง่าย ส่วนอาหารแช่แข็ง อาหารสด อาหารญี่ปุ่น เครื่องดื่มน้ำแข็ง รับประทานได้เหมือนเดิม แต่กระบวนการผลิตต้องสะอาดปลอดภัยได้มาตรฐาน จะปลอดภัยจากทุกเชื้อโรค

 

ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/regional/469483


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สหรัฐฯ มีแผนสำหรับบริจาควัคซีนโควิด-19 ในเบื้องต้น 7 ล้านโดส จากทั้งหมด 80 ล้านโดส แก่ประเทศต่างๆ ในเอเชีย ในนั้นรวมถึงมาเลเซีย และไทย รัฐบาลอเมริการะบุในเอกสารข้อเท็จจริงที่เผยแพร่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในเอกสารข้อเท็จจริงที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาว ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า มีแผนแบ่งปันวัคซีนโควิด-19 ของอเมริกาแก่ทั่วโลก อย่างน้อย 80 ล้านโดส ในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน โดยชุดแรกจะมีประมาณ 25 ล้านโดส

เอกสารระบุว่า เกือบ 19 ล้านโดส หรืออย่างน้อย 75% ของวัคซีนชุดแรก 25 ล้านโดส จะเป็นการแบ่งบันผ่านโครงการโคแว็กซ์

แผนการจัดสรร 19 ล้านโดสของสหรัฐฯ นั้น ในนั้นราวๆ 7 ล้านโดสจะมอบแก่ประเทศต่างๆ ในเอเชีย อาทิ มาเลเซีย อินเดีย เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา อัฟกานิสถาน มัลดีฟ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ลาว ปาปัวนิวกินี ไต้หวันและหมู่เกาะแปซิฟิกทั้งหลาย

นอกจากนี้แล้ว เอกสารข้อเท็จจริงระบุด้วยว่า อีกจำนวน 6 ล้านโดสในวัคซีนเกือบ 19 ล้านโดส จะมอบแด่ประเทศต่างๆ ในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง และราว 5 ล้านโดส มอบแก่ชาติต่างๆ ในแอฟริกา ซึ่งจะเป็นการเลือกภายใต้ความร่วมมือกับสหภาพแอฟริกา

ส่วนที่เหลืออีกเกือบๆ 25% ของวัคซีนชุดแรก 25 ล้านโดส หรือคิดเป็นราวๆ 6 ล้านโดส มีเป้าหมายส่งมอบแก่ภูมิภาคต่างๆ ตามลำดับความสำคัญและความเป็นพันธมิตร โดยผู้ได้รับจะรวมไปถึง เม็กซิโก แคนาดา เกาหลีใต้ เวสต์แบงก์ ฉนวนกาซา ยูเครน โคโซโว เฮติ จอร์เจีย อียิปต์ จอร์แดน อินเดีย อิรัก และเยเมน เช่นเดียวกับบรรดาเจ้าหน้าที่แนวหน้าของสหประชาชาติ

เอกสารข้อเท็จจริงระบุว่า โครงการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ชุดแรก 25 ล้านโดส ที่สหรัฐฯ มีแผนแบ่งปันกับทั่วโลก เวลานี้เหลือเพียงขั้นตอนเห็นชอบทางกฎหมายและผู้ควบคุมกฎระเบียบเท่านั้น

สหรัฐฯ บอกว่า จะดำเนินการอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ภายใต้การปฏิบัติตามข้อบังคับทางกฎหมายและกฎระเบียบของทั้งสหรัฐฯ เองและเหล่าประเทศเจ้าบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกการส่งมอบวัคซีนแก่นานาชาติอย่างปลอดภัยและวางใจได้

แม้กระบวนการนี้จะต้องใช้เวลา แต่ในเอกสารข้อเท็จจริงระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สั่งการรัฐบาลอเมริกาให้ใช้ทุกหนทางปกป้องผู้คนจากไวรัสโควิด-19 เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ในเอกสารข้อเท็จจริงระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะทำมากกว่าการให้เงินทุนสนับสนุนโครงการโคแว็กซ์ และจะบริจาคเสบียงวัคซีนโควิด-19 ของพวกเขาแก่ทั่วโลก และจะสนับสนุนประเทศอื่นๆ ให้บริจาควัคซีนแบบเดียวกัน รวมถึงจะทำงานกับบรรดาผู้ผลิตสัญชาติสหรัฐฯ ในการเพิ่มกำลังผลิตวัคซีนโควิด-19 เพื่อส่วนอื่นๆ ของโลก และจะช่วยประเทศต่างๆ เพิ่มเติมในการขยายศักยภาพด้านการผลิตวัคซีน

ทั้งนี้ ในรายละเอียดแผนแบ่งปันวัคซีนแก่ทั่วโลก 80 ล้านโดสของสหรัฐฯ เอกสารข้อเท็จจริงระบุว่า 75% จะเป็นการจัดสรรผ่านโครงการโคแว็กซ์ ส่วนที่เหลืออีก 25% จะเป็นการแบ่งปันตามความจำเป็นเร่งด่วน และช่วยชาติต่างๆ ที่กำลังเผชิญเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูง

 

ที่มา: มาเลเซียเมล์

https://mgronline.com/around/detail/9640000054662


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กลายเป็นอีกประเด็นที่น่าติดตามเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน หลังจากผู้คนกว่า 3 หมื่นรายในสิงคโปร์ หันมารอฉีด Sinovac เนื่องจากพบผู้ที่มีอาการข้างเคียงรุนแรงกว่า 2 พันคน จากผู้ฉีดเข็มแรกของ Pfizer และ Moderna

จากเฟซบุ๊ก Pat Sangtum ของคุณแพท แสงธรรม นักวิชาการอิสระ ด้าน Communication Facilitator และอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในอีกหลายแขนง ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...

ภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis)

ผู้คนกว่า 3 หมื่นในสิงคโปร์ รอฉีด Sinovac หลังจากพบผู้ที่มีอาการข้างเคียงรุนแรงกว่า 2 พันคน จากผู้ฉีดเข็มแรกของ Pfizer และ Moderna ไปแล้ว

สิงคโปร์ มีวัคซีนของ Sinovac ร่วม 2 แสนโดส แต่ยังไม่ผ่านการรับรองของสาธารณสุขสิงคโปร์ หรือกรมวิทยาศาสตร์สุขภาพ ถึงกระนั้นก็จะปล่อยสต็อก Sinovac ให้นำไปใช้ได้ ผ่านมาตรการพิเศษ โดยไม่คิดค่าวัคซีน แต่อนุญาตให้โรงพยาบาลและคลินิกเรียกเก็บเงินค่าบริการการฉีดได้ โดยจะจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้รับวัคซีนในภายหลัง

สำหรับอาการที่พบในผู้มีอาการแพ้หลังจากฉีด mRNA ได้แก่ อาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน ดังนั้นผู้ที่มีอาการภูมิแพ้รุนแรงอยู่แล้ว จึงต้องเลี่ยงการใช้วัคซีนชนิด mRNA

แต่ต่อมาไม่นาน สาธารณสุขสิงคโปร์ ก็ได้ยกเลิกคำสั่งนี้ไป

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับวัคซีน mRNA ของ Pfizer และ Moderna ไปแล้วเข็มแรก และเกิดอาการภูมิแพ้ จะไม่ถูกบังคับให้ฉีดเข็มที่สอง และเปลี่ยนไปใช้ Sinovac แทนได้

ทั้งนี้ เดิมที Sinovac ไม่ได้อยู่ในแผนวัคซีนของสิงคโปร์ และผู้ที่เลือก Sinovac จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง แต่เมื่อ WHO รับรอง Sinovac แล้ว ทางสาธารณสุขสิงคโปร์ จึงบรรจุ Sinovac เข้าไว้ในแผนวัคซีนของชาติ และจ่าย Sinovac ให้ฟรี

สำหรับอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis) คือ อาการภูมิแพ้ที่มีปฏิกิริยารุนแรงอย่างเฉียบพลัน เมื่อร่างกายได้รับสารกระตุ้นบางอย่าง เช่น อาหารหรือยาบางชนิด แมลงกัดต่อย หรือสารอื่นๆ เนื่องจากระบบภูมิต้านทานของบุคคลนั้นไวต่อสารกระตุ้นดังกล่าวมากกว่าคนปกติ

ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4138315072873291&id=100000845184675


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top