Friday, 9 May 2025
NEWS FEED

'หมออั้ม' เผย!! ควรกวาดล้าง 'กลุ่มตลาดฯ' พฤติกรรมปลุกปั่นชัด ชี้!! ไม่ใช่กลุ่มเห็นต่าง แค่ผู้เกลียดชังที่ชอบนั่งเทียน ให้ร้ายผู้อื่น

ไม่นานมานี้ 'หมออั้ม' อิราวัต อารีกิจ อดีตนักร้องชื่อดังและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ออกมาวิจารณ์ 'กลุ่มตลาดฯ' ที่คาดว่าน่าจะหมายถึง 'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส' ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักมีการแชร์และเผยแพร่ข้อความหมิ่นสถาบันฯ โดยมีนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นแอดมิน ไว้ว่า...

"กลุ่มตลาดฯ อะไรเนี่ย ควรกวาดล้างเอาผิดนะครับ เพราะมันไม่ใช่แค่การเห็นต่าง หรือวิจารณ์ด้วยความชอบ แต่มันเป็นการนั่งเทียน ปลุกปั่นให้ร้ายผู้อื่น ด้วยความเกลียดชัง"

อีกทั้งยังเขียนข้อความระบุว่า "คิดเอาเองละกัน แอดมินมันยังเอาตัวไม่รอด"

ขณะที่ คุณโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ก็ได้เข้ามาร่วมความคิดเห็นด้วยว่า "ควรถูกปิดนานแล้ว เปิดไว้ล่อแมลงเม่า พอมีคดีก็ปั่นต่อวนไป เลวจริง"

หนุ่มโพสต์ขาย บ้านสุดชิค 4 ชั้น 8 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ ติดห้างดัง  ชาวเน็ต ชี้!! นี่คือทำเลทอง เหมาะเปิด ‘คาเฟ่-ร้านอาหาร-ผับ-บาร์’ 

(3 มิ.ย.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ ‘Aood Narongrit’ ได้โพสต์ประกาศขายตึก สูง 4 ชั้น 8 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ ทำเลติดห้างดัง ราคา 18 ล้านบาท ผ่านเพจ ‘บ้านมือสอง ราคาดี กรุงเทพฯและปริมณฑล ลงประกาศขายและรับซื้อฟรี’ ระบุข้อความว่า

ขายตึก 4 ชั้น 14 ตารางวา 8 ห้องนอน 8 ห้องน้ำในตัว ลาดพร้าวซอย 1 เข้าไป 300 เมตร ติดลานจอดรถ ห้างยูเนี่ยนมอลล์ ตรงข้าม เซ็นทรัลลาดพร้าว

ราคา 18,000,000 บาท (ต่อรองได้ครับ) ซื้อขาย หรือทำสัญญาฯรีโนเวทได้หมด พร้อมรับข้อเสนอครับ

หลังจากโพสต์เผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น หลากหลายแนวคิดแตกต่างกันไป ทั้งคนที่บอกว่า ราคาไม่คุ้มกับสภาพตึก

แต่ขณะเดียวกัน ก็มีอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ทำเลนี้ ราคาเท่านี้ถือว่าปกติ อาทิ

น่าจะราคาที่ดิน ไม่ใช่ราคาตึก เพราะตึกน่าจะต้องทุบ ถ้าจะรีโนเวทต้องให้วิศวกรมาตรวจ ดูจากชั้น 4 คือ ต่อเติมใหม่อีก เอาอิฐมาก่อเอง โดยไม่ได้คำนึงถึงโหลด

ลาดพร้าว ซอย 1 ราคานี้ คือปกติครับ ไม่นับเรื่องสิ่งปลูกสร้าง ซอย 1 เป็นตลาด ตั้งแต่ปากซอยยันกลางซอย แถมปากซอย มีห้าง ติด MRT ด้วย ทำเลดี

ซื้อมารีโนเวททำคอนโดไม่น่าได้ เต็มที่อาจเหมาะมารีโนเวททำแนว box hostel เกร๋ๆ ทำเลดูจะเวิร์กอยู่ ไม่จำเป็นต้องมีที่จอด เน้นลูกค้าแบ๊กแพคเกอร์

ที่ตรงนี้ราคาประเมินไม่เท่าไร แต่ราคาซื้อ-ขาย สูงมาก มีแต่ราคาจะสูงขึ้น คนมาลงทุนเขาย่อมมองการณ์ไกล มากกว่าเห็นตึกตามภาพ

ถ้าพูดถึงทำเล ลาดพร้าว ซอย 1 ทำเลดีนะคะ ราคาไม่แพงเลย เราว่าถูกมากด้วย ติดยูเนี่ยน เซ็นลาด คอนโดเยอะมาก ทำคาเฟ่สวยๆได้เลย หรือจะเปิดเป็นร้านเหล้า ผับ บาร์ ก็ยังได้เลย

เดินเข้าไม่ไกลเท่าไหร่ด้วย แต่ค่ารีโนเวทก็น่าจะเท่ากับราคาซื้อเหมือนกัน แต่ถ้าคิดว่ามันจะได้ทุนคืนก็ซื้อน่าจะปัง แต่น่าจะขายแค่ที่ดินดีกว่าค่ะ สภาพตึกมันโทรมมาก

‘มาดามแป้ง’ เผย ‘นักเตะทีมชาติไทย’ ไร้ปัญหาการปรับตัวที่ ‘จีน’ ดูแลอย่างดี!! ‘ที่พัก-อาหาร-การเดินทาง’ เพื่อพร้อมลุยบอลโลก

(3 มิ.ย.67) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่าในส่วนของเรื่องนอกสนาม ทีมชาติไทย มีความพร้อมเต็มที่ โดยไม่มีปัญหาต้องปรับตัวที่ประเทศจีน ทั้งในแง่สภาพอากาศ และ อาหารการกิน เพราะมีเชฟคนไทยคอยประจำทุกวัน ก่อนเกมสำคัญ เตรียมพบกับ ทีมชาติจีน ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5

มาดามแป้ง นายกสมาคมฯ มีนโยบายให้ความสำคัญเรื่องนอกสนามเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้ ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทีมชาติ เดินทางมาตรวจเช็คความพร้อม ที่พัก , สนามซ้อม และ สนามแข่งขัน ล่วงหน้า ส่วนการบินมาที่ เมืองเสิ่นหยาง ครั้งนี้ ยังได้ประสานกับทาง TOA ช่วยอำนวยความสะดวก เดินทางแบบเช่าเหมาลำ ทั้งไปและกลับด้วย

มาดามแป้ง กล่าวว่า เรื่องนอกสนาม เป็นสิ่งที่ พูดอยู่เสมอว่าเราให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเชื่อว่าถ้านอกสนามเราพร้อมเต็มที่ ก็จะส่งผลดีต่อฟอร์มการเล่นในสนาม และ ช่วยให้ทีมโค้ชอิชิอิ เค้นศักยภาพ และ ทำงานร่วมกับนักเตะได้ง่ายขึ้น
 
“ทีมชาติไทย เดินทางถึงเมืองเสิ่นหยาง เป็นที่เรียบร้อย ในฐานะนายกสมาคมฯ ต้องขอบคุณ TOA อีกครั้ง ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ ส่วนในแง่การปรับตัวด้านอื่น ๆ เท่าที่ แป้ง พูดคุยกับโค้ชอิชิอิ ก็ไม่มีปัญหา เพราะสภาพอากาศ ไม่ต่างจากที่ไทย , เวลาต่างกันแค่ 1 ชั่วโมง และ สนามซ้อมก็อยู่ในสภาพที่ดี รวมถึง ที่พัก ก็มีเชฟไทยคอยประจำทุกวัน ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเราส่งเจ้าหน้าที่ มาเช็คล่วงหน้า ยืนยันว่าทุกคนแฮปปี้ กินอิ่มหลับนอนได้เต็มที่ ก่อนเกมสำคัญ ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้“ มาดามแป้ง กล่าวปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีโปรแกรมต้องทำการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5 พบกับ ทีมชาติจีน ที่ เสิ่นหยาง โอลิมปิก เซ็นเตอร์ สเตเดียม ประเทศจีน วันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ต่อด้วยเปิดบ้านพบกับทีมชาติสิงคโปร์ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสด ไทยรัฐ ทีวี ทั้งสองนัด

‘ไทย’ ติดอันดับ 2 ประเทศที่มีสถาปัตยกรรม สวยที่สุดในเอเชีย ชี้!! ‘บ้านจิม ทอมป์สัน-ปราสาทสัจธรรม’ เป็นสถานที่ยอดนิยม

(3 มิ.ย.67) ประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยว ตึกรามบ้านช่อง และสถาปัตยกรรมสวยๆ มากมาย ทั้งคนไทยและต่างชาติต่างก็อยากเดินทางเข้ามาชมด้วยตัวเอง ซึ่งความสวยงามของสถาปัตยกรรมในไทยนี้ ล่าสุดก็เพิ่งได้รับการจัดอันดับให้ติดอยู่ในรายชื่อ 10 อันดับประเทศที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดในเอเชีย

InsidersMonkey เว็บไซต์ด้านการเงินของสหรัฐอเมริกา มีการจัดอันดับประเทศที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดในทวีปเอเชียประจำปี 2024 โดยสถาปัตยกรรมในเอเชียนั้นมีชื่อเสียงเป็นพิเศษในด้านการผสมผสานระหว่างการออกแบบร่วมสมัย และเทคนิคของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม จากการมอบรางวัลด้านสถาปัตยกรรมในหลายๆ รางวัล ก็ปรากฏว่ามีสถาปนิกชาวเอเชียได้รับรางวัลเป็นจำนวนมากในแต่ละปี รวมถึงอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในเอเชีย ก็ได้รับรางวัลด้วยเช่นกัน

โดยการคัดเลือกและจัดอันดับประเทศที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดในทวีปเอเชียประจำปี 2024 ทางเว็บไซต์ InsidersMonkey มีการเก็บรวบรวมข้อมูล งานวิจัย การจัดอันดับต่างๆ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2023 ของแต่ละประเทศ จากสมมติฐานคือประเทศที่มีสถาปัตยกรรมที่ดีจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก ซึ่ง 10 อันดับประเทศที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2024 มีดังนี้

1. จีน - Wang Shu สถาปนิกชาวจีน ได้รับรางวัล Pritzker Prize ในปี 2012 นอกจากนี้ จีนยังได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามใน International Architecture Awards ประจำปี 2023 โดยกวาดรางวัลมาแล้วกว่า 19 รางวัล สถานที่ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ Guangzhou Julong Bay Civic Center, Radisson Collection Resort Hotel และ Zhuji Historical Memorial Hall รวมถึง พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งพระราชวังต้องห้ามเป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีนที่ได้รับคะแนนสูงสุดใน Trip Advisor

2. ไทย - หนึ่งในประเทศในเอเชียที่มีสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุด Trip Advisor มีสถานที่ติดอันดับยอดนิยมหลายแห่งในประเทศ เช่น บ้านจิม ทอมป์สัน และปราสาทสัจธรรม นอกจากนี้ พัทยา ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 7 ของ Trip Advisor ในปี 2567

3. ญี่ปุ่น - ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2024 สถาปนิกชาวญี่ปุ่นได้รับรางวัล Pritzker Prize เป็นเวลา 5 ปี นอกจากนี้ โตเกียวยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมประจำปี 2024 ใน Trip Advisor เมืองนี้ยังติดอันดับจุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรมสิบอันดับแรกที่จัดอันดับโดยบริษัทในญี่ปุ่น

4. มาเลเซีย - ตึกแฝดปิโตรนาสในกัวลาลัมเปอร์ มีรีวิวมากกว่า 30,000 รายการใน Trip Advisor

5. อินเดีย - ทัชมาฮาลในอินเดียเป็นหนึ่งในอาคารทางสถาปัตยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาคารสถาปัตยกรรมอันดับหนึ่งในเอเชียโดย Trip Advisor จากรีวิวและการให้คะแนน

6. ฮ่องกง - Trip Advisor ให้คะแนนพระใหญ่เทียนถาน เป็นอาคารทางสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดอันดับที่ 6 ในเอเชีย จัดอันดับตามรีวิวของนักท่องเที่ยว และยังได้รับรางวัล Travellers Choice Award ในปี 2023 อีกด้วย

7. มาเก๊า - สถาปัตยกรรมของมาเก๊าได้รับอิทธิพลจากจีนและโปรตุเกส สถานที่สำคัญทางสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง เช่น ซากโบสถ์เซนต์ปอล มาเก๊าทาวเวอร์ และแกรนด์ลิสบัว

8. เวียดนาม - ได้รับการกล่าวถึงหลายครั้งในงานประกาศรางวัลสถาปัตยกรรมนานาชาติประจำปี 2023 สถานที่ชนะเลิศ ได้แก่ บ้านชุมชน Calm Casamia พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา Bat Trang และโรงเรียน Lung Vai

9. เกาหลีใต้ - เป็นจุดหมายปลายทางมาแรงดันอับสองของ Trip Advisor ในปี 2024 สถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกกล่าวถึง ได้แก่ หอคอย N Seoul พิพิธภัณฑ์พระราชวังเคียงบกกุง และพระราชวังชังด็อกกุง ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

10. ไต้หวัน - มีตึกที่โดดเด่นคือ ตึกไทเป 101 ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในไต้หวัน ได้รับรางวัล Travellers' Choice Award จาก Trip Advisor ในปี 2023

‘การรถไฟฯ’ จัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว ‘กรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา’ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมฯ

(3 มิ.ย.67) การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ – ชุมทางฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระราชินี 3 มิถุนายน 2567 โดยมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว พร้อมด้วยผู้บริหารฯ เจ้าหน้าที่ ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมภายในงาน ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2567 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้วยพระราชหฤทัยมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 

ทั้งนี้ ในการจัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยวครั้งนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้ประชาชน ได้ร่วมเดินทางในเส้นทางรถไฟประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – ชุมทางฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และร่วมสัมผัสประสบการณ์การเดินทางครั้งสำคัญโดยรถไฟ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 6 โอกาสพิเศษที่การรถไฟฯ ได้นำหัวรถจักรไอน้ำ รุ่นแปซิฟิก หมายเลข 824  และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว จำกัด  มาเปิดให้บริการแก่ประชาชนในวันสำคัญของทุกปี ประกอบด้วย

1. วันที่ 26 มีนาคม วันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ

2. วันที่ 3 มิถุนายน วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เส้นทางกรุงเทพ – ชุมทางฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ

3. วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ

4. วันที่ 12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เส้นทางกรุงเทพ – ชุมทางฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ

5. วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ

6. วันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – ชุมทางฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ

สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสร่วมเดินทางในครั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เตรียมจัดกิจกรรมนั่งรถจักรไอน้ำท่องเที่ยวขบวนประวัติศาสตร์ ทริปถัดไป ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เส้นทางกรุงเทพ -  อยุธยา - กรุงเทพ โดยจะเริ่มเปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป ผู้โดยสารสามารถติดตามข่าวสาร และโปรแกรมท่องเที่ยวต่าง ๆ แบบเช้าไปเย็น หรือพักค้างคืนได้ที่เพจเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมพีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย และสามารถติดต่อซื้อตั๋วและสำรองที่นั่งล่วงหน้าด้วยระบบ D-Ticket หรือสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง 

‘โยมแม่’ เจอหน้า ‘เจ้าอาวาส’ หลังพลัดพรากกันมา 37 ปี สุดตื้นตัน!! ต่างคนต่างก้มกราบ สร้างความประทับใจ

(3 มิ.ย.67) เป็นอีกเหตุการณ์ที่สร้างความตื้นตันใจและสร้างความประทับใจ เมื่อผู้ใช้ติ๊กต็อก ‘siriskyblue’ โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่โยมแม่ที่พลัดพรากจากลูกชายถึง 37 ปี ก่อนมีโอกาสได้เจอหน้าลูกชายอีกครั้ง พบบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง

ความประทับใจและโมเมนต์ดีๆ ครั้งนี้ โดยคลิปดังกล่าวโยมแม่ที่ตามหาลูกชายที่พลัดพรากกันถึง 37 ปี ก่อนทราบมาบวชเป็นพระและเป็นถึงเจ้าอาวาส ทำให้โยมแม่และญาติเมื่อทราบข่าว จึงเดินทางนั่งรถมาหาที่วัด

นาทีแรกที่โยมแม่และพระเจอหน้ากันอีกครั้งในรอบ 37 ปี หลวงพี่ได้ลุกไปหาโยมแม่ ก่อนจะลุกเข่าแล้วก้มกราบโยมแม่ไปที่พื้น

จังหวะนั้นโยมแม่ที่อยู่ในอารมณ์ตื้นตันใจถึงกับทำตัวไม่ถูก ก่อนโยมแม่จะลุกเข่ากับพื้นเช่นกันและยกมือไหว้พระที่เป็นลูกชาย พร้อมกราบลูกชายที่เป็นพระ ถือเป็นอีกภาพความประทับใจและบีบหัวใจอย่างมาก ทำให้ญาติๆ ที่เห็นภาพนี้ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

นอกจากนี้ผู้ใช้ติ๊กต็อก siriskyblue ยังโพสต์อีกคลิป เป็นนาทีที่โยมแม่ร่ำลาพระที่เป็นลูก และขึ้นรถกลับบ้าน โดยมีพระที่เป็นลูกมายืนส่งที่รถ แต่จังหวะที่ยืนส่งโยมแม่นั้น พระที่เป็นลูกได้ยืนกอดเสา พร้อมพูดคุยร่ำลากับโยมแม่ เป็นอีกภาพความประทับใจของคนที่พลักพรากจากกันถึง 37 ปี

‘ทวี’ แจงใช้งบ 6 แสน นำตัว ‘แป้ง นาโหนด’ กลับไทย ยัน!! เป็นแนวทางที่ดีที่สุด ถูกกว่าใช้เครื่องบินพาณิชย์

(3 มิ.ย.67) ที่ท้องสนามหลวง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการรับตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมกลับประเทศไทย ว่า การประสานงานในการรับตัวนายเชาวลิตกับประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่าสามารถรับตัวได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว แต่บังเอิญขาดเรื่องเอกสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นความเข้มแข็งขององค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โปล) นอกจากนี้ ประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่าสามารถนำตัวนายชวลิต มาส่งให้ประเทศไทยได้ตามระบบกฎหมายของอินโดนีเซีย ดังนั้นวันที่ 3 มิ.ย. ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะมีการประชุมว่าจะใช้ช่องทางไหนได้ แต่ในหลักการคือวันที่ 4 มิ.ย.นี้ นายเชาวลิตควรจะมาถึงเมืองไทยแล้ว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นกรณีแรกที่หนีการควบคุมจากเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนั้นโดยหลักการเมื่อตำรวจสอบสวนเสร็จ และแจ้งข้อหาแล้วจะต้องนำไปขัง ณ ศาลที่เกิดเหตุ เพราะขณะนี้สำนวนยังไม่ได้โอนมา และหลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะพิจารณาว่าจะนำตัวนายเชาวลิตควบคุมตัวไว้ ณ ที่ใด จึงขอให้ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมราชทัณฑ์ไปประชุมกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพและไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาอีก

เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่หากนายเชาวลิตกลับไป จ.นครศรีธรรมราช แล้วจะเกิดปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ประเมินดู ซึ่งจากที่ลงพื้นที่ไป จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทราบว่าเจ้าหน้าที่มีการประชุมกันว่าเมื่อนายเชาวลิตเดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อให้การดำเนินการตามกฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องของการนำตัวคนผิดมาฟ้องและลงโทษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ ที่จะนำตัวนายเชาวลิตมาดำเนินคดีในกรุงเทพมหานคร โดยไม่ไปที่ จ.นครศรีธรรมราช ตามที่นายเชาวลิตขอร้อง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตอนนี้คดียังไม่ได้โอนมาที่ส่วนกลาง ดังนั้นจะต้องมีการสอบสวนที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง ก่อน ซึ่งที่ จ.พัทลุง จะต้องมีการอายัดตัว แต่จากการฝากขังครั้งที่ 1 ครบ 48 ชั่วโมงแล้ว เมื่อศาลอนุมัติฝากขัง ศาลฎีกามีระเบียบว่าสามารถฝากขังครั้งต่อไปให้สามารถปรากฎตัวทางออนไลน์ได้ ก็อาจจะนำไปขังที่อื่น

เมื่อถามย้ำว่า ประเด็นที่จะนำตัวมาส่วนกลางที่กรุงเทพฯ มีความเป็นไปได้มากกว่าใช่หรือไม่ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เดิมเป็นความคิดของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่อยากนำตัวมาไว้ที่กรุงเทพฯ แต่ตนก็บอกว่าต้องประชุมกันให้ดี ทั้งนี้อยากจะบอกว่าการนำตัวนายเชาวลิตกลับมาประเทศไทย มีบางกระแสที่บอกว่ามีการใช้งบประมาณที่ฟุ่มเฟือย ซึ่งขอชี้แจงว่าทางเรามีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะถ้ามาเครื่องบินพาณิชย์ ในเงื่อนไขเดิมจะแพงกว่าการที่มากับเครื่องบินของกองทัพอากาศ เพราะคณะของอินโดนีเซียที่มาส่งก็หลายคน

ส่วนตัวเลขค่าใช้จ่ายในครั้งนี้นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เท่าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ประมาณไว้ 600,000 บาท ทั้งค่าน้ำมันและค่าจอดเครื่องบิน อย่างไรก็ตามย้ำว่าเราพิจารณาแนวทางที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยนำตัวผู้กระทำความผิดมาฟ้องร้องและลงโทษ ซึ่งเรื่องนี้ความจริงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องน่าดีใจ มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิด แต่เมื่อมันเกิดแล้วเราก็ต้องไปตรวจสอบว่ามันเป็นอย่างไร หนีไปอย่างไร หรือมีความเกี่ยวข้องกับใคร มีผู้บงการ ผู้ใช้ หรือผู้ช่วยเหลืออย่างไร และกรณีที่นายชวลิตออกมา ร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากสื่อแม้ว่าจะไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ แต่บุคคลที่เขาอ้างอิงถ้าเราไปสอบสวนแล้วมีความผิดก็จะเป็นหลักฐานใหม่ ฉะนั้นก็ขอให้ทำหน้าที่ตรงนี้ก็แล้วกัน

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีการหารือถึงสถานที่ที่จะนำตัวนายชวลิตไปคุมขังหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ไปถามอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และในการไปรับตัวนายเชาวลิต จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงยุติธรรม จัดทีมไปรับตัว

ร้านสุดแสบ นำเนื้อปลาย้อมสี ขายเป็น ‘แซลมอน-ทูน่าดองซีอิ๊ว’ ชาวเน็ต ชี้!! ‘ปลาดอลลี่’ ไม่สามารถรับประทานสดๆ ได้

(3 มิ.ย.67) เป็นอีกเรื่องร้อน สำหรับคนที่ชอบรับประทานปลาดิบ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ ระบุข้อความว่า

ผู้บริโภครายหนึ่งแจ้งว่า มีร้านๆ หนึ่งในปราจีนบุรีย้อมปลาดอลลี่ เป็นสีแดงคล้ายทูน่า เพื่อดองขายให้กับผู้บริโภค

พร้อมแนบภาพปลาที่มีแดงคล้ายทูน่า แต่เมื่อดูเนื้อด้านในของปลาพบเป็นเนื้อปลาสีขาว คล้ายเนื้อปลาดอลลี่อย่างมาก ซึ่งเป็นปลาที่ไม่สามารถรับประทานสดๆ ได้

นอกจากนี้โพสต์ดังกล่าวยังแนบคอมเมนต์จากเพจ ‘กินไรดี ปราจีนบุรี’ ที่มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์รูปดังกล่าว ที่มีย้อมปลาดอลลี่ เป็นสีแดงคล้ายทูน่า พร้อมระบุว่า 

เตือนภัย ร้านนี้เลยแฟนเราซื้อมา ย้อมแมวขาย เอาปลาดอลลี่มาชุบสีเป็นปลาทูน่ากับแซลมอน เอาเอ็นหอยจอบมาดองแทนโฮตาเตะ

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย

‘ทวี’ นั่งคุย ‘แป้ง นาโหนด’ ก่อนนำตัวกลับไทย 4 มิ.ย.นี้ เพื่อรับโทษ  เจ้าตัวยอมรับผิด ชมทีมงานเก่งจริง ตามจับตัวได้ แม้หนีไปหลายประเทศ 

(2 มิ.ย.67) ที่เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ได้พบกับ นายเชาวลิต ทองด้วน หรือ “แป้ง นาโหนด” ซึ่งสวมชุดนักโทษของประเทศอินโดนีเซีย ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมา โดย พ.ต.อ.ทวี เผยว่า เตรียมพานายเชาวลิตกลับประเทศไทย ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ แต่ทางกฎหมายก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม

ด้าน นายเชาวลิต ระบุสั้นๆ ว่า ขอยอมรับผิดทั้งหมดและอยากให้ส่งศาลอาญากรุงเทพ เรื่องยาเสพติดนั้นไม่เกี่ยวกับตนแน่นอน ส่วนปลอมบัตรเป็นคนอาเจะห์มีเจ้าของห้องเช่าเป็นคนทำให้ 

“ต้องยอมรับว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะ ทำงานเก่งจริงตามจับผมได้ แม้จะมาบาหลี ก่อนหน้านี้เคยบินไปหลายประเทศมาแล้ว” นายเชาวลิต กล่าวต่อหน้า รมว.ยุติธรรม และคณะทีมงาน

‘อัครเดช’ ชี้เป็นเรื่องดี ที่ตำรวจจับ ‘ผู้บริหารโรงงานกากอุตสาหกรรม’ ได้ แต่ยังห่วงอีกโกดังใน ‘อ.อุทัย’ จะเกิดเหตุซ้ำรอย หากมีการอายัด ‘กากสารเคมี’

(2 มิ.ย.67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม และ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาโรงงานกากอุตสาหกรรมที่เกิดเหตุไฟไหม้ที่โกดังเก็บสารเคมี จ.ระยอง และ จ.อยุธยา ได้แล้วและนำตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และ สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ว่า เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาในกรณีนี้ ทำให้ประชาชนมีความสบายใจ

ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม ระบุอีกว่า สิ่งที่ประชาชนและกรรมาธิการอุตสาหกรรมยังมีความเป็นห่วง คือโรงงานเก็บกากสารเคมีอีกแห่งใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจากการประชุมร่วมกัน ของทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรรมาธิการอุตสาหกรรม ได้ทราบว่าที่โรงงานใน อ.อุทัย มีจำนวนกากสารเคมีอันตรายในปริมาณที่มากกว่าใน อ.ภาชีเสียอีก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมไปดำเนินการอายัดก็อาจจะเกิดเหตุไฟไหม้เหมือนกับอีก2โรงงานที่ผ่านมาได้อีก ดังนั้นเมื่อได้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการและรัฐมนตรีอุตสาหกรรมกำกับดูแลก็ทำให้ประชาชนอุ่นใจก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และสิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการต่อไปคือนอกจากให้มีการดำเนินคดีแล้ว ก็ต้องเฝ้าระวังที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยาต่อไปด้วย รวมถึงควบคุมไม่ให้เกิดเหตุเพลิงไหม้กากเคมีอุตสาหกรรมที่มีลักษณะคล้ายกับจังหวัดระยองและอยุธยา

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า จากการที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้มีการสำรวจโรงงานหรือโกดังที่มีการกองเก็บกากเคมีอุตสาหกรรมอันตรายทั่วประเทศนั้น ทำให้หน่วยงานราชการทุกส่วนมีความตื่นตัวในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าข้อสังการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ นี้จะเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และถือว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ ก็ต้องติดตามต่อไปว่าจะมีโรงงานในลักษณะนี้อีกมากน้อยเพียงใด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top