Monday, 29 April 2024
LITE

27 กันยายน พ.ศ. 2448 ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ เสนอสมการก้องโลก ‘E=mc2’ เป็นครั้งแรก

วันนี้ เมื่อ 118 ปีก่อน เผยแพร่บทความเรื่อง ‘Does the Inertia of a Body Depend Upon Its Energy Content ?’

วันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 1905 (พ.ศ. 2448) อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก เผยแพร่บทความเรื่อง ‘Does the Inertia of a Body Depend Upon Its Energy Content ?’ (จริงหรือไม่ที่ความเฉื่อยขึ้นอยู่กับพลังงานภายในของวัตถุ) เป็นครั้งแรก ซึ่งได้นำเสนอสมการก้องโลก E=mc2 สมการนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน อธิบายได้ว่า เมื่อให้พลังงานกับมวลเพื่อให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น มวลนั้นก็จะมีค่าเพิ่มขึ้นด้วย จากทฤษฎีนี้ทำให้นำสู่ผลที่ว่าไม่มีอะไรเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสง หลักการนี้จึงเป็นหลักการเบื้องต้นของ ‘ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป’ (theory of relativity) 

แม้ว่าไอน์สไตน์จะใช้เวลาเพียงแค่ 4 เดือน ในการสร้างผลงานปฏิวัติโลกด้วยผลงานเด่น ๆ 3 ผลงานในปีนี้ คือ ‘ปรากฏการณ์โฟโตอิเลกตริก’ (Photoelectric Effect) ‘การเคลื่อนที่แบบบราวเนียน’ (Brownian Motion) และ ‘ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ’ (special relativity) แต่โลกต้องใช้เวลาอีกหลายทศวรรษเพื่อทำความเข้าใจและเห็นคุณค่าในผลงานเหล่านี้ 

ต่อมาได้มีการประกาศให้ปี 2448 เป็นปีมหัศจรรย์ของไอน์สไตน์และในปี 2548 วงการวิทยาศาสตร์โลกได้ประกาศให้เป็น ‘ปีฟิสิกส์โลก’ (World Year of Physics 2005) และมีการจัดงานฉลองครบรอบ 1 ศตวรรษปีมหัศจรรย์ไอน์สไตน์

‘เอส กันตพงศ์’ ภาพล่าสุด ดูสดใสแข็งแรงขึ้นมาก หลังแท็กทีมภรรยาพาลูกสาวตัวน้อยไปเที่ยวทะเล

(26 ก.ย.66) เรียกว่าเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจสุดๆ สำหรับครอบครัวของ ‘เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์’ พระเอกช่อง 7 ที่ตอนนี้สภาพร่างกายกลับมาดีวันดีคืน สามารถไปเที่ยวไหนมาไหนกับครอบครัวได้แล้ว

ล่าสุด ‘คิตตี้ คริสติน่า’ ภรรยาหนุ่มเอสได้โพสต์โมเมนต์แห่งความสุขผ่านอินสตาแกรม เป็นภาพที่เอสและครอบครัวได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนกันที่ชายทะเล โดยหนุ่มเอสยิ้มแย้มแจ่มใส สีหน้าสีตาดูสดใสขึ้นมาก ดูแล้วอาการน่าจะหายดีเกือบเป็นปกติแล้ว

ซึ่งภรรยาสาวคิตตี้ระบุแคปชันว่า…

“First short day trip together

These few hours were so meaningful especially for Valentina as she is the one asking the most about Papa getting better to play with her.I know how much she is missing these precious moments with her dad and how tough it has been on her.

So it made me so happy with tears in my eyes to have been able to give her a few hours like this. Thank you so much for P'Ann and P'Bell for taking us.

#bumrungrakfamily #valentinaerikab #princessvalentina #happyfamily #daytrip #thailandtravel #เอสกันตพงศ์

(ทริปสั้นๆ ครั้งแรกด้วยกัน

สองสามชั่วโมงนี้มีความหมายมากโดยเฉพาะสำหรับ วาเลนติน่า เนื่องจากเธอเป็นคนที่ขอให้ ปะป๊า เล่นกับเธอได้ดีขึ้น ฉันรู้ว่าเธอคิดถึงช่วงเวลาอันมีค่าเหล่านี้กับพ่อของเธอมากแค่ไหน และมันยากลำบากแค่ไหนกับเธอ

มันทำให้ฉันมีความสุขมากทั้งน้ำตาที่สามารถให้เวลาเธอได้สองสามชั่วโมงแบบนี้ ขอบคุณพี่แอนและพี่เบลล์มากๆ ค่ะ ที่พาเราไป

#bumrungrakfamily #valentinaerikab #princessvalentina #happyfamily #daytrip #thailandtravel #เอสกันตพงศ์)

‘เกลือ กิตติ’ โชว์บัตรนักศึกษาในวัยเลข 4 หลังตัดสินใจเรียนป.ตรี สาขาวิชาเกี่ยวกับจิตวิทยา เพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเองในอนาคต

(26 ก.ย.66) ไม่มีใครแก่เกินเรียน…เช่นเดียวกับ ‘เกลือ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล’ ในวัย 44 ปี ที่ล่าสุดออกมาโพสต์ภาพถ่ายบัตรประจำตัวนักศึกษาหลังตัดสินใจลงเรียนปริญญาตรีใบที่สอง ในสาขาวิชาเกี่ยวกับเรื่องจิตวิทยา โดยเกลือได้เขียนข้อความบอกเหตุผลที่เรียนครั้งนี้ว่า

“กลับมาเป็นนักศึกษาอีกครั้ง ในวัยเลขสี่ด้วยเหตุผลหลายข้อ ข้อแรก เราคิดว่าการเรียนจิตวิทยาน่าจะเป็นประโยชน์ต่ออาชีพพิธีกร เพราะการเข้าใจมนุษย์ น่าจะสำคัญพอๆ กับการสื่อสาร ซึ่งการสื่อสารเราได้เรียนไปแล้ว แล้วตอนทำรายการก็มีน้องหลายคนมาปรึกษา เราได้แต่ตอบจากประสบการณ์ชีวิตซึ่งบางทีอาจจะไม่ใช่คำปรึกษาที่ดีที่สุดสำหรับเขาทั้งหลาย ข้อสอง อยากเอาชนะความกลัวของตัวเอง ความกลัวเรียนไม่จบมันหลอนมาตั้งแต่เด็ก บางคืนยังมีแอบฝันว่าตัวเองเรียนไม่จบ เลยเรียนป.ตรีมันอีกใบซะเลย และข้อสุดท้าย อยากเรียนเพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกๆ ได้เห็นว่า ชีวิตของเรานั้นต้องเรียนรู้ตลอดทั้งชีวิต ไม่มีใครแก่เกินเรียน จะเรียนจบหรือไม่นั้นก็ต้องพยายามดู เป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้าด้วยยย #รามคำแหง”

‘สตรีมมิ่ง’ ฟู่ฟ่าก้าวกระโดด สวนทาง ‘วงการโทรทัศน์’ ที่นับถอยหลัง รอวัน ‘ล่มสลาย’

ต้องยอมรับว่า ‘สตรีมมิ่ง’ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะคอนเทนต์ละคร ซีรีส์ที่เสิร์ฟให้เป็นรสชาติแปลกใหม่ สร้างความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ มีหลากหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือโซนตะวันตกก็มีให้ดูแบบฟินจุใจ ดูเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ได้ตามแต่จะสะดวก

ความนิยมดูสตรีมมิ่งของคนในยุคปัจจุบัน สะท้อนถึงการล่มสลายของวงการโทรทัศน์อย่างเห็นได้ชัด เพราะทุกวันนี้ คน ‘ดีใจ’ ที่ละคร/ซีรีส์ ได้รับกระแสตอบรับดีในระบบสตรีมมิ่ง

คุณธิติพร จุติมานนท์ หรือ Boy Entertain บรรณาธิการบริหารฝ่ายข่าวบันเทิงช่อง One ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้เช่นกัน โดยระบุว่า "ทำไมคนทำละครถึง 'ภูมิใจ' เวลากระแสดีที่ Netflix หรือมันชี้ชัดแล้วว่า 'คนไทยไม่ดู TV' ...หนึ่งในความสยอง วงการ TV เริ่มนับถอยหลังแล้วใช่ไหม"

‘แน็ก ชาลี’ รับอึดอัดเหมือนคนใกล้ตาย ลั่น!! อยากกลับไปสกปรก  แต่ลุคนั้นใช้ทำงานไม่ได้ หมดหนี้เมื่อไหร่จะไปใช้ชีวิตแบบเดิม

(26 ก.ย. 66) ยังคงอยู่ในช่วงหล่อร้อนเงินเหมือนเดิม สำหรับหนุ่ม ‘แน็ก ชาลี ไตรรัตน์’ ที่เอาความหล่อมาใช้ประโยชน์หาเงินปลดหนี้ ล่าสุดเจ้าตัวได้เผยในงานเปิดตัวภาพยนตร์ The Creator ก็เลยขออัปเดตกันสักหน่อย ว่าจะได้เห็นแน็กในลุคหล่อๆ แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน

“ช่วงนี้ร้อนตังค์นะครับ ก็จะออกมาสภาพแบบนี้ว่าดูเป็นผู้เป็นคนหน่อย ถามว่าร้อนเงินหรือคลั่งรัก ยังเรียกว่าร้อนเงินอยู่ครับผม ไม่ใช่หรอก คือทำงานก็อยากลองเปลี่ยนตัวเองดูหลายๆ อย่าง ถามว่าชอบลุคนี้ไหม ไม่ชอบเลยครับ ผมชอบเวลาเราผมยาวๆ ดูสกปรกๆ แต่ว่าลุคนั้นทำงานไม่ได้ เลยต้องยอมปรับเปลี่ยนตัวเองหน่อย ตื่นเช้ามาก็ต้องมานั่งกลั้นฝืนแต่งหน้าทำผม ก็อดทนครับ รีบล้างหน้าให้ไวที่สุด ถามว่าอึดอัดไหม ถ้าตอบตามตรงแม่xโคตรอึดอัดเลยพี่ แต่ถ้าตอบแบบดารา…มันไม่ใช่หน้าที่นะครับ มันคือสิ่งที่ผมต้องทำอยู่แล้วครับ (ถ้าตอบแบบแน็ก ชาลี?) โอ้ย แม่xเหนื่อยฉิบหาxเลย (หัวเราะ) หยอกเล่นๆ แต่อยากกลับไปไว้ผมยาว แต่ผมจะพูดบ่อยมากๆ เมื่อก่อนผมไว้ผมยาวถึงก้น ผู้ชายเวลาไว้ผมยาวมันไม่ต้องเซ็ตผม แต่พอผมสั้นเวลาเซ็ตผมไม่พ่นสเปรย์ แล้วผมแพ้สเปรย์ ฉีดแล้วสิวมันชอบขึ้น”

>> ชอบตัวเองลุคสกปรก แต่ตอนนี้ต้องปรับตัวให้ดีขึ้น

“ในชีวิตจริงโคตรสกปรกเลยครับ (หัวเราะ) ไม่หรอกๆ เราก็ผมยาว เราก็ชอบใช้อะไรที่หอมๆ ใส่อยู่แล้ว ก็อาบน้ำ แต่ว่าเราชอบปล่อยตัวสบายๆ จริงๆ ถามว่าชอบลุคเซอร์ ไม่ๆ ชอบลุคสกปรกครับ แต่ตอนนี้ก็พยายามปรับตัวให้ดีขึ้นหลายๆ อย่าง ถามว่าชอบความหล่อไหม ผมเนี่ยมันหล่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว ผ่านการแต่งหล่อ เก๊กหล่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว มันเก็บกดแหละ พอมีโอกาสที่จะได้เป็นตัวเอง ไม่ต้องเก๊กตลอดเวลา ไม่ต้องลงอะไรที่คีฟตลอดทั้งปี มันถือว่าเป็นความโชคดีที่สุด ที่ผมได้มาแล้ว”

>> บอกไม่ต้องเสียดายความหล่อ ถ้าปลดหนี้หมดจะกลับไปใช้ชีวิตแล้ว

“ไม่น่าเสียดายหรอกครับ ตอนนี้ผมหล่อจนผมใกล้ตายแล้วครับ รู้สึกว่าการดูแลตัวเองของผมเนี่ย มันเหนื่อยแบบใกล้ตายแล้ว แต่ผู้จัดการผมน่าจะตายก่อน เส้นเลือดในสมองแตก เพราะเขาคุยโทรศัพท์บ่อยมาก ถ้าผมปลดหนี้ในชีวิตผมได้แล้ว ผมจะไปใช้ชีวิตให้มีความสุขเหมือนแต่ก่อน แต่หนี้เท่าไหร่บอกไม่ได้ๆ เยอะ ถามว่าทำไมไม่เอามอเตอร์ไซค์มาขาย คือผมไม่ชอบเอาของที่เก็บมาขาย แต่ก็ดีใจมาก ที่ผมได้รู้จักการเป็นหนี้กับธนาคาร มันทำให้เราไม่เอาเงินไปซื้อของเละเทะ จากที่เราซื้อกีตาร์วันเป็นร้อยเป็นพันตัว ก็ทำงานไป ถือว่าลองมีความรับผิดชอบ”

>> ถ้าหล่อแล้วปลดหนี้ได้ไว เดี๋ยวเดือนหน้าหล่อกว่านี้อีก

“เดี๋ยวเดือนหน้าผมหล่อกว่านี้อีก (หัวเราะ) แต่ก่อนเนี่ย ชีวิตผมท่องมาตลอด ว่าการไม่มีหนี้เป็นอะไรที่คุณโชคดีมาก คุณประเสริฐมาก แล้วผมมีของสะสมเยอะมากพอแล้ว แต่ตอนนี้ผมก็ลองดู การเป็นหนี้มันก็ทำให้เรามีความรับผิดชอบในการทำงานมากขึ้น เรียกว่าเลิกทำงานไม่ได้ จนกว่าจะปลดหนี้เสร็จ แต่ถ้าหมดผมหนี้เนี่ย ผมแม่xจะออกไปตามล่าหาแย้ หาปลา จะไปตะคุบตัวเหี้xเหมือนเดิม ลงน้ำ อยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม เราจะทำงานน้อยลง กินทุกอย่างที่ขวางหน้า”

>> เป็นหนี้เพราะสะสมที่ดิน

“ที่ดินๆ ผมชอบสะสมที่ดินอยู่แล้ว ตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนนี้อยากได้ใหญ่ขึ้น ก็ดีกว่าไปซื้อกีต้าร์มาแจก มาทิ้ง”

>> ไม่ใช่ผ้าขี้ริ้วห่อทอง เป็นผ้าขี้ริ้วสกปรกนี่แหละ

“ผ้าขี้ริ้วสกปรกนี่แหละครับ (หัวเราะ) ผมเซอร์ แต่ความเซอร์ต้องดูให้ถูกต้องนะ เซอร์แล้วหล่อ แต่ผมเซอร์สกปรก คนละอย่างกัน ความฝันตอนนี้อยากกลับไปอยู่แบบที่เราอยู่มาตลอด มีความสุขที่ได้ทำอะไรหลายอย่าง แต่ตอนนี้เราก็ต้องทำงานที่เราต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด เรารับผิดชอบงานที่มีให้ดีที่สุด ไม่ทำให้งานมีปัญหา น่าจะได้เห็นผมในพาร์ตหล่อๆ อีกเป็นปีแหละครับ”

>> มีแฟนแล้วก็ไม่ได้อยากหล่อ แต่ยอมรับว่าไม่ใช่คนดี มองคนที่หน้าตาก่อนเหมือนกัน

“ไม่มีเลยครับ ผมรู้สึกว่าคนสองคนตอนเข้าใจกันมันหลายอย่าง มันอาจจะมองแว๊บแรกที่หน้าตาหล่อสวย ผมก็ยอมรับว่าผมไม่ใช่คนดี ที่ว่าเรามาคบกันที่จิตใจอย่างเดียว ผมก็ต้องมองก่อน ว่าหน้าตามันสวยเว้ย

แล้วก็มีโอกาสได้คุยกัน ก็เป็นความรัก เป็นความรู้สึกดีเข้ามาเพิ่มขึ้น เป็นความผูกพันที่ได้เจอ ได้อยู่ด้วยกัน”

>> ไม่มั่นใจ ‘เก๋ไก๋ สไลเดอร์’ แฟนสาว จะชอบตัวเองในลุคไหน

“ผมก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน เอาเป็นว่าเขาก็ดีและรับได้ที่เราเป็น แค่นี้ก็พอแล้วครับ

>> เล่าพา ‘เก๋ไก๋’ ไปเจอตุ๊กแก เพื่อเป็นการฝึกฝน เวลาเห็นจะได้ไม่กรี๊ดแตกตกใจ

“นานแล้วๆ เหมือนเป็นการฝึกฝน เวลาไปเจอจะได้ไม่กรี๊ดแตกหรือตกใจ เราก็ใช่วิธีการจับมาแล้วให้เขาทักทายกัน ให้ได้ลองสัมผัสตุ๊กแก เหมือนหลายคนที่กลัวไม่ลองเปิดใจ ถ้าคุณได้เปิดใจ ได้ลูบได้จับตุ๊กแกนะครับ (จะน่ารักเหรอ?) โอ้ย คุณจะเกลียดแม่xหนักกว่าเดิมอีก มันกัดครับผม ถามว่าไม่กลัวตุ๊กแกกัดเก๋ไก๋เหรอ มันจะมีตัวเชื่อง ตัวดี ตอนเด็กผมฝึกฝน ผมก็หยิบตุ๊กแกมาแล้วก็ 1 2 3 ให้มันงับจมูก พอแม่xงับปุ๊บมันไม่ปล่อยนะครับ สุดท้ายก็เป็นหน้าที่แม่ที่ต้องมาแงะออก แต่โตขึ้นก็ไม่ค่อยทำอะไรแบบนั้นแล้ว ผมว่าเขาก็เจอมาหลายอย่างแล้วนะ เขารับได้ๆ ถ้าวันนั้นมันเกาะแล้วกัด ผมจะถ่ายวิดีโอให้เขา แล้วก็จะสัมภาษณ์ว่ารู้สึกยังไง เวลามันกัดมันปล่อยยาก เราก็ต้องขอแป๊บหนึ่งๆ แซวเล่นๆ (หัวเราะ) เหมือนงูกัดขาผม สิ่งแรกก็แม่xเอ้ย ต้องมีอะไรเก็บไว้ดูเอง”

>> บอกไม่ต้องห่วง น้ำหนักขึ้นโชว์ไม่ได้แล้ว หลัง ‘เก๋ไก๋’ แอบหวงไม่อยากให้เซ็กซี่เยอะ

“โห ไม่ต้องห่วงครับผม สภาพตอนนี้โชว์อะไรไม่ได้แล้วครับ น้ำหนักขึ้นมาโหดมาก อาทิตย์หนึ่งผมขึ้น 10 โล มันขึ้นเพราะทำงานนี่แหละ พอทำงานหนักปุ๊บ เราอดไม่ไหว เราก็กินข้าวแบบคนปกติไม่ไหว แล้วผมชอบกินข้าวเหลือของคนอื่น เป็นคนเห็นพวกสัตว์ที่มันตายในจานไม่ได้ ผมต้องเก็บกินให้เกลี้ยง ส่วนเรื่องที่เขาไม่อยากให้โชว์หุ่น ผมว่าเขาแซวเล่น น้องไม่ได้ห้ามอะไรเลยครับ แต่ถ้าเขาขอก็ได้ ผมไม่ทำโน่นนี่หลายอย่าง แต่จริงๆ ผมจะบอกว่าไม่มี เขาไม่ห้ามอะไรเลย (ถ้าน้องห้ามโชว์กับเงินเราเลือกอะไร?) เฮ้อ หนักใจจริงๆ เลย วิ่งหนีดีกว่า เลือกคู่กันๆ แต่ไม่ผมจะบอกว่าน้องไม่ได้ห้ามอะไรเลย น้องตอบคำถามแซวเฉยๆ ไม่มีอะไร ผมดูคลิปที่เขาสัมภาษณ์”

>> อวยพรให้โชคดี เป็นนางเอกละครเต็มตัวแล้ว

“อวยพรครับ ขอให้เธอโชคดี ก็คือขอให้ดี ขอให้ละครประสบความสำเร็จ ดังมากๆ มันคงเป็นความฝันของเขา ผมรู้สึกได้เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน มันเป็นความฝัน ความรู้สึกของเขา มันคงเป็นภาพที่ดีมากๆ ถ้าทุกคนรักเขา ผู้ใหญ่รักเขามากขึ้น ดีใจกับเขาด้วย ถามว่ามีแฟนเป็นนางเอกรู้สึกยังไงบ้าง จริงๆ เขาก็เป็นนางเอกอยู่แล้วนะ เขาเป็นนักแสดงอยู่แล้ว เมื่อก่อนเขาถ่ายหนัง ถ่ายละครมาเยอะแยะ อันนี้เป็นนางเอกเต็มตัว ก็ดีครับ เห็นภาพแล้วว่าจะเป็นยังไง ใครทำงานแล้วประสบความสำเร็จ เราก็ต้องดีใจ”

>> ออกตัวเล่นเป็นพระนางคู่กันจริงจังไม่ได้ แต่ถ้าเป็นละครคุณธรรมสั้นๆ กวนๆ อะได้เลย

“ไม่เล่น ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้จริงๆ ไม่ได้เขินหรอก เจอกันบ่อยจนไม่เขินแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าการที่ให้ไปเล่นเป็นพระเอก-นางเอกคู่กันแบบจริงจัง อาจจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถ้าอะไรกวนๆ มันเป็นไปได้ มันสนุกๆ ละครคุณธรรม ละครกวนๆ อันนั้นได้หมดเลย

‘อิงฟ้า’ ไหว้ขอโทษ ‘มิสแกรนด์แคมโบเดีย’ ปมใช้เท้าเขี่ยชุด หวั่นมงฯ ร่วง-ชุดแหวกอกก้มเยอะไม่ได้ รับภาพที่เห็นเลยดูไม่น่ารัก

(26 ก.ย. 66) จากกรณีดรามา อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ใช้เท้าเขี่ยชุดของมิสแกรนด์แคมโบเดีย 2022 ล่าสุด อิงฟ้ามาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ The Creator เดอะ ครีเอเตอร์ ที่ ฮอลล์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน เธอได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยกมือไหว้ขอโทษอีกฝ่าย พร้อมชี้แจงเจตนาที่ทำแบบนั้น

>> ถามถึงประเด็นดรามาใช้เท้าเขี่ยกระโปรง

“จริงๆ ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนเลยนะคะ (ยกมือไหว้) ขออนุญาตขอโทษทางมิสแกรนด์แคมโบเดีย แล้วก็แฟนคลับที่แคมโบเดียด้วย เพราะว่าจริงๆ ภาพมันก็ออกมาค่อนข้างที่จะดูไม่น่ารักจริงๆ แหละ อันนี้เราก็รู้ตัวนะ แต่ว่าอยากให้เข้าใจเจตนาของเรา ว่าเราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น เราไม่ได้อยากจะมีปัญหากับประเทศแคมโบเดียอยู่แล้ว เพราะเรายังมีงานที่จะต้องไปทำ แล้วก็มีแฟนคลับที่โน่นค่อนข้างเยอะด้วย แล้วกับตัวน้องนาโน มิสแกรนด์แคมโบเดีย จริงๆ มันมีประเด็นมาตั้งแต่เรื่องของการไม่รับไหว้โน่นนี่นั่น ซึ่งต้องบอกจริงๆ ว่า แล้วแต่สถานการณ์ในบางทีอะ เราไม่ได้เจอน้องแค่ช่วงนั้น จริงๆ แล้วเจอตั้งแต่ตอนเริ่มงานแล้ว ก็มีการรับไหว้กัน ก็ต้องขอบคุณที่มีภาพจากแฟนคลับที่ถ่ายไว้ได้ ว่าเราได้รับไหว้ แต่บางทีมุมกล้องก็ทำให้คนเข้าใจผิดได้

พอมันมีภาพที่เราใช้เท้าเขี่ยกระโปรง ก็บอกว่าเราไม่ถูกกับน้องหรือเปล่า คือจริงๆ จะบอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะคะ ก็คือถ้าให้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าหลายๆ คนได้เห็น ก็จะเห็นว่าฟ้าใส่วิก เราไม่ได้ล็อกมงฯ กับวิกด้วย แล้วมันเป็นการใส่แบบวาง โชว์ที่เดินมันคือฟินนาเล่ เราไม่ได้เดินคนเดียว มันมีคนที่เดินต่อเราติดๆ เลย ถ้าเห็นในคลิป เหมือนมันเป็นเหตุการณ์ที่เราก็ไม่รู้ ว่าเขาจะมีการสะบัดผ้า ถ้าดูในคลิปเราจะมีการฉุกคิดแป๊บเดียว ประมาณ 1-2 วิ ว่าเราจะเอายังไงต่อ ซึ่งถ้าเราก้มคือหนึ่งชุดเราไม่สะดวก เพราะชุดเราแหวกตรงช่วงอก สองคือเรื่องของมงฯ ถ้าเราก้มหรือขยับเยอะ มงฯ เราอาจจะร่วงได้

ซึ่งในหลักการเป็นนางงามแล้ว การออนสเตจก็คือมงฯ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าสมมติว่าภาพมันออกมาว่ามงฯ ร่วง อันนี้มันจะดูไปว่าเราไม่มืออาชีพ ซึ่งจริงๆ ถ้าหลายคนได้ติดตามเวลาที่ฟ้าเดินชุดยาวๆ ฟ้าจะใช้เท้าสะบัดชุดอยู่แล้ว เป็นปกติสำหรับเรา แต่พอเราใช้กับคนอื่น มันเลยอาจจะดูไม่น่ารัก อันนี้ก็ต้องขอโทษจริงๆ ก็น้อมรับทุกคำติ เราก็จะเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป ในการแก้ไขในการออนสเตจ ซึ่งเราก็ได้มีการทักไปหาน้องแล้วตั้งแต่มีข่าว เห็นคลิปก็ทักไปหาน้องนาโน ว่าเฮ้ย พี่ไม่สบายใจ อย่างน้อยคือเราห่วงความรู้สึกของน้องก่อน ว่าพี่ขอโทษจริงๆ พี่ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นนะ ซึ่งน้องก็ทักกลับมาเป็นภาษาไทยค่ะ ว่าพี่ฟ้า หนูก็ต้องขอโทษพี่ด้วย เพราะเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะสะบัดมาตรงหน้าเรา เขาก็กลัวเราเสียความรู้สึก เราก็กลัวเขาเสียความรู้สึก ท้ายที่สุดก็ได้คุยกัน ก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก ไว้ร่วมงานกันใหม่”

>> เรารู้สึกยังไงที่คนตัดสินเราจากแค่คลิปสั้นๆ

“หนูไม่ได้เสียใจที่คนว่า แต่หนูแค่ห่วงความรู้สึกของน้องมากกว่า แล้วก็ห่วงความรู้สึกของคนแคมโบเดีย เขาจะคิดว่าเราไม่ให้เกียรติน้องเขาหรือเปล่า แต่จริงๆ เจตนาของเราไม่ได้คิดแบบนั้น มันแค่เป็นการแก้ไขสถานการณ์ช่วง 1-2 วิ อะไรแบบนี้ ภาพมันก็เลยออกมาแบบนั้น”

>> เรากังวลเรื่องปัญหาระหว่างประเทศใช่ไหม

“เราต้องไปร่วมงานกับแคมโบเดียอีกเยอะมากๆ ไหนจะคอนเสิร์ต จะพรีเซ็นเตอร์ และงานต่างๆ ซึ่งเราก็มีแฟนคลับที่โน่นค่อนข้างเยอะ เราก็ห่วงความรู้สึกเขา เพราะว่าบางคนก็เข้าใจ แต่แฟนนางงามบางคนก็อาจจะไม่เข้าใจไปเลย ซึ่งมันก็เป็นภาพลักษณ์ต่อๆ จากเรื่องการไม่รับไหว้โน่นนี่นั่น แต่ก็ได้แต่อธิบายกับสื่อตรงนี้ เราก็เก็บมาหลายวัน เพราะไม่อยากไลฟ์ ไม่อยากพูดถึงประเด็นตรงนี้ แบบอัดคลิปหรือโพสต์อะไร เพราะอยากให้มันดูเป็นการตอบ ที่ดูเป็นทางการที่สุด ซึ่งเราก็อยากจะขอโทษเขาอีกรอบหนึ่ง”

>> ดรามาที่ไม่ดีมาเยอะไหม กับคนที่ไม่เข้าใจเรา

“จริงๆ ก็ไม่เยอะนะคะ เท่าที่หนูเห็นส่วนมากประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์จะเข้าใจเรา ว่ามันเป็นการแก้ไขสถานการณ์ ณ เวลานั้น แล้วทางองค์กรเองเขาก็เข้าใจนางงาม กับการเตะสะบัดผ้า เราต้องเลือกระหว่างมงกุฎกับผ้า ซึ่งเราก็มองว่าเท้ามันก็ไม่ใช่ของต่ำอะไรสำหรับเรานะ เพราะกับนางงาม เท้าเป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน เราไม่คิดด้วยไง ว่าสะบัดกระโปรงแล้วกล้องมันจะแพลนมาที่เรา เพราะมันเป็นฟินนาเล่ ก็น้อมรับทุกคำติค่ะ ไม่เป็นไร (ยิ้ม)”

>> กังวลไหมกระดิกตัวนิดหนึ่งก็เป็นดรามา

“ไม่ได้กังวลค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นอย่างนี้มานานมากๆ แล้ว ก็คุ้นชินกับการมีดรามา แล้วก็มีทั้งคนรัก และก็คนที่เขาไม่ชอบ มันเป็นเรื่องปกติ”

>> เวลามีดรามาเข้ามา เรามองมันยังไง

“คือจริงๆ เรามองถึงปัญหาก่อน แล้วพอเราแก้ปัญหา สิ่งแรกที่เราควรจะนึกถึง ก็คือน้องนาโน พอเราทักไปขอโทษเขา แล้วเขาก็เข้าใจเรา เราเข้าใจเขา ก็คือจบแล้ว ส่วนคอมเมนต์หรืออะไร คนที่จะตัดสินเราแค่ช่วงวินาทีสั้นๆ หนูก็รู้สึกว่าปล่อยได้แล้ว”

>> ยิ่งสูงยิ่งหนาว

“อาจจะด้วยค่ะ เพราะว่าหนูเข้าใจนะ คนมันให้ความสำคัญกับทุกเสี้ยวเลย ในการที่เราจะออนสเตจ หรืออยู่ในแสง อาจจะต้องระวังมากขึ้น”

>> ตอนสะบัดไปแล้วคิดไหมว่าจะมีดรามา

“ตอนบนเวทีไม่ได้คิดค่ะ เพราะตากล้องไม่ได้จับ หลังจากสะบัดกระโปรงไปแล้ว เราก็หันไปมองน้อง จริงๆ ก็น่าจะรู้กันตั้งแต่บนเวทีแล้ว ก็มีทีมงานรีบขึ้นมาจัดแจงให้ต่อ ในภาพมันเหมือนหนูเหยียบไว้ แต่จริงๆ เราสะบัดแล้วมันติด มันเกี่ยว ทีมงานก็เลยมาช่วยเอาออกให้”

>> ถ้าเราไม่ใช้เท้าเขี่ยมันจะเกิดอะไรขึ้น

“หนูว่าลื่นแน่นอน เพราะพื้นที่ข้างๆ เรามันไม่มี คนต่อไปเขาเดินติดๆ เราเขยิบก็ไม่ได้ เพราะมีคนอื่นๆ ต่อๆ กัน มันต้องแก้ที่ตัวเราเลย ณ ตอนนั้น เพราะคนอื่นเขารอ”

>> ถ้าต่อไปมันมีแบบนี้อีก เราเตรียมแผนสองไหม

“โห พูดยากเลย ถ้ามันเป็นโชว์เดี่ยว หรือโชว์สองคน มันสามารถมีพื้นที่ในการแก้ได้ แต่พอมันเป็นฟินนาเล่ที่มีหลายคน มันคอนโทรลยากนิดหนึ่งค่ะ แต่ก็จะระวังให้มากขึ้น ถ้าเป็นรอบหน้าก็อาจจะแบบ… แต่ภาพมันก็จะออกมาไม่สวยไง ถ้าเรารอให้ทีมงานมาเขี่ยให้ ภาพมันก็ไม่ได้อีก เพราะจริงๆ เราคิดว่ากล้องมันไม่ได้แพลน เราก็รีบจัด แต่กล้องก็คือรีบเลย (ยิ้ม)”

>> พอได้เคลียร์แล้วสบายใจไหม

“สบายใจค่ะ ก็หลังจากที่เริ่มมีดรามามากขึ้น หนูก็เลือกที่จะไม่อ่านดีกว่า เพราะว่าคนที่ควรจะเข้าใจมากที่สุดคือเราขอโทษไปแล้ว แล้วเขาเข้าใจก็คือจบ ถามว่าบั่นทอนไหมตอนดรามาถาโถม ก็ชินแล้วอะ แต่ก็ถ้าสมมติว่าเราไม่รู้จักตัวเอง เราก็อาจจะมีคิดเหมือนกัน เพราะภาพมันก็ออกมาไม่น่ารักจริงๆ”

26 กันยายน พ.ศ. 2430 ไทย-ญี่ปุ่น ลงนามปฏิญญาทางพระราชไมตรี ปฐมบทสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2430 หรือ เมื่อ136 ปีที่แล้ว ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นได้ลงนามในปฏิญญาทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์ระหว่างญี่ปุ่นและไทย เริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ

ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับไทย มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี แต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการโดยการลงนามในปฏิญญาทางไมตรี และการพาณิชย์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2430

ที่ผ่านมาไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและราบรื่น ความร่วมมือของทั้งสองประเทศครอบคลุมทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ ไทยได้มุ่งกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับญี่ปุ่นให้พัฒนาไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ (strategic and economic partnership)

การเยือนสำคัญในระดับพระราชวงศ์ ที่สำคัญ คือในช่วงต้นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ เพื่อทรงเจริญสัมพันธไมตรี พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และหนึ่งในประเทศที่พระองค์เลือกเสด็จพระราชดำเนินเยือน คือ ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2506

ในครั้งนั้น พระองค์ทรงเสด็จเยือนกรุงโตเกียว เมืองนาโงยา จังหวัดเกียวโต และนารา และฝ่ายญี่ปุ่นได้ถวายการต้อนรับ ด้วยการนำเสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงงานผลิตกล้องถ่ายรูป และวิทยุ เพื่อทอดพระเนตรเทคโนโลยีการผลิตของญี่ปุ่น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าฝ่ายญี่ปุ่นทราบถึงความสนพระราชหฤทัยของพระองค์เป็นอย่างดี

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนญี่ปุ่นในครั้งนั้น เป็นจุดเริ่มต้นแห่งพระราชไมตรีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ซึ่งในขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมารอะกิฮิโตะ

เพื่อทรงตอบแทนพระราชไมตรี มกุฎราชกุมารอะกิฮิโตะ พร้อมด้วยเจ้าหญิงมิชิโกะ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2507 ในครั้งนั้นมีเหตุการณ์อันเป็นที่ระลึกแห่งพระราชไมตรี และพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และนับเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

ขณะที่ความสัมพันธ์ระดับประชาชนของทั้งสองประเทศก็มีความใกล้ชิดแนบแน่น ปัจจุบัน มีชาวไทยที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่น ประมาณ 50,000 คน ในขณะที่มีชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในประเทศไทยประมาณ 40,000 คน

‘YG’ วุ่น!! เจอสื่อเกาหลีตีข่าวไม่หยุด ปม ‘เจนนี่-จีซู’ จ่อเปิดค่ายของตัวเอง ฟาก ‘โรเซ่’ ต่อสัญญาคนเดียว ส่วน ‘ลิซ่า’ ลุยงานเดี่ยว ไร้เมเนเจอร์คอยคุม

(25 ก.ย.66) ยังเป็นเรื่องในแวดวงบันเทิงเกาหลี ที่หลายคนจับตามองอยู่ไม่น้อย กับกรณีการต่อสัญญาของเหล่าเมมเบอร์ BLACKPINK ที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ‘โรเซ่’ เป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของวง ที่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิมอย่าง YG Entertainment

ล่าสุด สื่อเกาหลี News1 ได้รายงานว่า ‘เจนนี่’ และ ‘จีซู’ เตรียมก่อตั้งค่ายของตัวเอง และรายงานด้วยว่า ขณะนี้เมมเบอร์ BLACKPINK ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ YG Entertainment เรื่องการดำเนินกิจกรรมของพวกเธอในฐานะวง ขณะที่ต้นสังกัดส่วนตัวของเธอนั้น จะดูแลในส่วนของกิจกรรมเดี่ยวของพวกเธอ

หลังรายงานข่าวดังกล่าว YG Entertainment ได้ออกมาตอบประเด็นดังกล่าวว่า “ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับการต่อสัญญาของ BLACKPINK และกิจกรรมในอนาคตของพวกเธอ”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบว่าขณะที่ ‘ลิซ่า’ เดินทางไปกรุงปารีส กลับไร้เงาการ์ดคอยดูแลในสนามบินกรุงโซล เกาหลีใต้ ส่วนเมเนเจอร์เพียงเดินทางมาส่งที่สนามบินเท่านั้น ไม่ได้บินลัดฟ้าไปปารีสด้วยกันแต่อย่างใด เหตุการณ์นี้จะเป็นการตอกย้ำข่าวลือเรื่องไม่ต่อสัญญาหรือไม่ ยังคงเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต้องเฝ้าจับตากันต่อไป…

‘จ้าวลู่ซือ’ ถูกล้อเลียนระหว่างร่วมงานแฟชันโชว์ที่มิลาน ชาวเน็ตเดือด!! ไม่คิดว่างานระดับโลกจะมีเหตุการณ์แบบนี้

(25 ก.ย. 66) กลายเป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีภาพของ ‘จ้าวลู่ซือ’ นักแสดงชาวจีน กำลังถูกล้อเลียนขณะถ่ายภาพหน้าบริเวณงานแฟชันโชว์ Versace ที่ Milan Fashion Week 

‘จ้าวลู่ซือ’ นักแสดงสุดฮอตจากประเทศจีน ถูกเชิญเข้าร่วมงานแฟชันโชว์ Versace ที่ Milan Fashion Week โดยเป็นแขกคนสำคัญของ Versace ขณะที่เธอกำลังพบปะแฟนๆ และถ่ายภาพอยู่หน้าบริเวณงาน ด้านหลังกลับมีผู้หญิงสองคน กำลังทำท่าทางล้อเลียนเธอ จนทีมงานของเธอต้องยืนบังเอาไว้

หลังจากคลิปถูกเผยแพร่บนโซเชียล ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ไม่พอใจพฤติกรรมของบุคคลเหล่านั้น และไม่น่าเชื่อว่างานแฟชันระดับโลกจะมีเหตุการณ์ไม่ให้เกียรติเหมือนเป็นการเหยียดคนเอเชียเกิดขึ้น

ภายหลังทางแบรนด์ Versace รับทราบถึงเรื่องราวดังกล่าว และไม่นิ่งนอนใจ ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า"พวกเราสังเกตว่านอกงานแฟชันโชว์ หลายๆ คนได้ล้อเลียนจ้าวลู่ซือ ที่ทำโพสต์น่ารักๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของศิลปินดาราเอเชีย อันนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในยุคนี้จริงๆ"

โดย จ้าวลู่ซือ กำลังเดินทางจากอิตาลี มายังประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมงาน WeTV Always More 2024 ที่ประเทศไทยในวันที่ 27 กันยายนนี้ 

‘แบมแบม’ จี้เว็บขายบัตรคอนฯ ให้ตรวจสอบ คาด!! มีคนในแอบโกง หลังพบบางคนกดได้เยอะเกินที่ระบบกำหนด แถมนำไปอัปราคาแรง

(25 ก.ย. 66) ทำเอาหลายคนออกมาแสดงความเห็นมากมาย หลังนักร้องหนุ่ม ‘แบมแบม GOT7’ หรือ ‘แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ ออกมาโพสต์แสดงความเห็นในทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงคอนเสิร์ต ‘2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR [AREA 52]’ ที่ก่อนหน้านี้เปิดการขายบัตรเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็หมดเกลี้ยงภายในพริบตาเดียว

แต่งานนี้ก็มิวายมีเรื่องให้ ‘แบมแบม’ ปวดหัว ถึงขั้นต้องออกโรงเตือน หลังพบมีการปล่อยบัตร VVIP ในราคาสูง โดยบางคนสามารถกดบัตรได้เกินจำนวนที่ระบบกำหนด และดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้ตั้งใจกดบัตรเพื่อดูคอนเสิร์ต แต่กดมาเพื่อขายเอากำไร

โดย ‘แบมแบม’ โพสต์ว่า "พวกที่กด VVIP ได้มาหลายใบ ควรเช็กนะครับ" และ "ผมว่ามีคนในระบบของคุณแอบโกง" ทำเอาแฟนๆ ปลื้มใจในความน่ารักและเอาใจใส่ของแบมแบม พร้อมวอนเว็บกดบัตรคอนเสิร์ต ให้ออกมาจัดการเรื่องนี้ และชี้แจงโดยเร็ว

25 กันยายน พ.ศ. 2541 วันสถาปนา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง น้อมระลึกถึงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐบาลตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2541 ภายหลังการเรียกร้องของชาวจังหวัดเชียงรายที่ต้องการมีมหาวิทยาลัยในท้องถิ่น และเพื่อเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงใช้พระราชสมัญญา ‘แม่ฟ้าหลวง’ เป็นชื่อมหาวิทยาลัย

หลังจากที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสู่สวรรคาลัย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ประชาชนชาวเชียงรายร่วมกับหน่วยราชการในจังหวัดเชียงรายเห็นพ้องต้องกันว่า โดยที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลต่ออาณาประชาราษฎร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนชาวเชียงรายที่ได้ทรงเลือกจังหวัดเชียงรายเป็นสถานที่สร้างพระตำหนัก หรือบ้านหลังแรกของพระองค์ และทรงริเริ่มโครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งได้นำความเจริญรุ่งเรือง มายังจังหวัดและประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง

ฉะนั้น เพื่อแสดงความจงรักภักดีตลอดจนเพื่อสนองพระราชปณิธานของพระองค์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการพัฒนาคน จึงได้เสนอให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงรายต่อรัฐบาลที่มีนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรีการดำเนินการเพื่อการจัดตั้งมหาวิทยาลัยที่จังหวัดเชียงราย ได้มีความคืบหน้าเป็นลำดับ รัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2539 ให้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาที่จังหวัดเชียงราย โดยอาจยกฐานะสถาบันราชภัฏเชียงรายขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยก็ได้

ต่อมารัฐบาลพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้มีมติใหม่ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 ให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ในจังหวัดเชียงราย และได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขึ้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2541 ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้รับงบประมาณในการดำเนินการเพื่อการเตรียมการจัดตั้ง ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 และงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างมหาวิทยาลัยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 2,325 ล้านบาท การก่อสร้างตามโครงการระยะแรกเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 5 ปี บนพื้นที่ 4,997 ไร่ ณ บริเวณดอยแง่ม อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

‘The Sine Cafe’ คาเฟ่ร่วมสมัย ไม่ทิ้งความเป็นไทย จ.นครปฐม อิ่มอร่อยกับเมนูไทยแบบโฮมเมด พร้อมบรรยากาศสบายๆ ในสวน

ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศสวนอันร่มรื่น ได้ผ่อนคลายกับความเป็นธรรมชาติ และยังได้ลิ้มรสชาติเมนูอาหารไทยอร่อยๆ ชวนมาที่นี่เลย ‘The Sine Cafe’ ที่อยู่ใน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

‘The Sine Cafe’ (เดอะ ซายน์ คาเฟ่) คาเฟ่สวยแนวไทยร่วมสมัย ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นยุคสมัยใหม่ และยุคสมัยโบราณช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ท่ามกลางบรรยากาศสวนนั่งสบาย มีทั้งมุมนั่งในร้าน มุมนั่งในสวนริมสระน้ำ ให้เลือกนั่งได้ตามชอบ

และหากว่าเข้ามาที่นี่แล้ว ก็จะได้พบกับเรือนไทยโบราณ ‘เรือนไทยภิรมย์ภัชน์’ ที่มีอายุกว่าร้อยปี และถูกนำมาบูรณะใหม่ ภายในเรือนถูกประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ยุโรปแนววินเทจ บางชิ้นมีอายุกว่าร้อยปี และมีมุมอื่นๆ ให้ผู้เยี่ยมชมได้เข้ามาถ่ายรูปได้

สำหรับอาหารของที่นี่ จะเน้นสไตล์โฮมเมด ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านสืบทอดมาจากคุณทวด วัตถุดิบบางชนิด ทางร้านได้ปรุงขึ้นมาเองเพื่อควบคุมคุณภาพและรสชาติให้ได้มาตรฐาน โดยที่นี่มีทั้งอาหารไทย อาหารไทยโบราณ ขนมไทยหากินยาก อาหารตะวันตก และเครื่องดื่มหลากหลาย ที่จะเสิร์ฟความอร่อยให้กับทุกคนทั้งครอบครัว

เริ่มต้นมื้ออร่อยกันด้วยเมนูไทยโบราณ ‘ปลาแห้งแตงโม’ เพิ่มความสดชื่นจากแตงโมหวานฉ่ำ โรยหน้าด้วยปลาแห้งที่ทำจากเนื้อปลาช่อน ผสมกับน้ำตาล เหลือ และหอมเจียว จานนี้กินแล้วสดชื่นคลายร้อนมากๆ

จานซิกเนเจอร์ของร้านที่ชวนกินคือ ‘ไข่เคย S Garden’ เป็นเมนูง่ายๆ ที่ทำกินกันในครอบครัว แล้วขยายมาสู่การเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลองชิมความอร่อย เมนูนี้ทำจากกะปิกุ้งเคยแท้ ผัดกับเครื่องแกงและไข่ไก่ บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และผักสด

‘ข้าวยำภิรมย์ภัชน์’ อีกจานชวนชิม สีสันสวยงาม มีผักหลากหลายชนิด เสิร์ฟพร้อมข้าวยสวยสีเหลืองจากขมิ้น และสีม่วงจากดอกอัญชัน คลุกเคล้ากับน้ำบูดูปรุงสุกรสชาติกลมกล่อม และยังเพิ่มความหอมมันด้วยมะพร้าวคั่วใหม่ๆ

ต่อด้วย ‘แกงเขียวหวานปลากรายไข่เค็มภิรมย์ภัชน์’ เมนูอร่อยที่ทางร้านทำลูกชิ้นปลากรายเอง ด้านในเป็นไส้ไข่แดงเค็ม เข้าคู่กันกับน้ำแกงเขียวหวานรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟแบบเป็นเซตคู่กับเส้นหมี่ขาวลวก

อีกจานอร่อยที่ต้องชิม ‘ผัดหมี่กระเฉดมันกุ้งห่อไข่ทองคำ’ เป็นเส้นหมี่ผัดกับมันกุ้งเข้มข้น ผักกระเฉด และกุ้งสดตัวโต เพิ่มความพิเศษด้วยการห่อไข่นุ่มๆ

สลับมาชิมเมนูไทยฟิวชั่น ‘โรตีแกงสุวรรณภูมิ’ เป็นโรตีแผ่นเหนียวนุ่ม มาพร้อมกับแกงกะทิที่มีส่วนผสมระหว่างเครื่องแกงมัสมั่นและแกงเชียวหวาน กลายเป็นเครื่องแกงสีเหลืองทอง และยังมีเนื้อไก่นุ่มๆ ในน้ำแกงให้อร่อยกันด้วย

‘แกงรัญจวน’ อีกหนึ่งแกงโบราณที่มีบันทึกไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5 เคล็ดลับของแกงนี้คือจะต้องตำน้ำพริกกะปิรสชาติจัดจ้านครบรส ใส่ลงไปกับน้ำแกงที่ต้มกับเนื้อสัตว์ ซึ่งทางร้านใช้เนื้อหมูอย่างดีมาเคี่ยวจนเปื่อยนุ่ม

นอกจากเมนูอาหารไทยโบราณ และอาหารไทยต่างๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนูอาหารตะวันตกให้มาลิ้มลองกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่า สปาเก็ตตี ซุป ฯลฯ

และถ้าอิ่มจากของคาวแล้ว มาต่อกันที่ของหวานจานอร่อย ‘ส้มฉุน’ ของหวานโบราณที่ยืนพื้นด้วยลิ้นจี่เป็นหลัก แล้วตามด้วยผลไม้ตามฤดูกาลอื่นๆ นำมาใส่ในน้ำลอยแก้ว บีบน้ำส้มซ่าเพิ่มกลิ่นหอมและความสดชื่น กินแล้วอร่อยคลายร้อน

‘ขนมพระพายนมสด’ อีกหนึ่งขนมไทยโบราณ ที่ทางร้านดัดแปลงจากกะทิมาเป็นนมสดคาราเมล ส่วนตัวขนมนั้นไส้ทำจากถั่วกวนหวานมัน หุ้มด้วยแป้งข้าวเหนียวเคี้ยวหนึบ

มาถึงแหล่งมะพร้าวน้ำหอมอย่างที่สามพราน ต้องไม่พลาดที่จะชิมเมนูอร่อยจากมะพร้าวอ่อนหวานหอม ‘เค้กมะพร้าวไข่เค็ม’ เนื้อเค้กนุ่มๆ มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวอ่อน แทรกด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน เสิร์ฟพร้อมกับซอสไข่เค็มหอมมันที่เข้ากันดีมากๆ

ส่วนเครื่องดื่มก็เลือกเป็น ‘S Namhom Latte’ ทางร้านคัดเลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าอย่างดี ชงผสมกับมะพร้าวน้ำหอม นุ่มละมุน เสิร์ฟคู่เม็ดทองหยอดจิ๋วออนท็อป

มาที่นี่นอกจากจะมาลองลิ้มอาหารไทยอร่อยๆ แล้ว ก็ยังมีที่พัก ‘S Garden View Resort’ ซึ่งเป็นทั้งรีสอร์ทพักสบาย มีสถานที่จัดเลี้ยง งานแต่งงาน งานสัมมนาต่างๆ และยังไม่ไกลจากที่เที่ยวในย่านสามพรานอีกด้วย

ร้าน ‘The Sine Cafe’ ตั้งอยู่ภายใน S Garden View Resort อ.สามพราน จ.นครปฐม เปิดบริการวันพฤหัสบดี-อังคาร (หยุดวันพุธ) โซนคาเฟ่เปิดเวลา 10.00 – 20.30 น. โซนร้านอาหารเปิดเวลา 10.30 – 20.30 น. โทร. 09-5464-6228 Facebook : The Sine Cafe

‘ลิซ่า’ เดอะแบกแห่ง ‘BLACKPINK’ ผู้นำพาวงมาถึงฝั่งฝัน กับ 7 ปีที่ถูกด้อยค่า สู่การผงาดขึ้นมาเป็น ‘ตัวแม่’ ของวงการ

เมื่อไม่นานนี้ นายคมสันชัย สุขพิพัฒน์มงคล นักพากย์เสียงชาวไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงประเด็นการปฏิเสธต่อสัญญาจ้างกับทางค่าย YG ของ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ โดยระบุว่า…

‘ลิซ่า’ ปฏิเสธเงิน 50 พันล้านวอน หรือประมาณ 1,317 ล้านบาท ในการต่อสัญญากับค่าย YG เป็นข่าวดังไปทั่วโลก ส่งผลให้หุ้น YG ร่วงกราวรูดทันที 9% สูงที่สุดในรอบปี ลิซ่าปฏิเสธ 2 ครั้ง หุ้นก็ร่วง 2 ครั้ง…

เอาดิ คงลืมไปว่า ลิซ่าทำรายได้เป็นพรีเซนเตอร์แต่ละราย แค่ 1 ปี ก็มีรายได้มากกว่าสัญญาทาส 7 ปีของ YG ไม่รวมค่าตัว Global Brand Ambassador อีกหลายแบรนด์ เฉพาะค่าตัวลิซ่า กับ Celine แบรนด์เดียว ก็ 2,800 ล้านบาทแล้ว มากกว่าถึง 2 เท่า (แค่เดินและยิ้มกับอาภรณ์เลอค่า ไม่ต้องเต้นแร้งเต้นกาให้เปลืองเหงื่อ เปลืองแรง) แถม หลายแบรนด์ดังทั่วโลก พร้อมอ้าแขนรับลิซ่า คนดี น่ารัก นิสัยงาม ก็เป็นเช่นนี้

งานนี้ มีสิทธิ์อย่างมาก ที่ BLACKPINK จะยุบวง คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากครับ เราคงทราบกันดี ถึงความกดขี่ข่มเหงที่ผู้ชายเกาหลีปฏิบัติต่อผู้หญิงเกาหลีด้วยกัน เมื่อครั้งลิซ่าไปอยู่ใหม่ๆ เดินชนลิซ่ายังไม่ขอโทษ กว่าจะมีวันนี้ได้ ลิซ่าทนแล้วทนอีก เป็น ‘สีทนได้’ ทั้งด่า ทั้งเหยียด ใครจะอยากอยู่ต่อ?

ผมเคยไปอยู่เกาหลี จึงรู้ว่า ‘คนเกาหลีไม่ชอบคนไทย’ โดยเฉพาะผู้ชายและผีน้อย ลิซ่า ถูกเหยียดเรื่องชาติพันธุ์ จากบลิ๊งค์เกาหลีบางคน แต่ส่วนใหญ่รักลิซ่ามาก ถึงขนาดแกล้งเป็นลมกลางสนามบิน เพื่อให้ลิซ่ามาเทคแคร์

คนเกาหลี ไม่ชอบคนไทย แต่คนไทย กลับชอบเกาหลีมาก ดารานักร้องไทยรุ่นใหม่ แยกไม่ออกแล้ว เพลงไทย กลายเป็นเพลงเกาหลี หนังไทย กลายเป็นหนังเกาหลี ขนาดเนื้อเรื่องเป็นคนชนบท พระนางยังหน้าเกาหลี บ้าไปแล้ว!!

เมื่อก่อนมี J-POP K-POP ตอนนี้ไทยมี T-POP ผมดู ผมฟัง ไม่ใช่ T-POP มันเป็น K-POP 100% ครับ ไม่มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย

ในขณะที่ลิซ่าเองออกเดี่ยวชุดแรก เธอแสดงความเป็นไทย จนชุดไทย ชฎาไทย รัดเกล้ายอด ขายดีหมดเกลี้ยง ลิซ่ากล้าแสดงความเป็นไทย อวดสายตาชาวโลกอย่างภาคภูมิใจในความเป็นไทย

คนทั่วโลก ไม่ได้รักลิซ่า เพราะร้องเก่ง เต้นเก่ง เซ็กซี่ แต่รักที่ลิซ่า งดงาม อ่อนน้อม มีน้ำใจ กตัญญู และความเป็นไทยของลิซ่าครับ ขนาดลิซ่าทำวงดังมากกว่าใครในวง แต่ลิซ่ากลับได้รับค่าตัวที่ถูกแสนถูกกว่าคนอื่นในวง…

แล้วเป็นไง เงิน 1,317 ล้านบาท ก็ซื้อใจเธอไม่ได้ อย่าลืม ลิซ่าคนเดียวในวง ที่ทำสถิติโลก 
‘Guinness World Records’ มาแล้วหลายสถิติ

อย่าลืมว่าศิลปินเกาหลี เข้าจีนไม่ได้ จีนไม่ต้อนรับ แต่ที่ BLACKPINK เข้าจีนได้ เพราะจีนรักลิซ่ามาก สื่อยกให้เป็น ‘Queen of Dance’

ลิซ่า คือ ‘Soft Power’ ของไทยตัวจริง ความจริงคนทั้งโลกรู้ดีว่า วันนี้ ลิซ่ามีค่ามากกว่าการเป็นเพียงนักร้องนักเต้น ไปเถิดลิซ่า ไปสู่ประตูสวรรค์ โลกที่ยิ่งใหญ่รอเธออยู่ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’

เพราะความดีที่ทำ ชักนำเธอไป ทำบุญมาดีจริงๆ อดีตทำมาดี ปัจจุบันได้ดี ปัจจุบันทำไว้ดี อนาคตย่อมดี (ต้องเกิดอีกกี่ชาติ ผมถึงจะมีเงินเท่าที่ลิซ่าปฏิเสธ)🏠🧔🏻🇹🇭

ข่าวหลายคนพบเจอ ลิซ่าพาหวานใจมาพบพ่อแม่ที่บ้าน ล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดพลุอลังการสว่างฟ้า แล้วล่องใต้ รับงานที่สมุย ก็วันหยุดเธอนิ…

ความดีของมนุษย์ เทวดาก็ฉุดไม่อยู่แล้วล่ะครับ

ขอแสดงความยินดีครับ

24 กันยายน วันมหิดล น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน

24 กันยายน วันมหิดล ‘พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย’ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (กรมหลวงสงขลานครินทร์)

‘สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก’ ทรงพระราชสมภพวันที่ 1 มกราคม (ตามปฏิทินเก่าคือ ปี พ.ศ. 2434 แต่ตามปฏิทินใหม่คือ ปี พ.ศ. 2435) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มีพระเชษฐา และพระเชษฐภคินีที่ประสูติร่วมพระราชมารดา 7 พระองค์

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เป็นพระบรมราชชนกในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็นพระอัยกาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

พระองค์มีคุณูปการแก่กิจการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของประเทศไทย ประชาชนโดยทั่วไปคุ้นเคยกับพระนามว่า ‘กรมหลวงสงขลานครินทร์’ หรือ ‘พระราชบิดา’ และบางครั้งก็ปรากฏพระนามว่า ‘เจ้าฟ้าทหารเรือ’ และ ‘พระประทีปแห่งการอนุรักษ์สัตว์น้ำของไทย’ ส่วนชาวต่างประเทศเรียกพระนามว่า ‘เจ้าฟ้ามหิดล’

หลังพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระองค์ทรงพระประชวร ต้องประทับในพระตำหนักวังสระปทุม และสวรรคตเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 เวลา 16.45 น. เมื่อพระชนมายุ 37 พรรษา 8 เดือน 23 วัน

ด้วยความรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ผู้ที่เคยได้รับพระกรุณาในด้านต่าง ๆ จากพระองค์ จึงได้รวบรวมเงินจัดสร้างพระรูปประดิษฐานไว้ ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยมอบให้กรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการสร้าง มี ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ควบคุม

ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงกระทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2493 และ ในวันที่ 24 กันยายนปีเดียวกัน นักศึกษาแพทย์ได้ริเริ่มจัดงานขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ โดยมีพิธีวางพวงมาลา ถวายบังคมพระรูป อ่านคำสดุดีพระเกียรติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ประกาศให้วัน ที่ 24 กันยายน ของทุกปีเป็น ‘วันมหิดล’ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2494 เป็นต้นมา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในฐานะพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย

‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ยอมรับภาพหลุด เป็นฝีมือแฟนเก่านอกวงการ ลั่น!! ไม่เคยคิดว่าความไว้ใจที่เคยมอบให้ มันจะย้อนกลับมาทำร้าย

(23 ก.ย.66) จากกระแสร้อนแรงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ กรณีการไปลือสะพัดถึงปมคลิปหลุดปริศนาพาดพิงถึงนักร้องสาวสวยแซ่บ เบียร์ ภัสรนันท์ หรือ เบียร์ เดอะวอยซ์ ทำให้แฮชแท็ก #เบียร์เดอะวอยซ์ ติดเทรนด์ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องตอนนี้

ล่าสุด เบียร์ เดอะวอยซ์ โพสต์ชี้แจงในเพจ Bizcuitbeer ว่า เบียร์ขออธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแบบรวดเดียวในโพสต์นี้เลย โดยแยกตามประเด็นไว้ให้ทั้งหมดแล้ว และจะไม่ตอบคำถามใดๆเพิ่มเติมในคอมเม้นต์ ต้องขอโทษด้วยที่ออกมาเคลื่อนไหวช้า เนื่องจากต้องให้เวลากับการทำอะไรก็แล้วแต่ที่จะไม่ให้มีผลต่อรูปคดีหรือการดำเนินการของตำรวจ

การรับรู้เรื่องราว ช่วงหลายๆ วันก่อนหน้านี้ เบียร์ได้รับข้อความว่ามีคนนำภาพของเบียร์ไปขายทางแอปพลิเคชันนึง ซึ่งในครั้งแรกที่เห็นข้อความก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เพราะคิดว่าเป็นมิจฉาชีพหลอกให้กดลิงก์ แต่หลังจากนั้นก็มีข้อความเข้ามาด้วยใจความเดียวกันอีกหลายๆ ครั้งและหลายช่องทาง รวมไปถึงอีเมล์ส่วนตัวด้วย ซึ่งภาพดังกล่าวนั้นมีมูลค่าสูงถึง 96,000-105,000 บาท (ราคาภาพอย่างเดียวไม่ใช่คลิป)

การตรวจสอบยืนยัน วันนี้เบียร์ได้ดูภาพและคลิปทั้งหมดแล้ว จะขอบอกทุกคนว่าภาพและคลิปดังกล่าวเป็นเบียร์เองจริงๆ และเบียร์รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะหลังจากที่มีคนช่วยหาภาพมาให้ดู เบียร์เองก็รู้ได้ในทันทีว่าสถานที่และช่วงเวลานั้นเกิดขึ้นตอนคบหากับใคร ซึ่งในภาพนั้นค่อนข้างจะชัดเจนและปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่ตัวเองค่ะ ดังนั้นไม่ต้องนำภาพไหนมาปะติดปะต่อหรือเทียบกันอีกแล้ว นั่นเบียร์เองยอมรับตรงนี้เลย

บุคคลที่ถ่าย สถานที่ในคลิปและภาพส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บ้านหลังเก่าของเบียร์ช่วงประมาณปี 2020 บุคคลที่ถ่ายภาพคือแฟนเก่าของเบียร์เอง เป็นคนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงในวงการเกม หรือวงการเพลง หรือวงการบันเทิงเลย ดังนั้นเบียร์อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งโจมตีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องขอโทษทั้ง ‘ท็อป’ ‘วาน้อย’ ‘ฮาย’ และ ‘พี่คัตโตะ’ ด้วยที่ทำให้เดือดร้อนโดนต่อว่าให้เสียหาย

ความรู้สึกต่อเรื่องนี้ เอาจริงๆ ในตอนนั้นเบียร์คิดว่าเรื่องการถ่ายภาพหรือถ่ายคลิปนั้นเป็นเรื่องของรสนิยมเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นการตกลงยินยอมของคน 2 คนในขณะนั้น เพียงแต่บางภาพที่หลุดออกมาเป็น ‘การแอบถ่าย’ ที่ไม่ได้รู้ตัว รวมๆ กันอยู่ด้วย แต่เบียร์จะบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ เบียร์รู้สึกว่าความผิดพลาดเดียวคือ ตัวเบียร์เองไม่ได้รอบคอบมากพอที่จะจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นและให้มันจบไปในช่วงก่อนหน้านี้ จากการคบหาใครคนนึงแล้วมีการเลิกรากันไป

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงจะมีการพูดคุยให้ลบทิ้งทั้งหมด เพราะไฟล์อยู่ที่เขา เขาเป็นคนถ่ายไว้ ในกระทำดังกล่าวภาพบางภาพไม่ได้มีการบังคับ แต่เป็นการยินยอมเพราะความไว้ใจของเบียร์เองที่มอบให้เขาค่ะ เพราะเราคบกัน รักกัน และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบคู่รักอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งเราก็เลี้ยงหมาด้วยกันมีความสุขดี ที่ผ่านมาเขาก็ดูแลเบียร์อย่างดีมาตลอด

ตอนที่รู้เรื่องนี้ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเขาที่ทำด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดว่าการที่เรามอบความไว้ใจให้คนที่เรารัก มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเบียร์ได้ขนาดนี้

เหตุผลของการถ่ายและเหตุผลของคนที่ทำ เรื่องความสัมพันธ์บางอย่างของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ณ ตอนที่คบกันเราก็ดูแลกัน เติมเต็มกันในส่วนที่ขาดหรือส่วนที่ต้องการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชีวิตคู่มันมีสีสัน มันราบรื่น ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนมีวาทะศิลป์ในการพูดอย่างมาก ที่จะโน้มน้าวให้เราทำตาม เรื่องนี้ไม่ขอโทษใครเลยเพราะในตอนนั้นเราก็หลงเชื่อเขาเอง แต่พอวันนึงที่เราตัดสินใจไม่ไปต่อ เราเลิกรากันไป ซึ่งก็นานประมาณนึงแล้ว เขายังคงแสดงความห่วงใยถามไถ่บ้างบางโอกาสอยู่เลย

เพียงแต่เราไม่ได้ตอบกลับอะไรมากมาย เพราะเกรงใจความสัมพันธ์ที่เป็นปัจจุบันมากกว่า จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้วเบียร์ก็คงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เพราะมันเป็นทั้งอดีตและความจริง

ณ ปัจจุบันเขาก็ทำการบล็อกเบียร์ทุกช่องทางไปแล้ว มีแค่ช่องทางร้านธุรกิจของเขาที่ยังคงอยู่ ซึ่งเบียร์คงไม่ถามเหตุผลว่าที่เขาปล่อยภาพพวกนี้ออกมาเขาต้องการอะไร อาจจะเป็นเงินก็ได้อันนี้เบียร์ก็ไม่ทราบเหมือนกัน ตอนที่คบกันก็มีการบ่นเรื่องปัญหาการเงินบ่อยครั้ง และรูปที่ปล่อยออกมาก็เริ่มจากการขายในราคาที่แพงมากๆ ด้วย

พฤติกรรมของบุคคลที่ทำ (เอาไว้เป็นอุทาหรณ์)
-เบียร์ไม่ใช่คนแรกที่เขากระทำแบบนี้
-มีพฤติกรรมชอบยกมือถือขึ้นมาคล้ายกับว่าเล่นมือถือเฉยๆ แต่จริงๆ แอบถ่ายบ่อยครั้งพอถามก็บอกว่าไม่มีอะไร
-หากถูกจับได้ว่าการถ่ายก็จะทำทีเป็นลบ แต่อาจจะอัพโหลดบนคลาวด์เรียบร้อยแล้ว
-มีปัญหาเรื่องการเงินบางทีครั้งก็ชอบหยิบยืมแล้วทำเป็นลืมที่จะคืน
-มีการร้องขอให้ทำท่ายั่วยวนเวลาที่พูดคุยผ่านทางวิดิโอคอล

ขอโทษ เบียร์เองต้องยอมรับว่ากระแสที่เกิดขึ้นมันอาจจะกระทบงานที่กำลังจะเกิดในเร็วๆ นี้ของเบียร์ ซึ่งก็กังวลค่อนข้างมาก เพราะมีหลายงานที่เกี่ยวข้องกับคนอื่น ผู้จัด หรือนักแสดงท่านอื่นๆ แบรนด์สินค้าต่างๆ รวมถึงบุคคลที่โดนเข้าใจผิด เบียร์ต้องขอโทษทุกคนไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ เบียร์ยินดีรับความผิดพลาดนี้ไว้เองทุกประการค่ะ

การแก้ไข ต่อจากนี้เบียร์เองจะรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้นในทุกๆ อย่างของชีวิต ไม่ให้ทุกคนต้องผิดหวังหรือได้รับผลกระทบจากเรื่องความสัมพันธ์ของเบียร์อีกในอนาคตค่ะ ซึ่งในครั้งนี้เบียร์ก็ได้รับบทเรียนแล้วว่าไม่ควรไว้ใจใครทั้งนั้น ในอนาคตก็อาจจะต้องวางแผนการใช้ชีวิตใหม่ด้วย

เรื่องของทนาย มีบางเพจที่บอกว่าเป็นทนาย เป็นคนดูแลคดีเรื่องดังกล่าวคือโกหกทั้งนั้น คนที่หลงเชื่อเพราะไม่รู้ก็ไม่เป็นไร คนที่รู้อยู่แล้วก็ยังจงใจซ้ำเติมไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงเหมือนกัน

เรื่องของคอมเมนต์ ใครจะวิจารณ์อะไรถ้าเป็นการติเพื่อก่อ เบียร์จะขอน้อมรับไว้เพื่อปรับปรุง แค่ขอให้ละเว้นเรื่องครอบครัวและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยนะคะ แต่อย่าลืมข้อกฎหมายบางอย่างไปว่า ‘แค่การแชร์’ คุณก็อาจถูกฟ้องดำเนินคดีได้

คอมเมนต์ที่จะพิมพ์อะไรลงไป วันนี้คุณอาจจะสนุก สะใจ สมน้ำหน้า เบียร์ไม่ตอบกลับ แต่อย่าลืมว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเบียร์ได้ วันนึงก็อาจเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวคุณก็ได้ไม่ว่าจะชายหรือหญิง มันไม่มีใครสมควรเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิตทั้งนั้น

เบียร์ไม่แปลกใจที่จะเจอคอมเมนต์แนวนี้จากผู้ชาย แต่กับผู้หญิงด้วยกัน ค่อนข้างทำให้เบียร์รู้สึกว่าโลกนี้ไม่เคยใจร้ายกับใครนะ มีแต่มนุษย์ด้วยกันนี่แหละที่ร้ายที่สุดแล้ว

โลกยุค 2023 แล้ว ทำไมการมีความสัมพันธ์ที่เรียกว่า ‘SEX’ ผู้ชายที่ทำจะเป็นฝ่าย ‘ได้’ แต่ ผู้หญิงที่ทำจะเป็นฝ่าย ‘เสีย’ หรือเพราะมันกำหนดไว้แบบนั้น ผู้หญิงถึงต้องเป็นฝ่ายที่เสียหายตลอดทุกครั้งไปที่มีประเด็นแบบนี้เกิดขึ้น

เรื่องนี้บอกอะไรบ้าง เบียร์คิดว่าพอมันเกิดขึ้น มันก็ทำให้ตัวเองและหลายๆคนระมัดระวังในความสัมพันธ์มากขึ้น ได้เห็นว่าแม้จะเลิกรากันไปนานแต่ก็อาจมีสิ่งที่หลงเหลือมากพอที่จะทำร้ายหรือทำลายชีวิตเราได้ทุกวันเวลา และอดีตนั้นจะกลับมาเปลี่ยนเรื่องราวในปัจจุบัน

-คนไม่เข้าใจว่าการถูกถ่ายกับการนำไปอัพโหลดมันคนละเรื่องกัน ความยินยอมต่างกัน
-คนที่ได้รับผลของการกระทำมันถูกฝั่งรึเปล่า?
-ทำไมคนที่ต้องอับอายไม่มึที่ยืนในสังคมถึงเป็นคนที่ถูกโพสต์อะไรแบบนี้ลงในโลกอินเตอร์เน็ต?
-เบียร์ไม่ใช่เคสแรกหรือเคสเดียวที่เกิดขึ้น ทำไมสังคมเลือกจะซ้ำเติมเรา?
-ทำไมคนที่กระทำเรื่องแบบนี้เคสอื่นๆ ถึงลอยนวล ทำไมคนได้ดูต้องโอ้อวดภูมิใจ?
-การทำลายคนอื่นมันง่ายแค่ปลายนิ้วและมีอินเตอร์เน็ตเท่านั้นเองเหรอ?
-ทำไมส่วนใหญ่ถึงเอนจอยกับเรื่องแบบนี้จนไม่สนความเจ็บปวดของคนอื่น?
-ทำไมสรรเสริญคนกระทำความผิดละเมิดคนอื่นว่าเป็นคนน่าอิจฉา เป็นผู้ใจบุญ?
-การคบใครเป็นคนรักนั้นการให้ความไว้ใจใครสักคนอาจจะถูกหักหลังในภายหลังได้เสมอ อย่าประมาท

รวมไปถึงการเสพข้อมูลผิดๆ จากเพจปลอมก็ทำให้รู้ว่าสังคมสมัยนี้ยังคงไม่ใส่ใจกับการที่คนๆนึงจะมีบาดแผลมากเท่าไหร่จากการที่แชร์ข้อมูลผิดๆ ลงพื้นที่โซเชี่ยลของตัวเอง เพียงเพราะอยากสนุกอยากมีส่วนร่วมกับการกระทำซ้ำเติมใครสักคนเสมอแม้ไม่แน่ใจนักว่าเรื่องนั้นจริงหรือไม่ มีที่มาที่ไปอย่างไร เรื่องของเบียร์คงเป็นตัวอย่างที่ดีในการคัดกรองเพื่อนในโซเชียลครั้งใหญ่ของใครหลายๆ คน

จากการแชร์ คอมเมนต์หรือการแสดงทัศนคติต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจึงเกิดคำแบ่งแยก ‘ชายแท้’ ‘หญิงแท้’ อย่างที่ใครเข้าใจกัน ตอนนี้เบียร์รับผิดชอบในส่วนของเบียร์แล้ว แล้วพวกคุณล่ะได้ออกมารับผิดชอบอะไรกันบ้าง ทั้งๆ ที่ได้เงินจากการเอารูปไปขาย ความสนุก ความสะใจ ยอดฟอลโลว เอนเกจเมนต์ต่างๆ อย่างที่ต้องการแล้ว

ขอบคุณ เบียร์ขอบคุณทุกคนมากค่ะที่อ่านจนจบ และขอบคุณหลายๆคนที่ออกมาให้กำลังใจ, ดีเฟนด์, คอลเอ้าท์หรือกดรีพอร์ตสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้กับเบียร์ด้วย ขอบคุณแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่แสดงความเห็นใจไม่ยกเลิกงาน ขอบคุณการช่วยเหลือทุกอย่างจากทุกคนในเรื่องนี้เบียร์ขอขอบคุณจากใจจริง รูปสวยๆ เบียร์มีเยอะมาก ถ่ายเองอาจจะสวยกว่านี้ชัดกว่านี้ อย่าไปเสียเงินให้คนที่ละเมิดคนอื่นแบบนี้เลยค่ะ ถ้าเบียร์ทำเองเบียร์จะถ่ายให้สวยกว่านี้แน่นอนรับรอง คำถามอื่นๆ นอกเหนือจากนี้เบียร์ขอให้ทางต้นสังกัด, ผู้จัดการ, ทนายและทางตำรวจเป็นคนจัดการบุคคลที่ทำเรื่องนี้ต่อไป

#อยากขายเสื้อหมาบ้างจังเลยโว้ย
#แค่คุณสวยโลกนี้ก็ใจดีกับคุณไม่ใช่เบียร์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top