Wednesday, 8 May 2024
LITE

‘ร้านแดง ซีฟู้ด คลองโคน’ ร้านอาหารทะเลพื้นบ้านบรรยากาศดี การันตี ‘ความสด-สะอาด-อร่อย’ 10 ปี ปรุง-เสิร์ฟแบบจานต่อจาน

‘ร้านแดง ซีฟู้ด คลองโคน’ จังหวัดสมุทรสงคราม ร้านอาหารทะเลพื้นบ้าน สด สะอาด บรรยากาศดี การันตีความอร่อยมายาวนาน ขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบสด ๆ จากทะเล ปรุงอาหารเลิศรสแบบ ‘จานต่อจาน’

คุณศิริวรรณ จือเหลือง หรือ เจ๊แดง เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เปิดร้านมากว่า 10 ปี ซึ่งตนเป็นคนในพื้นที่คลองโคนอยู่แล้ว ครอบครัวมีอาชีพทำประมงชายฝั่ง ตนเป็นแม่บ้าน ชอบทำกับข้าว โดยเฉพาะการนำวัตถุดิบจากทะเลที่พ่อบ้านหามาได้มาทำเป็นอาหารกินในครอบครัว จนกระทั่งมีความคิดว่า น่าจะช่วยทางบ้านหารายได้เสริม จึงเปิดร้านขายอาหารทะเล วัตถุดิบจากทะเลบางอย่างก็เป็นของพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง ทำให้อาหารของทางร้านราคาไม่แพง

เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาด ‘ปูทะเลไข่นึ่ง’ ที่นำปูไข่สด ๆ จัดใส่ในจาน มีแต่ไข่เน้น ๆ เนื้อแน่น ๆ ตัวใหญ่ ๆ นำไปนึ่งประมาณ 10-15 นาที ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของร้าน อาหารอร่อยถูกปากเข้ากันสุด ๆ

‘หมึกผัดกะปิ’ ที่นำกะปิมาคั่วผัดกับปลาหมึกจนหอม ‘แกงคั่วกุ้งชะคราม’ กุ้งสด ตัวใหญ่ ในน้ำแกงกะทิคั่วเข้มข้น รสชาติจัดจ้านถึงใจ 

นอกจากนี้ยังมี ‘ปลาทูผัดพริกขี้หนู’ อาหารพื้นเมือง ปลาทูแม่กลอง อาหารทุกจานรับรองเลยว่าคัดแค่คุณภาพเน้น ๆ อร่อยเต็มคำ และไม่แน่ว่าคุณอาจจะต้องกลับมาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่

หนึ่งในร้านอาหารชื่อดังของคลองโคน ใครที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรกอาจจะต้องตกใจกับจำนวนคนเยอะมาก แต่ไม่ต้องหงุดหงิดไป ลองได้สั่งแล้วก็รอไม่นาน สั่งปุ๊บอึดใจไม่นานก็ได้ปั๊บ

ใครสนใจลิ้มลองอาหารรสเลิศ สามารถแวะมาได้ที่ ตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม (ใกล้กับวัดคลองโคน) หรือแผนที่ https://maps.app.goo.gl/WwzD4gqkskzVyVPF6 

ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. 
โทรศัพท์: 093-6659651

5 ตุลาคม ‘วันนวัตกรรมแห่งชาติ’ รำลึกพระอัจฉริยภาพ ในหลวง ร. 9 ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย

วันที่ 5 ตุลาคม ของทุกปี กำหนดให้เป็นวันนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 รำลึกถึงพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านนวัตกรรม

เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินโครงการของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และทรงได้มีพระราชดำรัสแสดงถึงความเป็นนวัตกรรมของ ‘โครงการแกล้งดิน’ ที่ไม่มีใครทำมาก่อนและทั้งนี้ได้ทรงพระราชทานพระราชดำริให้ทำเป็นตำรา คือ ‘คู่มือปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อการเกษตร’ สำหรับที่จะใช้พัฒนาพื้นที่ดินเปรี้ยวอื่น ๆ ต่อไป

ด้วยพระปรีชาสามารถทางด้านนวัตกรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และความตั้งพระราชหฤทัยที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยนั้น เป็นที่ประจักษ์และเป็นที่สรรเสริญพระเกียรติคุณกันทั่วทิศานุทิศ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเทิดพระเกียรติพระองค์เป็น ‘พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย’ จากการใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาสภาพดินเปรี้ยว ให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พุทธศักราช 2549 ให้ดำเนินโครงการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้

1. เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็น 'พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย'
2. ให้วันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี เป็น 'วันนวัตกรรมแห่งชาติ'

ทั่วโลกจับตา!! ความสัมพันธ์ ‘ลิซ่า-เฟรเดอริก’ หนุ่มมหาเศรษฐี หลังพบทั้งคู่ ‘ปาร์ตี้-ดินเนอร์’ ที่ปารีส แฟนๆ ลุ้น หรือรักกำลังผลิบาน?

หลังจากที่ ‘ลิซ่า แบล็กพิงก์’ ได้เข้าร่วมแสดงที่ ‘เครซีฮอร์ส คาบาเร่ต์’ เมื่อวันที่ 28-30 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 3 คืน ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โดย หลังจากจบการแสดงรอบสุดท้าย ลิซ่าได้เข้าร่วมปาร์ตี้หลังการแสดงกับเพื่อนๆ ซึ่งมีคลิปหลุดที่แชร์กันทั่วโลกออนไลน์ ที่เห็นลิซ่ากำลังเต้นรำอย่างสนุกสนาน และที่น่าสังเกตคือ ‘เฟรเดอริก อาร์โนลต์’ หนุ่มที่มีข่าวลือกับเธอก็อยู่ในงานเช่นกัน และยืนอยู่ใกล้กับลิซ่าในปาร์ตี้นี้ด้วย

ต่อมา ในคืนวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา แฟนคลับผู้โชคดีบางส่วนได้มีโอกาสเห็น ลิซ่า แบล็กพิงก์ และเฟรเดอริก อาร์โนลต์ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงปารีส โดยที่ทั้งคู่ปรากฏตัวแบบดูสบายๆ ในระหว่างที่พวกเขากำลังออกเดต และไม่ได้วิ่งหนีกล้องถ่ายรูป หรือดูจะไม่กลัวคนสนใจที่จะมองเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของพวกเขา

เรื่องนี้เริ่มทำให้หลายคนสงสัยว่า นี่อาจเป็นสัญญาณที่พวกเขาทั้งสองกำลังพิจารณาเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อสาธารณะ

นอกจากนี้ ยังมีคนเห็นเฟรเดอริกไปรับลิซ่าที่สนามบินในฝรั่งเศส และมีคลิปหลุด เป็นภาพของพวกเขาร่วมในงานปาร์ตี้ล่าสุดยังได้รับความสนใจมากมายจากแฟนๆ ทั่วโลกโซเชียลมีเดีย
อีกทั้ง เฟรเดอริก อาร์โนลต์ ยังไปดูการแสดงของลิซ่าทุกวัน กับเพื่อนๆ และครอบครัวของเขาที่คลับ เครซีฮอร์สคาบาเร่ต์

ซึ่งก่อนหน้านี้ แฟนๆ เชื่อว่าลิซ่าได้ไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่กรีซกับครอบครัวของอาร์โนลต์มาแล้วอีกด้วย

ถึงแม้ลิซ่าและเฟรเดอริกจะยังไม่ได้ยืนยันความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเป็นทางการ รูปภาพและคลิปหลุดที่แสดงความรักของพวกเขา ได้ทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นและมีความสุขที่จะเชียร์คู่รักคู่นี้ มีบรรดาแฟนคลับของลิซ่าได้แสดงความยินดีกับพวกเขาบนโซเชียลมีเดีย หลังจากเห็นลิซ่าและเฟรเดอริก อาร์โนลต์ มารับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารในกรุงปารีส

แม้จะยังไม่มีคำแถลงอย่างเป็นทางการจากทั้งจากลิซ่าและเฟรเดริก แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขากลายเป็นเรื่องฮอตในโลกออนไลน์ และดึงความสนใจจากแฟนๆ ทั่วโลกอย่างมาก

4 ตุลาคม พ.ศ. 2313 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนา ‘กรุงธนบุรี’ เป็นราชธานี

วันนี้ เมื่อ 253 ปีก่อน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนาราชธานีแห่งใหม่ มีนามว่า กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร 

หลังการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เมื่อปี  2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงรวบรวมกำลังพลและกองทัพเรือจากเมืองจันทบุรี ล่องมาตามชายฝั่งจนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงต่อสู้โจมตีค่ายโพธิ์สามต้นจนสามารถขับไล่ทหารพม่าออกจากอาณาจักรได้และสามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยาจากการยึดครองได้ ในเวลาเพียง 7 เดือน จากนั้นโปรดให้อัญเชิญพระบรมศพพระเจ้าเอกทัศมาประกอบพิธีโดยสังเขปและพระราชเพลิงพระบรมศพเรียบร้อย

จากนั้นพระองค์ได้เสด็จสำรวจความเสียหายของบ้านเมือง และประทับแรมในพระนคร ณ พระที่นั่งทรงปืน ทรงพระสุบินนิมิตว่า พระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา “มาขับไล่ไม่ให้อยู่” พระเจ้าตากสินมหาราชทรงเล่าให้ขุนนางทั้งหลายฟัง แล้วดำรัสว่า

“เราคิดสังเวชเห็นว่าบ้านเมืองจะร้างรกเป็นป่า จะ มาช่วยปฏิสังขรณ์ทํานุบํารุงขึ้นให้บริบูรณ์ดีดังเก่า เมื่อเจ้าของเดิม ท่านยังหวงแหนอยู่แล้ว เราชวนกันไปสร้างเมืองธนบุรีอยู่เถิด แล้วตรัสสั่งให้เลิกกองทัพกวาดต้อนราษฎร แลสมณพราหมณาจารย์ ทั้งปวงกับทั้งโบราณขัติยวงษ์ซึ่งยังเหลืออยู่นั้น ก็เสด็จกลับลงมาตั้งอยู่ ณ เมืองธนบุรี”

เรื่องเมืองธนบุรีนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงแสดงความคิดเห็นไว้ว่า
“…ที่เจ้าตากลงมาตั้งเมืองธนบุรีเป็นราชธานี ครั้งนั้นเหมาะแก่ประโยชน์ทุกอย่าง ถ้าหากว่าสมเด็จพระอดีตมหาราชได้มาขับไล่เจ้าตากมิให้ตั้งอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา ก็ขับไล่ด้วยไมตรีจิต ตักเตือนมิให้พลาดพลั้งไปด้วยเห็นแก่เกียรติยศ

เพราะกรุงศรีอยุธยาถึงเป็นที่มีชัยภูมิด้วยลําน้ำล้อมรอบ และเป็นเมืองมีป้อมปราการมั่นคงก็จริง แต่รี้พลของเจ้าตากที่มีอยู่ไม่พอจะรักษากรุงศรีอยุธยาต่อสู้ข้าศึก และขณะนั้นศัตรูก็ยังมีมาก ทั้งพม่าและไทยก๊กอื่นอาจจะยกมาย่ำยีในเมื่อหนึ่งเมื่อใด กรุงศรีอยุธยาอยู่ในทางที่ ข้าศึกจะมาถึงได้สะดวกทั้งทางบกและทางน้ำ ถ้ามีกําลังไม่พอรักษา ขืนตั้งอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาก็คงเป็นอันตราย

การที่ลงมาตั้งอยู่เมืองธนบุรีก็ไม่ห่างไกลกับกรุงศรีอยุธยา มีอํานาจอยู่ที่เมืองธนบุรีก็เหมือนมีอํานาจอยู่ในกรุงศรีอยุธยา แต่ได้เปรียบที่เมืองธนบุรีตั้งอยู่ที่ลําน้ำลึกใกล้ทะเล แม้ข้าศึกมาทางบกไม่มีทัพเรือเป็นกําลังด้วยแล้วก็ยากที่จะมาตีเมืองธนบุรี”

ภายหลังเมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบชุมนุมต่างๆ แล้ว พระองค์ได้ทรงสถาปนาเมืองธนบุรี ขึ้นราชธานีแห่งใหม่ ทรงสร้างพระราชวังขึ้นทางทิศใต้ของกรุงธนบุรี ขนาบข้างด้วยวัดแจ้ง หรือวัดมะกอก (ปัจจุบันคือ วัดอรุณราชวรารามราชวรวิหาร) และวัดท้ายตลาด (ปัจจุบันคือวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร) เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2313 พระราชทานนามว่า “กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร”

‘ทีน สราวุฒิ’ แวะบุรีรัมย์เยี่ยมสุสาน ‘ปอ ทฤษฎี’ บอกเล่าภาพรวมประเทศไทย ‘เละเทะทุกวงการ’

เพื่อนรักเพื่อนกันตลอดกาลจริง ๆ สำหรับ ‘ทีน สราวุฒิ พุ่มทอง’ กับพระเอกดังที่จากโลกนี้ไปนานแล้วอย่าง ‘ปอ ทฤษฎี’ ซึ่งหลายครั้งที่หนุ่ม ‘ทีน’ เดินทางไปบุรีรัมย์ก็จะต้องแวะเวียนไปเยี่ยมเพื่อนที่สุสานเสมอมา ล่าสุดเจ้าตัวได้ไปหา ‘ปอ’ พร้อมบอกกล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองไทยในขณะนี้ว่า…

“ตามสัญญา ถ้ามาบุรีรัมย์ กูต้องแวะมาหามึง : Wrap up สั้น ๆ ของปี 66 ทุกวงการ ทุกสายงานอาชีพอย่างกับหนังสงครามเลยนะมึง ตีกันไปตีกันมา ละคงละครแทบไม่ต้องดูแล้ว แค่ตามข่าวในแต่ละวันแต่ละเรื่องก็เหนื่อยแย่แล้วววว เละเทะบอกเลย คิดถึงเหมือนเดิมเพิ่มคือกูแก่ขึ้น #ว่าแล้วก็ไป”

‘พิมรี่พาย’ สติหลุดกลางไลฟ์ ‘ทุ่มสินค้า-วีนพนง.-หยิบน้ำมันราดหน้า’ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเป็นห่วง-ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรม

(3 ต.ค. 66) กลายเป็นกระแสดรามาสนั่น แม่ค้าออนไลน์เบอร์ต้น ‘พิมรี่พาย’ หลังจากเมื่อคืนไลฟ์ขายแป้ง แล้วเหมือนหลุดฟิวส์ขาดสติแตกวีนกลางไลฟ์ ขว้างปาข้าวของพังกระจาย ตะโกนดังลั่นตำหนิการทำงานพลาดของลูกน้องใส่รหัสสินค้าผิด อาทิ มึงพลาดได้ไง ไอ้…… มึงแก้ยัง แก้หรือยัง มึงเอารุ่นดีๆ ขึ้นมา เอาออกไป ทำไมมมมมมม…….. ก่อนจะลบไลฟ์ดังกล่าวทิ้ง

จากนั้นไลฟ์ใหม่แต่ยังมีพฤติกรรมที่หลายคนมองว่าแปลกไปอีก ทั้งเอาลิปสติกมาเขียนที่ฟัน เอาแป้งมาทาที่ฟันด้วยแบบไม่สนความสวยกันแล้ว หรือเอาน้ำมันราดที่หน้าทดสอบแป้งกันไปเลย

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเป็นห่วงทั้งไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรม อาทิ เข้าใจเลยค่ะ เงินหายไปเท่าไหร่ เขาเหนื่อยนะ จากคนขายออนไลน์เหมือนกันค่ะ, เสียดายของแตกหมดล่ะมั้งบ่ได้ขายพอดี, อะไรจะขนาดนั้น, เขาจริงจังกับการขายวันนี้มากๆ จริงๆ ค่ะ ต้องไปดูไลฟ์เต็มเลยอาจจะทำโมโหมาก 1 นาที คนกดหลายออเดอร์มากๆ วันนี้, แล้วเอาของที่หล่นส่งให้ลูกค้าไหมคะ มันจะแตกไหม แค่สงสัย, ช่วงขาลง/ก็จะเรียกเรตติ้ง เป็นธรรมดา เป็นต้น

3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 ฝรั่งเศสบังคับสยาม ยอมยกดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง แลกกับเมืองจันทบุรี ในวิกฤตการณ์ ร.ศ.112

วันนี้ เมื่อ 130 ปีก่อน ฝรั่งเศสบังคับสยาม สละพื้นที่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ในวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 นับเป็นการเสียดินแดนครั้งที่ 2 

‘การรบที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา’ จุดเริ่มต้นของ ‘วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112’ หรือ ‘กรณีพิพาทไทย-ฝรั่งเศส ร.ศ. 112’ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เกิดขึ้นเมื่อกองทัพฝรั่งเศสส่งเรือรบ 2 ลำ คือ เรือแองกองสตองต์ และ เรือโกแมต์ โดยมีเรือสินค้า ‘เจ. เบ. เซย์’ เป็นเรือนำร่อง รุกล้ำฝ่าสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา 

โดยหมู่ปืนใหญ่ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าและหมู่เรือรบซึ่งเป็นแนวป้องกันของไทยได้ยิงสกัดถูกเรือสินค้าเสียหาย เรือรบของฝรั่งเศสจึงยิงตอบโต้ โดนเรือมกุฎราชกุมารของไทยเสียหาย และทหารไทยเสียชีวิต 8 นาย บาดเจ็บ 40 นาย ส่วนทหารฝรั่งเศสเสียชีวิต 3 นายและบาดเจ็บอีก 3 นาย จากนั้นเรือรบฝรั่งเศสทั้งสองก็แล่นฝ่าเข้ามาที่สถานกงสุลฝรั่งเศส ถนนเจริญกรุง 

โดยผลจากการปะทะกันครั้งนี้ ฝรั่งเศสได้บังคับให้สยามลงนามใน ‘สนธิสัญญาสันติภาพ’ ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 ซึ่งเป็นการทำสัญญาสงบศึกระหว่างรัฐบาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส

โดยสาระสำคัญเป็นข้อกำหนดที่ฝรั่งเศสตั้งขึ้นเอง เช่น ให้สยามยอมสละข้ออ้างทั้งปวงว่า มีกรรมสิทธิ์อยู่เหนือดินแดนทั่วไปทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และบรรดาเกาะทั้งหลายในแม่น้ำนั้น ห้ามมิให้มีเรือติดอาวุธไว้ใช้ หรือเดินไปมาในน่านน้ำของทะเลสาบ และของแม่น้ำโขง และลำน้ำที่แยกจากแม่น้ำโขง ไม่สร้างค่ายหรือที่ตั้งกองทหารไว้ในเมืองพระตะบอง และเมืองนครเสียมราฐ รวมทั้งบนฝั่งขวาแม่น้ำโขงในรัศมี 25 กิโลเมตร 

โดยให้บุคคลสัญชาติฝรั่งเศสก็ดี บุคคลในบังคับหรือในปกครองฝรั่งเศสก็ดี จะไปมาหรือค้าขายได้โดยเสรี ขออารักขาเมืองจันทบุรี ให้ลงโทษบุคคลที่เป็นต้นเหตุแห่งการสูญเสียชีวิตของทหารฝรั่งเศสในคำม่วนโดยมีคนของฝรั่งเศสเข้าร่วมพิจารณาตัดสินด้วย และที่สำคัญในกรณีเกิดความยุ่งยากในการตีความหมายของสัญญานี้ให้ใช้ฉบับภาษาฝรั่งเศสเท่านั้น

นอกจากนี้สนธิสัญญาฉบับดังกล่าวยังกำหนดให้สยามชดใช้ค่าเสียหายให้ฝรั่งเศสเป็นเงินจำนวน 3 ล้านฟรังก์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 1,560,000 บาท ในสมัยนั้น บังคับให้รัฐบาลสยามยอมสละดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ตลอดถึงเกาะแก่งในแม่น้ำโขงทั้งหมด เป็นพื้นที่ 143,000 ตารางกิโลเมตร และฝรั่งเศสได้ยึดเมืองจันทบุรีไว้ในอารักขานานกว่า 10 ปี (ระหว่างปี 2436-2447) จนกว่าสยามจะชดใช้ค่าเสียหายจนครบ ผลจากกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสครั้งนี้ทำให้สยามต้อง เสียดินแดนเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งนับเป็นการเสียเนื้อที่ครั้งใหญ่ที่สุด

ทั้งนี้ กรณีพิพาทดังกล่าว ได้กลายเป็นชนวนสงครามความขัดแย้งขึ้นอีกครั้งบนคาบสมุทรอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในกรณีพิพาทอินโดจีนระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีจักรวรรดิญี่ปุ่นเข้าร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามมหาเอเชียยบูรพาอีกด้วย

‘จ๊ะ นงผณี’ ประกาศเลิก ‘แจ๊ค ธนพล’ หลังปลูกต้นรักมา 7 ปี พยายามปรับกันแล้วแต่ไปไม่รอด ยัน!! จบกันด้วยดี ไร้มือที่สาม

(2 ต.ค.66) ทำเอาแฟนๆ ต่างช็อกไปตามๆ กัน เมื่อนักร้องลูกทุ่งสาว ‘จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย’ ได้ประกาศยุติความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม ‘แจ๊ค-ธนพล สัมมาพรต’ ลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย ‘จ๊ะ นงผณี’ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยมีเนื้อหาใจความว่า "จ๊ะขอชี้แจงในพื้นที่ของจ๊ะนะคะ ... จ๊ะ กับ พี่แจ๊ค เราตกลงเลิกกันแล้ว สถานะตอนนี้เราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน คอยซัพพอร์ตกัน ธุรกิจที่ทำร่วมกันก็ยังทำด้วยกันอยู่ ผู้จัดการก็ยังใช้คนเดียวกันอยู่

จ๊ะอยากให้คนรอบข้าง ผู้ใหญ่ เพื่อน พี่น้อง และแฟนคลับ สบายใจได้ว่า เราจบกันด้วยดี!!!

เหตุผลในการเลิกครั้งนี้ เป็นปัญหาที่เราพยายาม ปรับกันมาตลอด 7 ปีที่คบกัน (ไม่มีเรื่องมือที่ 3)

สุดท้ายนี้จ๊ะและพี่แจ๊คขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ทุกคนคอยสนับสนุนคู่เรามาโดยตลอดนะคะ”

ทั้งนี้ ‘จ๊ะ นงผณี’ ยังได้เขียนแคปชันพร้อมแท็กถึง ‘แจ๊ค ธนพล’ อีกด้วยว่า "ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา @jack_tha"

‘ชาวเน็ต’ วิจารณ์ ‘ลิซ่า’ ไร้ขอบเขต-ใช้คำหยาบคาย-เกลียดชัง ลามปามถึงคุณแม่ หลังร่วมแสดงที่ ‘Crazy Horse Paris’

ทำเอาแฟนคลับของ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BlackPink’ ออกอาการหัวเสียทีเดียวเมื่อพบว่า ‘คุณแม่จิตทิพย์ มโนบาล’ ได้ลบอินสตาแกรมเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังเจอชาวเน็ตพากันมาถล่มคอมเมนต์ไม่หยุด

ก่อนหน้าที่คุณแม่จิตทิพย์ จะเดินทางไปชมโชว์ Crazy Horse ไอจี @chitthipbruschweiler ของคุณแม่ ก็โดนชาวเน็ตยกโขยงพาทัวร์มาลงอย่างมากมาย โดยแสดงความคิดเห็นไปในทางเกลียดชัง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีรายงานว่า คุณแม่ ได้เดินทางไปชมโชว์รอบสุดท้ายของ ลิซ่า บนเวที Crazy Horse ด้วยตนเอง คุณแม่ของลิซ่า ก็โดนชาวเน็ตต่างชาติที่ไม่พอใจการตัดสินใจขึ้นโชว์ของ ลิซ่า พากันมาถล่มหนักกว่าเดิม พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อต้านต่าง ๆ นานา

จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงทำให้หลาย ๆ คนเชื่อว่าน่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ คุณแม่จิตทิพย์ ตัดสินใจปิดอินสตาแกรมลงทันที เพราะคุณแม่ ได้ชื่อว่าเป็นแรงกำลังใจสำคัญที่ผลักดันให้ ลิซ่า ได้ทำในสิ่งที่ตนรัก และยังไปร่วมชมโชว์ของลูกสาวที่ปารีส

ลิซ่า ได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของศิลปินเค-ป็อป ด้วยการขึ้นโชว์บนเวที Crazy Horse ที่ชาวเน็ตจีนต่างมองว่าเป็นเวทีที่ไม่เหมาะสม

ทางด้านนักแสดงสาวชาวจีน ‘สวีเจียว’ ผู้เคยแสดงเป็นลูกชายของโจวซิงฉือเรื่อง CJ7 คนเล็กของเล่นใหญ่ เมื่อปี 2008 และแสดงเป็นพี่สาวของจ้าวลู่ซือในซีรีส์ ดาราจักรรักลำนำใจ (Love Like the Galaxy) ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิและไม่เห็นด้วยกับโชว์ของลิซ่า 

สวีเจียว แชร์ภาพหน้าจอที่รีวิวการแสดงของลิซ่า ในช่วงที่ทำการแสดงเพลง ‘Crisis? What Crisis?’ โดยเป็นฉากที่ลิซ่าปรากฏตัวด้วยชุดพนักงานออฟฟิศหญิง เชิ้ตขาว กระโปรงสั้นสีดำ ใส่เนกไทและแว่นตา กำลังทำหน้าเครียดที่หุ้นตก แต่หลังจากนั้นก็ปลดปล่อยความเครียดด้วยการถอดชุดข้างนอกออกจนเหลือแต่ชุดชั้นในสีดำแล้วเต้น โดยในรีวิวที่เธอแชร์โพสต์มาระบุว่า เป็นชุดชั้นในบางๆ

สวีเจียวแชร์โพสต์รีวิวในส่วนนั้นแล้วแสดงความคิดเห็นว่า "我只看到被性化的职业女性” (​​​ฉันเห็นผู้หญิงทำงานถูกทำให้เป็นวัตถุทางเพศ) ทำให้มีแฟนคลับของเธอ แฟนคลับลิซ่า และคนจีนทั่วไปเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย บางส่วนเห็นด้วยกับคำพูดของเธอโดยบอกว่าเธอมีความกล้าที่จะพิมพ์ความเห็นนี้ออกมาจริง ๆ แต่บางส่วนก็ไม่เห็นด้วย และเตือนเธอว่า เธอเองก็เป็นบุคคลสาธารณะ เธอควรรับผิดชอบกับคำพูดของเธอ และการพิมพ์แสดงความเห็นเช่นนี้อาจส่งผลกระทบถึงตัวเธอด้วย ควรระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะก่อนหน้านี้เธอก็เคยถูกวิจารณ์หลังทำผมสีชมพู ใส่ชุดว่ายน้ำสีฟ้า ถ่ายรูปริมทะเลมาแล้ว

กลับกัน ทางด้านนักแสดงสาว ‘แองเจลา เบบี้’ ที่เดินทางไปชมโชว์ของลิซ่าด้วย ก็ถูกชาวเน็ตจีนโจมตีอย่างหนักเพราะมองว่าเวทีดังกล่าวไม่ต่างจากเวทีระบำเปลื้องผ้า ซึ่งการแสดงลักษณะนี้ถูกแบนในเมืองจีน จากเหตุดังกล่าว แองเจล่า เบบี้ ได้รับผลกระทบเพราะสื่อจีนได้ลบโพสต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแองเจล่า เบบี้ ออก เป็นการบอกเป็นนัยถึงการโดนแบนไปทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามชาวเน็ตจำนวนมากที่สนับสนุนการตัดสินใจของลิซ่า ได้ออกมาระบุว่า ชาวเน็ตจีนควรมีสติ แยกแยะ ไม่ควรไปโจมตีหรือคุกคามสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวของศิลปิน

‘วู้ดดี้’ เปิดใจหลังชม ‘ลิซ่า’ โชว์คาบาเรต์ ยอมรับ!! เธอคือ ‘Super Power’ เหตุทำให้ Crazy Horse กลับมาแจ้งเกิด-เข้าถึงเจนใหม่ทั่วโลกชั่วข้ามคืน

เมื่อวานนี้ (1 ต.ค.66) นายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือ ‘วู้ดดี้’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Woody’ โดยระบุว่า…

ชาตินี้ วด. คงไม่ได้มาเหยียบ Crazy Horse ที่ปารีสถ้าไม่ได้มาดูลิซ่า

ตอนรู้ข่าวก็รู้ทันทีว่าโชว์นี้ไม่ธรรมดา เพราะนี่คือสิ่งที่ลิซอยากลองทำ ไม่มีใครสั่ง ไม่มีใครกำกับ แต่มาจากการเป็น FC Crazy Horse (ได้ข่าวว่าแอบมาดูส่วนตัวหลายรอบ) แล้วเห็นว่าคงจะท้าทายตัวเองไม่น้อยถ้าได้ขึ้นแสดงเป็นหนึ่งในสาว Crazy Horse...วู้ดดี้พอจะรู้ว่า Crazy Horse คือโชว์ที่อยู่คู่ปารีสมายาวนาน เรียกว่าเป็นสถาบันเลยก็ว่าได้ เพราะมันคือโชว์ที่สะท้อนความเปิดเผยทางใจและกายอย่างมี Art แฝงความขี้เล่นที่ sexy แบบสุดขอบแต่ไม่หลุดกรอบ

ด้วยวัย 26 ของลิซ คิดว่าลิซคงมองว่า timing อายุตอนนี้คือเหมาะที่สุดที่จะทำอะไรแบบนี้ วัยรุ่นกว่านี้คงไม่เหมาะ อายุมากกว่านี้อาจดูไม่เข้า ตอนนี้เลยเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ Lisa จะ X กับ Crazy Horse

Lisa จับอะไรสิ่งนั้นก็กลายเป็นของ Hot ทันที คนมักจะโยงกับความเป็นไทยให้น้องเป็น Soft Power ของประเทศไทย แต่หลังจากวันนี้ที่วู้ดดี้มาดูลิซที่ปารีส สรุปกับตัวเองแล้วว่าเธอไม่ใช่ Soft Power แต่เป็น Superpower ของโลก ผู้บริหาร Crazy Horse บอกว่า เพราะ Lisa มาโชว์ ทำให้ Crazy Horse กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง และเข้าถึง Gen ใหม่ทั่วโลกภายในข้ามคืน หลังจากนี้ใครมาปารีสก็จะขอแวะมาดูโชว์ที่ Lisa มาร่วมแสดง เพราะอยากรู้ว่ามันมีอะไรดีถึงทำให้ลิซทุ่มเทขนาดนี้ พนักงานที่ให้บริการเรายังแอบกระซิบเลยว่า ตั้งแต่ทำงานที่นี่มา ไม่เคยเห็น Crazy Horse คึกคักขนาดนี้ “เพราะลิซ่าเลย…อยากให้ลิซ่ากลับมาอีก ที่นี่จะได้มีสีสันอีกครั้ง”

วด. ได้มีโอกาสนั่งดูโชว์จากที่นั่งหลังสุด มาดูกับแฟน น้องๆ และคุณแม่ เดินเข้ามาเห็นแฟนๆ ลิซ่าจากทั่วโลกที่เดินทางมาให้กำลังใจลิซก็ชื่นใจแทนน้อง สัมผัสถึงพลังแห่งความตื่นเต้นของทั้งโรงการแสดง ที่รอคอยดูศิลปินที่เขารักที่สุด perform แบบอิสระที่สุดในชีวิต

โชว์เริ่ม! Lisa โผล่หัวมาหน้าม่านทำเอาทุกคนร้องเฮอย่างสนั่นแล้วกลับไป ม่านเปิดออกมาเป็นสาวๆ Crazy Horse ยืนเรียงหน้ากระดานเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน และเผยร่างช่วงบนให้เห็นถ้วนหน้า เรามองคนกลางที่เราเข้าใจว่าเป็น Lisa แล้วแอบคิดโอ้โห้ น้องจัดเต็มมาก!! แต่พอดูๆ ไป อ้าวเขาแค่หน้าเหมือน Lisa ตัวจริงไม่โชว์ให้เห็นอะไรเลย มากสุดก็ใส่ชุดแนว Lingerie หรือ Bikini เราก็ลุ้นทั้งโชว์ว่าลิซจะ perform ยังไง แล้วลุคจะเป็นยังไง ปรากฏว่าลิซออกมาแสดงหลายซีนอยู่ ไม่ได้เป็นนักแสดงสมทบเบาๆ อย่างที่หลายคนคิด โอเค บางซีนก็โผล่มาสั้นจริงๆ โดยเฉพาะช่วงแรก สั้นแบบ นับ 1-5 ก็หายไปจากเวทีแล้ว ดูไปก็ลุ้นไปว่าจะโผล่ออกมาตอนไหนอีก

แต่ละ set ที่ออกมาก็ใส่ชุดและวิกที่ต่างกันไป บางทีก็ไม่ใส่วิกเลย ถ้าจะว่าไปโชว์ที่ sexy มากๆ แทบไม่มี Lisa เลย! แต่จะบอกว่าทุกคนที่แสดงคือที่สุด แสง สี เสียง คือ creative มาก ไอ้คนที่ไม่ได้อินกับเรือนร่างผู้หญิงอย่างเราก็แอบกลายเป็นหยุดยิ้มไม่ได้ หุ่นน่าดูทุกคนจริงๆ แล้วบางทีจากที่เราเห็นแค่ หน้าอก กับ บั้นท้าย ก็กลายเป็นภาพหลายมิติที่ดูล้ำสมัยมาก แบบที่เราตามไม่ทัน ในใจคิด Crazy Horse ไม่ใช่โชว์ที่ส่ออย่างที่เราเข้าใจมาก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ที่สำคัญเห็นมากสุดก็แต่หน้าอกจริงๆ อ้าวพูดถึงคนอื่นจนลืมลิซ่า 555

ลิซทำให้ วด. อึ้งสุดกับ 2 โชว์ยาวๆ ที่เธอฉายเดี่ยว ลิปซิงค์ไปเต้นไป โชว์แรกขอเรียกว่าโชว์ผลุบๆโผล่ๆ คือเธอวิ่งเข้าวิ่งออกประตูสามบานที่มีผ้ากึ่งโซ่ให้เธอห้อยไปมา เธอทำได้เต็มที่ในการโชว์ความเป็นนักเต้นที่เร้าร้อนเชื้อเชิญ แต่เราอดคิดไม่ได้ว่ากำลังดูน้องป๊อกแป๊ก (ชื่อแรกเกิดของเธอ) วิ่งเข้าวิ่งออก ดูยังไงก็ตลกน่ารักน่าฟัดสำหรับเรา แม่หันมาบอกเห็นด้วย “ใช่เลย ป๊อกแป๊กคือป๊อกแป๊ก!”

ส่วนโชว์ที่ต้องยอมนางคือโชว์ Crisis What Crisis ที่ Lisa เล่นเป็นสาวเทรดหุ้นที่จากเดิมสวมเสื้อผ้าเต้นไปมาบนโต๊ะ แต่ค่อยๆ ถอดออกทีละชิ้นจนเหลือชุด lingerie จะว่าชุดชั้นในก็ไม่ใช่ เพราะมันดูแพงกว่านั้นหลายเท่า เอาเป็นว่าดูสวยโคตร sexy ตามสไตล์ Lisa ที่เราคุ้นเคย เธอไม่เพียงเต้นแบบจัดเต็มใน set นี้ แต่มาด้วยพลังอันร้อนแรงที่ วด. ไม่เคยสัมผัสแม้แต่ในคอน BlackPink เชื่อว่าแฟนๆ ที่มาดูได้ดูอะไรที่หาดูได้ยากจริงๆ นั่นคือการที่ได้เห็น Lisa ทำอะไรที่ดูมีความสุขนอก comfort zone เหมือนจะประกาศให้โลกรู้ผ่านโชว์นี้ว่า ต่อจากนี้ ตามมาให้ทัน ฉันจะพาทุกคนไปที่ๆ ไม่มีใครกล้าฝัน กล้าคิด แต่ I will show you!

สุดท้ายโชว์ปิดด้วย Lisa ออกมาโค้งพร้อมสาวๆ คนอื่นโบกมือลาทุกคน แล้วม่านปิด...อีกไม่ถึง 10 วิ ม่านเปิดออกอีกครั้ง ให้นักแสดงขอบคุณอีกรอบ มีอยู่ตอนหนึ่ง Lisa มองลงไปที่คนดูแล้วเห็นใครไม่รู้แล้วดูตกใจ แต่ยิ้มดีใจว่าเธอมา (วด.ไม่รู้เป็นใครในตอนนั้น แต่มารู้ตอนหลังที่หลังเวที ตอนเธอคนนั้นเข้ามา shake hand แล้วพูดว่า Hi. I’m Jennie. กรูจะเป็นลม)

แต่ไม่ว่าใครจะกรี๊ดขนาดไหนก็คงไม่ดังต่อเนื่องเท่าเสียงคุณแม่ที่กรี๊ด วู้ววววว ให้ลูกตลอดทั้งโชว์ แม่มีความสุขจริงๆ แถมกระซิบตอนท้ายว่า “แม่นึกว่าจะ sexy กว่านี้!!!”

ขอบคุณที่อ่านถึงจุดนี้ แสดงว่ารักกันจริง!

(ฝากเพื่อนๆ ดูหน่อยนะครับ กลัวคนเอาไปแปลผิดๆ แล้วจะบิดเบือนไป)

I truly hope that the English translation of this piece doesn’t become lost in translation.

2 ตุลาคม พ.ศ. 2412 วันเกิด ‘มหาตมะ คานธี’ มหาบุรุษแห่งสันติภาพ

2 ตุลาคม วันเกิดมหาตมะ คานธี ครบรอบ 154 ปี มหาบุรุษแห่งสันติภาพ ผู้นำคนสำคัญ ในการเรียกร้องเสรีภาพและเอกราชของอินเดีย

โมหันทาส กรรมจันทร์ คานธี หรือ มหาตมะ คานธี เกิดวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2412 (ค.ศ. 1869) ที่จังหวัดโพรบันดาร์ รัฐคุชราต ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ในตระกูลชนชั้นสูง พ่อเป็นข้าราชการ และมารดาเป็นแม่บ้านที่เคร่งศาสนา และมักปลูกฝังแนวคิดหลักจริยธรรมฮินดู การบริโภคมังสวิรัติ ความแตกต่างทางศาสนา การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และการไม่ใช้ความรุนแรงให้คานธี

ในวัยเด็กเขาไม่ใช่คนเรียนเก่ง หรือมีความสามารถพิเศษโดดเด่นชัดเจน ครอบครัวจึงให้เขาไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศเจ้าอาณานิคม เพื่อโอกาสทางการงานที่ดีในอนาคต คานธีในวัย 18 ปีจึงเดินทางไปอังกฤษ และเข้าเรียนนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน (University College London)

เมื่อเรียนจบ คานธีได้ไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาทางกฎหมายที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศอาณานิคมของอังกฤษ ที่ชาวอินเดียอพยพไปทำงานกันมาก

ณ ประเทศแห่งนี้เขาได้พบประสบการณ์เหยียดสีผิวตั้งแต่เริ่มเดินทางมาถึง จากการที่เขาต้องการซื้อตั๋วรถไฟชั้น 1 แต่ถูกขับไล่ให้ไปนั่งชั้น 3 ทว่าคานธีนั้นไม่ยอม จึงถูกเจ้าหน้าที่จับโยนลงจากรถไฟ และเหตุการณ์ครั้งนี้ได้จุดประกายให้คานธีเริ่มมีแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงสังคมนับตั้งแต่นั้น

ชื่อของ คานธี กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างเมื่อครั้งถูกจับกุมฐานเป็นแกนนำการประท้วง และเดินขบวนต่อต้านการเรียกเก็บภาษีต่อผู้มีเชื้อสายอินเดีย ท้ายที่สุดอังกฤษถูกกดดันให้ยกเลิกการเก็บภาษีดังกล่าว ก่อนปล่อยตัวคานธีในเวลาต่อมา ข่าวเรื่องชัยชนะของคานธีถูกรายงานไปทั่วอังกฤษ กระทั่งกลายเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

คานธี กลายเป็นผู้นำคนสำคัญของอินเดียในการเรียกร้องให้อังกฤษปลดปล่อยตนออกจากการเป็นอาณานิคม ซึ่งช่วยนำอินเดียไปสู่ความเป็นอิสระ เป็นแรงบันดาลใจให้กับการเคลื่อนไหวที่ไม่รุนแรงเพื่อสิทธิพลเมืองและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทั่วโลก

ตลอดชีวิตของเขายังคงยึดมั่นในความเชื่อของเขาในการไม่ใช้ความรุนแรงแม้ภายใต้สภาวะที่กดขี่และเผชิญกับความท้าทายที่ดูเหมือนจะผ่านไม่ได้

2 ตุลาคม ของทุกปี ยังถูกกำหนดให้เป็น วันไม่ใช้ความรุนแรงสากล (International Day of Non-Violence) จากมติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2550 เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของ มหาตมะ คานธี ผู้นำการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องอิสรภาพชาวอินเดีย ผู้ที่ริเริ่มปรัชญาและหลักแห่งการไม่ใช้ความรุนแรง

ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติยังได้กำหนดวันนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงการยุติความรุนแรง และเพื่อให้เกิดสันติสุขแก่สังคม มีความอดทนอดกลั้น และเข้าใจหลักการไม่ใช้ความรุนแรงอย่างลึกซึ้งนั่นเอง

นายอานันท์ ชาร์มา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย ได้กล่าวเมื่อครั้งการเสนอมติในสมัชชาใหญ่ ในนามของผู้สนับสนุนกว่า 140 คนเอาไว้ว่า การสนับสนุนมติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพต่อมหาตมะ คานธี ในระดับสากล และเพื่อเป็นการค้ำจุน หลักการและปรัชญาแห่งการไม่ใช้ความรุนแรง

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ✨ประจำวันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2566

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
✨ประจำวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2566
 

‘จั๊ก ชวิน’ อัปเดตอาการป่วย หลังสู้ ‘วัณโรค’ เผย น้ำหนักลด-ตาพร่ามัว ลุ้นตรวจปริมาณเชื้ออาทิตย์หน้า หากเชื้อลดลงสามารถกลับบ้านได้

หลังจากที่ไม่นานนี้ นักร้องเสียงนุ่ม ‘จั๊ก ชวิน’ หลังจากออกมาบอกเผยว่า เข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยอาการติดเชื้อวัณโรคจากเพื่อนที่เสียชีวิตไปแล้ว

ล่าสุดเจ้าตัวออกมาอัปเดตว่า ตอนนี้น้ำหนักลดฮวบ ตาพร่ามัว พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ อีกทั้งเจ้าตัวยังชูสองนิ้วยิ้มได้ เรียกว่ากำลังใจดีเกินร้อย ส่งกำลังใจให้นักร้องเสียงดี ‘จั๊ก ชวิน จิตรสมบูรณ์’ นักร้องน้ำเสียงคุณภาพ เจ้าของบทเพลง ‘เธอสวย’, ‘ตัวจริง...ของเธอ’ หลังเจ้าตัวโพสต์อาการป่วยของตัวเองผ่านทางไอจีส่วนตัว โดยได้แจ้งว่าติดเชื้อวัณโรคจากเพื่อน

โดยเมื่อวันที่  30 ก.ย. ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันเกิดของ ‘จั๊ก ชวิน’ อายุครบ 45 ปี เจ้าตัวก็ได้มาโพสต์ภาพ พร้อมอัปเดตอาการให้ฟังว่า…

“ขอบคุณทุกคำอวยพรและทุกกำลังใจที่มอบให้นะครับ ตอนนี้อาการก็ค่อยๆ ดีขึ้นเป็นลำดับครับ ที่ไม่ได้ Update อะไรทาง Social เพราะสายตาพร่ามัวมากครับ ผลจากยาที่กินอยู่ พอพยายามเพ่งดูก็จะปวดหัว น้ำหนักลงไป 8 กิโล เรี่ยวแรงหายไปเลย พยายามกินเยอะๆ เพื่อเพิ่มน้ำหนักอยู่ครับ สัปดาห์หน้ามีนัดตรวจอีกทีว่าหมดเชื้อหรือยัง ถ้าหมดแล้วจะได้ออกนอกบ้านได้เสียที ยังไงจะมา Update อีกทีนะครับ ขอบคุณมากครับ…

หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปบรรดาแฟนๆ เพื่อนร่วมวงการต่างเข้ามาร่วมให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม พร้อมอวยพรขอหายไวไว จะได้กลับมาร้องเพลงเพราะๆ ให้แฟนๆ เพลงฟังกันในเร็ววัน

1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ

วันนี้ เมื่อ 155 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ประสูติ เมื่อวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 ทรงพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฎว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามกุฎ บุรุษรัตนราชรวิวงศ์ วรุตมพงศ์บริพัตร ศิริวัฒนราชกุมาร 

ทรงได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าฟ้าต่างกรม มีพระนามกรมว่า กรมหมื่นพิฆเนศวร สุรสังกาศ หลังจากทรงผนวชเป็นสามเณรทรงได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ กรมขุนพินิตประชานาถ ทรงเป็นพระราชปิโยรสที่สมเด็จพระบรมชนกนาถโปรดให้เสด็จอยู่ใกล้ชิดติดพระองค์เสมอเพื่อให้มีโอกาสแนะนำสั่งสอนวิชาการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชารัฏฐาภิบาล ราชประเพณีและโบราณคดี นอกจากนั้นยังทรงศึกษาภาษามคธ ภาษาอังกฤษ การยิงปืนไฟ กระบี่กระบอง มวยปล้ำ รวมทั้งการบังคับช้างอีกด้วย

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการกราบบังคมทูลเชิญขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อจากสมเด็จพระบรมราชชนกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 ด้วยพระชนมายุเพียง 15 พรรษา ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2411 โดยมีเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จนหลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 เมื่อพระชนมายุ 20 พรรษา ในวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2416 จึงทรงปกครองแผ่นดินด้วยพระองค์เองอย่างสมบูรณ์ ทรงครองราชย์อยู่เป็นเวลายาวนานถึง 42 ปี และได้ทรงพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศทุกวิถีทาง

ในบั้นปลายพระชนม์ชีพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยไม่สมบูรณ์นัก หลังจากเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 แล้ว พระอาการก็ค่อยทรุดลงเป็นลำดับ และเสด็จสวรรคตด้วยพระโรคพระวักกะพิการเมื่อเวลา 2 ยาม 45 นาที ของวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 สิริพระชนมายุ 58 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติ 42 ปี ทรงมีพระราชโอรส พระราชธิดารวมทั้งสิ้น 77 พระองค์ ด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อไพร่ฟ้าประชาชนอย่างหาที่สุดมิได้มาตลอดรัชกาลอันยาวนาน ประชาชนจึงพร้อมใจกันถวายพระบรมราชสมัญญานาม ว่า สมเด็จพระปิยมหาราช อันมีความหมายว่า พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน และถือวันที่ 23 ตุลาคม เป็นวันปิยมหาราชมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

‘ซงจุงกิ’ ตัดสินใจแสดงภาพยนตร์ Hopeless แบบไม่รับค่าตัว เหตุเพราะชอบตัวบท และกังวลหากรับจะกระทบต้นทุนการผลิต

(30 ก.ย.66) ‘ซงจุงกิ’ ตัดสินใจแสดงในภาพยนตร์ Hopeless โดยไม่รับค่าตัว เพราะว่าชอบตัวบท แต่เขาก็เองมีความกังวลว่าถ้าหากเขาคิดค่าตัวแสดงจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นได้

ซึ่งถ้าหากต้นทุนการผลิตสูง ความน่าดึงดูดของผลงานอาจจะลดลง เนื่องจากแง่มุมในเชิงพาณิชย์ เขาก็เลยตัดสินใจที่จะไม่คิดค่าตัว เพราะเชื่อว่าการรักษาเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้เป็นสิ่งสำคัญ

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่น่าจับตามองแห่งปี เนื่องจากได้รับเชิญให้เข้าฉายใน งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 76 ซึ่งได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม โดยผลงานนี้จ่อคิวเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไทย 19 ตุลาคมนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top