Tuesday, 20 May 2025
NEWS FEED

“บิ๊กตู่” เคาะโครงการนำร่อง 5G ต้นแบบบริการประชาชน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบการดำเนินโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบสำหรับให้บริการประชาชน (5G District) จังหวัดเชียงใหม่ 

โดยโครงการนี้จะทำใน  2 ด้าน คือ ด้านการเดินทาง เน้นสร้างบริการผ่านการให้บริการในแอปพลิเคชันเดียว ทั้ง รถเมล์ รถแดง รถแท็กซี่รถตู้รับจ้าง รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถเช่า และรถรับจ้างอื่นๆ และด้านสุขภาพจัดตั้ง 5G Hospital ยกระดับอุปกรณ์การบริการทางการแพทย์พื้นที่ห่างไกลให้รองรับเทคโนโลยี 5G และใช้อุปกรณ์ Digital Health ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้แพทย์ หรือ บุคลากรทางการแพทย์สามารถทำการวินิจฉัยอาการทางไกลได้

ขณะเดียวกันยังเห็นชอบโครงการ 5G Use Case ระบบในการคัดกรองและแจ้งเตือน สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เตรียมความพร้อมในการเปิดเศรษฐกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นผู้ดําเนินการ พร้อมมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการบูรณาการระบบการลงทะเบียนนักท่องเที่ยวให้เป็นจุดเดียว เพื่อลดการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบและติดตามความคืบหน้าโครงการนำร่องการใช้ประโยชน์ 5G ของประเทศไทยในระระยะสั้น ได้แก่ โครงการนำร่องเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G ณ ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี จ.เชียงราย และโครงการนำร่องโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) ณ โรงพยาบาลศิริราช  โครงการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ในภาคอุตสาหกรรม 

องค์การเภสัชกรรม กับ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จํากัด ลงนามสัญญา ชื้อ-ขาย วัคซีนโมเดอร์นา 5 ล้านโดสแล้ว ทยอยส่งมอบให้ไทยได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า วันนี้ ( 23 กรกฎาคม 2564 ) องค์การเภสัชกรรม และบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จํากัด ในนามบริษัท แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย โดยมีนายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมเป็นสักขีพยาน ได้ลงนามในสัญญาซื้อ-ขาย อย่างเป็นทางการในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา จำนวนประมาณ 5 ล้านโดส โดยวัคซีนทั้งหมดจะทยอยนำเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ต่อเนื่องไตรมาสที่ 1 ปี 2565 เป็นไปตามช่วงเวลาเดิมที่กำหนดไว้

ขณะเดียวกันโรงพยาบาลต่าง ๆ รวมทั้งสภากาชาดไทย ได้ทำการชำระเงินค่าวัคซีนครบถ้วนตามที่ได้รับการจัดสรร หลังจากนี้องค์การฯ จะได้ทำการชำระเงินให้แก่ บริษัท ซิลลิก ฟาร์มา จํากัด ต่อไป เพื่อให้ความมั่นใจว่าวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา จำนวนประมาณ 5 ล้านโดสนี้ จะเข้ามาประเทศไทยอย่างแน่นอน

“องค์การเภสัชกรรม ได้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ในการเป็นหน่วยงานภาครัฐทำหน้าที่จัดซื้อจัดหาวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา เพื่อให้ประชาชนได้มีวัคซีนทางเลือกเพิ่มขึ้น โดยนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 องค์การเภสัชกรรม ได้มุ่งมั่น ทุ่มเท ดำเนินการในทุกภารกิจทั้งด้านยา วัคซีน และเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ในการป้องกันต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนระบบสาธารณสุขไทย เพื่อให้ประเทศไทยได้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้” ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวในตอนท้าย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กรมควบคุมโรคเผย ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ 5-8 คน ผู้สัมผัสใกล้ชิดมีอัตรการติดเชื้อร้อยละ 11.83

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงวิธีการกักตัวที่บ้านว่า ในช่วงนี้ประเทศไทย ยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่แสดงอาการป่วยและไม่แสดงอาการป่วย แต่สามารถแพร่เชื้อติดต่อไปยังคนอื่นได้ ทำให้จำนวนผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อมีมากขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินการสอบสวนเพื่อควบคุมโรคในพื้นที่ หลังจากมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่จากทั่วประเทศจนถึงปัจจุบัน พบว่าผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 มีอัตราการติดเชื้อร้อยละ 11.83 ซึ่งยังอยู่ในอัตราที่สูง โดยเชื้อที่เป็นปัญหาหลักของไทยขณะนี้ คือสายพันธุ์เดลตาและอัลฟา ที่ติดต่อกันได้ง่าย ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ 5-8 คน ส่วนเชื้อสายพันธุ์อัลฟาแพร่ได้ 4-5 คน

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า มาตรการที่จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดให้ยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดการเสียชีวิตและผลกระทบอื่น ๆ คือ การป้องกันการติดเชื้อและควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปมากกว่านี้ จะต้องดำเนินการร่วมกันทุกฝ่ายไปในแนวทางเดียวกันอย่างเข้มข้น กรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือประชาชนที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิดระหว่างที่ใช้ชีวิตประจำวัน ขอให้กักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เป็นช่วงที่เชื้อฟักตัวเพื่อสังเกตอาการว่าติดเชื้อหรือไม่ สามารถดำเนินการได้ทั้งในบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ อาคารชุด เช่น หอพักคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ต่าง ๆ ทั้งประเภทอยู่คนเดียว หรืออยู่ร่วมกับครอบครัวหรือพักร่วมกับผู้อื่น สร้างความปลอดภัย ทั้งตนเองและคนในครอบครัว

นพ.โอภาส ให้ข้อแนะนำให้ปฏิบัติ ประกอบด้วย

1.) ให้จัดสถานที่พัก และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อม เน้นแยกที่พักให้เป็นสัดส่วน เช่น ห้องนอน ที่นอน หากแยกไม่ได้ อาจใช้แผ่นกระดาษหรือพลาสติกกั้นห้องเพื่อแบ่งสัดส่วนชั่วคราว เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก แยกของใช้ส่วนตัว แยกห้องน้ำ หากแยกไม่ได้ ให้ใช้เป็นคนสุดท้ายและทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทันที ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออุปกรณ์ภายในบ้านด้วยน้ำผสมผงซักฟอก น้ำผสมน้ำยาฟอกขาว หรือแอลกอฮอล์ 70%

2.) เน้นการดูแลอนามัยส่วนบุคคล โดยล้างมือฟอกด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล 70 % ทุกครั้งก่อนและหลังสัมผัสสิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่คลุกคลีกับคนอื่น แยกซักเสื้อผ้าเอง และให้งดการสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงชั่วคราว เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถติดไปกับขนสัตว์ได้เช่น แยกทานอาหาร หากให้ผู้อื่นจัดหาอาหารให้ ควรกำหนดจุดรับอาหารเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรง กรณีใช้ชักโครก ให้ปิดฝาทุกครั้งก่อนกดชักโครก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ทิ้งขยะในถุงและมัดปากถุงให้แน่นก่อนนำไปทิ้งรวมกับขยะทั่วไป

3.) เฝ้าระวังอาการป่วยตนเองระหว่างกักตัว โดยใช้ปรอทตรวจวัดไข้ทุกวัน และสังเกตอาการผิดปกติ หากพบว่ามีไข้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส และมีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ตาแดง จมูกไม่ได้กลิ่นหรือลิ้นไม่รับรส มีผื่นขึ้น ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย อาเจียน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านหรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ทันที เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลตามขั้นตอนต่อไป หากมีข้อสงสัยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนควบคุมโรค โทร. 1422


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/pdetail/110829


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นางเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ นักเขียน และคอลัมนิสต์ เผย สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยอดผู้ติดเชื้อครบทั้ง 50 รัฐแล้ว

นางเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ นักเขียน และคอลัมนิสต์ "แนวหน้าออนไลน์" คอลัมน์แก้ผ้าลุงแซม และในนามประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกา โพสต์สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐอเมริกาว่า...

สำหรับคนไทยในอเมริกา

ตอนนี้พบสายพันธุ์เดลตาครบทั้ง 50 รัฐแล้ว

ยอดติดเชื้อพุ่งในรัฐทางใต้และเคาต์ตี้ที่มีอัตราฉีดวัคซีนต่ำ คือน้อยกว่า 50 % ของประชากร

กลุ่มเสี่ยงคือกลุ่มที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน แต่คนที่ฉีดไฟเซอร์ โมเดอร์น่า และจอห์นสัน ก็สามารถติดโควิดได้เช่นกัน >> วัคซีนลดอาการป่วยหนักและตายได้

แต่มีกรณีเคสคนฉีดวัคซีนแล้ว หากมีโรคประจำตัว ก็ยังเสี่ยงเสียชีวิตจากโควิด >> แต่อัตราการตายจะน้อยกว่าไม่ฉีด

การฉีดวัคซีนครบโดส และการป้องกันตัวเองจึงดีที่สุด

อเมริกาถอดหน้ากากเพราะการ์ดตก คนที่ไม่ฉีดก็เนียนถอดหน้ากากผสมโรง

การพบเดลตาครบทั้ง 50 รัฐ เป็นสัญญาณว่าระลอกใหม่เกิดขึ้นสักพักแล้ว

ขณะนี้แอลเอประกาศให้ใส่หน้ากากทุกคน

ไม่ว่าจะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน

ดูแลตัวเองกันเถอะ

ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนปลอดภัย


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10219879353317723&id=1337643342


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เหล่าทัพ เตรียมพร้อมรพ.สนามสโมสรกองทัพบก 300 เตียง กทม.-ปริมณฑล-24 จว.รองรับได้ 6 พันเตียง

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมผ่านรูปแบบการประชุม สื่ออิเล็กทรอนิกส์  โดยภายหลังการประชุม พ.อ.วันชนะ สวัสดี  รองโฆษกกระทรวงกลาโหม  แถลงว่า สำหรับอาคารสถานที่ สโมสรและสมาคมของกองทัพที่จะใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งกองทัพจัดตั้งขึ้นจะเริ่มเปิดใช้ในวันที่ 30 ก.ค.โดยเฉพาะสโมสรกองทัพบก เตรียมไว้ 300 เตียง โดยจะขยายขีดความสามารถเพิ่มได้ถึง 100 เตียงรวม 400 เตียง โดยปัจจุบันจัดไว้ 34 แห่ง  ซึ่งกรุงเทพฯและปริมณฑล และอีก 24 จังหวัดทั่วประเทศปัจจุบันรองรับได้ 6,135 เตียง ทั้งนี้โดยในค่ายทหารได้มีการเตรียมพื้นที่สำหรับจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมแต่รอให้กระทรวงสาธารณสุขในเขตพื้นที่เข้ามาตรวจสอบถ้าหากมีความพร้อมมีบุคลากรทางการแพทย์พร้อมนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมสั่งการให้สามารถเปิดใช้ได้ทันที

“บิ๊กตู่” สั่งขยายขีดความสามารถรพ.สนาม รองรับผู้ป่วยโควิด จัดทีมชุดเคลื่อนที่เร็ว 138 ชุดลงพื้นที่ชุมชน แก้ไขปัญหาโควิด เข้มชายแดนคัดกรองคนเดินทางเข้าปท.

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมผ่านรูปแบบการประชุม สื่ออิเล็กทรอนิกส์  โดยภายหลังการประชุม พ.อ.วีรยุทธ์ น้อมศิริ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม  แถลงผลการประชุม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบนโยบายให้หน่วยขึ้นตรงกลาโหม(นขต.)และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เน้นในการปฏิบัติและการให้ความรู้ในเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19และเน้นการ ปฏิบัติเมื่อต้องออกไปช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน รวมถึงการปลูกจิตสํานึก สาธารณะให้กับทหารกองประจําการที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาทําหน้าที่ในบทบาทของทหาร และให้ทุก หน่วยฝึกทําการฝึกภายใต้มาตรการด้านการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด -19 ตามที่ ศบค. กําหนดอย่างเคร่งครัด

ด้านพ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในเรื่องการแก้ปัญหาโรค โควิด-19 นายกฯและรมว.กลาโหมขอบคุณกําลังพลของ กห.และเหล่าทัพในทุกระดับ ตั้งแต่พลทหารไปจนถึงระดับผู้บังคับบัญชาที่ได้ร่วมกัน ปฏิบัติหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมบัญชาการในสถานที่ต่างๆ รวมถึงการประสานงานในแต่ละพื้นที่ การทําหน้าที่ของด่านหน้า และการจัดทีมป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุกในชุมชนที่สนับสนุนให้กับกรุงเทพฯทั้ง 138 ชุด เป็นต้น รวมทั้งบุคลากรที่อยู่เบื้องหลังในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามทั้งในพื้นที่ทหาร และสนับสนุนหน่วยงานภายนอก และได้กําชับเรื่องการเตรียมพื้นที่ในหน่วยทหารให้เป็นพื้นที่พักคอย และโรงพยาบาลสนามทั่วทั้งประเทศ ที่ได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ และเมื่อมีความพร้อมจากการได้รับการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์ทางการ แพทย์จากสาธารณสุขแล้ว ขอให้เปิดใช้บริการโดยทันที พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติกับ สาธารณสุขในพื้นที่และให้ขยายทีมป้องกัน และแก้ไขปัญหา โควิด-19 เชิงรุกในชุมชนให้เพิ่มมากขึ้น

พ.อ.วันชนะ กล่าวต่อไปว่า นายกฯและรมว.กลาโหมกำชับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ดํารงความต่อเนื่องในการสนับสนุน การดําเนินการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศบค.) ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความ มั่นคง (ศปม.) ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยพื้นที่ชายแดนให้บูรณาการการทํางานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนเพื่อ เฝ้าระวังและคัดกรองผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน และการป้องกันการ ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทั้งทางบกและทางน้ํา ส่วนพื้นที่ชั้นในสนธิกําลังทหาร ตํารวจ และฝ่ายปกครอง จัดตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง ให้เป็นมาตรฐาน เดียวกัน เพื่อตรวจคัดกรองยานพาหนะและบุคคล ได้ครอบคลุมทุกการปฏิบัติตามข้อกําหนดฯ รวมทั้งจัดชุดสายตรวจ เคลื่อนที่เร็ว ลงปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทั้ง 13 จังหวัด

“พร้อมขยายขีดความสามารถของโรงพยาบาลทหาร เพื่อรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง และใช้พื้นที่ใน หน่วยทหารและตํารวจ อาทิ สโมสร แหล่งสมาคม อาคารเอกนกประสงค์ สนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หรือใช้ เป็นสถานที่ในการแยกกักตัวในชุมชน( Community Isolation )รวมทั้งเตรียมการสนับสนุนกําลังพล เครื่องมือ และบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล (บุคลากรทางการแพทย์แถวสอง) ให้พร้อมสนับสนุนการ ปฏิบัติงาน เพื่อรองรับจํานวนผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งในพื้นที่กรุงเทพณปริมณฑล และต่างจังหวัด และ ให้คงการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกําลังพลไปบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเก็บไว้เป็นโลหิตสํารอง และการบริจาคโลหิต แบบเร่งด่วนเมื่อได้รับการร้องขอจากโรงพยาบาลในพื้นที่” พ.อ.วันชนะ  กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า ยืนยัน ผ้าอนามัย เป็นสินค้าควบคุม ไม่ขึ้นภาษี

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า ยืนยัน ผ้าอนามัย เป็นสินค้าควบคุม ไม่ขึ้นภาษี

พร้อมชี้แจง ประกาศราชกิจจาฯ ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นเครื่องสำอาง ดังนี้

1.) ปัจจุบันมีผ้าอนามัย 2 ชนิด คือ ผ้าอนามัยใช้ภายนอกและชนิดสอด ทั้ง 2 ชนิดถูกจัดเป็นเครื่องสำอาง ตั้งแต่ปี 2528 เพราะเข้ากับนิยามเครื่องสำอางคือ วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความสะอาด ฯลฯ

2.) ปี 2558 มีการแก้ไข พ.ร.บ.เครื่องสำอางใหม่ มีการแก้ไขนิยามของคำว่า “เครื่องสำอาง” ทำให้ “ผ้าอนามัยชนิดสอด” หลุดจากคำนิยามของเครื่องสำอาง แต่ผ้าอนามัยใช้ภายนอก ยังเป็นเครื่องสำอาง

3.) จึงเป็นเหตุผลให้ต้องออกกฎกระทรวงกำหนดให้ผ้าอนามัยชนิดสอด เป็นเครื่องสำอาง

4.) ผ้าอนามัย เป็น 1 ใน รายการสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยในอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย หรือ ถึง 30% ภาษีผ้าอนามัยจึงจะถูกจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ตามราคาของสินค้าเหมือนสินค้าชนิดอื่น ๆ

#ผ้าอนามัยแบบสอด #ไม่ได้ขึ้นภาษี


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อาลัย 4 เจ้าของร้านดังในตำนาน เสียชีวิตในสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดหนัก

เป็นข่าวเศร้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กับการเสียชีวิตของเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง โดย 3 ใน 4 ท่าน ได้แก่ เฮียอ้วน เจ้าของร้านก๋วยจั๊บ ระดับมิชลินสตาร์, ป๋ายักษ์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ที่เด็กเรียนติวรู้จักกันเป็นอย่างดี และ เฮียเซียะ เจ้าของร้านข้าวต้มวัดบวร ทั้งหมดล้วนล้มป่วยด้วยโรคโควิด-19 ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาอันไล่เลี่ยกัน นอกจากนี้ยังมีคุณแม่สุณี เจ้าของร้าน ‘สุณีข้าวหมูแดง’ ย่านตลาดพลู ที่มาเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวไปอีกหนึ่งคน

ถือเป็นความสูญเสียบุคลากรในแวดวงอาหาร ในช่วงเวลาที่สถานการณ์โรคระบาดปั่นป่วนเมืองไปทั่ว THE STATES TIMES ขอร่วมแสดงความอาลัย และภาวนาขอให้การสูญเสียในครั้งนี้ ค่อย ๆ ลดจำนวนลงในเร็ววัน


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ยังไม่ปรับเปลี่ยนคำแนะนำด้านการสวมหน้ากาก แม้ตัวกลายพันธุ์เดลตากำลังอาละวาดอย่างหนักทั่วสหรัฐฯ ผลักเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ยังไม่ปรับเปลี่ยนคำแนะนำด้านการสวมหน้ากาก แม้ตัวกลายพันธุ์เดลตากำลังอาละวาดอย่างหนักทั่วสหรัฐฯ ผลักเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง จากคำยืนยันของโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซีในวันพฤหัสบดี (22 ก.ค.) ท่ามกลางรายงานข่าวรัฐบาลกำลังพิจารณาทบทวนในเรื่องดังกล่าว

วาเลนสกี ไม่พูดอย่างชัดเจนว่า ทางซีดีซีกำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงคำแนะนำหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ทางซีดีซีผ่อนปรนคำแนะนำอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้วไม่ต้องสวมใส่หน้ากากตามสถานที่สาธารณะเกือบทั้งหมด

ความเห็นของเธอประจวบเหมาะกับรายงานข่าวของสื่อมวลชนที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกำลังหารือกันกรณีควรมีการปรับเปลี่ยนคำแนะนำด้านการสวมหน้ากากหรือไม่ เพื่อตอบสนองกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่มีต้นตอจากตัวกลายพันธุ์เดลตา

อย่างไรก็ตาม เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า การตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวจะดำเนินการโดยซีดีซี ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าคณะผู้เชี่ยวชาญกำลังศึกษาเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนใด ๆ ที่จำเป็น

"สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในตอนนี้คือ กำลังตรวจสอบทุกแง่มุมของการปรับเปลี่ยนใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น" ไบเดนบอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว "เราทำตามหลักวิทยาศาสตร์"

ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (21 ก.ค.) ประธานาธิบดีไบเดน แย้มว่ามีความเป็นไปได้ที่ซีดีซีจะแนะนำให้เด็กที่ยังไม่ฉีดวัคซีนสวมหน้ากากตอนอยู่ในโรงเรียน ในขณะที่เขตการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศกำลังเตรียมพร้อมกับการเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในปีการศึกษาที่กำลังมาถึง

ข่าวคราวความเป็นไปได้เกี่ยวกับการปรับคำแนะนำ มีขึ้นในขณะที่ค่าเฉลี่ย 7 วันของเคสผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 53% ในสัปดาห์ก่อน โดยตัวกลายพันธุ์อินเดีย ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดีย ตอนนี้คิดเป็นกว่า 80% ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วสหรัฐฯ

โรงพยาบาลบางแห่งทั่วสหรัฐฯ ใกล้ถึงขีดจำกัดในการรักษาคนไข้ ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดเผยของวาเลนสกี

เคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นมีจุดศูนย์กลางในภูมิภาคต่าง ๆ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำ โดยในฟลอริดา เท็กซัส และมิสซูรี คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของเคสผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ จากการเปิดเผยของ เจฟฟรีย์ ไซอองส์ ผู้ประสานงานตอบสนองวิกฤตโควิด-19 ของทำเนียบขาว

ไซอองส์ ยืนกรานว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าแจกจ่ายวัคซีนหลายสิบล้านโดสแก่ทั่วโลกต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน ทำเนียบขาวเคยแถลงแผนแจกจ่ายวัคซีนแก่ทั่วโลกจำนวนราว ๆ 80 ล้านโดส

จากข้อมูลของเว็บไซต์ usafacts.org ระบุว่าเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม สหรัฐฯ พบเคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวันถึง 51,182 ราย เสียชีวิต 309 คน ส่วนค่าเฉลี่ย 7 วันของเคสผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 38,145 รายต่อวัน และเสียชีวิต 236 รายต่อวัน


(ที่มา : รอยเตอร์)

ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000072028


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

จากเฟซบุ๊ก 'บิ๊กแดงแฟนเพจ' ซึ่งเชื่อว่าได้มีการโพสต์สารจาก 'บิ๊กแดง' พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการพระราชวัง อดีต ผบ.ทบ. ได้ระบุว่า...

จากเฟซบุ๊ก 'บิ๊กแดงแฟนเพจ' ซึ่งเชื่อว่าได้มีการโพสต์สารจาก 'บิ๊กแดง' พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการพระราชวัง อดีต ผบ.ทบ. ได้ระบุว่า...

"ประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการพูด

แต่ต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือแฝงด้วย

เจตนาที่ยุยง ปลุกปั่น..."

"จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน

หรือจงใจที่จะหมิ่นประมาท กล่าวเท็จ ให้ร้าย

สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น"

"ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน"


ที่มา : https://www.facebook.com/184202282455625/posts/834587757417071/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top