Tuesday, 20 May 2025
NEWS FEED

“บิ๊กแอร์บูล” ยินดี หรือน้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโดหญิง ที่สามารถคว้าเหรียญทองแรก สร้างความฮึกเหิมและภาคภูมิใจให้กับทัพนักกีฬาไทย

พล.อ.ท.ฐานัตถ์  จันทร์อำไพ โฆษกกอองทัพอากาศ เปิดเผยว่า พล.อ.อ.แอร์บูล  สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ เรืออากาศตรีหญิง พาณิภัค  วงศ์พัฒนกิจ หรือน้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโดหญิง ในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม ที่สามารถคว้าเหรียญทองแรก ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 โดยสามารถเอาชนะ อาเดรียนา เซเรโซ อิเกรเซียส จากสเปน ในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีสุดท้าย ซึ่งน้องเทนนิสไม่ท้อถอยแม้คะแนนเป็นรอง จนสามารถพลิกเกมส์เอาชนะคู่ต่อสู้ได้และได้เหรียญทองแรกในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจในการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างมีวินัย ทุ่มเท และฝึกฝนแม้จะอยู่ห้วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงก็ตาม ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ได้สร้างความฮึกเหิมและภาคภูมิใจให้กับทัพนักกีฬาไทย

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ขอเชิญชวนกำลังพลกองทัพอากาศและประชาชนร่วมส่งกำลังใจเชียร์ จ่าอากาศโทหญิง จงกลพรรณ  กิติธรากุล นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย (ประเภทหญิงคู่) และ จุฑามาศ  จิตรพงศ์ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นหญิงทีมชาติไทย ซึ่งเป็นนักกีฬาสังกัดกองทัพอากาศ รวมถึงนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 ให้มีสติ มีความอดทนอดกลั้น ใช้ความเพียรและปัญญา เพื่อนำชัยชนะ เกียรติยศ และชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศไทย

โฆษกกห. ชี้ ทหาร-ตำรวจ เร่งเสริมกำลังลงพท.แดงเข้ม ร่วมกทม.-สธ. คัดแยกผู้ป่วยตามบ้านในชุมชน 50 เขต กทม. พร้อมเร่งฉีดวัคซีน ผู้สูงอายุ และคนกลุ่มโรคเสี่ยง

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการเสริมกำลังตำรวจ ทหาร เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤตโควิดที่ยังมีการแพร่ระบาด และพบผู้ป่วยติดเชื้อตามบ้านและชุมชนมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ จังหวัดสีแดงเข้มว่า เรากำลังเร่งช่วยกันคัดแยกผู้ป่วยเชิงรุก โดยทหาร ตำรวจได้จัดกำลังเสริมชุด CCRT ของ กทม. รวม 138 ชุด เร่งเข้าไปตรวจค้นหาเชิงรุกตามบ้านและชุมชนใน กทม. 50 เขต เพื่อแยกผู้ป่วยติดเชื้อออกจากชุมชน นำเข้าสู่ระบบการรักษาตามสถานพยาบาลที่กำหนด พร้อมทั้ง ฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและกลุ่ม 8 โรคเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับถึงบ้านทันทีในคราวเดียวกัน ซึ่งถือเป็นงานสำคัญเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันเร่งหยุดการกระจายของเชื้อร่วมกัน

ส่วนกรณีการเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่ตกค้างตามบ้านและชุมชนว่า  กำลังทหารตำรวจ ได้ร่วมกันจัดตั้ง “ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วย” โดยจัดยานพาหนะกว่า 200 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ หนุนเสริมเข้าไปช่วยทำงานร่วมกับ กทม.และ กระทรวงสาธารณะสุขตลอด 24 ชม. (ติดต่อสายด่วน 191,1668, 1669, 1330 และ ศูนย์เคลื่อนย้ายฯ 062 4427903, 062 3502357 )  ช่วยเคลื่อนย้ายนำผู้ป่วยเข้ามาสู่ระบบการรักษาแล้ว รวม 14,635 ราย  พร้อมกันนี้  ทบ.ได้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด” เพื่อช่วยเหลือประชาชนในทุกกรณี ฟรีตลอด 24 ชม. ทั้งการรับ - ส่ง ผู้ป่วยและผู้หายป่วย รวมทั้งเคลื่อนย้าย ฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อ  ขณะเดียวกันได้จัดยานพาหนะและอากาศยาน สนับสนุนส่งกลับผู้ป่วยที่สมัครใจไปรับการรักษาในภูมิลำเนาตามความพร้อมของจังหวัดปลายทาง 

เพื่อให้การแก้ปัญหาในพื้นที่ทันต่อสถานการณ์   นรม.และรมว.กห. ได้สั่งการให้กองทัพ จัดกำลังลงพื้นที่ ตั้ง “จุดบริการประชาชน” ในชุมชน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยกำลังทหารได้กระจายลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ แล้ว รวม 110 จุด  โดยเป็นพื้นที่ใน  กทม. 44 จุด เช่น ชุมชนวัดมะกอก สามพะยา วัดลาดบัวขาว วัดสะพาน สวนพลู  ตลาดยิ่งเจริญและตลาดดินแดง เป็นต้น โดยประชาชนในพื้นที่สามารถแจ้งเหตุ เพื่อขอรับการช่วยเหลือได้ในทุกกรณี ซึ่งก็จะช่วยรองรับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้รวดเร็วขึ้น

พล.ท.คงชีพ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการสนับสนุนจัดตั้ง รพ.สนาม ว่า  กำลังทหารตำรวจได้สนับสนุน สธ.จัดตั้ง รพ.สนาม ต่อเนื่องมาแล้วกว่า 1 ปี ตั้งแต่ สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มเกิดขึ้นเมื่อ มี.ค.63  ปัจจุบันมี รพ.สนาม ในหน่วยทหารรวม 34 แห่ง ใน 24 จว.รวม 6,135 เตียง ใช้หมุนเวียนดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องมา โดยบุคลากรทางการแพทย์ของ สธ.ร่วมกับกำลังพลของกองทัพที่จัดสนับสนุน

ทั้งนี้ นายกนัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทหารตำรวจ ใช้สโมสรทหาร ตำรวจ ทั่วประเทศ จัดตั้งเป็น รพ.สนามเพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ยังรุนแรงอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจและปรับปรุงสถานที่ร่วมกับสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด สำหรับสโมสรทหาร ตำรวจใน กทม. อยู่ระหว่างเร่งจัดเตรียมเป็น รพ.สนาม โดย รพ.สนามสโมสร ทบ.รองรับผู้ป่วยได้ 300-400 ราย และ รพ.สนาม สโมสร ตร. รองรับผู้ป่วยได้ 200 ราย คาดว่าจะเร่งเปิดใช้ได้ภายใน 30 ก.ค.64

“สถานการณ์วิกฤตจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ยังรุนแรงขยายตัวเป็นวงกว้างต่อเนื่องยาวนานนี้  เป็นภัยต่อชีวิตและความยากลำบากของทุกครอบครัว ที่เราทุกคนจำเป็นต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ช่วยเหลือดูแลกันและกัน ไม่เสียดสีโทษกล่าวว่าร้าย ทำลายกำลังใจกันเอง”พช.ท.คงชีพ กล่าวว่า  ขอยืนยันว่า “เราจะสู้ไปด้วยกัน” โดยตำรวจและทหารจากทุกเหล่าทัพ ยังคงหนักแน่นมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนทำงานร่วมบุคลากรทางการแพทย์และทุกหน่วยงาน ต่อสู้กับโรคร้ายแรงนี้ไปด้วยกันต่อไป อย่างเข้มแข็งและอดทน เพื่อช่วยเหลือดูแลอยู่เคียงข้างทุกคน โดยหากมีปัญหาในทุกกรณี ขอให้ติดต่อทหารตำรวจในพื้นที่และช่องทางการสื่อสารได้ตลอด 24 ชม.

“บิ๊กป้อม” ยินดี “น้องเทนนิส” คว้าเหรียญทองโอลิมปิก พร้อมส่งกำลังใจให้นักกีฬาทุกคน

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ใน,านัประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้ชื่นชมและแสดงความยินดีกับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดสาวไทย ที่คว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2020 

โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวระหว่างการลุ้นชมว่า เป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและสูสีมากในรอบชิงชนะเลิศ ที่เห็นได้ถึงความแกร่ง ไหวพริบและความมุ่งมั่นของ “น้องเทนนิส” ตลอดการแข่งขัน  พร้อมขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณทีมงานและโค้ช รวมทั้งสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนให้การฝึกซ้อมนักกีฬาอย่างอุตสาหะต่อเนื่อง ท่ามกลางข้อจำกัดในสถานการณ์โควิด-19

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร’ ได้กล่าวย้ำเพิ่มว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาทุกคนในทุกประเภทการแข่งขัน ขอให้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยใจที่มุ่งมั่น เพื่อเป็นตัวแทนนำชัยชนะมาสู่คนไทยทั้งประเทศ และขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ติดตามเชียร์และส่งกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนในการแข่งขันพร้อมเพรียงกัน

นายกฯ ยินดี 'เทนนิส พาณิภัค' คว้า ทองแรกให้ทัพนักกีฬาไทย ชี้เป็นรางวัลแห่งความมุมานะ  เชิญชวนคนไทยร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาไทยถึงวันที่ 8 ส.ค. นี้ 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีกับน.ส.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือน้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโดหญิง ในรุ่น 49 กก. และสมาคมเทควันโด ที่สามารถคว้าเหรียญทองแรก ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 โดยเอาชนะอาเดรียนา เซเรโซ อิเกรเซียส จากสเปน เป็นเหรียญทองแรกในการแข่งขันครั้งนี้ ที่นำความภูมิใจให้กับทัพนักกีฬาไทย และเป็นเหรียญทองเหรียญแรกของกีฬาเทควันโดไทย ถือเป็นรางวัลของความมุ่งมั่นตั้งใจของนักกีฬาไทย ที่ทุ่มเทและฝึกฝนแม้จะอยู่ห้วงเวลาและสถานการณ์ที่ยากลำบาก เชื่อว่าจะเป็นกำลังใจ เพิ่มแรงใจ และความกระตือรือร้นให้กับนักกีฬาไทยไนการแข่งขันประเภทอื่นๆ อีกด้วย  

ทั้งนี้ นายอนุชากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีส่งกำลังใจให้นักกีฬาทุกประเภท และยังได้เชิญชวนคนไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์กองทัพนักกีฬาไทย ทำหน้าที่ผู้แทนประเทศไทยแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 ถึงวันที่ 8 ส.ค. นี้ 

“บิ๊กป๊อก” ประชุมติดตามแก้ไขโควิด-19 ร่วมกับผู้ว่าฯ - นายอำเภอทั่วประเทศ - กทม.ย้ำ “บิ๊กตู่” สั่งไม่ให้ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินการป้องกัน ควบคุม และแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิโอคินเฟอร์เรนซ์ร่วมกับนายทรงศักดิ์ ทองศรี นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และนายอำเภอทั่วประเทศ 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมผู้ว่าฯ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตลอดจนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในด้านการสร้างระบบการส่งต่อผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดที่สามารถช่วยแบ่งเบาการบริหารสถานการณ์ระบาดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งในขณะนี้การระบาดของโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รได้มีบัญชาให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ใดให้เข้าสู่ระบบโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขอให้ผู้ว่าฯ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด  สร้างการรับรู้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นพื้นฐานทำให้ลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ มาตรการ DMHTTA ได้แก่ รักษาระยะห่างระหว่างกัน ไม่พบปะหรือไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก การสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี หมั่นล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสม่ำเสมอ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจเชื้อโควิด-19 ใช้แอปหมอชนะ/ไทยชนะ อย่างเข้มข้น ด้วยทุกกลไกของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หอกระจายข่าว และเสียงตามสายในพื้นที่ นอกจากนี้ให้ผู้ว่าฯ เร่งบูรณาการหน่วยงานทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการสนับสนุนมาตรการในการบริหารจัดการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้การจัดการเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้ว่าฯ กทม.และผู้ว่าฯ จังหวัดปริมณฑล ควบคุมการแพร่ระบาดผ่านกลไกและมาตรการอย่างเข้มข้น ในส่วนของผู้ว่าฯ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องควบคุมการแพร่ระบาดพร้อมสกัดกั้นการแพร่ระบาดตามแนวชายแดน ไม่ให้แพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นอย่างเต็มกำลัง เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาด นอกจากนี้ให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดบริหารจัดการขยะติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ให้เป็นไปตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้กำชับและแจ้งแนวปฏิบัติ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกจังหวัดดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น สร้างความเข้าใจ และความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้เราผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน

นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเลขของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากคนที่ไม่รู้ว่าตนเองมีเชื้อ ซึ่งส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ขอให้ผู้ว่าฯ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดมาตรการการตรวจเชิงรุก หาวิธีการบำบัดรักษาในเบื้องต้น เพื่อลดการสูญเสียชีวิต นอกจากนี้ให้ใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการติดตามรับคนกลับมารักษาตัวที่บ้าน

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าฯ สร้างความเข้าใจและความมั่นใจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ยารักษาโรคโควิด-19 และอุปกรณ์ตรวจเชื้อเบื้องต้น เพื่อให้มีกลไกรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)ไปดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ 

ปชป. “จุรินทร์” ส่งกำลังใจ ไปโตเกียว  เชียร์ทัพนักกีฬาไทย โอลิมปิกและพาราลิมปิก “Tokyo 2020 Olympics” 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 และพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า

พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค  ขอส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ทุกคนในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 และพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ขอร่วมกับพี่น้องชาวไทย ร่วมส่งแรงใจ ส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยทุกคน ขอให้ได้รับชัยชนะในการแข่งขัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้ติดตามการแข่งขันอย่างใกล้ชิด และฝากส่งกำลังใจไปให้ทัพนักกีฬาไทยทุกคน 

พรรคขอขอบคุณในความเสียสละทุ่มเท ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย รวมถึงบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน ทีมงานในทุกประเภทกีฬา ความเหน็ดเหนื่อยจากการซ้อม เป้าหมายคือความสำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะคว้าเหรียญรางวัลกลับมาได้หรือไม่ก็ตาม คนไทยจะเป็นกำลังใจให้กับทัพกีฬาไทยเสมอ 

ทุกคนคือแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นหลังที่จะนำมาเป็นต้นแบบในการก้าวเดินในเส้นทางนักกีฬาทีมชาติไทยในรุ่นต่อๆไป 

นายราเมศกล่าวต่อว่า ขอให้นักกีฬาทุกท่าน ดูแลสุขภาพเพราะด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 มีความจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังในช่วงระหว่างการเข้าร่วมแข่งขันที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น พรรคขอส่งกำลังใจให้ ขอให้ประสบผลสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้ทุกประการ

 

กสร. ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย จับตา ‘ทิศทางการค้าโลก’ นำ GLP มาใช้ป้องกันการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดอบรมออนไลน์ เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ได้นำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (Good Labour Practices : GLP) ไปใช้ในการบริหารจัดการแรงงาน ผลิตสินค้าที่ไม่มีการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ

นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวในฐานะประธานเปิดการอบรมออนไลน์ในหัวข้อ “ทิศทางการค้าโลกกับแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี” ว่า กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต่างมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน การใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ โดยกำหนดนโยบายให้มีการถอดถอนสินค้าออกจากรายการที่ถูกขึ้นบัญชีการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ และให้นำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (Good Labour Practices : GLP) มาเป็นเครื่องมือในการดำเนินการในกลุ่มเป้าหมาย 4 รายการ คือ กุ้ง ปลา อ้อย และเครื่องนุ่งห่ม และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนให้นโยบายดังกล่าวสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

กรมได้จัดพิธีประกาศเจตนารมณ์และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ที่กระทรวงแรงงาน ซึ่งนายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยได้สานต่อเจตนารมณ์และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โดยจัดอบรมออนไลน์เพื่อให้ความรู้เรื่องทิศทางการค้าโลก และแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (Good Labour Practices : GLP) ที่ถูกต้อง ให้กับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งจะได้รับความรู้ในเชิงลึกและนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การลดปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานและเพิ่มโอกาสทางการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยผลักดันการถอดถอนรายการสินค้าเครื่องนุ่งห่มออกจากรายการสินค้าของประเทศไทยที่ถูกขึ้นบัญชีไว้ ให้ประสบผลสำเร็จต่อไป

อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย จึงเปิดอบรมออนไลน์ให้กับสมาชิกสมาคม จำนวน 40 ราย โดยหวังว่าผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจะได้ร่วมแสดงเจตนารมณ์ นำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (Good Labour Practices : GLP) มาใช้ ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพร้อมให้การสนับสนุนด้านเทคนิควิชาการ โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือโทรสายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546

“ผอ.รมน.” กำชับ “กอ.รมน.”  ร่วมประสานการปฏิบัติกับเหล่าทัพดูแลผู้ป่วยโควิด – 19   บริการครบวงจร one stop service พร้อมเร่งค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชนนำเข้าสู่ศูนย์พักคอยของกองทัพ

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกอ.รมน. เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโควิค – 19 ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา จากการประเมินของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในด้านต่างๆได้รายงานถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดอื่นๆในประเทศ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเชื้อไวรัสโควิด – 19 สายพันธุ์ใหม่มีการแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว ประกอบกับยังมีการเดินทางสัญจรของประชาชน จึงเป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ทำให้เกิดความต้องการในการตรวจค้นหาเชื้อ อยู่ในอัตราที่สูง และมีความแออัดตามสถานที่และโรงพยาบาลที่จัดให้มีการตรวจ คัดกรองเชิงรุก ปัจจุบันทางรัฐบาลได้มีการเพิ่มมาตรการการตรวจหาเชื้อ โดยใช้ชุดทดสอบแบบ Antigen Test Kit เพื่อเพิ่มช่องทางตรวจค้นหาแยกผู้ติดเชื้อไม่ให้เป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น

จากการดำเนินการดังกล่าวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.รมน. ได้สั่งการเร่งด่วนให้ กอ.รมน. ร่วมประสานงานพร้อมบูรณาการประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ของเหล่าทัพสนับสนุนทีมป้องกันและแก้ไขเชิงรุกในชุมชน Comprehensive Covid – 19 Response Team (CCRT) ในการ  ลงพื้นที่ตามชุมชนต่างๆใน 50 เขต ของกรุงเทพฯ สำรวจชุมชน (ผู้ป่วยโควิด ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคหญิงตั้งครรภ์) เพื่อทำการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อ ในชุมชนด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit  และให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้นกับผู้ป่วยสีเขียว ก่อนส่งต่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล

โดยการจ่ายยาสมุนไพรฟ้าทลายโจรและให้คำแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวในระบบการแยกกักที่บ้าน (HI : Home Isolation) – ระบบแยกกักในชุมชน(CI : Community Isolation) บริการฉีดวัคซีนกับกลุ่มเสี่ยงพร้อมกับการสื่อสารทำความเข้าใจให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับช่องทางในการเข้ารับการรักษา โดยในขั้นต้นผู้ป่วยที่อยู่ในระดับสีเขียวสามารถเข้ารับการรักษาได้ที่ ศูนย์พักคอยผู้ป่วย ตามนโยบายของ นรม./ผอ.รมน. ที่สั่งการให้เหล่าทัพปรับปรุงพื้นที่ของสโมสรหรืออาคารอเนกประสงค์ จัดเตรียมให้เป็นศูนย์คัดกรองและสถานที่พักคอยของผู้ป่วยก่อนที่จะส่งเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลสนามหรือโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ตามพื้นที่ต่างๆต่อไป หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด - 19 ทบ. Call Center : 02-270-5685-9 และสายด่วนความมั่นคง 1374 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

พล.ต.ธนาธิป กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี /ผอ.รมน.  ได้สั่งการ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ร่วมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง บนเส้นทางหลัก/รอง โดยรอบพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทั้ง 13 จังหวัด ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมให้ความรู้แก่ประชาชนกรณีการเดินทางข้ามจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม สร้างความตระหนัก และการรับรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนได้รับทราบถึงความจำเป็นของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโควิค – 19 ฉบับที่ 28 ที่มุ่งลดการเดินทางและห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 น.-04.00 น. มาตรการปิดสถานที่การจัดกิจการและกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด การขยายเวลาปฏิบัติงานที่บ้าน (Work From Home) 100 % และขอให้ทุกคนยังคงใช้มาตรการป้องกันตนเอง   (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด ได้แก่ D : Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคล หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น M : Mask wearing สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H : Hand washing ล้างมือบ่อยๆ จัดให้มีจุดบริการ  เจลล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ T : Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ เพื่อคัดกรองผู้ใช้บริการที่อาจไม่สบาย T : Testing ตรวจหาเชื้อโควิด 19 และ A : Application ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชัน      “ไทยชนะ” และ “หมอชนะ” 

คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีมติอนุมัติการปฏิรูปนโยบายการจัดหาเงินกู้เพื่อสนับสนุนกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำให้สามารถฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้น

แถลงการณ์ของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า "การปฏิรูปนโยบายการจัดหาเงินกู้ให้กลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำนั้น มีเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่า ในระยะกลางนี้ไอเอ็มเอฟมีศักยภาพในการตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มประเทศรายได้ต่ำ โดยไอเอ็มเอฟจะจัดหาเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้กับประเทศกลุ่มนี้

นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟจะขยายเพดานการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ตามปกติเพิ่มขึ้นอีก 45% และจะลดข้อจำกัดที่เข้มงวดเพื่อให้ประเทศที่ยากจนที่สุดสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้"

นายฌอน โนแลน รองผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายของไอเอ็มเอฟ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “การตัดสินใจปรับเพิ่มเพดานการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าคณะกรรมการไอเอ็มเอฟ อนุมัติการปล่อยกู้เพิ่มขึ้นในทุก ๆ โครงการ แต่จะเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศรายได้ต่ำ ด้วยการจัดหาเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย เพื่อให้ประเทศกลุ่มนี้มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเพียงพอในการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 และพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างเต็มศักยภาพในวันข้างหน้า”

ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 6% ในปีนี้ อย่างไรก็ดี นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า อัตราการขยายตัวในแต่ละประเทศยังคงมีความแตกต่างกัน โดยบางประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่บางประเทศเป็นไปอย่างล่าช้า

นอกจากนี้ นางจอร์เจียวาเตือนว่า เศรษฐกิจโลกจะไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ หากอัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไม่เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ และหากอัตราการฉีดวัคซีนยังคงอยู่ในระดับปัจจุบันต่อไป โลกจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในสิ้นปี 2565


ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/950641

บก.ทท. แจ้งผลสอบ เอกสารขอสนับสนุนวัคซีนโมเดอร์นาจริง ชี้ เป็นการทำโดยพลการ ระบุไม่ได้รับมอบจากทางผบ.ทสส. จึงไม่ถือเป็นหนังสือที่ถูกต้อง พร้อมพิจารณาโทษทางวินัยกำลังพลดังกล่าว

พล.ต.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพหนังสือ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ กห 0312.3/218 ลง 23 ก.ค.64 เรื่อง ขอรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 Moderna ให้กับกำลังพลและครอบครัว นั้นทางกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน โดยผลการสอบสวนพบว่า ผู้อำนวยการกองพิธีการ กรมสารบรรณทหาร ได้ทำหนังสือเพื่อขอรับการสนับสนุนวัคซีนจริง เป็นการกระทำโดยพลการ ซึ่งผู้ที่ลงนามในหนังสือดังกล่าว ไม่ได้รับมอบอำนาจจาก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จึงไม่ถือเป็นหนังสือที่ถูกต้อง และไม่ได้ส่งไปยังสภากาชาดไทย ซึ่งได้ถูกยกเลิกหนังสือดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้กองบัญชาการกองทัพไทยได้พิจารณาลงโทษทางวินัยแก่กำลังพลดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top