Friday, 9 May 2025
NEWS FEED

“ไทย-สหรัฐฯ” เดินหน้า คอบบร้าโกลด์ 2022  จัดฝึกขนาดใหญ่วงรอบเฮฟวี่เยียร์ กพ.-มี.ค. พร้อมปรับแผน 3 ระดับรองรับหากโควิด-19 กระทบ/ เผยมิตรประเทศอยากเข้าร่วมเพิ่ม

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.)พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) แถลงภายหลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า ในที่ประชุมได้มการพูดถึงการฝึกทางทหารในภาพรวมปี 2565 ซึ่งมีทั้งหมด  56 รหัสการฝึก จึงได้กำหนดแนวทางดำเนินการ ให้สามารถปฏิบัติการฝึกได้แบบเป็นปกติแบบใหม่ หลังจากที่ผ่านมา ได้มีการลดระดับการฝึกลงหลายรายการ แต่ให้สามารถดำเนินการฝึกได้ สำหรับการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ 2022  จากการประชุม กับสหรัฐฯ ยืนยันห้วงเวลาการฝึกระว่างเดือน กพ- มีค. 2022 และจะมีพิธีเปิด 22 กพ.2565  

โดยตกลงร่วมกันว่าจะยืนยันกำหนดการนี้แน่นอน แม้สถานการณ์จะเป็นเช่นใด โดยจะมีการปรับแผนการฝึกจามสถานการณ์สำหรับการวงรอบการฝึก Heavy year สำหรับ คอบร้าโกลด์ 2022  นั้น  ได้กำหนดแผน3 ระดับ คือ ระดับที่หนึ่ง เต็มรูปแบบ  ถ้าทำได้ก็จะชดเชยปีที่แล้วซึ่งครบรอบ 40 ปีคอบร้าโกลด์ แต่มีการลดระดับลงแต่ ปี 2022ครบ 41 ปี ก็มุ่งหวังว่ะจะทำได้เต็มรูปแบบแบบเดิม อีกทั้งมิตรประเทศก็อยากเข้าร่วมกิจกรรมด้วย รวมถึงในส่วนของคนไทยเมื่อมีกำลังพลเข้ามาฝึกจำนวนมาก มีการใช้จ่ายในพื้นที่มีการสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่การฝึกก็ส่งผลประโยชน์ต่อประชาชนในภาพรวม  

บอร์ดรฟท. อนุมัติค่าโดยสารสายสีแดง กำหนดราคา 12-42 บาท เป็นเวลา 3 ปี

19 ต.ค. 64 - นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม บอร์ด รฟท.วันนี้ ได้อนุมัติในหลักการ กำหนดอัตราค่าโดยสาร รถไฟชานเมืองสายสีแดง ตลิ่งชัน-บางซื่อ และบางซื่อ-รังสิต โดยกำหนดอัตราที่ค่าแรกเข้า 12 บาท และเก็บสูงสุด ไม่เกิน 42 บาท โดยจะจัดเก็บอัตราดังกล่าวไปเป็นเวลา 3 ปี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอนุมัติอัตราค่าโดยสารของบอร์ดรฟท. เป็นการกำหนดอัตราค่าแรกเข้า 12 บาท และเก็บตามระยะอีก กม.ละ 1.50 บาท สูงสุดไม่เกิน 42 บาท  อย่างไรก็ตาม เนื่องจากก่อนหน้านี้นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ได้ให้นโยบายว่า การกำหนดอัตราค่าโดยสารนั้น ต้องเกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่เป็นภาระกับองค์กร (รฟท.) ในอนาคต  

เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าเสนอไทยคุมบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย หลัง อย.สหรัฐ ไฟเขียวขายบุหรี่ไฟฟ้า วอนหมอไทยเลิกด้อยค่าบุหรี่ไฟฟ้า

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าลุ้นไทยปลดแบนบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อประโยชน์ต่อผู้สูบบุหรี่และการเก็บภาษี แนะดูแนวทางสหรัฐฯ คุมบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย หลัง อย. สหรัฐให้อนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าเพราะเห็นประโยชน์มากกว่าโทษ 
 
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) และแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เปิดเผยภายหลังทราบข่าวองค์การอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกา (The Food and Drug Administration หรือ FDA) ที่อนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่งของ บริษัท RJ Reynolds สามารถขายได้ในสหรัฐอเมริกาว่า “อย. สหรัฐมองว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถลดการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตรายเมื่อเทียบกับควันที่เกิดจากการเผาไหม้ของบุหรี่ และเป็นการปกป้องสุขภาพของประชาชนส่วนรวมโดยแนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าของสหรัฐเน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งผู้สูบบุหรี่และผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ โดยมีการศึกษาผลดีผลเสียอย่างรอบคอบ และเห็นว่าประโยชน์ของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่จะช่วยให้ลดการสูบบุหรี่มีมากกว่าความเสี่ยงในการที่เยาวชนจะมาติดบุหรี่ไฟฟ้า จึงอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าได้เพื่อให้ทางเลือกกับผู้สูบบุหรี่ ในขณะที่ยังสามารถควบคุมคุณภาพสินค้าและบังคับใช้กฎหมายป้องกันการโฆษณาและการเข้าถึงของเยาวชนได้ด้วย”
 
“ต่างกับในประเทศไทยที่ให้เหตุผลว่าไม่อยากให้เยาวชนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพราะจะกลายเป็นผู้สูบบุหรี่ในที่สุด จึงจำเป็นต้องแบนไว้ก่อน แต่ 7 ปีที่บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าผิดกฎหมาย เราก็ยังเห็นมีผู้ใช้อยู่เป็นจำนวนมากรวมถึงเยาวชนที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วไลฟ์โชว์กันทางสื่อโซเชี่ยลมีเดียด้วย ซึ่งหากเรานำบุหรี่ไฟฟ้ามาควบคุมให้เหมาะสม กำหนดอายุผู้ซื้อผู้ขาย ก็จะช่วยให้รัฐบาลป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชนได้ดีกว่า เหมือนที่เรากำหนดอายุผู้ซื้อบุหรี่ จนทำให้อัตราการสูบบุหรี่ในเยาวชนที่อายุตำกว่า 20 ปีลดลงจาก 9.7% เหลือ 6.2% ในปีที่ผ่านมา”
 
ตามรายงานของนิวยอร์คไทม์เผยว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา FDA ออกแถลงการณ์อนุญาตให้ RJ Reynolds ทำการตลาดผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า 3 รายการ หลังจากที่บริษัทยื่นคำขออนุมัติขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ (Pre-market Tobacco Product Application: PMTA) โดยบุหรี่ไฟฟ้าทั้ง 3 รายการที่ได้รับอนุญาตเป็นรสชาติใบยาสูบธรรมดา ซึ่งไม่ใช่รสชาติที่มีการปรุงแต่ง โดย FDA ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่เด็ก ๆ จะเริ่มจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วหันไปสูบบุหรี่ซึ่งมีอันตรายมากกว่าแทน ทั้งนี้ การอนุญาตของ FDA ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของการถกเถียงด้านสาธารณสุขที่มีมายาวนานกว่าหลายทศวรรษ โดย FDA ระบุว่าในแถลงการณ์ว่าไอละลองของบุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตมีพิษน้อยกว่าควันของบุหรี่อย่างมีนัยสำคัญ และการอนุญาตดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนจะมีการประชุมประเทศภาคีสมาชิกกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบของโลกในช่วงวันที่  8-13 พฤศจิกายน ซึ่งคาดว่าจะมีการถกเถียงเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
 
ด้านนายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนอีกท่านหนึ่งของ ESCT ระบุว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ US FDA ยอมรับบุหรี่ไฟฟ้าเช่นเดียวกับอังกฤษ นิวซีแลนด์ และอีกกว่า 70 ประเทศทั่วโลก แต่ฝ่ายต่อต้านของไทยพยายามด้อยค่าบุหรี่ไฟฟ้าด้วยการให้ข้อมูลด้านลบเพียงอย่างเดียว ทั้งที่เมื่อเทียบกับบุหรี่แล้ว บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่ามาก อีกทั้งยังไม่ยอมรับความเป็นจริงด้วยว่าการแบนบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทยเป็นนโยบายที่ล้มเหลว ทั้งทำให้เกิดตลาดใต้ดิน เก็บภาษีก็ไม่ได้ และยังห้ามคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้จริง ๆ อีกด้วย จึงต้องจับตาว่าประเทศไทยจะมีจุดยืนอย่างไรในการประชุมนี้”

สหรัฐฯ งานงอก!! แรงงานขนส่งขาดแคลนหนัก ดันราคา 'สินค้า-พลังงาน' พุ่งจนฉุดไม่อยู่

ในเวลานี้ รัฐบาลไบเดนกำลังเผชิญปัญหาหนัก นอกเหนือจากความพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤติ Covid-19 ตามคำสัญญาของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะ "Make America Normal Again" - ทำให้อเมริกากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

แต่ล่าสุด รัฐบาลไบเดน กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายระลอกใหม่จากพิษของ Covid-19 ก็คือ ปัญหาจากระบบขนส่งกระจายสินค้า

ปัญหานี้ เกิดตั้งแต่แถบชายฝั่งตะวันตกที่ท่าเรือลอสแอนเจลิส จนลามไปทั่วประเทศ ที่ตอนนี้มีตู้คอนเทนเนอร์สินค้า รอส่งต่อไปยังปลายทางอยู่เป็นจำนวนมาก ระบายไม่ทัน แต่ในขณะเดียวกัน ภาคแรงงานยังไม่ฟื้นตัวทันปริมาณงานขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังการเปิดเมือง 

ด้วยปัญหาด้านการขนส่งที่ล่าช้า เลยทำให้สินค้าอุปโภค/บริโภค และน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยเฉพาะอาหารสด เนื้อสัตว์ และน้ำมัน ที่เริ่มขาดแคลนแล้วในหลายพื้นที่ จึงทำให้ตอนนี้ชาวอเมริกันพากันออกไปซื้อสินค้ามากักตุนไว้เป็นจำนวนมาก เลยยิ่งทำให้ระบบขนส่งรวนหนัก เพราะยอดออเดอร์พุ่งสูงขึ้นเกินกว่าที่สินค้าจะระบายได้ทัน 

ปัญหาสารพันเหล่านี้ เกิดเพราะ Covid-19 เป็นเหตุ สังเกตได้ 

หลังจากที่ภาคอุตสาหกรรม การบริโภคหดตัวอย่างรุนแรงในช่วงที่ล็อกดาวน์เมือง พอกลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง ความต้องการสินค้าก็เข้ามาทันควัน หลังจากที่อั้นมานาน แต่ระบบขนส่งเพิ่งกลับมาเดินเครื่อง ยังไม่ได้เต็ม 100% เหมือนก่อนช่วง Covid-19 จึงทำให้ระบบจัดการ รับส่งสินค้า ปั่นป่วนไปหมด 

แต่นอกเหนือจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ปัญหาภาคแรงงานในสหรัฐอเมริกาต่างหาก ที่เป็นสาเหตุของการ Disrupt ครั้งใหญ่ในกระบวนการขนส่ง เพราะตั้งแต่เกิดการระบาดของ Covid-19 มีคนทำงานหายไปจากระบบเป็นจำนวนมาก

และจากตัวเลขแรงงานในสหรัฐอเมริกาในเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมาพบว่า มีคนทำงานลาออกจากงานมากกว่า 4.3 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติ Covid-19 ที่ในสหรัฐฯ ในปี 2020 เป็นต้นมา 

โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิทยา มานี คณะบริหารธุรกิจ แห่งมหาวิทยาเวอร์จิเนีย ให้ความเห็นว่า จาก Covid-19 ทำให้ภาคแรงงานเกิดการเปลี่ยนแปลงสับเปลี่ยนตำแหน่งกันอย่างขนานใหญ่ บางคนย้ายไปทำงานในสายงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงกว่า และบางคนก็ยังไม่ตัดสินใจกลับเข้ามาในระบบแรงงาน 

ซึ่งแรงงานในส่วนของขนส่ง และคลังสินค้า นับเป็นกลุ่มคนทำงานที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำมากที่สุด ที่ตอนนี้ขาดแคลนแรงงานมากกว่า 4.9 แสนตำแหน่ง จากข้อมูลของกระทรวงแรงงาน

จึงทำให้บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ทั้ง Amazon Walmart Target ต้องหันมาทุ่มทุน ขึ้นค่าแรงและสวัสดิการเพื่อแย่งตัวคนงานกลับมาทำงานให้ทันก่อนเข้าช่วงคริสต์มาส 

สวนนงนุชพัทยา พร้อมสนับสนุน "Pattaya Moves on" ด้วยความพร้อม 360 องศา ประเดิมกิจกรรมแรกในการประกวด "มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์"

ตามที่เมืองพัทยาได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ มาโดยตลอดทั้งในเรื่องของการบริหารจัดสรรการกระจายวัคซีนให้ประชาชน ควบคู่กับการพิจารณาวางแผนหาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา จึงได้จัดทำโครงการ "Pattaya Moves on" ด้วยการกำหนดจัดกิจกรรมสร้างสีสันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการควบคุมโรคติดต่อของ ศบค.

สวนนงนุชพัทยา ตอบสนองตามนโยบายของภาครัฐ ดำเนินการตามโครงการ "Pattaya Moves on" เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยได้รับมาตรฐาน SHA Plus ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความพร้อมของผู้ประกอบการ เพื่อนำร่องแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย

สวนนงนุชพัทยา เปิดพื้นที่โรงละครสกาล่านงนุชพัทยา ให้จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 รอบ Preliminary Show กำหนดจัดขึ้นวันศุกร์ที่ 22 ต.ค.64 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 20.00 น. และในการประกวดรอบสุดท้ายหรือ Final Show กำหนดจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค.64 ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ถึง 19.45 น. ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างบูรณาการขั้นสูงสุดในสถานที่แสดงมหรสพ

 

'ครม.' เคาะ!! คนละครึ่งเฟส 3 เพิ่ม บวกอีก 1,500 มัดรวมยอดรอบ 1 & 2

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 รับทราบและอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คณะกรรมการฯ) ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 โดยคณะกรรมการฯ เห็นควรให้ความเห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงินสนับสนุนในโครงการ ดังนี้... 

(1) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 (โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรฯ ระยะที่ 3)

(2) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือฯ)

(3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3

และ (4) โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ตามที่กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเสนอ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดของ COVID-19 ให้แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สิน และผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ตลอดจนเพื่อพยุงและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ผ่านการเพิ่มอุปสงค์การบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยมีรายละเอียดดังนี้…

1.) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรฯ ระยะที่ 3 เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติม จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือนเป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564 (รวม 600 บาทต่อคน) ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จำนวนไม่เกิน 13,537,294 คน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 500 บาทต่อคนต่อเดือนในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564

***เดิมที่ผ่านมาช่วง ก.ค. - ต.ค. รัฐบาลให้เพิ่มเดือนละ 200 บาทอยู่แล้ว แต่รอบใหม่ พ.ย. - ธ.ค. ให้เดือนละ 200 + 300 (ที่ ครม. มีมติเพิ่มให้วันนี้) รวมให้เดือนละ 500 บาท

2.) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือฯ เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าฯ และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติม จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564 (รวม 600 บาทต่อคน) ให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือฯ จำนวนไม่เกิน 2,306,469 คน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 500 บาทต่อคนต่อเดือนในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564

3.) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติมวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่าย รอบที่ 3 จำนวน 1,500 บาทต่อคน ในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564 (โดยนำไปรวมกับวงเงินคงเหลือจากรอบที่ 1 และ 2 ของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โดยอัตโนมัติ) ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวนไม่เกิน 28,000,000 คน

‘สภากาชาดไทย’ ลงพื้นที่เตรียมความพร้อม! จัดตั้งหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ผู้ลี้ภัยและผู้อาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว บ้านถ้ำหิน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

วันที่ 17 ตุลาคม 2564 นายบุญรักษ์ สรัคคานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิตอล สภากาชาดไทย พร้อมด้วย Mr.Peter Simpson iResponse,ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC), แพทย์หญิงกานดา ลิมิตเลาหพันธุ์ หัวหน้าฝ่ายบริการทางการแพทย์ และคณะ, นางกุลชลีย์ สุคันวรานิล ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาล (ฝ่ายบริหาร), นางอรวรรณ ขำเพชร หัวหน้าสถานีกาชาดที่ 8 จังหวัดเพชรบุรี, นางสาวสุดใจ เครือวณิชธรรม หัวหน้าสถานีกาชาดหัวหิน เฉลิมพระเกียรติ ร่วมประชุมหารือกับนายอดุลย์ ถาวรกุล นายอำเภอสวนผึ้ง, นายศุภสิทธิ์ ถีราวุฒิ ปลัดอำเภอสวนผึ้ง, นายแพทย์นภัส มณีศรีขำ นายแพทย์ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนผึ้ง, Dr.Myo Htet,Senior Clinical Manager, คุณธิดารัตน์ แดหวา Field Coordinator  IRC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ผู้ป่วยติดโควิด-19 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดีใจ!! หลังได้รับ "COVID HOME CARE" ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่ต้องกักตัวที่บ้าน ให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างปลอดภัย

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2564  นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบกล่องโควิดโฮมแคร์ จำนวน 100 ชุด ข้าวสาร ไข่อาหารแห้ง ขนมเด็ก และเสื้อ PPE ยาฟ้าทลายโจร โดยมี พันเอก รณชัย เวียงวงษ์ ผบ.นพค.42 สำนักพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาให้เกียรติร่วมพิธี พร้อมด้วย นายอับดุลฮาดี เจ๊ะยอ ข่าวสด จ.ยะลา นายนิแอ สามะอาลี นักประชาสัมพันธ์ สำนักงานประประชาสัมพันธ์ จ.ยะลา ศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ ให้ชาวบ้านที่ติดโควิดรักษาตัวที่บ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.กาบัง อ.ยะหา อ.เมือง จ.ยะลา อ.เมือง อ.โคกโพธิ์ อ.มายอ จ.ปัตตานี อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

โดย นายแพทย์ฆนัท ครุฑกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ ผู้รับผิดชอบโครงการ Covid Home Care กล่าวว่าได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส และพื้นที่ในจังหวัดสงขลายังมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเตียงสนามไม่เพียงพอในการรองรับผู้ป่วยโควิด ทำให้ผู้ป่วยต้องกักตัวเองและดูแลรักษาตัวที่บ้านในเบื้องต้นมีความต้องการเพิ่มขึ้น ดังนั้น สมาคมสมาพันธ์ฯและเครือข่ายเราดูแลกัน หรือ we care network ได้ร่วมกับสมาคมนักสื่อพิมพ์ภาคใต้และศูนย์พัฒนาอาชีพกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่ต้องกักตัวที่บ้านให้สามารถดูแลตนเองที่บ้านได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระแก่บุคลากรทางการแพทย์อีกทางหนึ่ง

นายกสมาคมสมาพันธ์ฯกล่าวโดยเบื้องต้นจะมอบกล่อง COVID HOME CARE จำนวน 100 กล่องเพื่อให้พันธมิตรทั้ง 2 องค์กรนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อที่ต้องการรักษาตัวเองที่บ้าน  นอกจากนี้ทางสมาคมสมาพันธ์ฯยังได้ร่วมกับสถานีวิทยุ ม.อ ปัตตานีเพื่อนำกล่อง COVID HOME CARE มอบให้กับผู้ป่วยโควิดที่ต้องการรักษาตัวเองที่บ้าน ซึ่งได้มอบไปแล้ว 100 กล่อง ทางวิทยุ ม.อ ปัตตานี ได้นำมอบให้ผู้ป่วยไปหมดแล้ว ทางโครงการฯก็จะมอบกล่องเพิ่มอีก 100 กล่องเพราะมีผู้ป่วยต้องการรักษาตัวเองที่บ้านเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางโครงการเปิดช่องทางติดต่อผ่าน Line : @covidhomecare ให้ผู้ป่วยโควิดเข้ามาลงทะเบียน และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปเพื่อให้คำปรึกษาในแนวทางการรักษาตัวเองที่บ้านได้ 

“เราคาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยลดความแออัดที่โรงพยาบาล ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลได้อย่างทั่วถึง“ นายแพทย์ฆนัทฯ กล่าวทิ้งท้าย

นายมะสากี อาบูถัดสา อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ที่ได้กล่องโควิด COVID HOME CARE เพื่อมอบให้กับชาวบ้านที่ติดโควิดแล้วรักษาตัวที่บ้าน ตอนนี้ เตียงเต็มชาวบ้านต้องการ COVID HOME CARE แบบนี้จำนวนมาก ทำให้เราทุกคนที่ได้รับวันนี้รู้สึกดีใจ อย่างบอกไม่ถูก

 

นายกฯ ญี่ปุ่น ยืนยันตามแผนเดิม ปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนกัมมันตรังสีฟูกุชิมะลงมหาสมุทร

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ยืนยันเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ว่า แผนการปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิดะลงสู่มหาสมุทร ‘ไม่สามารถเลื่อนออกไปได้’ ถึงแม้คนในพื้นที่จะแสดงความวิตกกังวล รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เกาหลีใต้ ที่ยังคงสั่งแบนอาหารทะเลจากภูมิภาค

เอพีรายงาน เผย ผู้นำญี่ปุ่นประกาศระหว่างเดินทางไปเยือนโรงงานพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ชี้ว่า เขาจะทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่ของตนเองจะทำงานเพื่อให้มั่นใจว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบโรงงานเกี่ยวกับความปลอดภัยทางเทคนิคของโครงการปล่อยน้ำเสีย

กำลังพลจิตอาสา พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ เร่งช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสุกรหนีน้ำโดยด่วน!!! 

พลตรี บรรยง  ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ 9 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กำลังพลจิตอาสา กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 19 (ร.19 พัน.2) ร่วมกับ กองพันทหารช่างที่ 9 กองพลหทารราบที่ 9 (ช.พัน.9 พล.ร.9) จัดยุทโธปกรณ์เรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก พายุโซนร้อน “คมปาซุ” ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ บ้านช่องด่าน หมู่ที่ 2 ตำบลหลุมรัง อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี 

โดยเร่งทำการขนย้ายสุกรจำนวน 9,000 ตัว ไปไว้ในที่ปลอดภัย ซึ่งล่าสุดขณะนี้ปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำล่าสุดอยู่ที่ 100 เซนติเมตร และคาดว่าน่าจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง  หากไม่เร่งขนย้ายข้าวของหรือทรัพย์สินออกในช่วงนี้  ก็จะจมน้ำเสียหาย   


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top