Friday, 9 May 2025
NEWS FEED

“ประวิตร” สั่งหน่วยมั่นคง กวาดล้างใหญ่ขบวนการค้ามนุษย์ และจับตาเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยว เพิกเฉย รับส่วย สั่งปลดออก สอบวินัยดำเนินคดีตามกม.ถึงที่สุด

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ ยังไม่พอใจการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่ผ่านมา โดยพบรายงานการทุจริตและการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์  รวมทั้งมีแรงงานภาคบังคับอยู่ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติในหลายอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะแรงงานประมง ซึ่งไม่ระบุแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน  อันเป็นอุปสรรคต่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ที่สำคัญ 

โดย พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำสั่งการไปยังหน่วยงานข่าว ให้ติดตามเชิงลึกความเชื่อมโยงขบวนการลักลอบนำพาคนต่างด้าวเข้าไทยกับขบวนการค้ามนุษย์และเจ้าหน้าที่รัฐ โดยให้รายงานให้ทราบในทุกสัปดาห์  พร้อมทั้งขอให้ กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงแรงงานฯ ประสานกับ ตำรวจและทหาร เปิดรับแจ้งเบาะแสจากภาคประชาชน เข้าพิสูจน์ทราบและเปิดปฏิบัติการกวาดล้างใหญ่ขบวนการเครือข่ายค้ามนุษย์ ทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในต่อเนื่องกันไป โดยให้ขยายผลสู่การบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการทุกรายไม่มียกเว้น  ทั้งนี้ หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง รับประโยชน์ ละเลย และเพิกเฉย ให้สอบสวนเอาผิดทั้งวินัยและอาญา ยึดทรัพย์และปลดออกจากราชการทุกราย 

ทำไมเด็กๆ ถึงใช้คำหยาบใน “สื่อออนไลน์”

การใช้ “คำหยาบ” ในโลกออนไลน์ อาจเป็นปัญหาที่คุณครูและพ่อแม่อาจกำลังกังวล โดยอาจไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น และวิธีป้องกัน หรือแก้ไข

ศ. นพ.วีระศักดิ์ ชลไชยะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุถึงสาเหตุทำให้เด็กๆ ใช้คำหยาบในโลกออนไลน์เอาไว้ ดังนี้

ทำไมเด็กๆ ถึงใช้คำหยาบใน “สื่อออนไลน์”

>> การเลียนแบบจากเพื่อนหรืออินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ในสื่อออนไลน์
>> เด็กมองว่าการใช้คำหยาบคายระหว่างเพื่อนไม่ได้เป็นเรื่องผิด
>> เด็กรู้สึกเป็นที่ยอมรับเมื่อสบถหรือใช้คำหยาบเหมือนกัน

‘บิ๊กโจ๊ก’ ลั่น!! ต้องจับกุมคนบงการขโมยรังนกให้ได้ และย้ำ! จะไม่ให้มีการขโมยังนกในจังหวัดพัทลุงอีกต่อไป พร้อมแถลงจับกุมผู้ต้องหาขโมยรังนก 17 ราย

เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันที่ 20 ต.ค. 64 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค9 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.๙,พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.๙., พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง 

ร่วมแถลงข่าวจากกรณี บริษัท สยามเนสท์ 2022 จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานรังนกอีแอ่นบริเวณ หมู่เกาะสี่เกาะห้าอ.ปากพะยูน จว.พัทลุง ร้องเรียนว่าหลังจากเข้ารับมอบพื้นที่สัมปทานเก็บรังนก เชื่อต้นเดือน กันยายน 2564 แล้วพบว่ามีการลักลอบเข้าไปเก็บรังนกบริเวณดังกล่าว ทำให้ลูกนกตายจำนวนมากสร้างความเสียหายต่อบริษัทผู้รับสัมปทานเป็น จำนวนเงินมูลค่าหลายพันล้านบาท และมีการสืบสวนสอบสวนจนทราบข้อมูลเครือข่ายขโมยรังนกทั้งหมด และได้ส่งสำนวนขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมกระบวนการทั้งหมด17 คน 

ซึ่งศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายแล้วทั้งหมด ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มผู้เก็บรังนก 6 รายแรก ได้แก่ นายสมพงศ์ พูลแก้ว / นายวีระ ล่ำไล่ / นายประชนภัย ล่ำไล่ / นายอรุณ (อดีต อส.รุณ) ธรรมศรี  

ในข้อหา "ร่วมกันเก็บรังนกที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนเกาะหรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับสัมปทานจากคณะกรรมการ, ร่วมกันเข้าไปกระทำการใด ๆ บนเกาะ หรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่มีรังนกอยู่ตามธรรมชาติ อันเป็นหรืออาจเป็นอันตรายแก่นกอีแอ่น ไข่ของนกอีแอ่นหรือรังนก หรืออาจเป็นเหตุให้นกอีแอ่นละที่อยู่อาศัยไปจากเกาะหรือที่สาธารณสมบัติแผ่นดินดังกล่าว (ตาม พ.ร.บ.รังนกอีแอ่น พ.ศ.2540 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง , 25 , 28 ) , ร่วมกัน เก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งรังของสัตว์ป่าคุ้มครอง, ล่าสัตว์ป่า หรือเก็บ หรือทำอันตรายแก่รังของสัตว์ป่านั้น ในพื้นที่ที่รัฐมนตรีประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า (ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2562 มาตรา 14 วรรคสอง , 67 (1)" 

ส่วนอีกสองรายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือ นายนุภูล ย้อยแสง และนายสวัสดิ์ เพิ่มเดช ข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ (ตาม ป.อาญา มาตรา 149 และ 157 ) ซึ่งทั้ง 6 รายเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมดแล้ว  

ส่วนอีก 11 คนนั้น เป็นจากการสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวคนร้าย อีกจำนวนทั้งสิ้น 11 ราย จนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีผู้กระทำความผิด โดยขออนุมัติศาลจังหวัดพัทลุง ออกหมายจับผู้ต้องหาในชุดที่สอง  ซึ่งศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายจับแล้ว ได้แก่  

1.นายศราวุธ ชูชื่น อายุ 57 ปี 

2.นายนิคม จาริยะ อาย 54 ปี 

3.นายประวิทย์ ชูเกื้อ อายุ 60 ปี  

4.นายประจวบ หีตฤทธิ์ อายุ 50 ปี 5.นายประจิม หีตฤทธิ์ อายุ 52 ปี  

6.นายหร่อหมาน ไหลหมัด อายุ 51 ปี 

7.นายทัศกร รอดรวยรื่น อายุ 28 ปี 

8.นายสนธยา หีตฤทธิ์ อายุ 28 ปี 

9.นายจินกร อัจฉราทิพย์ อายุ 46 ปี  

10.นายร่อหาม หลับสะ อายุ 46 ปี 

11.นายนายสุธรรม ขุนล่ำ อายุ 48  ปี 

รวมคนร้ายทั้งหมด 17 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ สามารุติดตามจับกุมมาได้แล้ว 16 ราย เหลือเพียง นายสุธรรม ขุนล่ำ ที่ยังหลบหนี   

ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีการสืบสวนสอบคดีขโมยรังนกนั้น สืบเนื่องเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 9 ได้จับกุม น.ส.วรัญศยา หรืออินทร์ จองนุ้ย อายุ 25 ปี / น.ส.อัจฉรา หรือเฟิร์น ทองสม อายุ 21 ปี ในข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งรังนกอันตนรู้ว่าได้มาโดยการฝ่าฝืนการเก็บรังนกที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนเกาะหรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับสัมปทานจากคณะกรรมการ” (ตาม พ.ร.บ.รังนกอีแอ่น พ.ศ.2540 มาตรา (14,26,31) ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนได้มีการโพสขายรังนกในโซเชียว และบริษัทเจ้าของสัมปทานได้มีการเข้าร้องเรียน ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถจับกุมคนร้ายทั้งสองคนได้ และเป็นที่มาของการตรวจสอบรังนกในหมู่เกาะของจังหัวดพัทลุงทั้งหมด 

 

ตร. เตือน ระวังหลอกให้ ‘รัก โลภ หลง’ ภัยออนไลน์ 3 รูปแบบ ย้ำ! ใครก็ตกเป็นเหยื่อได้

วันที่ 20 ต.ค. 2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้มี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

การสร้างความสัมพันธ์ หลอกลวงเหยื่อในลักษณะฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นให้เกิดความรัก มีทั้ง หลอกรักออนไลน์ (Romance Scam) , หลอกรักชวนลงทุน(Hybrid Scam) ,การข่มขู่กรรโชกทางเพศ(Sex Tortion) ซึ่งมักใช้วิธีการนำภาพผู้อื่นมาสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ด้วยข้อมูลเท็จ ทำทีเข้ามาสร้างความสัมพันธ์ หลอกล่อด้วยวิธีการต่าง ๆ มากมาย ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินเงินทอง ไปจนถึงความรัก จนเหยื่อยอมมอบทรัพย์สินให้ หรือยอมถ่ายคลิปลับของตนส่งไปให้คนร้าย และท้ายที่สุดคนร้ายก็จะตัดขาดการติดต่อจากผู้เสียหาย หรือนำคลิปลับมาข่มขู่เรียกเอาเงินจากผู้เสียหาย

ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวและจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่ายังมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากยังคงตกเป็นเหยื่ออยู่ ไม่ว่าจะเป็น วัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอมาย้ำเตือนพี่น้องประชาชนให้รู้เท่าทัน ถึงการฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบหลัก ดังนี้

1.) “หลอกให้เกิดความรัก” ใช้ภาพของบุคคลที่หน้าตาดี หล่อ สวย สร้างโปรไฟล์ปลอมให้ดูน่าเชื่อถือ จากนั้นส่งข้อความถึงเป้าหมาย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว หลอกให้เกิดความรัก ขอทรัพย์สินเป็นของขวัญ หรืออ้างว่าตนเองหรือบุคคลในครอบครัวต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่ไม่มีเงินเพียงพอ จนเหยื่อหลงเชื่อ มอบทรัพย์สินให้เป็นจำนวนมาก

2.) “หลอกให้เกิดความโลภ” ใช้ภาพของบุคคลที่น่าเชื่อถือ สร้างโปรไฟล์ปลอมให้ดูเหมือนเป็นนักลงทุน มีทรัพย์สินจำนวนมาก จากนั้นส่งข้อความถึงเป้าหมาย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจ หลอกให้เกิดความโลภ อ้างว่ามีช่องทางการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนสูง โดยใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ลงทุนปลอม หลอกให้เหยื่อสมัครลงทุนที่ไม่มีอยู่จริง หรือได้รับสัมปทานจากรัฐ ซึ่งเป็นข้อมูลเฉพาะคนรู้จักเท่านั้น ไม่เปิดเผยต่อคนภายนอก หรืออ้างว่ามีทรัพย์สินของตนจำนวนมาก ติดอยู่ที่ศุลกากร จำเป็นต้องจ่ายภาษี จึงขอให้ผู้เสียหายชำระเงินภาษีให้ โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาไม่มีอยู่จริง จนทำให้เหยื่อหลงเชื่อ มอบทรัพย์สินให้คนร้าย

รัฐบาลอินโดฯ บินด่วนเจรจา Merck ตั้งโรงงานผลิตยา Molnupiravir

สื่อท้องถิ่นอินโดนีเซียรายงานว่ารัฐบาลอินโดนีเซียกำลังเจรจากับบริษัท Merck ของสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิต Molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์) ยารักษาโควิด-19 เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตยาดังกล่าวในอินโดนีเซีย

ลูฮัต บินซาร์ ปันด์ไจตัน (Luhut Binsar Pandjaitan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนของอินโดนีเซีย เผยว่า วันนี้ (20 ต.ค.) ตนพร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อเจรจากับบริษัทผู้ผลิตยาในประเด็นดังกล่าว

พร้อมเสริมว่า อินโดนีเซียต้องการเป็นมากกว่าผู้ซื้อ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการลงทุนและตั้งโรงงานผลิตยา Molnupiravir ในอินโดนีเซียในอนาคต

8 ผู้บริหารสายการบินจีน โดนสั่งยืนตากลมหนาว หลังปล่อย ‘แอร์ฯ สาว’ หนาวสั่น เพราะไม่ปรับยูนิฟอร์มให้ทันฤดู

เฟซบุ๊กเพจ ‘ไทยคำ-จีนคำ’ ได้โพสต์เรื่องราวจากกรณีศึกษาขององค์กรสายการบินในจีนที่มองข้ามความสำคัญของสวัสดิภาพพนักงาน ว่า...

ปล่อยพนักงานผู้ใต้บังคับบัญชาตกทุกข์ได้ยาก ผู้บริหารระดับสูงต้องรับผิดชอบ

เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้โดยสารของสายการบิน ‘ไห่หนาน’ (ไหหลำ) 海航 ได้ลงเครื่องที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งระหว่างนั่งรถกลับบ้าน เหลือบมองไปข้างทาง พบเห็น ‘แอร์โฮสเตส’ ของสายการบินที่ตนเพิ่งโดยสารมา ‘ยืนหนาวตัวสั่นอยู่’ ท่าทางน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง (อุณหภูมิในเวลานั้นอยู่ราวๆ 0 องศาเซลเซียส)

ผู้โดยสารปรารถนาดี ต้องการให้สายการบินระดับชาติยกระดับการดูแลพนักงาน จึงได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังผู้บริหารระดับสูง เรียกร้องให้ช่วยจัดการสวัสดิภาพของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ควรปล่อยให้ใครต้องมายืนตากลม เจอกับความหนาวเหน็บเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอร์โฮสเตสสาว ที่ร่างกายบอบบาง 

เรื่องถูกส่งต่อไปถึง ‘บิ๊กของบริษัท’ อย่างรวดเร็ว และได้รีบสั่งการลงมาให้ดำเนินการเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มของสายการบินเข้าสู่ฤดูหนาวในทันที

หน้าหนาวปีนี้มาเร็วกว่าที่คิด สายการบินหลายแห่งเปลี่ยนยูนิฟอร์มเป็นชุดสำหรับป้องกันความหนาวกันหมดแล้ว

แต่สายการบินไห่หนานยังติดระบบระเบียบภายใน ทำให้การดำเนินงานล่าช้า และเกิดภาพแอร์สาวยืนตัวสั่น จนถูกผู้โดยสายนำเรื่องมาฟ้อง ถือว่าขายหน้าอย่างยิ่ง

14 ข้อ ที่ต้องร้อง อ๋อ!! เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวไทย

ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย บรรณาธิการบริหาร เพื่อวางกลยุทธ์สื่อสาร ศบค. ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึง 14 ความโดดเด่นของประเทศไทย ดังนี้ว่า... 

1.) ประเทศไทยติด Top 10 ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว

2.) เรามีวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นที่ 7 ของโลก ที่ 2 ของ Asia และที่ 1 ของ ASEAN

3.) เราเป็น Paradise of Street Food และเป็น Kitchen of the World

4.) เราเป็น Paradise of Gaycation (Gay+Vacation)

5.) เราเป็น International Hub of Health Tourism ด้วยโรงพยาบาล Wellness Spa Resorts, Day Spa

6.) พระบรมมหาราชวังเขาเราติด Top 10 ของวังที่มีคนเข้าชมมากที่สุด

'ภูเก็ต' ฟุ้งควบคุมการระบาดได้ดี พบยอดสะสมแซนด์บ็อกซ์ติดเชื้อแค่ 0.3%

20 ต.ค. 64 - นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศดีขึ้น ผู้ป่วยลดลง แต่ในภาคใต้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น อยู่ในช่วงขาขึ้นโดยเฉพาะ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ส่วนจังหวัดภูเก็ตผู้ป่วยลดลง จากเดิมเดือน ก.ย. 64 เฉลี่ยวันละ 250-260 ราย ขณะนี้ตัวเลขลดลงอยู่ที่ 130 ราย ข้อมูล ณ วันที่ 19 ต.ค. 64 มีผู้ป่วยรายใหม่ 132 คน ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 6 คน ซึ่งผู้ป่วยภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สะสม 163 คน จากจำนวนที่เข้ามากว่า 50,000 คน คิดเป็น 0.3% ถือว่าน้อยมาก

ภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดภูเก็ต มีแนวโน้มดีขึ้น ศักยภาพการดูแลเตียงสามารถรองรับผู้ป่วยที่มีอาการได้ มีจำนวนเตียงที่รองรับผู้ป่วยสีเหลืองสีแดงได้มากขึ้น เตียงว่าง 40% ส่วน ศูนย์ CI ในชุมชน ได้ทยอยปิดตัวไปหลายแห่ง เนื่องจากผู้ป่วยลดลงชัดเจน ตอนนี้มีเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย ที่ต้องอยู่โรงพยาบาล และผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่มีอาการอยู่ใน Home Isolate ยังมีต้องดูแล ภาพรวมติดเชื้อน้อยลง ต้องขอบคุณภาคประชาชนที่ร่วมกันฉีดวัคซีน มีมาตรการป้องกันตนเอง ทางสาธารณสุขใช้ทีม CCRT ลงตรวจเชิงรุก ฉีดวัคซีนควบคู่ไปด้วย ซึ่งภูเก็ตมีการฉีดวัคซีนเป็นจังหวัดต้นๆ ข้อมูลการฉีดเข็มแรก 82% เข็มสอง 77% เข็มสาม 45% การฉีดเข็มสามจะช่วยป้องกันเชื้อเดลตาได้

อินเตอร์ลิ้งค์ฯ เข้มข้นกว่าเดิม!! “คุณสมบัติ” ประธาน บมจ. พลิกโฉมการแข่งขัน Cabling & Networking Contest ปีที่ 9 ชิงถ้วยพระราชทาน และเงินรางวัลรวมกว่า 400,000 บาท

“คุณสมบัติ อนันตรัมพร” ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงาน Cabling & Networking Contest #9 การแข่งขันสุดยอดทักษะสายสัญญาณและเน็ตเวิร์ค ปีที่ 9

ซึ่งครั้งนี้เป็นปีแรก ที่พลิกโฉมการแข่งขันมาในรูปแบบ Fully Online ผ่านระบบ Zoom โดยมี ‘คุณอำพล พงศ์สุวรรณ’ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาให้เกียรติกล่าวเปิดงาน

 

Walk in เข็มแรก!! เทศบาลแพรกษา สมุทรปราการ เปิด Walk in ฉีดวัคซีน 1,000 คน หนุ่มชาวอังกฤษ เผย! ขอบคุณคนไทย

ที่บริเวณอาคาร ชั้น 1 ศูนย์ฉีดวัคซีนเทศบาลตำบลแพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแพรกษา เดินตรวจเยี่ยมประชาชนพร้อมทั้งให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และคณะเจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการประชาชนที่เดินทางมารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรก แบบ Walk in จำนวน 1,000 คน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนเทศบาลตำบลแพรกษา

โดยในวันนี้ มีประชาชนจำนวนมากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจ ต่างเดินทางมารอรับบริการฉีดวัคซีน โควิด-19 เข็มแรก แบบ Walk in หลังจากที่เทศบาลตำบลแพรกษาได้เปิดให้ประชาชนทุกกลุ่ม สามารถเดินทางมาขอรับการฉีดวัคซีนได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทะเบียนก่อน 

จากการสอบถามนาย ปีเตอร์ แอนดรู คาโล อายุ 67 ปี ชาวอังกฤษ เปิดเผยว่า สาเหตุที่เดินทางมาฉีดวัคซีน แบบ Walk in ในวันนี้เพราะช่วงก่อนหน้านั้นตนเองได้ลงทะเบียนจองวัคซีนไปก่อนแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ตนจึงมองว่าวัคซีนชนิดไหนได้ก่อนก็ควรฉีดป้องกันไว้ก่อน และหลังจากที่ทราบว่าเทศบาลตำบลแพรกษาแห่งนี้จะเปิดให้ประชาชนที่สนใจรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบ Walk in จึงทำให้เดินทางมาฉีดวัคซีนในวันนี้ และยังมีความสะดวกสบายไม่แออัด อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่โดยเทศบาลตำบลแพรกษามาเป็นจิตอาสาคอยดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุอีกด้วย

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top