Saturday, 10 May 2025
NEWS FEED

“โฆษกรัฐบาล” เผย รัฐบาลไฟเขียวเปิดเหมือง “คิงส์เกต” แลกเลื่อนแถลงคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ยัน คณะกรรมการฯระงับข้อพิพาทฯ ยึดประโยชน์ประเทศเป็นหลัก อ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า กรณีที่บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด เจ้าของเหมืองอัครา เลื่อนการแถลงคำชี้ขาดของ อนุญาโตตุลาการ กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้กฎหมายมาตรา 44 ที่ 72/2559 ของคสช. ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำชาตรี จากเดิมในวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 31 ม.ค. 2565 โดยระหว่างนี้กำลังเตรียมการเปิดเหมืองทองคำชาตรี บริเวณรอยต่อของ จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์

แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังมีการเจรจาแลกเปลี่ยนอะไรที่ไม่อยากให้ประชาชนรับทราบใช่หรือไม่ ว่า ขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ที่สำคัญ เป็นไปตามคำแนะนำของอนุญาโตตุลาการที่ต้องการให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยจะแพ้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ เพราะหากคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด สามารถเจรจาจนได้ข้อยุติได้นั้น ย่อมจะเป็นผลดีมากกว่าการให้คณะอนุญาโตตุลาการออกคำชี้ขาด

นายธนกร กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะรักษาประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง จะไม่ให้เกิดความเสียหายเหมือนกรณีทุจริตจำนำข้าวอย่างแน่นอน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ กำชับหนักแน่นว่า จะไม่ปล่อยให้เกิดการทุจริตในรัฐบาลชุดนี้เด็ดขาด ทางที่ดี นพ.ชลน่านควรเรียกอดีตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยกลับมารับผิดชอบความผิดของตัวเองก่อนจะดีกว่า ถึงแม้จะอ้างว่าไม่ได้กระทำความผิดเอง แต่ก็ปล่อยให้รัฐมนตรีในรัฐบาลตัวเองทุจริต จนถูกศาลตัดสินจำคุกในที่สุด

'รมว.เฮ้ง' กำชับนายจ้างพาแรงงานข้ามชาติ ดำเนินการตามมติครม.ภายในกำหนด 

กระทรวงแรงงาน แนะแนวทางการดำเนินการตามมติครม. 29 ธ.ค. 63  มติครม. 13 ก.ค. 64 มติครม. 28 ก.ย. 64 และกลุ่มคนต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่ใบอนุญาตทำงานสิ้นสุดโดยผลของกฎหมาย เพื่ออยู่ทำงานได้ถึง 13 ก.พ. 66

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน  ให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานข้ามชาติอย่างยิ่ง โดยมีมติครม.เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 63 มติครม.เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 และมติครม.เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 เพื่อเปิดโอกาสให้นายจ้าง/สถานประกอบการดำเนินการขออนุญาตทำงานให้แรงงานข้ามชาติสามารถทำงานได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย ภาครัฐสามารถให้ความคุ้มครองและความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนแรงงานข้ามชาติได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นการสนับสนุนการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งสำหรับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่อยู่ในประเทศไทย แรงงานไทยในสถานประกอบการ ตลอดจนชุมชนโดยรอบ

“ผมขอสรุปโดยง่าย สำหรับแรงงานข้ามชาติทั้ง 3 สัญชาติ ที่ประสงค์จะทำงานในประเทศไทย หากยังดำเนินการในขั้นตอนใดไม่สำเร็จก็ให้เร่งดำเนินการ โดยติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1- 10 ที่เป็นสถานที่ตั้งของสถานประกอบการ สำหรับกลุ่มมติครม. 29 ธ.ค. 63 ที่ถือ บต.48 มีการชำระค่าธรรมเนียมและยื่นขออนุญาตทำงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ภายในวันที่ 13 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ควรเร่งติดต่อขอรับใบอนุญาตทำงานให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด 
สำหรับกลุ่มมติครม. 13 ก.ค. 64 ที่ถือบัตรชมพู ต้องยื่นเรื่องขอต่อใบอนุญาตทำงานก่อนที่ใบอนุญาตทำงานเดิมหมดอายุ ภายใน 31 มี.ค. 65 กลุ่มที่ถือ บต. 23 ต้องยื่นแจ้งขอเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตทำงานก่อนที่ใบอนุญาตทำงานเดิมหมดอายุ ซึ่งหากยังไม่ได้ตรวจสุขภาพต้องดำเนินการให้ทัน ภายใน 31 มี.ค. 65 ในส่วนกลุ่ม MoU ต้องขอต่อใบอนุญาตทำงานก่อนที่ใบอนุญาตทำงานเดิมสิ้นสุด เพื่ออยู่และทำงานต่ออีก 2 ปี

และกลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 จนถึงวันที่ 3 ส.ค. 64 นายจ้างต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวและชำระค่าธรรมเนียม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป – 1 ธ.ค. 64 ตรวจและทำประกันสุขภาพ ตรวจลงตราวีซ่า รวมทั้งขอหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางฉบับใหม่กรณีเอกสารเดิมหมดอายุ ภายใน 1 ส.ค. 65  ซึ่งถ้าเอกสารประจำตัวหมดอายุ ต้องทำเล่มใหม่และตรวจลงตรากับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ภายใน วันที่ 1 ส.ค. 65 เพื่อได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานในประเทศไทย ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 66

สำหรับการเข้าตรวจสถานประกอบการตามมติครม.วันที่ 28 ก.ย. 64 นั้น มีผลบังคับใช้ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยและประกาศกระทรวงแรงงาน ตั้งแต่ 1 พ.ย. 64  ซึ่งกระทรวงแรงงานจะลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการเป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้คำแนะนำนายจ้างและแรงงานข้ามชาติ ในการขออนุญาตทำงานให้แก่ลูกจ้าง เพื่อเข้าสู่ระบบการจ้างงานตามกฎหมายต่อไป ซึ่งกระทรวงแรงงานขอให้นายจ้าง/สถานประกอบการให้ความสำคัญและดำเนินการภายในกำหนดเพื่อประโยชน์ของท่านและลูกจ้างในความดูแล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

“บิ๊กตู่”กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมระดับผู้นำ COP26 ประกาศเจตนารมณ์ไทยพร้อมยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่ด้วยทุกวิถีทาง ย้ำต้องหยุดทำร้ายธรรมชาติเพราะไม่มีโลกใบที่สองเหมือนโลกนี้อีกแล้ว 

ที่ศูนย์การประชุม The Scottish Event Campus พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมระดับผู้นำ (World Leaders Summit) ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) (COP26)

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม โดยยืนยันว่า ไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมร่วมมือกับทุกประเทศ ทุกภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญของโลกเพื่ออนาคตของลูกหลานของพวกเราทุกคน“ผมมาร่วมประชุมวันนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าประเทศไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยไทยพร้อมร่วมมือกับทุกประเทศ และทุกภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการแก้ปัญหาครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของโลก เพราะภารกิจนี้คือความเป็นความตายของโลกและอนาคตของลูกหลานของพวกเราทุกคน ปัจจุบันไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกในปริมาณเพียงประมาณร้อยละ 0.72 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งโลก แต่ประเทศไทยกลับเป็น 1ใน 10 ประเทศที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ผมไปร่วมการประชุมสุดยอดเรื่องภูมิอากาศของสหประชาชาติที่กรุงปารีสเมื่อปี ๒๐๑๕ โดยไทยอยู่ในประเทศกลุ่มแรกที่ให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีของความตกลงปารีส
 คำมั่นสัญญาของไทย มิใช่คำมั่นที่ว่างเปล่า ในช่วงที่ผ่านมา ไทยได้ปฏิบัติตามคำมั่นทุกประการที่ให้ไว้กับประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง และมีการดำเนินการอย่างแข็งขันภายในประเทศ” 
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไทยได้กำหนดเป้าหมาย NAMA (นา-มา) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในภาคพลังงานและขนส่งอย่างน้อยร้อยละ 7 ภายในปี 2020 แต่ทว่าในปี 2019 ไทยสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้แล้วร้อยละ 17 ซึ่งเกินเป้าหมายที่เราตั้งไว้กว่า 2 เท่า และก่อนเวลาที่ได้กำหนดไว้มากกว่า 1 ปี นอกจากนี้ไทยยังเป็นประเทศแรก ๆ ที่จัดส่ง NDC (เอ็น ดี ซี) ฉบับปรับปรุงปี 2020 และจัดทำแผนงานต่าง ๆ ในระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น ล่าสุด ไทยได้ส่งยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับต่ำให้กับ UNFCCC โดยไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่จัดทำยุทธศาสตร์นี้
 
“วันนี้ผมจึงมาพร้อมกับเจตนารมย์ที่เป็นความท้าทายอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่และด้วยทุกวิถีทาง เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี 2065 และด้วยการสนับสนุนทางด้านการเงินและเทคโนโลยีอย่างเต็มที่และเท่าเทียม รวมถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถจากความร่วมมือระหว่างประเทศ และกลไกภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ ผมมั่นใจว่าประเทศไทยก็จะสามารถยกระดับ NDC ของเราขึ้นเป็นร้อยละ 40 ได้ ซึ่งจะทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิของไทยเป็นศูนย์ได้ภายในปี 2050 

ผบ.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ตรวจเยี่ยมการรับทหารกองประจำการ รุ่นปี ผลัดที่ 2

ที่สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) พล.อ.ท.วิญญา  โพธิ์คานิช ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน พร้อมด้วย พล.อ.ท. ชัยนาท  ผลกิจ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ เดินทางไปตรวจเยี่ยมกรรมวิธีการรับทหารกองประจำการ รุ่นปี 2564 ผลัดที่ 2 

สำหรับการรับทหารกองประจำการ ณ ที่ตั้งดอนเมืองในวันนี้ มีทหารใหม่ ผลัดที่ 2 รายงานตัวเข้าประจำการ จำนวน 2,092 คน โดยกองทัพอากาศได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอนตามนโยบายของรัฐบาล โดยหลังจากที่ทหารใหม่รายงานตัวเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ ATK หากพบผู้ติดเชื้อในขั้นตอนนี้ จะได้รับการตรวจ RT-PCR อีกครั้งเพื่อยืนยันผล ก่อนจะส่งตัวเข้ารักษาในสถานพยาบาลในสังกัดกองทัพอากาศต่อไป 

“โฆษกรัฐบาล”ชี้ ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ย้ำ รัฐไม่เสียประโยชน์-ปชช.ได้ใช้บริการ  ยัน ไม่เอื้อนายทุน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานบอร์ดอีอีซี ขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าสิทธิในการบริหารรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน หรือ Airport Rail Link (ARL) มูลค่า 10,671 ล้านบาท ตามเงื่อนไขสัญญาการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน คือบริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ที่ถือหุ้น 70 เปอร์เซ็นต์โดยกลุ่มซีพี

เป็นการกระทำที่เข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่ด้วยผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ทั้งที่คู่สัญญาทำผิดเงื่อนไข แต่รัฐยังเปิดโอกาสให้เดินรถได้โดยชำระเงินเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่การจับประชาชนเป็นตัวประกัน หรือเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน ถ้าจะมีใครที่จับประชาชนเป็นตัวประกันนั้น น่าจะเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่มักจะออกมาให้สัมภาษณ์สนับสนุน รวมถึงช่วยประกันตัวกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประท้วงด้วยการใช้ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินราชการ และจาบจ้วงสถาบันอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน

นายธนกร กล่าวอีกว่า การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก โดยการดำเนินการอยู่บนความเท่าเทียมและเป็นธรรม หากปกปิดข้อมูลจริง ฝ่ายค้านคงจะไม่มีข้อมูลมาจับแพะชนแพะ สร้างความสับสนให้ประชาชนจนรัฐบาลต้องมาคอยแก้ข่าวเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนอยู่ทุกวัน เหมือนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายครั้งที่ผ่านมา

 

1 พ.ย. 64 ประเทศไทยเปิดประเทศ - เปิดโรงเรียน - เปิดให้ดื่มสุรา แบบ New Normal

???? Re-Open 1 พ.ย. 64
วันนี้ ประเทศไทย กลับมาเปิดหลาย ๆ กิจกรรม อีกครั้งแบบ New Normal ใช้ชีวิตอยู่กับโควิด-19 อย่างปลอดภัย

????เปิดประเทศ
63 ประเทศ เดินทางเข้าไทย ไม่ต้องกักตัว

‘นัท นิสามณี’ แต่งเลียนแบบพระพุทธเจ้า โลกโซเชียลวิจารณ์หนัก จวกไม่เหมาะสม

ดราม่าร้อน! นัท นิสามณี สะบัดแปรง แต่งหน้าแต่งตัวเป็นพระพุทธเจ้า ในวันฮาโลวีน โลกโซเชียลรุมจวกไม่เหมาะสม เสี่ยงนรก เล่นกับความเชื่อของชาวพุทธ

กลายเป็นกระแสวิจารณ์ในโลกโซเชียล สำหรับ ‘นัท นิสามณี’ บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ‘สะบัดแปรง’ หลังเจ้าตัวได้แต่งหน้าแปลงโฉมเลียนแบบพระพุทธเจ้า ต้อนรับเทศกาลวันฮาโลวีน 31 ตุลาคม พร้อมเขียนแคปชั่นภาพว่า ‘#สะบัดแปรงHalloween...Look5 Buddha’

โดย นัท นิสามณี ได้เผยด้วยว่า ‘นัทไม่ได้กล้าทำอะไรทั้งนั้น มองในแนวคอนเซ็ปต์ของงานนี้ นัททำทุกศาสนาที่นัทหาข้อมูลได้ แต่งไปเล่าไป มองแบบเปิดใจดู ความศรัทธา ศักดิ์สิทธิ์ แก่นคำสอนไม่ได้เปลี่ยนเลยจากการมีคนทาแต่งตัวเป็นพระ ทำขนมพระเครื่อง หรือเอาปลักขิดมาเป็นพร็อพแต่งบ้าน ยึดที่หลักคำสอนไหมว่า อะไรคือหนทางพ้นทุกข์ หากมองให้เกิดปัญญา ปัญญาก็จะเกิด หากมองให้เกิดปัญหา ปัญหาก็จะเกิด’

‘พระมหาไพรวัลย์’ โพสต์เหน็บแรง ไม่เคยทำเดรัจฉานวิชา - ปลุกเสกผ้ายันต์

เป็นประเด็นดราม่าเดือดต่อเนื่อง หลัง “พระมหาไพรวัลย์” ไลฟ์สดประกาศเตรียมสึก โดยระบุถึงเหตุผลสืบเนื่องมาจาก อาณาจักรรุกเข้ามาควบคุมศาสนจักรมากเกินไป หลัง พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส

'จุรินทร์' ประกาศ ไทยยื่นสัตยาบัน RCEP แล้ว ตั้งเป้าต้นมกราคม 65 มีผลบังคับใช้ ลุยการค้า-การส่งออก ตลาดใหญ่ของโลก 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แถลงข่าวเรื่อง RCEP หลังจากที่สมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค 15 ประเทศได้ร่วมลงนาม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการให้สัตยาบัน RCEP( Regional Comprehensive Economic Partnership) โดยกติกาข้อตกลง RCEP ซึ่งมีสมาชิกปัจจุบัน  15 ประเทศ ประกอบด้วย อาเซียน 10 ประเทศ กับอีก 5 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งได้มีการเจรจาและเป็นที่ยุตติเมื่อปี 2562 ขณะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพและได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมกันเสร็จสิ้นแล้วในเวลานั้น แต่ว่ายังไม่มีผลบังคับใช้ เพราะเงื่อนไขที่กำหนดไว้ คือ อย่างน้อยในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศต้องมีไม่น้อยกว่า 6 ประเทศให้สัตยาบัน และประเทศนอกสมาชิกอาเซียนที่มี 5 ประเทศอย่างน้อย 3 ประเทศร่วมให้สัตยาบัน รวม 3 + 6 ก็เป็น 9 ประเทศ ขณะนี้ในกลุ่มประเทศอาเซียนมีแนวโน้มว่าจะให้สัตยาบันครบ 6 ประเทศแล้ว ประกอบด้วย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชาและเวียดนาม รวมทั้งประเทศ ไทย ได้ยื่นให้สัตยาบันแล้วเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดยยื่นต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนที่ประเทศอินโดนิเซีย ส่วนประเทศนอกสมาชิกอาเซียน มีจีนกับญี่ปุ่นยื่นไปแล้ว ถ้ามีอีกหนึ่งประเทศ ก็ถือว่าครบตามเงื่อนไข ซึ่งคาดว่าต้นปีหรือเดือนมกราคม 65  ข้อตกลง RCEP จะบังคับใช้ในประเทศสมาชิก 15 ประเทศต่อไป ซึ่งจะมีผลให้ RCEP กลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกันถึง 2,300 ล้านคน คิดเป็น 30% ของประชากรโลก และทำให้กลุ่มประเทศ RCEP มีจีดีพี 33.6% ของจีดีพีโลก หรือ 1 ใน 3 ของจีดีพีโลก มูลค่าการค้าประมาณ 30% ของมูลค่าการค้าโลก ถ้ามีผลบังคับใช้ก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศสมาชิกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทย 

" ยกตัวอย่าง เช่น ประเด็นที่1 การส่งออกภาษีเป็นศูนย์อย่างน้อย 39,366 รายการ โดยลดเหลือศูนย์ จำนวน 29,891 รายการทันทีที่บังคับใช้ ประเด็นที่2 ตลาด RCEP จะเป็นการเพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าไทยหลายรายการ เช่น ผลไม้สดและแปรรูป สินค้าประมง ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์และส่วนประกอบ พลาสติก เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เป็นต้น ประเด็นที่3 ไทยจะได้รับการอำนวยความสะดวกทางการค้าโดยเฉพาะในการส่งออก  เมื่อสินค้าไปสู่ด่านถ้าเป็นสินค้าเน่าเสีย ผู้ค้าจะต้องปล่อยสินค้าภายในเวลา 6 ชั่วโมง จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกผลไม้ ผักและสินค้าเน่าเสียหลายรายการของไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top