Saturday, 10 May 2025
NEWS FEED

ศบค.ยกเลิกเคอร์ฟิวทุกพื้นที่ เว้น 7 จังหวัดแดงเข้ม หวั่นปลดล็อกดื่มเหล้า อาจทำระบาดรอบใหม่

ศบค. ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวทุกพื้นที่ ยกเว้น 7 จังหวัดสีแดงเข้ม แต่ยังหวั่นปลดล็อกดื่มแอลกอฮอล์ ในจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดอีกรอบ โดยเฉพาะ กทม. เหตุเป็นพื้นที่ที่มีความซับซ้อน 

วันที่ 29 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธาน

ที่ประชุมมีมติปรับพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด (สีแดงเข้ม) 23 จังหวัด เหลือ 7 ได้แก่ จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา

พื้นที่ควบคุมสูงสุด 30 จังหวัด เป็น 38 จังหวัด และ พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัด เป็น 23 จังหวัด

พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด ได้แก่ นครพนม น่าน บึงกาฬ มุกดาหาร สกลนคร

นอกเหนือมติการปรับพื้นที่สี เพื่อรองรับการเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 การยกเลิกการออกนอกเคหสถาน (ยกเว้นพื้นที่สีแดงเข้ม 7 จังหวัดที่ยังคงเวลา 23.00 - 03.00 น.) การผ่อนคลายให้ดื่มแอลกอฮอล์ในบางพื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา ภูเก็ต

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงรายละเอียดเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องการผ่อนคลายให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ว่า สำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 4 จังหวัดที่ประกอบไปด้วย กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และภูเก็ต นั้น โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวย้ำว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาเรื่องนี้กันพอสมควร มีความห่วงใยในส่วนของผู้บริหาร ผู้อาวุโส รวมถึงที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของ ผอ.ศบค. ที่ได้พูดถึงความห่วงใยในประเด็นมาตรการที่ต้องออกมากำกับอย่างเต็มที่

“เพราะถ้าพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวตรงนี้ สามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยเฉพาะการดื่มสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลาย จะปล่อยให้เกิดขึ้นแบบวิถีปกติไม่ได้ เพราะจะเป็นเหตุของการติดเชื้อและเกิดการแพร่ระบาดกลับคืนมาได้ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่มีความซับซ้อนในเชิงของการจัดการควบคุมโรค” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว 

'ก้าวไกล' จี้!! เยาวชนถูกยิงดับหน้า ‘สน.ดินแดง’ ชี้!! คดีไม่คืบหน้า สังคมยังมีข้อกังขาหลายจุด

พันตำรวจตรี ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในฐานะรองประธานในคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริง (Fact finding) กรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมทางการเมืองบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ภายหลังจากที่สื่อมวลชนรายงานว่าเมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม 2564) นายวาฤทธิ์ สมน้อย หนึ่งในเยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จากการสลายการชุมนุมที่แยกดินแดง บริเวณหน้าสน.ดินแดง เข้ารักษาตัวที่ร.พ.ราชวิถี ด้วยอาการวิกฤตเนื่องจากกระสุนฝังบริเวณไขสันหลังส่วนบน ร่วมกับมีภาวะสมองบวมจากการขาดออกซิเจนเสียชีวิตแล้ว

พันตำรวจตรีชวลิต กล่าวว่า กว่า 2 เดือนแล้วจากเหตุการณ์ยิงเยาวชนหน้า สน.ดินแดง ในขณะที่ตนและคณะทำงานของกรรมาธิการได้เปิดหลักฐานในบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงจนพบกลุ่มคนต้องสงสัยที่ตำรวจควรจะตามตัวมาได้ไม่ยาก แต่คดีนี้ในชั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จนกระทั่งผู้ถูกกระทำได้จากไปแล้ว 

“ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ วาฤทธิ์ วิ่งอยู่บนถนนมิตรไมตรี มุ่งหน้าแยกโรงกรองน้ำ ก่อนถูกยิงล้มลง ซึ่งมีรอยกระสุนอีกนัดที่กำแพง ระบุทิศทางการยิงมาจากซอยหน้า สน.ดินแดง ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีผู้ชุมนุมอยู่ ที่สำคัญรัฐจะต้องเร่งหาตัวคนร้าย ผู้ก่อเหตุและผู้สั่งการต้องถูกนำตัวมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม”

ทั้งนี้ พันตำรวจตรีชวลิต กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกคนร่วมใจกันทวงถามความยุติธรรมจากรัฐ เราจะต้องไม่ปล่อยให้ครอบครัวของเขาต้องสู้อย่างเดียวดาย และจะต้องไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก และสิ่งที่เกิดขึ้นคุ้มแล้วหรือกับเยาวชนอนาคตของชาติที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ ต้องมาแลกกับชีวิตของตนด้วยปลายกระบอกปืน อย่าปล่อยให้เป็นความอยุติธรรมที่ถูกกลืนหายไปโดยไร้คำตอบ

รมว.พิพัฒน์ ผลักดันกีฬามวยไทยให้ได้รับการบรรจุในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ นครหางโจว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมหารือการผลักดันกีฬามวยไทยให้ได้รับการบรรจุในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับ Mr. Gou zhongwen (โก่วจ้งเหวิน) รัฐมนตรีสำนักกิจการกีฬาแห่งชาติจีน และประธานโอลิมปิกจีน โดยมีนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Appication Zoom) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

สถานบันเทิงขอ “บิ๊กตู่” เปิดขายเหล้า 17 จังหวัด ผับ-บาร์เปิด 1 ธ.ค.

กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิงในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และกลุ่มจังหวัดที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลัก คือ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต รวม 311 ร้าน ได้เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ขอให้พิจารณาการอนุญาตให้จำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ และขออนุญาตให้เปิดกิจการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.64 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ตัวแทนผู้ประกอบการยอมรับว่า นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 กว่า 19 เดือน ผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิง และสถานประกอบการได้แก่ ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงพนักงานหลายหมื่นคน ได้ปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด แม้ว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อเนื่อง ยาวนาน ต่อทั้งธุรกิจ พนักงาน และครอบครัว จนส่งผลให้ผู้ประกอบการกว่า 40-50% จำเป็นต้องปิดตัวลงอย่างถาวร เนื่องจากขาดรายได้และขาดสภาพคล่อง จึงเสนอขอให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ

กลุ่มผู้ประกอบการยังได้จัดทำข้อเสนออื่น ๆ เช่น จัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือในราคาที่ถูกที่สุดแก่สถานประกอบการเพื่อให้พนักงานทำการตรวจด้วยตนเองอย่างน้อยทุก 7 วัน, จัดลำดับความสำคัญในระดับต้นสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (booster) หรือวัคซีนที่พัฒนารุ่นใหม่ เช่น กลุ่ม Protein Subunit และ mRNA ให้ผู้ประกอบการและพนักงานของสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565 

ห้ามพลาด!! คลังเปิดเก็บตกคนละครึ่ง 1 แสนสิทธิ เริ่ม 1 พ.ย.นี้

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังได้ประมวลผลผู้ที่ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 25 ต.ค.2564 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิแล้ว แต่มีผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ มีจำนวน 119,974 ซึ่งจะนำสิทธิที่เหลือมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ของทุกวันจนกว่าจะครบ 28 ล้านสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง 

สำหรับประชาชนที่ได้เข้าร่วมโครงการอยู่แล้ว จะมีการเพิ่มวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่าย รอบที่ 3 จำนวน 1,500 บาทต่อคน ในวันที่ 1 พ.ย.2564 ซึ่งวงเงินสนับสนุนเพิ่มเติมดังกล่าวจะได้รับโดยอัติโนมัติ และสำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 จะได้รับวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่ายทั้งสิ้น 4,500 บาทต่อคน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564

ธพว. ร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกระทรวงอุตสาหกรรม

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการ นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เข้าร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน กระทรวงอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 โดยมี นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่ โรงเรียนวัดสร้อยทอง และ โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดสร้อยทอง นอกจากนี้ ภายในพิธียังมีคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และพนักงาน กระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานในสังกัด ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธีดังกล่าวฯ ณ วัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร 

“ศบค.” เปิด4จ.สีฟ้า ให้ขาย-ดื่มแอลกอฮอล์ แต่จำกัดโซนพื้นที่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวหลังประชุม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ศบค.เห็นชอบให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สีฟ้า(นำร่องการท่องเที่ยว) 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และ ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป ส่วนรายละเอียดต่างๆ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเป็นผู้ไปออกข้อกำหนด โดยเบื้องต้นจะมีการกำหนดโซนพื้นที่ให้จำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้เปิดเสรีเป็นการทั่วไปในทุกพื้นที่

"ปลัดสธ."ยัน ความพร้อมด้านสาธารณสุข รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ เผย 4 จชต.สถานการณ์โควิดดีขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล  นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค.พิจารณาปรับโซนสีจังหวัดแดงเข้ม แต่ยังคงพื้นที่สีแดงเข้ม ใน  4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วน สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มดีขึ้นและถือว่าผ่านระยะที่แพร่ระบาดสูงสุดมาแล้ว โดยการควบคุมในพื้นที่ภาคใต้ก็ดีขึ้น และมีการกระจายวัคซีนลงไปแล้ว ในภาพรวมการแพร่ระบาดทั่วประเทศดีขึ้น ทำให้สามารถที่จะควบคุมการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มจังหวัดได้  

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ 'ห้ามชุมนุม-มั่วสุม' หลังเปิดประเทศ

(29 ต.ค. 64) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ ๑๓) 

ตามที่รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๖) ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ และคำสั่ง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ที่ ๑๘/๒๕๖๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามข้อกำหนดออกตาม ความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘

เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการฟื้นฟูประเทศเพื่อประโยชน์ด้านการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ และด้านเศรษฐกิจแก่ประชาชน เห็นควรให้มีการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศได้มากขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงาน ในภาพรวมของประเทศ

แม้ว่าที่ผ่านมาภาพรวมของสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายสาธารณสุขสามารถควบคุมและจำกัดขอบเขตพื้นที่ การแพร่ระบาดของโรคได้ รวมทั้งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมโดยประสานความร่วมมือกับประเทศต้นทาง และบูรณาการการทำงานของพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนในการกำหนดมาตรการ รองรับเพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นระบบควบคู่กับการกำหนดมาตรการทางด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ให้ประชาชนมีความปลอดภัย

รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและประชาชนในการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศอันจะส่งผลให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และสังคมสามารถดำเนินการควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อังกฤษ ปลดทุกประเทศพ้น 'บัญชีสีแดง' เดินทางเข้าไม่ต้องกักตัวในโรงแรม

รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมถอดทุกประเทศที่เหลืออยู่ออกจากบัญชี "สีแดง" ด้านการเดินทาง ยกเลิกห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าสู่อังกฤษ จากการเปิดเผยของ แกรนท์ แชปส์ รัฐมนตรีคมนาคมในวันพฤหัสบดี (28 ต.ค.)

รัฐมนตรีรายนี้แถลงว่า 7 ประเทศที่เหลืออยู่ในบัญชีสีแดง ประกอบด้วยโคลอมเบีย สาธารณรัฐโดมินิกัน เอกวาดอร์ เฮติ ปานามา เปรู และเวเนซุเอลา จะถูกปลดพ้นจากบัญชีในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

ชาวสหราชอาณาจักรที่เดินทางกลับจากประเทศเหล่านี้จะไม่จำเป็นต้องกักโรคในโรงแรมเป็นเวลา 11 คืนอีกต่อไป ส่วนพลเมืองของบรรดาประเทศดังกล่าว เวลานี้ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าอังกฤษได้แล้ว

อย่างไรก็ตามระบบบัญชีแดงจะยังคงมีอยู่ และประเทศใด ๆ ประเทศหนึ่งอาจถูกใส่กลับเข้ามาในบัญชีดังกล่าว ในกรณีที่พบเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในประเทศนั้น ๆ

"เราจะคงหมวดหมู่บัญชีสีแดงเอาไว้ ในมาตรการป้องกันไว้ก่อน เพื่อปกป้องสุขภาพประชาชน และพร้อมใส่ประเทศหรือดินแดนหนึ่ง ๆ กลับเข้าไป ถ้าจำเป็น ในฐานะที่มันเป็นแนวแรกแห่งการป้องกันของสหราชอาณาจักร" แชปส์เผยผ่านทวิตเตอร์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top