Saturday, 10 May 2025
NEWS FEED

Omicron อ่านยังไง?

Omicron อ่านยังไง?

เท่าที่ฟังข่าวต่างประเทศมา สรุปได้ว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron อ่านว่า...

ที่ยุโรป = "อ้อม-มิ-ครอน"
ที่อเมริกา = "อ้อม-เมอะ-ครอน"

ไม่ใช่ โอ-ไม-คร่อน (แต่ตอนแรกนักข่าวต่างประเทศหลายคนก็อ่านแบบนี้)

'สธ.' ยัน!! Omicron ยังไม่หลุดเข้าไทย แต่หาวิธีตรวจจับแบบเร็วที่สุดไว้แล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมีครอน (Omicron) ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีมาตรการป้องกันในระดับแรกแล้ว ส่วนการตรวจจับค้นหาเชื้อโอมีครอนจะเดินทางเข้ามาในประเทศจะต้องทำเต็มที่ รัดกุม และทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ที่มีการปรับแผนอนุญาตให้ตรวจแบบ ATK แล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แทนการตรวจ RT-PCR ในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาในไทย ขณะนี้จะต้องมีการทบทวนขยายเวลายังคงใช้ RT-PCR เหมือนเดิม ซึ่งเป็นมาตรการเข้มข้นเพื่อการตรวจจับค้นหาโอมีครอนที่จะมาจากต่างประเทศ

ส่วนที่มีการเสนอในหลาย ๆ รูปแบบจะต้องมีการติดตามข้อมูลให้มีความชัดเจนมากที่สุด ตนได้สั่งการไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทุกศูนย์ของกรมวิทย์ฯ รวมทั้งภาคีเครือข่ายจะต้องมีวิธีตรวจจับหาโอมีครอนให้ได้ดีที่สุด แต่ขณะนี้โดยเทคนิคมีการประเมินว่า ถ้าเชื้อเป็นเดลตาบางส่วนและอัลฟาบางส่วน ให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นโอมีครอน และในสเตปต่อไปจะมีน้ำยาตรวจจับโอมีครอนโดยตรง

‘พระมหาไพรวัลย์’ โพสต์ใกล้หมดเวลาแล้ว ล่าสุดตอบแชต ‘หมอแล็บฯ’ เตรียมสึกเร็วๆ นี้

โซเชียลฯ แห่ให้กำลังใจ หลังพระมหาไพรวัลย์ พระลูกวัดสร้อยทองโพสต์ใกล้หมดเวลา ฉันคงต้องไป พร้อมขอบคุณพระศาสนาที่มอบทุกอย่างให้กับเด็กบ้านนอกคนหนึ่งคนนี้ ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา

(28 พ.ย.) เพจ "ไพรวัลย์ วรวัณโณ" หรือพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระลูกวัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "ขอบคุณพระศาสนาที่มอบทุกอย่างให้กับเด็กบ้านนอกคนหนึ่งคนนี้ ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณข้าวน้ำจากศรัทธาของญาติโยมทุกคน..."

นอกจากนี้พระมหาไพรวัลย์ ยังได้ระบุข้อความในคอมเมนต์ด้วยว่า "หมดเวลาแล้วว ฉันคงต้องไป"

และช่วงเช้าที่ผ่านมา พระมหาไพรวัลย์ ได้แชร์ข้อความประเด็นเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งในวงการสงฆ์ โดยพระมหาไพรวัลย์ระบุข้อความว่า "ใกล้จะได้สลัดปลอกคอแล้วสินะ"

‘คุณสมบัติ’ ประธาน กลุ่มอินเตอร์ลิ้งค์ฯ มอบรางวัลชนะเลิศ การแข่งขัน Cabling Contest ปีที่ 5

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน กลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงาน Cabling & Networking Contest #9 (การแข่งขันสุดยอดทักษะสายสัญญาณและเน็ตเวิร์ค ปีที่ 9) ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางมาถึงรอบสุดท้าย มุ่งหน้าสู่เส้นชัย โดยได้ค้นหาตัวแทนจากทั่วทุกภาค เพื่อเป็นการยกระดับและต่อยอดทักษะ เสริมสร้างความรู้ให้ก้าวไปสู่ระดับภูมิภาค

โดยผลการแข่งขัน ผู้ชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท และรองชนะเลิศ ได้รับถ้วยเกียรติยศจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี / รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ / รมว.กระทรวงอุดมศึกษาฯ / รมว.กระทรวงศึกษา และรมว.กระทรวงแรงงาน พร้อมเงินรางวัล 

 

ชมศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนใหม่ จ่อประมูลเฟส 2

นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ ธพส. ผู้บริหารโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เปิดเผยว่า ธพส. ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C โดยแบ่งออกเป็น 2 เฟส และได้มีการเตรียมตัวเพื่อเปิดประมูลงานก่อสร้างในเฟสที่ 2 โดยใช้ TOR ฉบับเดียวกันกับเฟสที่ 1 และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลการก่อสร้างจำนวนมากเช่นเดียวกันกับในเฟสที่ 1 


 
สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่ 81 ไร่ ประกอบด้วย 4 อาคาร บนฐานรากเดียวกัน มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมด 660,000 ตารางเมตร ซึ่งจะมีหน่วยงานราชการจำนวน 12 หน่วยงานย้ายเข้ามาใช้พื้นที่ เช่น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และศาลปกครองสูงสุด เป็นต้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับวัดเทพศิรินทราวาส  จัดโครงการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ  น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศวร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร  รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดโครงการ “ อุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ  เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙  เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาและวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๔  ณ วัดเทพศิรินทราวาส” ระหว่างวันที่ ๒๖ พ.ย.ถึง ๑๕ ธ.ค. ๒๕๖๔  โดยมีข้าราชตำรวจจากทั่วประเทศเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการ ฯ  จำนวน ๙๖ นาย 

ทั้งนี้  ในวันที่ ๑ ธ.ค.๒๕๖๔  ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐ ถึง ๑๗.๓๐ น. จะมีการประกอบพิธีถวายราชสักการะและเจริญพระพุทธมนต์สมโภชนาคพิธีมอบบาตรและผ้าไตร ณ มณฑลพิธีลานพระศรีมหาโพธิ์ และพิธีบรรพชาและอุปสมบท  ณ พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส ภายหลังการอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วจะศึกษาพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม ณ วัดโบสถ์  อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี    

การจัดโครงการอุปสมบทหมู่ ฯ ในครั้งนี้  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  มุ่งหวังเพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙  รวมถึงเพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้บำเพ็ญคุณงามความดี  ถือเป็นโอกาส ที่จะได้สร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม และพัฒนาจิตใจ  อันจะก่อประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว และสังคมต่อไป

พบ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่แอฟริกาใต้ กลายพันธุ์ 30 ขั้น!! คาดอาจร้ายกาจกว่าเดิม

นักไวรัสวิทยาในประเทศแอฟริกาใต้ค้นพบไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ผ่านวิวัฒนาการกลายพันธุ์มาแล้วหลายขั้น และน่าจะเป็นตัวการที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในประเทศ

ทูลิโอ เดอ โอลิเวียรา นักไวรัสวิทยาได้แถลงว่าไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ที่พบใหม่นี้มีรหัส B.1.1.529 ที่ผ่านกระบวนการกลายพันธุ์มาแล้วมากกว่า 30 ขั้น ทำให้มันกลายเป็น Covid สายพันธุ์ที่แตกต่างกว่าทุกตัวที่เรารู้จัก และอาจโจมตีภูมิคุ้มกันในร่างกายเราได้ดียิ่งกว่าเดิม 

แอฟริกาใต้ เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 มากที่สุดในทวีปแอฟริกา มีผู้ติดเชื้อสะสมรวมถึง 2.9 ล้านคน และยังเป็นประเทศที่ค้นพบ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ Beta ที่มีรหัส B.1.351 เป็นครั้งแรกช่วงเดือนตุลาคม 2020 ก่อนที่จะกระจายไปทั่วโลก 

นายกฯ ให้ทำวัคซีนพาสปอร์ตฟรี มอบ เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย

ผอ.ศบค. ให้ทำวัคซีนพาสปอร์ตฟรี มอบ เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย - สั่งเพิ่มช่องทางเข้าประเทศ บก-เรือ แต่เข้มมาตรการ - มอบ รมว.แรงงาน ถก ผู้ประกอบการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หาทางเยียวยาก่อนยืดผ่อนคลาย

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวตอนหนึ่ง ว่า ในที่ประชุมศบค. นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค. ได้ให้กระทรวงแรงงานไปสำรวจ ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ผู้ประกอบการผับ บาร์ คาราโอเกะ ว่ามีอยู่จำนวนเท่าไหร่ มีผลกระทบที่เกิดขึ้น หากยังไม่มีการเปิดผ่อนคลายของกิจการกิจกรรมนี้ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการคลัง สภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณาเยียวยากันต่อไปทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รายงานต่อที่ประชุมว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ได้ขอนัดที่ประชุมกับผู้ที่ประกอบการ ทางด้านกิจการและกิจกรรมดังกล่าว เพื่อปรึกษาหารือหาทางออก ในการดำเนินงานนี้ด้วยกัน 

ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในช่วงปีใหม่นี้ มีความสำคัญสูงมาก ถ้าเราประคับประคองดูแลซึ่งกันและกัน ทำให้การฉลองปีใหม่เกิดเป็นภาพระดับประเทศ สามารถดำเนินการได้ก็จะส่งเสริมอีกหลาย ๆ ธุรกิจ อีกหลาย ๆ ด้านที่จะทำให้ประเทศไทยมีชื่อชั้นว่ามีศักยภาพในการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี นี่คือเหตุผลของที่ประชุม

อีกเรื่องหนึ่งคือการปรับมาตรการ ป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยผอ.ศบค. มีนโยบายให้มีแซนด์บอกซ์ ให้มีการเข้ามาในประเทศ เกิดชุดพฤติกรรมทำให้ง่าย นำไปสู่การปฏิบัติโดย ศปก.ศบค., อีโอซีสาธารณสุข นำไปสู่การปฏิบัติร่วมกันกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปรากฏผลออกมาว่าผู้ที่เดินทาง เข้าโปรแกรมเทสแอนด์โก เข้ามาแล้วไม่ต้องกักตัว และเดินทางต่อไปได้ ซึ่งปรากฏว่ามีการติดเชื้อน้อยมาก ค่าเฉลี่ย 0.08% จากจำนวนคนเดินทางเข้ากว่าแสนคน

'อนุทิน' สั่งเปิด 3 จุดฉีดวัคซีน mRNA รองรับผู้ไม่เคยฉีด - รอวัคซีนทางเลือก

'อนุทิน' สั่งเปิด 3 จุดฉีดวัคซีน mRNA รองรับผู้ไม่เคยฉีดมาก่อนและยังรอวัคซีนทางเลือก คาดฉีดวัคซีนโควิดครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นพ.ย.

26 พ.ย. 64 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 47 ล้านคน จากเป้าหมาย 50 ล้านคน ยังมีผู้ไม่ได้รับวัคซีนอีก 3 ล้านคน คาดว่าจะฉีดครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยทุกแห่งจะเร่งรัดฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ เด็ก และขยายไปถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าว เนื่องจากผู้ไม่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงติดเชื้ออาการหนักและเสียชีวิต ทั้งนี้ ยืนยันว่าวัคซีนทุกชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลลดความเสี่ยงติดเชื้อ ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตได้

‘ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน’ เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจ้างงานในประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานระหว่างและหลังการระบาดของโควิด-19

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจ้างงานในประเทศไทย “การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานระหว่างและหลังการระบาดของ COVID-19” Employment in Thailand Labour Market Transitions during and post the COVID-19 pandemic ณ ห้องประชุมมารีน่า แกรนด์ บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมโนโวเทลมารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

โดยกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อแรงงาน และเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อบริบทด้านแรงงาน ดังนี้

1) แรงงานถูกเลิกจ้าง

2) ชั่วโมงการทำงานลดลง

3) รายได้ของแรงงานลดลง และ

4) ความก้าวหน้าและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีดิจิทัล

ส่งผลให้แนวโน้มอาชีพและรูปแบบการจ้างงานเปลี่ยนแปลงไป กระทรวงแรงงานได้มีการดำเนินงานเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดการเลิกจ้าง ว่างงาน และเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานและการจ้างงาน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการจัดหางาน มีอาชีพ มีงานทำ และมีคุณภาพชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงได้กำหนดมาตรการการส่งเสริมการจ้างงาน และมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้

1.การเตรียมความพร้อมแก่กำลังแรงงานให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทุกกลุ่มให้ทราบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน และใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษา และเลือกประกอบอาชีพ

2.จัดทำมาตรการเพื่อส่งเสริมการจ้างงานและการประกอบอาชีพ โดยมีผลการดำเนินงาน ได้แก่ โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่

โดยภาครัฐและภาคเอกชน (Co - Payment) ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งวันที่ 1 ตุลาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564 เป้าหมาย 50,000 คน ผลการดำเนินงานปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564) อนุมัติการจ้างงานแล้ว จำนวน 55,735 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจรวมจำนวน 3,213,122,750 บาท และให้ความช่วยเหลือนายจ้าง/สถานประกอบการในกลุ่มธุรกิจ SMEs เพื่อส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อลดปัญหาการว่างงาน ผลการดำเนินงานปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564) มีนายจ้างในธุรกิจ SMEs เข้าร่วมโครงการ จำนวน 223,838 ราย รักษาระดับการจ้างงาน และส่งเสริมการจ้างงานใหม่ลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 3,068,152 คน เป็นต้น 3.พัฒนาระบบการให้บริการจัดหางาน ซึ่งกระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางาน ยกระดับการให้บริการจัดหางานและจ้างงานผ่านระบบออนไลน์บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” เพื่อให้คนหางานเข้าถึงการจ้างงานที่สะดวกรวดเร็ว จับคู่ตำแหน่งงานว่างและคนหางานที่สอดคล้องกับความต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัลและการจ้างงานที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้ได้รับการบรรจุงานแล้ว จำนวน 192,948 คน

อย่างไรก็ดี ยังเห็นว่ามีการดำเนินงานด้านการพัฒนาแรงงานด้านอื่น ๆ และประเด็นท้าทายที่จะส่งผลให้เกิดการจ้างงานและรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานและสอดคล้องกับแรงงานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่ต้องให้ความสำคัญและมีการวางแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงต่อไป เช่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสนับสนุนให้มีการจ้างงานกลุ่มเปราะบาง และประชากรเฉพาะกลุ่ม การปรับตัวของแรงงานทั้งในและนอกระบบของไทยให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงโดยการพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะและสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงานในยุคปัจจุบัน หรือ Up-Skill และ Re-Skill ในสาขาที่เป็นที่ต้องการของห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการบริการที่มีความต้องการแรงงานที่มีทักษะ การคุ้มครองแรงงานเพื่อส่งเสริมการทำงานที่มีคุณค่าเพื่อให้แรงงานได้รับโอกาสในการจ้างงานจ้างและมีความมั่นคงในชีวิตตลอดจนมีหลักประกันทางสังคม

นายสุรชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอบคุณสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยและองค์การแรงงานระหว่างประเทศที่ร่วมจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาแรงงานของประเทศ และหวังว่าผลการประชุมจะนำมาซึ่งข้อเสนอเชิงนโยบายด้านแรงงานด้านการจ้างงานที่มาจากความเห็นของทุกภาคส่วนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อพัฒนาแรงงานของประเทศต่อไป

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top