Sunday, 18 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

กาฬสินธุ์ - เปิดรพ.สนามแห่งที่ 9 อำเภอหนองกุงศรี รองรับผู้ป่วยโควิด-19 คืนถิ่น หลังพบประชาชนที่ติดเชื้อเดินทางกลับมาขอรับการรักษายังภูมิลำเนาจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนาม จ.กาฬสินธุ์ แห่งที่ 9 อำเภอหนองกุงศรี ซึ่งใช้บริเวณพื้นที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอหนองกุงศรี เพื่อรองรับประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางกลับมาขอรับการรักษายังภูมิลำเนา สามารถรองรับผู้ป่วยติดเชื้อได้ 50 เตียง และสามารถขยายเพิ่มได้อีก 100 เตียง โดยมีนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พ่อค้า และประชาชนเข้าร่วมและมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค และสิ่งของใช้ที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลสนาม

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนที่ติดเชื้อเดินทางขอกลับมารักษาในภูมิลำเนาจำนวนมาก ทั้งนี้ปัจจุบันอำเภอหนองกุงศรีพบผู้ติดเชื้อหลายสิบรายอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลแม่ข่าย อีกทั้งยังมีผู้ป่วยที่ดูแลที่ศูนย์กักกันตำบลอีกจำนวนหนึ่ง และอยู่ระหว่างขอกลับมารักษาอีกจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องมีการเปิดโรงพยาบาลสนามอำเภอขึ้น เพื่อรองรับประชาชนที่ขอเดินทางกลับมารักษา

โดยโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพที่ 7 ใช้เป็นสถานที่ในการดูแล รักษา และเฝ้าสังเกตอาการผู้ป่วยกลุ่มระดับสีเขียวที่มีอาการเล็กน้อยภายในระยะเวลา 14 วัน หรือจนกว่าจะแน่ใจว่าผู้ป่วยหายจากโรค และหากในระหว่างรักษาผู้ติดเชื้อมีการวิกฤติหรือเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลหลักได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยสามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ 50 เตียง และสามารถขยายเตียงสูงสุด 100 เตียง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ อป.พร.ชรบ.และบุคลากรทางการแพทย์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

สมุทรปราการ - เปิดให้ประชาชนจองวัคซีนซิโนฟาร์ม 99,000 โดส ประชาชนแห่มาลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก ก่อนหน้านี้มีมือดีโพสต์เป็นข่าวปลอม ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งไม่ได้เดินทางมาลงทะเบียน

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมาที่เป็นประธานเปิดจุดลงทะเบียนจองวัคซีนซิโนฟาร์มขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการได้รับการจัดสรรวัคซีน ซิโนฟาร์ม จำนวน 99,000 คน จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์  รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมพระศรีสว่างควัฒน วรขัตติยราชนารี ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทรงพระกรุณาจัดสรรวัคซีนให้การองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนชาวสมุทรปราการป้องกันไวรัสโควิด - 19 โดยทาง อบจสมุทรปราการ จะเปิดให้ลงทะเบียน ณ ริมเขื่อนศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 19 -23 กรกฎาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 -16.00 น. หรือผ่านเว็บไซต์ www.วัคซีนสมุทรปราการ หรือ www.samutprakanvaccines.com หรือ อสม. ทสม.สมาชิกสภาจังหวัดสมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลประชาชนที่ประสงค์จะลงทะเบียน โดยมีหลักเกณฑ์ ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี เป็นผู้มีภูมิลำเนา หรืออาศัยหรือทำงานอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ยังไม่เคยลงทะเบียนการฉีดวัคซีน โควิด-19 จากหน่วยงานอื่น

ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีประชาชนที่ทราบข่าวได้มาต่อแถวเตรียมลงทะเบียนจองวัคซีนซิโนฟาร์มป้องกันไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด -19 ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการจัดสรรมาจำนวน 99,000 โดส เป็นจำนวนมาก โดยบ้างคนมารอลงทะเบียนจองวัคซีนตั้งแต่เวลา 05.00 น โดยจะเปิดให้จองวัคซีนใน วันที่ 19 -23 กรกฎาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 -16.00 น. 


ภาพ/ข่าว  ก๊วก สมุทรปราการ

สงขลา - ม.อ.ระดมอาจารย์แพทย์ พยาบาลจากวิทยาเขตหาดใหญ่และปัตตานีช่วยเสริมกำลังบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ฉีดวัคซีนให้ชาวปัตตานี ร่วม 3,000 คน

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ส่งทีมแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ และพยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ เสริมกำลังบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น จังหวัดปัตตานี ร่วม 3,000 คน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนม.อ.ปัตตานี โดยโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี

รศ.อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งดำเนินการโดยโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี ได้รับมอบหมายให้วัคซีนแก่ประชาชนปัตตานีรวม 2,989 คน ในการดำเนินการครั้งนี้ได้ระดมแพทย์ และพยาบาลจากทุกอำเภอของจังหวัดปัตตานีมาร่วมดำเนินการ แต่เนื่องจากทีมแพทย์ และพยาบาลในพื้นที่ส่วนใหญ่มีภารกิจล้นมือ ดังนั้นมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จึงได้ขอความร่วมมือ ไปยังคณะแพทยศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และคณะพยาบาลศาสตร์วิทยาเขตปัตตานี ให้มาร่วมฉีดวัคซีนร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ของจังหวัดปัตตานีในครั้งนี้ ประกอบด้วยคณะแพทยศาสตร์โดยการนำ ผศ. นพ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช  จำนวน  10 คน  คณะพยาบาลศาสตร์วิทยาเขตหาดใหญ่ นำโดย ผศ.ดร.เนตรนภา คู่พันธวี  จำนวน 7 คน  คณะพยาบาลศาสตร์วิทยาเขตปัตตานี โดยการนำ ผศ.ดร.รอฮานิ เจะอาแซ จำนวน 6 คน

ผศ. นพ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช รองคณบดีฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ คณะแพทยศาสตร์ วิทยาเขตหาดใหญ่  เปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากศูนย์ฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ให้มาเสริมกำลังบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เนื่องจากวันนี้มีประชาชนจังหวัดปัตตานีมารับวัคซีนร่วม 3,000 คน นับว่ามีจำนวนมาก ทีมแพทย์และพยาบาลที่มาวันนี้ เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางการฉีดวัคซีน คาดหวังว่าการฉีดวัควัคซีนครั้งนี้ทำให้ประชาชนจังหวัดปัตตานีรอดพ้นจากภัยโควิดด้วยการฉีดวัคซีนในวันนี้


นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ลุยถึงสวนทุเรียน เข้ารับซื้อผลผลิตจากพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ในโครงการทหารอิ่มท้อง พี่น้องเกษตรกรอิ่มใจ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิค-19

พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ลงพื้นที่ ลุยถึงสวนทุเรียน เข้าช่วยเหลือ รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และ ทุเรียนพันธุ์พื้นบ้าน จากพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลซากอ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส  เพื่อนำไปแจกจ่ายเป็นผลไม้ตามฤดูกาลให้กับกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และน้องๆทหารกองประจำการได้รับประทาน เป็นการบรรเทาผลกระทบจากกรณีผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาดและมีราคาตกต่ำ จากสถานการณ์ต่าง ๆ ตามนโยบายของกองทัพบกเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในทุกพื้นที่ ตลอดจนเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตามโครงการ "ทหารอิ่มท้อง พี่น้องเกษตรกรอิ่มใจ" ตามนโยบายของท่านผู้บัญชาการทหารบก

ทั้งนี้ การรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร (ทุเรียนหมอนทอง และทุเรียนพันธ์พื้นบ้าน) ได้นำไปแจกจ่ายให้กับกำลังพลของหน่วยนั้น สร้างความสุขใจ อิ่มท้อง พร้อมทั้งมีโภชนาการ ให้กำลังพลทหารได้เป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติงานในพื้นที่ต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย พร้อม ฝ่ายปกครอง จังหวัดชุมพร บุกจับนักพนัน ลักลอบชนไก่ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.00 น. ภายใต้การอำนวยการของนายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายพิทักษ์ พิศสิริวัฒนสุทธิ์ ปลัดจังหวัดชุมพร พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร  พ.ต.อ.จิโรจน์ สาธุการ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ชุมพร รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สลุย ชุดจับกุมนำโดย นายทวีป ไทยสวี ป้องกันจังหวัดชุมพร นายสุจินต์ สว่างศรี ผบ.ร้อย อส.จ.ชุมพรที่ 1 นายเกียรติภูมิ โภคผล เจ้าหน้าที่ปกครองและสมาชิก อส. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย. ชุดเฉพาะกิจ ภ.จว. ชุมพร และชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ชุมพร  ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาลักลอบเล่นพนันชนไก่พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 10 ราย พร้อมด้วยของกลาง ไก่ชน 7 ตัว และอุปกรณ์ประกอบการเล่น

โดยกล่าวหาว่า

1. ร่วมกันลักลอบเล่นพนันชนไก่พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมมั่วสุมในสถานที่แออัดอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดและคำสั่งจังหวัดชุมพร เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า 2019

เหตุเกิดที่ อาคารร้างในสวนปาล์มน้ำมัน  พื้นหมู่ที่ 10 ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพื่อโปรดทราบ

จากนั้น ได้นำตัวผู้ถูกจับ พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุยชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

ขอนแก่น - พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 104 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมของการระบาดระลอก 3 ทะลุ 1,614 ราย ขณะที่ผู้ว่าฯสั่งเข้มทุกมาตรการรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างเข้มงวด

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 ก.ค.2564 ที่สถานีรถไฟขอนแก่น นายพิชัย วันตา ป้องกันจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายธีระศักดิ์  ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และนายศักดิ์นรินทร์ แสงอรุณ นายสถานีรถไฟขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสาธารณสุข จากสำนักงานสาธรณสุข จ.ขอนแก่น ,เทศบาลนครขอนแก่น,ฝ่ายปกครองและการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถไฟท้องถิ่นขบวนที่ 412 ชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี-ขอนแก่น ตามาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดนิทางมากับระบบขนส่งมวลชน โดยที่สถานีรถไฟขอนแกน ได้กำหนดจุดการลงจากรถ จากบริเวณชานชาลาชั้น 2 มายังอาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 เพียง 1 ช่องทางยกเว้นผู้พิการและผู้สูงอายุ ที่สามารถใช้ลิฟต์ขนส่งได้ ซึ่งเมื่อทุกคนลงมาถึง ชั้น 1 จะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ การตรวจคัดกรองเบื้อต้นจากเจ้าหน้าที่รวมไปถึงการลงประวัติการเดินทางผ่านคิวอาร์โค้ดไทยชนะ และการลงทะเบียนผ่านระบบที่จังหวัดกำหนด เพื่อประเมินสถานการณ์และตรวจติดตามผู้ที่เดินทาเข่ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น อย่างเข้มงวด

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในวันนี้ขอนแก่น มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 104 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมจากการระบาดระลอกที่ 3 จำนวนทั้งสิ้น 1,614 ราย ในจำนวนนี้ยังคงอยู่ในการรักษาของโรงพยาบาลต่าง ๆ 896 ราย รักษาหายขาดและแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ 709 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 9 ราย ดังนั้นทุกมาตรการที่ รัฐบาล,ศบค.และจังหวัดกำหนดจะต้องดำเนินการไปอย่างรัดกุม รอบคอบ และเข้มงวด โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ที่ด่านตรวจหลัดของจังหวัดที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชุมแพ จะทำการตรวจคัดกรองและตรวจสอบเอกสารประจำตัวของแต่ละคนว่ามีการดำเนินการตามประกาศ หรือได้รับวัคซีน หรือเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงตามที่ ศบค.กำหนดอย่างไร รวมไปถึงที่สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง และสนามบิน ที่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการเดินทางเข้าและออกจังหวัดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องต่อไป

“ขณะนี้การเดินทางด้วยขบวนรถไฟโดยสารที่ต้องจอดที่สถานีรถไฟขอนแกน คงเหลือเพียง 3 ขบวนต่อวันเท่านั้น ซึ่งจะมีผู้โดยสารลงที่สถานีขอนแก่นประมาณ 10-15 คน ต่อเที่ยวรถ ขณะที่การลงรถตามสถานีรถไฟระดับอำเภอมาตรการตรวจคัดกรองและตรวจสอบการเข้าเมือง ฝ่ายปกครอง จะสนธิกำลังร่วมฝ่ายสาธารณสุข ตำรวจและ อปท.ในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด ขณะที่หากพบผู้โดยสารมีไข้สูง หรือเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างการเดินทาง เจ้าพนักงานประจำขบวนรถไฟจะประเมินสถานการณ์ และประสานงานร่วมสถานีปลายทางหรือสถานีรถไฟต่อไปในการจัดระบบรับผู้ป่วยตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ตามขั้นตอนที่ต้องปฎิบัติอย่างรัดกุมแล้ว”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ต้องขอความร่วมมือทุกคนได้ช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งข้อมูลการกระทำที่ขัดต่อคำสั่งของ ศบค. และจังหวัด เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบและอุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นให้ได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและสีแดงเข้ม หรือสีแดง จะต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ เพื่อที่จะสามารถตรวจติดตามสถานการณ์ หรือเข้ารับการควบคุมโรคหรือเข้ารับการรักษาตามที่จังหวัดได้กำหนดแนวทางหรือดำเนินการอยู่ในขณะนี้หากพบว่าฝืน ซึ่งนอกจากจะต้องมีความผิดแล้ว ทั้งครอบครัวก็จะต้องเข้ารับการกักตัวที่ กองร้อย อส.ที่ 1 ขอนแก่น ทันทีโดยไม่มีละเว้น

อ.กิตติธัช โพสต์เฟซบุ๊ก สะท้อนสังคมไทยที่กำลังหิวข้อมูลเท็จแบบไม่ลืมหูลืมตา

กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง โพสต์เฟซบุ๊ก 'Kittitouch Chaiprasith' สะท้อนสังคมไทยที่กำลังหิวข้อมูลเท็จแบบไม่ลืมหูลืมตาว่า...

วันนี้ผมเห็นโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ทำในสิ่งเดียวกับที่ผมทำมาโดยตลอด คือ การเอาข้อเท็จจริงมาให้สังคมดู โดยไม่เกี่ยวว่าจะเป็นใครฝ่ายไหน ใครจะชอบหรือไม่ชอบ แต่ข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง

-----------------

เพราะบรรดาสื่อและ Influencer ที่เชียร์ม็อบและอยากล้มรัฐบาล-สถาบันกษัตริย์นั้น เอาเรื่องกรณีที่บริษัท Food Panda ไล่พนักงานที่ไปเผารูปในหลวงกับเผาสิ่งของในม็อบ ไปเล่าให้มวลชนฟังว่า

"Food Panda ไล่พนักงานออก เพราะไปชุมนุมขับไล่รัฐบาล" ซึ่งทำให้มีกระแสแบน Food Panda

โดยที่สื่อและ Influencer เหล่านี้ไม่บอก เล่า หรือแสดงคลิปการเผารูปในหลวงและสิ่งของข้างทางให้มวลชนและสังคมดู หรือง่าย ๆ คือ เขาพยายามเล่าความจริงครึ่งเดียว/เสี้ยวเดียวแบบที่เขาทำมาตลอดหลายปี

ซึ่งพอโบว์นำความจริงตรงนี้มายืนยัน!! บรรดา 'กลุ่มสามนิ้ว' และคนที่อ้างตัวว่าเป็น 'ฝ่ายประชาธิปไตย' (แต่ทำทุกอย่างตรงข้าม) ก็ไม่พอใจและเข้าไปรุมถล่มเธอ

-------------------

ผมชอบประโยคที่โบว์คอมเมนต์ว่า...

"เข้ามาด่ากันสารพัดเพราะไม่พอใจที่เราเอาข้อเท็จจริงเรื่องการเผาข้าวของ และการระรานแบนคนเค้าไปทั่วโดยไม่สนใจข้อเท็จจริงมาวางให้ดู...เราก็รู้สึกเหมือนถูกหลอกนะ ไม่คิดว่าคำว่า ”ฝ่ายประชาธิปไตย” จะหน้าตาเป็นแบบนี้"

ขนาดเผากองข้าวของริมถนนข้างรถที่ยังติดอยู่แบบนี้ แล้วขึ้นรถถอดป้ายทะเบียนหนียังเห็นดีเห็นงามกัน แล้วมาบอกว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมแบบนี้แปลว่าต้องเข้าข้างรัฐบาล

ควรรู้ตัวได้แล้วว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับทั้งรัฐบาลและพฤติกรรมแบบนี้ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก และเขาเอือมกับพฤติกรรม #อันธพาลออนไลน์ จนปิดปากกันไปหมด

ไม่รู้ตัววันนี้วันหน้าก็จะได้รู้เองว่าพากันถอยหลังไปไกลแค่ไหน ถ้าเราไม่พูดก็ไม่มีใครพูดหรอก แต่ผลของมันจะแย่แน่ ๆ"

-------------------

ซึ่งถูกต้องครับ...ที่ผ่านมาม็อบสามนิ้วทำแต่ละสิ่ง ห่างไกลจากคำว่าประชาธิปไตยไปแบบคนละทิศละทาง

ทั้งการข่มขู่ คุกคาม ตั้งแต่ประชาชนทั่วไปจนถึงสถาบันกษัตริย์ การใช้ Fake News การเล่าความจริงครึ่งเดียว แล้วปั่นกระแส การ Bully คนอื่น และอื่น ๆ อีกมาก

และตามที่โบว์บอก คือ มีคนตรงกลางอีกมากที่ไม่เอาด้วยกับทั้งขวาจัดและซ้ายจัดที่อยากให้มีความรุนแรง เพื่อนำไปสู่การปะทะหรือต่อสู้กัน

เขาอาจไม่ชอบ ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล แต่ไม่ได้แปลว่าเขาเอาด้วยกับกลุ่มสามนิ้วเช่นกัน

----------------

>> โพสท์ของโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา

https://www.facebook.com/bow.nuttaa/posts/10158524155920819


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4310585882338871&id=100001625041497


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

บึงกาฬ - มท.2 มอบหน้ากาก 1.4 ล้านชิ้น ให้ทุกครอบครัวป้องกันโควิด-19

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 ก.ค. ที่บริเวณโถงด้านหน้าศาลากลาง จ.บึงกาฬ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เดินทางมาเป็นผู้แทนในการมอบหน้ากากอนามัยให้กับจังหวัดบึงกาฬ จำนวน 1,400,000 ชิ้น โดยมีนายอำเภอทุกอำเภอเป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อส่งมอบต่อให้กับประชาชนในพื้นที่ทุกครัวเรือน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบน้ำใจ และความปรารถนาดีให้ชาวบึงกาฬได้สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีนายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี นายก อบจ.บึงกาฬ และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายทรงศักดิ์ ทองศรี กล่าวว่า สำหรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จ.บึงกาฬ ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ควบคุมดูแลได้ มีผู้ติดเชื้อเข้ามาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อคนไม่สบายใจเกิดเจ็บไข้ขึ้นมา ตามปกติก็ต้องการกลับไปรักษาตัวที่บ้าน จึงไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร ทางจังหวัดบึงกาฬก็มีความพร้อมอยู่แล้วที่จะรองรับพี่น้องของเราซึ่งต้องการจะกลับมารักษาตัวที่บ้าน พร้อมจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน แต่ก็ต้องขอความร่วมมือว่า ผู้ที่จะกลับมาก็ต้องแจ้งให้กับผู้ใหญ่บ้าน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ได้ทราบก่อน เป็นข้อมูลว่ามีใครบ้างที่เข้าออกในพื้นที่ เพื่อใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค สำหรับหน้ากากอนามัยที่ได้นำมามอบให้กับพี่น้องชาวบึงกาฬในวันนี้ ตนได้แจ้งข่าวกับเพื่อนและคนที่รู้จักว่าต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งมอบความห่วงใยและความปรารถนาดีให้แก่ชาวจังหวัดบึงกาฬทุกคน เป็นกำลังใจให้กันและกันเพื่อฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเมื่อทุกคนทราบข่าวก็ต้องการร่วมในธารน้ำใจนี้ จึงเกิดเป็นการส่งมอบหน้ากากอนามัยจำนวน 1,400,000 ชิ้นให้กับชาว จ.บึงกาฬ

สำหรับหน้ากากอนามัยจำนวน 1,400,000 ชิ้น จะถูกกระจายให้แต่ละอำเภอ ดังนี้ อ.เมืองบึงกาฬ 340,000 ชิ้น/ อ.พรเจริญ 140,000 ชิ้น/ อ.โซ่พิสัย 230,000 ชิ้น/ อ.เซกา 285,000 ชิ้น/ อ.ปากคาด 120,000 ชิ้น/ อ.บึงโขงหลง 115,000 ชิ้น/ อ.ศรีวิไล 125,000 ชิ้น และอ.บุ่งคล้า 45,000 ชิ้น

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ยังได้กล่าวให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่กำลังทำงานอย่างหนักกับภารกิจควบคุมโรค และประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งการที่คนไทยเรามีน้ำใจให้แก่กัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราก้าวข้ามวิกฤติครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน


ภาพ/ข่าว  เกรียงไกร พรมจันทร์ / บึงกาฬ

ตร.จับเน็ตไอดอลจริง เตือนอย่ายุยง ส่งเสริม สนับสนุนให้เล่นการพนันออนไลน์ มีสิทธิถูกจับกุมดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในเรื่องการปราบปรามการพนันทุกรูปแบบโดยเฉพาะการพนันออนไลน์ที่มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้างอยู่ในโลกโซเชียล เนื่องจากมีพี่น้องประชาชนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก แม้จะเร่งปราบปรามแต่ก็ยังไม่หมดไป

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ฯ ยังกล่าวต่อไปว่า สาเหตุสำคัญอีกประการ ที่อยากจะเน้นย้ำ สำหรับ เน็ตไอดอล อินฟลูเอ็นเซอร์หรือผู้สนับสนุน ดารานักแสดงนายแบบนางแบบ ยูทูปเบอร์ วีดิโอ ครีเอเตอร์ ที่มีส่วนชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนัน จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนันฯ มาตรา 12 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสองเดือน บุคคลเหล่านี้อาจจะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อการชักชวนให้บุคคลอื่นทั้งผู้ใหญ่หรือเด็กและเยาวชนเล่นการพนัน เว็บไซต์การพนันจึงพยายามติดต่อว่าจ้างให้โฆษณาเว็บไซต์การพนันให้

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้เล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะ ข้อมูลผู้เล่นมีตั้งแต่เป็นเยาวชนที่ใช้เวลาอยู่กับสื่อออนไลน์ หลงเชื่อการชักชวนจากบุคคลดังกล่าว จึงได้สั่งกำชับให้ทุกหน่วยงานให้กวดขันจับกุมและทำการสืบสวนปราบปรามการพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลอย่างจริงจัง ทั้งผู้จัดให้มีการเล่น ผู้เล่น รวมทั้งกลุ่มเน็ตไอดอลหรือผู้มีชื่อเสียงที่ชักชวนผู้อื่นเล่นการพนันโดยให้มีผลการปฏิบัติชัดเจน

ล่าสุด บก.ปอท.สามารถสืบสวนจับกุมมาแล้วหลายราย เช่น เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. ได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.นาย อนุพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี 2.น.ส.ภคมน (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี 3.นาย ชวนากร (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ทั้งสามรายเป็นเน็ตไอดอล มีผู้ติดตามในบัญชีเฟซบุ๊กและยูทูปรายละหลายแสนคน

อีกราย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท.ได้จับกุม น้องพลอย น.ส.สิริกานต์ นางแบบเพลย์บอย อ้างตัวเป็น ครีเอเตอร์วีดิโอ เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 3.8 หมื่นคน  และเพจที่มีผู้ติดตามกว่า 1.3 ล้านคนที่มีการกระทำความผิดด้วยการแฝงโฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊กและยูทูป ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา “เป็นผู้ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน ในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงอยากจะฝากเตือนเหล่าเน็ตไอดอลทั้งหลายพึงระลึกเสมอก่อนกระทำหรือคิดจะรับการว่าจ้างจากเว็บไซต์การพนัน หากถูกจับกุมจะอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ หากศาลพิจารณาตัดสินว่ามีความผิดอาจจะต้องรับโทษตามพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478  มาตรา 12 มีอัตราโทษโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำความผิดหลายกรรม อาจถูกดำเนินคดีในลักษณะต่างกรรมต่างวาระได้  และขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันหยุดวงจรการพนันออนไลน์ โดยหากพบเห็นการกระทำความผิดหรือพบเบาะแสเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ สามารถแจ้งไปยังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

เมียนมาส่ง 3 คนไทย เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำในเมียนมากลับประเทศ พบ 1 ใน 3 คนมีหมายจับติดตัว กักตัว 14 วันก่อนดำเนินการต่อ

ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย นำโดยนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ในฐานะหัวหน้าศูนย์ฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่รับมอบตัว คนไทย 3 คน โดยทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เมียนมา ได้นำตัวคนไทยมาส่งให้ คือ นายวุฒิชัย สิโปด อายุ 24 ปี ชาว อ.กันตัง จ.ตรัง  นายชัยวัฒน์ มโนรมย์ อายุ 24 ปี ชาว อ.เมืองเลย จ.เลย และนายรณชัย สะดาแนน อายุ 36 ปี ชาว อ.เอราวัณ จ.เลย มาส่งให้กับทางการไทย ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โดยทั้ง 3 คน มีรายชื่ออยู่ในจำนวน 20 คนที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งให้ทาง อ.แม่สาย รับตัวโดยทั้งหมดส่งรายชื่อผ่านทางสถานเอกอัคราชฑูตประเทศไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ซึ่งพบว่าอีก 17 คนไม่ได้ถูกส่งตัวมาด้วย โดยทางการเมียนมาให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการสอบสวน ก่อนหน้านี้นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปถึงผู้ว่าราชการ จ.ท่าขี้เหล็ก ขอให้อำนวยความสะดวกในการส่งตัวคนไทยกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน หลังมีหญิงไทยอายุ 26 ปี กลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ในภาวะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่มีอาการหนักแล้วทำให้เสียชีวิตในวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับทั้ง 3 คน พบว่าเพิ่งพ้นเพราะทำผิดกฎหมายในประเทศเมียนมา โดยมีผู้ทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภทยาบ้าจำนวน 37 เม็ด และพกพาอาวุธปืนจำนวน 1 คน และอีกคนถูกดำเนินคดีพกพาอาวุธปืน ส่วนคนสุดท้ายเป็นข้อหาหลบหนีเข้าเมืองเมียนมา ทั้งหมดถูกจำคุกที่เมืองเชียงตุงเป็นเวลา 2-3 ปี  บางคนได้รับการลดโทษจึงถูกส่งตัวกลับ  จากการตรวจสอบประวัติพบว่ากรณีนายรณชัยมีหมายจับศาล จ.เลย ในข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานไปยัง สภ.นาดินดำ จ.เลย ไปรับตัวเพื่อนำไปดำเนินคดีต่อไป ส่วนอีก 2 คนที่เหลือถูกส่งตัวไปยังสถานกักกันรูปแบบเฉพาะที่ร้อย ตชด.327 อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ / เชียงราย

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top