Tuesday, 6 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

‘รมว.พิพัฒน์’ เปิด THAI FIGHT การแข่งขันชกมวยไทยโลก!! ณ เขาอ้อ พัทลุง

ที่สนามลานวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานเปิดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT” เขาอ้อ เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ THAI FIGHT ในปี 2020  ชิงถ้วยพระราชทานใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 3 ถ้วยพระราชทาน และถ้วยพระราชทานใน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี จำนวน 1 ถ้วยพระราชทาน ให้แก่นักมวยผู้ชนะเลิศการแข่งขัน ถือเป็นสิริมงคลสูงยิ่ง

รมว.พิพัฒน์  กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ ถึงมาตรการความพร้อมรวมถึงระบบการดูแล และอำนวยความสะดวกต่อผู้ที่จะเข้ามาเยือนประเทศไทย เพื่อเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว และการกีฬาเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ทางรัฐบาล  พลเอก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญยิ่ง

ดังนั้นการที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาร่วมให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT เขาอ้อ” ณ.จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นการส่งเสริม และร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงผลักดันนวัตกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาสู่ความเป็นเลิศ 

การท่องเที่ยวเชิงกีฬา สามารถช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นรวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้เป็นอย่างดี ตามมาตรการการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด”

 

‘เลขาธิการ ศอ.บต.’ เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างถนนทางขึ้นเจดีย์ และบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถ ณ วัดเวฬุวัน (บ้านป่าไผ่) อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

ที่ วัดเวฬุวัน (บ้านป่าไผ่) ตําบลกาหลง อําเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนในการสร้างถนนทางขึ้นเจดีย์และบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถพร้อมทั้งทาสีอุโบสถที่ทรุดโทรมให้อยู่ในสภาพเดิม โดยมี  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.  หัวหน้าส่วนราชการ บุคลากร ศอ.บต. เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ตลอดจนมีพุทธศาสนิกชน ในพื้นที่ร่วมทำบุญอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่หนึ่ง ของจังหวัดนราธิวาส เป็นชุมชนเล็กๆ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพุทธศาสนาที่จะต้องจรรโลงอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง วันนี้เป็นวันดี  เป็นวันพระ เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนมาร่วมกันทำบุญ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมสนับสนุนอย่างสุดความสามารถในการส่งเสริมพุทธศาสนาในพื้นที่ รวมทั้งทำนุบำรุงศาสนสถาน ตลอดจนดูแลพระภิกษุสงฆ์ ขอเป็นกำลังใจแก่พี่น้องชาวพุทธ ทุกคน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงทุกหน่วยที่ได้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนเสมอมา

‘แม่ทัพภาคที่ 4’ เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี วัดนาทวี จังหวัดสงขลา เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม - ส่งเสริมความรักความสามัคคีในพื้นที่

ที่ วัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุภายในวัด ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ตลอดจนอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ โดยมีพลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา  ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ เอกชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด การทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ มียอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญทั้งสิ้น จำนวน 770,000 บาท

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า " สำหรับการทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดี ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมา อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้ากองการดูแลพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นพุทธ หรือมุสลิม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่อยู่แล้ว สำหรับกิจกรรมการทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดนาทวี วันนี้ ก็จะได้นำยอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญ ไปมอบให้กับวัดที่ไม่มีโอกาสได้ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า นำไปซ่อมแซม บูรณะ ถาวรวัตถุภายในวัด ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้กิจกรรมดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่"

 

“บลูเทคซิตี้” ร่วมกับ “มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์” มอบชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit (ATK) ให้สาธารณสุขอำเภอบางปะกง เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่

วันนี้ (20 ธ.ค.64) ณ ที่สาธารณสุขอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ในฐานะตัวแทนมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit หรือ ATK จำนวน 3,000 ชุด ให้สาธารณสุขอำเภอบางปะกง เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่

โดยมีนางสาวบุษกร รำไพยะกุล นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ รักษาราชการแทนสาธารณสุขอำเภอบางปะกง เป็นผู้รับมอบ

ทั้งนี้ บลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยสนับสนุนชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit หรือ ATK จำนวน 3,000 ชุด ให้บุคลากรทางการแพทย์  ซึ่งเป็นชุดตรวจที่สามารถทราบผลภายใน 10 นาที และได้รับอนุญาตจาก อย.แล้ว

 

“เฉลิมชัย” โชว์ผลงานนโยบายสมุนไพร! ปั้นเกษตรกร 3 แสนราย ดันแปลงใหญ่ชู!! “สมุนไพรอินทรีย์” ลุยตลาด 50,000ล้าน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าววันนี้ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน กำหนดนโยบายส่งเสริมสมุนไพรเป็นพืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต(Future Food Future Crop) เพื่อให้เกษตรกรมีอาชีพทางเลือกและมีรายได้เพิ่มขึ้นรวมทั้งสนับสนุนการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มโดยร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและทุกภาคีภาคส่วนถือเป็นหนึ่งในเกษตรมูลค่าสูงโดยส่งเสริมสนับสนุนตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา(R&D)ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำการตลาด

จากมาตรการการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร ทำให้มีความคืบหน้าอย่างมากโดยในปัจจุบันมีเกษตรกร 369,353 รายขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ด้านพืชสมุนไพร เครื่องเทศ พืชสมุนไพรที่เป็นพืชอาหาร (รวม 82 ชนิด) ดำเนินการปลูกพืชสมุนไพรบนพื้นที่รวมประมาณ 1.15 ล้านไร่  แบ่งออกเป็น การปลูกพืชสมุนไพรให้ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้า GAP และมาตรฐานพืชสมุนไพรอื่น ๆ กว่า 6.4 หมื่นไร่ และมีกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่พืชสมุนไพร ตั้งแต่ปี 2559 – 2564 จำนวนทั้งสิ้น 37 แปลง จำนวนเกษตรกร 1,565 ราย พื้นที่ 7,913 ไร่ ใน 22 จังหวัด และในปี 2565 ได้มีกลุ่มเกษตรกรขอเข้าร่วมโครงการอีกจำนวน 15 กลุ่ม กำลังอยู่ในขั้นตอนขอรับรองแปลง และกระทรวงฯ มีโครงการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสมุนไพรปี 2565 มีเป้าหมายเกษตรกร จำนวน 1,110 ราย ในพื้นที่ 37 จังหวัด และจัดทำแปลงขยายและรวบรวมพันธุ์สมุนไพรในศูนย์ปฏิบัติการ จำนวน 16 ศูนย์ เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานวัตถุดิบ ส่งเสริมการผลิตสมุนไพร เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรตามแนวเกษตรปลอดภัย สร้างรายได้แก่เกษตรกรและเพิ่มมูลค่าการส่งออกอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรซึ่งกลับมาขยายตัวอีกครั้งตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไปด้วยอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 4% ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิด Covid-19 ที่มูลค่าตลาดประมาณ 54,500 ล้านบาท

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการยกร่างแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570 เพื่อร่วมกันพัฒนาสมุนไพรให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพและระบบเศรษฐกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน

โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรให้ไปสู่การใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงในทุกมิติ โดยใช้ตลาดเป็นตัวนาการผลิต เพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดาเนินการวิจัยตั้งแต่การกำหนดโจทย์วิจัยที่ตรงตามความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง ตาม 10 ภารกิจหลักในการพัฒนาตามแผนด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรแห่งชาติ พ.ศ. 2563 –2565 ประกอบด้วย

1. การปลูกสมุนไพรที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งดำเนินการได้ 64,225 ไร่ จาก 82 ชนิดพืช

2. กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ได้รับการส่งเสริมการแปรรูปหลังการเก็บเกี่ยว ณ สถานที่ปลูกและการผลิตผลิตภัณฑ์ และสารสกัดอย่างง่ายในระดับชุมชน จำนวน 92 แห่ง

3. กำหนดมาตรฐาน GAP หรือมาตรฐานพืชสมุนไพรตามกลุ่มที่ใช้ของพืช จำนวน 5 ฉบับ

4. จัดทำแผนที่ความเหมาะสมของที่ดินสำหรับปลูกพืชสมุนไพร (Land Suitability) 24 ชนิด

5. พัฒนาฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพร (Land Use) 1 ฐานข้อมูล

6. ห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 17025 ให้บริการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ จำนวน 8 แห่ง

7. พัฒนาระบบตลาดกลาง 1 แห่ง และตลาดอิเล็กทรอนิกส์ 1แห่ง (E-Market)

8. กำหนดมาตรฐานสมุนไพรในตำรามาตรฐานสมุนไพรไทย (Thai Herbal Pharmacopoeia, THP) จำนวน 109 รายการ

9. พัฒนาฐานข้อมูลพืชสมุนไพรและภูมิปัญญาการใช้ประโยชน์ของประเทศไทย (National Database of Thai Plants and Traditional Knowledge) 1 ฐานข้อมูล

10. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชสมุนไพรและเทคโนโลยีเพื่อผลิตวัตถุดิบ 57 เรื่อง

 

“คุณสมบัติ” ประธาน INTERLINK พร้อมรุกต่อเนื่อง ปี 2565 นำทีมฝ่ายขาย - ทีมสนับสนุนการขาย กว่า 200 คน เข้าร่วมงานสัมมนา "สุดยอดหัวใจการขาย 2565"

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) นำทีมฝ่ายขายและทีมสนับสนุนการขาย (Front office) กว่า 200 คน เข้าร่วมงานสัมมนา "สุดยอดหัวใจการขาย 2565" ณ ชลพฤกษ์รีสอร์ท จังหวัดนครนายก

เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในสินค้าและผลิตภัณฑ์ทั้งหมด โดยเพื่อให้ทุกคนนำความรู้ที่ได้ ไปพัฒนาต่อยอด แนะนำสินค้าที่ดีและเกิดประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้าของบริษัทฯ และอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น ได้เป็นอย่างดี

 

กัมพูชา - ชาวนากัมพูชาทิ้งไร่นา!! เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ทำพืชผลเสียหาย

สีหนุวิลล์/กัมพูชา - กลุ่มชาวนาในเขตเปรยนบ ประเทศกัมพูชา ถูกบังคับให้ขายที่ดินของตนเนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งทำให้พืชผลเสียหาย

พวกเขาเชื่อว่าการจัดตั้งบริษัทเอกชน โดยเฉพาะฟาร์มกุ้ง ใกล้ ๆ กับพวกเขาเป็นสาเหตุสำคัญของการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล เนื่องจากน้ำเค็มไหลจากฟาร์มกุ้งไปยังนาข้าว สร้างความเสียหายแก่พืชผล ส่งผลให้ชาวบ้านเพียง 40% ถึง 50% ยังคงปลูกข้าวในพื้นที่ ส่วนที่เหลือขายที่ดินให้บริษัทเอกชน

“หม่อง ริน” ชาวนาบอกว่าเขาปลูกข้าวมาตั้งแต่ปี 2527 และเมื่อน้ำทะเลเริ่มไหลเข้าสู่นาข้าว เขาถูกบังคับให้ขายที่ดินของเขา เขื่อนเก่ารั่วไหลทำให้น้ำทะเลเข้านาข้าว และสร้างความเสียหายให้กับพืชไร่และไร่ผัก ตามคำกล่าวของคุณรัน รองหัวหน้าชุมชนประมง

รัน ยังรับรองด้วยว่าฟาร์มกุ้งที่ตั้งขึ้นใกล้กับที่ดินของพวกเขา มีส่วนทำให้เกิดความเสียหา ยเนื่องจากน้ำล้นเข้าไปในนาข้าว ทำลายพืชผล นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการยังระบุด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทุกปีทำให้น้ำทะเลไหลลงสู่พื้นที่น้ำจืดอย่างต่อเนื่อง

คุณรันกล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ของเรา เรามีป่าชายเลนที่สามารถช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ แต่พื้นที่ที่อยู่ไกลออกไปเล็กน้อยมักถูกน้ำทะเลท่วม กรมวิชาการเกษตรมาตรวจสอบน้ำท่วม เขื่อน และฝากดินอีกส่วนหนึ่งเพื่อทำให้ถนนสูงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะเลไหลข้ามถนน แต่ถนนสายใหม่ถูกน้ำทะเลกิน”

“กรมวิชาการเกษตรมาตรวจสอบน้ำท่วม เขื่อน และฝากดินอีกส่วนหนึ่งเพื่อทำให้ถนนสูงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะเลไหลข้ามถนน แต่ถนนสายใหม่ถูกน้ำทะเลกิน” เขากล่าว

หลังจากเหตุผลดังกล่าว เกษตรกรจำนวนมากจึงตัดสินใจลาออกจากอาชีพและเริ่มทำงานในสาขาอื่น เช่น การก่อสร้าง โดยอธิบายว่าการทำนาเป็น “งานที่ไร้ประโยชน์” หลังจากเหตุผลดังกล่าว เกษตรกรจำนวนมากจึงตัดสินใจลาออกจากอาชีพและเริ่มทำงานในสาขาอื่น เช่น การก่อสร้าง โดยอธิบายว่าการทำนาเป็น “งานที่ไร้ประโยชน์”

 

‘คนพิการ – คนด้อยโอกาส’ เชียงใหม่ ปลาบปลื้มใจ!! ได้รับสิ่งของประทาน ‘ม.จ.อุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์’

20 ธันวาคม 2564 ณ วัดสุพรรณรังษี ต.ทุ่งต้อม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ " พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงกรุณาให้ นายสรชัด สุจิตต์ /นางสาวแพรวพรรณทิพย์ทิพยวานิชกร /นายสันติภาพ เพิ่มมงคลทรัพย์  เชิญสิ่งของอุปโภค บริโภคประทานแด่ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 11 ต.ทุ่งต้อม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านละ 30 ถุง รวมจำนวนทั้งสิ้น 90 ถุง และชุด PPE มอบในแก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลทุ่งต้อม และสมาคมกตัญญูธรรมกุศล เชียงใหม่ โดยมี นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล อ่านหมายสำนักงานเชื่อสิ่งของประทานเพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์  รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมนำคณะจิตอาสา 904 และจิตอาสาทำความดี มาร่วมเป็นเกียรติช่วยเหลืออำนวยความสะดวก สร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส ในครั้งนี้ด้วย

รวมถึง ตัวแทน พมจ.เชียงใหม่ นางสาวกานต์วรา ทาทอง ผอ.ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานภาครัฐ ปกครองส่วนท้องถิ่น นายกเทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ  และนางสาวสุริยะวรัญญา อสัตถสนธิ นำคณะทีมงานกลุ่มเชียงใหม่มหานครมาร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่สืบไป โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

นราธิวาส - ฝนกระหน่ำ 5 วัน!! น้ำป่าทะลักจนแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านจนเดือดร้อน

รายงานข่าวเกี่ยวกับสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.64 ถึงปัจจุบันเป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน จากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดบรรยากาศบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนมืดครึ้มปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาเป็นช่วง ๆ ไม่หนักเหมือนในทุกวันที่ผ่านมา แต่ส่งผลทำให้มวลน้ำป่าบนเทือกเขาสันกลาคีรี ซึ่งมีต้นกำเนิดในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลทะลักลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงคืนที่ผ่านมา จนปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ในระดับตลิ่งสูง 8.20 เมตร มีระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 ซ.ม.

จนล่าสุดมีปริมาณน้ำล้นสูงจากระดับสูง 1.69 เมตร และได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ที่ปลูกสร้างอยู่ที่ราบลุ่มริมตลิ่ง โดยเฉพาะบ้านน้ำตก ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 40 ถึง 60 ซ.ม. ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ จำนวน 50 ครัวเรือน รวม 250 คน ได้รับความเดือดร้อน จนต้องใช้เรือพายและเดินลุยน้ำหากมีธุระจำเป็นต้องติดต่อกับโลกภายนอก

นอกจากนี้แล้วยังมีชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อีก 4 ชุมชน คือ ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าชมพู ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง และชุมชนหัวสะพาน ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากจากปริมาณของแม่น้ำสุไหงโก-ลกล้นตลิ่ง แต่ในปีนี้กรมโยธาธิการได้สร้างกำแพงกันน้ำแล้วเสร็จร้อยละ 95 ทำให้พื้นที่ 4 ชุมชนหลุดพ้นจากปัญหาปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ไหลทะลักเข้าท่วม แต่มีเพียงปริมาณน้ำฝนเท่านั้นที่ท่วมบ้านเรือนของประชาชน โดยภาพรวมสูงเฉลี่ยเพียง 20 ถึง 30 ซ.ม. ซึ่งถือว่าเป็นเพียงอุปสรรค์เล็กน้อยที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ เนื่องจากกรมโยธาธิการได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ มาติดตั้งทำการสูบน้ำระบายออกจากพื้นที่ 4 ชุมชน และคาดว่าในปีนี้สภาวะน้ำท่วมขัง 4 ชุมชนจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่งแต่อย่างใด

ส่วนความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้มอบหมายให้นายคมกฤต จันทร์เมือง ปลัดอำเภอสุไหงโก-ลก ร่วมกับ ร.ท.อัครวัฒน์ อยู่รอบเรือง หน.ชุดบรรเทาสาธารณภัย ร. 151 พัน 2 นำกำลังพลลุยน้ำลงพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของสัมภาระที่จำเป็นหนีระดับขึ้นที่สูง เนื่องจากเกรงว่าหากมีสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วง 1 ถึง 2 วันนี้ มวลน้ำป่าจากเทือกเขาสันกลาคีรีอาจจะไหลสมทบลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก อีกละลอก เพื่อระบายลงสู่ทะเลด้าน อ.ตากใบ อาจจะส่งผลกระทบให้มีระดับน้ำท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น

 

ละเมิดสิทธิ? นิวซีแลนด์เตรียมแผนห้ามวัยรุ่นเกิดหลังปี 2008 ซื้อ-สูบบุหรี่ | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.33

อีกบทพิสูจน์ครั้งใหญ่ของรัฐบาลนิวซีแลนด์ หลังวางยุทธศาสตร์ เป็นประเทศปลอดบุหรี่ให้ได้ในปี 2025

แต่ปัญหา คือ ภายใต้ยุทธศาสตร์สู่ปลายทางที่ยิ่งใหญ่ ดันไปเกี่ยวโยงกับประเด็นอ่อนไหว เช่น การ ‘ละเมิดสิทธิ’ 

หลังจากทางรัฐบาลนิวซีแลนด์เตรียมแผน ‘ห้ามวัยรุ่น’ ที่เกิดหลังปี 2008 ซื้อและสูบบุหรี่ ซึ่งฝ่ายที่คัดค้านเรื่องนี้ ก็เดินหน้ากดดันเต็มที่ว่านี่คือการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพส่วนบุคคลของผู้สูบบุหรี่ครั้งใหญ่ แถมอาจจะทำให้บุหรี่ถูกผลักไปอยู่ในตลาดมืด จนทำให้เกิดธุรกิจสีเทา การลักลอบขนส่งบุหรี่อีกด้วย

บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ก็คงต้องติดตามดูกัน...

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top