Friday, 9 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

‘ตำรวจ - พาณิชย์ - ปศุสัตว์’ เดินหน้ากวาดล้างนายทุน! กักตุนเนื้อหมูทั่วประเทศ กว่า 971 แห่ง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ตน รับผิดชอบ กำกับ ดูแล บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กักตุนซากสุกรเพื่อเก็งกำไร จนทำให้ราคาเนื้อสุกรแพงขึ้น เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างกับประชาชน

ทั้งนี้ ได้มีหนังสือสั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้

1. ร่วมกับเจ้าหน้าที่พาณิชย์ ปศุสัตว์ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันออกตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็นที่ได้รับข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ ให้ครบถ้วน และสืบสวนหาข่าวเชิงลึกข้อมูลสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็นที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในพื้นที่รับผิดชอบ และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

2. เชิญเจ้าของ/ผู้ให้เช่า หรือผู้ดูแลสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น มาให้ข้อมูล เพื่อทราบว่า ตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนที่ราคาจำหน่ายซากสุกรในพื้นที่จะปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นถึงปัจจุบัน มีผู้ใดหรือบริษัทใด ฝาก/เช่าสถานที่เก็บซากสุกร แต่ละรายที่นำฝากมีสถิตินำเข้า-ออก เพิ่ม ลด ผิดปกติหรือไม่ อย่างไร

 3. เชิญบุคคล หรือบริษัทที่นำซากสุกรมาฝากในสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น มาให้ข้อมูล เพื่อทราบจำนวนซากสุกรที่นำมาฝาก และตรวจสอบการเงินว่ามีความผิดปกติหรือไม่

 4. หน่วยที่มีพื้นที่ตามแนวชายแดน ร่วมกับศุลกากร ด่านกักกันสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สกัดกั้นและป้องกันการลักลอบนำซากสุกรเข้าในประเทศ

 5. กำชับการตั้งด่านตรวจหรือจุดตรวจ หากพบมีการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 หรือหากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำความผิดอื่นๆ ที่เป็นการฝ่าฝืน กฎหมาย ประกาศ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวอีกว่า กรณีห้องเย็น “ในจังหวัดปริมณฑล” ที่ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ม.ค.65 ที่ผ่านมานั้น พบว่ามีจำนวน 9 บริษัท ที่อาจเข้าข่ายมีความผิด เนื่องจากไม่มีเอกสารแจ้งการเคลื่อนย้ายซากสุกร และไม่มีการแจ้งปริมาณซากสุกรในความครอบครอง เกิน 5,000 กก. อาศัยอำนาจเจ้าพนักงานปศุสัตว์ อายัดซากสุกร รวมกว่า 895,739.54 กก. ไว้เป็นเวลา 15 วัน หากไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ฯ ต่อไป

สำหรับการตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น ตลาดสด ศูนย์การค้า และสถานที่อื่นๆ ที่ใช้เก็บซากสัตว์ ในภาพรวมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. จนถึงขณะนี้ “มีการเข้าตรวจสอบแล้ว จำนวน 971 แห่ง พบการกระทำความผิด 9 แห่ง”

นอกจากนี้ ที่จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ศุลการกรจังหวัดฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สามารถจับกุมผู้ต้องหาขับขี่รถเทรลเลอร์ลากพ่วง บรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ เดินทางมาจากต่างประเทศ ผ่านทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ภายในพบเนื้อหมูส่วนใหญ่เป็นหมูสามชั้น บรรจุใส่ถุงแช่แข็งกว่า 21,000 กก. วางทับซ้อนกันจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยไม่มีใบอนุญาตขนย้าย

 

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ เร่ง!กวาดล้างแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อน “คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด - ทวงหนี้รุนแรง” คุกหนัก 5 ปี ปรับ 500,000 บาท!!

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนว่าได้รับผลกระทบจากแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ ซึ่งส่วนใหญ่หากกดยินยอมให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลก็จะสูญเสียข้อมูลส่วนตัวได้ และจะมีการกรอกข้อมูลส่วนตัวในระบบเพื่อเป็นหลักฐานถึงจะกู้เงินได้ เมื่อได้รับเงินกู้แล้วทางแอปพลิเคชันได้มีการเรียกดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด หากชำระหนี้ไม่ตรงตามสัญญา บางรายจะมีการทวงหนี้ด้วยการประจานส่งข้อความไปยังคนรอบตัว หรือบางรายมีการทวงหนี้ด้วยความโหดร้ายทารุณ เกิดความเสียหายทั้งร่างกายและทรัพย์สิน นั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งกวาดล้างแอปพลิเคชันเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด และทวงหนี้อย่างผิดกฎหมาย

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมแอปพลิเคชันเงินกู้ที่ดำเนินการคิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด และทวงหนี้ด้วยความรุนแรงอย่างผิดกฎหมายมาโดยตลอด และอยากขอเตือนไปยังเจ้าหนี้ที่กระทำการดังกล่าว อาจมีความผิดตามกฎหมาย

>> พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560

มาตรา 4 บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 

(1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้

(2) กำหนดข้อความอันเป็นเท็จในเรื่องจำนวนเงินกู้หรือเรื่องอื่น ๆ ไว้ในหลักฐานการกู้ยืมหรือ ตราสารที่เปลี่ยนมือได้เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

(3) กำหนดจะเอาหรือรับเอาซึ่งประโยชน์อย่างอื่นนอกจากดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือสิ่งของหรือโดยวิธีการใด ๆ จนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากเกินส่วนอันสมควรตาม เงื่อนไขแห่งการกู้ยืมเงิน

>> พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 

มาตรา 11 ห้ามผู้ทวงถามหนี้กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะดังต่อไปนี้ 

(1) การข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น

มาตรา 41 บุคคลใดฝ่าฝืนมาตรา 11 (1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท

‘สวนนุงนุชพัทยา’ มอบเงินสนับสนุน ‘งบประมาณกองทุนเพื่อการศึกษา’! ให้แก่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด เพื่อใช้ในการเรียนการสอน

ที่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนุงนุช พัทยา  ได้มอบเงินสนับสนุนงบประมาณกองทุนเพื่อการศึกษาให้แก่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด  จำนวน 250,000 บาท  โดยมี นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม (นายอำเภอแม่แตง)นายพิชิตชัย อินทร์ภูวงศ์  รอง ผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 2 พร้อมด้วยคณะศึกษานิเทศก์ สพป.เชียงใหม่ เขต 2 พร้อมด้วยคณะศึกษานิเทศก์ สพป.เชียงใหม่ เขต 2 เป็นผู้รับมอบพร้อมด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และแขกผู้มีเกียรติ

โดยการมอบเงินสนับสนุนงบประมาณกองทุนเพื่อการศึกษาในครั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาทางคณะได้เคยเดินทางมามอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านปางห้วยตาด หลังจากนั้นได้มีการพูดคุยกับทางคณะครูผู้บริหาร ซึ่งได้รับทราบว่าทางโรงเรียนนั้นได้เงินงบประมาณมาใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งไม่เพียงพอในการบริหารโรงเรียนทั้งปี โดยยังขาดเงินในการบริหารอีก 250,000 บาท ทางสวนนงนุช นำโดย นายกัมพล ประธานสวนนงนุชพัทยา จึงได้มอบเงินสนับสนุนงบประมาณกองทุนเพื่อการศึกษาให้แก่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด ตามที่ทางโรงเรียนต้องการ เพื่อจะได้นำมาบริหารงานของโรงเรียน  เพื่อให้เด็กได้มีการมีเรียนรู้ เป็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติที่ดีต่อไป

 

ปทุมธานี - จัดกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณประโยชน์ เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี ลังกาพินธุ์ นายอำเภอสามโคก ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีมอบหมายให้นางวัชรียา เสนาวรานนท์ ปลัดอำเภอสามโคกเป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณะประโยชน์ เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีนายชัยวัฒน์ หมู่เย็น นายกเทศมนตรีตำบลบางเตย / นายศักดา ชนนิยม กำนันตำบลบางเตย สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางเตย ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลสารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเตยพนักงานราชการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สมาชิก อส.และประชาชนจิตอาสาตำบลบางเตย เข้าร่วมทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณประโยชน์ ด้านนายชัยวัฒน์ หมู่เย็น นายกเทศมนตรีตำบลบางเตย

ได้กล่าวเสริมว่า วันนี้ได้ร่วมกับทางอำเภอสามโคก ฝ่ายปกครองตำบลบางเตย ทำความสะอาดพัฒนาสถานที่สาธารณะประโยชน์ ที่ว่าการอำเภอสามโคก(หลังเก่า) เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเตย พนักงานราชการ ได้รวมด้วยช่วยกันทำความสะอาด โดยได้นำรถดับเพลิงบรรจุน้ำเต็มถังฉีดล้างพื้นทำความสะอาด ที่ว่าการอำเภอหลังเก่า ทำความสะอาดรูปปั้นสุนทรภู่ ปัด กวาด เก็บเศษกระดาษ เศษพลาสติก เศษหญ้า บริเวณรอบที่ว่าการอำเภอหลังเก่า

กาฬสินธุ์ - ชลประทานกาฬสินธุ์ ยันปริมาณน้ำขนาดกลาง 17 แห่ง เพียงพอฤดูแล้ง

ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาฬสินธุ์เผยภาวะฝนทิ้งช่วงยังไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำชลประทาน อ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่ง โดยภาพรวมมีปริมาณน้ำ 60%  ยืนยันเพียงพอใช้พ้นฤดูแล้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนไม่ปล่อยน้ำทิ้ง ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของประชาชนในช่วงฤดูแล้ง ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน พบว่า มีการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งเพื่อการยังชีพและจำหน่าย เช่น ข้าวนาปรัง ข้าวโพด ถั่วลิสง ถั่วฝักยาว พืชตระกูลแตงอื่นๆ ขณะที่ปริมาณน้ำตามอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ซึ่งอยู่ในการดูแลของโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ทั้ง 17 แห่ง พบว่ายังมีเหลือเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคให้กับประชาชน โดยภาพรวมเฉลี่ยมีปริมาณถึง 60%

นายเกริงกรุง สุภัควนิช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ปริมาณน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่ง ปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์ที่เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคในฤดูแล้งนี้ ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่ใช้น้ำของโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ มีพื้นที่ทำการเกษตร โดยเฉพาะปลูกข้าวนาปรังประมาณ 1 หมื่นกว่าไร่ ในภาพรวมมีการบริหารจัดการน้ำอย่างทั่วถึงและเพียงพอ เฉลี่ยมีปริมาณถึง 60%  โดยเพียงมีอ่างเก็บ 4 แห่งคือ อ่างเก็บน้ำหนองหมาจอก ต.ยางตลาด อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าม้า ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด, อ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้า อ.ห้วยเม็ก และอ่างลำพะยังตอนบน อ.เขาวงเท่านั้น ที่มีปริมาณต่ำว่า 30% แต่ยังก็เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค 

นายเกริงกรุง กล่าวอีกว่า ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำของโครงการชลประทานกาฬสินธุ์นั้น มีการวางแผนรับมือภัยแล้งให้มีประสิทธิภาพ โดยมีการจัดสรรเป็นน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ให้เพียงพอถึงต้นฤดูฝน เช่น มีการกักเก็บน้ำในช่วงเกิดภาวะน้ำท่วมตามแนวแม่น้ำชี อ.ฆ้องชัย เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้, มีการจัดการน้ำทั้งในส่วนของการเกษตรกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมให้เพียงพอ, เตรียมเครื่องสูบน้ำ โดยประสานการทำงานร่วมกับสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสูบน้ำระยะไกล ในกรณีเกิดภัยแล้ง, สร้างการรับรู้การใช้น้ำให้กับประชาชน พร้อมกับขอความร่วมมือประชาชนและเกษตรกรไม่ปล่อยน้ำทิ้ง ใช้น้ำอย่างประหยัด และคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งจะไม่ทำให้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ

 

‘วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร’ วิจิตรงาม - พระอารามหลวงชั้นเอก!! | MEET THE STATES TIMES EP.56

📌 ‘วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร’ วิจิตรงาม - พระอารามหลวงชั้นเอก
📌 หนึ่งในสถาปัตยกรรมอันงดงาม…แห่งต้นกรุงรัตนโกสินทร์!!   

👄 ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

💻 ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ ถ้าเราไม่ดีแล้ว เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร มันก็ไม่ดีทั้งนั้น

คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ ถ้าเราไม่ดีแล้ว

เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร มันก็ไม่ดีทั้งนั้น

- พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)  -

คำว่า “หนี้” พูดเบาๆ ก็เจ็บ หนี้ภาคครัวเรือนของไทย ไปทางไหนกันดี ?!​ | MEET THE STATES TIMES EP.55

📌คำว่า “หนี้” พูดเบาๆ ก็เจ็บ หนี้ภาคครัวเรือนของไทย ไปทางไหนกันดี ?!
📌หนี้ครัวเรือนไทย! เรื่องใหญ่ที่คนไทยต้องแบกรับ!

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

“ตัดวงจรร้าย - วางสายทันที” รู้ทัน! คอลเซ็นเตอร์หลอกขอข้อมูลส่วนตัว ด้วยความห่วงใยจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในห้วงปัจจุบันได้มีมิจฉาชีพในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องในหลายรูปแบบ เช่น หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกว่าเป็นพนักงานส่งสินค้า หลอกว่าพัสดุของท่านไม่สามารถส่งได้ หรือใช้คำถามลวงขอทราบเลขพัสดุทำให้ผู้รับสายเกิดความสับสน และทำให้เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงเพื่อหลอกขอข้อมูลส่วนตัว เลขบัญชีธนาคาร หรือเลขบัตรประชาชน จนกระทั่งนำไปสู่การโน้มน้าวให้โอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ นั้น 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากมิจฉาชีพในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างจริงจัง จึงได้ตั้ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อปฏิบัติภารกิจกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือภัยร้ายทางโลกออนไลน์อย่างเข้มงวด เพื่อลดความสูญเสียทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ฯ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ประชาสัมพันธ์เตือนภัย และให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพเสมือนเป็นวัคซีนเพื่อป้องกันภัยร้ายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Vaccinated) และได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่กวาดล้างมิจฉาชีพอย่างเข้มข้น รวดเร็ว เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกต่อไป จึงอยากขอเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนว่า หากท่านรับสายโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พยายามขอให้บอกข้อมูลส่วนตัว หรือขอให้โอนเงินทางโทรศัพท์ "ขอให้ท่านสันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพ และวางสายโดยทันที" เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ ขอแสดงความเสียใจ รองสารวัตรสืบสวน สภ.หนองปลิง พลีชีพ! ระงับเหตุคนร้ายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น เตรียมปูนบำเหน็จ ดูแลสวัสดิการอย่างดีที่สุด!!

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.65 ได้เกิดเหตุการณ์อันน่าสลดใจเกิดขึ้น มีข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น ชุดสืบสวน สภ.หนองปลิง ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ จึงได้ออกติดตามคนร้ายผู้ก่อเหตุ แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุแล้วคนร้ายได้คลุ้มคลั่งยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้ ร.ต.อ.ชัยปติณญา แสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนร้ายไว้แล้ว และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอสดุดีวีรกรรมของ ร.ต.อ.ชัยปติณญา แสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ด้วยความตั้งใจ เสียสละ จนวาระสุดท้ายของชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ของ ร.ต.อ.ชัยปติณญาฯ ให้ดูแลสวัสดิการของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วและดีที่สุด

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณาการปูนบำเหน็จความชอบและดูแลในเรื่องของเงินสวัสดิการอย่างเต็มที่ รวมถึงเงินสวัสดิการของต้นสังกัด และสวัสดิการอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละ และให้กำลังใจครอบครัวที่ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวนี้ โดยในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และผู้ได้รับเงินเยียวยาสามารถตรวจสอบข้อมูลสวัสดิการเพิ่มเติมได้ที่ แอปพลิเคชันแทนใจ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top