Tuesday, 17 June 2025
Hard News Team

ใครที่กำลังมองหางานห้ามพลาด!!

ภายในงานมีตำแหน่งงานมากกว่า 5 แสนอัตรา จากผู้ประกอบการและระบบออนไลน์กว่า 173 บริษัท และตำแหน่งงานในต่างประเทศกว่า 1 แสนอัตรา จาก 16 บริษัทจัดหางาน จัดส่งโดยภาครัฐ

วันที่ 6 - 8 มิถุนายน 2568 ณ ฮอลล์ 5 - 6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

สวทท. ร่วมกิจกรรมในหลักสูตร The Media 6 พัฒนาศักยภาพการใช้สื่อสำหรับผู้บริหารระดับสูง เชื่อมโยงการสื่อสารไร้ขีดจำกัด 

นางสาวชุติพันธุ์ ลิมปะพันธุ์ นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  พร้อมด้วยนายสมชาย จรรยา อุปนายกฝ่ายโทรทัศน์และสื่อดิจิทัล และนางพรทิพย์ เอ็งสุวรรณ์ กรรมการฝ่ายประชาสัมัพันธ์ สวทท. ร่วมกิจกรรมในหลักสูตร The Media 6 พัฒนาศักยภาพการใช้สื่อสำหรับผู้บริหารระดับสูง เชื่อมโยงการสื่อสารไร้ขีดจำกัด สู่อนาคตที่ไม่สิ้นสุด โดยมี ดร.ธีรพล มั่นพิริยะกุล ผู้อำนวยการหลักสูตร ฯ วิทยากรพิเศษ และผู้เข้าสัมมนาจากหลากหลายอาชีพ ร่วมกิจกรรมกันอย่างสนุกสนานและมีสาระ ณ Gaysorn Urbon Resort ชั้น 19 วานนี้ (13 พ.ค.68)

‘อพท.’ ผลักดัน!! ชุมชนท่องเที่ยว ในพื้นที่พิเศษ ชวนออฟฟิศ ยกทีมนอกกรอบ ไปรอบเมืองไทย

(17 พ.ค. 68) นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย ซีซั่น 2 ชวนชาวออฟฟิศ ยกทีมนอกกรอบ ไปรอบเมืองไทย” และกล่าวถึงประโยชน์ของการจัดงานในครั้งนี้ว่า ในฐานะที่ อพท. เป็นองค์กรกลางในการประสาน ส่งเสริมและพัฒนาให้ชุมชนท้องถิ่นและพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวมีศักยภาพและมีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในแคมเปญฯ ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องมาจากปี 2567 ซึ่งได้นำชุมชนในพื้นที่พิเศษที่มีศักยภาพเข้าร่วมแคมเปญถึง 25 ชุมชน สำหรับในซีซั่น 2 ในปี 2568 นี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ อพท. ได้ประชาสัมพันธ์และเชิญชวนนักเดินทางคุณภาพกลุ่มไมซ์ ให้มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่จากการเดินทางท่องเที่ยวโดยชุมชนที่มีเสน่ห์และอัตลักษณ์โดดเด่น ผ่านภูมิปัญญา เรื่องเล่าและได้ทดลองกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ของชุมชน โดย อพท. ได้คัดสรรชุมชนที่มีศักยภาพเข้าร่วมแคมเปญเพิ่มขึ้นเป็น 32 ชุมชน และสนับสนุนค่าจัดกิจกรรมขององค์กรใน ชุมชนมูลค่า 10,000 บาทต่อกลุ่ม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเชื่อมโยงชุมชนท่องเที่ยวสู่ตลาดมูลค่าสูง และเปิดโอกาสให้ชุมชนได้แสดงศักยภาพ อัตลักษณ์ สินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ พร้อมได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ของชุมชน นำมาสู่การสร้างและกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น และเชื่อว่า “การท่องเที่ยวโดยชุมชน จะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการจัดกิจกรรมองค์กรให้กับทุกๆ คน”

ความร่วมมือดังกล่าวนั้นตอบโจทย์การดำเนินงานของ อพท. ซึ่งเป็นองค์กรกลางในการประสาน ส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในเชิงบูรณาการ ตลอดจนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้มีศักยภาพตามมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT Thailand) สามารถบริหารจัดการการท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง และพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ที่นำเสนออัตลักษณ์ที่โดดเด่นและเชื่อมโยงชุมชนท่องเที่ยวสู่ตลาดมูลค่าสูง นำมาสู่การสร้างและกระจายรายได้มาสู่ท้องถิ่นต่อไป  

‘NailName’ ขอโทษ!! ‘สนธิ’ กรณีจุดเริ่มต้น สงครามเหลืองแดง หลังออก!! คลิป YouTube บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยไม่ตรวจสอบ

(17 พ.ค. 68) รายการ 'แฮชแท็ก' จากช่อง YouTube NailName ออกมาแสดงความรับผิดชอบและกล่าวคำขอโทษอย่างเป็นทางการต่อ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล หลังจากที่คลิปวิดีโอตอน '#สนธิ vs ทักษิณ: ตำนานเพื่อนรักไม่ให้ยืมเงิน จุดเริ่มต้นสงครามเหลืองแดง' ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์

คลิปดังกล่าวพยายามอธิบายเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในอดีต โดยมีเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบทบาทของ สนธิ ลิ้มทองกุล ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อเหลือง-เสื้อแดง

ในคลิปขอโทษล่าสุด เนม – รติศา วิเชียรพิทยา ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวยอมรับความผิดพลาดในการนำเสนอข้อมูลและขอโทษต่อ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการเผยแพร่ เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของรายการและเคารพต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในคลิปนั้นมีใจความว่า …

"ตามที่ข้าพเจ้า เนม รติศา วิเชียรพิทยา หรือ nailname เผยแพร่คลิปวิดีโอ ชื่อหัวข้อ #สนธิ vs ทักษิณ ตำนานเพื่อนรักไม่ให้ยืมเงิน จุดเริ่มต้นสงครามเหลืองแดง เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 เผยแพร่ใน YouTube ช่อง NailName ซึ่งเนื้อหาในคลิปวิดีโอดังกล่าว ข้าพเจ้าขอยอมรับว่าไม่เป็นความจริง ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบแล้วไม่พบหลักฐานหรือข่าวใด ๆ ที่ยืนยันได้ว่า คุณสนธิไปยืมเงินคุณทักษิณ โดยปรากฏข่าวว่าคุณสนธิปฏิเสธว่าไม่ใช่เพื่อนรักกับคุณทักษิณ และมีบุคคลอื่น เคยขอโทษคุณสนธิเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังที่ปรากฏข้อมูลไว้ในคลิปวิดีโอดังกล่าว โดยเนื้อหาในคลิปวิดีโอ ทำให้คุณสนธิได้รับความเสียหาย ต่อชื่อเสียง ข้าพเจ้ารับทราบแล้วจึงขออภัยและขอโทษมาด้วยความจริงใจ ต่อคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และขอบคุณคุณสนธิยินดีที่จะไกล่เกลี่ยและไม่เอาความ มา ณ โอกาสนี้"

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงบทเรียนสำคัญในวงการสื่อออนไลน์ ที่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบุคคลและองค์กรได้อย่างมาก

ชาวยูเครนวัย 21 ส่อถูกตั้งข้อหาหนัก วางเพลิงบ้านเก่า ‘สตาร์เมอร์’ นายกฯ เมืองผู้ดี

(16 พ.ค. 68) ตำรวจนครบาลลอนดอนเผยว่า โรมัน ลาฟรินโนวิช (Roman Lavrynovych) สัญชาติยูเครน อายุ 21 ปี ถูกตั้งข้อหาวางเพลิงโดยมีเจตนาเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยหนึ่งในเหตุการณ์คือการจุดไฟเผาประตูหน้าบ้านหลังเก่าของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ (Sir Keir Starmer) ในย่านเคาน์เตสโรด ทางเหนือของกรุงลอนดอน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่พักอาศัยของนายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์มานานเกือบ 20 ปี ก่อนย้ายไปยังบ้านพักนายกฯ ที่ดาวน์นิงสตรีท ปัจจุบันเขาให้เช่าบ้านหลังนี้ ขณะที่ตำรวจระบุว่า ลาฟรินโนวิชยังเชื่อมโยงกับเหตุวางเพลิงอีก 2 จุด ได้แก่ เหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ในวันที่ 8 พ.ค. และอาคารพักอาศัยอีกแห่งในวันที่ 12 พ.ค.

ตำรวจหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายเข้าร่วมสอบสวนคดีนี้ เนื่องจากทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลสาธารณะระดับสูง โดยลาฟรินโนวิชถูกจับกุมเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม และยังคงถูกควบคุมตัวระหว่างรอการพิจารณาคดี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากเชื่อว่าเหตุวางเพลิงทั้ง 3 ครั้งอาจมีเป้าหมายมุ่งร้ายต่อบุคคลสำคัญของประเทศอย่างชัดเจน

‘วอลมาร์ต’ ไม่อาจแบกรับต้นทุนได้อีกต่อไป เตรียมปรับขึ้นราคาตามมาตรการภาษีของทรัมป์

(16 พ.ค. 68) วอลมาร์ต ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก เตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าบางรายการ หลังต้นทุนพุ่งจากผลกระทบสงครามการค้าและมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งบริษัทระบุว่า ‘ต้นทุนสูงเกินไป’ และยากต่อการแบกรับ

ดัก แมคมิลลอน ซีอีโอของวอลมาร์ต ระบุว่า แม้บริษัทพยายามตรึงราคาให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แรงกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและส่วนต่างกำไรที่ลดลง ทำให้ต้องตัดสินใจขยับราคาสินค้าบางกลุ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้า

ทั้งนี้ วอลมาร์ตไม่ออกตัวเลขคาดการณ์รายไตรมาสใหม่ เนื่องจากความผันผวนของนโยบายภาษีศุลกากรในสหรัฐฯ โดยยังคงใช้ประมาณการทางการเงินประจำปีเดิมที่ประกาศไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ายอดค้าปลีกเติบโตช้าลง ขณะที่ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งซีอีโอวอลมาร์ตยอมรับว่า รายการสินค้าราคาประหยัดของบริษัทกำลังถูกท้าทายจากต้นทุนที่สูงขึ้นทั่วโลก

Burberry ปัดฝุ่น!..ลุยแผนใหม่ เริ่มปรับโครงสร้างองค์กร เลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 1,700 คน หวังฟื้นแบรนด์หรู

เมื่อวันที่ (14 พ.ค.68) ที่ผ่านมา หุ้นของ Burberry พุ่งขึ้นถึง 18% หลังบริษัทประกาศแผนลดพนักงานราว 1,700 คน หรือประมาณ 20% ของพนักงานทั่วโลกภายใน 2 ปี เพื่อควบคุมต้นทุนและพลิกฟื้นผลประกอบการที่ซบเซามานาน

การปรับลดจะกระทบกับพนักงานสายสำนักงานเป็นหลัก รวมถึงการยกเลิกกะกลางคืนในโรงงานผลิตเสื้อโคตที่เมืองแคสเซิลฟอร์ด สหราชอาณาจักร โดย CEO โจชัว ชูลแมน ระบุว่า การผลิตเกินจำเป็นจากการทำงานสองกะ ทำให้ต้องตัดสินใจเพื่อรักษาฐานการผลิตในประเทศ

ชูลแมนซึ่งเคยทำงานกับ Coach และ Jimmy Choo เข้ามารับตำแหน่งปีที่แล้ว และได้ปรับกลยุทธ์ใหม่โดยเน้นจุดแข็งของความเป็น 'แบรนด์อังกฤษ' และเน้นขายเสื้อโคตกับผ้าพันคอ หลังจากที่เคยพลาดจากการขึ้นราคามากเกินไปและการออกสินค้าไม่โดนใจ

Burberry เผยว่ามาตรการลดคนและต้นทุนอื่น ๆ จะช่วยให้บริษัทประหยัดเพิ่มอีก 60 ล้านปอนด์ภายในปี 2027 นอกเหนือจากแผนเดิมที่ตั้งเป้าลดต้นทุนไว้แล้ว 40 ล้านปอนด์ โดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวก เชื่อว่าบริษัทเริ่มเดินมาถูกทางในการกลับมาแข่งขันในตลาด ‘Luxury’ อีกครั้ง

’กรณ์‘ มอง 'G-token' หวังดัน digital asset ในไทย แนะรัฐบาลป้องกันหวั่นกลายเป็น ’เงินตรานอกระบบ’

เมื่อวันที่ (15 พ.ค.68) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ โพสต์เฟซบุ๊ก 'นายกรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij' ระบุ  ว่าด้วยเรื่อง G-token: good or bad?

ปัจจุบันรัฐบาลสามารถกู้จากประชาชนได้ผ่านการขายพันธบัตรในแอปเป๋าตังที่คนไทยกว่า 40 ล้านคนมีในโทรศัพท์

ประชาชนสามารถลงทุนได้ด้วยเงินเพียงแค่ 100 บาท คิดจะขายก็ขายได้ ต้นทุนของรัฐบาลในการออกพันธบัตรผ่านช่องทางนี้ต่ำมาก ไม่น่าจะมีช่องทางไหนที่สะดวกและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่านี้อีกแล้ว

คราวนี้รัฐบาลจะออกสิ่งที่เรียกว่า G-token แทน นั่นคือการกู้ผ่านการออกเหรียญคริปโตในระบบ blockchain นั่นเอง 

จริง ๆ ก็คือการ tokenise พันธบัตรรัฐบาลนั่นแหละ

ที่รัฐบาลบอกว่าไม่กระทบหนี้สาธารณะ ถ้าจะพูดให้ชัดขึ้นต้องบอกว่า ’ไม่กระทบมากกว่าถ้าออกเป็นพันธบัตร’ คือหนี้สาธารณะจะเพิ่มเท่ากัน นี่คือเพียงอีกวิธีที่จะกู้เงิน

ถามว่ากฎหมายให้ทำหรือไม่ รัฐบาลบอกว่าได้ มีบางคนออกมาบอกว่าไม่ได้ ส่วนตัวผมพูดได้แค่ว่ากฎหมายไม่ได้เขียนรองรับโดยตรงเพราะตอนร่างกฎหมายยังไม่มีคริปโต แต่ผมก็ไม่เห็นว่าทำไมจะทำไม่ได้ ตราบใดที่ G-token นี้มีสถานะเหมือนเป็นพันธบัตร ซึ่งซื้อขายได้ แต่ใช้ในการชำระเงินไม่ได้ 

ปัญหาคือ พอมันเป็นเหรียญ มันก็สามารถถูกเอาไปใช้ชำระเงินได้ง่ายขึ้น รัฐบาลก็ควรต้องอธิบายว่ามีมาตรการอย่างไรที่จะป้องกันไม่ให้คนไทยหรือต่างชาติใช้ G-token เสมือนเป็นเงินบาท (เพราะมีรัฐบาลคำ้ประกัน) สุดท้ายก็จะเป็นเงินอีกประเภทหนึ่งที่รัฐบาลเป็นคนออกหรือไม่? (หรือนั่นคือความตั้งใจ?)  ต้องฟังความเห็นของแบงก์ชาติในประเด็นนี้

ถามว่าการเข้าถึง G-token โดยประชาชนจะสะดวกกว่าการซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือไม่ คำตอบคือ ’ไม่‘  เพราะคนไทยยังคงจะมี digital wallet น้อยกว่าแอปเป๋าตัง

ถามว่าแล้วรัฐบาลทำไปเพื่ออะไร ผมเชื่อว่าเหตุผลหลักคือต้องการเพิ่มความนิยมใน digital asset ในประเทศไทย พวก crypto exchange เช่น Bitkub หรือ Binance ต้องชอบเพราะทำให้มีสินค้าในตลาดของตนมากขึ้น และลูกค้าใหม่ก็อาจจะหันมาสนใจลงทุนใน Bitcoin หรือ digital asset ตัวอื่น ๆ มากขึ้นในอนาคต รัฐบาลก่อนหน้านี้อยากให้ประชาชนมีแอปเป๋าตัง รัฐบาลนี้อยากให้มี digital wallet

ทั้งหมดนี้ดีหรือไม่ดีอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ค่ากับคริปโตแค่ไหน และรัฐบาลจะสามารถป้องกันไม่ให้ G-token กลายเป็นเงินตรา ‘นอกระบบ’ หรือไม่

‘จีน’ รอคำตอบเรือดำน้ำ ‘ภูมิธรรม’ รับพูดยาก ปัดข่าวเรือที่สร้างแล้ว 80% อาจตกถึงกัมพูชา

(16 พ.ค. 68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่เยอรมนีปฏิเสธการขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำให้ไทย โดยระบุว่าได้รับคำตอบจากรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนีแล้วว่าไม่สามารถขายได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านความมั่นคงภายใต้นาโต แม้จะมีความสัมพันธ์อันดีกับไทย พร้อมขอบคุณสำหรับคำตอบที่ชัดเจน ซึ่งไทยจะนำไปพิจารณาหาทางออกต่อไป

นายภูมิธรรมยอมรับว่าเรือดำน้ำลำดังกล่าวดำเนินการไปแล้วกว่า 70-80% หากยกเลิกอาจเสียประโยชน์โดยไม่ได้อะไรคืนกลับมา แต่หากเดินหน้าต่อก็ต้องพิจารณาความคุ้มค่าและเงื่อนไขของสัญญาอย่างรอบคอบ โดยย้ำว่าจะไม่สามารถดำเนินการแบบเดิมได้อีก

สำหรับประเด็นกระแสข่าวว่า หากยกเลิกสัญญา ตัวเรือดำน้ำอาจถูกจีนมอบให้กัมพูชา นายภูมิธรรมระบุว่า “ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้” และไม่ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายจีนในประเด็นดังกล่าว แต่ยอมรับว่าทางเอกอัครราชทูตจีนได้ทวงถามคำตอบจากไทยหลายครั้ง โดยไทยได้แจ้งว่าต้องพิจารณาทางออกให้รอบคอบที่สุด

ทั้งนี้ รองนายกฯ ระบุว่ารัฐบาลจำเป็นต้องรักษาดุลความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีน เพราะไทยเป็นประเทศเล็ก และเรื่องนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จำเป็นต้องหาทางออกที่เหมาะสมในภาพรวม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top