Saturday, 17 May 2025
Hard News Team

วัยทำงานสหรัฐฯ 46 % ‘ไม่มีงานในฝัน’ ส่วนคนรุ่นใหม่ ยังใฝ่ฝัน ถึงงานที่ชอบ

(16 พ.ย. 67) ในวัยเด็กหลายๆ คนคงเคยถูกผู้ใหญ่ถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร? มีงานในฝันคืออาชีพอะไร? ซึ่งคำตอบของเด็กยุคก่อนคงหนีไม่พ้น แพทย์ พยาบาล ครู วิศวกร ฯลฯ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป คำตอบของเด็กๆ จากคำถามดังกล่าวก็เปลี่ยนไปด้วย โดยก่อนหน้านี้มีผลการศึกษาใหม่จาก Class Central ค้นพบว่า อาชีพในฝัน อันดับ 1 ที่คนรุ่นใหม่อยากทำมากที่สุดคือ ‘นางแบบ’ รองลงมาคือ ศิลปิน ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า บล็อกเกอร์ นักการตลาด นักร้อง และเทรนเนอร์ส่วนตัว ตามลำดับ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ทำงานในฝันของตนเองเสมอไป ยิ่งล่วงเข้าสู่วัยกลางคน งานในฝันสมัยเด็กก็คงเลือนลางจางหายไปเรื่อยๆ 

ล่าสุดมีรายงานจาก Newsweek อ้างถึงผลสำรวจจาก Talker Research ซึ่งทำการสำรวจชาวอเมริกัน 1,000 คนเกี่ยวกับงานในฝันของพวกเขา (สำรวจเมื่อวันที่ 21 - 24 ตุลาคมที่ผ่านมา) ผลการสำรวจพบว่า วัยทำงานชาวอเมริกันถึง 46% ‘ไม่มีงานในฝัน’ ขณะที่ผู้ที่มีงานในฝันมีน้อยกว่าในสัดส่วน 43% ขณะที่มีอีกบางส่วน หรือ 12% ที่รายงานว่าไม่แน่ใจ

ผลการสำรวจยังเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเจเนอเรชันต่างๆ เกี่ยวกับความต้องการมีงานในฝันอีกด้วย โดยคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะมีงานในฝันมากกว่าคนรุ่นเก่า เช่น คนรุ่น Gen Z มีสัดส่วนสูงถึง 61% บอกว่าพวกเขามีงานในฝัน ขณะที่เมื่อเทียบกับคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ พวกเขามีงานในฝันเพียง 28% เท่านั้น

เมื่อเจาะลึกในกลุ่มวัยทำงานที่รายงานว่าตนเองมีงานในฝันนั้น พบว่ามีจำนวนราวๆ 400 คนจากกลุ่มตัวอย่างทั้งงหมด ซึ่งพวกเขาได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความใฝ่ฝันด้านอาชีพการงานที่หลากหลาย และระบุถึง ‘ชื่อตำแหน่งงาน บทบาท หรือสายงาน’ ที่ตนเองใฝ่ฝันถึงในสมัยเรียน 

สำหรับวัยทำงานกลุ่มที่รายงานว่าตนเอง ‘มีอาชีพในฝัน’ นั้น ทีมวิจัยพบด้วยว่า อาชีพในฝันของคนกลุ่มนี้มีการผสมผสานระหว่างตำแหน่งงานแบบดั้งเดิมและแบบสมัยใหม่ รวมถึงชี้ให้เห็นว่าพวกเขามีอุดมคติในการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และมีความสนใจในสาขาอาชีพที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

ทีมวิจัยสามารถสรุปออกมาได้เป็น 5 หมวดสาขาอาชีพในฝันของชาวอเมริกันยุคนี้ ได้แก่ 

1. การประกอบอาชีพอิสระ และการเป็นผู้ประกอบการ
หลายคนใฝ่ฝันถึงความเป็นอิสระ หวังว่าจะได้บริหารธุรกิจของตนเองหรือเป็นเจ้านายตนเอง ตั้งแต่การบริหารร้านขายเครื่องประดับ ไปจนถึงการเปิดธุรกิจทำความสะอาดหรือร้านอาหารเล็กๆ กลุ่มตัวอย่างส่วนหนึ่งรายงานว่า การได้เป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองพร้อมสินทรัพย์หมุนเวียนเงินสดจำนวนมากซึ่งทำให้มีอิสระทางการเงิน คืออาชีพในฝันของพวกเขา

2. อาชีพที่ดูแลและช่วยเหลือผู้อื่น
ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมาก รายงานว่างานในฝันไม่ได้เป็นเพียงเรื่องอาชีพส่วนบุคคลของพวกเขาเท่านั้น แต่อาชีพในฝันของพวกเขาสามารถเป็นงานที่ช่วยเหลือผู้อื่นไปพร้อมกันด้วย เช่น พยาบาล ครู นักสังคมสงเคราะห์ หรือสัตวแพทย์ บางคนรายงานว่า ‘อาชีพในฝันของฉันคือการช่วยเหลือเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวและผู้ที่อาศัยอยู่ในความยากจน’ เป็นต้น

3. นักศิลปะและผู้ผลิตสื่อสร้างสรรค์
มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนไม่น้อยที่รายงานว่า พวกเขาจินตนาการถึงการใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในแวดวงศิลปะ เช่น การทำงานเป็นโปรดิวเซอร์เพลง ยูทูบเบอร์ นักออกแบบแฟชั่น หรือนักเขียนนวนิยาย ผู้ตอบแบบสอบถามรายหนึ่งมองว่า ผู้ที่ทำงานในสายงานอาชีพเหล่านี้ จะสามารถถร่วมมือกันในโครงการสร้างสรรค์ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมได้

4. งานดูแลสัตว์และงานที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ
ความรักต่อสัตว์และธรรมชาติก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน และมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนไม่น้อยที่บอกว่า งานในฝันของพวกเขาคือสายงานด้านการดูแลสัตว์ป่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ผู้ดูแลสวนสัตว์ สัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไฟป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติซานตาเฟ เป็นต้น 

5. งานใดๆ ก็ตามที่ทำงานจากที่บ้านได้อย่างยืดหยุ่น
ทีมวิจัยระบุว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากที่ต้องการงานที่มีความยืดหยุ่น สามารถทำงานจากระยะไกล และอยากได้งานที่มีความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการทำงานที่ดีขึ้น อาชีพในฝันของพวกเขาส่วนใหญ่คือ การมีอาชีพมั่นคงที่สามารถทำงานที่บ้านได้ โดยมีรายได้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน อาชีพในฝันหมวดนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า วัยทำงานสมัยนี้เน้นย้ำความสำคัญในการทำงานอิสระและต้องการเวลาให้ครอบครัว

ท้ายที่สุดรายงานชิ้นดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าโลกการทำงานและความต้องการของแรงงานในยุคนี้เปลี่ยนไปแล้ว มีความแตกต่างจากแรงงานในยุคก่อน โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่มีงานในฝันนั้น พวกเขาส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการทำงานที่มีความยืดหยุ่นและมีอิสระ มากกว่ายุคก่อนอย่างเห็นได้ชัด

‘สาวญี่ปุ่น’ ลอง!! ‘โชยุ – โคชูจัง – น้ำจิ้มซีฟู้ด – เพสโต – ซอสพริก’ กินคู่ ‘กุ้งสด’ ผลปรากฏ น้ำจิ้มซีฟู้ด โดนใจ!! ให้ 10 คะแนนเต็ม ชาวเน็ตคอมเมนต์ ตำเองแซ่บกว่า

(16 พ.ย. 67) กระแสไวรัลในโลกออนไลน์กำลังฮือฮาสนั่น หลังติ๊กต๊อกเกอร์ชาวญี่ปุ่นทำคอนเทนต์เปรียบเทียบซอส 5 ชนิด 5 สัญชาติว่า ซอสและน้ำจิ้มจากประเทศไหนรับประทานคู่กับกุ้งสดอร่อยที่สุด

ผู้ใช้ติ๊กต็อก 神楽ひなこ ทำคอนเทนต์ทานกุ้งสดกับซอสต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ซึ่งให้คะแนนความอร่อยและความเข้ากันตามความชอบส่วนตัวของตนเอง โดยแบ่งออกเป็นโชยุจากญี่ปุ่น, โคชูจังจากเกาหลีใต้, น้ำจิ้มซีฟู้ดจากไทย เพสโตจากอิตาลี และซอสพริกจากเวียดนาม

ภายในคลิปที่สาวฮินาโกะทานก็ได้รีวิวรสชาติด้วยคะแนนเต็ม 10 คะแนนว่า โชยุมีคะแนน 9 คะแนน โคชูจังมีคะแนน 7 คะแนน น้ำจิ้มซีฟู้ด 10 คะแนน เพสโต 4 คะแนน และซอสพริก 8 คะแนน นับตั้งแต่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ก็มีคนเข้ามารับชมถึง 7.8 ล้านวิว

นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์อีกด้วย เช่น

ไม่มีใครปฏิเสธน้ำจิ้มซีฟู้ดได้

โอ้โหน้ำตาจะไหลในที่สุดก็มีคนรีวิวน้ำจิ้มไทยโดยใช้น้ำจิ้มซีฟู้ดแล้ว ช่องอื่นใช้น้ำปลา น้ำปลาร้าจะร้องไห้

ส่วนตัวการกินของทะเลสด กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและโชยุอร่อยที่สุดละ

กว่าจะได้ 10 คะแนน น้ำปลาหมดหลายขวดละ

ต้องตำเองครับ แซ่บกว่าเป็นขวดเยอะ

‘ทนายรณณรงค์’ เข้าให้ปากคำคดี ‘ทนายตั้ม’ ย้ำ!! ห่างกันนานแล้ว ยัน!! ไม่รู้จัก ‘เจ๊อ้อย’

(16 พ.ย. 67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พนักงานสอบสวนได้เรียก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือ ทนายรณณรงค์ เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับคดีของทนายตั้ม ก่อนเข้าให้ปากคำทนายรณรงค์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ตำรวจสอบสวนกลางเรียกมาสอบพยานคดีทนายตั้ม ยังไม่รู้ว่าจะถามประเด็นอะไรบ้าง แต่น่าจะเป็นคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจจะปมเงินเรื่องของเงิน 71 ล้านด้วย ตนกับทนายตั้มห่างกันแล้ว ตั้งแต่ทนายตั้มเริ่มรวยขึ้น ก็ไม่ได้กินข้าวด้วยกัน ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้าย

นายรณณรงค์ กล่าวว่า ทนายตั้มได้ชวนตนไปบ้าน ชวนไปกินไวน์และกินข้าว แต่ตนยังไม่เคยได้ไป มีการบอกและเล่าให้เพื่อนฟังว่าบ้านที่ซื้อมาราคาเท่าไหร่ และตกแต่งบ้านไปกี่บาท รู้สึกแปลกใจเรื่องราคาบ้าน แต่ไม่เคยถามว่าเอาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อบ้านหลังนี้ เพราะค่าจ้างทนายตั้มมีราคาที่ค่อนข้างแพง

เมื่อถามว่า ผิดปกติกับการทำอาชีพทนายความหรือไม่เพราะร่ำรวยผิดปกติ นายรณณรงค์ ระบุว่า ถึงจะค่าจ้างแพงแต่เงินมันกระโดดไปหน่อย ถ้าทำสำนักงานและมีเรทราคาค่อนข้างสูงและเปิดเป็น10 ปี จะไม่แปลกใจ แต่ถ้าหากเพิ่งเปิดสำนักงานแต่รับเรทขนาดนี้เลย แต่เปิดมาไม่กี่ปีตนก็มองว่ามีความแปลก แต่อยู่ในวิสัยที่ซื้อบ้านได้ในราคานี้ ถ้าหากดูจากค่าจ้างของทนายตั้ม

ถามต่อว่า มีการพูดถึงเรื่องเจ๊อ้อยให้ฟังบ้างหรือไม่ นายรณณรงค์ ย้ำว่า จำไม่ได้ ไม่ได้สำคัญ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักเจ๊อ้อยมาก่อน มารู้จักพร้อมนักข่าว ถ้าหากตำรวจถามเรื่องอะไรก็จะตอบให้หมดเพราะตนเป็นพลเมืองดี ส่วนที่เข้ามาให้ปากคำในวันนี้อาจจะเป็นไทม์ไลน์ที่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงในคดีที่เกิดขึ้นหรือไม่ ทางทนายรณณรงค์ ระบุว่า ต้องเกี่ยวแหละ ไม่งั้นทางตำรวจคงไม่เรียกมา

ไม่ได้กังวลและไม่แปลกใจที่ต้องมาสอบปากคำในวันนี้ แค่แปลกใจว่าทำไมเพื่อนสนิทคนอื่นไม่โดนบ้าง ผมห่างกับทนายตั้มที่สุดแล้ว

เมื่อถามว่าในกลุ่มเพื่อนมีใครคุยกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ว่า ให้ข้อมูลว่าอย่างไร นายรณณรงค์ บอกว่า ไม่มีใครมีข้อมูล และไม่มีใครรับรู้ด้วย ถ้ารู้คงไม่ได้มายืนในจุดนี้

ส่วนจะมีโอกาสเข้าไปเยี่ยมเพื่อนบ้างหรือไม่ นายรณณรงค์ เผยอีกว่า ยังไม่ใช่ช่วงเวลาแบบนี้ รอให้สถานการณ์นิ่ง ไม่มีนักข่าวมาเฝ้า ให้เป็นเรื่องของอนาคต

ทั้งนี้ นายรณณรงค์ เชื่อว่า ตนเชื่อว่าในวันที่ทนายตั้มถูกจับแล้วอ้างว่าไปปฏิบัติธรรมนั้นเป็นความจริง เพราะเวลาที่มีเรื่องทนายตั้มมักชอบไปปฏิบัติธรรม

ผ่ากระบวนท่า!! ‘ประมุขบ้านจันทร์ส่องหล้า’ ตั้งเป้ามากกว่า 200 เสียง... วางกับดัก ‘ปีศาจสีส้ม’

(16 พ.ย. 67) เนื้อในและภาพจริงปฏิบัติการ ‘พระยาเหยียบเมือง’ ของทักษิณ ชินวัตร ที่อุดรธานีเมื่อ 13-14 พ.ย.2567 จะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ในภาพกว้างที่ปรากฏต่อสังคม ต้องยอมระบุว่า ‘นายใหญ่’ ประมุขบ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินของแทร่...

แน่นอนการรับบท ‘ผู้ช่วยหาเสียง’ ผู้สมัครนายกฯ อบจ.อุดรธานี ของพรรคเพื่อไทยคือ ‘ป๊อบ’ ศราวุธ เพชรพนมพร ‘นายใหญ่’ หวังผลยาวไกลไปถึงการปลุกสมรภูมิรบเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าว่า จะต้อง ‘แดงทั้งอีสาน’ และเพื่อไทยต้องได้มากกว่า 200 ที่นั่ง

ศึกชิงเก้าอี้นายกฯอบจ.อุดรธานี 24 พ.ย.ที่จะถึงจึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่สุดของ ‘นายใหญ่’..ถึงได้ย้ำทุกเวทีว่าต้องชนะให้ขาด..อย่าให้ตนต้องอับอาย..

ภายใต้ความมั่นใจว่า 'ป๊อบ ศราวุธ' อดีตสส.4 สมัย ที่หากไม่สอบตกสส.ครั้งที่แล้ว ‘นายใหญ่’ เตรียมเก้าอี้รมช.ต่างประเทศไว้เป็นกำนัลแล้วนั้น จะเป็นต่อในศึกนายกฯอบจ.รอบนี้ แต่ ‘อุดรโพล’ ของม.ราชภัฏอุดร ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าผู้สมัครพรรคประชาชน (ก้าวไกล) นำโด่งร้อยละ 32.5 รองมาเสี่ยป็อบ ร้อยละ15.2 อันดับสุดท้ายดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ ร้อยละ4.5 แต่ร้อยละ 47.9 ยังไม่ตัดสินใจนั้น..

เป็นภาพหลอนทั้งต่อพรรคเพื่อไทย และนายใหญ่...และหากย้อนไปดูผลเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานีเมื่อปี 2563 วิเชียร ขาวขำ พรรคเพื่อไทยชนะ ได้326,933 คะแนน อันดับ 2 ผู้สมัครคณะก้าวหน้า ในเครือข่ายพรรคส้ม 185,801 คะแนน อีก5 ผู้สมัครได้คะแนนรวมกันแสนกว่าคะแนน..

ตัวเลขที่ผู้สมัครเพื่อไทยทิ้งพรรคส้ม 1.4 แสนคะแนนเมื่อ4ปีก่อน  แม้จะพูดได้ว่า ”ชนะขาด” แต่พลังเงียบร้อยละ 47.9  ตามโพลนั้น..พรรคเพื่อไทยหนาวๆ ร้อนๆ..และไม่แปลกที่ระหว่างการปราศรัยหรือสัมภาษณ์ทักษิณจะพาดพิงถึงพรรคประชาชนและธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ...เนื้อใหญ่ใจความก็คือการแนะนำเชิงสอนมวยว่า จุดยืนพรรคส้มก็ดีอยู่หรอกเสียแต่ว่าเอะอะก็จะรื้อโครงสร้างไปทุกเรื่อง รวมทั้งมาตรา 112..

งานนี้..ทำให้ทั้ง2ท.คือ ‘ทอน’ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ‘ทิม’ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อยู่นิ่งไม่ได้ดาหน้ากันมาตอบโต้..ถึงขั้นชักธงรบกลาย ๆ เช่นพิธาบอกว่า..”ขอรับคำท้าคุณทักษิณ เอาอย่างนี้ดีกว่า  มีกฎหมายอะไรที่อยากจะยกเลิกที่คิดว่าล้าหลังไม่ทันสมัยแล้ว ยกเลยได้เลยก็ขอให้มาทำด้วยกัน..”

อย่างไรก็ตามพินิจ..พิศกันลึกๆ แม้อดีตแกนนำพรรคส้มอย่าง 'ทอนกับทิม' จะมีเคืองสุดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับออกอาการรบแตกหัก.. 

จตุพร พรหมพันธ์ อดีตแกนนำคนเสื้อแดงที่กำลังรบแตกหักกับทักษิณอยู่ในนาทีนี้จึงฟันธงว่า...มองผ่านสมรภูมิอุดรฯรอบนี้ยิ่งชัดเจนว่า..ทักษิณกำลังปฏิบัติการย้ำซ้ำให้ ‘ธนาธร’ เป็น ‘ปีศาจตัวใหม่’...ที่น่ากลัวแทนตัวเอง !!

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าข้อสังเกตของตู่ จตุพร น่ารับฟัง...ในขณะที่นักสังเกตการณ์ทางการเมืองจำนวนมากมองว่าแท้จริงแล้ว ทั้งท.ทักษิณและธ.ธนาธร ก็ครือๆ กัน และถึงวันหนึ่งในอนาคตภายใต้เหตุปัจจัยและอุณหภูมิที่เหมาะสมทั้งสองพรรคก็พร้อมจะจูนคลื่นจับมือจ๊วบๆ กัน...

ใช่หรือไม่ว่า..วันนี้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังไม่มีทางเลือก หรือมีแต่ยังไม่พร้อมสรรพ ต้องยอมปล่อยให้ 'นายใหญ่' นำพาประเทศผ่านการครอบครอง ครอบงำ สลัดตัวเองออกจากความเป็นปีศาจ...และชี้โจทก์ไปที่ปีศาจสีส้ม ?? ให้ประเทศติดกับดักปีศาจตัวใหม่..!!??

‘แพทองธาร - สีจิ้นผิง’ หารือ!! นอกรอบ พร้อมดัน!! สร้างทางรถไฟ ‘จีน – ไทย’

(16 พ.ย. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ‘สีจิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน พบปะหารือกับ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีไทย นอกรอบการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 ในกรุงลิมาของเปรู กล่าวว่าจีนและไทยควรเร่งรัดการก่อสร้างทางรถไฟจีน-ไทย และขยับขยายความร่วมมือด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น พลังงานใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์

จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและมีมิตรภาพ แนวคิด ‘จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน’ ได้ยืนหยัดผ่านกาลเวลาและมีพลังชีวิตชีวาใหม่ โดยสีจิ้นผิงย้อนนึกถึงการเยือนไทยในเดือนพฤศจิกายน 2022 และได้บรรลุฉันทามติสำคัญกับคณะผู้นำของไทยเกี่ยวกับการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน พร้อมแสดงความยินดีที่มีการดำเนินการตามผลลัพธ์ของการเยือนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ความร่วมมือทวิภาคีก้าวหน้าเชิงบวกหลายด้านและนำพาผลประโยชน์อันจับต้องได้มาสู่ประชาชน

สีจิ้นผิงกล่าวว่าเนื่องในปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย รวมถึงปีทองแห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ จีนพร้อมทำงานร่วมกับไทยเพื่อสานต่อมิตรภาพดั้งเดิม เสริมสร้างการจัดวางยุทธศาสตร์การพัฒนา ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์บริหารปกครอง เดินหน้าความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ สนับสนุนการสร้างความทันสมัยของทั้งสองประเทศ และผลักดันการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน

จีนและไทยควรเพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การศึกษา และเยาวชน รวมถึงจัดงานอย่างการบูชาพระเขี้ยวแก้วในไทย ผูกโยงสายใยระหว่างประชาชนของสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และส่งต่อมิตรภาพจีน-ไทยจากรุ่นสู่รุ่น

นอกจากนั้นจีนยินดีจะเสริมสร้างการประสานงานและการสื่อสารกับไทยภายใต้กลไกพหุภาคีต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง อาเซียน กลุ่มประเทศบริกส์ และเอเปค เพื่อคุ้มครองความเป็นหนึ่งเดียวกันและความร่วมมือของอาเซียน นานาประเทศในภูมิภาค และมีส่วนส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

ด้านแพทองธารกล่าวว่าปัจจุบันโลกและภูมิภาคกำลังประสบกับความสับสนอลหม่านเพิ่มขึ้น และแผนริเริ่มระดับโลกหลายรายการที่จีนนำเสนอนั้นมีการมองการณ์ไกลเชิงยุทธศาสตร์และเอื้อต่อการเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างประเทศ

ด้วยจีนเป็นเพื่อนที่ดีและหุ้นส่วนที่ดี ไทยนับถือชื่นชมความสำเร็จอันโดดเด่นของจีนในด้านต่าง ๆ เช่น การบรรเทาความยากจน และมุ่งหวังใช้วาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และปีทองแห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นโอกาสส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระดับสูงกับจีน โดยมีเป้าหมายร่วมกำหนดอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นของความสัมพันธ์ไทย-จีนตลอด 50 ปีข้างหน้า

ไทยคาดหวังจะเรียนรู้ประสบการณ์การพัฒนาที่ประสบผลสำเร็จของจีน เดินหน้าความร่วมมือด้านทางรถไฟไทย-จีน และโครงการความร่วมมือตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) อื่นๆ เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชน และส่งเสริมมิตรภาพดั้งเดิมให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยไทยพร้อมเสริมสร้างการทำงานกับจีนภายใต้กรอบพหุภาคีต่างๆ เช่น เอเปค และร่วมคุ้มครองระบบการค้าเสรี

เจ้าสาวสุดช้ำ งานวิวาห์แทบไม่มีรูปสวย ขอแรง!! ช่างภาพช่วยรีทัช คนถกสนั่น

(16 พ.ย. 67) เป็นโพสต์ไวรัล ที่มีคนแชร์ออกไปจำนวนไม่น้อย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ลงในกรุ๊ป ว่าที่เจ้าสาว ส่งต่อของแต่งงาน ช่างแต่งหน้า สถานที่จัดงาน แบ่งปันข้อมูล ซึ่งมีสมาชิกกว่า 265,000 คน

โพสต์ดังกล่าว เธอได้โพสต์ภาพงานแต่งในชุดไทย ทั้งภาพกับเพื่อนเจ้าสาว 3 ใบ พร้อมว่า 

มีพี่ช่างภาพหรือพี่คนไหนรับรีทัชภาพ ทำให้ภาพสว่าง สวยขึ้นมาบ้างมั้ยคะ คือจ้างช่างภาพมาแล้วภาพแต่ละภาพที่ได้ออกมาคือเฮ้อออเลยค่ะ แทบจะไม่มีรูปสวยเลย ตัวอย่างภาพค่ะ นี่คือภาพที่ช่างภาพถ่ายให้ค่ะ

ซึ่งมีคนแชร์ออกไปมากกว่า 400 ครั้งด้วยกัน โดยหลายคนก็ได้เข้ามาโพสต์ภาพที่ปรับแสงให้ใหม่แล้ว ขณะที่หลายคนก็เข้ามาคอมเมนต์แนะนำ อาทิ

ขอแสดงความคิดเห็นตรงๆ นะครับ เรื่องที่ช่างภาพแต่งภาพแต่งรูปให้แบบนี้ก็ดูไม่ไหวจริง ๆ ครับ อีกใจนึงก็สงสารช่างภาพ สภาพแสงแบบนี้ต่อให้โคตรเก่งก็ยังลำบากครับ อีกใจนึงก็เอะใจว่าทำไมออร์แกไนซ์ไม่กันแสงให้ มันทำให้ในรูปออกมาไม่สวยครับ

ช่างภาพไม่มีไฟ ไม่มีแฟลชเลยเหรอ 555 ค่าตัวเท่าไหร่ครับ อยากรู้จริง ๆ

เอาจริง ๆ นะครับ ผมสงสารช่างภาพมาก วางแบ๊กดรอปแบบนี้ ต่อให้ช่างภาพเก่งแค่ไหน ก็ลำบากครับ วางไม่ดูแสงเลย แถมยังไม่หาอะไรมาบังแสงให้อีก วางได้แย่มาก แต่ถ้าเอาจริงๆ รูปแบบนี้มันก็พอแต่งได้อยู่ครับ ไม่เกินความสามารถของช่างภาพหรอกครับ เป็นกำลังใจให้บ่าวสาวนะครับ

มองเป็น 2 ประเด็นครับ คือออร์แกไนซ์เห็นว่าแสงเข้าตอนมาทำฉากไหมครับว่าแสงมันล้น และทแยงเข้ามาแบบนี้ ทำให้ถ่ายยากครับ อันที่จริงแบ๊กดรอปควรอยู่ในจุดที่แสงไม่แรงจนเกินไปครับ บอกเลยแสงแบบนี้ยากครับ สิ่งที่จะช่วยได้จากตัวช่างคือแฟลชครับ แต่ต้องยิงแรงมากๆ มู้ดหายหมด อีกอย่างคือยกเต็นท์งานมาบังแดดครับ ปล่อยให้มืดไปเลย แล้วเอาไฟมาตั้งและผมทำมาแล้วครับ (มีเต็นท์ว่างอยู่พอดี) ยอมเสียเวลาดีกว่ามานั่งแก้ไฟล์ครับ แบบนี้เสียหายทั้งช่างและเจ้าภาพ แต่เห็นใจทั้งคู่ครับ ประสบการณ์จะสอนตัวช่างเองครับ

ถ้าขอไฟล์ Raw มาได้แก้ให้ได้ครับสอบถามได้

ช่างภาพใจร้ายมากกกกก

‘อนุสรณ์’ ย้ำชัด!! อุดร ยังเป็นเมืองหลวง ลุย!! เดินหน้า รักษาโมเมนตัม เชิงบวก

(16 พ.ย. 67) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ช่วยหาเสียงให้นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ว่า พรรคเพื่อไทยยังคงรักษาโมเมนตัมเชิงบวกจากชัยชนะในศึกเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 1 จังหวัดพิษณุโลก ผสานกับผลงานรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่ผลิดอกออกผล

ทั้งโครงการเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจ การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม จากนี้ไปผลงานของรัฐบาลจะเห็นมรรคผลเป็นรูปธรรม ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคัก รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้จัดงบประมาณเพื่อการพัฒนาประเทศมาแล้ว 2 ปี อีก 2 ปีที่เหลือคาดว่านโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส สร้างรายได้ใหม่ แก้หนี้ ปราบยาเสพติด จะเดินหน้าเต็มสูบ

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในสถานการณ์ยากลำบากที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยยังทำได้ดีขนาดนี้ เชื่อว่าช่วงเวลาที่เหลือตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึงกลางปีหน้า จะได้เห็นแสงสว่างกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักสดใสอีกครั้ง

ทั้งนี้ นายศราวุธทำงานอย่างหนัก ชูการสานต่อนโยบายเดิม ริเริ่มนโยบายใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนอุดร พร้อมทำงานสอดประสานกับรัฐบาลที่กำลังเร่งสร้างผลงานอย่างเต็มที่ ปรากฏการณ์ที่นายทักษิณมาช่วยหาเสียง มาเยี่ยมพี่น้องคนอุดรในรอบ 18 ปี ในครั้งนี้ เป็นภาพยืนยันว่าอุดรธานียังคงเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง และเป็นบ้านของพรรคเพื่อไทย

“พรรคเพื่อไทยขอโฟกัสที่ตัวเอง เช่นเดียวกับพี่น้องชาวอุดรธานี ที่ตัดสินใจได้ไม่ยากว่า จะใช้โอกาสนี้เลือกคนทำงาน เลือกคนในพื้นที่ ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ มาทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อสร้างโอกาสให้คนอุดรฯ ต่อไป” นายอนุสรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

'รัฐมนตรีเฉลิมชัย' เร่งแก้ปัญหาPM 2.5 จับมือ 'ผู้ว่าฯ กทม.-นครบาล-ขนส่งทางบก' ปฏิบัติการเข้มขจัดฝุ่นอันตรายในกทม.

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. นำทีมอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ หารือความร่วมมือควบคุมฝุ่น PM 2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานคร ในปี 2568 ร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร และนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เพื่อวางมาตรการแนวทางกาาปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองจากการจราจรและการก่อสร้างในเขตเมือง ที่ห้อง Co-Working Space กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยสถานการณ์ล่าสุดวันนี้ (16 พ.ย.2567) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 07.00 น.ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 17.3-55 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 6 พื้นที่ คือ

1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 55.0 มคก./ลบ.ม.
2.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 45.6 มคก./ลบ.ม.
3.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 44.0 มคก./ลบ.ม.
4.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.
5.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 39.0 มคก./ลบ.ม.
6.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม.

สมุทรปราการ-ผกก.สภ.บางพลี ปล่อยแถวข้าราชการตำรวจ ดูแลความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จัดงานสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

นายขจิตเวช แก้วน้อย นายอำเภอบางพลี พร้อมด้วย พ.ต.อ. ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เป็นประธานร่วมปล่อยแถวข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 

เพื่อลงพื้นที่คอยดูแลความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จัดงานลอยกระทง ประจำปี 2567 อีกทั้ง เพื่อเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมในงานสืบสานประเพณีลอยกระทงในเขตพื้นที่อำเภอบางพลี

นอกจากนี้ ยังได้มอบโอวาทให้แก่ทางข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ที่ได้เสียสละอุทิศตนดูแลความปลอดภัยรับใช้พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงโดยในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งในเขตพื้นที่และในเขตใกล้เคียงเดินทางมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก 

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้มีการประชุมวางแผนรับมือด้านการจราจร รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่เดินทางมาร่วมในงาน อีกทั้ง เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่นักท่องเที่ยวและป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
       

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
✨ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

🟢รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท : 187221

🔴รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท : 187220 , 187222

🔴รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 036 923

🔴รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 980 547

🔴รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท : 38

🟢รางวัลที่ 2 รางวัลละ 200,000 บาท : 856492 739382 164480 459403 339596

🟢รางวัลที่ 3 รางวัลละ 80,000 บาท : 243904 744835 271867 287458 822647
803964 705238 319545 088391 584122

🟢รางวัลที่ 4 รางวัลละ 40,000 บาท: 854444 377347 278756 852768 968311 399138 730035 769620 679006 962056 201819 060223 650025 438914 706630 564974 974578 032420 622075 149320 081623 221831 390470 800670 020102 143088 879859 235398 193067 984918 249235 704511 474735 287080 515974 947933 164159 797585 068457 719828 527535 529166 189506 461418 296736 031147 819942 424200 604235 719577

🟢รางวัลที่ 5 รางวัลละ 20,000 บาท: 822346 577589 393988 737877 888036 455565 763946 466122 982473 244907 436509 895633 541777 831411 171201 585681 306713 730359 229369 040200 719461 332591 777923 647724 720433 504598 508549 190752 925082 429168 361389 992356 680182 419328 200238 447811 796055 273030 279629 032425 148474 986925 799427 410920 247343 260186 057397 428874 204837 025378 625306 216401 727095 856212 944270 908507 269883 300471 921558 301731 441209 780358 525992 941133 542225 768267 643187 657280 308731 612377 852195 092506 645166 848055 911396 464219 477905 171582 731062 340257 047871 650957 653115 216589 448438 269205 440000 101145 867017 992905 715738 344665 694314 301871 028158 606732 363848 345709 369266 033780


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top