Tuesday, 29 April 2025
Hard News Team

พรรคกล้า กทม. ขอรัฐออกมาตรการ เยียวยาผู้กักตัว ขาดรายได้ ทำมาหากินไม่ได้

นายเอกชัย ผ่องจิตร์ หรือโอเล่ เลขานุการกลุ่ม กทม.พรรรกล้า แสดงความเป็นห่วงภาระค่าใช้จ่าย พี่น้องประชาชนที่ต้องกักตัว และรักษาตัวเนื่องจากเชื้อโควิด-19 วอนขอให้รัฐเร่งออกมาตรการเยียวยาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องกักตัวเนื่องจากได้รับผลกระทบต่อการติดเชื้อของ โควิด-19 ในการที่จะต้องขาดรายได้ทำมาหากินซึ่งบางบ้าน บางครอบครัว มีอาชีพค้าขาย แต่ต้องหยุดไป ขาดรายได้ ไม่มีเงิน เพราะมีความใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือ เป็นผู้ติดเชื้อเสียเองในขณะที่กำลังรักษาตัวหรือกักตัวอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นภาระค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าที่ดิน หรือค่าเช่าแผงร้านค้า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน ค่าอยู่ ก็ยังดำเนินต่อ แต่ตนเองไม่มีรายได้ เพราะไม่ได้ออกไปค้าขาย ซึ่งในคลัสเตอร์ ผู้ติดเชื้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลัสเตอร์ก่อนหน้านี้หรือคลัสเตอร์ใหม่ ๆ มีพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบแบบนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนระดับพื้นฐานของประเทศ ที่หาเช้ากินค่ำ 

นายเอกชัย กล่าวว่า รัฐควรใช้ระบบที่มีอยู่ในขณะที่สำรวจผู้ติดเชื้อและผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อที่จะต้องกักตัวให้ลงทะเบียนตามพื้นที่คลัสเตอร์นั้น ๆ เพื่อรับการเยียวยาโดยเร่งด่วน เพราะบุคคลเหล่านั้นได้ผ่านการคัดกรองเชิกรุกของทางภาครัฐไปแล้ว เพราะฉะนั้นข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ ภาครัฐมีอยู่แล้ว และสามารถทำได้เลย จะเป็นการช่วยเหลือด้านเงินเยียวยาผ่านแอพเป๋าตังค์สำหรับผู้กักตัวหรือผู้ติดเชื้อ หรือจะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ ก็สุดแล้วแต่ภาครัฐจะพิจารณา เพราะถ้าหากปล่อยช้าหรือเพิกเฉยก็จะทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ไม่สามารถกักตัวได้ตามเงื่อนไข เพราะจะต้องออกจากบ้านไปค้าขาย ไปทำมาหากิน เพื่อนำเงินไปชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของตนเองและครอบครัว และหากซ้ำร้ายกว่านั้นเกิดตรวจพบภายหลังว่าติดเชื้อก็จะขยายวงกว้างโดยไม่สามารถควบคุมได้

ราเมศ ย้ำ ปชป. เคียงข้างพี่น้องเกษตรกร ประกันรายได้ 7.6 ล้านครัวเรือน ยิ้มได้

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึง นโยบายประกันรายได้ในขณะนี้ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตรที่จะต้องมีราคาที่เป็นหลักประกันได้ว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ประสบกับสภาวะปัญหาขาดทุน และที่สำคัญการต่อยอดนโยบายในเรื่องการตลาดที่มีการเปิดตลาดทั้งในประเทศและนอกประเทศด้วยแล้ว เมื่อความต้องการตลาดมีมาก แน่นอนว่าย่อมทำให้วิถีชีวิตของพี่น้องเกษตรกรมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นเพราะราคาพืชผลเกษตรกรก็จะดีขึ้น เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาดก็เป็นอีกหนึ่งนโยบายเช่นกันที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขับเคลื่อนร่วมกันอย่างเป็นระบบ

พรรคได้หาเสียงเรื่องนโยบายประกันรายได้ไว้และเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยเจตนารมณ์ที่มุ่งหมายของพรรคคือพี่น้องเกษตรกรได้ประโยชน์ ขณะนี้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การประกันรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรก็จะเป็นหลักประกันได้ ให้มีราคาพืชผลทางการเกษตรที่อยู่ได้

นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า ล่าสุดพี่น้องเกษตรกรชาวสวนข้าวโพดกว่า 1.3 แสนไร่  21,071 ครัวเรือน ก็จะได้รับเงินประกันรายได้ งวด 7 และในส่วนโครงการประกันรายได้ปีที่ 2 คือ พ.ศ.2563 / 2564 ในพืชทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยังเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ มีพี่น้องเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 7.6 ล้านครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการประกันรายได้

‘เกศปรียา’ ตั้งข้อสังเกต ทำไมรัฐบาลนี้บริหารสถานการณ์โรคระบาดแบบทำให้คนทั้งประเทศกลัววัคซีนไปได้

‘เกศปรียา แก้วแสนเมือง’ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ เผยว่า ถ้าศึกษาข้อมูลจริง ๆ วัคซีน COVID-19 น่าจะไม่อันตรายเท่า วัคซีนบาดทะยัก วัคซีนพิษสุนัขบ้า ที่เราฉีดกันอย่างสบายใจมาเนิ่นนานแล้ว ชนิดใครโดนสัตว์เลี้ยงกัด หรือเกิดอุบัติเหตุตะปูตำก็เดินเข้าคลินิคไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและบาดทะยักได้ ไม่ได้มีใครวิตกกังวลมากมายก่อนการรับวัคซีน ถามว่าวัคซีนทั้งสองมีโอกาสแพ้มั้ย ก็ต้องบอกว่ามีโอกาสแพ้ ซึ่งอาจจะเยอะกว่าวัคซีนโควิดด้วยซ้ำดูจากวิธีการผลิตวัคซีน โดยอธิบายง่าย ๆ ได้ว่า วัคซีนพิษสุนัขบ้าและบาดทะยักใช้พิษจากเชื้อที่เพาะมาทำวัคซีน แต่วัคซีนโควิด-19 ใช้รหัสพันธุกรรมบางส่วนจากเชื้อที่หมดสภาพ (inactive) มาทำวัคซีน

แต่ประเด็นคือ ทำไมรัฐบาลถึงบริหารสถานการณ์โรคระบาดแบบทำให้คนทั้งประเทศกลัววัคซีนไปได้ขนาดนี้ ระดับคนมีการศึกษาระดับสูงสุดปริญญาเอกยังปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีน ตนวิเคราะห์ว่าน่าจะมาจากการขาดความเชื่อมั่น ที่นายกรัฐมนตรีส่งสารไปสู่ประชาชน การที่พลเอก ประยุทธไม่ยอมฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ทั้งครั้งเเรกเเละครั้งที่สอง ทั้งที่ครั้งเเรกมีข่าวจะฉีดเป็นคนเเรก โดยอ้างอิงจากข่าวในเว็บไซต์ https://www.prachachat.net/politics/news-618072 แต่กลับเบี้ยวไม่มาตามนัด ทั้งที่ทาง รพ.บำราศนราดูร จัดเวทีเตรียมพร้อมไว้ฉีดซิโนเเวคให้เเล้ว เเต่ไม่มา โดย ศ.บ.ค. มาให้ข่าวอ้างว่า ซิโนเเวคไม่เหมาะกับคนอายุเกิน 60 ปี เเต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศ.บ.ค. กลับ ออกมายืนยันว่าคนที่มีอายุ เกิน 60 ปีสามารถฉีดได้ และครั้งที่สองที่พลเอกประยุทธ์ให้ข่าวจะฉีดเเอสตร้าเซเนก้า ทาง รพ.เดิม ก็จัดเตรียมพิธีการกันไว้อย่างดี แต่พอถึงวันก็ไม่มาฉีดอีก โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.bbc.com/thai/thailand-56369384 อีกทั้งมีข้ออ้างว่ายุโรปบอกว่าเเอสตร้าเซเนก้า จะทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือด พฤติกรรมผิดคำพูดไม่มาตามนัดไม่ใช่วิสัยของผู้บริหารที่ดี การโลเลเป็นการทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้ประชาชนไม่มีความมั่นใจในวัคซีน

ดังนั้นถือเป็นความผิดพลาดขั้นสูงสุดของพลเอกประยุทธและรัฐบาล เพราะสาเหตุสำคัญที่มาจากเพราะความไม่เขื่อมั่นในข้อมูลที่รัฐบาลแถลงกลับไปกลับมา ซึ่งการแถลงแต่ละเรื่องออกมาทำให้คนรู้สึกว่ามีวาระซ่อนเร้น ไม่เปิดเผยข้อมูลที่ประชาชนควรทราบ เพื่อประโยชน์ในการอยู่ในอำนาจแบบเห็นแก่ตัว การอยู่ในอำนาจของรัฐบาลเป็นประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งในการตัดสินใจทุกเรื่อง อย่างวัคซีนในช่วงการระบาดรอบที่ 2 เมื่อประชาชนทวงถามว่า ทำไมไทยไม่มีวัคซีนขนาดเพื่อนบ้านแบบกัมพูชา ลาว ยังมีปริมาณการฉีดวัคซีนมากกว่าไทย เป็นเพราะรัฐบาลตัดสินใจผิดพลาดไม่ร่วมกับโครงการจัดหาวัคซีนขององค์การอนามัยโลก (COVAX) ใช่หรือไม่ แทนที่รัฐบาลจะออกมาขอโทษประชาชนว่าตัดสินใจผิดพลาดต่อไปนี้จะเปิดเสรีให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้ กลับให้โฆษก ศ.บ.ค. ออกมาให้ข่าวเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ว่า วัคซีนจะมาช้าหรือเร็วแทบไม่มีผลกับคนไทยเพราะเรามีหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยไว้ดูแลอนามัยส่วนตน ไม่ต้องเจ็บตัวจากการฉีดวัคซีน ซึ่งข่าวสารตรงนี้มีการทำเป็นอินโฟกราฟิกเผยแพร่ไปในวงกว้าง ประกอบกับข่าวอันตรายของผลข้างเคียงของวัคซีน ที่ไม่มีภาครัฐออกมาอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ด้วยการเปรียบเทียบวัคซีนโควิด-19 กับวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า หรือวัคซีนบาดทะยัก

การบริหารจัดการจัดหาวัคซีนก็จัดการในลักษณะที่ทำให้ประชาชนมองว่าไม่โปร่งใส ล่าช้า และน่าสงสัยว่าจะทำเพี่อผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ขอร้องว่า เว้นซักเรื่องหนึ่งได้ไหม เพราะเรื่องนี้มันมีผลกระทบมากมายกับชีวิตประชาชนทั้งประเทศโดยตรง ถ้าอยากมีผลประโยชน์ทับซ้อนก็ไปทับซ้อนกับเรื่องซื้ออาวุธที่รัฐบาลทหารถนัด เพราะอาวุธเหล่านั้นซื้อมาไม่ได้มีประโยชน์อะไร และไม่มีผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน กล่าวคือให้ไปหาผลประโยชน์กับของที่ซื้อมาไว้แล้วไม่ได้ใช้นั่นเอง แต่วัคซีนซื้อมาใช้กับประชาชนทั้งประเทศ ควรบริหารจัดการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและประชาชนในชาติสักเรื่องได้มั้ย 

เกศปรียา กล่าวต่อว่า เห็นรัฐบาลนี้ชอบอ้างว่าเข้ามาปล้นอำนาจไปจากประชาชนเพราะความรักชาติ และไปตำหนิทุกคนที่เห็นต่างว่าไม่รักชาติ แต่ดูพฤติกรรมที่รัฐบาลบริหารสถานการณ์โรคระบาดคราวนี้ พบว่าการตัดสินใจทำแต่ละอย่างดูเหมือนไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเลย แบบนี้เรียกรักชาติกว่าคนอื่นก็ได้เหรอ

ข้าราชการเชิงรุก​ -​ เปิดศึก​ Apple​ VS​ FB | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.4

โดย​ อ.ต้อม -​ กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

สำหรับ​ EP.4 นี้​ ชวนคิดไปกับการทำงานของข้าราชการเชิงรุก​ และอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ของ​โลกแห่งการสื่อสาร...

4.1 วิเคราะห์การทำงานเชิงรุก พ่อเมืองลำปาง ‘ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร’ เหตุใดชาวลำปางกว่าสองแสนคน จึงพร้อมใจลงทะเบียนฉีดวัคซีน

4.2 ใหญ่ ฟัด ใหญ่ นโยบายใหม่ Apple เมื่อทุกความลับต้องเป็นความลับ กับจุดจบการล้วงข้อมูลของ Facebook และเหล่าโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม 

.

.

บุกเมืองหลวงจีน!! ทุเรียนไทยแรงหยุดไม่อยู่ ลูกค้าชาวจีนอุดหนุนล้นหลาม หลังยกพลโชว์พลัง​ในงาน​ 'Thai Fruit Festival'​

เกษตรฯ ปักกิ่ง จับมือ ททท.ร่วมห้างใหญ่คาร์ฟูร์  นำทัพผลไม้ไทยบุกตลาดออนไลน์และออฟไลน์ยอดขายกระฉูด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ว่า กระทรวงเกษตรฯ ยังเดินหน้าฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วย​ '5  ยุทธศาสตร์'​ ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ​ ผ่านการเร่งขยายไปตลาดจีน​ เพื่อส่งออกผลไม้ไทยให้มากที่สุด​ โดยใช้ราชาแห่งผลไม้​อย่างทุเรียนเป็นหัวขบวน​ (Thai fruit brand leader) ด้วยกลยุทธ์ออนไลน์และออฟไลน์ระหว่างวันที่​ 14​ พ.ค.​ ถึง​ 31​ พฤษภาคม

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานปักกิ่ง และห้างคาร์ฟูร์สาขา ซวงจิ่ง เมืองปักกิ่ง จัดกิจกรรมเทศกาลผลไม้ไทย 'Thai Fruit Festival'​ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทย สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมไทยให้กับผู้บริโภคจีน 

โดย สปษ. ปักกิ่งได้จัดเรือผลไม้ขนาดใหญ่​ เพื่อนำเสนอทุเรียน มังคุด ลำไย มะพร้าวน้ำหอม ลิ้นจี่ เงาะ มะม่วง กล้วยไข่ ชมพู่ทับทิมจันทร์ รวมถึงผลไม้แกะสลัก ร่วมจัดแสดงผ่านช่องทางออฟไลน์ของห้างคาร์ฟูร์และช่องทาง Live Stream โดยมีนางสาวปทุมวดี อิ่มทั่ว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) ประจำกรุงปักกิ่ง ได้เข้าร่วมกิจกรรม​ Live-stream บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคาร์ฟูร์​ เหม่ยถวนและซูหนิง เพื่อตอกย้ำความนิยมของผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมสูงในจีน 

ไฮไลท์​ในงานอยู่ที่การนำเสนอข้อมูล​ ตั้งแต่วิธีการเลือก ประโยชน์ของผลไม้ยอดนิยมชาวจีน ได้แก่ ทุเรียน มังคุด และมะพร้าวน้ำหอม พร้อมแนะนำผลไม้ชนิดอื่นๆ ของไทย ที่ผู้บริโภคจีนยังไม่รู้จักมากนัก อาทิ ลองกอง ขนุน ชมพู่ เป็นต้น รวมทั้งประชาสัมพันธ์คุณภาพมาตรฐานของผลไม้ไทยที่ส่งออกมายังประเทศจีน​ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคชาวจีน 

นอกจากนี้ยังมีการสาธิตทำข้าวเหนียวทุเรียนที่นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเป็นการเผยแพร่วิธีการรับประทานทุเรียนที่แปลกใหม่ให้กับชาวจีน ในช่วง Live Stream มีกิจกรรมส่งเสริมการขายทุเรียนราคาพิเศษ และมอบรางวัลกับให้ผู้เข้าชมที่ร่วมตอบคำถามเกี่ยวกับผลไม้ไทย

สำหรับกิจกรรมเทศกาลผลไม้ไทยในครั้งนี้จัดติดต่อกันนาน 15​ วัน ตั้งแต่วันที่ 14​ – 31​ พฤษภาคม 2564 สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชมในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยในช่องทางออนไลน์​ สามารถสร้างยอดวิวได้มากถึง 200,000 คน ซึ่งทางห้างคาร์ฟูร์​ สาขาซวงจิ่ง ได้นำเข้าผลไม้ไทยทั้งหมด​ เพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลผลไม้ไทย ทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ กว่า 300 ตัน โดยแบ่งเป็นทุเรียน จำนวน 150 ตัน  มังคุด 20 ตัน และมะพร้าวน้ำหอม จำนวน 2,000 ลูก ตั้งเป้าว่าจะสามารถขายทุเรียนในเทศกาลผลไม้ไทยดังกล่าวได้มากกว่า 100 ตัน 

งานเทศกาลผลไม้ไทยครั้งนี้​ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ททท. ปักกิ่ง และห้างคาร์ฟูร์ สาขา ซวงจิ่ง ร่วมกันจัดขึ้น​ เพื่อส่งเสริมการค้าขายสินค้าผลไม้ไทย โดยจะเน้นการขายสินค้าผลไม้สดนำเข้าจากประเทศไทย คุณภาพสูง สินค้าอาหารแบรนด์ไทยชั้นนำ เป็นต้น 

ทั้งนี้งานเทศกาลผลไม้ไทยของห้างคาร์ฟูร์ ได้จัดขึ้นทุกปี และในปีนี้ได้ผลตอบรับเกินความคาดหมายและเป็นทางน่าพอใจเป็นอย่างมาก งานดังกล่าวยังได้รับความสนใจจากสื่อหลายสำนัก ได้แก่ Beijing TV, Beijing Youth Daily, Beijing News, Beijing business today, People's Daily ฯลฯ โดยหลังจากการไลฟ์สดสตรีมห้างคาร์ฟูร์สาขาซวงจิ่ง​ มีการขายสินค้าผลไม้ทั้งหมดมากกว่างานเทศกาลไทยในปีที่แล้วถึง 105% อัตราการขายผลไม้โซนร้อนมากกว่าปีที่แล้ว 201% อัตราการขายทุเรียนมากกว่าปีที่แล้ว 238% การซื้อทุเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ของห้างคาร์ฟูร์สาขาซวงจิ่งเพิ่มมากขึ้น​ 800% ส่วนการขายทุเรียนออนไลน์ของห้างคาร์ฟูร์ทั่วปักกิ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 551% โดยห้างคาร์ฟูร์สาขาซวงจิ่งเป็นสาขาที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศจีน

บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบปรับลดเงินสมทบทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เหลือฝ่ายละร้อยละ 2.5 เป็นเวลา 3 เดือน เริ่ม มิถุนายน-สิงหาคม 2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนจากผลกระทบโควิด-19 เตรียมเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการประกันสังคม มีมติเห็นชอบ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. .....

โดยให้ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมฝ่ายละร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 2.5 ของค่าจ้างผู้ประกันตน และผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลืออัตราเดือนละ 216 บาท เป็นเวลา 3 เดือนในงวดเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 ส่วนงวดเดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป ให้ส่งเงินสมทบอัตราเดิม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอก 3 ทั้งนี้ จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์หน้า

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า การลดเงินสมทบในครั้งนี้จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้าง จำนวน 485,113 ราย ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11,164,384 คน และผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1,832,500 คน สามารถนำเงินสมทบที่ลดลงไปใช้จ่ายเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในระยะเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,163 ล้านบาท อันเป็นการลดปัญหาทางการเงินของนายจ้างและผู้ประกันตน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตผู้ประกันตนดีขึ้นและเป็นการรักษาระดับการจ้างงานของนายจ้างอีกด้วย

บิดเบือน > ไม่สร้างสรรค์ > ทำคนเข้าใจผิด

บางครั้งคนพูดต้องการสื่อสารอีกอย่าง แต่กลับมีคนบิดเบือน หรือ นำไปตีความเป็นอีกอย่าง ทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่ายๆ

ยุค Fake News เกลื่อนเมือง ต้องมีสติในการรับรู้ข่าวสารอย่างรอบด้าน

กฟผ. ลดค่าไฟฟ้า 2 เดือน ช่วยร้านค้ารายย่อย

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่าที่ประชุมเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกเดือนเม.ย. 2564 เพิ่มเติม ให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เช่น ร้านค้ารายย่อย และผู้ใช้ไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการกองทัพเรือ โดยลดค่าไฟฟ้าเงื่อนไขเดียวกับมาตรการลดค่าไฟในที่ประชุมครม. วันที่ 5 พ.ค. คือ ระยะเวลา 2 เดือน (เดือนพ.ค.-มิ.ย. 64) เพื่อลดกระทบต่อภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่ม

นอกจากนี้ยังรับทราบแนวทางการบริหารจัดการกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศ ตามข้อเสนอของคณะทำงานบริหารจัดการกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศ และได้มอบหมายให้ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และ กฟผ. ร่วมกันพิจารณาทบทวนสมมติฐานการกำหนดค่ากำลังผลิตพึ่งได้ ของโรงไฟฟ้าของ กฟผ. 

พร้อมกันนี้ยังพิจารณาทบทวนเกณฑ์ จากโอกาสเกิดไฟฟ้าดับที่เหมาะสมในภาพรวมทั้งประเทศและแยกตามรายพื้นที่ และมอบหมายให้ สำนักงาน กกพ. พิจารณาออกแบบสัญญาในการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนให้เหมาะสมกับโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทและการรับซื้อไฟฟ้าจริงของระบบ รวมถึง ปรับปรุงกฎระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มีความเหมาะสมและยืดหยุ่น สอดคล้องกับเทคโนโลยี

สหรัฐฯ พบปัญหาใหม่ บัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอมและขายให้คนที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีน

เมื่อประชาชนในสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนโควิด-19 จะได้รับ “บัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 (COVID-19 Vaccination Record Card)” ซึ่งออกโดย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เพื่อบันทึกว่า คน ๆ นั้นได้รับวัคซีนยี่ห้อใด จากล็อตไหน เมื่อวันที่เท่าไหร่

บัตรรับรองการฉีดวัคซีนดังกล่าวเป็นหลักฐานเบื้องต้นที่จะทำให้สังคมได้มั่นใจว่า คน ๆ นั้นฉีดวัคซีนโควิด-19 มาแล้วจริง ๆ และมีความเสี่ยงต่ำในการแพร่และติดเชื้อ รวมถึงยังเป็นการเก็บข้อมูลไว้สำหรับนัดหมายการฉีดวัคซีนครั้งต่อไป

แต่เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอได้ออกมาเตือนประชาชนในสหรัฐฯ ไม่ให้ทำ ขาย หรือสนับสนุนให้พิมพ์ “บัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ฉบับปลอม”

ขณะที่อัยการของรัฐมากกว่า 40 คน ได้เตือนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์ให้ร่วมสอดส่องและปราบปรามการขายบัตรเปล่าหรือบัตรรับรองปลอม

แม้รัฐบาลกลางหรือรัฐบาลของบางรัฐจะไม่ได้มีข้อกำหนดเข้มงวดว่าประชาชนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 จะต้องแสดงบัตรรับรองเมื่อไปสถานที่หรือรับบริการต่าง ๆ แต่ก็มีบางสถานที่ที่มอบสิทธิพิเศษที่จำกัดไว้ให้เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว

ตัวอย่างเช่น ทีมกีฬาบางทีมจะจัดให้แฟน ๆ ที่มีประวัติการฉีดวัคซีนนั่งในโซนของผู้ที่ฉีดวัคซีนด้วยกัน หรือบางร้าน เช่น Krispy Kreme และ White Castle และอื่น ๆ จะเสนอของสมนาคุณให้เฉพาะผู้ที่มีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19

ขณะที่ก็มีบางองค์กร ออฟฟิศ บริษัท หรือสถาบันการศึกษาบางแห่งระบุว่า อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วเท่านั้นที่จะเข้าสู่พื้นที่ขององค์กรนั้น ๆ ได้

แต่เพราะไม่ใช่ประชาชนทุกคนที่ต้องการฉีดวัคซีน บวกกับเงื่อนไขของบางองค์กรหรือสถานที่ ทำให้มีคนบางกลุ่มมองว่า การปลอมแปลงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ออกโดย CDC อาจเป็นทางออก เพราะเป็นบัตรที่ปลอมแปลงได้ง่าย

เอฟบีไอบอกว่า การทำหรือใช้บัตรรับรองการฉีดวัคซีนปลอม เข้าข่ายใช้ตราของรัฐบาลโดยมิชอบ นั่นเป็นเพราะบัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใช้ตราของ CDC และกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ มีโทษปรับ และจำคุกไม่เกิน 5 ปี

ในแคลิฟอร์เนียมีเจ้าของบาร์ถูกจับกุมเนื่องจากต้องสงสัยว่าขายบัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอม เขาถูกตั้งข้อหาความผิดทางอาญา รวมถึงการปลอมตราประทับของราชการและการขโมยข้อมูล เพราะในบัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะต้องมีการระบุข้อมูลวัคซีนและรหัสของวัคซีนด้วย

CDC ยังขอให้ประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จริง ๆ อย่าถ่ายรูปบัตรรับรองลงโซเชียลมีเดียหรือเอาให้ใครดูโดยไม่จำเป็น เพราะอาจมีคนลอกข้อมูลไปเขียนใส่บัตรเปล่าได้

ดร.ไมเคิล มินา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยาที่สำนักวิชาสาธารณสุขศาสตร์ ม.ฮาร์วาร์ด ระบุว่า การใช้บัตรปลอมนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพราะหากคุณไม่ได้ฉีดวัคซีนจริงแล้วเกิดติดเชื้อ ก็อาจนำไปสู่คลัสเตอร์ใหม่ ๆ ในพื้นที่ที่ควรจะปลอดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศยังรายงานพบ บัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ CDC ฉบับปลอมอยู่ตาม eBay และร้านค้าออนไลน์อื่น ๆ ส่วนมากขายในราคาราว 10-20 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 310-620 บาท)

จอช สไตน์ อัยการสูงสุดของรัฐนอร์ทแคโรไลนากล่าวว่า บุคคลอาจใช้บัตรปลอมเพื่อบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับสถานะการฉีดวัคซีนที่โรงเรียนที่ทำงานหรือในสถานการณ์การใช้ชีวิตและการเดินทางต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในความเสี่ยง 

“การใช้บัตรรับรองการฉีดวัคซีนปลอมที่กำลังขยายตัวนี้อาจทำลายความปลอดภัยของผู้คน ตลอดจนความสำเร็จ ความพยายามในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศ” เขากล่าว

ทางการสหรัฐฯ กำลังมีการพูดคุยกันถึงการพัฒนาระบบหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่าอาจให้เป็นบัตรรับรองที่มีระบบ “แอนตีปรินต์ (Anti-Ptint)” หรือทำเป็นระบบบัตรรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงบัตรแทน

ยังไม่มีรายงานว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปมากน้อยเพียงใด จึงนับว่าสหรัฐฯ อยู่ในความเสี่ยงที่อาจเกิดการระบาดรุนแรงจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของคน

ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 32.8 ล้านราย เพิ่มขึ้นรายวันประมาณ 35,000 ราย เสียชีวิตสะสม 584,000 ราย ส่วนสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ฉีดไปแล้วมากกว่า 264 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 154.8 ล้านคน หรือ 46.78% ของประชากรทั้งประเทศ


ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ

‘นิพนธ์’ รุดติดตามมาตรการป้องกันโควิด-19 จ.สงขลา เร่งรัดนโยบาย “ฉีดวัคซีนโควิด วาระแห่งชาติ” 'ย้ำ' ภาครัฐรณรงค์สร้างความเข้าใจ ฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ผ่อนหนักเป็นเบาได้ 'ยัน' วัคซีนทุกตัวผ่านการรับรองความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มท.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ และการรณรงค์ฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศให้ฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมติดตามผลดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมและปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด

นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า "สถานการณ์ป้องกันไวรัสโควิด-19 วันนี้ของประเทศไทย แนวทางที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันให้ประชาชน โดยประชากรในจังหวัดสงขลามีประมาณ 1.4 ล้านคน โดยตั้งเป้าต้องมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 900,000 คน สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปี และกลุ่มเสี่ยงผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค สามารถจองคิวฉีดวัคซีนทางแอพพลิเคชั่น 'หมอพร้อม' หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน อาทิ รพ.สต. หรือผ่าน อสม. ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดสงขลา ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนหมอพร้อม ขอให้ติดต่อลงทะเบียนได้ในพื้นที่ อาทิ สาธารณสุขอำเภอ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดย สำนักงานธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สงขลา จะรวบรวมรายชื่อและบริหารจัดการด้านสถานที่ให้บริการที่เหมาะสม โดยต้องอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนผู้รับบริการมากที่สุด  ส่วนของบุคลากรของ รพ.สต.ที่ไม่เพียงพอ ขอให้ประสานกับส่วนท้องถิ่น ทั้งจากเทศบาล และ อบต.ที่มีกองสาธารณสุข ให้สามารถลงพื้นที่ช่วย รพ.สต.ในการสำรวจและบูรณาการทำงานร่วมกัน" 

“ขอย้ำว่า หากเราสามารถฉีดวัคซีนโควิดได้มากถึง 70% ของจำนวนประชากรก็จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ทำให้การระบาดของโรคนี้ลดลง กิจการงานต่าง ๆ จะสามารถเดินไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม จึงขอเชิญชวนให้ชาวสงขลาทุกคนร่วมยื่นแสดงความจำนงขอฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ได้ที่ รพ.สต.ทุกแห่ง ซึ่งจะให้ อสม.ไปเคาะประตูบ้านเพื่อรณรงค์เชิญชวนพี่น้องชาวสงขลาให้ไปฉีดวัคซีน หรือไปที่โรงพยาบาลทุกแห่ง วัคซีนทุกตัวที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ได้มีการศึกษาแล้วว่า ทุกตัวมีความปลอดภัยมีประสิทธิภาพที่ดีพอ และมีระบบดูแลความปลอดภัย โดยหลังฉีดจะต้องนั่งพักรอสังเกตอาการ 30 นาที หากมีอาการแพ้รุนแรงก็สามารถดูแลได้ทันท่วงที จึงต้องสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนว่า ฉีดวัคซีนเอาไว้ก่อนเพื่อเอาภูมิคุ้มกันเข้าสู่ร่างกายของเรา สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ อีกทั้งนี้มีคณะแพทย์และพยาบาลที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากฉีดพักดูอาการแล้วด้วย” นายนิพนธ์ กล่าว

จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าตรวจเยี่ยมศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และ ศูนย์บ่มเพาะคนดีมูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นส่วนขยายโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เพื่อรองรับผู้ป่วย COVID-19 และ เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนให้แก่หน่วยงานและประชาชน โดยได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ ชุด PPE จำนวน 150 ชุด และหน้ากากอนามัยจำนวน 4,000 ชิ้นให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ สำหรับใช้ในการปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ให้มีความปลอดภัยป้องกันตนเองในการลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายและติดเชื้อไวรัส COVID-19 และบรรเทาปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยรวมถึงเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับแพทย์ พยาบาล และผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ 

ทั้งนี้ ที่ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลสนามของจังหวัดสงขลาเพื่อใช้รองรับผู้ที่มีอาการติดเชื้อของการระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมีอาคารลำพูนและอาคารลำแพนซึ่งอยู่ภายในสวนประวัติศาสตร์ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์เป็นอาคารรองรับผู้ติดเชื้อ และในส่วนของอาคารศูนย์บริบาลผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาชั้นสองเป็นที่พักของบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ส่วนชั้นล่างใช้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนให้แก่หน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ รวมถึงประชาชนทั่วไป ที่ได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับการฉีดวัคซีน โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลสงขลามาให้บริการในจุดนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top