Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

“อันวาร์”ลาออกตำแหน่งรองเลขาฯปชป. หวังให้พรรคเร่งจัดประชุมใหญ่-เลือกตั้งรองหัวหน้าฯคุมภาคใต้ ชี้ความนิยมพรรคยังตกต่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า  นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา แจ้งการขอลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค เพื่อให้พรรคเร่งจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พร้อมกับจัดการเลือกตั้งตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคฯดูแลภาคใต้ที่ยังว่างอยู่  อย่างไรก็ตาม ในหนังสือแจ้งการขอลาออกของนายอันวาร์ มีสาระสำคัญที่เน้นย้ำถึงกระแสความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังตกต่ำ แต่การที่คณะผู้บริหารไม่รับฟังเสียงเรียกร้องของนายอันวาร์  รวมถึงกรณีที่พรรคฯ ยังไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งขณะนี้มีภาพลบจากปัญหาวิกฤติ“โควิด-19” 

“บิ๊กตู่” สั่งระดมช่วยคุมราคาสินค้าช่วงล็อกดาวน์-เร่งแก้เรื่องร้องเรียน 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เข้มงวดในการตรวจสอบเรื่องราคาทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคในท้องตลาดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เป็นธรรม โดยเฉพาะในส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันโรคแก่ประชาชน อย่างหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งจะกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยและค่าครองชีพของประชาชนในช่วงนี้ได้

ทั้งนี้ รัฐบาลยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ไม่ขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้ เพื่อช่วยกันบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน หากพบมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างไม่เหมาะสม จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้มีการตรวจสอบด้วย หากพบเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน จากการขึ้นราคาสินค้าไม่เป็นธรรม ขอให้เร่งตรวจสอบและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนโดยด่วน 

ในส่วนของการสต๊อกสินค้านั้น กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมพร้อมรองรับการยกระดับมาตรการควบคุมโรคไว้แล้ว โดยได้มีการประสานกับห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรายย่อย เตรียมพร้อมสินค้า โดยเฉพาะด้านอาหาร รองรับความต้องการของประชาชน โดยมั่นใจว่าเพียงพอต่อความต้องการ จึงแนะนำให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าในปริมาณที่พอดี ไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้าไว้จำนวนมาก เพราะสินค้าทั้งด้านอุปโภคและบริโภคมีเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน

ขณะที่ ด้านพลังงาน รัฐบาลมีความพร้อมบรรเทาภาระประชาชนด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน(กกพ.) มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) รอบเดือน ก.ค. – ธ.ค.2564 ให้เรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตรา 3.61 บาทต่อหน่วย ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2564 นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ยังได้ขยายเวลาคงราคา LPG ออกไปอีก 3 เดือน  1 ก.ค. – 30 ก.ย.2564 โดยถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 318 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย

“กพท.” ร่อนหนังสือสั่งแอร์ไลน์งดทำการบิน 3 ทุ่ม-ตี 4 เริ่ม 12 ก.ค.เป็นต้นไป

กพท.ออกประกาศ 8 มาตรการคุมเข้มสายการบินหยุดทำการบินช่วงเวลา 3 ทุ่มถึงตี 4 รับล็อกดาวน์ หวังลดผลกระทบการเดินทางจากสถานการณ์การแพร่เชื้อโควิด-19 ฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.เป็นต้นไป

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ลงนามในประกาศเรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศ ในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 2 เพื่อยกระดับการดำเนินการมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่ขอให้ประชาชนงด หรือชะลอการเดินทางในช่วงเวลานี้ โดยไม่มีเหตุจำเป็น

ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคที่สอดคล้องกับข้อกำหนดดังกล่าว สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศกำหนดแนวปฏิบัติ ดังนี้

1. ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับ ผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์ การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประกาศ ณ วันที่ 17เมษายน พ.ศ.2564 และ ให้ใช้ประกาศฉบับนี้แทน

2. ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศจำกัดการปฏิบัติการบินในระหว่างช่วงเวลา21.00 – 04.00น. เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้โดยสารในการเดินทางระหว่างสนามบินและที่พัก และสอดคล้องกับบริการ ขนส่งสาธารณะประเภทอื่นที่ดำเนินการตามข้อกำหนดและข้อปฏิบัติเดียวกัน

3. ในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบินและการรวมเที่ยวบิน ให้มีการแจ้งและดูแลผู้โดยสารอย่างเหมาะสม ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทาง บินประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2563

4.ก่อนออกบัตรโดยสาร ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้โดยสาร ตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัดปลายทางอย่างเคร่งครัด หากตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน อาจพิจารณระงับการออกบัตรโดยสารแก่ผู้โดยสารนั้น

5. ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศพิจารณาการจัดที่นั่งในเครื่องบินอย่างเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร ในแต่ละเที่ยวบิน โดยคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัด อันจะมีส่วนช่วยใน การป้องกันควบคุมโรค

6. ให้ผู้ประกอบการสนามบินติดตามดูแลให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ ในเขตพื้นที่สนามบิน ปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ศบค.) โดยเคร่งครัด

7.ให้ผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามดูแล ให้ประชาชนผู้มาใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการในระเบียบสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ว่าด้วย แนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564 โดยเครงครัด

8.ให้ผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งเตือนผู้โดยสารกรณีเป็นผู้ป่วยยืนยัน หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้งดการเดินทาง หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

ทั้งนี้ สำหรับประกาศนี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 12กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุดไป หรือมีประกาศอื่นใดเพิ่มเติม ประกาศ ณ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
 

กห.ปช.ฝ่ายความมั่นคง เร่งเตรียมกำลังสนับสนุนมาตรการรัฐ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด พื้นที่สีแดงเข้ม อย่างเข้มงวด 

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ  ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมหน่วยงาน กอ.รมน. นขต.กลาโหม เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC เพื่อเร่งเตรียมความพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติตามมาตรการ ศบค.ที่กำหนด

สำหรับภาพรวมฝ่ายความมั่นคงโดย ศปม.ได้เร่งปรับแผนและสนธิกำลัง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง โดยใช้กำลัง ตร.เป็นหลัก กระจายลงพื้นที่จัดตั้ง จุดตรวจ จุดสกัดร่วม รวมทั้งจัดตั้งสายตรวจเคลื่อนที่เร็ว ลงปฏิบัติการในพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทั้ง 10 จังหวัด แล้ว ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ( 10 ก.ค.)

ทั้งนี้ได้ร่วมจัดตั้งจุดตรวจในพื้นที่ กทม.รวม 88 จุด พื้นที่ 5 จังหวัด ปริมณฑล จำนวน 22 จุด และใน 4 จชต.รวม 35 จุด ร่วมกันทำหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจและให้คำแนะนำการปฏิบัติกับประชาชนถึงมาตรการต่างๆ ที่ ศบค.กำหนด 

โดยเฉพาะการจำกัดการปฏิบัติในการเคลื่อนย้าย รวมทั้งข้อกำหนดและข้อจำกัดในกิจกรรมและเวลาที่กำหนด  ทั้งนี้จะเริ่มเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายต่อเนื่องตั้งแต่ 12 ก.ค. เป็นต้นไป เพื่อคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้ม รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการหยุดแพร่กระจายของโรคและการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนจากปัญหาอาชญกรรมในคราวเดียวกัน

ขณะเดียวกัน ทุกเหล่าทัพอยู่ระหว่างเร่งขยายขีดความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์แถวสอง และยกระดับขีดความสามารถ รพ.สนามให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและแดงที่เพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอ รวมทั้งได้จัดรถพยาบาลสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยตามบ้าน เข้าสู่ระบบการรักษาแล้ว 9,296 รายโดยทำงานร่วมกับ สธ.อย่างใกล้ชิด

โดยพล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพและตร.สนับสนุน ศปม.ในการเตรียมกำลังเสริมและปรับแผนให้สอดรับครอบคลุมงานความมั่นคงตามข้อกำหนดของ ศบค.ที่จะประกาศ โดยให้ประสานทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองของจว.และ กทม.โดยเฉพาะคณะกรรมการควบคุมโรค จว.อย่างใกล้ชิด และขอให้ทุกเหล่าทัพให้ความสำคัญ คงความเข้มข้นเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องกันไป หลังจาก 5 วันที่ผ่านมา สามารถจับผู้ลักลอบเข้าเมืองได้เกือบ 300 คน  

นอกจากนั้น พล.อ.ชัยชาญ ยังได้ย้ำให้ทุกเหล่าทัพ วางแผนกระจายกำลังเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคของรัฐที่กำหนด โดยขอให้จัดรถครัวสนามและสิ่งของจำเป็นเข้าไปช่วยเหลือชุมชนต่างๆ รวมทั้งเตรียมพร้อมจัดรถพยาบาลเข้าไปช่วยเหลือนำพาผู้ป่วยตามบ้าน เข้ารับการรักษาใน รพ.สนามที่จัดตั้งขึ้นโดยเร็ว

ก่อนเลิกประชุมในตอนท้ายพล.อ.ชาญชัย ได้ย้ำถึงคำสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์’ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนไปพร้อมๆกัน เพื่อให้เกิดการสนับสนุนและความร่วมมือกันหยุดเชื้อควบคุมโรคในสถาการณ์วิกฤตที่ต้องการความร่วมมือกันทุกฝ่ายสูงสุด พร้อมทั้งได้แสดงความห่วงใยในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในระดับพื้นที่ทุกนาย โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังไม่ประมาทและขอให้ทุกเหล่าทัพ เร่งฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกนายเป็นการเร่งด่วน

“ผบ.ทสส.” ปช.หน่วยมั่นคง จัดกำลังตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด -สายตรวจ คุมเข้มทุกพท. เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค ตามนโนบายรัฐบาลและศบค.

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) พล.ต.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผบ.ทสส/หน.ศปม.) สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคง เริ่มดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด และชุดสายตรวจในการลาดตระเวนเพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติ การเดินทางข้ามพื้นที่อย่างเข้มงวดในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต จำนวน 88 จุด ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนจากมาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดฯ ของบุคคลในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 10 จังหวัด ให้บังคับใช้บทลงโทษตามแห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ทั้งนี้ ผบ.ทสส/หน.ศปม. ได้ขอความร่วมมือกำลังพลและครอบครัว รวมทั้งประชาชนทุกภาคส่วน มีความเคร่งครัดในการปฏิบัติตามการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยขอให้งดเว้นการจัดกิจกรรมทุกรูปแบบที่อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค พร้อมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของทหารที่ประจำอยู่ในพื้นที่ควบคุมจุดตรวจหรือด่านตรวจต่างๆ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนต้องเคร่งครัด รวมทั้งการปฏิบัติเพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อที่อาจลักลอบเข้ามาในราชอาจักรไทย

สำหรับ การควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ตามแนวชายแดนนั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการปฏิบัติโดยการเพิ่มกำลังทหาร ตำรวจ สนธิกำลังกับกองกำลังป้องกันชายแดน อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้เน้นย้ำการวางจุดตรวจพื้นที่ที่สำคัญ เพื่อป้องกันการข้ามเข้ามายังประเทศไทย พร้อมทั้งสั่งการให้ใช้เครื่องมือพิเศษตรวจพื้นที่ และประสานกระทรวงมหาดไทยใช้ชุมชนเข้มแข็งตามแนวชายแดนช่วยตรวจตราแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลควบคุมพื้นที่ทหารที่ทำหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นและเข้มงวดในมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันให้ได้มากที่สุด

ในห้วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน โปรดให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามที่ภาครัฐกำหนดโดยเคร่งครัด งดการออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลาที่กำหนดโดยไม่มีความจำเป็น หลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from home) อย่างเต็มรูปแบบ ร่วมกันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ  มีวินัยในการปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค โดยกองทัพไทยพร้อมเคียงข้างพี่น้องประชาชนและจะปฏิบัติภารกิจเพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถเพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ไปด้วยกัน

ทอ.เปิดโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ที่จังหวัดลพบุรี รับมือโควิด มั่นใจมีความพร้อมเปิดรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทันที

 พล.อ.ท. ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด19 ในประเทศไทยแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งมีข้อจำกัดจำนวนเตียงไม่สามารถรองรับกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้น กระทรวงกลาโหมจึงได้สั่งการให้เหล่าทัพจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น เพื่อรองรับขีดจำกัดของสถานพยาบาลต่าง ๆ 

พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงสั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ (ศป.พรท.ศบภ.ทอ.) เร่งดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อสนับสนุนรัฐบาลและ ศบค.อย่างเร่งด่วน โดยพิจารณาใช้อาคารและสถานที่ และขีดความสามารถของหน่วยที่มีอย่างเต็มความสามารถ 

กองทัพอากาศ ร่วมกับ จังหวัดลพบุรี และ สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี รวมทั้งโรงพยาบาลท่าวุ้งและบริษัท บี.ฟู้ดส์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด จัดตั้ง ”โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (กองบิน 2) จังหวัดลพบุรี” บริเวณอาคารศูนย์ฝึกภาคพื้นทางยุทธวิธีกองทัพอากาศ กองบิน 2 จำนวน 5 อาคาร เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการและสามารถดูแลตัวเองได้ (กลุ่มสีเขียว) รวมทั้งสิ้นจำนวน 400 เตียง โดยแบ่งโซนผู้ป่วยชาย จำนวน 2 อาคาร รวม 160 เตียง และโซนผู้ป่วยหญิง จำนวน 3 อาคาร รวม 240 เตียง พร้อมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับตัวอาคารมีรั้วกั้นโดยรอบพื้นที่ การกำหนดเส้นทางการเข้าออก ทั้งเส้นทางที่ปลอดเชื้อ และเส้นทางกรณีฉุกเฉิน  ซึ่งมีการซักซ้อมการปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วนับเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 ของจังหวัดลพบุรี 

กองทัพอากาศขอให้ประชาชนมั่นใจว่า “โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (กองบิน 2) จังหวัดลพบุรี”ได้รับการตรวจและรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ตลอดจนมีความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลท่าวุ้ง เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ได้เปิดให้บริการรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 วันแรก จำนวน 134 คน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา กองทัพอากาศขอยืนยันว่า จะใช้ขีดความสามารถทั้งด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยมุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีสุขภาพดีและปลอดภัยจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

“เสกสกล” รับ คนแห่ต่อคิวตรวจโคิวิด-19 แน่น ยัน รัฐ เร่งเปิดจุดตรวจเชื้อ วอน ปชช.เชื่อ “บิ๊กตู่”พาพ้นวิกฤต

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ปรากฎภาพประชาชนต่อแถว รอการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ว่า ยอมรับว่าประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกสบาย โดยศบค.ยืนยันที่จะเร่งเปิดจุดตรวจหาเชื้อให้มากขึ้น นอกจากนั้นกระทรวงสาธารณสุข มีมติให้กำหนดแนวทางการใช้วิธีตรวจหาแอนติเจนโดยใช้ ชุดตรวจโควิด Rapid Antigen Test โดยสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนที่ผ่านการรับรองทางห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจ SARS-CoV-2 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อแก้ปัญหาประชาชน เข้าไม่ถึงบริการตรวจโควิดเพราะต้องรอคิวจำนวนมาก 

นอกจากนั้นยังเพิ่มความสามารถรักษาพยาบาล โดยจัดตั้ง รพ.สนาม ไอซียูสนาม แยกกักในชุมชน แยกกักที่บ้าน ปรับแผนการกระจายวัคซีน เร่งฉีดผู้สูงวัยที่อายุมากกว่า 60 ปี กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ให้ได้ 1 ล้านโดส ภายใน 2 สัปดาห์ และจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ฉีดเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และเร่งจัดหาวัคซีนที่ประชาชนต้องการมาฉีดให้ประชาชน

“ยืนยันว่านายกฯจะทำทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งดูแลด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ เยียวยา และบริหารจัดการวัคซีนให้ประชาชนทุกคน ขอให้ประชาชน เข้าใจว่านายกฯทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ และนายกฯ ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนรักษาตนเองให้ปลอดภัย อย่าเชื่อ
เฟกนิวส์ ข่าวบิดเบือน ข่าวปลอม หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่เล่นการเมือง จ้องโจมตีทำลายความเชื่อถือของรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อก้าวข้ามวิกฤตไปด้วยกัน

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้  EP.3/1 ตอน Local Creative Culture & Better Living ลายเซ็นสุด Proud ของสื่อก้อนเมฆที่ชื่อ ‘THE Cloud’

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้  EP.3/1 ตอน Local Creative Culture & Better Living ลายเซ็นสุด Proud ของสื่อก้อนเมฆที่ชื่อ ‘THE Cloud’

พบกับ ‘ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Cloud and Ground จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้งสื่อน้ำดีที่ชื่อ ‘THE Cloud’

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES 

.

.


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โครงการครัวคนรักปทุม ลำลูกกา ทำข้าวกล่องมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

(11​ ก.ค.64​ ปทุมธานี)​ ที่บริษัท เค เอส เอส อินเตอร์เทด กรุ๊ป จำกัด ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยคณะทำงานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก​ อบจ.ปทุมธานี จัดโครงการครัวคนรักปทุม ลำลูกกา เพื่อทำข้าวกล่องนำไปมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยมี ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง คณะทำงานและที่ปรึกษา​พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมด้วย สมาชิกคณะทำงานคอยให้การต้อนรับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี

จากนั้นดร.เกียรติศักดิ ส่องแสงได้กล่าวความเป็นมาของโครงการครัวคนรักปทุม ลำลูกกาให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานีทราบ ต่อจากนั้นก็ได้นำข้าวกล่องมอบให้กับคณะทำงาน เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้าน

ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง ให้รายละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่าการจัดโครงการครัวคนรักปทุม ลำลูกกาในครั้งนี้ เป็นโครงการที่ ประกอบอาหารปรุงสด ทำเป็นอาหารข้าวกล่อง เพื่อที่จะนำไปมอบให้กับประชาชนผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 ที่รอการรับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

"สำหรับโครงการนี้เราต้องการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อจากผู้ที่ติดเชื้ออยู่แล้วออกมาหาอาหารทานกันเองนอกบ้าน เราจึงต้องหาอาหารเครื่องดื่มและของใช้ที่จำเป็นไปส่งมอบให้กับเขาเหล่านี้

"วันนี้ก็ได้รับโอกาสจากพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานีและท่านรองนายก ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก็ขอความร่วมมือจากประชาชนเมื่อท่านเป็นผู้ติดเชื้อเป็นผู้ป่วยก็ขอให้ท่านได้เปิดเผยว่าท่านรอการรักษา ทางคณะทำงานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนหายจากการเจ็บป่วยโดยเร็ว แล้วเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน"

ที่มา: ภาพ/ข่าว วะจะนะชัย วาจาพารวย/รายงาน

เกษตรทันสมัย!! ดัน​ 77​ จังหวัดไทย​ พึ่งตนได้อย่างยั่งยืน | Contributor EP.19

อนาคตของภาคการเกษตรไทย 77 จังหวัดไทย ต้องพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน

เปลี่ยนภาพเก่า ชาวนาคลุกฝุ่น ชาวไร่คลุกดิน สู่สังคมการเกษตรไทยโฉมใหม่ หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งดำเนินยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเกษตรทันสมัยภายใต้ ‘5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย’ ได้ขับเคลื่อน AIC (Agritech and Innovation Center) หรือ ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม ในระยะเวลาเพียง 1 ปี ก็เห็นผล

- ช่วยยกระดับวงการเกษตรไทย ผ่านการบูรณาการทุกภาคส่วน
- ร่วมหัว จมความคิด พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แตะต้องได้
- ถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ ไปสู่เกษตรกรตัวจริง
- ใช้งานได้ง่าย ราคาถูก เพิ่มผลผลิต และปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตรไทยได้ทุกมิติ ทั้งผลิตผล และสินค้าแปรรูป

กลไกใดที่ทำให้วงการเกษตรเริ่มขยับไปในทิศทางที่น่าจะใช้คำว่า ‘ถูกต้อง’ ได้

กระทรวงเกษตรฯ เสกคาถาใด ถึงเริ่มเปลี่ยนทิศเกษตรดั้งเดิม มาสู่เกษตรยุคใหม่ 

ร่วมถอดรหัส เบื้องหลังเกษตรทันสมัย ภายใต้ ‘5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย’

77 จังหวัดไทย ต้องพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน จาก คุณอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ 

.


 


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top