Tuesday, 20 May 2025
Hard News Team

Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.2/3 ตอน ประวัติศาสตร์ชาตินิยม คือ การแบ่งแยกคนชาติพันธุ์ออกจากความเป็นคนไทย 

Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.2/3 ตอน ประวัติศาสตร์ชาตินิยม คือ การแบ่งแยกคนชาติพันธุ์ออกจากความเป็นคนไทย 

การไม่ยอมรับว่าสังคมไทยเป็นพหุทางวัฒนธรรม ทำให้คนชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆ ถูกแบ่งแยกออกไปโดยปริยาย แล้วคนเหล่านั้นมักจะถูกละเมิดทั้งทางร่างกายและจิตใจ

พบกับ มานพ คีรีภูวดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล 

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา Host & Content Creator THE STATES TIMES
.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ธนกร’ วอนกลุ่มไม่หวังดีหยุดสร้างเฟคนิวส์โจมตีงบ 65 จวกสร้างความสับสนให้ประชาชนยิ่งซ้ำเติมประเทศ จี้ดีอีเอสเร่งเอาผิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2565 ในวาระแรก ก็มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีออกมาสร้างข่าวเท็จเผยแพร่ตามโซเชียลต่างๆ ในหลายประเด็นด้วยกัน อาทิ 

1.) สถาบันพระมหากษัตริย์ได้งบประมาณปี 65 จำนวน 3 หมื่นกว่าล้านบาท ทั้งที่ในข้อเท็จจริง เป็นงบประมาณที่รัฐบาลโดยหน่วยงาน/กระทรวงต่างๆ ดำเนินการให้กับประชาชนตามแนวทางพระราชดำริ ที่เน้นพัฒนาคุณภาพชีวิต/ปากท้องของประชาชน ส่วนงบสำหรับหน่วยงานในพระองค์ได้รับงบประมาณ 8,761 ล้านบาท คิดเป็น 0.26% ของงบประมาณประเทศทั้งหมด และได้รับลดลงจากปี2564 จำนวน 219 ล้านบาท ซึ่งโดนปรับลดด้วยซ้ำไป นายธนกร กล่าวต่อว่า 

2.) งบของกระทรวงศึกษาถูกตัด 20,000 ล้านบาท ทั้งที่ในความจริง งบกระทรวงศึกษาลดลงร้อยละ 1.14 เนื่องจากจำนวนนักเรียนลดลง 60,000 คน ตามโครงสร้างประชากรของประเทศที่มีอัตราการเกิดลดลง แต่งบประมาณในเรื่องพัฒนาการศึกษาเพิ่มมากขึ้นจากปี 2563 ถึง 5,000 ล้านบาท คิดเป็น 103.27% 

3.) งบกระทรวงสาธารณสุขถูกตัด 4,300 ล้านบาท ทั้งๆ ที่โควิดระบาดหนัก ในความเป็นจริง งบกระทรวงสาธารณสุขที่ถูกตัด เป็นค่าใช้จ่ายฝึกอบรมสัมมนา ค่าใช้จ่ายการประชุม ค่าใช้จ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่กระทบการให้บริการประชาชน และด้านการเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์กลับได้งบประมาณเพิ่มถึง 10,000 ล้านบาท 

4.) กล่าวหาว่างบสถาบันวัคซีนให้แค่ 22 ล้านบาท ทั้งที่ความจริงรัฐบาลตั้งงบประมาณปี 63-64 และใช้เงินกู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องจัดหาวัคซีนทั้งจากต่างประเทศและผลิตในประเทศ 21,000 ล้านบาท นายธนกร กล่าวอีกว่า 

5.) มีการกล่าวหาว่า งบประมาณบัตรทองถูกตัด 2,000 ล้านบาท ทั้งที่ในความเป็นจริง งบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี 2565 ได้รับงบประมาณสูงถึง 198,891 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2564 ที่ตั้งไว้ 194,508 ล้านบาท และมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลให้ประชาชนอีก13 รายการ 

6.) ข้อกล่าวหาว่างบกองทัพได้เพิ่ม 2,700 ล้านบาท และงบประมาณสูงมากกว่างบกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่ในข้อเท็จจริง งบประมาณด้านสาธารณสุข 295,673.9 ล้านบาท สูงกว่างบประมาณ กลาโหม 92,399 ล้านบาท กระทรวงกลาโหมถูกลดงบประมาณจากปี 2563-64 อย่างต่อเนื่อง ปี 2563 อยู่ที่ 232,000 ล้านบาท ปี 64 อยู่ที่ 215,000 ล้านบาท และปี 65 อยู่ที่ 203,000 ล้านบาท และตัวเลขที่ฝ่ายค้านกล่าวว่ากองทัพได้งบเพิ่มนั้นเป็นตัวเลขที่นำเอาเฉพาะโครงการด้านยุทโธปกรณ์ของปีงบประมาณ 64 และ 65 มาคำนวณ และกล่าวหาว่ากองทัพได้งบประมาณเพิ่มเติม ทั้งๆ ที่ในภาพรวมงบกลาโหมถูกตัดเยอะเป็นอันดับต้นๆ และ

7.) งบบัตรสวัสดิการประชารัฐ ถูกตัด 20,000 ล้านบาทแต่ในข้อเท็จจริงเนื่องจากกองทุนบัตรสวัสดิการประชารัฐยังเหลือเงินอยู่ 20,400 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมกับงบประมาณปี 65 ที่ตั้งให้ 30,000 ล้านบาท จะมีเงินให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 50,000 ล้านบาท กับประชาชนที่ได้รับบัตรสวัสดิการ 14.6 ล้านคนครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ตนหวังว่าการกระทำดังกล่าวคงไม่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้กับประเทศ และขอให้กระทรวงดีอีเอสเร่งดำเนินการเอาผิดคนกลุ่มนี้ทันทีด้วย


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ'​ ชวนบริจาค!! ช่วยสานฝัน ปันสุข สร้างอนาคต ให้คนพิการ ได้ท้องอิ่ม มีแรงสู้ต่อไป

'มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ'​ ชวนบริจาค!! ช่วยสานฝัน ปันสุข สร้างอนาคต ให้คนพิการ ได้ท้องอิ่ม มีแรงสู้ต่อไป

เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564 'มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ'​ องค์กรสาธารณะกุศลด้านคนพิการ ที่ดูแลผู้พิการกว่า 800 คน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ณ เวลานี้เข้าขั้นวิกฤติหนัก ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง และของใช้จำเป็นในการเลี้ยงดูคนพิการที่อยู่ในความดูแล ขาดแคลน เดือนร้อนถ้วนหน้า วอนพี่ๆ​ น้องๆ​ และประชาชน ช่วยบริจาคข้าวสาร อาหาร และของใช้จำเป็นต่างๆ เพื่อต่อลมหายใจให้คนพิการ ให้ท้องอิ่ม มีแรงสู่ชีวิตต่อไป เผยหลังโควิด-19 พ่นพิษยอดบริจาคลด กระทบหนัก เป็นช่วงเวลาที่คนไทยต้องช่วยกัน หรือท่านจะใดสะดวกบริจาคเป็นเงินได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 โดยในการบริจาคสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ สนใจให้การข่วยเหลือ โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8100, 8102   

'ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์'​ เลขาธิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เปิดเผยถึงการระบาดระลอก 3 ของ โควิด-19 ที่รุนแรงกว่าเดิม ส่งผลให้สภาวะเศรษฐกิจที่ทำท่าจะดีกับตกต่ำอย่างต่อเนื่องลงไปอีก อันเป็นเหตุให้การดำเนินงานของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ได้รับผลกระทบอย่างหนักถึงขึ้นวิกฤติก็ว่าได้

เนื่องจากขาดแคลนข้าวสารอาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ อย่างหนัก​ โดยทางมูลนิธิฯ​ จำเป็นต้องบริโภคข้าวสาร 7​ หมื่นกิโลกรัมต่อปี สืบเนื่องจากมูลนิธิฯ มีนักเรียนและนักศึกษาทึ่เป็นคนพิการในความดูแลที่อาศัยอยู่ประจำ รวมบุคลากรและครู ซึ่งอยู่ในความดูแลกว่า 800 คน โดยทั้งหมดนี้​ มูลนิธิฯ​ ดูแลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือคนพิการในทุกๆ เรื่องเพื่อให้พวกเขาเหล่านี้มีวิชาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้เลี้ยงตนเอง ครอบครัว และอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม  

นอกจากนี้ สถาบันศึกษาในการดูแลของมูลนิธิฯ​ ทั้ง 4 แห่งเป็นการให้บริการแบบประจำที่มูลนิธิฯ​ จะต้องดูแลทั้งในเรื่องที่พัก อาหาร การจัดการศึกษาและกิจกรรมอื่นๆ​ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากคนพิการมีฐานะยากจน ดังนั้นมูลนิธิฯ​ จะต้องหางบประมาณเพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการ โดยการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา รวมไปถึงการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

“สำหรับเรื่องของอาหาร ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ณ เวลานี้ เนื่องจาก สต๊อกข้าวสารอาหารแห้งและของใช้จำเป็นของมูลนิธิลดลงอย่างมาก เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤติก็ว่าได้ จึงวอนขอความเมตตาจาดผู้มีจิตศรัทธาที่พอจะมีกำลัง​ ให้ช่วยบริจาคข้าวสาร อาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ อาทิ นม ทิชชู่ น้ำมันพืช หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ทั้งแบบเจลและแบบน้ำ เป็นต้น เพื่อต่อลมหายใจให้คนพิการ ให้ท้องอิ่ม มีแรงสู่ชีวิตต่อไป 

หรือท่านใดไม่สะดวก​ สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือผู้พิการเหล่านี้ได้ โดยโอนเงินผ่าน ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 ทั้งนี้นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้หรือสอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8100, 8102 มือถือ 099-394-4795, 094-665-2223” เลขาธิการมูลนิธิฯ กล่าวในท้ายสุด

'คนพิการ'​ น้ำตาคลอ!! ซึ้งใจได้รับบริจาค 'รถวีลแชร์'​ เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน

นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน ได้รับมอบ 'รถวีลแชร์'​ จาก 'นายสายันต์  ดีเลิศ'​ นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพและช่วยเหลือรถเข็นเพื่อคนพิการ (จ.ปทุมธานี) จำนวน 1 คัน เพื่อส่งต่อมอบไปยัง 'ผู้สื่อข่าว'​ ในพื้นที่ ซึ่งติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านทาง รายการ "คนละไม้_คนละมือ" ว่า... 

มี "คนพิการ" คนหนึ่งมีความลำบากในการลุก ในการนั่ง ในการเคลื่อนย้ายตัวเอง อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 14 ต.คลองกระจัง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ 67170 ทราบต่อมาคือ "นายเทียม ซีกพุดซา" อายุ 54 ปี เป็นสามี "นางสวิง ซีกพุดซา" อายุ 54 ปี มีอาชีพทำไร่ทำนา อาศัยอยู่บ้าน เนินโบสถ์ บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 14 ต.คลองกระจัง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ 67170 

นางสวิง ซีกพุดซา ผู้เป็นภรรยา เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัว 2 อย่าง ความดันโลหิตสูง และ ไต ได้กินยามาตลอด 

เมื่อเดือน มีนาคม 2561 มีอาการ แขน ขา อ่อนแรง หมอเอกซเรย์พบเนื้องอกในสมองทั้ง 2 ข้าง ทางโรงพยาบาลวิเชียรได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เพื่อทำการผ่าตัดด่วน เพราะเนื้องอกใหญ่และบีบสมอง​ โดยได้ทำการผ่าตัดวันที่ 8 มีนาคม 2561 แต่หลังจากนั้นก็เดินไม่ได้เป็นอัมพาตซีกซ้ายกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ทางครอบครัวยากจนมาก​ จึงจำเป็นต้องขายที่อยู่อาศัยเพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย เพราะผู้ป่วยชักบ่อยมาก​ ต้องทนทุกข์ถึง 11 เดือน และต่อมาต้องผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยเอากะโหลกออกแล้วสูญเสียความทรงจำ

ด้วยความยากลำบากต้องขายบ้านอีกครั้งหนึ่งเพื่อค่าใช้จ่ายประจำวัน ทุกวันนี้ขัดสนมาก เงินจะซื้อแพมเพิสผู้ใหญ่ ก็ไม่มี อาศัยอยู่ที่ดินของแม่ยาย ไร่นาไม่มีทำ ไม่มีรายได้​ เพราะนายเทียมต้องดูและนางสวิงตลอดเวลา จึงขอความเมตตาจากท่านทั้งหลายในครั้งนี้ด้วยครับ

หากท่านผู้ใดมีเมตตากรุณาอยากช่วยเหลือครอบครัวนี้​ ก็สามารถติดต่อได้ที่ นายเทียม ซีกพุดซา ได้ที่ (โทร 081-182-4417) หรือจะช่วยในเรื่องของใช้ก็ได้ โดยเฉพาะแพมเพิสผู้ใหญ่ ใช้เบอร์ m หรือถ้าจะช่วยเหลือเรื่องเงินก็ได้ที่บัญชีธนาคาร 020162419474 ธนาคารเพื่อการเกษตร สาขาศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ นายเทียม ซีกพุดซา สามีผู้ป่วย

ภาพ/ข่าว   ปัทมพร  สีทอง

'ผบ.ตร.'​ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม 'สถานีตำรวจส่วนแยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ'​ ตามโครงการจัดตั้งสถานีส่วนแยกเพื่อบริการประชาชนและลดความแออัด

ตามนโยบายของ พลตํารวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้แก่ คณะทํางานนโยบายการพัฒนางานป้องกันและปราบปราม โดยมี พลตํารวจเอก มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาคณะทํางาน และมี พลตํารวจโท รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะทํางาน

โดยให้ดําเนินการโครงการจัดตั้งสถานีส่วนแยก เพื่อเป็นหน่วยบริการประชาชนนอกสถานที่และกระจายการบริการสู่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดความแออัด ของสถานีตํารวจหลัก ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชนอย่างทั่วถึง อีกทั้งเพื่อเป็นการควบคุม การเกิดอาชญากรรมบ่อยครั้งและเป็นการเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล/โฆษกกองบัญชาการตํารวจนครบาล เปิดเผยว่า วันที่ 4 มิ.ย. 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาของสํานักงาน ตํารวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจเยี่ยม 'สถานีตํารวจส่วนแยก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ'​ ซึ่งเป็นสถานีตํารวจส่วน แยกของสถานีตํารวจ​นครบาลพญาไท

โดยได้พิจารณาจากการเลือกพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น เป็นศูนย์กลาง การคมนาคม พื้นที่ที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจ ล่อแหลมต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรม อยู่ใจกลางชุมขน และเป็นที่ตั้งของสถานที่สําคัญทางเศรษฐกิจ เช่น ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ร้านทอง และหน่วยราชการที่ สําคัญ รวมถึงพิจารณาสถิติคดีเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ในพื้นที่ของสถานีตํารวจนครบาลพญาไท จึงได้เลือกพื้นที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นสถานที่จัดตั้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสถานภาพอาชญากรรม กับลักษณะทางกายภาพตรงกับเจตนารมณ์และแนวคิดในการจัดตั้งสถานีตํารวจส่วนแยก

ทั้งนี้ โฆษกกองบัญชาการตํารวจนครบาล ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในเรื่องของการเข้ารับการฉีด วัคซีนป้องโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของข้าราชการตํารวจผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนนั้น ในสถานีตํารวจนครบาลพญาไท ข้าราชการตํารวจทุกนายเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คิดเป็น อัตรา 100% เพื่อเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัยให้แก่ข้าราชการตํารวจและพี่น้องประชาชนผู้ที่มาใช้บริการ

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ขานรับนโยบายรัฐ ชูนโยบายเร่งด่วน ฟื้นฟูวิสาหกิจชุมชนหลังพิษโควิด-19 จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ระหว่างวันที่ 11-15 มิ.ย.นี้

นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทย รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนในวงกว้าง และเพื่อเป็นการขานรับนโยบายรัฐในการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจฐานราก สร้างศักยภาพของผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ดีพร้อมจึงมีนโยบายเร่งด่วน เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนในสถานการณ์เร่งด่วน ซึ่งมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับชุมชนในการนำความรู้และทรัพยากรในพื้นที่มาผลิตเป็นสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถกระจายรายได้สู่ชุมชน สนับสนุนสินค้าชุมชน และยกระดับวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง

พร้อมพัฒนาและขยายช่องทางการตลาด เชื่อมโยงกับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซ ผ่านกิจกรรมพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ภายใต้ โครงการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถวิสาหกิจชุมชนคลื่นลูกใหม่ เพื่อการแข่งขันในตลาด New Normal ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ กิจกรรมเชื่อมโยงธุรกิจ กิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำ และกิจกรรมทดสอบตลาด โดยจะมุ่งเน้นการอบรมให้ความรู้ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การนำแผนงานไปทดลองและปรับปรุงสินค้า รวมถึงการนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ปรับปรุงแล้วได้มาตรฐานมีคุณภาพไปทดสอบตลาดทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนการนำผลการทดสอบตลาดนั้นมาทำแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ดีพร้อม ยังให้การส่งเสริมและสนับสนุนพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความสามารถในการบริหารธุรกิจสมัยใหม่ การสร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งในกระบวนการผลิต การนำเสนอสินค้า การบริการและการตลาด เพื่อสร้างผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนคลื่นลูกใหม่ให้มีองค์ความรู้สามารถวิเคราะห์ธุรกิจตนเอง สามารถแก้ไขปัญหาธุรกิจของตนเองได้เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมของตนเองในสถานการณ์ปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน ดีพร้อม ได้เร่งดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในการขยายช่องทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับชุมชนเพิ่มมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมทดสอบตลาด Market Survey ซึ่งในยุค New Normal ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การตลาดแบบออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทและมีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างมาก ดีพร้อมจึงเร่งผลักดันและพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ให้มีขีดความสามารถในการเข้าสู่ตลาดออนไลน์ อันจะทำให้ผู้ประกอบการเกิดทักษะประสบการณ์

และสามารถเชื่อมโยงเพื่อการแข่งขันในระดับสากลได้อย่างแท้จริง โดยความน่าสนใจของกิจกรรมทดสอบตลาด Market Survey ในครั้งนี้เป็นการจัดงานในรูปแบบ Virtual Event ซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานมหกรรมแสดงสินค้าในรูปแบบโลกเสมือนจริงในระบบออนไลน์ที่ดีพร้อมจัดขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคนี้มาใช้ในการจัดกิจกรรม เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งภายในงานได้รวบรวมสินค้าดีมีคุณภาพจากผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศกว่า 140 ราย อาทิ เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร อาหารและเครื่องดื่ม ถือว่าครบจบในงานเดียว

นอกจากนั้น ภายในงานยังมีการจัดสัมมนาโดยมีวิทยากรชื่อดังระดับประเทศ ทางด้าน e-Commerce เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมได้ฟรี อาทิ การทดสอบตลาด Market Survey พื้นฐานการสำรวจ และการทำตลาดด้วย Facebook การทำตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง (DIY e-Commerce) การดีลกับโรงงานเพื่อสร้างสินค้านวัตกรรม อัปเดตหลังโควิด ภูมิศาสตร์ e-Commerce ของประเทศไทย และพื้นฐานของการขายออนไลน์ ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน 2564 รวมระยะเวลา 5 วัน โดยผู้ร่วมงานสามารถเข้าร่วมงานได้อย่างต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง และคาดว่าจะมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นจำนวนมากตลอดระยะเวลาของการจัดงาน นายภาสกร กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมงานได้ทุกวัน ตั้งแต่ วันที่ 11-15 มิถุนายน 2564 ผ่าน www.dcivirtualevent2021.com


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'เฉลิมชัย'​ เดินหน้าโครงการ 'แบ่งปันน้ำใจ เกษตรไทยสู้ภัย COVID-19'​ ช่วยเพชรบุรี​ ด้าน 'อลงกรณ์'​ เผยรัฐบาลจัดสรรวัคซีนเพิ่มให้เพชรบุรีเริ่มฉีดมิถุนายนนี้ พร้อมเปิดตลาดกลางสินค้าเกษตรออนไลน์สัปดาห์หน้าภายใต้ยุทธศาสตร์ '1ปิด1เปิด'​

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีมอบข้าวสารและผลผลิตทางการเกษตรภายใต้โครงการ 'แบ่งปันน้ำใจ เกษตรไทยสู้ภัย COVID-19'​ ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อบรรเทาปัญหาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในจังหวัดเพชรบุรี ได้แก่ น้ำพริก, เครื่องแกง, พริกสด, มะเขือ, แฟง, ฟักทอง, สับปะรดดอนขุนห้วยป ไข่ไก่, มะนาว, กล้วยน้ำว้า, กล้วยหอมทอง และภาชนะใส่อาหาร

โดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี, นายไพโรจน์ พ่วงทอง สมาชิกวุฒิสภา, นายชาญณรงค์ พวงสั้น เกษตรจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี, นายกเทศมนตรีเทศบาลเขาย้อย, นายกอบต.ตำบลหนองชุมพลเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และเยี่ยมให้กำลังใจแก่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ที่ประกอบอาหารภายในวัดศีลคุณาราม ตำบลหนองชุมพลเหนือ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี

ทั้งนี้​ นายภัคพงศ์ ได้กล่าวขอบคุณ​เจ้ากระทรวงเกษตร และคณะที่ช่วยเหลือจังหวัดเพชรบุรีและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19​ ในขณะนี้

ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร, นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยพาณิชย์, ดร.กัมพล สุภาแแพ่ง, นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขและส่วนราชการกระทรวงเกษตรในจังหวัดเพชรบุรี​ ได้ร่วมสมทบเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่งมอบผ่านพระครูศรีวัชราภรณ์เจ้าคณะอำเภอเขาย้อยให้กับครัวกลางวัดศีลคุณาราม

โดยก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยได้มอบเงิน​ 2​ แสนบาท​ สนับสนุนจังหวัดเพชรบุรีสู้ภัยโควิดโดยมอบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี

นอกจากนี้​ นายอลงกรณ์​ ยังได้กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบว่า จากการประสานงานล่าสุดนายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขได้รับการยืนยันจาก​ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขว่า รัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนเพิ่มให้เพชรบุรีล็อตที่​ 2​ อีก​ 49,000 โดส​ รวมทั้งวัคซีนที่จะฉีดให้กับผู้ลงทะเบียน​ 'หมอพร้อม'​ โดยจะเริ่มฉีดตามกำหนดในเดือนมิถุนายนนี้ และหวังว่ารัฐบาลจะจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอต่อการฉีดให้ชาวเพชรบุรีไม่น้อยกว่า 70% ให้ทันวันที่​ 1​ ตุลาคมซึ่งเป็นวันที่ชาวเพชรบุรีจะเปิดเมืองของเราภายใต้ยุทธศาสตร์ '1ปิด1เปิด'​

หลังจากเสร็จพิธี ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรพร้อมด้วยนางสาวศิริวรรณ เครือเล็กเกษตรและสหกรณ์จังหวัด นายชาญ พวงสั้น เกษตรจังหวัด, นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อนพาณิชย์จังหวัดและคณะได้เดินทางไปประชุมหารือกับนายหยัน เยื่อใย ประธานสหกรณ์การเกษตรท่ายางและผู้จัดการตลาดเกษตรเพื่อเตรียมความพร้อมของการเปิดโครงการตลาดกลางสินค้าเกษตรออนไลน์ที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรหนองบ้วยและบ้านลาด​ ซึ่งจะเปิดการขายแบบซอล์ฟโอเพนนิ่งก์ (Soft Opening) ในสัปดาห์ภายใต้เพชรบุรีโมเดล '1ปิด1เปิด'​ คือระดมพลคนเพชรฯ​ ปิดโควิดให้เร็วที่สุดและเปิดเศรษฐกิจเร็วที่สุดไปพร้อมๆ​ กัน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ใน กทม. มีประชาชนประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งควรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 6 ล้านคน 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ใน กทม. มีประชาชนประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งควรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 6 ล้านคน 

จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อยับยั้งการระบาด รวมแล้วต้องให้บริการฉีดวัคซีน 12 ล้านโดส เราควรฉีดให้เสร็จใน 4 เดือน หรือ 120 วัน (ถ้าช้ากว่านี้ อาจจะมีปัญหาในการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ) ดังนั้น ในกรุงเทพมหานคร เราต้องบริการฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 100,000 โดส การเปิดจุดบริการฉีดน้อยแห่งจะทำให้เป็นไปได้ยากมากถึงมากที่สุด ขณะนี้ กทม. มีจุดบริการฉีดวัคซีน ไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง คิดว่ายังไม่รวมของมหาวิทยาลัยต่างๆ  คำนวณง่ายๆ เอาตัวเลขกลมๆ แต่ละจุดบริการควรฉีดได้ 3,000 ถึง 5,000 ราย ทุกวันโดยไม่มีวันหยุด

ในการเริ่มต้นแรกๆ แต่ละจุดอาจจะฉีดได้ไม่ถึงเป้าและควรต้องปรับระบบไปทุกๆ วัน พร้อมกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไม่ลังเลที่จะฉีดและอำนวยความสะดวกในการไปรับการฉีด 

การกระจายวัคซีน ของกรมควบคุมโรคติดต่อ สธ. กทม. และมหาวิทยาลัยในสังกัด อว. ในขณะนี้ถูกต้องเหมาะสมแล้วครับ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ก็ทำมาพักหนึ่งกว่าจะปรับระบบได้ ดังนั้น ในช่วงนี้ที่ปริมาณวัคซีนกำลังทยอยเข้ามา จึงเหมาะแล้วที่ควรให้เริ่มไปช่วยกันหลายๆ แห่งเพราะทุกๆ ที่ต้องใช้เวลาพัฒนาขบวนการให้ได้เร็วและใช้คนประจำให้น้อยให้ได้เพราะต้องทำกันอีกนานมากๆๆ….. …ถึงตรงนี้แหละครับ (ร่ายที่มาที่ไปเสียยาว) ทั้งสามส่วนงานข้างต้นและราชวิทยาลัย / โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มีการหารือคุยกันใกล้ชิดตลอดเวลา และเห็นพ้องต้องกัน ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน คือทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยต้องได้รับวัคซีนโดยเร็วครับ และทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์จะได้รับการจัดสรรวัคซีนหลักมา เมื่อมีปริมาณวัคซีนหลักมากขึ้นนะครับ

สำหรับ หกแสนกว่าคนที่ได้ลงทะเบียนรอมารับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์บริการวัคซีนของราชวิทยาลัยฯ และได้รับหมายเลข ID ที่ไปแล้ว ผู้ที่ได้รับหมายเลข ID มากกว่า 250,000 ขึ้นไปที่สามารถหาจุดฉีดวัคซีนที่อื่นๆ ใน กทม.ได้ ผมขอแนะนำว่าให้ไปลงทะเบียนและหาที่ฉีดวัคซีนโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงถ้าติดเชื้อและผู้ที่เสี่ยงสูงในการได้รับเชื้อและแพร่เชื้อได้ง่าย ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และผู้ด้อยโอกาสที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ตหรือการจองออนไลน์ รวมถึงผู้ที่ไว้วางใจโรงพยาบาลจุฬาภรณ์โรงพยาบาลจะทยอยเรียกเข้ามารับวัคซีนต่อไปโดยเร็ว เช่นเดียวกันกับผู้ที่มีนัดรับวัคซีนเข็มที่สองยังเข้ามารับตามนัดได้ครับ……และเมื่อมีวัคซีนมาเพิ่มปรับแผนใหม่จะแจ้งอีกครั้ง????????????

“ทำดีไว้แล้วก็จะดี”

“ทำดีไว้แล้วก็จะดี”

นิธิ มหานนท์ 
เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
4 มิถุนายน 64
#ความดีต้องช่วยกันทำ
#สามัคคีกันไว้เราต้องสู้กับมันไปอีกนาน
#วัคซีนช่วยฟื้นชีวิตชีวาสังคมไทย


ที่มา : https://www.facebook.com/755523894/posts/10159298700433895/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเดนมาร์กในวันจันทร์ ได้เรียกร้องเจ้าหน้าที่สาธารณสุของประเทศ ให้ทบทวนการตัดสินใจไม่ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า หลังประสบปัญหาในการขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเดนมาร์กในวันจันทร์ ได้เรียกร้องเจ้าหน้าที่สาธารณสุของประเทศ ให้ทบทวนการตัดสินใจไม่ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า หลังประสบปัญหาในการขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้ เดนมาร์กหยุดใช้วัคซีนทั้ง 2 ตัวเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเคสลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงที่เกิดขึ้นน้อยมากในผู้รับวัคซีนบางราย 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เดนมาร์กกำลังเผชิญกับปัญหาความยุ่งยากเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นาจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนแผนฉีดวัคซีนแก่ทุกคนในเดือนกันยายน ณ ตอนนี้ คาดหมายว่าปัญหาล่าช้าน่าจะกินเวลาราว ๆ 2 สัปดาห์

แมกนัส ฮิวนิกเก้ รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์ก เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐว่า ด้วยบริบทนี้รัฐบาลกำลังร้องขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพิจารณาทบทวนใหม่ 

“ตอนนี้เราถลำเข้าสู่การแพร่ระบาดมากกว่าเดิม วัคซีนจากจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า ตอนนี้ถูกใช้ในยุโรปมาแล้วระยะหนึ่ง” ฮิวนิกเก้กล่าว “มีข้อมูลมากขึ้นบนพื้นฐานทั่วโลกสำหรับประเมินประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงของวัคซีน” เขากล่าว

เจ้าหน้าที่เดนมาร์กถอนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าออกจากโครงการฉีดวัคซีนของประเทศในช่วงกลางเดือนเมษายน และหยุดใช้งานวัคซีนของจอห์สันแอนด์จอห์นวันในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ไม่ใช่แค่ความกังวลด้านสุขภาพ แต่การระงับใช้วัคซีนทั้ง 2 ตัวของเดนมาร์กยังมีเหตุผลจากข้อเท็จจริงที่ว่า โรคระบาดใหญ่ดูเหมือนอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมีอุปทานวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติใช้อย่างเพียงพอ นั่นก็คือวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา

ทั้งนี้ เดนมาร์กเป็นชาติแรกของยุโรปที่หยุดใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ในโครงการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการ แต่ในวันที่ 20 พฤษภาคม พวกเขาผ่อนปรนข้อจำกัดต่าง ๆ สำหรับทุกคนที่ต้องการฉีดวัคซีนทั้งสองตัว

อย่างไรก็ตามจากข่าว ก็ยังมีอีกมุมที่น่าสนใจที่ไม่ได้ระบุไว้ ซึ่งทาง ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เพิ่มเติมอีกเหตุชวนคิดไว้ว่า... 

"อีกสาเหตุที่ไม่ได้ระบุในนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่เริ่มจะพบว่าวัคซีนซึ่งใช้เทคโนโลยี mRNA อย่าง Pfizer และ Moderna ที่ส่งผลข้างเคียงต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจในหมู่เด็กวันรุ่น ระหว่างอายุ 16-19 ปี" 

 

ที่มา:
https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/denmark-reconsider-exclusion-jj-astrazeneca-shots-2021-05-31/

https://www.facebook.com/100001625041497/posts/4183493018381492/

https://mgronline.com/around/detail/9640000052645


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เฟซบุ๊ก​ Thailand​ FACT Today​ ได้เผยภาพผู้แทนองค์การอนามัยโลก​ (WHO) หลังได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา​ พร้อมระบุ...

เฟซบุ๊ก​ Thailand​ FACT Today​ ได้เผยภาพผู้แทนองค์การอนามัยโลก​ (WHO) หลังได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา​ พร้อมระบุ...

คนไทย

ไม่แพ้ใครในโลก

โดยมีภาพบรรยากาศ​ ท่านรองนายกและรัฐมนตรีสาธารณสุข กับ ดร. แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก​ (WHO) ประจำประเทศไทย หลังรับวัคซีนโควิด19 จากแอสตร้าเซนเนกา ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ประเทศไทย

ซึ่ง ดร.แดเนียล กล่าวว่า... 

"มั่นใจในประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ของวัคซีน และอยากเชิญชวนให้คนไทยมารับวัคซีนกันให้มากๆ"

ทั้งนี้ในวันเดียวกัน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีน​ สาธารณสุขเริ่มมีการให้บริการวัคซีนแอสตราฯ ฝีมือคนไทย ให้กับประชาชน และกลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์แล้ว

 

ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=5994546647252579&id=3080161418691131


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top