Thursday, 15 May 2025
Hard News Team

นายกฯ สั่ง หน่วยงาน รับมือ สถานการณ์ฝน ย้ำ 10 มาตรการ ต่อเนื่องถึงแล้งหน้า

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งบูรณาการหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครองและทหาร เตรียมความพร้อมรับสถานกาณ์ช่วงฤดูฝน รวมถึงวางแผนการบริหารจัดการน้ำต่อเนื่องจนถึงฤดูแล้งหน้า รวมทั้งให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำทั้งเพื่อการอุปโภค-บริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม และการรักษาสภาพแวดล้อม สำหรับการวางแผนรับมือสถานการณ์ฤดูฝน ในเชิงป้องกันก่อนเกิดภัย ประกอบด้วย 10 มาตรการ ดังนี้

1.) คาดการณ์ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนทิ้งช่วง โดยจะมีการประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ เพื่อเตรียมแผนในเชิงป้องกันล่วงหน้า

2.) การบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก รวมทั้งการจัดทำแผนการชดเชยให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำเข้าทุ่ง

3.) ทบทวน ปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลางและเขื่อนระบายน้ำ โดยติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการบริหารจัดการน้ำรวมทั้ง จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง ในช่วงภาวะวิกฤติ

4.) ซ่อมแซมปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำสถานีโทรมาตรให้พร้อมใช้งาน โดยตรวจสอบสภาพความมั่นคง และซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำ อาคารควบคุมบังคับน้ำ รวมทั้งระบบระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง 

5.) ปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ สำรวจ และดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เกิดจากการก่อสร้างและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการปรับปรุงคูคลอง เพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำ และระบายน้ำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

6.) ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา กำจัดวัชพืชในแม่น้ำ และคูคลอง ทั่วประเทศด้วยการบูรณาการเครื่องจักรเครื่องมือในการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชของทุกหน่วยงาน 

7.) เตรียมพร้อม วางแผนเครื่องจักรเครื่องมือ ประจำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนน้อยกว่าค่าปกติ เตรียมพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและเข้าช่วยเหลือได้ทันสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง

8.) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและปรับปรุงวิธีการส่งน้ำ วางแผนการจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ 

9.) การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์

10.) ติดตามประเมินผลปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัย

นายอนุชา กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลในช่วงปี 2561 ถึงปัจจุบัน รัฐบาลขับเคลื่อนแผนงานโครงการด้านน้ำตามแผนแม่บทน้ำ 20 ปีไปแล้ว 125,162 โครงการ วงเงิน 314,182 ล้านบาท มีผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญ เช่น การเพิ่มน้ำต้นทุน ระบบส่งน้ำ การพัฒนาและขยายเขตประปาหมู่บ้าน 3,214  แห่ง พัฒนาน้ำบาดาลเกษตรและธนาคารน้ำใต้ดิน ได้น้ำ 100  ล้าน ลบ.ม. ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 135,170 ไร่ ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์แล้ว 2,274,737 ครัวเรือน รวมทั้งยังจะมีการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และโครงการสำคัญรวม 526โครงการภายในปี 2564-2566 นี้

รมว.แรงงาน สั่งเดินหน้า โครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม

รมว.แรงงาน มอบหมาย 2 กรมฯ ใต้สังกัด จูงมือโน้มน้าวสถานประกอบการ เปลี่ยนไปใช้การจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประเภทการจ้างเหมาบริการ แทนการส่งเงินเข้ากองทุนฯ เป้าหมายช่วยคนพิการมีงานทำ มีรายได้ บรรเทาความเดือดร้อนได้ทันที

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการมีงานทำให้แก่ประชาชน และให้ความช่วยเหลือแรงงานกลุ่มเปราะบาง ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างยิ่ง โดยเฉพาะกลุ่มคนพิการที่ยังมีทั้งศักยภาพ และความต้องการในการทำงาน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสการมีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ อย่างเหมาะสมและยั่งยืน 

“ตามพ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม  กำหนดให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป จ้างคนพิการเข้าทำงานในอัตราส่วน 100 : 1 หากไม่สามารถดำเนินการได้ จะต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในอัตรา 114,245 บาทต่อปี ตามจำนวนคนพิการที่ไม่ได้จ้าง ซึ่งกองทุนฯจะนำเงินดังกล่าว ไปส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการต่อไป อย่างไรก็ดีในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย รวมทั้งกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มคนพิการ ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือให้คนพิการมีงานทำ มีรายได้สามารถดูแลตนเองและครอบครัว โดยได้รับการจ้างงานจากสถานประกอบการในรูปแบบอื่น ที่เป็นทางเลือกตามกฎหมายและสามารถดำเนินการได้ จึงมอบหมายกรมการจัดหางาน ให้ประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้สถานประกอบการเลือกใช้วิธีการจ้างเหมาบริการคนพิการปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐในจังหวัดที่คนพิการอาศัยอยู่ ซึ่งเป็น 1 ในกิจกรรมการดำเนินการตามมาตรา 35 ที่จะทำให้คนพิการเกิดรายได้ทันที สามารถมีงานทำและได้รับการจ้างงานโดยตรง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ล่าสุดได้สั่งการสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ โดยมีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานร่วมบูรณาการภารกิจ ตามนโยบายท่านรัฐมนตรี เพื่อสำรวจความต้องการจ้างงานของสถานประกอบการ รวมทั้งสร้างการรับรู้แนวทางการดำเนินการตามมาตรา 35 และโน้มน้าวให้นายจ้าง/สถานประกอบการหันมาใช้การส่งเสริมการจ้างงงานคนพิการเชิงสังคม ประเภทการจ้างเหมาบริการ โดยจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนองค์กรในท้องถิ่นที่มีภารกิจสาธารณะประโยชน์ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ ศูนย์บริการคนพิการของท้องถิ่น/เทศบาล เป็นต้น  ซึ่งช่วยให้คนพิการในพื้นที่ห่างไกล ได้รับโอกาสมีอาชีพ มีงานทำอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป

“สำหรับสถานประกอบการที่สนใจร่วมโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม มาตรา 35 สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694” อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าว

รมว.เฮ้ง ย้ำ วัคซีนไม่ขาด ผู้ประกันตนได้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า เหมือนเดิม จะเริ่มเปิดใหม่วันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.นี้ 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานประกันสังคมได้ประกาศเลื่อนการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 45 ศูนย์ออกไป ซึ่งในเรื่องนี้ท่านรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความเป็นห่วงผู้ประกันตนและเข้าใจดีว่าผู้ประกันตนประสงค์อยากจะฉีดวัคซีนโดยเร็ว จึงได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานปรับปรุงจุดบกพร่องทั้ง 2 ประการอย่างเร่งด่วน ทั้งกรณีสถานที่บางแห่งที่ไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากไม่มีแอร์ อากาศร้อน จะยกเลิกสถานที่ดังกล่าวโดยจะยุบรวมมาอยู่ในสถานที่ที่มีความพร้อมและมีแอร์คอนดิชั่น ส่วนกรณีเรื่องข้อมูลของผู้ประกันตนที่ฝ่ายบุคคลของสถานประกอบการส่งมาให้เกิดความสับสนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงจากเหตุผลหลายประการ อาทิ ลงทะเบียนซ้ำซ้อนหลายแห่ง การไปฉีดวัคซีนจากที่อื่นมาก่อนแล้ว ผู้ประกันตนไม่พร้อมมาฉีดตามวัน เวลา ที่กำหนด แต่ฝ่ายบุคคลไม่ได้แจ้งกลับมา หรือกรณีที่ผู้ประกันตนมีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมจะฉีด เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้ประสานไปยังสถานประกอบการต่าง ๆ เพื่อเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ได้ข้อมูลของผู้ประกันตนที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนอย่างแท้จริง หากว่าสถานประกอบการใดยังไม่พร้อมก็จะให้รอไปก่อน เราจะดำเนินการฉีดให้สถานประกอบการที่มีความพร้อมไปก่อน โดยจะเริ่มดำเนินการฉีดอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายนนี้ 

"ผมขอย้ำว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า สำหรับผู้ประกันตนไม่ขาด ผมกับท่านรองนายกฯ อนุทิน ทำงานกันอย่างใกล้ชิดและปรึกษาหารือกันมาโดยตลอด เพื่อให้การฉีดวัคซีนซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ สามารถควบคุมการแพร่ระบาด เกิดประโยชน์สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่า โดยกระทรวงแรงงานจะเร่งดำเนินการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดบริการฉีดได้ใหม่ในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายนที่จะถึงนี้" นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

เจอโรคเลื่อน! กทม.ประกาศเลื่อนฉีดวัคซีน คนลงทะเบียน 'ไทยร่วมใจ' ตั้งแต่ 15 มิ.ย.

14 มิ.ย. 64 - เพจ ‘กรุงเทพมหานคร โดย สำนักงานประชาสัมพันธ์’ โพสต์ข้อความว่า ไทยร่วมใจ “กรุงเทพฯ ปลอดภัย" SAFE BANGKOK ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ลงทะเบียนในโครงการ "ไทยร่วมใจ" ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป

"ไทยร่วมใจ" ยืนยันว่า จะรีบดำเนินการจัดฉีดวัคซีนให้ทุกท่านโดยเร็วที่สุด ทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน จะมี SMS แจ้งให้ท่านสามารถเลือกวันและเวลานัดหมายใหม่ ขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้

ที่มา : https://www.facebook.com/prbangkok/photos/a.340316886067939/3569037779862484/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สุริยะ’ ยกเว้นค่าตรวจโรงงานกรณีขอ มอก. จนถึง 30 เม.ย. 65 คาดช่วยผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 100 ล้านบาท พร้อมชงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต มอก. และใบรับรองระบบงาน ISO เข้า ครม.

‘สุริยะ’ ยกเว้นค่าตรวจโรงงานกรณีขอ มอก. จนถึง 30 เม.ย. 65 คาดช่วยผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 100 ล้านบาท พร้อมชงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต มอก. และใบรับรองระบบงาน ISO เข้า ครม. หากผ่านความเห็นชอบจะช่วยผู้ประกอบการได้กว่า 10,000 ราย คิดเป็นเงินกว่า 110 ล้านบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ว่า ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอมาตรการเยียวยาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้สามารถฟื้นฟูกิจการได้เร็วขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมาตรการเดิมจากปี 2563 ที่ขยายเวลาต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เห็นชอบให้ สมอ. ยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจโรงงานเพื่อการขออนุญาต มอก. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

ด้าน นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการยกเว้นค่าตรวจโรงงานเพื่อการขออนุญาต มอก. มีอัตราค่าใช้จ่ายที่ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายให้ สมอ. 10,000 บาทต่อวัน ซึ่ง สมอ. มีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตกว่า 10,000 ราย ทั้งผู้ทำและผู้นำเข้า คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2564 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเยียวยาอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ครม. ได้แก่ มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต มอก. และใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบรับรองระบบงาน ISO สำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรอง หาก ครม. มีมติเห็นชอบแล้ว สมอ.จะดำเนินการต่อทันที ซึ่งจะช่วยเหลือผู้ประกอบการได้กว่า 110 ล้านบาท

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ว่าในขณะนี้ สมอ. จะปฏิบัติงานภายในที่พัก หรือ Work from Home กว่า 90% เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ขอให้เชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบต่อการให้บริการผู้ประกอบการและประชาชน โดยท่านยังสามารถติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ภายใน สมอ. ได้ทุกกระบวนการและกิจกรรม ผ่านทางระบบออนไลน์ ทั้งการออกใบอนุญาตทำและนำเข้าสินค้าควบคุม การตรวจสอบพิกัดศุลกากร การตรวจติดตามสินค้าไม่ได้มาตรฐาน การตรวจสอบและรับรองระบบงาน การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และการสืบค้นข้อมูลมาตรฐาน รวมทั้งการจำหน่ายหนังสือ มอก. หรือหากต้องการแจ้งเบาะแสหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดอื่นๆ ก็สามารถเข้าไปที่เฟซบุ๊กแฟนเพจของ สมอ. https://www.facebook.com/tisiofficial” เลขาธิการ สมอ. กล่าวทิ้งท้าย


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วิชา BMAT: เรื่อง ติวฟรี BMAT Past Papers เตรียมสอบแพทย์ สำหรับม.ปลาย

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน
วิชา BMAT: เรื่อง ติวฟรี BMAT Past Papers เตรียมสอบแพทย์ สำหรับม.ปลาย

โดย ครูจึ๋ง สมนึก สงวนตระกูล
นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น Monbusho
เกียรตินิยม อันดับ 1 เหรียญทอง Computer Engineering Osaka University
#BMAT เรียนเตรียมสอบแพทย์ Critical Thinking, Problem Solving, Maths & Science

#DekThaiOnline
https://dekthai-online.com/browse
.

.

'หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์'​ ทรงประทาน 'ผ้าไตร'​ ในพิธีอุปสมบท ณ วัดดาวดึงษาราม (กทม.)

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564 ตามที่เจ้าภาพ กราบทูลขอประทาน 'ผ้าไตร'​ เนื่องในพิธีอุปสมบท 'นายวรกานต์ พรพรหมพิพัฒน์'​ ณ.พัทธสีมาวัดดาวดึงษาราม แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ โดย มี '​พระเทพสุวรรณเมธี'​ รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย 'นายบุญชู พรพรหมพิพัฒน์'​ (บิดา) และ นางสุภาวรรณ์ พรพรหมพิพัฒน์ (มารดา) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  

ในการนี้ 'หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์'​ พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ทรงกรุณาให้ 'นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล'​ นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย เชิญ 'ผ้าไตรประทาน' แก่ 'นายวรกานต์ พรพรหมพิพัฒน์'​ ณ พัทธสีมา วัดดาวดึงษาราม แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัดกรุงเทพฯ ทรงอนุโมทนา และประทานพรขอให้เจริญในธรรม บำเพ็ญตนให้อยู่ในสมณะเพศ ปฏิบัติกรรมฐาน ศึกษาพระธรรมวินัย เพื่อให้เป็นอานิสงส์ เกิดประโยชน์สุขต่อตนเอง และบุพการี สืบไปฯ 

ทั้งนี้ด้วยความตั้งใจในการอุปสมบทครั้งนี้ ผู้บวชขอน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เนื่องในวันภาณุพันธุ์ ตรงกับวันที่ 13 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเสด็จทิวงคต 

ในพิธีอุปสมบทครั้งนี้ มี 'พระสิริชัยโสภณ'​ เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม เจ้าคณะแขวงบางยี่ขัน เป็นพระอุปัชฌาย์ ให้การอุปสมบท 'นายวรกานต์ พรพรหมพิพัฒน์'​ เป็นพระภิกษุสงฆ์ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สืบไป ได้รับฉายาทางธรรมว่า 'อัตถกันโต'​ ผู้ใคร่ประโยชน์

การอุปสมบทในครั้งนี้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคระบาด เชื้อไวรัสโควิด -19 มีตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอร์ สวมหน้ากากอนามัย ลดการสนทนา ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อทำความสะอาด อย่างเคร่งครัด

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.2/4 ตอน กล้าผลัก SMEs ไทย เรียนลัดด้วย ‘Social Enterprise - Innovative Startup’  และปลายทางความหวังประเทศ = การเลือกตั้ง

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.2/4 ตอน กล้าผลัก SMEs ไทย เรียนลัดด้วย ‘Social Enterprise - Innovative Startup’ 
และปลายทางความหวังประเทศ = การเลือกตั้ง

รู้จัก ‘หมู-วรวุฒิ อุ่นใจ’ รองหัวหน้าพรรคกล้า ขุนพลเศรษฐกิจสาย
SMEs
ผู้กล้าทิ้งธุรกิจพันล้าน (B2S-OfficeMate) ทะยานสู่รั้วการเมือง
กับความตั้งใจที่จะขอนำประสบการณ์ที่มี ช่วยเหลือ SMEs ไทย
ให้ไปรอด!!

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

'เฉลิมชัย'​ เดินหน้า '5ยุทธศาสตร์'​ ฝ่าวิกฤตโควิด จับมือเอกชน เร่งพัฒนา 'แอร์คาร์โก'​ พร้อมตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรอาหาร เพิ่มศักยภาพการส่งออกเริ่มแห่งแรกที่ดอนเมืองก่อนขยายไปสุวรรณภูมิ ตั้งเป้าฮับอาเซียน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงวันนี้ (13​ มิ.ย) ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งทางอากาศ (Agriculture and Food Air Cargo Terminal: AFCT) สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งจะมีการจัดตั้ง 'ศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร-อาหาร'​ โดยเริ่มโครงการนำร่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง และท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นลำดับถัดไปก่อนจะขยายโครงการไปยังท่าอากาศยานภูมิภาคที่มีความพร้อมเช่น​ เชียงใหม่, ขอนแก่น, หาดใหญ่, ภูเก็ต เป็นต้น​ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในภาคเกษตรอาหารซึ่งเป็นโอกาสของประเทศไทยภายใต้วิกฤติโควิด19

นายอลงกรณ์​ กล่าวต่อไปว่า การส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารต้องการความสะดวกรวดเร็วส่งถึงลูกค้าปลายทางทั่วโลกด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล​ โดยคงความสดสะอาดอร่อยสามารถเพิ่มเวลาการบริโภคหรือเวลาการขาย (Shelf life) มากขึ้น

สำหรับศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรอาหาร ณ คาร์โกเทอร์มินัล​ ทำหน้าที่ให้บริการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรอาหารเพื่อส่งออกตามเงื่อนไขของประเทศผู้นำเข้า และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ประกอบด้วย สินค้าพืช ประมง และปศุสัตว์ โดยให้บริการกับผู้ขอรับบริการทั่วไปแบบวันสต็อปเซอร์วิสเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นฮับการผลิตและขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารของอาเซียน

“อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโรคโควิด19 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรในปีที่ผ่านมา การประเมินการส่งออกอาหารของไทยในปี 2564 โดยสถาบันอาหาร คาดการณ์ว่าสินค้าอาหารของไทยจะมีมูลค่า 1.08-1.10 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2-12.2% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่หดตัวจากผลกระทบของโควิด19 

"ดังนั้น ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน จึงเป็นกลไกที่สำคัญในสนับสนุนการส่งออกผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และความปลอดภัยของสินค้าเกษตรไทย จะเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความเชื่อมั่นของตลาดต่างประเทศ เพิ่มปริมาณและมูลค่าสูงขึ้น และส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมต่อไป”

นายอลงกรณ์​ กล่าวอีกว่า​ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้ายุทธศาสตร์ 'ตลาดนำการผลิต'​ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่จะขับเคลื่อนการทำงานด้วย 5 ยุทธศาสตร์ และ 15 แนวทางนโยบายหลักโดยเฉพาะยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเป็นยุทธศาสตร์หลักเพื่อปฏิรูปภาคเกษตรและ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตร เพื่อตอบสนองต่อห่วงโซ่อุปทาน ที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่ออํานวยความสะดวกในการส่งออก และนําเข้าสินค้าเกษตร

ตำรวจเตือน!! ผู้มีรสนิยมชื่นชอบ 'สื่อลามกเด็ก'​ มีไว้ในครอบครอง-ส่งต่อ-ขาย ระวังจะติดคุกรับโทษหนัก

ตำรวจเตือน!! ผู้มีรสนิยมชื่นชอบ 'สื่อลามกเด็ก'​ มีไว้ในครอบครอง-ส่งต่อ-ขาย ระวังจะติดคุกรับโทษหนัก

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ใช้เครื่องมือพิเศษจับครูอัตราจ้างโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย โหลดคลิปลามกเด็กนับร้อย โดยที่เจ้าตัวรับสารภาพอ้างว่าเก็บไว้ดูเล่น  

สำหรับกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)​ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในเรื่อง สื่อลามกเด็ก หรือ ที่เรียกว่า Child Pornography นั้น ต่างประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก​ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของเด็ก 

ในประเทศไทยก็เช่นกัน มีการบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีอัตราโทษค่อนข้างสูงโดยหากมีในครอบครองโดยมีเจตนาเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น​ ก็ถือเป็นความผิด มีอัตราโทษจำคุกถึง 5 ปี ดังเช่นในกรณีที่มีการจับกุมดังกล่าว  

หากส่งต่อสื่อลามกเด็ก หรือ หากเป็นการประกอบการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกเด็ก อัตราโทษก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก 

สำหรับสื่อลามกเด็กคือ ภาพหรือคลิปลามกของบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่มีลักษณะทำให้เกิดความใคร่ทางกามารมณ์ ซึ่งจะมีกลุ่มบุคคลที่มีรสนิยมชื่นชอบสื่อลามกเด็ก พยายามเข้าถึงเว็บไซต์สื่อลามกเด็ก แล้วดาวน์โหลดเก็บไว้ในโทรศัพท์ หรือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ บางครั้งอาจมีการส่งต่อให้กับเพื่อนหรือบุคคลในกลุ่มที่มีรสนิยมเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการเพิ่มความเข้มข้นกับการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการกระทำที่ไม่สมควรกับเด็กและเยาวชน 

จึงอยากจะฝากเตือนบรรดาผู้มีรสนิยมชื่นชอบสื่อลามกเด็กให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพราะอาจถูกจับกุมดำเนินคดี​ ซึ่งมีอัตราโทษค่อนข้างสูง

สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อลามกอนาจารเด็ก มีดังนี้...

มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และ​ มาตรา 287/2 ผู้ใด​ (1) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก

(2) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก

(3) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top