รัฐบาลจีนไฟเขียว อนุมัติการใช้วัคซีน Sinovac ในกลุ่มเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 3-17 ปีได้ในกรณีฉุกเฉิน หลังผ่านการทดสอบเฟส 2 ฉลุยในกลุ่มตัวอย่างเด็กเล็กว่ามีประสิทธิภาพ และปลอดภัยเพียงพอ พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กรอเพียงการประเมินจากทีมสาธารณสุขว่าจะเริ่มฉีดให้เด็กในช่วงอายุเท่าใดก่อน
รัฐบาลจีนสั่งเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีน Covid-19 ทั่วประเทศอย่างเต็มกำลัง ด้วยวัคซีนที่พัฒนาขึ้นเองจากบริษัทยาในประเทศ ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 80% ของประชากร หรือราวๆ 1.12 พันล้านคน
ซึ่งตอนนี้จีนก็มีวัคซีนได้รับการรับรองจากรัฐบาลจีนอย่างเป็นทางการแล้วถึง 5 บริษัท ได้แก่ Sinovac, Sinopharm, Wuhan Institute ที่ต้องฉีด 2 เข็ม CanSinoBIO ฉีดเพียงเข็มเดียว และล่าสุดคือ Anhui Zhifei ที่ต้องฉีดถึง 3 เข็ม
ข้อได้เปรียบของวัคซีนจีนทั้งหมดนี้คือ สามารถเก็บได้ในตู้เย็นอุณหภูมิทั่วไปได้ จึงง่ายต่อการเก็บ และขนส่งทั้งใน และต่างประเทศ
รัฐบาลจีนยอมรับว่า โครงการฉีดวัคซีนของจีนในช่วงแรก ดำเนินการได้อย่างล่าช้ามาก มีปัญหาเรื่องการผลิต และกระจายวัคซีนได้ไม่เต็มที่ ส่วนประชาชนก็ยังวิตกกังวลกับการฉีดวัคซีน
แต่จนถึงวันนี้ มีชาวจีนได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้วราวๆ 723.5 ล้านคน แซงขึ้นมาเป็นที่ 1 ของโลก ด้วยอัตราการฉีดวัคซีนเฉลี่ย 19 ล้านเข็มต่อวัน ซึ่งเร็วมากกว่าช่วงเริ่มต้นโครงการในเดือนเมษายนที่ฉีดได้เพียง 3.4 ล้านคนต่อวัน
หากเทียบความเร็วระดับนี้ จะสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยอย่างน้อย 80% ทั่วประเทศได้ภายใน 3 วันเท่านั้น
จึงทำให้จีนค่อนข้างมั่นใจว่าสามารถบรรลุเป้าหมายโครงการฉีดวัคซีนในประเทศได้ภายในไม่เกินสิ้นปี 2021 นี้อย่างแน่นอน
รวมถึงการผลิตวัคซีนจำนวนหลายพันล้านโดส ที่ต้องเพิ่มกำลังการผลิตออกมาได้อย่างรวดเร็วให้ทันกันกับโครงการของรัฐบาล และยังต้องมากพอที่จะส่งไปต่างประเทศอีกด้วย
และเมื่อพูดถึงความเร็วในระบบการผลิตของจีน ก็มักทึ่งในศักยภาพของจีน ที่แทบไม่มีใครสู้ได้เลย ไม่เว้นแม้แต่การผลิตวัคซีน ที่ยังสามารถผลิตได้ทันกับความต้องการในประเทศ ยังสามารถส่งวัคซีนให้ชาติอื่น ไม่ว่าจะขาย หรือเข้าโครงการทูตวัคซีนได้นับพันล้านโดสในเวลาเดียวกัน
จุดสำคัญที่ทำให้จีนยังสามารถขยายการผลิตวัคซีนได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะที่อินเดีย ประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลกทำไม่ได้ในวันที่อินเดียเผชิญหน้ากับวิกฤติ Covid-19 ครั้งใหญ่ที่สุดในโลกก็คือ จีนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสารเคมีตั้งต้นในการผลิตวัคซีนจากต่างประเทศ ซึ่งต่างจากอินเดียที่ต้องใช้สารเคมีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ที่ตอนนี้กลายเป็นสินค้าควบคุมในการส่งออก เพื่อป้องโรงงานวัคซีนในสหรัฐก่อน
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้จีน ที่เคยทุลักทุเลในโครงการวัคซีนช่วงแรก สามารถตั้งหลักได้ และกลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของโลกในการผลิตวัคซีน Covid-19 ซึ่งตอนนี้ ทั้งบริษัทผู้ผลิตวัคซีนต่างก็เร่งขยายโรงงานผลิตอย่างรวดเร็วในหลายเมือง โดยเฉพาะผู้ผลิต 2 วัคซีนหลักที่ใช้ในจีน และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกแล้ว อย่าง Sinovac สามารถผลิตได้ถึง 2 พันล้านโดสต่อปี ส่วน Sinopharm ก็มั่นใจว่า 3 พันล้านโดสต่อปีก็ไม่เกินความสามารถ
แต่ข้อเสียของจีนที่แก้ไม่หายคือเรื่องของความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล ที่ตอนนี้ก็ยังรู้ตัวเลขแน่นอนว่ามีชาวจีนกี่คนที่ได้รับวัคซีนครบโดส ตามจำนวนวัคซีนที่ต้องฉีดในแต่ละประเภท หรือจำนวนวัคซีนที่ได้ผลิตออกมาแล้วจริงๆ ในตอนนี้มีเท่าไหร่
หากจีนสามารถแก้ไขจุดเสีย ที่เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพในตัววัคซีน ก็น่าจะทำให้วัคซีนของจีนก้าวขึ้นมาทัดเทียมวัคซีนจากชาติตะวันตกได้ไม่ยากเลยทีเดียว
อ้างอิง :
https://www.reuters.com/world/china/sinovacs-covid-19-vaccine-gains-china-approval-emergency-use-children-2021-06-05
https://www.ndtv.com/world-news/coronavirus-china-authorises-coronavac-covid-19-vaccine-for-children-above-3-years-2457570
https://www.aljazeera.com/news/2021/6/3/slow-to-start-china-mobilizes-to-vaccinate-at-headlong-pace
https://www.bmj.com/content/373/bmj.n912
โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9