Monday, 7 July 2025
Hard News Team

ธปท.สั่งรื้อค่าธรรมเนียมแบงก์ 300 รายการ

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.เตรียมออกประกาศหลักเกณฑ์เรื่องการกำกับดูแลค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์กว่า 300 รายการ ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ เพื่อให้การคิดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของธนาคารพาณิชย์ให้สะท้อนต้นทุนและรายได้ที่เกิดขึ้นจริง โดยทุกธนาคารจะต้องทบทวนและเปิดเผยค่าธรรมเนียมอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบเลือกใช้บริการแต่ละธุรกรรมได้ว่า คิดค่าธรรมเนียมเท่าไรบ้าง

“การออกหลักเกณฑ์นี้ เพื่อให้การคิดค่าธรรมเนียมสะท้อนต้นทุน และ รายได้ที่เกิดขึ้นจริง โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวทุกธนาคารจะต้องทบทวน และเปิดเผยค่าธรรมเนียมอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ รวมทั้งให้ ธปท. ดึงข้อมูลเพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบเลือกใช้บริการแต่ละธุรกรรมได้ แต่ ธปท.จะไม่กำหนดเป็นอัตราว่าค่าธรรมเนียมแต่ละประเภทจะอยู่ในสัดส่วนเท่าใด เนื่องจากต้นทุนแต่ละธนาคารแตกต่างกัน และทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างธนาคาร  อย่างไรก็ดี หลังประกาศหลักเกณฑ์ไปแล้ว ธปท.จะสุ่มตรวจอีกครั้งว่า อัตราค่าธรรมเนียมของแต่ละธนาคารเป็นอย่างไร สอดคล้องกับต้นทุนธนาคารหรือไม่” 

ส่วนการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ในปีหน้า ธปท. เตรียมที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาหนี้เกษตรกรด้วย ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้พักชำระหนี้นั้น ธปท. ชี้แจงว่า การพักหนี้ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน แต่การปรับโครงสร้างหนี้เป็นเรื่องที่ดีและ เหมาะสมมากกว่า ที่ผ่านมาธปท. ได้ออกมาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือน ให้กับนายจ้างและลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบ เริ่มตั้งแต่ ก.ค. นี้ ซึ่งถือมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้อย่างตรงจุด

'ศรีสุวรรณ' เข้าแจ้งความเอาผิดมือเผาหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ณ สน.นางเลิ้ง

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่สน.นางเลิ้ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษพร้อมพยานหลักฐาน เพื่อให้ตำรวจดำเนินการสอบสวน และขอศาลออกหมายจับ เพื่อนำบุคคลที่ร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่กระทำการอย่างผิดกฎหมายมาดำเนินการลงโทษโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่ฝ่าฝืน ปอ.มาตรา 112 โดยบุคคลดังกล่าวได้กระทำการมิบังควร ด้วยการทำให้เสียหาย ซึ่งซุ้มพระบรมพระฉายาลักษณ์ หรือได้กระทำการโดยเจตนา ด้วยการพ่นสีสเปรย์สีดำบนพระบรมพระฉายาลักษณ์

จากนั้น ได้จุดไฟวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ใกล้ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์ และพระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย เหตุเกิดบริเวณริมทางเท้าหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พณิชยการพระนคร ถนนนครสวรรค์ ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมาก

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดหลายกรรม อาทิ

ข้อ 1 ความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ข้อ 2 ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ฯ ของผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์ โดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217

ข้อ 3 ความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564

ข้อ 4 ความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงฯ (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ที่ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคโควิด-19 ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ข้อ 5 ความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุม ทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดใด ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่มีการเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่อาจนิ่งเฉยปล่อยให้พวกที่ทรยศแผ่นดิน ไม่รู้จักบุญคุณแผ่นดิน ที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงปกป้องคุ้มครองและรักษาแผ่นดินไทยมาอย่างยาวนาน ได้มีที่ยืนในสังคมต่อไปได้ จึงต้องนำความมาแจ้งความเอาผิดบุคคลที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว เพื่อเอาตัวมาสอบสวน และส่งศาลเพื่อพิพากษาลงโทษขั้นสูงสุด


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'พินตัวตัว'​ แอปฯ​ ซื้อขายออนไลน์ตัวฉกาจ!! ผู้เขย่าบัลลังก์​ Alibaba​ ดึงความนิยมด้วยแนวคิด​ 'ฆ่าพ่อค้าคนกลาง'​ | Knowledge Times EP.3

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’ I EP.3
???? 'พินตัวตัว'​ แอปฯ​ ซื้อขายออนไลน์ตัวฉกาจ!! 
ผู้เขย่าบัลลังก์​ Alibaba​ ดึงความนิยมด้วยแนวคิด​ 'ฆ่าพ่อค้าคนกลาง'​

การค้าขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ดุเดือดขึ้นอีกครั้ง​ หลังจาก​ “พินตัวตัว” (Pinduoduo) แอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซจีน​ กลายเป็นอีกตัวเลือกใหม่ของการซื้อขายออนไลน์​ ด้วยจุดเด่นในการขจัดทุนผูกขาดอำนาจพ่อค้าคนกลาง 

“พินตัวตัว” เป็นแอปฯ​ ซื้อขายสินค้าออนไลน์​ ที่เริ่มต้นนำเสนอกลุ่มสินค้าด้านการเกษตรเป็นหลัก...ถูกออกแบบโดย Colin Huang (โคลิน หวง) หรือหวงเจิง​ ซึ่งเกิดที่เมืองหางโจว เมืองเดียวกับ Jack Ma เจ้าของอาณาจักร ALEBABA และเขาก็เคยทำงานให้กับบริษัท Google และเคยเป็นผู้พัฒนาเกมมาก่อน

หวง ออกแบบ “พินตัวตัว” ขึ้นมา​ ภายใต้กลยุทธ์​ “Group Buy” หรือ 'การซื้อสินค้าเป็นกลุ่ม'​ ซึ่งพัฒนามาจากเทรนด์การซื้อสินค้าที่เรียกว่า​ Social​ Shopping​ หากยิ่งซื้อมากเท่าไหร่ จะได้สินค้าในราคาที่ถูกลงเท่านั้น เป็นแนวคิดดี ๆ​ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าได้ในราคาที่ประหยัดมากขึ้น 

นอกจากนี้​ 'พินตัวตัว'​ ยังใช้โมเดลการประชาสัมพันธ์แพลตฟอร์ม​ โดยกระตุ้นให้กลุ่มผู้ซื้อแนะนำสินค้าต่อไปยังกลุ่มเพื่อนหรือคนใกล้ตัวผ่านวีแชท (Wechat) เพื่อให้ได้ส่วนลดพิเศษสำหรับไว้ใช้ซื้อสินค้านั้น ๆ​ อีกด้วย

การเข้ามาในตลาดนี้ของ​ “พินตัวตัว” เป็นการอาศัยช่องว่างของยักษ์ใหญ่อย่าง ALIBABA และ JD.com ที่เน้นเจาะแต่กลุ่มชนชั้นบน และชนชั้นกลางในจีน 

โดย “พินตัวตัว” จะเลือกเจาะไปที่กลุ่มชนชั้นล่าง​ (คนจนมาก) ซึ่งมีสัดส่วนถึง 65% ของประเทศจีน !! ในขณะที่ตลาดที่ Alibaba แข่งกับ JD.com นั้นมีสัดส่วนเพียง 35% เท่านั้น

แต่อีกจุดที่น่าสนใจต่างจาก ALIBABA และ JD.Com คือ​ 'การตัดอำนาจตัวกลาง'​ ทิ้งไป​ ต่างจากทั้ง​ 2​ ที่มีระบบตัวกลางเรียกเก็บค่าบริการ เนื่องจากต้องมีโรงเก็บสินค้า ทำให้มีการเก็บค่าวางสินค้าในแพลตฟอร์มนั้น ๆ

ความน่ากลัวของ “พินตัวตัว” กับการตัดอำนาจตัวกลางการจำหน่ายสินค้า​ หรือ​ '​ฆ่าพ่อค้าคนกลาง'​ บนโลกอีคอมเมิร์ซนั้น​ อยู่ที่การปล่อยให้ผู้ซื้อและผู้ขาย สามารถติดต่อกันได้โดยตรง แบบไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง สร้างประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง บนรูปแบบการช้อปปิ้งที่มีโมเดล​ 'Group Buy'​ มาเป็นตัวกระตุ้น

ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภค​ 'ตลาดระดับล่าง'​ ของจีน​ หันมาสนใจซื้อสินค้าออนไลน์จาก “พินตัวตัว” มากขึ้น ทั้งสินค้าอุปโภคในชีวิตประจำวัน, สินค้าประเภทอาหาร, ขนมขบเคี้ยว และผลไม้ เป็นต้น เนื่องจากสินค้ามีราคาดีกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ​จนทำให้แอปพลิเคชันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว... 

รวดเร็วจนถึงขั้น...ก้าวขึ้นมาเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มเบอร์ 2​ รองจาก​ Taobao ของ​ Alibaba และแซงหน้า​ JD.Com ไปเป็นที่เรียบร้อย​และไม่แน่ว่า​ในอนาคตแอปฯ “พินตัวตัว” อาจจะสามารถขึ้นแท่นเป็นที่อันดับ 1 แทน ALIBABA ก็เป็นได้...

ปัจจุบัน​ 'พินตัวตัว'​ มีเกษตรกรถึง 6 แสนราย ที่ใช้พื้นที่นี้ในการจำหน่ายสินค้า และกลายเป็นที่รักของนักชอปออนไลน์ ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 2-3 ร้อยล้านคน 

โดยคาดกันว่า​ ในอนาคตอันใกล้​ อาจจะไม่ได้มีเพียงแต่สินค้าการเกษตรเท่านั้นที่อยู่ใน​ 'พินตัวตัว'​ แต่อาจจะได้เห็นสินค้า/บริการที่หลากหลาย​ หรือแบรนด์เนมราคาแพงมาลงในแพลตฟอร์มนี้อีกด้วย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 8 แนวทาง และ 5 วิธีปฎิบัติ สำหรับ 'หญิงตั้งครรภ์' ในการเข้ารับวัคซีนโควิด-19

จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่า ‘หญิงตั้งครรภ์’ ที่มีความเสี่ยงป่วยเป็นโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป และเพิ่มความเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงได้แนะ 8 แนวทางให้แก่ โรงพยาบาลและคลินิกฝากครรภ์ ให้ความรู้ คำแนะนำ เรื่อง ‘ฉีดวัคซีนโควิด-19’ ลดอาการป่วยหนัก ลดเสี่ยง เสียชีวิตทั้งแม่และเด็ก รวมถึง 5 วิธีปฏิบัติของ ‘หญิงตั้งครรภ์’ ในการดูแลตนเองเป็นพิเศษ มีอะไรบ้าง ? ไปติดตามกันเลย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แห่ตุน 'อากาศ' วิกฤตซ้อนวิกฤต!! ถังออกซิเจนการแพทย์ กำลังขาดแคลน...จริงหรือ? กับ ‘ดร.ตั้น กฤชนนท์’ | Click on Clear THE TOPIC EP.11

???? วิกฤต!! ถังออกซิเจนกำลังขาดแคลน? กระแสแห่กักตุนเริ่มก่อตัว!! เกิดอะไรขึ้น?

???? Exclusive !! วิกฤตขาดแคลน ถังออกซิเจนการแพทย์...จริงหรือ ??

รายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ ที่จะพาไปร่วมเจาะลึกกับ...

‘ดร.ตั้น กฤชนนท์ อัยยปัญญา’

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ใน Topic : แห่ตุน 'อากาศ' วิกฤตซ้อนวิกฤต!! ถังออกซิเจนการแพทย์ กำลังขาดแคลน...จริงหรือ?

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วราวุธ ยืนยัน ปม นายกฯแนะ ช่วยพาผู้ ป่วยกลับรักษาภูมิลำเนา ไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะ โควิด-19 ไม่เลือกรัฐบาล-ฝ่ายค้าน บอก ส.ส.ชทพ.ช่วย ผวจ.สุพรรณอยู่แล้ว

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ครม. เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา หารือถึงการให้รัฐมนตรีแต่ละคนรับผิดชอบพื้นที่เพื่อพาประชาชนกลับไปรักษาตัวในภูมิลำเนา ถูกวิจารณ์เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ว่า เรื่องการให้ช่วยพาประชาชนกลับบ้าน ตรงนี้อย่ามองว่าเป็นเรื่องการเมือง ปัญหาของโควิด-19 ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านต่างโดนเหมือนกันหมด ซึ่งเจตนารมย์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ รัฐมนตรีคนใดช่วยตรงไหนได้ก็ช่วยกัน คนละไม้คนละมือ  ไม่ใช่เฉพาะแค่กระทรวงสาธารณสุขอย่างเดียว ตัวอย่างของตน ซึ่งเป็นผู้แทนของจังหวัดสุพรรณบุรี และส.ส.ของ พรรคชาติไทยพัฒนาเราทำอะไรได้ ให้กับจังหวัดก็ไปช่วยกันทำ มีเครือข่ายอยู่ที่ใดก็ช่วยกันทำ ซึ่งโรงพยาบาลสนามของสุพรรณ ตอนนี้เต็มไปแล้วทั้ง 2 แห่งแล้ว และโรงพยาบาลหลักก็เต็มเกือบหมดแล้ว จึงเริ่มทำเป็นการกักตัวในชุมชน โดยใช้อาคารเอนกประสงค์ตาม อบต. มีผู้นำท้องถิ่นแต่ละที่ ช่วยเร่งปรับเอาเตียงเข้ามา เราช่วยกันอย่างเต็มที่  พวกเราก็ได้เข้าไปซับพอร์ทการทำงานเป็นระบบช่วยจังหวัด 

"การที่นำคนกลับบ้านไม่ใช่เป็นการกระจายเชื้อแต่เป็นการลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ในกรุงเทพ ฉะนั้นใครช่วยตรงไหนได้ก็ช่วยกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในนาทีนี้คือ อย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง นาทีนี้ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมือง ผมก็ทำในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่เราอยู่ตรงไหนเราช่วยไป ในสถานะใดได้ก็ช่วยเต็มที่ อย่างพรรคชาติไทยพัฒนาเรามีส.ส.อยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีทุกเขต ก็ช่วยกันประสานงาน เพราะวันนี้เราไม่แบ่งแล้วว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลหรือเรื่องของประชาชน ใครช่วยอะไรตรงไหนได้ช่วยเต็มที่ เพราะถ้าทุกอย่างมองเป็นการเมืองไปหมดเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า คนนั้นเป็นอย่างนี้คนนี้เป็นอย่างนั้น  แต่โควิดมันไม่ได้เลือกที่จะติดเฉพาะรัฐบาลหรือเฉพาะฝ่ายค้าน หรือเฉพาะคนพรรคนั้นพรรคนี้ มันติดกันหมด ฉะนั้นเวลาแก้ปัญหาใครช่วยกันตรงไหนได้ ก็ช่วยกัน คนละไม้คนละมือ” นายวราวุธ กล่าวว่า

โรงพยาบาลสนาม ท่าอากาศยานสุวรณภูมิคืบ ผ่านการอนุมัติแบบเหลือขั้นตอนติดตั้ง เริ่มรับผู้ป่วย 4,500 เตียงได้ ส.ค. นี้  

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐ เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขเร่งบริหารจัดการและจัดหาเตียงผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเติมในขณะนี้นั้น ล่าสุดที่ประชุมการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ได้เห็นชอบแบบโรงพยาบาลสนาม ระดับสูง (สนามบินสุวรรณภูมิ) ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลักที่1(SAT1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตามที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพออกแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะดำเนินการตามขั้นตอนการเสนอของบประมาณสนับสนุนต่อไป  

ทั้งนี้  โรงพยาบาลสนาม ระดับสูง(สนามบินสุวรรณภูมิ) จะรองรับผู้ป่วย 4,500 เตียง โดยชั้นที่ 2 ของอาคาร SAT1 จะเป็นที่ทำการแพทย์และเตียงผู้ป่วย ICU รวม 940 เตียง  ส่วนชั้นที่ 3 และ 4  เป็นเตียงผู้ป่วยอาการน้อยหรือไม่มีอาการ หรือผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีเขียว 3,560 เตียง ซึ่งเมื่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพดำเนินการจัดตั้งแล้วจะมีสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดูแลดำเนินการ โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ส.ค. เป็นต้นไป

“รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้เร่งจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคมในการจัดหาพื้นที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งนอกจากพื้นที่อาคาร SAT1ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ขณะนี้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ยังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมพื้นที่อาคารคลังสินค้า4 ของทาอากาศยานดอนเมืองเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอีก ซึ่งจะรองรับผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงได้อีกประมาณ2,000 เตียง รวมทั้ง 2 พื้นที่ของ ทอท.จะรองรับผู้ป่วยได้เกือบ7,000 เตียง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

รมช.แรงงาน เปิดสัมมนาออนไลน์ “ให้กลไกตลาดทุนเกื้อหนุนผู้พิการสร้างงานสร้างอาชีพ” เปิดมุมมองใหม่ เร่งช่วยเหลือคนพิการทุกกลุ่ม ให้มีอาชีพ มีรายได้ สู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดงานสัมมนา “ให้กลไกตลาดทุนเกื้อหนุนผู้พิการสร้างงานสร้างอาชีพ” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “เปิดมุมมอง ปรับแนวคิด เข้าใจคุณค่าของผู้พิการ” ผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Microsoft Team และถ่ายทอดสดทาง Facebook Live เพจสำนักงาน ก.ล.ต.  กระทรวงแรงงาน และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยกล่าวว่า งานสัมมนาในวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้เพิ่มการจ้างงานคนพิการ  เพิ่มการจัดสัมปทาน และเพิ่มกิจกรรมทางสังคม เพื่อให้คนพิการสามารถได้รับความช่วยเหลือในหลายๆ เรื่อง มีโอกาสที่จะพัฒนา หารายได้เลี้ยงดูตนเอง และได้รับโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงเครือข่ายภาคเอกชนและภาครัฐ และสร้างกลไกตลาดทุนเพื่อเกื้อหนุนผู้พิการสร้างงานสร้างอาชีพ โดยกระทรวงแรงงาน และคณะอนุกรรมการพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพ มีความพร้อมที่จะร่วมดำเนินการเพื่อให้เรื่องดังกล่าวเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม 

รมช. แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดสัมปทานตามมาตรา 35 และกิจกรรมด้าน CSR เพื่อพี่น้องคนพิการ เป็นความช่วยเหลือที่ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการเพื่อสร้างโอกาสให้คนพิการมีอาชีพ มีรายได้ และมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และในวันนี้ มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมเสวนาผ่านระบบออนไลน์ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะช่วยให้พี่น้องคนพิการได้รับโอกาสทั้งในการทำงาน การพัฒนาตนเอง และการหารายได้เพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ขอขอบคุณ สำนักงาน ก.ล.ต. และทุกหน่วยงานที่ร่วมจัดงานเป็นอย่างสูง และขอให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จลุล่วงและเกิดประโยชน์แก่พี่น้องคนพิการอย่างแท้จริง

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การสัมมนาในวันนี้ ภายใต้ชื่อ “ให้กลไกตลาดทุนเกื้อหนุนผู้พิการสร้างงานสร้างอาชีพ” มีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดกิจกรรมด้านสังคมเพื่อคนพิการให้มากขึ้น ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจจากตัวอย่างของบริษัทจดทะเบียนในตลาดทุนที่มีการจ้างงานคนพิการ ซึ่งมีหลากหลายกิจกรรมที่สามารถสนับสนุนและช่วยเหลือคนพิการและครอบครัวได้ ก.ล.ต. จึงคาดหวังว่า การร่วมกันจัดกิจกรรมในลักษณะนี้จะช่วยให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพที่จัดตั้งขึ้นโดยคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล และกำหนดแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการ เพื่อรองรับการประกอบอาชีพ โดยบูรณาการการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงนโยบายของรัฐบาล การจัดงานวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนงานช่วยเหลือคนพิการตามกลไกดังกล่าว ซึ่ง กพร. ดำเนินกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือคนพิการมาโดยตลอด ทั้งการฝึกอบรมทักษะอาชีพเพื่อส่งเสริมการมีงานทำ รวมถึงการพัฒนาและรับรองหลักสูตรการฝึกเพื่อคนพิการ ตาม ม.35  นอกจากนี้ กพร.ยังมีภารกิจ และกิจกรรมที่สถานประกอบกิจการสามารถมีส่วนร่วมจัดกิจกรรม CSR ได้ เช่น การฝึกอบรม การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และการจัดการแข่งขันฝีมือคนพิการ เป็นต้น

การสัมมนาผ่านระบบออนไลน์ในวันนี้ ยังมีผู้ร่วมเสวนาอีกหลายหน่วยงาน ได้แก่ คุณสมชาย มรกตศรีวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ในประเด็น ข้อกฎหมาย แนวทางการให้ความช่วยเหลือ และสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องสำหรับสถานประกอบการ  และคุณสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในประเด็น การให้ความช่วยเหลือคนพิการตาม พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่าน ได้แก่ คุณชูศักดิ์ จันทนานนท์ ประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย คุณอภิชาต การุณกรสกุล ประธานมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม คุณดวงพร เที่ยงวัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ดร.ชาติชาย นรเศรษฐาภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ในนามบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คุณกรณิศ ธนสุนทรกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานทรัพยากรบุคคล บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และคุณอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายสื่อสารองค์กรและเครือข่ายตลาดทุน สำนักงาน ก.ล.ต.

“เสกสกล” จวก “หญิงหน่อย” โพสต์รูปผู้ป่วยโชว์โซเชียล เหน็บ อยากช่วยให้ทำเลย อย่าเอาหน้า ป้อง “นายกฯ”ทุกหน่วยไม่เคยนอนหลับ เร่งแก้ปัญหาปชช.

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ภาพผู้ป่วยโควิด-19 รอโรงพยาบาล ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่านายกฯเห็นภาพนี้นอนหลับหรือไม่ ว่า ขอบคุณคุณหญิงสุดารัตน์ ที่มีน้ำใจจะช่วยผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังรอการรักษา เป็นการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ แต่สิ่งที่ไม่สมควรทำคือนำภาพผู้ป่วยมาเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก เพราะจะทำให้เห็นว่าที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนนั้นไม่จริงใจ แต่อยากให้คนเห็นการทำงานแบบสร้างภาพของตัวเอง หรือเพื่อหาคะแนนเสียงให้ตัวเองดูดี

นายเสกสกล กล่าวว่า ภาพผู้ป่วยไม่ใช่แค่นายกฯ รัฐมนตรี บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่มีใครนอนหลับลง และทุกคนทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตลอดแทบไม่มีเวลาพักผ่อน และถามว่าในสถานการณ์วิกฤต คุณหญิงสุดารัตน์ คงนอนหลับฝันดีอย่างใช่หรือไม่ และหากจะทำตัวเป็นประโยชน์ เป็นผู้ใหญ่ที่คิดเป็น ไม่มีอคติ ให้พาทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทันที ไม่ต้องรอใครสั่ง ลงมือเสียสละช่วยกันได้เลย

"ประชาชนมองออกว่าไม่ได้เกิดจากความจริงใจ ที่อยากจะช่วยคนป่วย ทั้งที่ในภาวะเกิดการระบาดแพร่กระจายของเชื้อโควิด แทนที่ทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือประชาชนจับมือกัน แต่นี่กลับสร้างภาพ เพื่อให้ฝ่ายตัวเองด่าทอนายกฯและรัฐบาลในโซเชียล เสมือนปลุกระดมทำลายกัน ขอให้คุณหญิงช่วยลุยลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านในยามทุกข์เช่นนี้ดีกว่าไหม ทำไมต้องมาโพสต์เพื่อประจาน หวังทำลายด้อยค่าคนอื่น สุดท้ายประจานตัวเองหรือว่าคุณหญิงหน่อย คิดว่าประเทศชาติประชาชนเป็นของนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบ มีปัญหาอะไรก็โยนใส่นายกฯต้องรับผิดชอบคนเดียว ถ้าคิดเช่นนั้นคงต้องคืนบัตรประชาชนจะดีกว่า เพราะคงไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย จึงไม่มีจิตสำนึก ไม่เห็นใจประชาชนยามทุกข์ และเอาภาพประชาชนที่เจ็บป่วยมาโพสต์ หวังผลทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตน"นายเสกสกล กล่าว

อาชีวะเกษตรและประมง เร่งช่วยเหลือชุมชน แจกจ่ายฟ้าทะลายโจรและกระชาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากโควิด-19

ดร.ศุภชัย ศรีหล้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) และประธานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์อาชีวะเกษตรและประมง เปิดเผยว่า ดร. คุณหญิงกัลยา ได้มอบนโยบายเร่งด่วนให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรทั้ง 4 ภาค และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยประมงทั่วประเทศ ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในทุกชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน

โดยนอกจากให้การช่วยเหลือด้านสถานที่และอาหารแล้ว ยังให้สถานศึกษาอาชีวะเกษตรฯ ทั้ง 47 แห่งเพาะพันธุ์ปลานิล ซึ่งแพร่ขยายพันธุ์ง่าย มีรสชาติดี และดีต่อสุขภาพ รวมถึงพืชสมุนไพรไทยอย่างกระชาย และฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีสรรพคุณทางการแพทย์ในการเสริมภูมิคุ้มกัน เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

“สืบเนื่องจากนโยบายของคุณหญิงกัลยา ให้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จึงได้จัดการประชุมหารือผ่าน ระบบ Zoom เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายโดยมี ดร. ชาติชาย เกตุพรหม ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาเกษตรและประมง นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษาผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผู้แทนสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรทั้ง 4 ภาค และผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยประมงทั่วประเทศ โดยวิทยาลัยเกษตรและประมงทั้ง 47 แห่ง เตรียมดำเนินการ แจก-ปล่อย ปลานิลจำนวน 999,999 ตัว และเพาะ-แจกต้นกล้าฟ้าทะลายโจรจำนวนกว่า 2 แสนต้นภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19” ดร.ศุภชัย กล่าว


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/110537


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top