Friday, 9 May 2025
Hard News Team

ออมสินช่วยลูกหนี้กู้ไม่เกิน 2 แสน “พักต้น-ดอก” นาน 6 เดือน

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ได้ออกมาตรการพักชำระหนี้ สูงสุด 6 งวด (พักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย) เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงสถานการณ์ยากลำบากให้กับลูกหนี้กลุ่มที่เป็นลูกค้ารายย่อย ซึ่งจากฐานข้อมูลลูกค้าสินเชื่อของธนาคาร ประเมินว่าจะสามารถช่วยเหลือลูกค้าที่มีสิทธิ์พักหนี้ตามมาตรการนี้ ในจำนวนมากถึงกว่า 750,000 ราย เป็นยอดหนี้คงเหลือกว่า 50,000 ล้านบาท

สำหนับมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท และไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับผู้ได้รับผลกระทบทำให้ต้องเลิกกิจการ ถูกเลิกจ้าง ขาดรายได้ ฯลฯ (ยกเว้นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ) โดยพักเงินงวดผ่อนชำระให้สูงสุด 6 งวด เริ่มตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม – เดือนธันวาคม 2564 หลังจากนั้นเมื่อสิ้นสุดระยะการพักชำระหนี้ ให้กลับมาจ่ายเงินงวดตามเงื่อนไขเดิม โดยเงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้พักไว้ จะถูกนำไปรวมชำระในงวดสุดท้ายของสัญญาเงินกู้หรือข้อตกลงที่ทำกับธนาคาร 

ทั้งนี้ ช่วงระยะเวลาที่พักชำระหนี้ ไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระและไม่ส่งผลต่อข้อมูลเครดิตของลูกค้า รวมถึงไม่มีดอกเบี้ยผิดนัดชำระและค่าปรับใด ๆ โดยธนาคารแบ่งความช่วยเหลือเป็น 2 เฟส เริ่มเฟสแรกวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 และเฟสที่สองช่วงเดือนสิงหาคม ลูกค้าจะทยอยได้รับ SMS หรือ Notification แจ้งทางแอป MyMo ให้สามารถกดรับสิทธิ์เพื่อขอพักชำระหนี้ผ่านแอป MyMo จนเสร็จสิ้นกระบวนการ กรณีที่ลูกค้ายังไม่มีแอป สามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานด้วยตนเอง หรือ ติดต่อที่ธนาคารออมสินทุกสาขา

“ครม.”ขยายวงเงินเยียวยา ‘นายจ้าง-ลูกจ้างม.33’พื้นที่แดงเข้ม 10 จว.รวม 13,505 ล้านบาท เตรียมเยียวยาอีก 3 จ.เพิ่มเติม

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรีว่า (ครม.) ว่า ครม. อนุมัติกรอบวงเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ  ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ รวม 10 จังหวัด ให้กิจการที่ได้รับผลกระทบ 9 สาขา จากเดิมที่ได้เห็นชอบไปแล้ว 2,519.38 ล้านบาท เพิ่มเป็น 13,504.696 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10,985.316 ล้านบาท

นายอนุชา กล่าวว่า นอกจากนี้ครม. เห็นชอบให้ขยายพื้นที่เยียวยาผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการโควิด เพิ่มเติมจาก 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา ครม.และจะนำกรอบวงเงินที่เพิ่มขึ้นนำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป

ครม.อนุมัติ ขยายระยะเวลาประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.- 30 ก.ย. เพื่อ ยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 2 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 และสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2564 ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)เสนอ  ซึ่งประกาศฉบับเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31กรกฎาคม 2564 นี้  โดยสมช.ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ซึ่งในที่ประชุมปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานการแพร่ระบาดว่า สถานการณ์ในระดับโลก ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในหลายภูมิภาค ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้ออยู่ในอันดับที่ 62  อันดับหนึ่งคือสหรัฐอเมริกา อันดับสอง อินเดีย และอันดับสาม บราซิล

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในไทยระลอกเดือน เมษายน 2564 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 9 กรกฎาคม 2564 มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวน 288,643 ราย  ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปรากฏจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมากกว่าหลายพันคนต่อวัน และมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิด -19 เป็นชนิดสายพันธุ์ใหม่อย่างเดลต้า สามารถแพร่ระบาดและติดต่อกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในบางพื้นที่ยังพบสายพันธุ์เบต้า ที่มีความรุนแรงมาก อาจส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในจังหวัดที่มีสถานประกอบการ โรงงาน ตลาดค้าส่ง  และพบการระบาดต่อเนื่องจากผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ที่พักแรงงานก่อสร้างชั่วคราว ครอบครัว ตลาด สถานที่ทำงาน และสถานที่ชุมชนต่างๆ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการแพร่ระบาดในระยะต่อไป กระทรวงสาธารณสุขประเมินว่าจะมีผู้ติดเชื้อจำนวน 10,000รายต่อวัน หรือมีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 100,000 ราย ภายในระยะเวลา 14 วัน ซึ่งจะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในอัตราเกิน 100 รายต่อวัน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเพื่อควบคุมและแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข จะช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาระต่อบุคลากรทางการแพทย์ เตียงรักษา หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ศปก.ศบค. พิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและระยะต่อไปยังคงเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ความมั่นคงปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข และระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงมีความจำเป็นต้องขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ออกไป เพื่อให้การบังคับใช้มาตรการควบคุมและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในสุขภาพและชีวิตของประชาชน

กรมการจัดหางาน  แนะประชาชนรับบริการผ่านระบบออนไลน์ ปลอดภัยจาก COVID-19

อธิบดีกรมการจัดหางาน แนะนำประชาชนใช้บริการช่องทางออนไลน์ของกรมการจัดหางาน เลี่ยงการเดินทางไปสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 – 10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามมาตรการล็อกดาวน์ 

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน  เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศข้อกำหนดและข้อปฏิบัติออกตามความในมาตรา 9  แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ . 2548 (ฉบับที่  28) ข้อ 9 ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สั่งการให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรในความรับผิดชอบ ดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขั้นสูงสุดเต็มจำนวน และมุ่งเน้นการปฏิบัติงานหรือจัดกิจกรรมโดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มากที่สุด เพื่อลดจำนวนและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางของบุคล ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป 

“อย่างไรก็ดี กรมการจัดหางานได้เตรียมช่องทางการให้บริการประชาชน ผ่านทางออนไลน์ (E – Services) เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ลดความเสี่ยงรับเชื้อโควิด -19 จากการเดินทางและการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก โดยสามารถใช้บริการผ่านช่องทางต่อไปนี้
1. ผู้ที่ต้องการหางานทำ หรือนายจ้าง/สถานประกอบการที่ต้องการหาคนทำงาน สามารถใช้บริการได้ที่ smartjob.doe.go.th หรือ ไทยมีงานทำ.com  
2. ขึ้นทะเบียน/รายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน  ใช้บริการได้ที่  empui.doe.go.th 
3. ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่ สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและภาคเอกชน (Co-Payment) ได้ที่ www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com  
4. ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ แจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง /แจ้งการเดินทางกลับไปทำงานต่างประเทศ ใช้บริการได้ที่ toea.doe.go.th 
5. ระบบแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ทาง Application ชื่อ  e-inform

นอกจากนี้ยังมีสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 ให้บริการตอบข้อซักถามแก่ประชาชน ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปติดต่อราชการ ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 ขอให้ตรวจสอบวันและเวลาให้บริการก่อนเดินทางเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาหากมีการปิดสถานที่ให้บริการ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการ และปฏิบัติตามมาตรการที่เจ้าหน้าที่แนะนำอย่างเคร่งครัด  ” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

ครม.ไฟเขียวเยียวยาประกันสังคมเพิ่มอีก 3 จังหวัดล็อกดาวน์

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้ช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้างและนายจ้าง ที่อยู่ในพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพิ่มเติมอีก 3 จังหวัด คือ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา จากเดิมที่ช่วยเหลือไปแล้ว 10 จังหวัด โดยจะช่วยเหลือลูกจ้างและนายจ้างในกลุ่มเป้าหมายเดิม 9 สาขาอาชีพ และผู้ที่อยู่ในระบบถุงเงิน สัญชาติไทย และยังประกอบอาชีพ ซึ่งไม่รวมข้าราชการและข้าราชการบำนาญ ครอบคลุมทั้งผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นเวลา 1 เดือน 

สำหรับการช่วยเหลือ แยกเป็น แรงงานตามมาตรา 33 ได้รับ 2,500 บาทต่อคน และมาตรา 39 และ 40 ได้รับ 5,000 บาท โดยมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม จัดทำรายละเอียดและนำเสนอครม.ตามขั้นตอนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยให้นายจ้างและลูกจ้างที่ได้นับเงินช่วยเหลือนี้ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาจากเงินที่ได้รับการช่วยเหลือด้วย 

ครม. ตั้ง ‘พันโท’ หนุน ‘ศันสนาคม’ นั่ง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล-อนุมัติ 288 ชื่อ เข้าเรียน วปอ.รุ่น 64 ตามกห.ชง 

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า ครม.มรมติอนุมัติตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอแต่งตั้ง นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ ผู้อำนวยการกอง (ผู้อำนวยการระดับสูง) กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กลุ่มที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอแต่งตั้ง พันโท หนุน ศันสนาคม ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีการกำหนดอัตราค่าตอบแทนคงที่ในอัตรา 280,000 บาทต่อเดือน โดยในระหว่างอายุสัญญา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ในวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี ในอัตราไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของค่าตอบแทนคงที่ที่ผู้รับจ้างได้รับ 

ทั้งนี้ ให้ขึ้นกับผลการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ตลอดอายุสัญญาจ้างจะต้องไม่มีผลให้อัตราค่าตอบแทนคงที่ที่ได้รับเกินกว่าอัตราขั้นสูงตามกรอบอัตราค่าตอบแทนคงที่ ที่ กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบไว้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ระบุในสัญญาจ้างผู้อำนวยการฯ แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (ตามมติคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในการประชุมครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 และครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 )

ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอแต่งตั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปารีณา ศรีวนิชย์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านสิทธิมนุษยชน) ในคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างนั้น อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว 

ครม.อนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง กรรมการอื่น ในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 4 คน ดังนี้ นายปรีชาพร สุวัฒโนดม เป็นกรรมการ พันเอก ศรัณยู วิริยเวชกุล เป็นกรรมการ รองศาสตราจารย์ธีร เจียศิริพงษ์กุล    เป็นกรรมการ รองศาสตราจารย์พรอนงค์ บุษราตระกูล เป็นกรรมการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป  

ครม.เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้ง นางสาวทิพานัน ศิริชนะ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

ครม.อนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ประจำปีการศึกษา 2564-2565  รุ่นที่  64 จำนวน  288 ราย หากผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการศึกษา แจ้งความประสค์สละสิทธิ์ หรือหากการตรวจสอบคุณสมบัติในภายหลังพบว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือกขาดคุณสมบัติตามระเบียบกระทรวงกลาโหม ให้กระทรวงกลาโหมโดยสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ตัดรายชื่อออกจากที่ได้รับอนุมัติ รวมทั้งพิจารณาผู้ที่จะเข้ารับการศึกษาทดแทนได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องขออนุมัติ ครม.ใหม่

ครม.ปรับ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ขยายเวลาใช้สิทธิ์ถึง30พ.ย.-เพิ่มวงเงินคำนวณเป็น 10,000 บาทต่อคนต่อวัน- ลดคนใช้สิทธิ์-ลดงบประมาณเกือบ2หมื่นล้านบาทเหตุประกาศ ศบค. ทำคนเดินห้างน้อยลง

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แหลงผลประชุมคณะรัฐมนตรีว่า(ครม.)ว่า ครม.อนุมัติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้”โดยขยายระยะเวลาการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรือรับบริการที่ได้รับการสนับสนุนบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์(  e-Voucher )จากเดิมระหว่าง 1 ก.ค.- 30 ก.ย.2564เป็นตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 พ.ย.2564 และเพิ่มวงเงินใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณสิทธิ ไม่เกิน 10,000 บาทต่อคนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. -30 พ.ย.นี้ โดยจำกัดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณสิทธิe-Voucher ไม่เกิน60,000 บาทต่อคน นอกจากนั้นปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ จากเดิมไม่เกิน  4 ล้านคน เป็นไม่เกิน 1.4 ล้านคน ทำให้กรอบวงเงินโครงการลดลงจาก 28,000 ล้านบาท เป็น 9,800 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 18,200 ล้านบาท

นายอนุชา กล่าวว่า จากประกาศข้อกำหนดของศบค.ที่ผ่านมา ให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกัน ในเขตพื้นที่กทม.และปริมณฑล และในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ของประเทศ เปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 20.00 น.เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน ส่วนร้านค้าและร้านอาหาร ที่เข้าร่วมโครงการที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าต้องปิดชั่วคราว อาจมีผู้ใช้สิทธิ์น้อยลง จึงมีการปรับเปลี่ยนโครงการเพื่อความเหมาะสมด้วย

ครม. ไฟเขียว ขยาย พื้นที่แดงเข้ม จาก 10 เป็น 13 จังหวัด สั่ง เยียวยาผู้ประกอบการ-ลูกจ้าง ด้วย

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบและให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 13 กรกฎาคม 64 ให้ครอบคลุมพื้นที่จากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด เพิ่มเติมจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และอยุธยา โดยยังคงกลุ่มลูกจ้างและผู้ประกอบการใน 9 กลุ่มกิจการที่ได้รับผลกระทบ อัตราการจ่ายและวิธีการจ่ายเงินเช่นเดิม เป็นระยะเวลา 1 เดือน

"สถาบันนโยบายก้าวไกล" เสนอ มหาลัยลดค่าเทอม 30% ชี้ รัฐบาลควรอุดหนุนมหาลัยขนาดกลาง-เล็ก เพื่อลดค่าเทอมให้เท่าเทียม

นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายของพรรคก้าวไกล (Think Forward Center) กล่าวว่า ขอเสนอให้มหาวิทยาลัยลดค่าเทอมลง 30% ช่วงเกิดวิกฤตโควิด-19 และรัฐบาลต้องเข้ามาอุดหนุนมหาวิทยาลัยขนาดกลาง-ขนาดเล็ก เพราะภาระค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับครัวเรือน โดยเฉพาะสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย เมื่อก้าวจากการศึกษาภาคบังคับมาสู่มหาวิทยาลัยจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า และเมื่อนำค่าใช้จ่ายในการศึกษาดังกล่าวมาเทียบกับรายได้ของแต่ละครัวเรือนด้วยแล้วจะพบว่าครัวเรือนที่มีรายได้น้อยที่สุด 10% จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการศึกษาถึง 49% ของรายได้ครัวเรือน ในขณะที่ครัวเรือนที่มีรายได้สูง มีภาระค่าใช้จ่ายประมาณร้อยละ 7 ของรายได้เท่านั้น

นายเดชรัต กล่าวต่อว่า จึงไม่น่าแปลกใจว่าเด็กจากกลุ่มครัวเรือน 40% ล่าง มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 16.6 ของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาทั้งหมด ตรงกันข้ามกับสัดส่วนของนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ ยิ่งเมื่อรายได้ของครัวเรือนลดลงจากผลกระทบของโควิด-19 จะพบว่าสัดส่วนของภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาของครัวเรือนที่มีรายได้น้อยต่อรายได้ทั้งหมดของครัวเรือน จะเพิ่มขึ้นเยอะกว่าครัวเรือนที่มีรายได้สูงมาก ยังไม่ต้องพูดถึงข้อเท็จจริง ที่ว่า ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยน่าจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาวะโควิด-19 มากกว่า นั่นหมายความว่าเด็กๆ จากครัวเรือนที่มีรายได้น้อยอาจต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา หรือครัวเรือนก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินมากขึ้น ฉะนั้น ตนขอสนับสนุนให้มีการลดค่าลงทะเบียนและค่าใช้จ่ายในการศึกษาอื่นๆ ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อไม่ให้กลายเป็นความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามากไปกว่านี้

นายเดชรัตน์ กล่าวต่อว่า มหาวิทยาลัยควรลดค่าเทอมเท่าไรเป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยมีโครงสร้างทางการเงินที่แตกต่างกันมาก อาจแยกได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ 1.มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่พึ่งพารายได้จากการจัดการศึกษา หรือค่าเทอมและอื่นๆ ของนิสิตนักศึกษา ไม่ถึง 20% ของรายรับทั้งหมด ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ช่วงปี 63 มหาวิทยาลัยกลุ่มนี้ยังมีรายได้สุทธิเป็นหลักพันล้านบาท และมีรายได้สุทธิสะสมเป็นหมื่นล้านบาทขึ้นไป เช่น จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยกลุ่มนี้น่าจะลดค่าเทอมได้มากกว่า 30-50% โดยยังรายได้สุทธิเป็นบวก และถึงติดลบบ้างก็ไม่กระเทือนเงินสะสมมากนัก 2. มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่พึ่งพารายได้จากการจัดการศึกษามากกว่า 30% ขึ้นไป เช่น ศิลปากร มศว มหาวิทยาลัยกลุ่มนี้มีรายได้สุทธิสะสมเป็นหลักพันล้านบาทปลายๆ มหาวิทยาลัยกลุ่มนี้น่าจะได้รับผลกระทบจนรายได้สุทธิติดลบได้ ถ้ามีการลดค่าเทอมมากกว่า 30% และ 3.มหาวิทยาลัยขนาดเล็ก กลุ่มนี้ฐานะการเงินในช่วงหลังไม่ดีนัก รายได้สุทธิอาจมีติดลบในบางปี หรือถ้าเป็นบวกก็ไม่มากนัก กลุ่มนี้อาจลดค่าเทอมได้ในอัตรา 10% ถ้าลดมากกว่าอาจกระทบต่อรายได้สุทธิได้ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยกลุ่มนี้มีรายได้สุทธิสะสมเป็นหลักพันล้านต้นๆ

"ผมเชื่อว่า ทุกมหาวิทยาลัยน่าจะลดค่าเทอมได้ 10% มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อาจลดได้ถึง 15-30% ส่วนที่เหลือ ผมว่าถ้ารัฐบาลเข้ามาช่วยอุดหนุนมหาวิทยาลัยขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อให้ลดค่าเทอมได้ในสัดส่วนเดียวกันที่ 30% น่าจะเป็นเรื่องที่ดี นอกจากนี้ รัฐบาลและมหาวิทยาลัยควรเตรียมสินเชื่อเฉพาะกิจปลอดดอกเบี้ย สำหรับค่าเล่าเรียนในปีการศึกษานี้" นายเดชรัต กล่าว

'เศรษฐกิจไทยหลัง COVID-19 จะอยู่หรือไป ?' กับ 'อาจารย์ต้อม กิตติธัช’ |Click on Clear THE TOPIC EP.10

????พลาดไม่ได้! ผ่าเศรษฐกิจประเทศไทย หลังโควิด-19 !

????พร้อมวิเคราะห์แบบเจาะลึก…เศรษฐกิจไทยจะ ‘รอด’ หรือ’ร่วง’ !

โดย​ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ ที่จะพาไปพูดคุยกับ...

‘อาจารย์ต้อม กิตติธัช ชัยประสิทธิ์’

นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าgเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ใน​ Topic : 'เศรษฐกิจไทยหลัง COVID-19 จะอยู่หรือไป ?'

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top