เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) ระบุว่าสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันเพิ่มขึ้น 101,171 คน นับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตก็กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกในเกือบทุกรัฐของสหรัฐฯ อันเป็นผลจากการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา
เว็บไซต์ของศูนย์ฯ ระบุว่าสายพันธุ์เดลตามีการระบาดอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่ครองสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 1 ของจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อยู่ที่มากกว่าร้อยละ 80 แล้วในขณะนี้ พร้อมกับระบุอีกว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่จากคนหนึ่งสู่อีกคนง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นก่อนหน้านี้ 2 เท่าตัว คาดว่าสัดส่วนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มเป็นร้อยละ 82.2 อีกทั้งได้ปรับแนวปฏิบัติด้านการสวมหน้ากากอนามัย กระตุ้นชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แล้ว ให้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และในเขตที่มีอัตราการติดเชื้อสูง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชารายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 668 คน ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 240 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 76,585 คน ด้านผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,375 คน หลังจากพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 25 คน ขณะที่ผู้ที่รักษาหายแล้วอยู่ที่ 69,198 คน ภายหลังผู้ติดเชื้อรักษาหายเพิ่มขึ้น 812 คน
ทั้งนี้ กัมพูชาเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีจีนเป็นผู้จัดสรรวัคซีนรายสำคัญโดยออร์ แวนดิน รัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาดำเนินการฉีดวัคซีนแล้ว 11.8 ล้านโดส เมื่อนับถึงปัจจุบันมีประชาชนได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว 7.13 ล้านคน และรับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว 4.67 ล้านคน ซึ่งกัมพูชาตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างน้อย 10 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 16 ล้านคน ภายในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนนี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา ว่ากระทรวงสาธารณสุขเมียนมารายงานสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 299,185 คน เพิ่มขึ้น 4,725 คน หายป่วยสะสมอย่างน้อย 209,512 คน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 9,334 คน เพิ่มขึ้น 392 คน
อย่างไรก็ดี สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่รายงานแสดงความกังวลอย่างหนักต่อวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ว่าอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าเลวร้ายถึงขีดสุด โดยภายในเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ข้างหน้า มีความเป็นไปได้สูงที่ประชากรครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดราว 54 ล้านคนในประเทศนี้ จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางการระบาดอย่างหนักและรวดเร็วของเชื้อสายพันธุ์เดลตา
สำหรับอัตราการติดเชื้อของเมียนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ 6.29 ต่อประชากร 1 ล้านคน มากกว่าสองเท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาวิกฤติที่สุดของอินเดียเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่อัตราการตรวจคัดกรองซึ่งต่ำมาก จึงมีความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์จริงในพื้นที่รุนแรงกว่านั้นมาก
ขณะที่นายโธมัส แอนดรูว์ส ผู้รายงานด้านกิจการเมียนมาของยูเอ็น เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติให้หยุดยิงอย่างเป็นทางการในเมียนมา เนื่องจากความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบสาธารณสุขจนเข้าขั้นล่มสลาย และการที่เมียนมามีพรมแดนติดกับ 5 ประเทศ รวมถึงจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หากไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดข้ามพรมแดนได้ ภูมิภาคแห่งนี้จะเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ด้านสาธารณสุข
ที่มา : https://www.naewna.com/inter/591925
Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9