Saturday, 10 May 2025
Hard News Team

ครม. อนุมัติ 3.3 หมื่นล้าน เยียวยา ม.39 - 40 รวม 29 จังหวัด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบกรอบวงเงิน 33,471 ล้านบาท เยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ 29 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตามข้อกำหนดฯ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 6,694,201 คน 

ทั้งนี้ได้กำหนดคุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย  เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีสัญชาติไทย สถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะ A (Active) ณ วันที่ 31 ก.ค. 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด) หรือ ณ วันที่ 3 ส.ค. 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 16 จังหวัด) กรณีเป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะรอชำระเงิน W (Wait) ณ วันที่ 31 ก.ค. 2564 ทั้งนี้ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39  และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องไม่เป็นข้าราชการหรือผู้รับบำนาญของกรมบัญชีกลาง

ส่วนวิธีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะโอนเงินให้กับผู้ประกันตนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) เฉพาะที่ผูกบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชน  พร้อมกันนี้ ครม.ยังให้กระทรวงแรงงาน เร่งตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามเป้าหมายเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน รวมทั้งขอให้โอนเงินให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนตาม ม. 39 และ ม. 40 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 10 จังหวัด ก่อนระยะเวลาที่กำหนด ภายในวันที่ 24 ส.ค. 2564 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ที่มีสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ที่รุนแรงและได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ก่อนพื้นที่อื่น ๆ อีกทั้ง กำหนดให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพิ่มเติมในพื้นที่ 10 จังหวัด ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 10 ส.ค. 2564 และในพื้นที่ 19 จังหวัดต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 24 ส.ค. 2564

นอกจากนี้ ได้ให้กระทรวงแรงงานจัดทำข้อเสนอขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ 13 จังหวัดเพิ่มเติมอีกจำนวน 1 เดือนซึ่งจะช่วยให้การให้ความช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ซีพีเริ่ม ‘โครงการครัวปันอิ่ม’ จับมือทุกภาคส่วน มอบอาหาร 2 ล้านกล่อง กระจาย 40 ชุมชนกทม. ฝ่าวิกฤตโควิด-19 เขตลาดพร้าว ด้านกลุ่ม Up for Thai โครงการ 'ต้องรอด' ช่วยกระจายอาหารเขตลาดพร้าว

จากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำรงชีพและปากท้องของประชาชนนั้น

โครงการ 'ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19' แจกข้าวฟรี 2 ล้านกล่อง จึงเป็นอีกโครงการที่เกิดขึ้นมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องในชุมชนต่าง ๆ และผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารรายย่อยให้สามารถฝ่าวิกฤตโควิดไปได้ ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โดยนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือซีพี ได้ประกาศความตั้งใจที่จะผนึกกำลังธุรกิจในเครือร่วมแรงร่วมใจคนละไม้คนละมือกับพี่น้องคนไทยทุกภาคส่วนเพื่อก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

'ครัวปันอิ่มฯ' มุ่งเน้นช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 40 ชุมชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยระดมสรรพกำลังของกลุ่มธุรกิจในเครือประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัทเอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด, ผู้ดูแลธุรกิจโลตัส และบริษัท ซีพี โซเชียลอิมแพคท์ จำกัด

นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือร่วมใจจากพันธมิตรต่าง ๆ ในสังคมที่ได้เข้ามาร่วมกันช่วยเหลือชุมชนที่เดือดร้อน อาทิ 'ต้องรอด' ภายใต้กลุ่ม Up for Thai อาสาเข้ามาช่วยเหลือในด้านการนำอาหารจาก 'ครัวปันอิ่มฯ' มาแจกจ่ายในแต่ละวัน โดยเบื้องต้น ทาง 'ต้องรอด' จะเริ่มนำมากระจายแจกทุกวันตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. นับไปเป็นเวลา 2 เดือน วันละ 400 กล่อง บริเวณวัดลาดพร้าว เวลา 10.00 น. เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนที่ขาดรายได้ ว่างงาน กลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่กักตัวดูอาการ และผู้ที่รักษาตัวที่บ้านหรือ Home Isolation

สำหรับโครงการครัวปันอิ่มเริ่มดีเดย์แจกจ่ายอาหารพร้อมรับประทานจำนวน 2 ล้านกล่อง ให้แก่ชุมชมต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล มาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2564 โดยจำนวน 2 ล้านกล่องนี้ ประกอบด้วย ส่วนแรกเป็นการช่วยเหลือร้านอาหารรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการควบคุมการแพร่ระบาด และอีก 1 ล้านกล่องเป็นการสมทบอาหารจากเครือซีพี


อ้างอิง : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2875366


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ทักษิณ' อดีตนายกรัฐมนตรี โชว์ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ที่ดูไบ ชี้ชัดว่าเป็น mRNA กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของพินทองทา ชินวัตร หรือเอม บุตรสาวคนโต ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือโทนี วู้ดซัม ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความลงในอินสตาแกรม pongkuna โดยเป็นภาพของนายทักษิณ ขณะเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เป็นวัคซีน mRNA ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี

โดยมีชาวเน็ตเข้ามาถามต่อเรื่องการฉีดวัคซีนต่อว่า...ควรบูท mRNA เข็ม 3 ห่างจาก sinopharm 2 เข็ม กี่สัปดาห์ และมีคำตอบกลับมาว่า...หลังจากฉีดเข็มที่ 2 แล้ว ก็ต้องเว้นระยะประมาณ 3 -6 เดือน เป็นต้น


ข้อมูล และรูปภาพจากอินสตาแกรม Pong Kunakornwong (@pongkuna)

ที่มา : https://siamrath.co.th/n/269852


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

Glenmark จับมือ SaNOtize บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในแคนาดา วางจำหน่ายสเปรย์พ่นจมูกรักษาโควิด-19 ในอินเดียและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย

Glenmark Pharmaceuticals บริษัทยาระดับโลกที่มุ่งเน้นการวิจัย และ SaNOtize Research & Development Corp. บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของแคนาดา ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวที่มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการผลิต ทำการตลาด และจัดจำหน่ายสเปรย์ Nitric Oxide Nasal Spray (NONS) รูปแบบใหม่สำหรับการรักษาโควิด-19 ในอินเดียและตลาดอื่น ๆ ในเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฮ่องกง, ไต้หวัน, เนปาล, บรูไน, กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, ศรีลังกา, ติมอร์-เลสเต และเวียดนาม

การทดลองทางการแพทย์ในเดือนมี.ค. 64 ของ SaNOtize แสดงให้เห็นว่า สเปรย์ NONS เป็นแนวทางการต้านไวรัสเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ระยะเวลาการแพร่กระจายสั้นลง และลดความรุนแรงของอาการ

สเปรย์ NONS จะลดปริมาณไวรัสเฉลี่ยประมาณ 95% ใน 24 ชั่วโมงแรก และลดลงมากกว่า 99% ภายใน 72 ชั่วโมง จากการทดสอบในผู้ป่วยและอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางการแพทย์ในสหราชอาณาจักรและแคนาดา

NONS ออกแบบมาเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจส่วนบน ป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสฟักตัวและแพร่กระจายไปยังปอด โดยจัดทำออกมาในรูปแบบของสเปรย์พ่นจมูกที่ใช้งานง่าย โดย NONS ใช้ไนตริกออกไซด์ (NO) ซึ่งเป็นโมเลกุลนาโนธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านจุลชีพที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และมีผลโดยตรงต่อไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งก่อให้เกิดโควิด-19

Glenmark ได้ยื่นข้อเสนอต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางขององค์กรควบคุมมาตรฐานยากลางของอินเดีย (CDSCO) เพื่อขออนุมัติฉุกเฉินสำหรับการนำเข้าและการตลาดของ NONS ในช่วงต้นเดือนก.ค. 64 ซึ่งทางคณะกรรมการได้แนะนำให้ทำการทดลองทางการแพทย์ระยะที่ 3 ในผู้ป่วยชาวอินเดีย และคาดการณ์ว่า การทดลองทางการแพทย์ระยะที่ 3 สำหรับ NONS นั้นจะแล้วเสร็จก่อนการเปิดตัวเชิงพาณิชย์ภายใต้ชื่อแบรนด์ FabiSpray(R) ในอินเดีย ภายในไตรมาส 4 ของปีปฏิทิน 2564

"ความพยายามของเราตั้งแต่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด คือการจัดหาทางเลือกการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพให้กับผู้ป่วยในการต่อสู้กับโรค การเป็นพันธมิตรกับ SaNOtize นี้สอดคล้องกับแนวทางที่แน่วแน่ของ Glenmark ในการต่อสู้กับโควิด-19 และจะช่วยลดภาระการแพร่ระบาดในภูมิภาค" Glenn Saldanha ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัท Glenmark Pharmaceuticals Ltd. กล่าว และว่า

"นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสอันมีค่าอีกประการสำหรับเราในการได้รับใบอนุญาตในขอบเขตการรักษาหลักสำหรับยารักษาระบบทางเดินหายใจ ตลอดจนความเป็นไปได้ในการจัดหาผลิตภัณฑ์ให้กับ SaNOtize และพันธมิตรนอกอาณาเขตของเราทั่วโลก Glenmark จะสร้างความมั่นใจในการเข้าถึงสเปรย์พ่นจมูกที่มีประสิทธิภาพได้อย่างทันท่วงทีและแพร่หลาย ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นการบรรเทาที่เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับผู้ป่วยทั่วทั้งภูมิภาคและทั่วโลก"

ด้าน ดร. Gilly Regev ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง SaNOtize กล่าวว่า "โควิด-19 และสายพันธุ์ต่าง ๆ กำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงความท้าทายในการควบคุมโรค แม้ว่าจะมีการพัฒนาวัคซีนที่รวดเร็วและเร่งด่วน และ SaNOtize ก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ Glenmark เพื่อมอบการเข้าถึงการรักษาที่ครอบคลุม ง่ายดาย และราคาไม่แพง โดยการร่วมมือกับ Glenmark จะช่วยให้ SaNOtize สามารถเร่งความพยายามในการส่งมอบสเปรย์พ่นจมูกต้านไวรัสสำหรับใช้เป็นแนวทางแรกในการป้องกันโควิด-19 ด้วยตนเองระหว่างการแพร่ระบาดในปัจจุบันและเพื่อช่วยป้องกันการระบาดในอนาคต"

NONS เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาแบบใหม่เพียงไม่กี่ชนิด นอกเหนือจากสารภูมิคุ้มกันโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibodies) ที่มีราคาสูง ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดปริมาณไวรัส SARS-CoV-2 ในมนุษย์ได้ โดย NONS ได้รับเครื่องหมาย CE ในยุโรปแล้ว เทียบเท่ากับการได้รับการอนุญาตด้านการตลาดสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์

***(เครื่องหมาย CE เป็นสัญลักษณ์ยืนยันว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดนั้นมีคุณสมบัติตรงตาม "ข้อกำหนดที่จำเป็น" ของ European General Medical Devices Directive และปลอดภัยตามวัตถุประสงค์การใช้งาน)

ทั้งนี้ SaNOtize ได้รับอนุญาตให้เปิดตัว NONS ในสหภาพยุโรปเนื่องจากมีเครื่องหมาย CE และ NONS ยังได้รับการอนุมัติและวางจำหน่ายในอิสราเอลและบาห์เรนภายใต้ชื่อ enovid(TM)

SaNOtize พัฒนาและจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม Nitric Oxide Releasing Solution (NORS(TM)) เพื่อรักษาและป้องกันการติดเชื้อจุลินทรีย์ในปี 2560 ซึ่งความเป็นพันธมิตรระหว่าง Glenmark กับ SaNOtize จะนำมาซึ่งการบรรเทาโรคที่เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับผู้ป่วยในอินเดียและเอเชีย

- สำหรับไนตริกออกไซด์นั้น มีคุณสมบัติต้านจุลชีพ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อไวรัส SARS-CoV-2

- สเปรย์ Nitric Oxide Nasal Spray (NONS) ได้รับการทดสอบในผู้ป่วยและอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางการแพทย์ในสหราชอาณาจักรและแคนาดา


ที่มา : https://www.ryt9.com/s/anpi/3244259

(SaNOtize's "revolutionary" Covid-19 nasal spray bolstered by Phase II trial data.) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.clinicaltrialsarena.com/news/sanotize-nasal-spray-reduces-covid-19-viral-load-uk-clinical-trail/

(SaNOtize's "revolutionary" Covid-19 nasal spray bolstered by Phase II trial data.) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.clinicaltrialsarena.com/news/sanotize-nasal-spray-reduces-covid-19-viral-load-uk-clinical-trail/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“เสกสกล ” อัด “เพื่อไทย" ฟ้องป.ป.ช. ปมปิดปากสื่อเสนอข่าว แจง หยุดตามคำสั่งศาลแพ่งแล้ว 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน นำคณะยื่นหนังสือต่อป.ป.ช.ให้ไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายกฯรัฐมนตรี จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญกรณีออกประกาศฉบับที่ 29 เป็นการปิดปากสื่อ ว่า นายกฯไม่เคยคิดที่จะลิดรอนหรือปิดปากสื่อ เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ห้ามนายกฯบังคับใช้ข้อกำหนดข้อ 29 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คิดว่าฝ่ายค้านคงจะเข้าใจดีว่า นายกฯและรัฐบาลไม่ได้มีเจตนาควบคุมหรือปิดปากสื่อ แต่ปัจจุบันมีสื่อโซเชียลฯจำนวนมากที่ไม่สามารถควบคุมได้ จนเกิดข่าวปลอม สร้างความสับสนแก่ประชาชนและเกิดความเสียหายต่อประเทศโดยรวมอย่างมาก และเรื่องนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่าเมื่อศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็ไม่สามารถใช้ข้อบังคับดังกล่าวได้ ตอนนี้ทุกอย่างต้องหยุด และรอว่าถึงที่สุดแล้วศาลจะสั่งอย่างไร ซึ่งรัฐพร้อมปฏิบัติตามอยู่แล้ว 

นายเสกสกล กล่าวว่า ฝ่ายค้าน รู้ว่าตอนนี้ทุกอย่างหยุดแล้วตามคำสั่งของศาลแพ่ง แล้วจะยื่นป.ป.ช.เพื่ออะไร หรือเพื่อเกาะกระแสให้มีข่าว ให้ประชาชนรู้ว่าฝ่ายค้านยังมีตัวตน เป็นผู้ใหญ่กันทุกคนทำอะไรหัดดูตาม้า ตาเรือ เพราะเดี๋ยวจะเสียผู้ใหญ่ตอนแก่ หากอยากดังควรหาทำประโยชน์อย่างอื่น ผมเคยเตือนว่าพรรคเพื่อไทย ยิ่งหิวแสงแสดงอาการอยากเป็นรัฐบาล มีอำนาจรัฐมากเกินไป ยิ่งทำลายชื่อเสียงพรรคให้ตกต่ำหนัก เล่นการเมืองแบบมีกิเลสหนามากไป พรรคไปไม่รอดแน่”

ผบ.รร.จปร.มอบทุนการศึกษาแก่ "ธรากร​ ทองหนูนุ้ย” ที่เลือกเรียนเหล่ากองทัพบกหลังสอบติด​ 4​ เหล่าทัพ

จากกรณีที่​นายธรากร ทองหนูนุ้ย นักเรียน​โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลฯ สอบติดอันดับ 1 โรงเรียนเตรียมทหารทั้งสามเหล่าทัพและติดอันดับที่ 8 เหล่าตำรวจ​ ซึ่งนายธรากร​ ตัดสินใจเลือกเหล่ากองทัพบก ซึ่งเป็นนักเรียนที่มีความตั้งใจ อดทน มีความพากเพียรถึงแม้จะขาดแคลนทุนทรัพย์ครอบครัวค่อนข้างยากจนแต่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งปวง เพื่อให้เยาวชนได้เห็นเป็นตัวอย่างที่ดีในความพยายามดังกล่าวนั้น

ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบกทั้งอดีตและปัจจุบันให้ความกรุณาส่งเสริม สนับสนุนให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นกำลังใจในความพากเพียรและอุตสาหะ ดังกล่าว

ในโอกาสที่นายธรากร ทองหนูนุ้ย​  จะเข้ารับการศึกษา ณ โรงเรียนเตรียมทหาร ในวันที่10 สิงหาคม 2564 กองทัพบก​ โดยพลโทจิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มอบทุนการศึกษา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนต่อไป ณ กองบัญชาการ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า 

'เพนกวิน' โพสต์ข้อความสุดท้ายก่อนถูกส่งเข้าเรือนจำ หลังศาลอาญาสั่งเพิกถอนประกันตัว ฐานกระทำผิดเงื่อนไข

10 สิงหาคม 2564 ภายหลังศาลอาญาสั่งเพิกถอนประกันตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำม็อบ ฐานกระทำผิดเงื่อนไขการประกัน ทำให้นายพริษฐ์ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันทีนั้น

ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก “เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak” โพสต์ข้อความว่า “สาส์นสั่งลาถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่านจากเพื่อนนักสู้เพื่อประชาธิปไตยของเรา เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ถูกพรากอิสรภาพไปเพียงเพราะต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ เพื่ออิสรภาพ เพื่อที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความหวัง เป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย และเป็นที่ที่ทุกคนจะมีความเท่าเทียมกันทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาจากชนชั้นไหน ตระกูลใดก็ตาม ขอให้พี่น้องทุกคนจงยึดมั่นในแนวทางการต่อสู้ของพวกเราต่อไป เพื่อที่ซักวันนึงประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์”

ขณะที่ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration” และนายพริษฐ์ ได้โพสต์ข้อความที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยจาบจ้วงโจมตีอย่างรุนแรง เป็นความผิดตามมาตรา 112


ที่มา : https://www.naewna.com/local/593879


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่” ส่งสารถึงกำนัน-ผญ.บ้าน ยกเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐไปสู่ระดับพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสารเนื่องในโอกาส วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ประจำปี 2564 ว่า รัฐบาลได้กำหนดทิศทางการบริหารประเทศภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการวางรากฐานการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกคนกินดี อยู่ดี มีความมั่นคงในชีวิต และมีความสุขอย่างยั่งยืนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ โดยเป็นตัวแทนของภาครัฐในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งช่วยเหลือ สนับสนุน และส่งเสริมการปฏิบัติราชการในมิติต่าง ๆ ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ภารกิจของภาครัฐบรรลุผล

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกท่านได้ร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างประโยชน์สุขให้แก่พี่น้องประชาชนด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ทุ่มเท เสียสละ ทั้งในยามปกติ และในยามวิกฤติ อย่างเช่นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบัน อันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอแสดงความชื่นชมและเป็นกำลังใจ และหวังว่าทุกท่านจะปฏิบัติงานโดยยึดถือและยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประโยชน์สุขของประชาชนเป็นสำคัญเช่นนี้ตลอดไป

เนื่องในโอกาส วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ประจำปี 2564 ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ขออำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือ
อีกทั้งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ทุกท่านและครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีพลังกาย พลังใจ และพลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง เพื่อร่วมกันพัฒนาท้องที่ไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนสืบไป

ตำรวจโว รู้ตัวคนจ้างขนม็อบมาชุมนุม หากเปิดชื่อรู้จักทั้งเมือง ได้หลักฐานแล้วจ่อขอหมายจับ ระบุ ม็อบมาประจำรับ 2,000-3,000 บาท เตือนม็อบ 10 สิงหา ฝ่าฝืน.พ.ร.ก.มีความผิด เสี่ยงแพร่เชื้อ

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษกบช.น. เปิดเผยการเตรียมความพร้อมดูแลการชุมนุมวันที่ 10 ส.ค.นี้ว่า ตามที่มีประกาศชุมนุมทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์โดยเฉพาะวันที่ 10 ส.ค. กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้มีการนัดชุมนุมแยกราชประสงค์เวลา 13.00 น. บช.น. ขอแจ้งเตือนว่าเป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพื้นที่ควบคุมสูงสุด มีการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นจำนวนมาก การรวมตัวด้วยประการหนึ่งประการใด เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศห้ามชุมนุม หากมีการกระทำผิดโดยใช้เครื่องเสียง และส่วนที่เกี่ยวข้องส่วนผลการดำเนินคดีนั้น การชักชวนให้การสนับสนุนการชุมนุม การให้การชุมนุมเหล่านี้ถือเป็นการกระทำผิด และจับกุมผู้รับจ้างนำคนเข้ามาชุมนุม การชักชวนผ่านสื่อออนไลน์จะประสานข้อมูลให้ บช.สอท.ตรวจสอบ

ส่วนการดำเนินคดีผู้ว่าจ้างการขนคนมาชุมนุมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ได้ชื่อผู้ว่าจ้างและหลักฐานทางการเงิน มีการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ สืบสวนรับจ้างจากใครมาอีกนั้น การสอบถามการจ้าง หากมาประจำได้เงินประมาณ 2,000 – 3,000 บาท หากเปิดเผยชื่อทุกคนจะรู้จัก แต่ขอสงวนไว้ก่อน ส่วนถังน้ำมันขวางผู้ชุมนุมนั้น การตั้งเครื่องกีดขวางตั้งเท่าที่จำเป็นหมดหน้าที่ก็เคลื่อนตัวออก ส่วนจะเอาถังน้ำมันมาใช่หรือไม่ ขอให้มั่นใจว่าเครื่องกีดขวางอยู่กับตำรวจ ถ้าเป็นอันตรายตำรวจได้รับอันตรายก่อนเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนกรณีการชุมนุมได้มีการแจ้งเตือนเป็นระยะ จนถึงแนวป้องกันสุดท้ายห้ามเข้า แต่ถ้าฝ่าแนวกั้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 5 นาย โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ไปเยี่ยม ส.ต.ต.นิตินัย ครองสม ผบ.หมู่ ร้อย 3 กก.ควบคุมฝูงชน 1 บก.อคฝ. ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 64 บริเวณซอยราชวิถี 6 ถูกวัตถุของแข็งยิงเข้าที่บริเวณลำคอ โชคดีหัวกระสุนติดที่ต่อมไทรอยด์ เฉียดหลอมลม หากทำให้ฉีกขาดจะเสียชีวิต

ส่วนความเสียหายนั้น มีรถยนต์ 7 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน ตู้ยามตำรวจ 4 แห่ง ทรัพย์สินประชาชนเสียหาย ประชาชนจะเข้าแจ้งความ ทั้งนี้ ชุดสืบสวนดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการรวบรวมพยานหลักฐาน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนการดูแลความสงบการชุมนุมนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ใช้อุปกรณ์ในการดำเนินการชุมนุมตามหลักสากล สรุปภาพรวมจำนวนคาร์ม็อบ มีการจัดทั้งหมด 7 ครั้งติดตามดำเนินคดีแล้ว


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/593842


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โฆษกศบศ. ชี้ รบ. ขับเคลื่อนมาตรการเยียวยา หวังกระตุ้นเศรษฐกิจทำสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น จี้ ฝค. เพลาๆการเมืองลงบ้าง

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ ยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้วันนี้ 22,086 คน เป็นตัวเลขที่สูงกว่าจำนวนยอดผู้ติดเชื้อ ซึ่งจากการประเมินตัวเลขยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อยู่ที่ประมาณ 159,000 คน เฉลี่ยอยู่ที่วันละสองหมื่นกว่าคน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี สะท้อนความสำเร็จ และเป็นกำลังใจที่สำคัญของบุคลากรทางการแพทย์และทีมงานทุกคนที่ถือเป็นด่านหน้าในการรักษาพยาบาล ซึ่งตอนนี้ยอดผู้ป่วยทั่วประเทศที่หายกลับบ้านสะสม (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564) อยู่ที่ 550,714 คน ในขณะที่ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 767,088 คน ยอดผู้ที่อยู่ระหว่างรักษาอยู่ที่ประมาณ 2 แสนคน ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทย ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ อย่ามองแค่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะยอดผู้ป่วยรายวันที่รักษาหายก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสะท้อนศักยภาพของสาธารณสุขของไทย หากเรามองอีกมุมจะเห็นถึงความสำเร็จ และก่อให้เกิดพลังในการร่วมกันต่อสู้ภัยโควิด

นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วมากกว่า 20 ล้านโดส โดยจังหวัดกรุงเทพมหานครและภูเก็ตฉีดวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมประชากรมากที่สุด ร้อยละ 70 แล้ว โดยจำนวนการฉีดวัคซีนมากที่สุดเกิน 670,000 โดสต่อวัน ถือว่าประเทศไทยมีจำนวนการฉีดวัคซีนเป็นอันดับ 4 ในอาเซียน เป็นอันดับที่ 27 ของโลก อย่างไรก็ตาม ทางการแพทย์ได้คาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงสุดในเดือนสิงหาคมนี้ เพราะมีการตรวจเชิงรุกมากขึ้นโดยใช้ Atk โดยเฉพาะใน กทม. ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมเพิ่มสถานพยาบาลและเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาล ให้ทุกโรงพยาบาลรับผู้ป่วยเฉพาะสีเหลืองและสีแดง ส่วนสีเขียวขอให้รักษาตัวที่บ้านด้วยระบบ Home Isolation และศูนย์พักคอย Community Isolation ซึ่งสำหรับ Community Isolation ของ กทม. มีทั้งหมด 65 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 8,625 คน อยู่ระหว่างการเพิ่มศูนย์ฯ ในต่างจังหวัดตามจุดต่างๆ ให้รองรับผู้ป่วยได้มากที่สุด และเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากรไทยภายในสิ้นปีนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนมาตรการเยียวยาต่างๆ ที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจำนวนทั้งสิ้น 29 จังหวัด ทั้งกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่อยู่ในระบบประกันสังคม รวมถึงผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบถุงเงินภายใต้โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ต่างๆ มั่นใจว่ามาตรการด้านสาธารณสุขที่ดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ และอีกไม่นานสถานการณ์จะคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะฝากไปถึงฝ่ายค้านด้วยว่า ขอให้เพลาๆ การเมืองลงบ้าง เอาเวลามาช่วยกันแก้ปัญหาให้กับประชาชนดีกว่า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top