Wednesday, 2 July 2025
Hard News Team

“ดอน” เผยศบค.อนุมัติ 5 ประเทศเข้าไทย เหตุ ดูรายละเอียด ระบุ อย่ากังวล พร้อมเผยไร้ปัญหา อาเซียนไม่เชิญเมียนมาประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ชี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“ดอน” เผยศบค.อนุมัติ 5 ประเทศเข้าไทย เหตุ ดูรายละเอียด ระบุ อย่ากังวล พร้อมเผยไร้ปัญหา อาเซียนไม่เ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการวางเอาไว้จะให้เข้ามา 10 ประเทศแต่เวลานี้ศบค.อนุมัติเพียง 5 ประเทศนั้น ว่า ศบค.จะเป็นผู้พิจารณารายชื่อแต่ละประเทศที่จะให้เข้ามาโดยที่ไม่ต้องกักตัวเอง ส่วนที่ศบค.เพิ่งอนุมัติ 5 ประเทศนั้น เพราะเขาต้องการดูรายละเอียดมากขึ้นเท่านั้นเอง อย่าไปกังวลอะไรมากเลย โดยเป็นเรื่องหนึ่งที่ศบค.ดูแลอยู่

 

“ประวิตร” สั่ง เร่งขับเคลื่อนโครงการพัฒนาท้องถิ่น เห็นชอบ แนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วน กรณีฉุกเฉินปี 65โดยยึดปชช.เป็นศูนย์กลาง  

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ครั้งที่ 1/2564 

โดยที่ประชุมเห็นชอบนโยบาย มาตรการและแนวทางการกำกับ ติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคประจำปี65 คือ 1.นโยบาย มาตรการและแนวทางในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค 2.การลงพื้นที่เพื่อกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการของรองนายกฯและ3.การรายงานผลการดำเนินงาน และกรอบงบประมาณ กรณีฉุกเฉินฯจำเป็น เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนประจำปี65 โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีการบูรณาการ และยึดพื้นที่ รวมทั้งประชาชนเป็นหลัก และรับทราบรายงาน ผลการตรวจติดตาม และประเมินผล การดำเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัดประจำปี64 ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย และรับทราบผลการกำกับ ติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรีประจำปี64 ซึ่งมีทั้งหมด 899 โครงการ ในการพัฒนาพื้นที่ และท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชน 

'ดร.ตั้น - ผู้ใหญ่กั้ม' อึ้ง!! ออกแจกข้าวสารชาวชุมชนบางแค แต่เจอบ้านคุณยายทรุดหนัก เตรียมช่วยเหลือแล้ว!!

ไม่นานมานี้ 'ดร.ตั้น - กฤชนนท์ อัยยปัญญา' เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ นายเริง ม่วงชุ่ม (ผู้ใหญ่กั้ม) คณะทำงานจักรทิพย์เขตบางแค ได้ออกพื้นที่เขตบางแค และได้นำข้าวสารอาหารแจกจ่ายแก่คนในชุมชน แต่ต้องมาสะดุดเมื่อมามอบให้กับบ้านของคุณยายสุนันท์ จันทะวงศ์ อายุ 82 ปี 

นั่นก็เพราะสภาพบ้านของคุณยายคนดังกล่าว มีลักษณะทรุดเอียงจนน่าตกใจ และทนอาศัยอยู่บ้านทรุดย่านบางแคแห่งนี้มานาน 40 ปี 

'แบงก์ชาติ' แจง!! ตัดเงินบัตรยับ-เงินหายจากบัญชี ผลจากธุรกรรมต่างประเทศ ยัน!! ไม่มีข้อมูลรั่ว

ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยชี้แจงกรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้าจำนวนมาก 'ไม่ใช่แอปดูดเงิน' และไม่มีรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เกิดจากธุรกรรมชำระค่าสินค้า บริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ แนะให้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ธนาคารเพื่อระงับธุรกรรมทันที 

ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ได้ชี้แจงกรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้าจำนวนมากตามที่ปรากฏข่าวพบลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตจำนวนมากประสบปัญหาการทำรายการชำระเงินโดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้รับทราบปัญหาและได้ตรวจสอบสถานการณ์ดังกล่าว

"บิ๊กตู่" สั่งตรวจ หลังพบประชาชนถูกดูดเงินบัญชีธนาคารผิดปกติ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีประชาชนร้องเรียนว่าถูกหักเงินจากบัญชีธนาคาร บัญชีบัตรเครดิต หรือบัญชีบัตรเดบิต อย่างผิดปกติเป็นจำนวนมาก หรือลักษณะผูกบัญชีไว้กับวิลเลจหรือสโตร์ออนไลน์ โดยจำนวนเงินที่หักไม่สูง แต่มีจำนวนหลายรายการติด ๆ กันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบเพื่อเร่งแก้ไขปัญหา

ขณะนี้ยังได้ประสานไปยังนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ซึ่งประธานสมาคมธนาคารไทย แจ้งว่า ทีมงานของสมาคมธนาคารไทย กำลังร่วมประชุมกับทีม Fraud (ทีมตรวจสอบการทุจริตฉ้อโกงเกี่ยวกับระบบธนาคาร) และชมรมผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง หรือซีไอโอ ของธนาคารพาณิชย์ ถึงเรื่องนี้แล้ว ล่าสุดทางสมาคมธนาคารไทยและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า โดยเบื้องต้นพบว่า มิได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เป็นรายการที่ เกิดจากการทําธุรกรรมชําระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และ ไม่ใช่แอปดูดเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ธนาคารเจ้าของบัตรได้ดําเนินการระงับการใช้บัตรของลูกค้าที่มีรายการผิดปกติ และติดต่อลูกค้า รวมทั้งอยู่ระหว่างดําเนินการตรวจสอบร้านค้าที่มีธุรกรรมที่ผิดปกติเหล่านี้

‘ก้าวไกล’ ถกปัญหา ‘คนจนเมืองขอนแก่น’ ปมไล่ที่ ทำรถไฟความเร็วสูง แต่ไร้เยียวยา

ฟังคนขอนแก่น ‘วีรนันท์’ ว่าที่ผู้สมัครสส.เขต 1 ขอนแก่นนำทีม ‘ก้าวไกล’ ตั้งโต๊ะถกปัญหา ‘คนจนเมืองขอนแก่น’ เผยโครงการ ‘รถไฟฟ้า’ เส้นอีสานไล่ที่ไร้เยียวยา กระทบกว่า 10,000 ครอบครัว ‘วิโรจน์’ จ่อตั้งกระทู้ถาม ‘ศักดิ์สยาม’ ด้าน ‘อภิชาติ’ รับนำเข้ากมธ.ที่ดิน เตรียมเชิญหน่วยงานชี้เเจง

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ณ ชุมชนมิตรภาพริมทางรถไฟ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, อภิชาติ ศิริสุนทร และสุรวาท ทองบุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางไปรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาจากพื้นที่ชุมชนริมทางรถไฟต่อกรณีที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยมี วีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดขอนแก่น พรรคก้าวไกล ตัวเเทนจากเครือข่ายสลัมสี่ภาค และประชาชนที่ได้รับผลกระทบร่วมกันจัดวงเสวนาโต๊ะกลมเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อกรณีดังกล่าว

วิโรจน์ กล่าวในวงเสวนาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแม้ว่าเป็นกรณีที่ไม่มีสัญญาเช่า แต่รัฐจะทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วใช้กฎหมายมาปิดปากเพื่อจัดการประชาชนไม่ได้ จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเอาเรื่องที่รัฐไม่พูดถึงมาอยู่บนโต๊ะเพื่อเปิดให้มีการเจรจาและหาทางออกร่วมกัน  

“เบื้องต้นพรรคก้าวไกลมอบหมายให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น สรุปเรื่องราวเข้ามา เพื่อเป็นข้อมูลข้อเท็จจริงในการตั้งกระทู้ถามต่อไปยัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ตอบและชี้แจงถึงมาตรการของการเยียวยารวมถึงความชัดเจนของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหานี้ ทราบว่าประชาชนจำนวนมากไม่มีสัญญาเช่า ไม่มีโฉนดที่ดิน แต่ในการพัฒนาเมืองประชาชนก็ไม่ได้ต่อต้าน จึงอยากให้ทางรัฐเข้าใจหัวอกของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย ผมอยากเห็นเมืองที่คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถอยู่ร่วมในเมืองได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ใช่เมืองที่พัฒนาแต่ความศิวิไลซ์ อยากเห็นเมืองที่มีการแบ่งปันพื้นที่ให้กับประชาชนรากหญ้าอย่างเป็นธรรมและเข้าใจวิถีชีวิตที่เขาเคยอยู่ ไม่ใช่เป็น Smart City แต่ผู้อยู่อาศัยได้รับความเดือดร้อน รัฐมองแผ่นดิน แต่ไม่มองประชาชนที่อยู่อาศัยไม่ได้” วิโรจน์ กล่าว 

ชาวออสซี่ แตกตื่นแจ้งเตือนภัย ‘แก๊สรั่ว’ ก่อนพบต้นเหตุแท้จริง แค่กลิ่นทุเรียนงอมจัด

พนักงานดับเพลิงในกรุงแคนเบอร์ราของออสเตรเลียได้รับแจ้งเหตุที่สงสัยว่าเป็นแก๊สรั่วที่ศูนย์สรรพสินค้าดิ๊กสันเมื่อวันศุกร์ ทำให้ต้องเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงบริเวณนั้น แต่หลังตรวจสอบราว 1 ชั่วโมงก็พบว่าต้นตอของกลิ่นมาจากทุเรียนสุกงอม

รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า สถานการณ์ที่สร้างความตกใจในย่านการค้าดิกสัน ที่กรุงแคนเบอร์ราของออสเตรเลีย เมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม มาจากกลิ่นเหม็นประหลาดที่หวั่นเกรงว่าอาจเกิดจากแก๊สรั่ว ทำให้หน่วยดับเพลิงและกู้ภัยในพื้นที่ต้องเร่งรุดเข้าตรวจสอบ และเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงจากบริเวณดังกล่าว

‘ยิ่งลักษณ์’ ส่งตัวแทนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม โทษรัฐประหาร ส่งผลแผนจัดการน้ำถูกยับยั้ง

15 ต.ค. 64 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งตัวแทนมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลบางกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวและอดีตนายทะเบียนพรรคทษช. นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตรองเลขาธิการพรรคทษช. และทีมเลขาน.ส.ยิ่งลักษณ์

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ฝากให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกๆ ครอบครัว เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปโดยเร็ว และอยากฝากถึงรัฐบาล เรื่องการเยียวยาหลังน้ำท่วมขอให้ทั่วถึงและเป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน โดยเฉพาะเกษตรกร ที่จะต้องขาดรายได้ไปตลอดทั้งปี เพราะพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสีย สำหรับพี่น้องชาวจังหวัดสิงห์บุรี ท่านนายกฯ ฝากให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนผ่านพ้นความลำบากนี้ไปให้ได้ ในช่วงปี 54 ท่านนายกฯ ได้เดินทางมาตรวจงานที่สิงห์บุรีบ่อยมากๆ เนื่องจากมีเหตุที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีแตก ที่อำเภออินทร์บุรี

นายวิม กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โทรมาสอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากมีข่าวว่าหลายจังหวัดถูกน้ำท่วมจนทำให้พี่น้องประชาชนต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ตลอดจนภาคอีสาน ที่ปีนี้ภาคอีสานกลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมมากที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงคิดว่าเบื้องต้นเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยก่อน โดยเฉพาะเรื่อง อาหาร น้ำดื่ม และยาสามัญประจำบ้าน ที่จำเป็นต้องใช้ ท่านจึงให้ทีมงานช่วยกันจัด ”ถุงน้ำใจ จากยิ่งลักษณ์“ เพื่อนำมามอบให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ที่หน่วยงานรัฐยังไม่เข้ามาช่วยเหลือ หรือบางพื้นที่ที่อาจถูกมองข้ามไป ซึ่งทางทีมงานก็ได้ประสานไปยังกลุ่มผู้ประสบภัยที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ

จุดยุทธศาสตร์ระดับโลก!! ‘ช่องแคบฮอร์มุซ’ สู่จุดเดือด World War III | Knowledge Times EP.27

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
????จุดยุทธศาสตร์ระดับโลก!! ‘ช่องแคบฮอร์มุซ’ สู่จุดเดือด World War III
.เมื่อพูดถึงจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของโลกในการขนส่งสินค้า ล้วนมีหลากหลายเส้นทางด้วยกัน ซึ่งในแต่ละเส้นทางล้วนมีความสำคัญในการเชื่อมทวีปแต่ละทวีปเข้าถึงกัน หรือแม้แต่มีบทบาทในการขับเคลื่อนโลกด้วยทรัพยากรต่างๆ ที่มีในแต่ละทวีป

แต่เมื่อถามถึงจุดยุทธศาสตร์ที่เรียกได้ว่า ‘สำคัญที่สุดของโลก’ สำคัญถึงขั้นที่สามารถเป็นชนวนที่อาจก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ นั่นก็คือ ‘ช่องแคบฮอร์มุซ’ ที่หากใครได้ครอบครองก็เปรียบเสมือนได้กุมโลกใบนี้

โดยช่องแคบฮอร์มุซนั้น เป็นช่องแคบที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ มีความกว้างเพียง 30 ไมล์ ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวโอมานทางตะวันออกเฉียงใต้กับอ่าวเปอร์เซียทางตะวันตกเฉียงใต้ ฝั่งทางตอนเหนือเป็นประเทศอิหร่าน ทางตอนใต้เป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และแหลมมุซันดัม (Musandam) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโอมาน

แล้วอะไรที่ทำให้ช่องแคบฮอร์มุซกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของโลก?

อย่างที่รู้กันดีว่าในปัจจุบันมีพลังงานรูปแบบใหม่เกิดขึ้นมากมาย ที่เข้ามาแทนที่น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือพลังงานทดแทนเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ในช่วงของการพัฒนา ดังนั้น ‘น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ’ จึงยังคงเป็นสิ่งจำเป็นที่โลกใบนี้ยังคงต้องพึ่งพาไปอีกหลายสิบปี

และหากย้อนกลับมาดูจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในโลกใบนี้ ก็มีอยู่หลายจุดด้วยกัน ทั้งคลองปานามาที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อทางการค้าระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับแปซิฟิก ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันจีนได้เข้าไปแทรกซึมในลาตินอเมริกาหลายๆ ประเทศ

ต่อมาคือคลองสุเอซ ที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลแดงและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญ เห็นได้จากการที่เรือเอเวอร์กิฟเวนติดขวางการจราจรเพียงไม่กี่วันก็สร้างความเสียหายไปมหาศาล

ต่อมาคือแหลมกู๊ดโฮป ซึ่งเป็นเส้นทางทางการค้าที่สำคัญของแอฟริกา และช่องแคบยิบรอลตาร์ ที่เชื่อมการค้าระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

รวมไปถึงช่องแคบเดนมาร์ก ที่เชื่อมระหว่างแอตแลนติกและทะเลเหนือ และช่องแคบมะละกา ช่องแคบสำคัญที่เชื่อมโยงภูมิภาคระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก

ฟังดูแล้วเส้นทางต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่องแคบหรือจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในโลกใบนี้ก็คือ ‘ช่องแคบฮอร์มุซ’ เพราะ เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ใช้ขนส่งน้ำมันหรือก๊าซ ที่จำเป็นผ่านเส้นทางที่สำคัญนี้

อีกทั้งที่ตั้งของช่องแคบฮอร์มุซ ที่เชื่อมระหว่างอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมาน โดยบริเวณรอบอ่าวเปอร์เซีย ประกอบไปด้วยประเทศที่สำคัญถึง 8 ประเทศด้วยกัน ตั้งแต่ อิหร่าน อิรัก คูเวต ซาอุดีอาระเบีย บาร์เรน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างต้องร่วมกันใช้ทะเลอาณาเขต ในเขตเศรษฐกิจเฉพาะ บริเวณอ่าวเปอร์เซีย

แน่นอนว่าการที่มีหลายประเทศใช้อ่าวเปอร์เซียร่วมกัน ซึ่งเป็นจุดกำเนิดการเดินทางออกจากช่องแคบฮอร์มุซ จึงกลายเป็นจุดเปราะบางจุดแรกที่ง่ายต่อการเกิดปัญหาแย่งชิงทรัพยากร 

จุดต่อมาต้องยอมรับว่าเมื่อช่องแคบฮอร์มุซเป็นทางผ่านอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมาน ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าแค่ทางผ่านเพราะ พื้นที่รอบอ่าวเปอร์เซีย ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งขุดเจาะน้ำมันที่มากที่สุดในโลก 

โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันสูงถึง 6% ของโลก และในบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ที่ชิดทางด้านอิหร่าน เป็นที่สำรองก๊าซถึง 40% ของโลกและส่งอิหร่านให้กลายเป็นประเทศที่มีก๊าซสำรองมากที่สุดในโลกอีกด้วย

‘ปลัดแรงงาน’ เยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิทธิประโยชน์ทดแทนการขาดรายได้แก่ผู้ทุพพลภาพ  "ย้ำ"อาสาสมัครแรงงาน ในพื้นที่ให้บริการด้านแรงงานอย่างใกล้ชิด

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จำนวน 2 ราย โดยมี นายเกริกไกร นาสมยนต์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นางสาวลัดดา แซ่ลี้ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม หัวหน้าส่วนราชการเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานและอาสาสมัครแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดยได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 59 ถนนประชาร่วมมิตร ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 

เพื่อมอบเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพแก่นายพรศักดิ์ วงศ์จันทา ทุพพลภาพเมื่อวันที่ 15 ก.ย.44 ได้รับเงินทุพพลภาพเดือนละ 2,349 บาท ตลอดชีวิต และตั้งแต่เดือน ก.ย.44 - ก.ย.64 รับมาแล้วเป็นเงิน 585,360 บาท จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 139 ถนนวิบูลธรรม ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อมอบเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพแก่นายเปียก สายสี ทุพพลภาพเมื่อวันที่ 29 เม.ย.58 ได้รับเงินทุพพลภาพเดือนละ 4,303.50 บาท ตลอดชีวิต และตั้งแต่เดือน เม.ย.58 – ก.ย.64 รับมาแล้วเป็นเงิน 331,799.85 บาท ซึ่งทั้งสองรายเป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ล้ม มีอาการลีบ เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ แขน ขา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top